Thursday, 15 May 2025
NewsFeed

เพจดัง ชี้ รถไฟฟ้าลาว-จีน ไม่ใช่รถไฟความเร็วสูง วอนหยุดเสี้ยม

เพจ ASEAN “มอง” ไทย เปิดข้อมูลรถไฟลาว-จีน ที่มีกระแสพูดถึงอย่างมากในช่วงนี้ ว่า จากดราม่าเมื่อวาน เพื่อนบ้านพัฒนาก็ยินดีด้วย แต่ไม่ใช่เอามาเสี้ยมไทยป่าว…โดยเฉพาะเรื่องรถไฟลาว หมดไปเท่าไหร่กับคำว่าเฟคนิวส์ วิ่งแค่ 160 km/h แต่เรียกความเร็วสูง งงกันทั้งโลก ???

รถไฟไทยแอร์พอร์ตเรลลิงค์, สายสีแดง ก็ทำความเร็ว 160 ได้จ้า แต่ด้วยความถี่ของสถานีจึงวิ่งได้แค่ 120-140 ปัญหาตอนนี้ไม่ใช่เพื่อนบ้านไม่น่ารัก แต่คนไทยหน่ะไม่น่ารัก

ปล. จะอวยลาวก็ไม่ว่านะ แต่ขอความรู้ที่ถูกต้องด้วย ไม่ใช่สร้างเฟคนิวส์มาเสี้ยม

1.) ลาววิ่งแค่ 160 km/h ไม่ใช่รถไฟความเร็วสูง

2.) ลาวเป็นรถไฟทางเดียวตลอดทั้งโครงการ 400 กว่ากิโลเมตร สวนทางกันใช้การรอหลีก

3.) ติดหนี้จีน+สัมปทาน จำนวนมหาศาล แบบน่ากลัวมาก ข้อนี้ขอไม่พูดจะกลายเป็นเราไปบูลลี่เค้า เพราะคนไทยมองว่าเป็นก้าวแรกของรถไฟลาว เค้าต้องยอมจีน

4.) สถานีขนส่งสินค้ามีมากกว่าสถานีรับส่งผู้โดยสาร เพราะจีนเข้ามาสร้างผลประโยชน์มากกว่า ทั้งโครงการมี 32 สถานี สถานีขนส่งสินค้า 20 สถานีรับส่งผู้โดยสาร 10 (เล็ก 5, ใหญ่ 5)

5.) รถไฟรับส่งผู้โดยสารมีแค่ 2 ขบวน ใช้รุ่น FUZING CR200J แต่รถไฟขนส่งสินค้าวิ่งทั้งวันระหว่างนครหลวงเวียงจันทน์-คุณหมิง โดยเฉพาะสถานีในนครหลวงเวียงจันทน์มีถึง 3 แห่ง เหนือ-กลาง-ใต้

6.) โครงการรถไฟลาว-จีน ใช้รางความกว้าง 1.435 เมตร วิ่งไปจีนได้เพราะเป็นระบบเดียวกัน แต่วิ่งมาไทย, มาเลเซีย, สิงคโปร์ ไม่ได้ เพราะขนาดรางต่างกัน ไทยสร้างไปลาวถึงสถานีท่านาแล้งแล้ว แต่ลาวเลือกที่จะไม่ต่อลงมาเอง

อันนี้แถมให้ รถไฟความเร็วสูงสายกรุงเทพ-หนองคาย ใช้รถไฟรุ่น CR300AF เป็นรถไฟความเร็วสูงจริงๆ ที่ตัวรถวิ่งได้ 350 km/h แต่จะให้บริการในไทยแค่ 250 km/h รวมระยะทางกว่า 608 กิโลเมตร

 

https://www.facebook.com/100039677396371/posts/445171256815450/


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

โปรแกรม ยูโร 2020 คืนนี้ (16-17 มิถุนายน 2564)

โปรแกรม ยูโร 2020 คืนนี้

ถ่ายทอดสดครบทุกคู่ทาง NBT2HD

20.00 น. ฟินแลนด์ vs รัสเซีย

23.00 น. ตุรกี vs เวลส์

02.00 น. อิตาลี vs สวิตเซอร์แลนด์


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

นายกฯ แถลงด่วน ประกาศเป้าหมายเปิดทั้งประเทศให้ได้ภายใน 120 วัน แม้ยอมรับโควิดยังเสี่ยง แต่รอไม่ได้ ต้องยอมเสี่ยงร่วมกัน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ประกาศเป้าหมายจะเปิดประเทศไทยทั้งประเทศให้ได้ภายใน 120 วันนับจากวันนี้ โดยจะเริ่มจากเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญที่มีความพร้อมให้เร็วกว่านั้น

แม้ว่าขณะนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังมีความเสี่ยง แต่คงไม่สามารถรอจนไวรัสนี้หมดไปจากโลก และไม่สามารถรอจนทุกคนได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 โดสกันถ้วนหน้าก่อน สิ่งที่ต้องทำก็คือเราต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันให้ได้เหมือนกับโรคภัยอื่นๆ จัดการโควิดให้อยู่ในระดับที่ควบคุมได้ และให้ประชาชนสามารถกลับออกมาทำมาหากินกันได้อีกครั้ง

"รู้ดีว่าการตัดสินใจวันนี้ มาพร้อมกับความเสี่ยง เพราะเมื่อเราเปิดประเทศ ไม่ว่าเราจะเตรียมการป้องกันขนาดไหนก็ตาม ก็ยังมีความเป็นไปได้ว่า อาจจะทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นบ้าง แต่เมื่อเราประเมินสถานการณ์ และคิดถึงความอยู่รอดในการทำมาหากินของพี่น้องประชาชน คิดว่าถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องยอมรับความเสี่ยงร่วมกันบ้าง หากความเสี่ยงนั้น เราได้ประเมินอย่างรอบคอบแล้วว่า อยู่ในระดับที่พอจะรับได้ เราต้องจัดลำดับความสำคัญภายใน สำหรับประเทศไทยของเรา เพื่อให้ประเทศ เดินหน้าต่อไปได้" นายกรัฐมนตรี กล่าว


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

'นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ' ร่วมกิจกรรมโครงการด้วยรักและห่วงใยถึงข้าราชการตำรวจและครอบครัว ร่วมใจสู้ภัยโควิด-19

คุณรัตนาภรณ์ สีวลีพันธ์ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ คุณกาญจนา เงามุข อุปนายกสมาคมฯ พร้อมคณะสมาคมแม่บ้านฯ ได้เข้าร่วมกิจกรรมโครงการด้วยรักและห่วงใยถึงข้าราชการตำรวจและครอบครัว ร่วมใจสู้ภัยโควิด-19 ณ สภ. หนองแซง จังหวัดสระบุรี​

ตามนโยบายของ 'พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข'​ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยได้มอบถุงยังชีพของสมาคมแม่บ้านฯ สมทบทุนโครงการอาหารกลางวัน และมอบเครื่องอุปโภค บริโภค ให้กับข้าราชการตำรวจ และชาวบ้านในชุมชนใกล้เคียง

หลังจากนั้นท่านนายกสมาคมฯ ได้ร่วมประชุม และสอบถามความเป็นอยู่ รวมทั้งอาชีพเสริมของแม่บ้าน เช่น การทำขนมเปี๊ยะ และได้มีการรวมกลุ่มทำกิจกรรมในโครงการโคกหนองนาของ สภ.หนองแซง มีการปลูกพืช ผัก สวนครัว เกษตรอินทรีย์ ปลูกข้าว เลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ไข่ นำผลิตผลที่ได้มาประกอบอาหารเลี้ยงแจกจ่ายชุมชน และบางส่วนนำไปขาย เพื่อนำรายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายในโครงการฯ 

จากนั้นท่านนายกฯ และคณะฯ ได้รับฟังบรรยายสรุปและเยี่ยมชมโครงการฯ ร่วมกิจกรรมปล่อยปลา ปลูกต้นไม้ โดยมี คุณนฤมล บัวรับพร ประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 1, พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภ.จว.สระบุรี,​ ผบก.ภ.จว.สระบุรี,​ ผกก.สภ.หนองแซง,​ ข้าราชการตำรวจ สภ.หนองแซง และ คณะแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 1 ร่วมให้การต้อนรับ 

“วรวุฒิ” ชูไอเดีย พลิกวิกฤตโควิด เป็นโอกาส เปิดศูนย์เทคโนโลยีชุมชน ช่วยเอสเอ็มอีและเกษตรกร ค้าขายออนไลน์ กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก เติบโตก้าวกระโดด

นายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรคกล้า กล่าวในคลับเฮาส์ในหัวข้อ “คลินิกเอสเอ็มอี” ว่า หลายครั้งที่เรามักได้ยินว่า ใครที่เกิดมาจนไม่มีวันจะรวยได้ คนรวยทุกวันนี้ก็เพราะมีพื้นฐานพ่อแม่ที่ร่ำรวย ซึ่งไม่เป็นความจริง โดยส่วนตัวก่อนที่จะมีธุรกิจหมื่นล้าน ผมก็เริ่มมาจากคนยากจนธุรกิจเครื่องเขียนห้องแถวเล็กๆ กำลังจะเจ๊ง เราโดนดูถูกทั้งด้วยคำพูดและสายตา มันจึงเป็นแรงผลักให้เราฮึดสู้และตั้งใจว่าสักวันจะต้องมีบริษัทเครื่องเขียนที่ที่ได้มาตรฐานสูงและดีกว่าบริษัทใหญ่ที่เคยดูแคลนธุรกิจครอบครัวของเรา 

“คนไทยชอบมองว่าประเทศนี้ขาดแคลนโอกาส แต่ในสายตาของต่างชาติเขากลับมองว่าเป็นดินแดนแห่งโอกาส เพราะบ้านเรายังขาดแคลนอะไรอีกเยอะมาก มันมองคนละมุม ยกตัวอย่างที่เกาะแห่งหนึ่งไม่มีใครใส่รองเท้าแตะเลยสักคน จึงไม่มีใครขายรองเท้าแตะเลยสักร้าน เพราะกลัวจะขายไม่ได้ แต่อีกคนกลับมองว่านั่นเป็นโอกาสที่จะไปเปิดร้านขายรองเท้าแตะเพราะไม่มีคู่แข่ง ผมเองก่อนที่จะทำบริษัทออฟฟิศเมท ตอนนั้นมีร้านเครื่องเขียนอยู่แล้ว 5,000 กว่าร้าน คนมักมองว่า ร้านเครื่องเขียนอุปกรณ์ออฟฟิศก็แค่ซื้อมาขายไป กำไรไม่ได้มากมายอะไร แต่ความจริงแล้วผมมองว่า เวลานั้นร้านเครื่องเขียนมาตรฐานสูงยังมีน้อย และที่สำคัญในตลาดโมเดิร์นเทรดยังไม่มีใครทำ ถ้ามีใครมาจัดมาตรฐานธุรกิจนี้ให้สูง คนนั้นชนะ ผมเลยตัดสินใจทำออฟฟิศเมทจนประสบความสำเร็จ ประเทศไทยมีอะไรที่ต้องสร้างอีกเยอะ เพราะมีปัญหาเยอะมาก หากแก้ปัญหาได้ถูกจุด คนนั้นก็จะรวยได้” นายวรวุฒิ กล่าว  

นายวรวุฒิ กล่าวด้วยว่า พรรคกล้า ได้จัดคลับเฮาส์เพื่อระดมสมองกัน โดยมีผู้ประกอบการร้านอาหารตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่มาสะท้อนปัญหาต่างๆ จนนำไปสู่การหารือกันในทั้งภาครัฐ เอกชน นักธุรกิจ เจ้าสัวใหญ่อย่าง ห้างเดอะมอลล์ และเซ็นทรัลที่มองว่า ธนาคารต้องปล่อยสินเชื่อให้กับร้านอาหารที่เป็นธุรกิจหลักที่มีเป็นจำนวนมากในประเทศไทย และในที่สุดก็เกิดโครงการ จับคู่กู้เงิน เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านอาหาร และหากท่านใดที่เคยไปติดต่อธนาคารแล้วไม่ได้รับอนุมัติ อยากให้ท่านลองไปติดต่ออีกครั้งและเตรียมเอกสารให้พร้อม หากมีปัญหาอะไรติดต่อมายังพรรคกล้าเราพร้อมที่จะประสานงานให้ เราพร้อมที่จะช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง 

รองหัวหน้าพรรคกล้า กล่าวถึงโครงการ แซนด์บ๊อกซ์ ของรัฐบาลว่า เป็นเรื่องที่ควรทำมาตั้งแต่ช่วงต้นมีเพื่อล้อไปกับการฉีดวัคซีนของกลุ่มประเทศตะวันตก และในช่วงเวลาดังกล่าวบ้านเราการแพร่ระบาดก็ยังต่ำมาก เราพยายามส่งเสียงไปแต่ไม่ได้รับความสนใจ เช่นเดียวกับการสนับสนุนให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจจากฐานรากด้วยการค้าขายผ่านระบบออนไลน์ เพราะประเทศไทยมีทั้งกลุ่ม เอสเอ็มอี เกษตรกร ผู้ประกอบการรายย่อยในต่างจังหวัดอีกมาที่ยังขายออนไลน์ไม่เป็น รัฐบาลน่าจะใช้วิกฤตให้เป็นโอกาสกระตุ้นตลาดอีคอมเมิร์ส เพราะนอกจากจะเพิ่มรายได้ให้กับเอสเอ็มอีแล้วยังสามารถหยุดเชื้อได้เพราะคนไม่ต้องออกไปจับจ่ายสินค้าข้างนอก ซึ่งรัฐควรออกมาตรการช่วยเหลือหากใครค้าขายออนไลน์จะออกค่าขนส่งสินค้าให้ และควรส่งคนลงไปอบรมให้กับชาวบ้าน เชื่อว่าถ้าทำได้ภายใน 1 ปี การค้าขายจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด 

“ในอนาคต รัฐควรจัดให้มีศูนย์เทคโนโลยีชุมชน โดยมีนักศึกษามาช่วยแนะนำเกษตรกร ซึ่งอาจจะเป็นคนเฒ่าคนแก่รู้จักการขาย รู้จักการใช้เทคโนโลยี และใช้มือถือเป็นเครื่องมือในการสร้างรายได้ คนดีไซน์โครงการจะต้องเข้าใจระบบ เพราะหากไม่เข้าใจการออกนโยบายก็จะไม่ครบหลูบและเดินหน้าต่อไม่ได้ สินค้าเกษตรนอกจากขายตามฤดูกาลแล้ว ยังควรทำสินค้าแปรรูป ซึ่งรัฐต้องมีโครงสร้างมารองรับ โดยเฉพาะตลาดทั้งในและต่างประเทศ ถ้าทำครบวงจร ผลิตของเกษตรกรจะสร้างรายได้จำนวนมหาศาล และจะพ้นกับดักความยากจนอย่างแท้จริง” รองหัวหน้าพรรคกล้า กล่าว 

นอกจากนี้ นายวรวุฒิ ยังกล่าวถึงเพจ “กล้าหางาน” ที่พรรคกล้าได้จัดทำขึ้น เพื่อช่วยคนหางานและงานหาคน ได้มาเจอกัน จนปัจจุบันสามารถช่วยคนหาได้งานทำเป็นจำนวนมากและ ผู้ประกอบการที่หาคนทำงาน ก็ได้บุคลากรที่มีคุณภาพสูงไปทำงานด้วย จึงขอเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมแชร์ตวามต้องการในเพจกล้าหางาน เป็นพื้นที่ของทุกคนที่ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

หมอเบิร์ท แจง ฉีดวัคซีน เข็ม 1-2 ต่างยี่ห้อ อยู่ระหว่างวิจัยของหลายประเทศ แต่ยังไม่มีใครกล้าสรุป ว่าได้ประสิทธิภาพมากกว่ายี่ห้อเดียวกัน รับ มีวิจัยฉีดเข็มสามด้วย

ที่ศบค.ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ตอบข้อซักถามถึงกรณีที่มีผู้ได้รับวัคซีนเข็มแรกเป็นยี่ห้อหนึ่ง แต่พอเข็มสองได้รับวัคซีนต่างยี่ห้อกัน ตามหลักการแล้วเป็นไปได้หรือไม่ ว่า สำหรับวัคซีนเข็มหนึ่งเข็มสองคนละยี่ห้อนั้น ในโลกโซเชียลของคนไทยเราก็ได้มีการสอบถามกันมาก และในต่างประเทศเองก็มีความสงสัยในกรณีนี้เช่นกัน เรียนว่าโดยเริ่มต้นมีที่มาส่วนหนึ่งจากการที่มีพี่น้องประชาชนฉีดวัคซีน โควิด-19 ยี่ห้อใดก็ตามแล้วเกิดการแพ้วัคซีนนั้นอย่างรุนแรงซึ่งในต่างประเทศมีเกิดขึ้นแล้ว ตรงนั้นเมื่อมีการแพ้วัคซีนโควิด-19 ยี่ห้อแรกจึงเป็นข้อห้ามที่ไม่สามารถจะฉีดสามเข็มสองได้ในหลายประเทศจึงมีมาตรการที่จะต้องจัดหาวัคซีนคนละยี่ห้อ ซึ่งอาจจะเป็นการใช้วัคซีนที่มีวิธีการผลิตต่างกันไปเลยเพื่อไม่ให้เกิดการแพ้

ดังนั้นเมื่อมีการเก็บข้อมูลการใช้วัคซีนคนละยี่ห้อในทางการแพทย์จึงต้องมีการศึกษาวิจัยอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ซึ่งในประเทศไทยก็มีหลายหน่วยงานพยายามศึกษาอยู่ หรือแม้แต่ที่สหรัฐอเมริกา เกาหลี ก็มีความพยายามที่จะศึกษาอยู่เช่นกัน โดยในเบื้องต้นมีการนำการวัดภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้น ทั้งจากคนที่ติดเชื้อโดยธรรมชาติ การใช้วัคซีนยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่ง เข็มที่หนึ่งเข็มที่สองเหมือนกันมาเทียบกันกับคนที่ ฉีดเข็มหนึ่งเข็มสองคนละยี่ห้อ 

อย่างไรก็ตามมีการปฏิบัติจริงแต่ต้องเรียนว่าการศึกษาวิจัยเหล่านั้นอย่างไม่มีใครที่จะกล้าสรุปว่าจะได้ประสิทธิภาพดีกว่า เพราะฉะนั้นการที่บริษัทผู้ผลิตได้ทำการวิจัยมานานกว่าและมีตัวอย่างการศึกษามากกว่าแล้วสรุปว่าให้ฉีดเข็มหนึ่งเข็มสองเป็นวัคซีนชนิดเดียวกันอันนั้นยังเป็นหลักการที่องค์การอนามัยโลกแนะนำ แต่เรื่องของเข็มหนึ่งเข็มสอง หรือแม้แต่กระทั่งเข็มสามที่มีการพูดถึง ก็ถือเป็นข้อสังเกตที่น่าสนใจ และคงได้ติดตามในรายละเอียดขอให้ฟังความเห็นของผู้เชี่ยวชาญและทางกระทรวงสาธารณสุขด้วย

เตรียมใช้ถนนเชื่อมผืนป่าสายใหม่ช่วงหยุดเข้าพรรษา

กรมทางหลวง เปิดเผยความคืบหน้าโครงการก่อสร้างขยายทางหลวงหมายเลข 304 สาย อ.กบินทร์บุรี-อ.วังน้ำเขียว ตอน 3 (ส่วนที่ 2) ระยะทาง 6.709 กม. งบประมาณ 794 ล้านบาท จาก 2 ช่องจราจร ไปกลับ เป็น 4 ช่องไปกลับ มีล่าสุดมีความคืบหน้าแล้ว 91% โดยมีการปูผิวจราจรเกือบเสร็จทั้งหมดแล้ว เหลือไม่ถึง 50 เมตร คาดว่าจะปูผิวจราจรแล้วเสร็จภายในเดือน มิ.ย.นี้ ส่วนการก่อสร้างสะพาน บริเวณห้วยซับบอน พื้นที่ ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี คาดว่าจะแล้วเสร็จช่วงต้นเดือน ก.ค.นี้ เพราะการก่อสร้างต้องผ่านพื้นที่ลุ่มน้ำในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ต้องใช้ความระมัดระวังด้านสิ่งแวดล้อมเป็นพิเศษ 

ทั้งนี้เมื่อแล้วเสร็จทั้งงานถนนและงานสะพานจะตีเส้นจราจร ติดตั้งป้ายจราจร และไฟส่องสว่าง คาดว่าจะเปิดให้สัญจรอย่างไม่เป็นทางการได้ก่อนช่วงหยุดยาววันอาสาฬหบูชา และเข้าพรรษา วันที่ 24-28 ก.ค.64 เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนเดินทางได้รวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น หลังจากนั้นจะเก็บรายละเอียดงาน เช่น งานปูผิวคอนกรีต และ งานกำแพงคอนกรีต (แบริเออร์) ให้แล้วเสร็จและเปิดให้สัญจรอย่างเป็นทางการเดือน ส.ค.-ก.ย.64 

สำหรับการก่อสร้างถนนสายนี้ ที่ผ่านมามีกำหนดแล้วเสร็จเดือน มิ.ย.นี้ แต่ได้เลื่อนแผนงานออกไป เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ โดยเฉพาะการขาดแคลนแรงงาน จากเดิมที่ยังไม่มีการระบาดมีแรงงานประมาณ 200 กว่าคน เมื่อระบาดครั้งนี้เหลือแรงงานไม่ถึง 100 คน หายไปเกินครึ่ง เพราะแรงงานส่วนใหญ่ที่เป็นคนไทยหวาดกลัวการติดเชื้อฯ ในกลุ่มแคมป์คนงานก่อสร้าง จึงตัดสินใจกลับภูมิลำเนา รวมทั้งยังคุมเข้มห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานข้ามจังหวัด ทำให้ผู้รับจ้างจัดหาแรงงานมาทดแทนค่อนข้างยาก จึงต้องบริหารแรงงานที่เหลือให้สอดคล้องกับงานมากที่สุด เช่น เปิดให้ทำงานล่วงเวลาตามความเหมาะสม เพื่อเร่งรัดงานให้ได้มากและกระทบแผนก่อสร้างน้อยที่สุด

ยังมีเวลา! คนละครึ่ง เฟส 3 ลงทะเบียนรับสิทธ์แล้วกว่า 24 ล้านคน

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าของการลงทะเบียนรับสิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 ของประชาชน ว่า จากการเปิดลงทะเบียน 2 วันแรก มีประชาชนลงทะเบียนแล้วจำนวน 24.14 ล้านคน โดยประชาชนยังสามารถลงทะเบียนได้อย่างต่อเนื่องทุกวันตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น. จนกว่าจะครบ 31 ล้านคน โดยผู้ที่เคยรับสิทธิโครงการของรัฐสามารถลงทะเบียนได้ 2 ช่องทาง ได้แก่ ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง หรือจะลงทะเบียนผ่าน www.คนละครึ่ง.com และสำหรับผู้ที่ยังไม่เคยเข้าร่วมโครงการของรัฐเลยสามารถลงทะเบียนผ่าน www.คนละครึ่ง .com

สำหรับการลงทะเบียนร้านค้าคนละครึ่ง ระยะที่ 3 มีผู้ประกอบการร้านค้าใหม่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วจำนวน 51,221 ราย และร้านค้าเดิมที่เคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 1 และ 2 ที่คาดว่าจะยืนยันเข้าร่วมโครงการครั้งนี้จำนวน 1.2 ล้านราย 

ทั้งนี้รัฐบาลได้เปิดให้ร้านค้าที่คุณสมบัติเป็นไปตามที่โครงการกำหนด ได้แก่ ร้านค้าทั่วไป ผู้ประกอบการบริการนวด สปา ทำผม ทำเล็บ ผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะ ที่มีสัญชาติไทยไม่เป็นนิติบุคคลและไม่เป็นธุรกิจแฟรนไชส์ ผู้ประกอบการของกองทุนหมู่บ้านหรือชุมชนเมืองหรือวิสาหกิจชุมชน ร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น และผู้ให้บริการขนส่งมวลชนสาธารณะ สนใจเข้าร่วมลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป เวลา 06.00 น.-22.00 น. โดยผู้ที่เคยเข้าร่วมมาตรการ/โครงการอื่นของรัฐที่มีแอปพลิเคชัน ถุงเงินแล้ว สามารถกดปุ่มเข้าร่วมโครงการได้ผ่านแอปฯ ถุงเงิน ส่วนผู้ที่ไม่เคยเข้าร่วมมาตรการ/โครงการอื่นให้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com หรือลงทะเบียนผ่านทางสาขา หรือจุดรับลงทะเบียนของธนาคารกรุงไทย 

ศาลอาญาอนุญาต “สมยศ” กับพวกรีเด็มรวม 6 คน ถอดกำไล EM ได้เเล้ว

ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข กับพวก รวม 6 คน ซึ่งเป็นผู้ต้องหากลุ่มรีเด็มที่ศาลกำหนดเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวโดยให้ใส่กำไล EM เดินทางมาพร้อมทนายความ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอถอดกำไล EM 

นายสมยศ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาในช่วงที่ติดกำไล อีเอ็ม ยังไม่มีการกระทำความผิดใดๆ เกิดขึ้น และอยู่ในเงื่อนไขของศาล ทั้งนี้การติดกำไลอีเอ็ม นั้น เป็นการจำกัดเสรีภาพเราเกินควร เนื่องจากมีการวางเงินประกันแล้ว และปฎิบัติตามเงื่อนไขของศาลมาโดยตลอด ซึ่งให้ไม่สามารถดำรงชีวิตตามปกติได้และไม่ได้รับความสะดวก

โดยนายสมยศกล่าวอีกว่า ตนเองได้รับผลกระทบจากการใส่กำไล EM เพราะมีเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกพื้นกทม. พร้อมยกตัวอย่าง เช่น ตนเองมีแฟนสาวอยู่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อต้องใส่กำไล ทำให้ไม่สามารถเดินทางไปหาได้ รวมถึงกรณีที่บางครั้ง ตนเองขับรถใกล้กับแนวเขตปริมณฑล เวลาที่ต้องกลับรถ อาจมีปัญหาเรื่องการข้ามเขตพื้นที่ 

อีกทั้งยังมีกรณีของ นายสุรภักดิ์ ภูไชยแสง หรือ ตุ้ม อายุ 50 ปี ชาว จ.บึงกาฬ อดีตแกนนำกลุ่มเสรี ปัญญาชน ที่ประสบอุบัติเหตุ เสียชีวิตไปไม่นานมานี้ ซึ่งตนเองรู้ข่าวเป็นคนแรกแต่ก็ไม่สามารถเดินทางไปพบได้เพราะสวมกำไลข้อเท้าอยู่ 

เบื้องต้น ตนเองคาดว่าศาลจะพิจารณาอนุญาตให้ถอดกำไลชั่วคราว เนื่องจากเจ้าหน้าที่ศาลได้อนุญาตให้ไปนั่งร้อนภายในห้องสำหรับการถอดกำไลรวมถึงได้มีการเรียกคืนอุปกรณ์กำไลด้วย 

ต่อมา 14.50 น.เศษมีรายงานว่าศาลอนุญาตให้นายสมยศกับพวกถอดกำไล EM เเล้ว

กองทัพเรือปล่อยคลิปลง เพจ เรือดำน้ำไทย Thai Submarines แจงเหตุผลความจำเป็นมีเรือดำน้ำต่อเนื่อง หวังสร้างความเข้าใจประชาชน ระหว่าง กมธ.วิสามัญงบฯ ปี 65 พิจารณางบฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเรือดำน้ำไทย Thai Submarines ได้เผยแพร่คลิปภาพบรรยายเหตุผล และความจำเป็นการมีเรือดำน้ำ ในหัวข้อ “มูลค่าทางทะเลที่กองทัพเรือต้องปกป้อง” และ “ความพร้อมของกองทัพเรือ ภายใต้กำลังทางเรือที่ไม่สมบูรณ์” โดยพล.ร.ต.นเรศ วงศ์ตระกูล ผู้อำนวยการสำนักปฏิบัติการ กรมยุทธการทหารเรือ กล่าวตอนหนึ่งว่า มีการใช้ทะเลในการขนส่งถึงร้อยละ 90 ของการขนส่งระหว่างประเทศทั้งหมด มีการใช้ทะเลแสวงหาผลประโยชน์ทั้งแหล่งปิโตรเลียมใต้น้ำ การประมง และการท่องเที่ยวต่างๆ รวมทั้งการมีอุตสาหกรรมต่างๆเกิดขึ้นต่อเนื่องแต่ละปีมูลค่าผลประโยชน์ที่ได้รับจากทะเลมีมูลค่ากว่า 24 ล้านล้านบาท และมีแนวโน้มมากขึ้นในอนาคต กองทัพเรือถือเป็นหน่วยงานที่มีความสำคัญในการปกป้อง รักษา สนับสนุนการใช้ประโยชน์จากทะเลให้เป็นไปตามความต้องการของชาติ จำเป็นต้องพัฒนาขีดความสามารถต่างๆ เพื่อให้มีความพร้อมในการปกป้อง สร้างความมั่นคงการใช้พื้นที่ในทะเลเพื่อรักษาผลประโยชน์ การแสวงประโยชน์ต่างๆ ทางทะเลให้เป็นไปได้อย่างเต็มที่อย่างมั่นคง มั่นคั่ง และยั่งยืน

พล.ร.ต.นเรศ กล่าวต่อว่า ในส่วนของการปฏิบัติงานของกองทัพเรือนั้น ถึงแม้ว่าต้องร่วมแก้ไขปัญหาต่างๆ แต่สิ่งที่เป็นภารกิจหลักที่กองทัพเรือต้องมีการเตรียมความพร้อมในการปกป้องรักษาอธิปไตยผลประโยชน์ของชาติและความมั่นคงทางทะเลให้ได้ตามอำนาจหน้าที่ที่กำหนดไว้ตามกฎหมาย  สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะทำได้จำเป็นต้องมีเครื่องมือเป็นอุปการณ์สำคัญในการปฏิบัติการ เครื่องมือของกองทัพเรือคือกำลังทางเรือที่ประกอบด้วยกำลังรบหลายๆส่วน ทั้งเรือคือเรือผิวน้ำและเรือดำน้ำ อากาศยานคือเฮลิคอปเตอร์และเครื่องบินประเภทต่างๆ ส่วนหน่วยกำลังบนบกคือกำลังนาวิกโยธิน และกำลังต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ถูกประกอบกันกำลังเรียกว่ากำลังทางเรือ ที่ผ่านมาในส่วนของกองกำลังอื่นๆ ยกเว้นเรือดำน้ำได้มีการพัฒนามาเป็นลำดับ โดยเรือผิวน้ำ กองทัพเรือได้มีการจัดหาเรือประเภทต่างๆมาประจำการอย่างต่อเนื่อง จนถือว่ามีความพร้อมในการปฏิบัติการได้ในระดับหนึ่ง แต่ในส่วนของเรือดำน้ำนั้น เราเคยมีเมื่อ 80 กว่าปีที่ผ่านมา แต่หลังจากปลดประจำการเรือดำน้ำชุดแรกไปแล้ว เราได้มีคามต้องการและกำหนดไว้ในความต้องการมีเรือดำน้ำมาอย่างต่อเนื่อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ผ่านมากองทัพเรือได้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอเหตุและและความจำเป็นการมีเรือดำน้ำในเพจ เรือดำน้ำไทย Thai Submarines อย่างต่อเนื่อง โดยคลิปดังกล่าวได้เริ่มต้นตั้งแต่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 พิจารณาร่างพ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top