Saturday, 24 May 2025
NewsFeed

'หมอปลา' ลั่นเห็นด้วยกับป๋าเทพในบางเรื่อง แต่ยังมองว่าการบริหารงานยังล้มเหลว แนะหากบริหารไม่เป็น ควรลาออกให้คนรุ่นใหม่มาทำหน้าที่แทน

'หมอปลา' ลั่นเห็นด้วยกับป๋าเทพในบางเรื่อง แต่ยังมองว่าการบริหารงานยังล้มเหลว มีแต่น้ำลาย ขายฝัน แถมติก็ไม่ได้อาจโดน "เห็บ-หมัด" เอากฎหมายมาจัดการ 7 ปี ไม่เห็นมีอะไรดีขึ้น ขนาดเรือดำน้ำถ้าไม่ได้พลังโซเชียลคงซื้อไปแล้ว แนะหากบริหารไม่เป็น ควรลาออกให้คนรุ่นใหม่มาทำหน้าที่แทน

จากกรณีศิลปินตลกชื่อดัง “เทพ โพธิ์งาม” หรือ “ป๋าเทพ” ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก พูดถึงสถานการณ์บ้านเมืองก่อนจะกล่าวเชิงตำหนิ กลุ่มเยาวชนปลดแอก ที่ออกมาชุมนุมประท้วงรัฐบาล ว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมควรทำ พร้อมยก “บิ๊กตู่” หรือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อวันที่ 28 ก.ค. ในรายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ได้เชิญ “ป๋าเทพ” และ หมอปลา มือปราบสัมภเวสี ผู้มีความเห็นที่แตกต่างกัน ได้มาแสดงความเห็นในมุมมองของแต่ละคนไป

โดย หมอปลา กล่าวว่า บางประเด็นก็เห็นด้วยกับป๋าเทพ แต่ไม่เห็นด้วยเรื่องอวยรัฐบาล เพราะรัฐบาลนี้ติไม่ได้ พอมีคนติก็จะมีพวกเห็บหมัด เอากฎหมายมาจัดการ รัฐบาลนี้มีแต่น้ำลาย ไม่มีเนื้อหา บริหารอะไรก็ไม่เป็นรูปร่าง อย่างเรื่องวัคซีนเนี่ยไม่รู้หายไปไหน บางจังหวัดมีเข็ม 3 แล้ว ไม่รู้เอามาจากไหน พวกหมอยังไม่ได้ แต่บางคนได้แล้ว ผมมองว่าเป็นรัฐบาลที่ดีแต่ปาก

สถานการณ์ตอนนี้ พวกเขายังจะซื้อเรือดำน้ำ ถ้าไม่ได้พลังโซเชียล ก็คงซื้อไปแล้ว เขาไม่เห็นบ้างหรือว่าประชาชนกำลังจะตาย คุณต้องลองไปลงพื้นที่ ไปดูว่าประชาชนเป็นอย่างไร เขาจะตายกันหมดแล้ว รัฐบาลชุดนี้พยายามทำอะไรที่เป็นโครงการใหญ่ ๆ เพื่อเอาเม็ดเงินเหล่านั้นไปแบ่งกัน ใช่หรือไม่?

ผมคิดว่าถ้าเขาบริหารงานไม่เป็นก็ลาออกไปเถอะครับ ผมมองว่าการบริหารงานของเขามันล้มเหลว ขายฝัน อย่างเรื่องกัญชา เขาขายฝันให้ชาวบ้าน ชาวบ้านคิดว่าจะมีกิน แต่สุดท้ายเขาทำไม่ได้ แบบนี้ก็ควรจะออกไปไหม เมื่อคุณเป็นผู้นำ คุณต้องพร้อมรับคำติด้วย ไม่ใช่รับแต่คำชม ผมคิดว่าถ้ารัฐบาลชุดนี้ออกไปมันอาจจะดีกว่านี้ เปิดโอกาสให้คนใหม่เข้ามาทำต่อ

7 ปีที่ผ่านมามันล้มเหลวทุกอย่าง มันไม่เห็นมีอะไรดีขึ้นสักอย่าง สิ่งที่ป๋าพูดคือการอวยให้รัฐบาลอยู่ต่อไป แต่ผมมองว่าถ้าเปลี่ยนรัฐบาลมันคงใช้เวลาไม่นานหรอก ผมว่าน่าจะมีบุคคลที่เขามีความสามารถ ไม่ใช้น้ำลายในการทำงาน แต่ตอนนี้รัฐบาลมีแต่น้ำลาย คำพูดขายฝันให้มันสวยหรู ผมอยากให้รัฐบาลแถลงบ้าง ไม่ใช่ แถ-ลง อย่างเดียว พูดอะไรที่เป็นกิจจะลักษณะให้ประชาชนฟังบ้าง


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

มาดามเดียร์ แนะ สิ่งที่รัฐต้องแก้ก่อน คือ การสื่อสารข้อมูลกับประชาชน เพื่อป้องกันผู้ฉวยโอกาสปล่อยเฟกนิวส์

เส้นบาง ๆ ระหว่าง ปราบ Fake news กับ การปิดหูปิดตาประชาชน “การสื่อสาร” คือสิ่งที่รัฐต้องแก้ก่อน

ปรากฏการณ์ดารา คนมีชื่อเสียงออกมา call out จนตามมาถึงการประชุม ครม.เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ที่นายกรัฐมตรีมีคำสั่งให้ทุกกระทรวงจัดตั้งหน่วยงานให้เร่งติดตามและเอาผิดคนที่ปล่อยเฟคนิวส์ ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่องค์กรสื่อ บุคคลที่มีชื่อเสียงหรือกระทั่งประชาชนธรรมดา หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องให้สามารถดำเนินการตามกฎหมายได้เลยทันที

ในขณะที่เมื่อวานนี้ 6 สมาคมสื่อมวลชนได้ร่วมออกแถลงการณ์คัดค้านคำสั่งของนายกรัฐมนตรีฯ ว่าการกระทำดังกล่าวเท่ากับเป็นการปิดปากสื่อมวลชน ซึ่งไม่ต่างจากการปิดหูปิดตาประชาชน เป็น “การจำกัดสิทธิและเสรีภาพ” ของพลเมืองไทย

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้สร้างความไม่สบายใจ ในฐานะที่เดียร์เคยทำงานในองค์กรสื่อ การแสดงจุดยืนของรัฐบาลที่มองการเรียกร้องความเดือดร้อนของประชาชนเป็นศัตรู ในขณะที่รัฐบาลคือตัวแทนประชาชนที่ได้รับเลือกตั้งเข้ามาบริหารประเทศ และหน่วยงานราชการก็ควรเป็นที่พึ่งให้ประชาชนในการบริการและคอยให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ที่สุด โดยเฉพาะในเวลาที่ประเทศกำลังเกิดวิกฤตเช่นนี้

จริงอยู่ว่าการบังคับใช้กฎหมายสำหรับผู้กระทำผิดโดยเฉพาะผู้ที่จงใจฝ่าฝืนกฎหมายนั้นเป็นเรื่องสำคัญที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพื่อรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ในยามที่ประชาชนทั่วทุกหย่อมหญ้ากำลังได้รับความเดือดร้อน คนกำลังล้มตายเป็นใบไม้ร่วง นั่นยังไม่นับรวมถึงคนที่เหมือนตายทั้งเป็นเพราะไม่มีเงินจะมาซื้อข้าวให้คลายจากความหิว ความรู้สึกเหล่านี้ประชาชนควรจะได้รับเสรีภาพขั้นพื้นฐานในการแสดงออก

ดังนั้น การบังคับใช้กฎหมายเฟคนิวส์ที่การตัดสินอยู่บนดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ การแสดงความรู้สึกในทางลบ เช่น “วัคซีนไร้ประสิทธิภาพ” หรือ “รอวัคซีนนานแล้ว…รัฐบาลไม่ทำอะไร” หรือกระทั่งการวิจารณ์การทำงานก็หมิ่นเหม่ต่อการผิดกฎหมายเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนอย่างยิ่งของผู้มีอำนาจที่จะต้องทำด้วยความรอบคอบอย่างยิ่งต่อประชาชน เมื่อมีการบังคับใช้กฎหมายก็ต้องไม่ลืมที่จะทำงานเชิงรุกอย่างสร้างสรรค์ นั่นคือการปรับปรุงกระบวนการสื่อสารของรัฐที่ต้องสื่อสารข้อมูลสำคัญไปให้ถึงประชาชน เพื่อให้ประชาชนได้ข้อมูลที่ครบถ้วนในการดูแลปกป้องตนเอง

การสื่อสารที่ไม่ทำให้ประชาชนเกิดความสับสนจนสุดท้ายต้องพยายามวิ่งหาข้อมูลด้วยตนเอง เพราะเมื่อใดก็ตามที่ประชาชนเกิดความสับสน ไม่แน่ใจในข้อมูล และที่สำคัญเมื่อเวลาต้องการหาข้อมูลแต่ไม่รู้ว่าจะเช็กข้อมูลถูกต้องได้ที่ไหน ก็จะเป็นโอกาสของผู้ที่ไม่หวังดีในการสร้างเฟคนิวส์

การบังคับใช้กฎหมายเพียงอย่างเดียว แต่ถ้าไม่แก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุนั้นสุดท้ายแล้วผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่อาจเป็นไปอย่างที่หวัง แต่สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือ “การที่ผู้บริหารประเทศไม่ได้ยินเสียงที่แท้จริงจากประชาชน”


ที่มา : https://www.facebook.com/100044178982009/posts/373834587432504/


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

คณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. เตือน ปืนฉีดแอลกอฮอล์ เสี่ยงอันตราย ไม่มีประโยชน์ เสียเงินฟรี ทำให้เชื้อโรคฟุ้งกระจาย

เภสัชกรหญิงสุภัทรา บุญเสริม ผู้ทรงคุณวุฒิด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้านสาธารณสุข และรักษาราชการ แทนรองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในขณะนี้ ทำให้ปืนฉีดแอลกอฮอล์กำลังได้รับความนิยม เป็นที่ต้องการของประชาชนเป็นอย่างมาก สำนักงานคณะกรรมการ อาหารและยา (อย.) มีความห่วงใยเป็นอย่างยิ่ง ไม่แนะนำให้ซื้อปืนฉีดแอลกอฮอล์มาใช้เนื่องจากละอองฝอยที่ออกมา จากเครื่องมีขนาดเล็กมาก ทำให้ตัวน้ำยาสัมผัสพื้นผิวไม่เพียงพอซึ่งจะลดประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรค เตือนเสี่ยงอันตราย ไม่มีประโยชน์ เสียเงินฟรี แถมยังทำให้ เชื้อโรคฟุ้งกระจาย

หากเข้าตาหรือสูดดมอาจทำให้เคืองตา เวียนหัว คลื่นไส้ ระคายเคืองระบบทางเดินหายใจ เป็นอันตราย โดยเฉพาะในเด็กเล็ก ที่สำคัญหากใช้ปืนที่มีแสงยูวีฆ่าเชื้อโรคบนร่างกายโดยตรงอาจทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังและเป็นอันตรายต่อดวงตา

ดังนั้น ปืนฉีดแอลกอฮอล์นอกจากจะไม่มีประโยชน์ในการฆ่าเชื้อโรคแล้วยังเป็นอันตรายต่อสุภาพอีกด้วย วิธีการฆ่าเชื้อบนพื้นผิวและวัสดุอุปกรณ์ที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ ควรใช้ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคที่ได้รับอนุญาตจาก อย. เทราดหรือเช็ดบนพื้นผิวหรือวัสดุอุปกรณ์ที่ทำความสะอาดแล้ว ทิ้งไว้ให้เปียกตามระยะเวลา ที่กำหนด และปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลาก หากพื้นผิวที่สกปรกมากจะลดประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรค ก่อนซื้อ ตรวจสอบเลข อย. ที่ www.fda.moph.go.th หัวข้อ ตรวจสอบผลิตภัณฑ์


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

โฆษกกระทรวง อว. เผยวิธีคิดส่วนลดค่าเทอม ช่วยแบ่งเบาภาระผู้ปกครองและนักศึกษา ช่วงวิกฤตโควิด-19

โฆษกกระทรวง อว. เผยวิธีคิดส่วนลดค่าเทอม ช่วยแบ่งเบาภาระผู้ปกครองและนักศึกษา ช่วงวิกฤตโควิด-19

ลดอย่างไร ลดเท่าไหร่ คิดอย่างไร กับส่วนลดค่าเทอมที่กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ประกาศออกมาล่าสุด

ผศ.ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม และโฆษก อว. ได้แนะนำวิธีคำนวณการลดค่าเทอม แบบละเอียดพร้อมยกตัวอย่างให้เข้าใจง่าย ๆ  ตามขั้นตอนต่อไปนี้

สำหรับมหาวิทยาลัยรัฐ

1.) ลดค่าเทอม 50% สำหรับค่าเทอมที่ไม่เกิน 50,000 บาท ตัวอย่างเช่น ค่าเทอม 9,000 บาท ลด 50% เท่ากับจ่ายค่าเทอมสุทธิ 4,500 บาท

2.) ลดค่าเทอมเพิ่ม 30% สำหรับค่าเทอมในส่วนตั้งแต่ 50,001-100,000 บาท ตัวอย่างเช่น ค่าเทอม 70,000 บาท ลด 50% ของ 50,000 บาทแรก เท่ากับ 25,000 บาท ส่วนที่เหลือ 20,000 บาท ลดอีก 30% เท่ากับ 6,000 บาท ดังนั้นจะมีลดค่าเทอมทั้งสิ้น 25,000 + 6,000 = 31,000 บาท สรุปจ่ายค่าเทอมสุทธิ 70,000 – 31,000 = 39,000 บาท

3.) ลดค่าเทอมเพิ่ม 10% สำหรับค่าเทอมในส่วนตั้งแต่ 100,001 บาทขึ้นไป ตัวอย่างเช่น ค่าเทอม 120,000 บาท ลด 50% ของ 50,000 บาทแรก เท่ากับ 25,000 บาท ส่วนที่สอง 50,000 บาท ลดอีก 30% = 15,000 บาท ส่วนที่เหลือ 20,000 บาท ลดค่าเทอมอีก 10% = 2,000 บาท ลดค่าเทอมทั้งหมด 25,000 + 15,000 + 2,000 = 42,000 บาท สรุปจ่ายค่าเทอมสุทธิ 120,000 - 42,000 = 78,000 บาท

สำหรับมหาวิทยาลัยเอกชน 

ลดค่าเทอม 5,000 บาทต่อราย + มาตรการช่วยเหลือจากทางมหาวิทยาลัย

นอกจากนี้ มติครม. ยังได้บรรเทาภาระผู้ปกครองนักเรียนในระดับประถมและมัธยมศึกษาด้วย โดยรัฐบาลจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้ผู้ปกครอง 2,000 บาท/นร. 1 คน, จัดสรรค่าใช้จ่ายให้สถานศึกษา เพื่อช่วยจัดการเรียนรู้ และลดหรือตรึงค่าใช้จ่าย รร.เอกชน ให้เท่ากับปี 2563


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“อนุทิน” เป็นผู้แทนรัฐบาลรับมอบชุดตรวจ Antigen Test Kit จำนวน 1.1 ล้านชุด และเครื่องช่วยหายใจ 102 เครื่อง ที่รัฐบาลสวิตส์เซอร์แลนด์บริจาคแก่ประเทศไทย  

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในช่วงเช้าของวันนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข เป็นผู้แทนรัฐบาลไทย ในการรับมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ซึ่งรัฐบาลประเทศสวิตเซอร์แลนด์บริจาคแก่รัฐบาลไทย โดยมีนางเฮเลเนอ บุดลีเกอร์ อาร์ทิเอดา (H.E. Mrs. Helene Budliger Artieda) เอกอัครราชทูตสวิสเซอร์แลนด์ประจำประเทศไทย เป็นผู้แทนรัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ในการมอบ ทั้งนี้ เวชภัณฑ์ดังกล่าว ประกอบด้วยชุดตรวจ Antigen Test Kit จำนวน 1.1 ล้านชุด และ Ventilator(เครื่องช่วยหายใจ) จำนวน 102 เครื่อง โดยขนส่งมาในเที่ยวบินที่ LX180 สายการบิน SWISS Air ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ(ทสภ.) เมื่อ เวลา 05:20 น. ของช่วงเช้าที่ผ่านมา

“รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ได้ขอบคุณในไมตรีที่รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์มอบแก่ประเทศไทยเสมอมา โดยชุดตรวจ Rapid Antigen Test ที่ได้รับทั้งหมดจะมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่รัฐบาลจะใช้แจกจ่ายแก่ประชาชน และเป็นอุปกรณ์ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ในการดำเนินการตรวจเชิงรุกในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19  ขณะที่เครื่องช่วยหายใจจะกระจายไปยังโรงพยาบาลที่ยังขาดแคลนอุปกรณ์ต่อไป”น.ส.ไตรศุลี กล่าว

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นอกจากชุดตรวจ  Antigen Test Kit ที่ได้รับบริจาคแล้ว รัฐบาลยังอยู่ระหว่างการจัดหาชุดตรวจอีก 8.5 ล้านชุดเพื่อแจกจ่ายให้แก่ประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(บอร์ด สปสช.) ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข เป็นประธาน ครั้งที่ 8/2564 (วาระพิเศษ) เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2564 ได้อนุมัติการจัดหาภายใต้วงเงิน 1,014 ล้านบาท โดยขณะนี้กรมควบคุมโรคกำลังวางแผนจะกระจายชุดตรวจให้ประชาชนได้ใช้ต่อไป 

คลังหั่นเศรษฐกิจไทยปีนี้เหลือโตแค่ 1.3%

น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2564 ว่า กระทรวงการคลังได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยในปีนี้ คาดว่าจะขยายตัวอยู่ที่ 1.3% ลดลงจากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 2.3% เพราะได้รับผลกระทบจากการระบาดระลอกใหม่ของไวรัสโควิด-19 ที่เริ่มต้นในช่วงปลายไตรมาส 2 ปี 2564 ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจของไทยการเดินทางระหว่างประเทศและจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทย 

อย่างไรก็ดี การส่งออกสินค้ามีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นตามการขยายตัวของเศรษฐกิจและปริมาณการค้าโลก ซึ่งในช่วง 5เดือนแรกของปี 2564 มูลค่าการส่งออกสินค้าขยายตัวสูงที่ 14.5% ส่งผลให้คาดว่ามูลค่าการส่งออกสินค้าของไทยในปี 2564 จะขยายตัวที่ 16.6% ปรับเพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ครั้งก่อนที่ 11% 

“ภาครัฐมีบทบาทสำคัญในการประคับประคองเศรษฐกิจไทย ผ่านมาตรการต่าง ๆ ทั้ง โครงการคนละครึ่งระยะที่ 3 โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 3 โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ และมาตรการด้านการเงินผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ประกอบกับการใช้จ่ายเงินกู้จาก พ.ร.ก.กู้เงินทั้ง 2 ฉบับจะมีส่วนช่วยกระตุ้นการบริโภคบรรเทาผลกระทบของภาคธุรกิจและรักษาระดับการจ้างงานให้สูงขึ้น”

สำหรับเศรษฐกิจไทยในปี 2565 กระทรวงการคลังคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวเร่งขึ้นมาอยู่ในช่วง 4 – 5% โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดเริ่มคลี่คลายลงและมีการเดินทางระหว่างประเทศมากขึ้น โดยคาดว่านักท่องเที่ยวต่างประเทศจะเดินทางเข้ามาในประเทศไทย จำนวน12 ล้านคน ในขณะที่การส่งออกสินค้าคาดว่าจะขยายตัวได้ต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อการฟื้นตัวของภาคธุรกิจ การจ้างงาน และสนับสนุนการบริโภคภายในประเทศ ส่งผลให้การใช้จ่ายภายในประเทศจะกลับมาฟื้นตัวได้ดี 

แอสตร้าเซนเกนก้า เผยแพร่แถลงการณ์เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ระบุว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าและวัคซีนชนิด mRNA แสดงข้อมูลความปลอดภัยที่ดีและคล้ายกัน จากการศึกษาในระดับประชากรกว่าหนึ่งล้านคน

อุบัติการณ์ของการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันที่พบได้ยากนั้นต่ำกว่า ที่พบในผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นอย่างมาก

จากการศึกษาข้อมูลการใช้วัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่เผยแพร่ในฉบับก่อนตีพิมพ์ในวารสาร เดอะ แลนเซต จากกลุ่มประชากรมากกว่าหนึ่งล้านคน เพื่อศึกษาอัตราการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันผิดปกติ และภาวะลิ่มเลือดอุดตันร่วมกับภาวะเกล็ดเลือดต่ำ(thrombocytopenia syndrome หรือ TTS) หลังการฉีดวัคซีนชนิด mRNA หรือวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า และเปรียบเทียบกับอัตราการเกิดภาวะดังกล่าวในประชากรทั่วไปและในกลุ่มผู้ติดเชื้อโควิด-19

ข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัยของวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า และวัคซีนชนิด mRNA มีความคล้ายคลึงกันและแสดงถึงประโยชน์โดยรวม ทั้งนี้ มีการศึกษาการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันที่พบได้ยากและภาวะลิ่มเลือดอุดตันร่วมกับภาวะเกล็ดเลือดต่ำ (TTS) กับวัคซีนทั้งสองชนิด ซึ่งสอดคล้องกับอัตราที่คาดว่าจะเกิดภาวะนี้ในประชากรทั่วไป

อีกทั้งยังมีอัตราการเกิดภาวะ TTS ในผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนต่ำกว่าผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งระยะเวลาในการติดตามผลนั้นไม่เพียงพอที่จะรายงานอัตราการเกิดภาวะ TTS หลังการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าครบทั้งสองเข็ม แต่ยังคงมีการศึกษาอื่น ๆ ที่แสดงให้เห็นว่าอัตราการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันที่พบได้ยากนั้นจะต่ำลงหลังจากการฉีดวัคซีนเข็มที่สอง

จากการวิเคราะห์โดยไม่คำนึงถึงชนิดของวัคซีนที่ใช้ พบว่าอัตราการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันในผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 นั้นสูงกว่ากลุ่มผู้ที่ได้รับวัคซีนมาก โดยอัตราของการเกิดลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำสูงกว่าอัตราที่คาดการณ์ไว้ถึงแปดเท่าหลังจากการวินิจฉัยว่าติดเชื้อโควิด-19

เซอร์ เมเน แพนกาลอส รองประธานบริหารฝ่ายวิจัยและพัฒนาด้านยาชีวเภสัชภัณฑ์ (biopharmaceuticals) กล่าวว่า “ข้อมูลจากการใช้จริงนี้แสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าว่ามีมากกว่าความเสี่ยงที่จะเกิดอาการไม่พึงประสงค์ และสามารถช่วยยับยั้งการแพร่ระบาดนี้ได้”

การศึกษานี้วิเคราะห์จากผู้ที่ได้รับวัคซีนชนิด mRNA จำนวน 945,941 ราย (ในจำนวนนี้มี 778,534 คน ได้รับวัคซีนครบทั้งสองเข็ม) ผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าจำนวน 426,272 ราย โดยทำการศึกษาระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2563 ถึง 19 พฤษภาคม 2564

นอกจากนี้ยังศึกษากลุ่มผู้ป่วยโรคโควิด-19 จำนวน 222,710 ราย ที่ระบุว่าติดเชื้อในระหว่างวันที่ 1 กันยายน 2563 ถึง 1 มีนาคม 2564 และข้อมูลจากประชากรทั่วไป 4,570,149 คน ณ วันที่ 1 มกราคม 2017 จากฐานข้อมูลสาธารณสุขของแคว้นคาตาโลเนีย ประเทศสเปน

ผลการทดสอบนี้สอดคล้องกับรายงานล่าสุดจาก Yellow Card ซึ่งเป็นรายงานรวบรวมและบันทึกข้อมูลด้านความปลอดภัยของหน่วยงานกำกับดูแลยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ (MHRA) ในสหราชอาณาจักร ซึ่งแสดงอัตราภาวะการเกิด TTS ในระดับต่ำหลังจากการฉีดวัคซีนเข็มที่สอง2

ไม่มีปัจจัยเสี่ยงหรือสาเหตุที่ชัดเจนสำหรับภาวะ TTS หลังการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ทั้งนี้แอสตร้าเซนเนก้ายังคงดำเนินการและสนับสนุนการสอบสวนอย่างต่อเนื่องในการศึกษาหาสาเหตุและกลไกที่ทำให้เกิดภาวะนี้ ทั้งนี้อาการไม่พึงประสงค์ที่พบได้ยากมากเหล่านี้สามารถหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดขึ้นได้เมื่อมีการตรวจพบและได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม

วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า หรือชื่อ Vaxzevria ในสหภาพยุโรป (เดิมเรียก AZD1222)

วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า ถูกคิดค้นและพัฒนาร่วมกันโดยมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดและบริษัท วัคซีเทค ซึ่งก่อตั้งโดยมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด วัคซีนดังกล่าวพัฒนาโดยการนำส่วนของสารพันธุกรรมที่ใช้ในการถอดรหัสการสร้างหนามโปรตีนผิวเซลล์ของไวรัสโคโรนา SARS-CoV-2 ใส่ในโครงของอะดีโนไวรัส ซึ่งก่อให้เกิดโรคไข้หวัดทั่วไปในลิงชิมแปนซีที่ถูกทำให้อ่อนแรงลงและไม่สามารถแบ่งตัวได้

โดยหลังจากฉีดวัคซีน เซลส์ในร่างกายมนุษย์จะตอบสนองโดยการสร้างโปรตีนที่มีลักษณะเดียวกันกับหนามโปรตีนผิวเซลล์ของไวรัสโคโรนา SARS-CoV-2 ซึ่งเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาเพื่อต่อสู้กับเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 ในกรณีที่ได้รับเชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกายในภายหลัง

วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า ได้รับการขึ้นทะเบียนให้ใช้ในภาวะฉุกเฉิน ในกว่า 80 ประเทศ ครอบคลุม 6 ทวีปทั่วโลก ทั้งนี้วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้ากว่า 800 ล้านโดส ได้ถูกส่งมอบให้แก่กว่า 170 ประเทศทั่วโลก รวมถึงกว่า 100 ประเทศผ่านกลไกการจัดซื้อและจัดสรรวัคซีนของโครงการโคแวกซ์ โดยในสหราชอาณาจักร โดยเป็นที่รู้จักกันในชื่อวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า


ที่มา : https://www.naewna.com/local/591124


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

'เยาวชนปลดแอก-กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย'​ โพสต์ข้อความนัดหมายชุมนุม 7 สิงหาคมนี้

(29 ก.ค. 64)​ เพจเฟซบุ๊ก 'เยาวชนปลดแอก - Free YOUTH'​ และ เพจ '​กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย Democracy Restoration Group – DRG'​ โพสต์ข้อความพร้อมกันโดยนัดหมายชุมนุมในวันที่ 7 สิงหาคม นี้ สรุปว่า...

ต้องสังเวยด้วยชีวิตของประชาชนอีกเท่าไร จึงจะสำเหนียกได้ว่าเวลาของประยุทธ์ได้หมดลงแล้ว

ประเทศชาติ ณ เวลานี้ต้องการนายกฯ ที่ยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง

7 สิงหาคมนี้ ทุบประตูบ้านเจ้าของหมาให้พาหมา​ -ึงกลับบ้าน!

#ม็อบ7สิงหา

#เยาวชนปลดแอก


ที่มา : https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=558228995626162&id=115562146559518

https://www.facebook.com/1169719846490864/posts/4013176475478506/

https://www.naewna.com/politic/591099


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์ ทรง "ประทานสิ่งของ" ให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ เเละผู้ป่วยโควิด19ในจังหวัดอุบลราชธานี

(29 กรกฎาคม 2564)​ "หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภานุพันธุ์" พระราชปนัดดาในสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่4) ทรงกรุณาประทาน ชุดอุปกรณ์ป้องกันโควิด19 ชุด Pertonat prolective Eguuipment PPeจำนวน100ตัว เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่เเพทย์เเละมุ้ง 100 หลัง แก่ผู้กักตัวเเละผู้ป่วยโควิด-19 โดยทรงกรุณา ให้ "ดร.พนธ์พันธ์ เลิศจันทรางกูร" ตำแหน่ง ผู้ช่วยเลขานุการในองค์ฯ เชิญมอบให้ "นพ.สุวิทย์ โรจนศักดิ์โสธร" นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี นำไปช่วยเหลือเบื้องต้น และขอเป็นขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์ เเละผู้ป่วยโควิด-19 ให้ผ่านพ้นวิกฤติไปด้วยดี 

ทั้งนี้ สำนักงานเลขนานุการในองค์หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์ ขอขอบคุณ "คุณเเม่นวพันธ์ บ.ภูมิสยามปทุมธานี" และ บ.โตเกียวมารีน ประกันชีวิต จังหวัดอุบลราชธานี ร่วมเป็นสะพานบุญ ในการนี้

'ณวัฒน์' ไลฟ์สดชี้แจงเรื่องราว พร้อมฝากเตือน 'หนุ่ม กรรชัย' อย่าคิดว่าได้ข้อมูลที่เจ๋งที่สุด

กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในโลกโซเชียลเมื่อมีการออกมาแฉว่า 'ณวัฒน์ อิสรไกรศีล' เจ้าพ่อวงการขาอ่อนนั้นติดโควิดมาจากไหน ซึ่ง 'น้ำ พัชพร' และ 'เต๋า ทีวีพูล' ก็ออกมาใบ้ว่าตลกดัง อักษรย่อ ต. คนจึงโยงเป็น 'ตุ๊กกี้ สุดารัตน์' ที่ชักชวนณวัฒน์ไปออกรายการ

หลังจากที่มีกระแสข่าวโยงว่า 'ตุ๊กกี้ สุดารัตน์' หรือ 'ตุ๊กกี้ ชิงร้อย' เป็นคนชวน 'ณวัฒน์ อิสรไกรศีล' ไปเสี่ยงและติดโควิดที่ 'เวิร์คพอยท์' ด้าน 'หนุ่ม กรรชัย' ก็ได้แสดงความคิดว่าไม่น่าจะใช่ตุ๊กกี้เป็นคนติดต่อ เอเจนซี่การตลาดควรเป็นคนดีลงาน จนทำให้ณวัฒน์ออกมาไลฟ์สดชี้แจงเรื่องราวพร้อมฝากเตือน 'หนุ่ม กรรชัย' ที่เข้ามาเอี่ยวแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ว่า...

"คุณกรรชัยคุณดูอยู่ไหม คุณกรรชัยคุณดูอยู่หรือเปล่า ผมบอกแล้วเวลาคุณเล่าข่าวใส่ไข่อะไรของคุณเมื่อวานเนี่ยเยอะ ว่าเอาเนื้อเยอะ ๆ นะ อย่าเอาแบบเกาเหลาโหลงเหลง บอกแล้วทีวีตอนนี้มันไม่มีอนาคตหรอก เมื่อวานผมก็ดูอยู่พวกคุณแบบแหมรู้จริง รู้จริง ผมรู้มาอย่างนี้ ผมเตือนคุณกรรชัยนะ คุณกรรชัยก็น้องผมนะที่สนิทนะในวงการบันเทิงผมเหลือไม่กี่คนเเล้วตอนนี้ อืม คุณกรรชัยบางที ไอที่คุณโทรไปหาเขามันคือนักแสดง เหมือนที่ผมเจอ ให้ใจแต่ไม่เคยให้อะไรกลับมา เพราะฉะนั้นคุณอย่าคิดว่าคุณได้ข้อมูลมาที่เจ๋งที่สุด ผมบอกแล้ววงการบันเทิงดับแล้ว ทีวีดับแล้ว คุณต้องมานี่กรรชัย"

"อยู่ไหมคุณกรรชัยกล้าโชว์หน่อยดิ๊ ผมเนี่ยลำบากขนาดไหนที่ต้องวิ่งไปรายการคุณเนี่ย ไปซื้อโฆษณาคุณลำบากเหลือเกินไอนั่นก็พูดไม่ได้ ไอนี่ก็พูดไม่ได้ คุณคิดดูสิ กสทช.ไม่ให้พูดขาว ไม่ให้พูด ลำบากเหลือเกินที่ผมไปหาคุณเนี่ย เอาเงินไปให้คุณครั้งนึงตั้งหลายแสนนั่งรอคุณและแบบกว่าจะได้ทอล์กแค่ 3 นาที

"3 นาทีไอนั่นก็ไม่ให้พูด ไอนี่ก็ไม่ให้พูด ผมบอกแล้ว ตรงนี้พูดได้หมดครับ ทำไมเหรอ สินค้าของแบรนด์ใหญ่แบรนด์นึงอ่ะทำไมอ่ะ สามารถพูดได้ทาปุ๊บขาวชั่วข้ามคืน ทำไมอ่ะ ทำไมมันไม่เสมอภาคอ่ะ คุณไปดูสิ แต่เวลาผมไปทอล์กอ่ะ 'ขาวไม่ได้นะ' ต้องสว่าง สว่างอะไรวะ สว่างมันก็เป็นแสงนีออนอ่ะสิ ไม่มีหรอกสว่าง เพราะฉะนั้นมันต้องขาว เพราะฉะนั้นผมจะบอกให้เราต้องต่อสู้กับสิ่งที่เราควรจะเป็น"


ที่มา : https://www.komchadluek.net/news/ent/476393

https://www.facebook.com/NawatTV/videos/1721236604751342/


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top