Sunday, 15 June 2025
NewsFeed

จับกุม! แก๊งตำรวจปลอมปากช่อง อ้างตัวหลอกตระเวนชิงทรัพย์ รวมมูลค่ากว่า 1 แสนบาท พร้อมข่มขู่ทำร้าย

ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน มีเหตุประทุษร้ายเกี่ยวกับทรัพย์ ในพื้นที่ ภ.3 เกิดขึ้นบ่อยครั้ง มีหลายคดีเป็นการประกอบเหตุ โดยคนร้ายได้อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ข่มขู่ จะทำร้ายผู้เสียหายก่อนเอาทรัพย์สิน แล้วหลบหนีไป

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบช.ภ.3 ได้กำชับให้ทุก ภ.จว. หามาตรการในการระวังป้องกัน และเร่งรัดสืบสวนจับกุมคนร้ายที่ประกอบเหตุให้ได้โดยเร็ว โดยมอบหมาย พล.ต.ต.ภาณุ บุรณศิริ รอง ผบช.ภ.3 ควบคุมการปฏิบัติ

ต่อมาวันที่ 6 กันยายน 2564 อำนวยการโดย พล.ต.ต.ชูสวัสดิ์  จันทร์โรจนกิจ ผบก.สส.ภ.3, พล.ต.ต.พรชัย นลวชัย ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา , พ.ต.อ.สมบัติ หงษ์ทอง, พ.ต.อ.ประสงค์ เรืองเดช พ.ต.อ.ชลาสินธุ์ ชลาลัย, พ.ต.อ.เดชพล เปรมศิริ รอง ผบก.สส.ภ.3, พ.ต.อ.ณรงค์ เสวก รอง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา ได้สั่งการให้  พ.ต.อ.ยุทธพงษ์  รอดนวล ผกก.สืบสวน 1 บก.สส.ภ.3 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สืบสวน 1 บก.สส.ภ.3

จับกุมตัว นายเจษฎา อายุ 31 ปี หมายจับของศาลจังหวัดสีคิ้ว ที่ 81/2564 ลงวันที่ 27 สิงหาคม 2564  ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันชิงทรัพย์(ลักทรัพย์ โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อให้ความสะดวกแก่การลักทรัพย์นั้นไป) โดยลวงว่าเป็นเจ้าพนักงาน”

พร้อมด้วยของกลาง ประกอบด้วย

1.รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมาสด้า 2 สีเทาดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน  1  คัน

2.ทะเบียนรถยนต์ กฉ 2435 สุรินทร์  จำนวน  2  แผ่น

3.เสื้อผ้าที่ใช้ในการก่อเหตุ จำนวน  1  ชุด

จากการซักถาม นายเจษฎา รับว่า ตนพร้อมพวกที่หลบหนี เป็นผู้ก่อเหตุจริง โดย ครั้งที่ 1 ชิงทรัพย์ในพื้นที่ สภ.จอหอ ได้ทรัพย์สินไปประมาณ 20,000 บาท ครั้งที่ 2 ชิงทรัพย์ในพื้นที่ สภ.หนองสาหร่าย ได้ทรัพย์สินไปประมาณ 108,000 บาท และครั้งที่ 3 บุกรุกเข้าไปในบ้านเพื่อชิงทรัพย์  ในพื้นที่ สภ.จอหอ แต่ไม่ได้ทรัพย์สินไป 

โดยวิธีการของคนร้าย จะสะกดรอยติดตามเหยื่อ ที่ดูภูมิฐาน มีฐานะ มีการเลือกเหยื่อที่เป็นผู้หญิง หรือผู้ชายตัวเล็ก เมื่อสบโอกาส ก็จะแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ เรียกรถยนต์ให้จอด หรือขับรถยนต์ปาดหน้าให้จอด ทำท่าทีตรวจสอบความผิด และใช้อาวุธข่มขู่เอาทรัพย์สิน จากนั้นใช้ยานพาหนะติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอมหลบหนีไป 

เหตุเกิดที่ หมู่บ้านบ่อทอง ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2564 เวลา 10.00 น. จับกุมตัวได้ที่ บริเวณบ้านเลขที่ 110 ม.6 ต.ทุ่งสว่าง อ.ประทาย จ.นครราชสีมา    

จากการสืบสวน เชื่อว่าคนร้ายกลุ่มนี้ นอกจากที่รับสารภาพแล้ว น่าจะเคยกระทำผิดหลายครั้งในหลายพื้นที่ หากประชาชนท่านใด ได้รับความเสียหาย ถูกคนร้ายกลุ่มนี้ชิงทรัพย์ สามารถร้องทุกข์เพิ่มเติม  โดยประสานข้อมูลได้ที่ พ.ต.ต.อิทธิพล เพ็ญเดิมพันธ์ สว.ฯ โทร.093-4647453 (ชุดจับกุม) และ ร.ต.อ.ปรีชา มีผิว พงส.สภ.หนองสาหร่าย โทร.089-8617967 และ (044)938794 - 5

ราเมศ เผย ที่ประชุมพรรค มีมติ เห็นชอบ วาระสาม ร่าง รธน. ลุยผลักดัน ร่างกฎหมายป้องกันการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงผลการประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2564 ว่า

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส.พรรค ได้ให้นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ ส.ส.จังหวัดนครศรีธรรมราช ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ที่เป็นผู้รับผิดชอบหลักได้รายงานความคืบหน้าเรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ที่จะมีการพิจารณาวาระสามในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ และที่ประชุม ส.ส.ได้มีมติเห็นชอบในวาระที่สาม ที่ประชุมไม่ได้มีความกังวลใดๆ และเชื่อว่าสมาชิกรัฐสภาจะให้ความเห็นชอบผ่านวาระสามไปได้อย่างแน่นอน พรรคผลักดันเรื่องนี้อย่างเต็มที่ 
 
ในส่วนร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ที่มีนายสุทัศน์ เงินหมื่น ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นผู้เสนอ ไว้ตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2563 ซึ่งเป็นร่างที่ได้บรรจุไว้ในระเบียบวาระการประชุมแล้ว ทางพรรคก็จะผลักดันให้มีการเลื่อนระเบียบวาระขึ้นมาพิจารณาก่อน เพื่อจะได้พิจารณาทันก่อนปิดสมัยประชุม เพราะเมื่อรับหลักการในวาระแรก ในวาระที่สองในชั้นกรรมาธิการก็สามารถพิจารณาในช่วงปิดสมัยประชุมได้ 

นายราเมศกล่าวต่อว่า ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวทางพรรคได้ให้ความสำคัญ ที่ผ่านมาได้เชิญภาคประชาชนที่ร่วมผลักดันเรื่องนี้มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในที่ประชุมพรรค เห็นตรงกันว่า ควรมีกฎหมายเพื่อป้องกันการกระทำหรือการลงโทษที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรมที่ป้องกันการกระทำที่ทำให้บุคคลสูญหายซึ่งกระทำโดยเจ้าหน้าที่รัฐ เป็นกฎหมายที่จะมุ่งคุ้มครองสิทธิมนุษยชนซึ่งสอดคล้องกับหลักเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และหากเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาในวาระที่สองพรรคก็จะได้เชิญภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งนายชินวรณ์ บุญยเกียรติ จะได้นำไปหารือกันในวิปรัฐบาลต่อไป

"ณัฐชา" ดักคอ อย่ายื้อเลือกตั้ง กทม.-พัทยา เบี่ยงกระแสหลังอภิปรายไม่ไว้วางใจ ชี้ ควรเลือกตั้งท้องถิ่นทุกระดับให้เร็วที่สุดแก้ปัญหาโรคระบาด พร้อมปลดล็อกระเบียบข้อบังคับส่วนกลาง ให้เกียรติผู้แทนปชช.

นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) พัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน กล่าวถึงมติคณะรัฐมนตรีที่เห็นชอบเฉพาะการจัดเลือกตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในส่วนองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ขณะที่การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและนายกเทศมนตรีเมืองพัทยาที่ประชุมยังไม่พิจารณาโดยคาดว่าจะมีขึ้นในปีหน้า ว่า สถานการณ์ประเทศไทยในขณะนี้ควรมีการจัดการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นอย่างเร่งด่วน เพราะปัญหาการจัดการโรคระบาดหลายพื้นที่มีความจำเป็นต้องใช้อำนาจท้องถิ่นในการจัดการ หากรัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหาของประชาชนจริง เร่งจัดการเลือกตั้งอบต.ให้เร็วที่สุดเพราะมีความจำเป็นอย่างมาก และหากรัฐบาลต้องการแสดงความจริงใจไม่เบี่ยงประเด็นความบอบช้ำหลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ต้องเดินหน้ากำหนดวันเลือกตั้งอย่างตรงไปตรงมาเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนในขณะนี้ 

"โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ กทม. ที่อยู่ภายในการบริหารงานของผู้ว่าฯ และสมาชิกกรุงเทพฯ ที่แต่งตั้งมานานกว่า 7 ปี อยู่ในตำแหน่งโดยกินเงินเดือนที่มาจากภาษีประชาชน แต่ประชาชนแทบไม่รู้ว่าทำอะไรไปเพื่อประชาชนบ้าง ดังนั้นการเดินหน้าประกาศให้มีการเลือกตั้งให้เร็วที่สุดคือทางออกวิกฤตในขณะนี้" นายณัฐชา กล่าว

นายณัฐชา กล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญที่สุดที่รัฐบาลต้องตระหนักคือการมีตัวแทนประชาชนที่ไม่สะท้อนความต้องการของประชาชนเช่นนี้ ถือเป็นการซ้ำเติมปัญหา จึงควรเดินหน้าให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นทุกระดับ เพราะมีความใกล้ชิด รู้และเข้าใจปัญหาให้พื้นที่ตัวเองดี ระเบียบข้อบังคับหรืออะไรต่างๆ ที่ล็อกไว้จากส่วนกลางก็ต้องคลายล็อก เป็นการทำงานอย่างให้เกียรติและไว้ใจตัวแทนของประชาชน ไม่ใช่แค่หาประเด็นเบี่ยงกระแสหลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพื่อให้สื่อมีเรื่องใหม่ไปตีข่าวแล้วก็ยื้อต่อไปในปีหน้า แต่ที่ต้องทำเช่นนี้คงเพราะรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายแม้จะรอดทั้งคณะ แต่เชื่อว่าในใจท่านรู้ดีว่ามือที่ยกให้นั่นไม่ใช่ความไว้ใจของประชาชนอย่างแน่นอน

ผู้ปกครอง "คนพิการทางการเรียนรู้ (LD)” ศึกษาดูงานการพัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อผู้ปกครองละเด็กพิเศษ ณ ศูนย์ส่งเสริมทักษะชีวิตบุคคลออทิสติก

เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2564 ณ ศูนย์ส่งเสริมทักษะชีวิตบุคคลออทิสติก ชลบุรี ถ.อ่างศิลา ต.อ่างศิลา อ.เมือง จ.ชลบุรี ‘นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล’ ผู้ปกครองคนพิการทางการเรียนรู้ (LD) และตำแหน่ง นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย เข้าพบ ‘นางสาวอารยา แดงแสง’ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมทักษะชีวิตบุคคลออทิสติก ชลบุรี เพื่อเป็นต้นแบบในการดำเนินงานสนับสนุนและส่งเสริมทักษะการดำรงชีวิตของผู้ปกครองและน้อง ๆ ที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ (LD)

โดย "นางสาวอารยา แดงแสง" ผู้อำนวยการศูนย์ฯ ให้เกียรติพาเยี่ยมชม การทอผ้าไหมด้วยเครื่องทอผ้า "ซาโอริ" / การทำขนมทองม้วน การทำพวงกุญแจ / การทำขนุนอบแห้ง / การสกรีนร้อนบนแก้วน้ำ / การทำผ้าเช็ดเท้า / การนำเศษผ้ามาทำผ้าเช็ดคราบสกปรกในโรงงานอุตสาหกรรม และ การรับงานจากบริษัทมาทำงานที่บ้าน ซึ่งได้รับการสนับจาก บริษัท ยาฮะตะ อินดัสตรี (ประเทศไทย) จำกัด

หลังจากนั้น "นางสาวอารยา แดงแสง" ผู้อำนวยการศูนย์ฯ ได้ให้คำแนะนำแนวทางการพัฒนาทักษะการใช้ชีวิตของน้อง ๆ เด็กพิเศษ และแนวทางการสร้างเสริมขวัญกำลังใจให้กับผู้ปกครองให้มีความกล้าหาญ ความแข้มแข็ง ความอดทน เพื่อร่วมกันยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ปกครองและเด็ก ๆ ให้ดียิ่งขึ้น ต่อไป

ครม. เห็นชอบจัดหาวัคซีนซิโนแวคเพิ่ม 12 ล้านโดส รองรับการฉีดวัคซีนสูตรผสม ร่นระยะเวลาฉีดสร้างภูมิคุ้มกันหมู่เร็วขึ้น 

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 7 ก.ย. มีมติเห็นชอบอนุมัติกรอบวงเงิน 4,254.36 ล้านบาท สำหรับจัดหาวัคซีนซิโนแวคเพิ่มเติม จำนวน 12 ล้านโดส เพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคแก่ประชาชน ใน 4 กลุ่มเป้าหมาย ดังนี้ 

1.) กลุ่มประชาชนที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคทางเดินหายใจเรื้อรังรุนแรง (ปอดอุดกั้น หอบหืด) โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตเรื้อรังระยะที่ 5 (ไตวายเรื้อรัง) โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็งทุกชนิดที่อยู่ระหว่างการรักษาด้วยเคมีบำบัด รังสีบำบัดและภูมิคุ้มกันบำบัด โรคเบาหวาน และโรคอ้วน (BMI มากกว่าหรือเท่ากับ 35 น้ำหนักมากกว่า 100 กิโลกรัม) 

2.) ประชาชนอายุ 60 ปีขึ้นไป

3.) เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโควิด-19 ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย เช่น ด่านควบคุมโรคตามชายแดน สถานกักกันโรค ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่เก็บขยะติดเชื้อเป็นต้น 

4.) ประชาชนทั่วไปที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย

การจัดหาวัคซีนซิโนแวคจำนวน 12 ล้านโดสนี้ เพื่อให้เป็นไปตามแผนการจัดหาวัคซีนให้แก่ประชาชน เพราะเป็นวัคซีนที่ผลิตแล้ว ทำให้สามารถส่งมอบได้ในช่วงเดือนก.ย.-ต.ค. และยังเป็นการรองรับการฉีดวัคซีนสูตรผสมและเพิ่มความครอบคลุมของการได้รับวัคซีนแก่ประชาชนกลุ่มเป้าหมายทั่วประเทศที่รวดเร็วยิ่งขึ้น 

ส.ส.สุโขทัย ประชุมร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ‘ติดตามเงินชดเชยยาสูบ และขับเคลื่อนการปลูกพืชทดแทนกัญชง’ ย้ำ! ขึ้นภาษีบุหรี่แบบค่อยเป็นค่อยไป ยันไม่ขึ้นอัตราร้อยละ 40 ในปี 2564 แน่นอน

ดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ ส.ส.สุโขทัย พรรคพลังประชารัฐ ประชุมร่วม นายภาณุพล รัตนกาญจนภัทร ผู้ว่าการยาสูบแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นายสุชาติ ทีคะสุข รองผู้ว่าราชการ จ.สุโขทัย / นายประดิษฐ์ พละทรัพย์ ประธานชมรมชาวไร่ยาสูบเบอร์เล่ย์สุโขทัย / นายประเสริฐ สงวนทรัพย์ นายกสมาคมชาวไร่ยาสูบ จ.สุโขทัย พร้อมตัวแทนเกษตรกร ที่สำนักงานยาสูบสุโขทัย อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย

ทั้งนี้ จากการติดตามแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน ของพี่น้องชาวไร่ยาสูบอย่างต่อเนื่อง ดร.พรรณสิริ ได้เสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรไปยังการยาสูบแห่งประเทศไทย กรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง ตลอดจนเสนอญัตติ ให้ตั้งกรรมาธิการพิจารณาศึกษาและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวไร่ยาสูบอย่างเป็นระบบ โดยมีประเด็นปัญหาที่สำคัญ คือ ขอให้กระทรวงการคลังชดเชยโควตาที่ลดลงตั้งแต่ปี 2562  เป็นจำนวนเงิน 159.9 ล้านบาท ต่อปี จนกว่าจะมีนโยบายและแนวทางการปลูกพืชทดแทนที่ชัดเจน และขอให้กรมสรรพษามิต งดการขึ้นภาษีบุหรี่ในอัตราร้อยละ 40 ตามที่มีข้อมูลว่าจะเริ่มปรับในวันที่ 1 ตุลาคม  2564 เป็นต้นไป รวมถึงขอให้การยาสูบประกาศนโยบายโค้วตายาสูบให้ชัดเจน และส่งเสริมการปลูกพืชทดแทนกัญชงหรือ พืชอื่น ๆ ให้กับเกษตรกรเพื่อให้มีรายได้ไม่น้อยกว่าการปลูกยาสูบ

อย่างไรก็ตาม จากการประชุมในครั้งนี้ ดร.พรรณสิริ ได้แจ้งข้อสรุปว่า วงเงินชดเชยกระทรวงการคลัง ได้นำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2564 เพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป โดยการขึ้นภาษีบุหรี่ จะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปและในปี 2564 ไม่ขึ้นในอัตราร้อยละ 40 อย่างแน่นอน ในส่วนของโค้วตายาสูบนั้น ผู้ว่าการยาสูบแห่งประเทศไทยแจ้งว่า ทางการยาสูบแห่งประเทศไทย  จะพยายามคงโควตาไว้อย่างเดิม พร้อมมีแนวทางส่งเสริมการปลูกพืชทดแทน กัญชง ซึ่งได้ประสานงานกับกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการคลัง หน่วยงานภาคเอกชน และผู้สนับสนุนส่วนต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือให้คำแนะนำแก่เกษตรกรผู้สนใจอย่างเป็นระบบแล้ว

ดร.พรรณสิริ กล่าวขอบคุณราชการส่วนจังหวัดสุโขทัย ที่เร่งดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น สาธารณสุขจังหวัด ที่ออกใบอนุญาติปลูกแล้ว จำนวน 6 ราย ขณะที่เกษตรจังหวัดนำร่องการเปลูกใน 2 พื้นที่ เพื่อเลือกสายพันธุ์ที่เหมาะสมกับจังหวัดสุโขทัยในด้านองค์ความรู้ มีวิสาหกิจชุมชนเกษตรกรสนใจสมัครตามโครงการของมหาวิทยาลัยนเรศวร แล้ว ราว 30 วิสาหกิจชุมชน นอกจากนี้ การยาสูบแห่งประเทศไทย ได้ให้แนวทางการส่งเสริมผลักดันโดยประสานภาคเอกชน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ช่วยกันหนุนเสริม เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของพี่น้องเกษตรกรชาวไร่ยาสูบสุโขทัยที่จะปลูกพืชกันชงเป็นพืชทดแทนยาสูบต่อไปในอนาคต โดยมอบหมายให้นายประเสริฐ สงวนทรัพย์ นายกสมาคมยาสูบจังหวัดสุโขทัย และนายประดิษฐ์ พละทรัพย์ ประธานชมรมชาวไร่ยาสูบเบอร์เลย์สุโขทัย เป็นผู้ประสานงาน  พร้อมขับเคลื่อนแนวทางต่าง ๆ ต่อไป

เข้าชมฟรี!! ‘สวนนงนุชพัทยา’ เปิดให้บริการแล้ว! พร้อมโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม เข้าชมสวนฟรี

ตามคำสั่งจังหวัดชลบุรีให้สถานที่ท่องเที่ยวทั้งราชการและเอกชนทุกแห่งให้เปิดบริการ มีผลตั้งแต่วันที่ 7 กันยายน 2564 เป็นต้นไป สวนนงนุชพัทยาพร้อมเปิดให้บริการควบคู่ไปกับมาตรการความปลอดภัยด้านสุขอนามัยตามมาตรฐาน SHA และ Safe travels ซึ่งได้รับการรับรองจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา กล่าวว่าทางสวนนงนุชพัทยาได้ปฎิบัติตานนโยบายดังกล่าวข้างต้นพร้อมเปิดให้บริการ ที่ผ่านมาสวนนงนุชเตรียมความพร้อมในการเปิดทุกวันและเพิ่มโซนต่าง ๆ อาทิเช่น เนิร์สเซอรี่ไม้ภายใน ,เนิร์สเซอรี่ตะบองเพชร และพิพิธภัณฑ์หัวโขน ในการเปิดให้บริการครั้งนี้ทางสวนนงนุชพัทยา ยินดีมอบสิทธิพิเศษให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทยผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม สารมารถเข้าชมสวนนงนุชฟรี เพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ สนับสนุนการท่องเที่ยวแบบไทยเที่ยวไทย

ทั้งนี้ เพียงท่านแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน พร้อมบัตรประจำตัวประชาชนให้กับเจ้าหน้าที่บริเวณชานชาลาประตูทางเข้าท่านจะได้รับสิทธิพิเศษเข้าชมสวนสวยมากว่า 40 สวนฟรี ตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย. ถึง 30 ก.ย 64

คอลเกต สนับสนุนผลิตภัณฑ์มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ผ่านโครงการ “ต้องรอด” โดยกลุ่มอาสา Up for Thai เพื่อส่งมอบแก่โรงพยาบาลสนามบุษราคัม

โครงการ “ต้องรอด” โดยกลุ่มอาสา Up for Thai ยังคงดำเนินการเปิดรับบริจาคสิ่งของอุปโภคบริโภคสำหรับโครงการเฉพาะกิจ ​#missionบุษราคัม75 ซึ่งเกิดจากความร่วมมือกับพันธมิตรภาคประชาสังคม ภาคเอกชน และภาคสื่อสารมวลชน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดหาเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ป่วยที่เข้าพักรักษาในโรงพยาบาลสนามบุษราคัม บุคลากรทางการแพทย์และอาสา ให้การดำเนินการของโรงพยาบาลเป็นไปอย่างราบรื่นเป็นระยะเวลา 75 วัน ก่อนจะมีการย้ายไปยังสถานที่ใหม่ 

สำหรับในโอกาสนี้​ ต้องขอขอบคุณบริษัท คอลเกต-ปาล์ม โอลีฟ (ประเทศไทย) จำกัดที่เล็งเห็นความสำคัญของโครงการดังกล่าว​ ซึ่งได้ร่วมบริจาคผลิตภัณฑ์ “ยาสีฟันคอลเกต Dare to Kiss” จำนวน 21,600 หลอด มูลค่าถึง 1,058,400 บาท โดยมีหม่อมราชวงศ์เฉลิมชาตรี ยุคล ผู้ร่วมก่อตั้งโครงการ “ต้องรอด” และอาสาสมัครกลุ่ม Up for Thai เป็นตัวแทนส่งมอบให้แก่นพ.พงษ์ศักดิ์ นิติการูญ รองผู้อำนวยโรงพยาบาลสนามบุษาราคัม เพื่อให้บุคลากรด่านหน้าและผู้ป่วยมีกำลังใจ ยิ้มสู้ไปด้วยกัน 

นอกจากโครงการเฉพาะกิจ ​#missionบุษราคัม75 กลุ่มอาสา Up for Thai ยังคงปฏิบัติภารกิจหลักโครงการ “ต้องรอด” ควบคู่กันไป ทั้งการแจกจ่ายอาหารปรุงสุกและสิ่งของอุปโภคบริโภคไปยังชุมชน คลัสเตอร์ และผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัส COVID-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมถึงการรับบริจาคและส่งต่ออุปกรณ์ทางการแพทย์และอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อส่วนบุคคล ให้กับโรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม สถานีอนามัย ศูนย์พักคอย เจ้าหน้าที่กู้ชีพ กู้ภัย อาสาด่านหน้าทั่วประเทศ อีกทั้งยังจัดเตรียมชุดยังชีพอันประกอบด้วยอาหารแห้งพร้อมทานและสิ่งของเครื่องใช้จำเป็น จัดส่งให้แก่ชุมชน ผู้พิการ คนชรา ครอบคลุมถึงผู้ป่วยติดเตียง ผู้ติดเชื้อ COVID-19 และครอบครัวที่ต้องกักตัว

ร่วมส่งต่อความช่วยเหลือกับ "ต้องรอด" ได้ที่
สถานที่ปฎิบัติงานและรับบริจาค :
ศูนย์อาสาต้องรอด Up For Thai วัดเทวสุนทร https://goo.gl/maps/X6VJJXWgD7FxVM6X6

ที่อยู่ในการจัดส่งสิ่งของบริจาค :
กองอำนวยการ Up For Thai ต้องรอด วัดเทวสุนทร
เลขที่ 1 ม.19 ถ.กำแพงเพชร 6 ลาดยาว จตุจักร กทม. 10900

หากส่ง delivery กรุณาแจ้ง tracking มาที่ LINE
สมทบทุนเป็นเงินสดที่
กสิกรไทย 096-3-23974-2
(ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล และนางสมใจ พุ่มสมบัติ)

สภากาชาดไทย จับมือ GGC และ สแตนดาร์ด แมนูแฟคเจอริ่ง ลงนาม MOU ความร่วมมือบริจาค โครงการ “มอบชุดธารน้ำใจสู่ผู้สูงวัย ที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ทั่วประเทศ”

นายขรรค์ ประจวบเหมาะ ผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย , นายไพโรจน์ สมุทรธนานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) และนายจิรโรจน์ ลัญฉนะวณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สแตนดาร์ด แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด

ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือบริจาคเพื่อโครงการ “มอบชุดธารน้ำใจสู่ผู้สูงวัยที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ทั่วประเทศ” โดย GGC ได้สนับสนุนเจลแอลกอฮอล์ภายใต้แบรนด์ CHOB จากโครงการ Green Health Project มูลค่า 1,353,550 บาท เพื่อนำไปบรรจุลงในชุดธารน้ำใจสู่ผู้สูงวัยมอบให้แก่กลุ่มผู้เปราะบาง ผู้สูงอายุในภาวะพึ่งพิง ติดบ้าน ติดเตียง ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ณ สำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย

รัฐบาลเล็งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ล็อตใหม่เริ่มต.ค.นี้

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลกำลังประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจ และสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในเดือน ก.ย.นี้อย่างใกล้ชิด หากจำนวนผู้ติดเชื้อยังทรงตัว และไม่มีคลัสเตอร์ใหม่ ๆ ที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมากเพิ่มอีก ก็ถึงเวลาที่จะเริ่มกระตุ้นเศรษฐกิจ เบื้องต้นอาจจะเริ่มในเดือน ต.ค.เป็นต้นไป โดยจะใช้ทั้งนโยบายใหม่ และนโยบายเดิม เช่น โครงการคนละครึ่ง หรือนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยว ที่ยังมีอยู่และมีการขยายระยะเวลาออกไปก็ยังเดินหน้าต่อ

“นโยบายทุกอย่างอยู่ในลิ้นชักอยู่แล้วรอเวลาที่เหมาะสมที่จะเอาขึ้นมาใช้ได้ หากสถานการณ์ในตอนนี้เป็นไปด้วยดี ประชาชนดูแลตัวเองดี ก็คิดว่าถึงเวลาที่เราจะกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยจะเริ่มในเดือน ต.ค.นี้ ส่วนเศรษฐกิจในปีนี้จะยังขยายตัวได้หรือไม่นั้น ประเมินดูแล้ว ก็น่าจะยังขยายตัวได้ เพราะยังมีบางส่วนของเศรษฐกิจที่เติบโตได้อยู่”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top