Saturday, 24 May 2025
NewsFeed

ข่าวดีผู้สูงอายุ!  “จุรินทร์” ให้คืนเบี้ยยังชีพซ้ำซ้อน จ่ายเงินช่วยตามบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้ผู้สูงอายุ 4.7 ล้านคน ขยายโครงการพักหนี้คนแก่อีก 6 เดือนถึง มีค.65

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ (กผส.) ซึ่งมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้มีการหารือเรื่องการดูแลผู้สูงอายุภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันและการขับเคลื่อนสังคมผู้สูงอายุไทย โดยมีมติดังนี้

1.เห็นชอบแนวทางการจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิจากโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยเป็นการจ่ายย้อนหลังให้แก่ผู้มีสิทธิ์จำนวน 4.7 ล้านคน รายละเอียดคือ 
-ปีงบประมาณ 2563 จ่ายเงินสงเคราะห์ตั้งแต่เดือน มิ.ย.-ก.ย. อัตรา 100บาท/เดือน สำหรับผู้สูงอายุที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี และอัตรา50บาท/เดือน สำหรับผู้สูงอายุที่มีรายได้มากกว่า 30,000 บาทต่อปี แต่ไม่เกิน 1แสนบาทต่อปี
-ปีงบประมาณ 2564 เป็นอัตราเช่นเดียวกับปีก่อน จ่ายเดือนเว้นเดือน (6งวด) เริ่มตั้งแต่ตุลาคม 2563

2.เรื่องการรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุซ้ำซ้อนกับสวัสดิการอื่นที่เคยเป็นประเด็นก่อนหน้า ที่ประชุมมีมติตามคำวินิจฉัยของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา คือ 1) คืนเงินที่เรียกเก็บจากผู้สูงอายุที่รับเงินซ้ำซ้อนกับสวัสดิการอื่น ซึ่งมีจำนวนประมาณ 1.5 หมื่นราย และมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงการคลังหาแนวทางดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งเดือน หลังครม.พิจารณาเห็นชอบมติดังกล่าว   2) ถอนฟ้องหรือระงับการบังคับคดีในกรณีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้มีการดำเนินคดีเรียกคืนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุไปแล้ว และ 3) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการกำหนดนโยบายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆเพื่อศึกษาแนวทางการกำหนดนโยบายและหลักเกณฑ์ในการจ่ายเบี้ยยังชีพฯแบบใหม่ให้มีประสิทธิภาพและครอบคลุมทุกมิติ

3)เห็นชอบขยายเวลาการพักชำระหนี้ของลูกหนี้กองทุนผู้สูงอายุ ต่อไปอีก 6 เดือน จากที่จะหมดเวลาในเดือน 30 ก.ย.ปีนี้  ไปจนถึง 31 มี.ค. 2565

4)เห็นชอบแผนปฏิบัติการด้านผู้สูงอายุ ระยะที่3 (พ.ศ. 2566-2580) พร้อมรับสังคมสูงวัยแบบสมบูรณ์ ซึ่งประกอบแผนฯย่อย 1) เตรียมความพร้อมของประชากรก่อนวัยสูงอายุ 2) ยกระดับคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุทุกมิติอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม 3) ปฏิรูปและบูรณาการระบบบริหารเพื่อรองรับสูงวัยอย่างมีคุณภาพ 4) เพิ่มศักยภาพการวิจัยการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมรองรับสังคมสูงวัย

ทั้งนี้ นายจุรินทร์ยังได้กล่าวว่า คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติมีความห่วงใยและขอเป็นกำลังใจให้แก่ผู้สูงอายุในช่วงสถานการณ์โควิด-19 และจะกำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคฯ ให้การดูแลผู้สูงอายุเป็นกรณีพิเศษ

นายกรัฐมนตรี ลงนามในราชกิจจานุเบกษา ประกาศห้ามเผยแพร่ข่าว ข้อมูลสร้างความหวาดกลัว บิดเบือน สับสน พร้อมให้อำนาจ กสทช. สั่ง ISP ตัดเน็ตได้ทันที

ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 29) โดยระบุว่า เนื่องจากมีการเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว หรือข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือนเพื่อให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดหรือสับสน ปฏิบัติตนไม่ถูกต้องจนเกิดความเสียหาย หรือเหตุการณ์ร้ายแรงมากขึ้นในสถานการณ์ฉุกเฉิน จนกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ การละเมิดสิทธิเสรีภาพของบุคคลอื่น การรักษาความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือการรักษาสุขภาพของประชาชนโดยผ่านทางสื่อต่าง ๆ โดยเฉพาะอินเทอร์เน็ต อันเป็นการช้ำเติมสถานการณ์ฉุกเฉินให้วิกฤติยิ่งขึ้น จำเป็นต้องมีมาตรการที่กำหนดให้การใช้สิทธิหรือเสรีภาพในการแสดงออกเป็นไปอย่างมีเหตุผล ถูกต้องตรงตามข้อเท็จจริงและมีความรับผิดชอบต่อความสงบสุขของสังคมส่วนรวมในสถานการณ์ฉุกเฉินเช่นนี้

นายกรัฐมนตรี จึงได้ออกข้อกำหนด ห้ามผู้ใดเสนอข่าว จำหน่าย หรือทำให้แพร่หลาย ซึ่งหนังสือ สิ่งพิมพ์ หรือสื่ออื่นใดที่มีข้อความอันอาจทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว หรือเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสถานการณ์ฉุกเฉินจนกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนในเขตพื้นที่ที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน

ในกรณีมีการเผยแพร่ข้อความหรือข่าวสารดังกล่าวข้างต้นในอินเทอร์เน็ต ให้สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) แจ้งผู้รับใบอนุญาตการให้บริการอินเทอร์เน็ตทุกรายทราบ และให้ตรวจสอบว่าข้อความหรือข่าวสารดังกล่าวมีที่มาจากเลขที่อยู่ไอพี (IP address) ใด หากเป็นเลขที่อยู่ไอพี (IP address) ที่ตนเป็นผู้ให้บริการ ให้แจ้งรายละเอียดต่อสำนักงาน กสทช. และให้ระงับการให้บริการอินเทอร์เน็ตแก่เลขที่อยู่ไอพี (IP address) นั้นทันที และให้สำนักงาน กสทช.ส่งรายละเอียดตามที่ได้รับแจ้งตามวรรคหนึ่งให้แก่สำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยเร็วเพื่อดำเนินคดีต่อไป


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“บิ๊กป้อม” ไฟเขียว หลักการจ่ายเงินรางวัล-จัดพิธีมอบแก่นักกีฬา-เจ้าหน้าที่ รายการแข่งขัน “โอลิมปิก-พาราลิมปิก 2020 ” เน้น เรียบง่ายปลอดภัยจากโควิด-19

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2564 โดยมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เข้าร่วมประชุม ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์

พล.อ.ประวิตร อนุมัติหลักการจ่ายเงินรางวัล และจัดพิธีมอบเงินรางวัลนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ รายการแข่งขัน โอลิมปิกเกมส์ครั้งที่ 32 และพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 16 กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น สำหรับผลการแข่งขันล่าสุด น.ส.พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ หรือ น้องเทนนิส นักกีฬาเทควันโด สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศ ได้รับเหรียญทอง รุ่น49 กิโลกรัมและเดินทางกลับถึงประเทศไทยแล้ว  และยังมีนักกีฬาอื่นๆอีก ที่กำลังแข่งขัน ซึ่งมีความหวังที่จะได้รับเหรียญรางวัล ทุกคน จากทั้ง 2 รายการ 

พล.อ.ประวิตร เห็นชอบให้ความช่วยเหลือด้านสวัสดิการกีฬา แก่ครอบครัว กรณี การเสียชีวิตของนักกีฬาอาวุโสและนักกีฬาคนพิการแห่งชาติ ชนิดกีฬาเปตอง ซึ่งถือเป็นบุคลากรทางการกีฬาที่เคยสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ  ทั้งนี้ในที่ประชุม ยังได้ให้ความสำคัญต่อการสร้างกระแสกีฬา จากการแข่งขันโดยเห็นชอบ สนับสนุนโครงการถ่ายทอดสด และการจัดกิจกรรมการสร้างกระแสชม และเชียร์ การแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่16 รวมถึงให้การสนับสนุนการจัดการแข่งขันกีฬาอาชีพ เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ด้วย

พล.อ.ประวิตร รับทราบ รายงานผลการประเมินการดำเนินงาน ของกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ 2563 ทุนหมุนเวียนอยู่ในระดับดีมากและการดำเนินงานปีงบประมาณ 2564 มีความคืบหน้า เป็นไปตามระเบียบขั้นตอนของกฎหมาย

พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวชื่นชม น้องเทนนิสที่สามารถคว้าเหรียญทองโอลิมปิก กีฬาเทควันโดให้กับประเทศไทยได้ อย่างน่าภาคภูมิใจยิ่ง  พร้อมส่งแรงเชียร์ไปยังนักกีฬาคนอื่นๆ ที่กำลังแข่งขันอยู่ในขณะนี้ ให้ประสพความสำเร็จ นำชื่อเสียงกลับสู่ประเทศไทย สำหรับเงินรางวัลนักกีฬาให้ การกีฬาแห่งประเทศไทย เร่งดำเนินการตามหลักเกณฑ์ โดยเร็วที่สุด  การจัดเตรียมพิธีมอบรางวัล ควรให้เป็นไปอย่างเรียบง่าย ปลอดภัยจากโควิด-19 และเป็นไปตามมาตรการของ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยเคร่งครัด

ทอ.จัดโครงการ “ทัพฟ้าส่งเวชภัณฑ์ทั่วไทย ร่วมใจฝ่าวิกฤตโควิด-19” สนับสนุนอากาศยาน นำส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ ให้โรงพยาบาลในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ

ที่กองทัพอากาศ พล.อ.อ.แอร์บูล  สุทธิวรรณ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ ได้สั่งการให้ ศูนย์ปฏิบัติการพลเรือน-ทหาร ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ (ศป.พรท.ศบภ.ทอ.) สนับสนุนการลำเลียงอุปกรณ์การแพทย์ไปยังสถานพยาบาลทั่วประเทศ ซึ่งกองทัพอากาศร่วมกับมูลนิธิหลักประกันสุขภาพไทย และโครงการทุก(ข์)ภัย ไทยช่วยกัน ร่วมปฏิบัติภารกิจ “เติมน้ำใจ ต่อ...ลมหายใจ” โดยได้ดำเนินการจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นให้กับโรงพยาบาลที่ขาดแคลนทั่วประเทศไทย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและช่วยเหลือผู้ป่วยโรคโควิด-19 

โดยวันนี้ กองทัพอากาศได้จัดเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 16 (ATR) ในการลำเลียงอุปกรณ์ทางการแพทย์ ประกอบด้วย เครื่องช่วยหายใจ High Flow จำนวน 6 เครื่อง, หน้ากาก N95 จำนวน 3,000 ชิ้น, ชุด PPE จำนวน 300 ชุด และอุปกรณ์ปกป้องทางเดินหายใจแบบอากาศบริสุทธิ์ (PAPR) จำนวน 3 เครื่อง ไปส่งมอบให้กับ โรงพยาบาลยะลา โรงพยาบาลปัตตานี และโรงพยาบาลนราธิวาส เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่มีความจำเป็นเร่งด่วน 

ทั้งนี้กองทัพอากาศได้จัดเตรียมเครื่องบินลำเลียง อาทิ C-130, ATR ฯ ล ฯ ซึ่งขึ้นอยู่กับน้ำหนักและปริมาตรของอุปกรณ์ทางการแพทย์ พร้อมกำลังพลที่เกี่ยวข้อง เพื่อสนับสนุนภารกิจ “เติมน้ำใจ ต่อ...ลมหายใจ” อย่างต่อเนื่อง ในการลำเลียงอุปกรณ์ทางการแพทย์ไปส่งยังสถานพยาบาลในพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศสัปดาห์ละ ๒ ครั้ง หรือมากกว่านั้นตามความจำเป็นเร่งด่วน 

"ม็อบทะลุฟ้า" บุกพรรคภูมิใจไทย ทวงถามข้อเรียกร้อง ให้ถอนตัวพรรคร่วมรัฐบาล  ก่อนจะแปะสติ้กเกอร์ข้อความเสียดสี-ปาสีแดงใส่ป้ายพรรค-เผาหุ่นจำลองพลเอกประยุทธ์ แสดงออกเชิงสัญลักษณ์การเมือง 

ที่พรรคภูมิใจไทย กลุ่มผู้ชุมนุม "ทะลุฟ้า" นำโดย นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่-ดาวดิน  และแนวร่วมอ่านแถลงการณ์และยื่นหนังสือถึงพรรคร่วมรัฐบาลซึ่งเป็นข้อความเพียงคำเดียว หน้าพรรคภูมิใจไทย เพื่อทวงถามข้อเรียกร้องให้ถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้วยชี้ถึงความล้มเหลวในการบริหารวิกฤตโควิด-19 
       
หลังกลุ่มผู้ชุมนุมทะลุฟ้าประกาศขีดเส้นภายใน 10 นาทีไม่มีแกนนำของพรรคมารับหนังสือ มีการติดสติ้กเกอร์โลโก้และข้อความเสียดสีทางการเมืองว่า "ภูมิใจตู่" พร้อมทั้งการปาถุงที่บรรจุสีแดงปาใส่ที่ป้ายชื่อพรรคและประตูทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ก่อนจะตะโกนขับไล่พลเอกประยุทธ์ให้ลาออกจากตำแหน่ง   
      
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมนำหุ่นไล่กาที่มีหน้ากากหน้ารูปหน้าของนายกรัฐมนตรีด้วย 3 หุ่น มาทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ด้วยการเผาหุ่นก่อน 1 หุ่นที่พรรคภูมิใจไทย  โดยตำรวจพยายามเข้ามาดับไฟและขอร้องอย่าเผาหุ่นแล้ว แต่ผู้ชุมนุมก็คัดค้านอย่างสันติด้วยการนั่งคุกเข่าขวางและชูมือสัญลักษณ์การชุมนุม และระหว่างการทำกิจกรรม ผู้กำกับจาก สน.บางเขน ประกาศแจ้งต่อผู้ชุมนุมรับทราบว่าการชุมนุมเป็นการกระทำฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และขอให้เลิกทำกิจกรรม จากนั้นผู้ชุมนุมตะโกนไล่ตำรวจและรถประกาศถอยร่นออกไป 


     
ทั้งนี้ หลังทำกิจกรรมนานกว่า 1 ชม. กลุ่มผู้ขุมนุม ได้เคลื่อนย้ายไปทำกิจกรรมต่อที่พรรคพลังประชารัฐ และพรรคประชาธิปัตย์ โดยระหว่างทำกิจกรรมเนื่องจากติดกับถนนทำให้การจราจรบริเวณนั้นติดขัดช่วงที่ทำกิจกรรม

ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ได้เรียกร้องให้รัฐบาลท้องถิ่นจ่ายเงินให้กับประชาชนที่ตัดสินใจเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 และออกกฎข้อบังคับใหม่สำหรับพนักงานของรัฐ โดยจะต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนหรือใช้มาตรการควบคุมโรคอื่น ๆ

ไบเดน เรียกร้องให้รัฐ ดินแดน และรัฐบาลท้องถิ่นเสนอเงิน 100 ดอลลาร์เพื่อมอบให้กับชาวอเมริกันที่เตรียมเข้ารับการฉีดวัคซีน ซึ่งจากถ้อยแถลงของกระทรวงการคลัง เงินดังกล่าวจะได้รับการจัดสรรจากกองทุนบรรเทาโรคระบาดมูลค่า 3.5 แสนล้านดอลลาร์ สำหรับรัฐบาลระดับรัฐ และระดับท้องถิ่น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผน American Rescue Plan ที่ผ่านการอนุมัติจากสภาคองเกรสเมื่อต้นปีนี้

พนักงานทุกคนที่ได้รับการว่าจ้างจากรัฐบาลกลางของสหรัฐ จะต้องแสดงหลักฐานว่าพวกเขาได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 หรือต้องปฏิบัติตามระเบียบการด้านความปลอดภัยที่เข้มงวดอย่างเคร่งครัด อาทิ การตรวจหาเชื้ออย่างสม่ำเสมอ การสวมใส่หน้ากากอนามัย และการจำกัดการเดินทาง

ในความพยายามที่จะโน้มน้าวใจให้ผู้ที่ยังไม่เต็มใจรับการฉีดวัคซีนเปลี่ยนใจนั้น ปธน.ไบเดนกล่าวที่ทำเนียบขาวว่า

“ผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนที่เสียชีวิตจากโควิด-19 ถือเป็นโศกนาฏกรรมของอเมริกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน และกำลังเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเนื่องจากติดเชื้อไวรัส ผู้คนกำลังล้มตาย และผู้คนที่ไม่สมควรต้องตายก็จะตายลงเช่นกัน แต่ถ้าคุณออกไปข้างโดยได้รับวัคซีนป้องกันเรียบร้อยแล้ว คุณก็จะไม่ต้องตาย”

นอกจากนี้ ไบเดน ยังได้สั่งให้กระทรวงกลาโหมพิจารณาเพิ่มข้อบังคับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในรายการวัคซีนที่จำเป็นสำหรับสมาชิกในกองทัพด้วย

ขณะเดียวกัน ยังได้มีการขยายสิทธิ์การลาโดยได้รับค่าจ้างสำหรับพนักงานที่ใช้วันหยุดเพื่อพาตัวเองและสมาชิกในครอบครัวไปฉีดวัคซีน โดยไบเดนกล่าวว่า ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางจะได้รับเงินคืน หากพวกเขาให้เวลาพนักงานพาสมาชิกในครอบครัวไปฉีดวัคซีน


ที่มา : https://www.infoquest.co.th/2021/111416


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

รมช.มนัญญา ปล่อยขบวนกระจายผลไม้ภาคใต้ บรรเทาความเดือดร้อนสมาชิกสหกรณ์ฯ รถขนส่งสินค้าชุมนุมสหกรณ์ฯ ร่วมฝ่าวิกฤติโควิด-19 ส่งตรงถึงมือผู้บริโภค

นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานพิธีเปิดการกระจายผลไม้ภาคใต้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของสมาชิกสหกรณ์ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19 ) พร้อมด้วย นางสาวปารีณา ซักเซ็ค คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมี นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายศิริชัย ออสุวรรณ ประธานกรรมการดำเนินการชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทยให้การต้อนรับ โดยกิจกรรมดังกล่าวมุ่งเน้นในการช่วยลดปัญหาราคาผลไม้ตกต่ำ พร้อมมอบนโยบายการกระจายผลไม้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของสมาชิกสหกรณ์ ผ่านระบบ Zoom Meeting และได้ถ่ายทอดสัญญาณไปยังสหกรณ์ผลไม้และสหกรณ์ผู้จำหน่ายข้าวสารในจังหวัดต่าง ๆ โอกาสนี้ รมช.เกษตรฯ ได้ปล่อยขบวนรถเปิดการกระจายผลไม้จากภาคใต้สู่ผู้บริโภค โดยมีรถแท็กซี่และรถขนส่งสินค้าของชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด เข้าร่วมเพื่อกระจายผลไม้ไปสู่ผู้บริโภค ณ ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย (ชสท.) เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 

รมช.มนัญญา กล่าวว่า “จากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงของผลไม้ ให้การกระจายผลผลิตที่ได้รับผลกระทบทั้งด้านการส่งออกไปต่างประเทศและการจำหน่ายภายในประเทศ และในวันนี้ สำหรับการกระจายผลผลิตเงาะจากภาคใต้ในวันนี้ เป็นอีกหนึ่งแนวทางในการช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้ผลิตผลไม้ของภาคใต้ ซึ่งใช้ขบวนการสหกรณ์ เป็นกลไกในการกระจายเงาะ จากเกษตรกรและสมาชิกสหกรณ์ชาวสวนผลไม้ ที่ได้รับความเดือดร้อนจากกการหยุดรับซื้อผลผลิตของพ่อค้าในพื้นที่ไปสู่ผู้บริโภครายย่อย ส่งถึงมือผู้บริโภคโดยตรง ซึ่งจะกระจายผลผลิตโดยมีชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด เป็นศูนย์กลางในการจำหน่ายผลไม้สหกรณ์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งเงาะที่นำมาจำหน่ายครั้งนี้ ส่งตรงมาจากสหกรณ์การเกษตรเมืองสุราษฎร์ธานี จำกัด จังหวัดสุราษฎร์ธานี และยังมีรถแท็กซี่สหกรณ์ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการขาดรายได้ในช่วงสถานการณ์โควิด มาร่วมเป็นรถขนส่งผลไม้จากชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด ไปยังผู้บริโภคในเขตกรุงเทพฯ ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะกระจายผลผลิตมังคุด และลำไยต่อไปอีกด้วย

โดยการดำเนินงานกระจายผลผลิตดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในขบวนการสหกรณ์ ที่เป็นองค์กรหลักในการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาของสมาชิกสหกรณ์  เมื่อสมาชิกสหกรณ์และเกษตรกรส่วนหนึ่งได้รับความเดือดร้อน ขบวนการสหกรณ์ก็เร่งหาแนวทางในการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับสมาชิก ซึ่งอาศัยความร่วมมือกันของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะเครือข่ายของสหกรณ์ด้วยกัน อย่างไรก็ตามต้องให้ความสำคัญเรื่องมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) และคุณภาพของผลผลิตทุกชนิดของสหกรณ์ เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่น และเพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์การค้าในปัจจุบัน สหกรณ์ต้องเรียนรู้ด้านการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อตอบสนองต่อผู้บริโภคได้ทุกช่องทาง  รวมถึงกระบวนการโลจิสติกส์ซึ่งสำคัญอย่างมาก ต้องจัดส่งรวดเร็วให้ถึงมือผู้บริโภค เพื่อความสดใหม่เสมือนรับประทานในสวนผลไม้  หากขบวนการสหกรณ์ทำได้เช่นนี้ เชื่อมั่นว่าผลผลิตของสหกรณ์จะสามารถจำหน่ายได้จำนวนมาก ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกรมส่งเสริมสหกรณ์พร้อมจะให้ความช่วยเหลือ และเชื่อมั่นว่าขบวนการสหกรณ์ จะเป็นขบวนการที่สำคัญที่จะร่วมมือกันพัฒนาด้านคุณภาพ ทั้งการผลิตและการตลาดได้ในอนาคต และมั่นใจว่าพลังของเครือข่ายในขบวนการสหกรณ์ จะเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ในการร่วมกันแก้ไขปัญหา และพัฒนาสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ส่งผลถึงการอยู่ดีกินดีของสมาชิกเกษตรกรไทยต่อไป”

ฉีดต่อเนื่อง ครั้งที่ 25 “นทพ.” ฉีดวัคซีนให้กำลังพล บก.ทท. ที่สนับสนุน สธ. และ กทม. ในการแก้ไขปัญหาโรคโควิด-19

พลเอก นเรนทร์  สิริภูบาล ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (ผบ.นทพ.) สั่งการให้ สำนักงานสนับสนุน หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (สสน.นทพ.) ดำเนินการ สนับสนุนกระทรวงสาธารณสุข ในการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แบบปูพรมทั่วประเทศ โดยนำวัคซีนที่ได้รับการจัดสรรจาก สธ. รวมทั้งวัคซีนที่ได้รับตามแผนการแจกจ่ายและกระจายวัคซีนของกระทรวงกลาโหม มาบริการฉีดให้แก่กำลังพลของกองบัญชาการกองทัพไทย, บุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ กทม. ในช่องทาง "นัดหมายผ่านองค์กร" ณ จุดให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 อาคารอเนกประสงค์ นทพ. 

ซึ่งเป็นจุดให้บริการฉีดวัคซีนที่ ผบ.นทพ. ได้สั่งการให้ สสน.นทพ. จัดบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ของหน่วยใน นทพ. เป็นผู้ดำเนินการ และได้เปิดให้บริการอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ในวันนี้เป็นการให้บริการฉีด ครั้งที่ 25 เป็นการฉีดแบบสลับชนิด (เข็มที่ 1 SINOVAC เข็มที่ 2 AstraZeneca) ให้กับบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ประจำจุดให้บริการฉีดวัคซีน COVID-19 นทพ., กำลังพลของกองบัญชาการกองทัพไทยที่จัดสนับสนุนการดูแลช่วยเหลือผู้ป่วย ณ รพ.บุษราคัม และชุดควบคุมแคมป์คนงานในพื้นที่เขตลาดกระบัง

 เพื่อให้กำลังพลที่ออกปฏิบัติงานตามนโยบายและการสั่งการของ ศบค. และ ศปม. ในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาโรคโควิด-19 ของ สธ. และ กทม. สามารถปฏิบัติงานได้อย่างต่อเนื่องและปลอดภัย รวมทั้งเป็นการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด ตลอดจนลดความรุนแรงของโรคหากมีการติดเชื้อ รวมจำนวนวัคซีนที่จุดให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 นทพ. ดำเนินการฉีดแล้วทั้งสิ้น 10,450 โดส

ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุขในการกระจายวัคซีนตามนโยบายของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ได้ประกาศให้การฉีดวัคซีนเป็น "วาระแห่งชาติ" เพื่อเร่งสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้กับประเทศไทยของเรา

นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ทุกคนทนไม่ไหวแล้ว ผมก็ทนไม่ไหว

30 ก.ค. 64 นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ทุกคนทนไม่ไหวแล้ว ผมก็ทนไม่ไหวครับ

อย่างแรก

“การขอประสานเรื่องรักษาโควิด กรุณาโทรตามเบอร์ที่ให้ไป ถ้าโทรไม่ติดกรุณาส่งไลน์ จะมีเจ้าหน้าที่ตอบกลับภายใน 24 ชั่วโมง”

บางคนโทรอย่างเดียว ไม่ยอมไลน์ โทรไม่ติด เข้าเน็ตมาด่าผู้ว่าได้ แต่ไม่ส่งไลน์ตามช่องทางที่ให้ไว้ พอยอมไลน์ปุ๊บก็ได้รับการติดต่อ กลายเป็นว่าท่านเสียเวลาเองกับการเข้ามาด่าผม คนในครอบครัวของท่านจะได้รับการช่วยเหลือช้าลง

**ก่อนส่งไลน์ท่านกรุณาตรวจสอบกันก่อนนะครับว่าถูกต้องหรือไม่**

1.) อำเภอเมืองฯ https://lin.ee/vxCKayq

2.) อำเภอบ้านแพ้ว https://lin.ee/1QwvG51

3.) อำเภอกระทุ่มแบน https://lin.ee/xh5TXarf

บางท่านแจ้งว่าไลน์แล้วไม่ตอบ มีหลักฐานแคปแชท แต่เมื่อตรวจสอบให้ พบว่าส่งข้อความไปไลน์เก่าที่เราไม่ได้ใช้แล้ว

ข้อนี้ไม่โทษกัน แต่ขอให้ช่วยบอกต่อข้อมูลกันด้วยนะครับ ขอให้ท่านช่วยส่งข้อมูลครบถ้วนในครั้งเดียว อย่าคอยถามตอบกับเจ้าหน้าที่ทีละอย่าง เพราะกว่าจะวนมาตอบได้แต่ละครั้ง ยิ่งทำให้ทุกอย่างล่าช้าไปอีก จะวิจารณ์ผมก็ไม่ว่ากัน แต่เห็นแก่คนที่ท่านรักเถิดครับ ไปทำตามขั้นตอนกันก่อน (ในที่นี้ยกเว้นผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงอุปกรณ์ เช่น ใช้เน็ตไม่เป็นนะครับ ทุกคนช่วยหาทางออกให้อยู่)

อย่างที่สอง

“อย่าส่งข้อความมาใน inbox เพจผม”

ย้ำอีกครั้ง ไม่มีเจ้าหน้าที่ตอบ เพราะผมระดมไปไว้ตามช่องทางหลักหมดแล้ว ไม่ใช่ว่าเจ้ายศเจ้าอย่าง หรือละเลยท่าน ถ้าเรามีเจ้าหน้าที่เพียงพอ ผมพร้อมจะคอยช่วยเหลือเต็มที่ทุกช่องทาง แต่ยอมรับว่าตอนนี้กำลังคนของเรามีเท่านี้ครับ ต้องใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ขอใช้ช่องทางไลน์ที่แจ้งไปเป็นหลัก

อย่างที่สาม

“อย่าออกจากบ้านถ้าไม่จำเป็น ถ้าจำเป็นกรุณาป้องกันตัว”

ผมไม่พูดถึงผู้ที่จำเป็นต้องหารายได้ หรือมีภารกิจเลยนะครับ แต่เมื่อคืนบางคนยังจับกลุ่มกินเหล้าสังสรรค์ จัดงานปาร์ตี้กันอยู่เลย บางคนยังไปโน่นมานี่ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมขอเปลี่ยนกำลังใจที่ท่านเขียนส่งให้หมอพยาบาล เป็นการดูแลตัวเองอย่างเต็มที่เถิดครับ ดูแลตัวเองยังไม่พอ ต้องดูแลเพื่อนและคนที่เรารู้จักด้วย ความสนุกสนานของบางคน กำลังทำลายความตั้งใจของคนอื่นที่เขาเสียสละอยู่บ้าน และทำให้บุคลากรของเราเหนื่อยมากขึ้นครับ


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ย้อนเส้นทางชีวิตนักวิ่งความหวังโอลิมปิกของไทย ‘คีริน ตันติเวทย์’

เย็นนี้มีไฮไลต์โอลิมปิกเกมส์ให้คนไทยได้ลุ้นกันอีกแล้ว เมื่อ คีริน ตันติเวทย์ นักวิ่งลูกครึ่งไทย-อเมริกัน จะเป็นตัวแทนนักวิ่งไทย ลงทำการแข่งขันกรีฑาในประเภทวิ่ง 10,000 เมตร

กล่าวถึงคีริน นี่เป็นโอลิมปิกเกมส์ ‘ครั้งแรก’ ของเจ้าตัว ที่ผ่านมา เขาสร้างผลงานให้แฟนกีฬาชาวไทยได้รู้จัก จากมหกรรมกีฬาซีเกมส์ 2019 ซึ่งงานนั้นเจ้าตัวสามารถคว้า 2 เหรียญทอง จากการวิ่งระยะ 5,000 และ 10,000 เมตร

แต่หากย้อนกลับไปไกลกว่านั้น เมื่อสมัยที่เจ้าตัวยังเป็นนักศึกษาอยู่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา คีรินเคยสร้างความฮือฮาในการแข่งขันวิ่ง จนเป็นที่จดจำ เมื่อเจ้าตัวลงแข่งในรายการ Indoor Ivy Heptagonal Championships แต่เกิดอุบัติเหตุรองเท้าหลุดขณะทำการแข่งขัน ถึงอย่างนั้น เจ้าตัวก็ยังสวมหัวใจสิงห์ วิ่งด้วยรองเท้าข้างเดียว เข้าเส้นชัยเป็นที่ 1 จนได้

ปัจจุบันคีรินเป็นนักวิ่งในสังกัดทีม Bowerman Track Club (BTC) ทีมกรีฑาชื่อดังในสหรัฐอเมริกา และการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ เจ้าตัวก็หมายมั่นปั้นมือ อยากทำผลงานคว้าเหรียญรางวัลให้กับประเทศไทยให้ได้

วันนี้ เวลา 18.30 น. ตามเวลาประเทศไทย มาร่วมเป็นกำลังใจให้หนุ่มลูกครึ่งไทย-อเมริกันคนนี้กัน ไม่แน่ว่า เขาอาจสร้างเซอร์ไพรส์อีกครั้งก็เป็นได้!


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top