Thursday, 15 May 2025
NewsFeed

คุมตัวมือจี้ธนาคารเชียงของทำแผน หลังมอบตัวเช้ามืดและออกหมายจับวันเดียว

ตำรวจเชียงของ นำตัวผู้จัดการฝ่ายชายรถยนต์ มือจี้ชิงทรัพย์ ธนาคาร ในห้าง อ.เชียงของ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพหลังทนแรงกดันไม่ไหวมอบตัวแล้วหลังถูกออกหมายจับเพียง 1 วัน

เวลา 09.45 น.วันที่ 17 มิ.ย. 64 ที่ห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขาเชียงของ จ.เชียงราย  พ.ต.อ.ชัยยุทธ ฉิมพลี ผกก.สภ.เชียงของ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชียงของ นำตัว นายอุทิศ เสกสันติสกุล อายุ 32 ปี ชาว ต.ห้วยซ้อ อ.เชียงของ จ.เชียงราย มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพการจี้ชิงเงินสดที่ธนาคารกรุงเทพฯ สาขาโลตัสเชียงของ  หลังจากเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อเวลาประมาณ 05.30 น.ที่ผ่านมา  โดยมีประชาชนพากันมามุงดูดเป็นจำนวนมาก

โดยช่วงเช้าที่ผ่านมา พ.ต.อ.ชัยยุทธ ฉิมพลี ผกก.สภ.เชียงของ ได้รับการประสานจากผู้ใหญ่บ้านเวียงหมอก หมู่ 10 ต.ห้วยซ้อ อ.เชียงของ จ.เชียงราย เพื่อนำนายอุทิศ เสกสันติสกุล อายุ 32 ปี เข้ามอบตัว ซึ่งนายอุทิศ เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเทิง ที่ 84/2564 ในข้อหาชิงทรัพย์ที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส อ.เชียงของ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา พร้อมเงินสดประมาณ 100,000 บาทโดยนายอุทิศ ได้นำเสื้อผ้าที่ใช้สวมใส่ในวันก่อเหตุ และของกลางต่าง ๆ ที่ใช้ มามอบให้กับทางเจ้าหน้าที่ เพื่อเปรียบเทียบกับภาพจากกล้องวงจรปิดและการชี้ตัวของพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ 

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่านายอุทิศ เป็นผู้จัดการขายรถยนต์อยู่ใน จ.เชียงใหม่ แต่ประสบปัญหาทางการเงินจึงได้ลงมือก่อเหตุ หลังจากนั้นได้ได้หลบหนีไปอยู่ที่บ้านญาติภายในชุมชนห้วยปลากั้ง อ.เมืองเชียงราย แต่ทางญาติทราบข่าวการออกหมายจับ จึงได้เดินทางมาที่บ้านเวียงหมอกตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมาเพื่อไปหา ภรรยาและผู้ใหญ่บ้านเพื่อให้พาไปมอบตัวกับเจ้าหน้าที่


ภาพ/ข่าว  ณัฐวัตร ลาพิงค์ / เชียงราย

"เสรีพิศุทธ์" จ่อยื่น "รมว.ยุติธรรม" สอบข้อเท็จจริง ปม "แกนนำราษฎร" ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนในเรือนจำ เหน็บ "สิระ" ต้องรีบมาทำคดีนี้

ที่รัฐสภา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. กมธ.ได้เชิญ 4 แกนนำกลุ่มราษฎร ได้แก่ นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ระยอง นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน นายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ และน.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงปัญหาการควบคุมตัวในเรือนจำ หลังมีการร้องเรียนให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ ว่า ทางแกนนำราษฎร ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่เรือนจำได้มีการละเมิดสิทธิ์ เช่น เมื่อเข้าในเรือนจำแล้วควรจะมีสิทธิและเสรีภาพ ทั้งที่ยังไม่ได้ถูกคำพิพากษา ว่ากระทำความผิดก็นำตัวไปขังรวมกัน และนอนในพื้นที่แออัด รวมถึงการพบทนายความก็มีการดักฟัง และจะซื้ออะไรรับประทานก็ไม่ได้ อาหารภายในเรือนจำก็มีแต่ข้าวกับผัก เหมือนอาหารที่หมูรับประทาน จึงถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน

พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ กล่าวด้วยว่า นายสิระ เจนจาคะ ส.ส. กทม. พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ควรจะลงไปดำเนินการในเรื่องนี้ โดยเฉพาะกรณีที่ศาลไม่ให้ประกันตัวแกนนำทั้งหลาย ว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่ ซึ่งตนจะสรุปรายละเอียดเรื่องร้องเรียนทั้งหมดให้กับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว. ยุติธรรม ดำเนินการต่อไป

‘ทิพานัน’ ปลื้มรัฐบาลนหนุนโครงการบ้านพอเพียง พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีรายได้น้อยในชุมชน ลดความเหลื่อมล้ำ แก้ปัญหาเป็นรูปธรรม ผู้ช่วยผอ.ภาค ‘พอช.’ เผย 2 ปีมอบบ้านพอเพียงให้คนกรุงแล้วกว่า 500 หลัง

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตผู้สมัครส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ได้เข้าร่วมกิจกรรมมอบบ้านพอเพียง เขตธนบุรี ให้กับชุมชนวัดดาวคะนอง ชุมชนมะนาวหวานและชุมชนตรอกสะพานขาว โดยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้มอบสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยให้กับพี่น้องประชาชนผู้มีรายได้น้อยทั้งในเมืองและชนบททั่วประเทศ เพื่อให้มีที่อยู่อาศัยที่เหมาะสม และได้มาตรฐาน ทั้งนี้ตนได้ลงพื้นที่ไปร่วมดูแลการส่งมอบบ้านพอเพียง โดยความร่วมมือของสำนักงานเขตธนบุรีและพอช.

‘วันนี้เรามา 4 หลัง ใน 4 หลังมีบ้านของคุณยายวัย 76 ปีซึ่งอาศัยอยู่กับน้องชาย 2 คน ในชุมชนมะนาวหวาน ที่ได้ทำการซ่อมแซมปรับปรุงพื้นบ้านจากพื้นไม้ที่ผุพังเป็นพื้นปูนให้มีความแข็งแรงทนทานและดูแลรักษาความสะอาดได้ง่าย รวมทั้งประสานงานให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดูแลปัญหาสุขภาพของคุณยายด้วยเพิ่มเติมด้วย

ในฐานะที่ทำงานประสานงานกับชุมชนมาโดยตลอด เล็งเห็นว่าโครงการบ้านพอเพียงเป็นโครงการที่มีประโยชย์สำหรับพี่น้องปะชาชนเป็นอย่างยิ่ง ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนได้อย่างเห็นผล เป็นก้าวแรกที่จะดูแลคุณภาพชีวิตเบื้องต้นของพี่น้องในชุมชนให้มีความมั่งคงปลอดภัยในเรื่องสภาพความเป็นอยู่ ก่อนจะก้าวไปสู่สังคมในการประกอบอาชีพ หรือว่าดูแลครอบครัวต่อไป หากพี่น้องประชาชนมีความมั่นคงในปัจจัยพื้นฐานก็จะส่งผลต่อการพัฒนาประเทศให้เจริญรุ่งเรือง’ น.ส.ทิพานัน กล่าว

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ได้มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนทุกกลุ่ม เพื่อลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ โครงการนี้สะท้อนถึงความใส่ใจแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม

ด้านนายยุทธพงษ์ เขื่อนเมือง ผู้ช่วยผู้อำนวยการภาค สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) กล่าวว่า เป้าหมายและวัตถุประสงค์ของโครงการที่สำคัญ เป็นการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยที่ชำรุดทรุดโทรมให้กับผู้ที่มีรายได้น้อยหรือว่ายากจน

ดังนั้น ในภาพของการดำเนินการคือการไปซ่อมแซมบ้าน เพื่อให้บ้านมีความมั่นคงแข็งแรง สมาชิกที่อยู่ในบ้านก็จะมีความปลอดภัย และสามารถอยู่บ้านได้อย่างมีความสุข พร้อมที่จะก้าวไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตในมิติต่างๆ ต่อไป ภายใต้การดำเนินการมีความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนซึ่งขึ้นอยู่กับบริบทของพื้นที่โดยสภาองค์กรชุมชน ตำบล หรือเขตจะเป็นกลไกสำคัญที่จะไปเกาะเกี่ยว เชื่อมโยงหน่วยงานภาคีต่างๆ ภาครัฐและเอกชนเข้ามาเสริมสนับสนุนบูรณาการทำงานร่วมมากกว่างบประมาณที่ พอช.สนับสนุนมาเป็นค่าวัสดุซ่อมแซมบ้าน ซึ่งถือว่าเป็นงบประมาณที่ไม่มาก

นายยุทธพงษ์ กล่าวด้วยว่า ภาพที่เกิดขึ้นนอกจากจะทำให้บ้านมีความมั่นคงแข็งแรงและผู้อยู่อาศัยมีความปลอดภัยและพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นแล้ว เครื่องมือตัวนี้เรื่องของบ้านพอเพียงชนบทได้นำไปสู่กลยุทธ์ในเรื่องของการพัฒนาศักยภาพของกลไกองค์กรสภาชุมชน หรือการสร้างการทำงานเชิงบูรณาการภาครัฐและเอกชน ซึ่งเป็นบทเรียนที่สำคัญว่าโครงการนี้ เป็นโครงการที่ดีสมควรที่จะมีการดำเนินการในระยะต่อไป ส่วนระยะเวลาในการดำเนินการไม่สามารถระบุปีที่ชัดเจน ในการดำเนินการให้กลุ่มเป้าหมายได้แล้วเสร็จได้

เนื่องจากปัญหาการชำรุดทรุดโทรมของบ้านยังคงมีอย่างต่อเนื่อง แต่ในขณะเดียวกันบทเรียนที่ผ่านมา สามารถลงไปสู่กลุ่มเป้าหมายได้โดยตรงที่มีความยากจนและมีรายได้น้อย ได้รับผลประโยชน์อย่างเต็มที่ ที่สำคัญคือยังสามารถทำให้สมาชิกต่างๆ เหล่านี้ได้เข้ามามีส่วนร่วมที่สำคัญในการที่จะพัฒนาชุมชนท้องถิ่นของตนเองด้วย

‘โครงการบ้านพอเพียงได้มีการกระจายทั่วทุกตำบลทั่วประเทศ ซึ่งทางพอช.ดำเนินการมาแล้ว 5 ปี สำหรับกรุงเทพมหานครดำเนินการมาปีนี้เป็นปีที่ 2 ซึ่งได้ดำเนินการแล้วเสร็จไป 500 กว่าหลังแล้ว’ นายยุทธพงษ์ กล่าว


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

อเล็กเซย์ มิรานชุก ซัดประตูสุดสวยตั้งแต่ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก เป็นประตูชัยพา ‘รัสเซีย’ เฉือนชนะ ‘ฟินแลนด์’ ไปแบบหืดจับ 1-0 คว้าสามคะแนน ลุ้นเข้ารอบน็อคเอาท์ต่อในเกมหน้า

ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ‘ยูโร 2020’ วันพุธที่ 16 มิถุนายน 2564 คู่แรก เป็นเกมในกลุ่ม B ‘หมีขาว’ ทีมชาติรัสเซีย หนึ่งในทีมเจ้าภาพร่วม ลงเล่นที่เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก สเตเดียม พบกับ ทีมชาติฟินแลนด์

เกมแรก รัสเซีย ของกุนซือสตานิสลาฟ เชอร์เชซอฟ พ่ายแพ้ให้กับ เบลเยี่ยม แบบขาดลอย 0-3 เกมนี้ต้องเก็บชัยชนะให้ได้ เพื่อโอกาสในการเข้ารอบน็อคเอาท์ นำทัพมาโดยหัวหอกร่างโย่ง อย่าง อาร์เตม ซูบ้า, อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน, โรมัน ซอบนิน, มาริโอ เฟร์นันเดซ

ขณะที่ ฟินแลนด์ ของกุนซือมาร์คคู คาเนร์ว่า เกมที่แล้วพลิกล็อกเอาชนะ เดนมาร์ก 1-0 อย่างเหนือความคาดหมาย เกมนี้ยังคงนำทัพมาโดย ติโม ปุ๊กกี กองหน้าตัวเก่ง, โจเอล โปห์ยานโปโล, ยัคค่า ไรตาย่า, เยเร่ อูโรเน่น

นาทีที่ 4 ฟินแลนด์ ฉกฉวยโอกาสจากความผิดพลาดของแนวรับรัสเซีย ยัคค่า ไรตาย่า ตัดบอลไปได้ หลุดมาทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนเปิดบอลให้ โจเอล โปห์ยานโปโล โหม่งในกรอบเขตโทษหนีมือนายทวารเจ้าถิ่นเข้าไปตุงตาข่าย แต่เมื่อเช็คจาก VAR แล้ว เป็นลูกล้ำหน้าเสียก่อน

หลังเกือบเสียประตู รัสเซีย ดาหน้าบุกอย่างหนักเพื่อทำประตูขึ้นนำให้ได้ แต่จังหวะจบสกอร์นั้นยังทำได้ไม่ดีพอ ขณะที่ ฟินแลนด์ อาศัยเกมรับที่เหนียวแน่น รอโต้กลับได้น่ากลัวหลายครั้ง แต่ยังทำประตูไม่ได้

แต่แล้วช่วงทดเจ็บของครึ่งเวลาแรก รัสเซีย มาได้ประตูออกนำ 1-0 จากจังหวะที่ อเล็กเซย์ มิรานชุก ทำชิ่ง 1-2 กับ อาร์เตม ซูบ้า ก่อนจะเป็น มิรานชุก ที่ปั่นด้วยซ้ายในกรอบเขตโทษ หนีมือนายทวารฟินแลนด์เข้าไปอย่างสุดสวย และจบ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง ฟินแลนด์ เป็นฝ่ายเปิดเกมบุกมากขึ้นเพื่อทวงประตูคืน แต่เกมรับของรัสเซีย ยังทำได้ดี หยุดเกมบุกของ 2 กองหน้าฟินแลนด์ได้อยู่หมัด โดยทีม ‘หมีขาว’ พยายามเปิดเกมแลกเหมือนกัน แต่จังหวะจบสกอร์ทำได้ไม่ดีพอ

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่มีใครทำอะไรกันได้ หมดเวลาการแข่งขัน 90 นาที รัสเซีย เอาชนะ ฟินแลนด์ 1-0 เก็บสามคะแนนสำคัญ ทำให้พวกเขามี 3 แต้ม จาก 2 นัด เท่ากับฟินแลนด์ ไปลุ้นเข้ารอบน็อคเอาท์ต่อในนัดสุดท้าย

โปรแกรมต่อไป ฟินแลนด์ จะพบกับ เบลเยียม ในคืนวันที่ 21 มิถุนายน เวลา 02.00น. (ตามเวลาประเทศไทย) ส่วน รัสเซีย จะพบกับ เดนมาร์ก ในวันและเวลาเดียวกัน

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม

ฟินแลนด์ : ลูคัส ฮาราเด็คกี (GK), ยูน่า ตอยวิโอ, เปาลัส อารายูรี, ดาเนียล โอเชาเนสซี, ยัคค่า ไรตาล่า, โรบิน ลอด, ราสมุส ชูลเลอร์, เกล็น กามาร่า, เยเร่ อูโรเน่น, ติโม ปุ๊กกี, โจเอล โปห์ยานโปโล

รัสเซีย : มัตเวย์ ซาโฟนอฟ (GK), ดิมิทรี บารินอฟ, อีกอร์ ดีวีฟ, จอร์จีย์ ซิคีย่า, ดาเลอร์ คูซยาเยฟ, โรมัน ซอบนิน, มาโกเม็ด ออซโดเยฟ, มาริโอ เฟร์นันเดซ, อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน, อเล็กเซย์ มิรานชุก, อาร์เตม ซูบ้า

 

ที่มา : https://mgronline.com/sport/detail/9640000058362


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘สมาคมสภาสังคมสงเคราะห์ฯ’ ร่วม ‘กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์’ และมูลนิธิมิราเคิลฯ จัดโครงการ น้ำพระทัยพระราชทาน ทำอาหารเลี้ยงประชาชน ที่เดือดร้อน

สมาคมสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  และมูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ จัดแถลงข่าวพิธีเปิดครัวโครงการน้ำพระทัยพระราชทาน จัดเลี้ยงอาหารให้แก่ประชาชน เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนทั่วประเทศในสถานการณ์ปัจจุบันที่ทุกคนได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ตั้งแต่วันที่ 26 พฤษภาคม - 30 มิถุนายน 2564

โดยได้รับการสนับสนุนจากโครงการสลากการกุศล เพื่อนำไปมอบให้แก่ประชาชนในพื้นที่และชุมชนต่างๆ ที่กำลังเดือดร้อน ในเขตกรุงเทพมหานคร ซึ่งมี แพทย์หญิงสุวณี รักธรรม รองประธานสมาคมสภาสังคมสงเคราะห์ฯ กล่าวถึงโครงการน้ำพระทัยพระราชทานและความร่วมมือกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ขณะที่ นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ร่วมกล่าวขอบคุณ

ทั้งนี้ภายในงาน นำโดยแพทย์หญิงสุวณี รักธรรม รองประธานสมาคมสภาสังคมสงเคราะห์ฯ, นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, ร้อยตำรวจโท ดร. มนัส โนนุช ประธานมูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์, นางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ คณะกรรมการอำนวยการสมาคมสภาสังคมสงเคราะห์ฯ และผู้บริหารกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมด้วยตัวแทนจาก Idol Exchange และศิลปินวงWisdomได้ร่วมพิธีเปิดและประกอบอาหารเมื่อวันอังคารที่ 15 มิถุนายน 2564 เวลา 13.00 น. ณ  บริเวณกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

โดยในส่วนของตัวแทนจาก Idol Exchange นั้นประกอบไปด้วย…

- กุ้ง-ศรุดา นิ่มพิทักษ์พงศ์

- เหม่เหม-จุฑาภัส จำปาวัน

- เนย-ส.ท.หญิงอาธิติยา แก้วเงิน

- โดนัท-เบญจรัตน์ ไตรยวงศ์

และศิลปินวง Wisdom ประกอบไปด้วย

- นิธินันท์ บัณฑูรประยุกต์

- โชติกา เพียรพัฒนาวิทย์

- พิยดา จังสิริมงคล

- จิราวรรณ แสงจันทร์

- กิตติกา ชละเอม

เสรีพิศุทธ์" ซัด "สิระ" ไม่ฉลาด ชอบโหนคดีดัง หลังรู้ตัวไม่มีหน้าที่สอบคดีลุงพล พร้อมรับเผือกร้อนสอบต่อ

ที่รัฐสภา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายสิระ เจนจาคะ ส.ส. กทม. พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธาน มีมติส่งเรื่องที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ และนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล ผู้ต้องหาคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ ยื่นหนังสือร้องเรียนขอให้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ตำรวจปฎิบัติหน้าที่มิชอบในการออกหมายจับนายไชย์พล ว่า ตนบอกตั้งแต่ต้นแล้วว่าไม่ใช่งานของนายสิระ เพราะคนที่เป็นประธานคณะกรรมาธิการ เมื่อได้รับฟังเรื่องตั้งแต่ต้นก็ควรจะรู้ว่าเรื่องนั้นอยู่ในหน้าที่ของตนเองหรือไม่ ความจริงถ้านายสิระฉลาด เมื่อประชุมแล้วรู้ว่าไม่ใช่หน้าที่ก็ทำหนังสือส่งมาให้ตนก็จบแล้ว ดีกว่าไปแถลงข่าวจนทำให้ประชาชนรู้ว่านายสิระไม่รู้เรื่อง เพราะอยากเป็นข่าว อยากออกทีวีทุกวันเพื่อหาเสียง เอาเรื่องการเมืองเป็นหลัก โดยไม่ได้ใส่ใจหน้าที่ตัวเอง อย่างไรก็ตาม หากมีการส่งเรื่องมาให้ตนพิจารณาก็จะรับไว้และดำเนินการตามหน้าที่ต่อไป

เมื่อถามว่าเป็นการโยนเรื่องร้อนให้พิจารณาหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า ตนมองว่าไม่ได้เป็นการโยนงานมาให้ เพราะตอนนี้นายสิระคงสำนึกแล้วว่าไม่ใช่หน้าที่ของตัวเอง ก่อนหน้านี้ก็เที่ยวสอบเรื่องนั้นเรื่องนี้อยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะกรณีที่เป็นเรื่องดังๆ เช่น คดีบอส อยู่วิทยา ซึ่งทุกคนก็ทราบดีว่า มีการทุจริตปฎิบัติหน้าที่มิชอบ และเป็นเรื่องอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมาธิการของตน ซึ่งตนดำเนินการอยู่ใกล้จะแล้วเสร็จ แต่นายสิระก็เอาบ้างทั้งที่ไม่ใช่หน้าที่ตัวเอง ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และพล.อ.ประวิตรวงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐกลับส่งคนที่ไม่มีความรู้มาทำหน้าที่ เพื่อเป็นการตอบแทนกัน จึงทำให้เกิดปัญหาเดือดร้อนไปถึงประชาชน

โรนัลโด้ เอฟเฟ็กต์! หุ้น ‘โค้ก’ ร่วง 3 วันติด มูลค่าวูบกว่า 2 แสนลบ.

ยังคงส่งผลอย่างต่อเนื่อง กรณีที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวยิงตัวเก่งกัปตันทีมชาติโปรตุเกส ที่สร้างปรากฎการณ์ ขยับขวด โคคา-โคล่า ออกระหว่างการแถลงข่าว จนกลายเป็นไวรัลไปทั่วโลก

ซึ่งจากการกระทำดังกล่าวทำให้ส่งผลเสียเชิงลบต่อแบรนด์ โคคา-โคล่า ทันที จากการรายงานของ มาร์ก้า สื่อยักษ์ใหญ่แดนสเปน โดยสื่อเจ้าดังอ้างว่าหลังคลิปดังกล่าว ได้มีการนำเสนอไปทั่วโลกเพียงแค่ 30 นาที ราคาหุ้นของ โคคา-โคล่า ก็ตกฮวบอย่างน่าใจหาย

โดยมาร์ก้า ระบุว่า ทันทีที่ตลาดหุ้นในยุโรปเปิดตัวในเวลา 15.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) หุ้นของบริษัท โคคา-โคล่า ในตลาด ลดลงมากถึง 1.6% จากราคาปิดตลาดวันก่อน ทำให้ส่งผลให้มูลค่าบริษัท (มาร์เก็ตแคป) จาก 242,000 ล้านเหรียญ ลดลงเหลือ 238,000 ล้านเหรียญ มูลค่าหายไปถึง 4 พันล้านเหรียญ (ประมาณ 1.25 แสนล้านบาท)

แม้ว่าในระหว่างวันซื้อขายราคาหุ้นจะขยับขึ้นมาปิดตลาดได้ติดลบน้อยลง แต่ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 14-16 มิถุนายน ที่ผ่านมาหุ้นของบริษัท โคคา-โคล่า ยังร่วงต่อเนื่องรวมแล้วกว่า 2.65% เหลือมูลค่า 235.7 พันล้านเหรียญ ( 7.37 ล้านล้านบาท) หรือคิดเป็นมูลค่าที่หายไปถึง 6.4 พันล้านเหรียญ คิดเป็นเงินไทยกว่า 2 แสนล้านบาท

อย่างไรก็ตาม หากมองในแง่ตลาดเงินตลาดทุน ตั้งแต่ต้นปีนี้ หุ้นของบริษัท โคคา-โคลา ขยับขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จาก 48 เหรียญสหรัฐต่อหุ้น ขึ้นมาเป็น 56.48 เหรียญต่อหุ้น ทำจุดสูงสุดในรอบปี เมื่อวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนที่ราคาหุ้นจะค่อยๆ ย่อลงมา เนื่องจากความกังวลของตลาดหุ้น เกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่อาจจะมาเร็วกว่าที่คาดไว้ ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงติดต่อกันหลายวัน ประจวบเหมาะกับซุปเปอร์สตาร์ชาวโปรตุกีส กระทำดังกล่าวยิ่งทำให้ราคาหุ้นร่วงเร็วขึ้น

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา โรนัลโด้ เคยออกมาพูดถึงการไม่ชอบเครื่องดื่มน้ำอัดลมที่มีน้ำตาล โดยเผยว่ามักมีปัญหากับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จูเนียร์ ลูกชายคนโตของเขา "บางครั้งผมก็มีปัญหากับเขา เพราะเขาชอบดื่มน้ำอัดลม ผมทะเลาะกับเขาตอนที่กินมันฝรั่งทอด ซึ่งเขารู้ว่าผมไม่ชอบมัน"ด้าน โคคา-โคล่า แบรนด์ยักษ์ใหญ่ของโลก ยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับท่าทางของ กัปตันทีมชาติโปรตุเกส ที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของตัวสินค้า แต่เชื่อว่าพวกเขาไม่น่าจะมีความสุขกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยพวกเขาถือเป็นสปอนเซอร์หลักในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปมาตั้งแต่ปี 1988 เลยทีเดียว

แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีคนอีกจำนวนไม่น้อย ที่ตั้งแง่กับ โรนัลโด้ เป็นพวกปากว่าตาขยิบ เพราะเขา เคยเป็นพรีเซนเตอร์ ให้กับเครื่องดื่มและอาหารที่เขามองว่า ‘ไม่ดีต่อสุขภาพ’ ทั้ง โคคา-โคลา และไก่ทอดเคเอฟซี แต่พอได้ดีก็ลืมเพื่อนเก่าซะอย่างงั้น

 


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“เสรีพิศุทธ์” ลั่น ส.ว.มีไว้ทำไม หลัง “ประยุทธ์” ถามใครสนับสนุนผมบ้าง เงียบเป็นสากกะเบือ ชี้ บัตรเลือกตั้งกี่ใบก็รับได้ ขึ้นอยู่กับปชช.

ที่รัฐสภา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงกรณีร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของพรรคฝ่ายค้าน ว่า เมื่อวานนี้ที่ตนไม่ได้มาร่วมยื่นด้วยเนื่องจากตนทำหน้าที่ประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.ป.ป.ช.) อยู่ ประชุมทั้งวัน ไม่ค่อยได้เข้าห้องประชุมใหญ่อยู่แล้ว แต่ได้ให้นายวิรัตน์ วรศสิริน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย เป็นตัวแทนมายื่นร่วมกับพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งญัตติต่างๆ ที่พรรคฝ่ายค้านยื่นนั้น ไม่เหมือนกันทีเดียว ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลก็มีความแตกต่างกันเช่นกัน เพียงแต่ตนอยากจะเรียนทุกพรรคที่ยื่น ว่าจะทำอะไรก็แล้วแต่ ไม่ใช่แค่เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเท่านั้น แต่จะต้องคิดถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก อย่าคิดถึงผลประโยชน์ของตนเอง ประเทศไทยใครจะเป็นอะไรก็ได้ แต่ขอให้ได้คนที่ดีมีความสามารถมาปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง 

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวต่อว่า แต่จะคิดแก้รัฐธรรมนูญเพื่อผลประโยชน์ของตนเองมันไม่ใช่ อย่างร่างที่พรรคพลังประชารัฐยื่น ถามว่าจะยื่นมาทำไม ตอนนั้นก็ขัดขวางไม่ยอมให้รัฐธรรมนูญผ่าน ต่อมามีการพิจารณาพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การออกเสียงประชามติ ซึ่งตอนนี้ยังพิจารณาไม่เสร็จ ก็ควรจะให้เป็นไปตามขั้นตอน ต้องพิจารณาพ.ร.บ.ประชามติให้เสร็จและให้มีการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ขึ้นไปร่างรัฐธรรมนูญให้ถูกต้องเป็นธรรม ไม่ใช่รัฐธรรมนูญที่ออกแบบมาเพื่อคนคนเดียวเท่านั้น เมื่อ 2 วันก่อนที่มีการประชุมวุฒิสภา พล.อ.ประยุทธ์​ถามวุฒิสภาทำนองว่า “ใครสนับสนุนผมบ้าง” เงียบเป็นสากกะเบือ ไม่รู้จะมีไว้ทำไม พรรคพลังประชารัฐไม่แก้เอาไว้เอื้อประโยชน์ของตนเองรวมทั้งเรื่องบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ แบบแบ่งเขต 400 กับแบบบัญชีรายชื่อ เพราะหากใช้แบบเดิม ผู้ใหญ่ของพรรคพลังประชารัฐก็จะไม่ได้เข้าสภา ตนสงสารประชาชนที่มีผู้นำประเทศคิดแต่เอารัดเอาเปรียบประชาชนอยู่ตลอดเวลา 

เมื่อถามว่าพรรคเสรีรวมไทยพร้อมจะสนับสนุนกลับไปเป็นบัตรเลือกตั้ง 2 ใบหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า เราเป็นพรรคเล็ก เราต้องรู้ว่าเราไม่มีอำนาจที่จะไปต่อสู้กับเขา ประชาชนให้ความไว้วางใจเราเท่านี้ แต่ความจริงให้ความไว้วางใจมากกว่านี้แต่เราถูกโกงเหมือนพรรคอนาคตใหม่ พรรคที่ได้คะแนน 30,000 กว่าคะแนนก็เลยถูกปัดเศษขึ้นมาเพื่อให้ร่วมรัฐบาล ฉะนั้นถึงแม้ว่าพรรคเราจะเป็นพรรคเล็กเราก็มีจุดยืนที่เข้มแข็งและมั่นคง การแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ไม่ว่าจะมีกี่ร่างก็ตาม เราก็ต้องมาตัดสินกันว่าเมื่ออภิปรายแล้ว เราควรจะสนับสนุนร่างของฝ่ายไหนที่จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด พรรคเสรีรวมไทยไม่ได้ประโยชน์อะไรก็ไม่เป็นไร

เมื่อถามว่าเรื่องระบบการเลือกตั้ง เช่น พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย ก็เห็นตรงกันว่าควรจะกลับไปเป็นบัตร 2 ใบ พรรคเสรีรวมไทยมองประเด็นนี้อย่างไร พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา อย่างที่บอกว่าขึ้นอยู่กับประชาชนจะ 2 ใบหรือใบเดียวคิดได้อย่างไรว่าอะไรจะเป็นประโยชน์ เราไม่รู้ว่าประชาชนจะเลือกใคร อย่างไรก็ตามพรรคพลังประชารัฐมีฐานข้อมูลว่าตอนเลือกตั้งซ่อมทีไร ส่งร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ไปที่ไหนก็ชนะการเลือกตั้งครั้งนั้น พรรคพลังประชารัฐก็มั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะมีส.ส.เขตมากขึ้น เราไม่มีฐานข้อมูลอย่างเขา รู้แค่เพียงว่าที่ผ่านมา 2 ปี คนรู้จักพรรคเสรีรวมไทยมากขึ้น ฉะนั้นในการเลือกตั้งครังหน้า หากยังเป็นบัตรใบเดียวเราก็เชื่อมั่นว่าเราจะมีส.ส.มากขึ้น แต่หากเป็นบัตรเลือกตั้ง 2 ใบเราก็ชั่งน้ำหนักไม่ได้ว่าจะมีส.ส.มากขึ้นหรือน้อยลง ซึ่งการที่ทำร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมต่างๆ เหล่านี้มาเพื่อจะตัดพรรคเล็ก อย่างไรก็ตามการเลือกตั้งขึ้นอยู่กับประชาชน 

‘บิ๊กป้อม’ นั่งหัวโต๊ะ ประชุมคณะกรรมการกีฬาโอลิมปิกแห่งประเทศไทย เคาะค่าตั๋วเครื่องบิน ส่งทีมชาติไปโอลิมปิกญี่ปุ่น

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมกรรมการบริหาร คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ครั้งที่ 2/2564 ผ่านระบบประชุมทางไกล Zoom Video Conference โดยที่ประชุมมีการรายงานความคืบหน้าการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกโตเกียว 2020 ครั้งที่ 32 ณกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 23 กรกฎาคม-8 สิงหาคม 2564 การแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ยูธเกมส์ ครั้งที่ 3 ณ เมืองซัวเถา สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 25-28 พฤศจิกายน 2564 การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 31 ณสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามระหว่างวันที่ 21 พฤศจิกายน-3 ธันวาคม 2564

นอกจากนี้ นายธนาไชย ประสิทธิ์ เหรัญญิกคณะกรรมการโอลิมปิกฯ เสนอเพื่อพิจารณาและขออนุมัติส่งคณะนักกีฬาทีมชาติไทยไปร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก พร้อมกับขออนุมัติเบิกเงินยืมทดรองเป็นค่าบัตรโดยสารเครื่องบินสำหรับคณะนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก

"กรณ์" ผนึกคนสายเทค กระตุก ก.ล.ต.ควบคุมคริปโต ชี้ ! ราชการควรส่งเสริม และกำกับดูแลอย่างเหมาะสม 

สืบเนื่องจากคณะกรรมการ ก.ล.ต. มีมติเห็นชอบแนวทางการกำกับดูแลศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล โดยห้ามให้บริการโทเคนดิจิทัลพร้อมใช้ และคริปโทเคอร์เรนซีตามที่กำหนด พร้อมทั้งกำหนดให้ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ต้องจัดให้มีข้อกำหนดว่า ในกรณีของโทเคนดิจิทัลที่ออกโดยศูนย์ซื้อขายหรือเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับศูนย์ซื้อขาย หากผู้ออกโทเคนดิจิทัลนั้นไม่ทำตาม white paper และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องในสาระสำคัญ จะเป็นเหตุให้ถูกเพิกถอนออกจากศูนย์ซื้อขายได้ โดยระบุว่าเพื่อให้ความคุ้มครองแก่ผู้ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลนั้น 

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า อดีต รมว.คลัง กล่าวว่า ได้เห็นประกาศของ กลต. เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมากรณีห้ามศูนย์ซื้อขาย นำเหรียญ Utility Tokens พร้อมใช้ 4 ประเภท (Meme, FAN, NFT, Native coins) ขึ้นกระดานซื้อขาย ซึ่งพออ่านดูแล้วก็รู้สึกประหลาดใจว่าทำไม ก.ล.ต. ถึงมีแนวคิดปิดกั้นในเรื่องเหล่านี้ เลยพูดคุยกับทีม Tech ในพรรคกล้า และสอบถามความเห็นของพี่ๆ น้องๆ ในวงการ Fintech พอสรุปได้ว่าประกาศของ ก.ล.ต. มีความไม่ชัดเจน ปิดกั้นโอกาสของคนไทยในการใช้เทคโนโลยีบล็อคเชนในการสร้างนวัตกรรม 

“กฎที่ออกมาอย่างเร่งรีบไม่ได้ผ่านการทำประชาพิจารณ์จากผู้ประกอบการและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และข้อห้ามที่ออกมานั้น ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความสามารถในการแข่งขันของไทยในระดับนานาชาติอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในขณะที่ประเทศกำลังมองหาธุรกิจ S-curve ใหม่ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่ภาครัฐกลับปิดกั้นการเกิดขึ้นของอุตสาหกรรมใหม่ที่อาศัยเทคโนโลยีบล็อคเชน รวมถึงคริปโต แล้วอนาคตการพัฒนาเทคโนโลยีของประเทศจะเป็นอย่างไร” นายกรณ์ กล่าว 

อดีต รมว.คลัง กล่าวด้วยว่า ในมุมของ ก.ล.ต. เอง เข้าใจว่าต้องการป้องกันความเสี่ยงให้ผู้บริโภค แต่เชื่อหรือไม่ว่ากฏเหล่านี้ไม่ได้ช่วยให้ความเสี่ยงหมดไป เพราะธุรกรรมคริปโตเป็นธุรกรรมที่ไร้พรมแดน ซ้ำร้ายกลับทำให้ประเทศสูญเสียโอกาส คือ ลดโอกาสของการเกิดนวัตกรรมใหม่ๆในประเทศ ลดโอกาสของคนในการพัฒนาตนเองสู่ทักษะและเครื่องมือที่สำคัญ สำหรับยุคดิจิตอล ซึ่งเป็นตัวชี้วัดขีดความสามารถทางการแข่งขันกับต่างประเทศทั้งในปัจจุบันและอนาคต กฏข้อบังคับในครั้งนี้เป็นการผลักไสทรัพยากรคนที่มีความสามารถและนวัตกรรมออกนอกประเทศ ขณะเดียวกันก็ไม่สามารถดึงดูดนวัตกรรมและการลงทุนจากต่างประเทศเข้าสู่ประเทศได้ ซึ่งถือเป็นผลเสียมากกว่าผลดีต่อประเทศไทยเอง 

นอกจากนี้ ยังมีความไม่ชัดเจนของกฎบางข้อเช่น  

1.การนิยาม Meme และ FAN tokens ยังขาดรายละเอียดตัวชี้วัดว่า เหรียญแบบไหนถือว่ามีสาระที่สมควรอนุญาตให้ซื้อขายในกระดานซื้อขายไทย

2.การกีดกัน NFT ซึ่งถือเป็น Softpower อีกหนึ่งเครื่องมือเศรษฐกิจยุคดิจิตอล  โดยถือว่าเป็นของเฉพาะกลุ่ม ถือเป็นการกีดกันการค้าของอุตสาหกรรมศิลปะ บันเทิง และเกมส์ ไม่ให้เกิดการพัฒนาและรับรู้อย่างแพร่หลาย

3.ห้ามศูนย์ซื้อขาย ทำ Native Coins ในระบบ Blockchain ด้วยความกลัวด้านข้อมูลภายใน (Inside Information) ถือเป็นการตระหนกเกินกว่าเหตุ เพราะเมื่อเทียบกับหลักปฏิบัติของตลาดหุ้นสากล ผมยังคงเห็นหุ้นของ NASDAQ, London Stock Exchange และ Singapore Stock Exchange (SGX) ซึ่งถือเป็นกระดานซื้อขายทำ self listing หุ้นตนเอง เมื่อเทียบกับผู้เล่นในอุตสาหกรรมเดียวกัน คือ Binance (BNB) ผมจึงเสนอว่าสาระสำคัญไม่ได้อยู่ที่การห้ามให้มีหรือไม่มีการทำ self listing แต่อยู่ที่การควบคุมไม่ให้กระดานซื้อขายนำข้อมูลภายในมาใช้เพื่อผลประโยชน์ของตน

4. ข้อบังคับเหล่านี้ไม่มีผลย้อนหลังสำหรับเหรียญในจำนวนที่ถูกซื้อขายบนกระดานแล้วในปัจจุบัน แต่ห้ามการนำจำนวนเหรียญที่ยังไม่เข้าสู่ระบบมาทำการซื้อขายเพิ่ม ซึ่งเป็นเรื่องยากในการกำกับและติดตาม Exchange อื่นๆจะไม่สามารถทำ Self listing เหรียญของตัวเองที่ใช้ในระบบ Blockchain ได้อีกต่อไป ซึ่งแน่นอนว่าทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมในการแข่งขัน เป็นต้น 

นายกรณ์ กล่าวด้วยว่า หลักคิดของระบบราชการไทยไม่ควรเป็นเพียงแค่การกำกับควบคุม แต่ต้องเป็นการส่งเสริมและพัฒนา ผมจึงไม่เห็นด้วยกับ ก.ล.ต. ที่ออกกฏในลักษณะปิดกั้น แต่ควรส่งเสริมและมีบทบาทในการตรวจสอบ มีกติกาชัดเจน เช่น การกำหนดความละเอียดและความสมบูรณ์ของ Whitepaper โดยยังมีพื้นที่ให้กลไกตลาดทำงานได้ โดยไม่เป็นการปฏิเสธความรับผิดชอบ 

นอกจากความคิดเห็นของนายกรณ์แล้ว ทีม Tech ในพรรคกล้า อย่างนางสาวภรณี วัฒนโชติ CEO FinGas นักลงทุนคลิปโต ตั้งแต่ปี 2016 และรองโฆษกพรรคกล้า บอกว่า ไม่เห็นด้วย ด้วยเหตุผล 3 ข้อหลัก คือ

1.ทีมนักพัฒนาเหรียญคนไทย จะหนีไป ICO และซื้อขายเหรียญในต่างประเทศ ประเทศไทยสูญเสียนวัตกรรม และการได้รับการยอมรับว่าเป็นแหล่งบ่มเพาะนวัตกรรม

2.เป็นการกีดกันและลดความสามารถในการแข่งขันของศูนย์ซื้อขายสัญชาติไทย ให้ไม่สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ เพราะ ศูนย์ซื้อขายสัญชาติไทยจะ ‘เป็นศูนย์ ที่ไม่เป็น ศูนย์’ คือไม่สามารถเป็นศูนย์รวมของเหรียญที่หลากหลายให้คนได้ซื้อขายอย่างแท้จริง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการชนะคู่แข่งในตลาดโลก และ

3.เมื่อผู้พัฒนาไม่สามารถขึ้นกระดานซื้อขายที่ถูกกฏหมายได้ สุดท้ายจะเข้าซื้อขายในตลาด Defi ซึ่งอยู่นอกเหนือความสามารถในการกำกับของรัฐ และก.ล.ต.จะไม่สามารถป้องกันความเสี่ยงให้ผู้บริโภคคนไทยได้อยู่ดี เพราะจะไม่สามารถติดตามเหรียญจาการ scam คืนได้จากกระดานซื้อขายนอกการกำกับ เช่น กรณี FBI ตามเหรียญคืนได้จาก Coinbase กระดานซื้อขายภายใต้การกำกับ เป็นต้น การออกกติกาของ ก.ล.ต.ในครั้งนี้จึงมี ผลร้าย กับประเทศมากกว่า ผลดี 

นายยศ เลิศภิญโญภาพ IT Solution Architect และกรรมการนโยบายพรรคกล้า กล่าวว่า NFT คือโอกาสและช่องทางสำหรับการโปรโมตผลงานหรือสร้างรายได้ให้กับกลุ่มคนจำนวนมาก ทัศนคติในการกีดกัน NFT จะไม่ช่วยส่งเสริมให้เกิดการสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ ออกมา เทคโนโลยีที่หมุนไปเร็ว กลไกตลาด Crypto currency  มันทำงานเร็วขึ้น ดังนั้นภาครัฐยุคใหม่ควรมีบทบาทในการส่งเสริมหาแนวทางป้องกันที่เหมาะสม มากกว่าการปิดกั้นโอกาสในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆของคนไทย 

เช่นเดียวกับ คณิต ศาตะมาน นักเทคโนโลยี ผู้อยู่ในวงการ Blockchain และ Digital Asset  ที่มองว่า ตั้งแต่ยุค ICO จนถึงปัจจุบัน Crypto Currency และ Digital Tokens นั้นทำให้เกิดระบบนิเวศน์ทางเศรษฐกิจดิจิทัลใหม่ๆ ที่สามารถสร้างโอกาสให้กับคนไทยได้หากสามารถสร้างนวัตกรรมที่มีประโยชน์จนคนเห็นคุณค่า แน่นอนว่าการเก็งกำไรย่อมมีความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหาย แต่รัฐก็ไม่ควรจะใช้วิธีขังทุกคนเอาไว้ในห้องด้วยเชื่อว่าพวกเขาจะปลอดภัยหากไม่ได้ออกไปไหน ดังนั้นจึงไม่ควรจะไปตั้งกำแพงกีดกัน Utility Token เหล่านั้นจาก Exchange และที่จริงแล้วควรจะสนับสนุนให้ทำธุรกรรมผ่าน Exchange ด้วยซ้ำ เพราะพวกเขามีกระบวนการยืนยันตัวตนที่ชัดเจนสามารถลดความเสี่ยงที่จะเกิดการหลอกลวงได้เป็นอย่างดี แตกต่างกับการสร้าง Market Place และ DeFi ที่ไม่มีกระบวนการตรวจสอบและควบคุมใด ๆ ได้เลย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top