Wednesday, 14 May 2025
NewsFeed

คลังฟันร้านค้าหัวหมอโกงเราชนะอีกเป็นร้อยราย

น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังได้ตรวจพบธุรกรรมที่เข้าข่ายฝ่าฝืนหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขของโครงการเราชนะ จึงได้ทำการระงับสิทธิ์ชั่วคราวการเข้าร่วมโครงการของผู้ประกอบการเพิ่มเติม จำนวน 120 ราย และขอให้ผู้ประกอบการที่ถูกระงับสิทธิ์ชั่วคราวดังกล่าวชี้แจงข้อเท็จจริงมายังสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ภายในวันที่ 25 มิ.ย.2564 ตามข้อความแนะนำที่ปรากฏขึ้นในแอปพลิเคชันถุงเงิน หากพ้นระยะเวลาดังกล่าวแล้ว กระทรวงการคลังจะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

ทั้งนี้กระทรวงการคลังจะเข้มงวดในการติดตามตรวจสอบประชาชนและผู้ประกอบการที่กระทำการเข้าข่ายผิดหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขของโครงการอย่างใกล้ชิด โดยจะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เป็นต้น ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงและขยายผลการสืบสวนสอบสวนเพื่อดำเนินคดี และขอความร่วมมือจากประชาชนและผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการของกระทรวงการคลังปฏิบัติตามหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขของแต่ละโครงการอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เสียสิทธิ์การเข้าร่วมโครงการหรือมาตรการอื่นของรัฐในอนาคต และถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

สำหรับความคืบหน้าของโครงการเราชนะ ณ วันที่ 11 มิ.ย. 2564 พบว่า มีมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยแล้วกว่า 267,113 ล้านบาท และมีผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการเราชนะที่ใช้จ่ายจนครบวงเงินสิทธิ์แล้ว จำนวน 22.3 ล้านคน ซึ่งเป็นการใช้จ่ายผ่านผู้ประกอบการร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ร้านค้าคนละครึ่งที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการเราชนะ รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเราชนะ จำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 1.3 ล้านกิจการ

ทหารผาเมือง สกัดชาวเมียนมา นำ 3 คนไทย ลอบข้ามแดนเพื่อกลับภูมิลำเนา สารภาพได้ค่าจ้าง 2,000 บาท ด้านทหารเร่งตรวจเชิงรุกตามแหล่งพักของชาวต่างด้าวเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

คืนวันที่ 10 มิ.ย.64 ที่ผ่านมา กำลังททหาร กองร้อยสกัดกั้นที่ 1 บก.ควบคุมที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง ภายใต้การอำนวยการของ พ.อ.สัมฤทธิ์ ฉัตรวัฒนาสกุล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 2 กองกำลังผาเมือง นำโดย  ร.ท.ธีรพล  ธิเสนา ผู้บังคับกองร้อยควบคุมที่ 2 ได้จัดกำลังทำการลาดตระเวณ ช่องทางข้ามพรมแดนทางธรรมชาติบริเวณ บ้านสันทรายใหม่  ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อป้องกันการลักลอบข้ามพรมแดนโดยผิดกฎหมาย  ป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 รวมไปถึงสิ่งผิดกฎหมาย

โดยได้ตรวจพบบุคคลต้องสงสัย จำนวน 4 คน กำลังเดินข้ามลำน้ำสาสยมาจากประเทศเมียนมา ทางเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตนขอทำการตรวจค้น ทราบชื่อภายหลังคือ 1.นาย ZAW NAING TUM สัญชาติ เมียนมาร์ อายุ 28 ปี เป็นผู้นำพา  2.ด.ญ. เอ (นามสมมุติ) สัญชาติ ไทย อายุ 14 ปี ชาว ต.ป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงราย 3.น.ส.ปราโมทย์ สงวนนามสกุล สัญชาติ ไทย อายุ 28 ปี ชาว ต.เคร็ง อ.ชะลวด จ.นครศรีธรรมราช 4.นายบี (นามสมมุติ)สัญชาติ ไทย อายุ 16 ปี  ชาว ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย จากการตรวจค้น ไม่พบสิ่งผิดกฏหมาย 

จากการสอบถามผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่าลักลอบข้ามพรมแดนมาจาก จ.ท่าขี้เหล็กประเทศเมียนมา เพื่อจะเดินทางกลับยังภูมิลำเนา โดยมีนาย ZAW NAING TUM มารับที่ฝั่งไทย โดยได้ค่าจ้าง 2,000 บาท เพื่อนำพาทั้ง 3 คนข้ามพรมแดนมายังประเทศไทย  หลังจากสอบปากคำเบื้องต้นแล้วทางเจาหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่สาย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สำหรับสถานการณ์การลักลอบข้ามพรมแดน ในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการลาดตระเวณ ตามแนวชายแดนรวมไปถึงนำสิ่งกีดขวางเพื่อป้องกันการลักลอบเข้ามาในประเทศ รวมไปถึงสิ่งผิดกฏหมาย โดยทางหน่วยเฉพากิจกรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง ได้มีการตรวจเชิงรุกตามแหล่งพักของแรงงานต่างด้าวเพื่อตรวจสอบว่ามีผู้ที่หลบหนีเข้าเมืองมาพักอยู่ในพื้นที่หรือไม่ นอกจากนี้ยังได้มีการตรวจคัดกรองหาเชื้อไวรัส โควิด-19 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อด้วย


ภาพ/ข่าว  ณัฐวัตร ลาพิงค์

ตม.สุรินทร์ ตามติดเครือข่ายลอบขนต่างด้าว ดักจับขณะข้ามแดน เร่งสาวหาตัวการ

พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.), พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.กฤษฎา กาญจนอลงกรณ์ ผบก.ตม.4, และ พ.ต.อ.สำราญ กลั่นมา ผกก.ตม.จว.สุรินทร์ ร่วมแถลงข่าวจับกุม โดยมีรายละเอียด ดังนี้

ตม.จว.สุรินทร์ ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ จับกุมบุคคลต่างด้าวสัญชาติ กัมพูชา จำนวน 8 ราย บริเวณช่องทางธรรมชาติ คะลาคะมุม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ โดยชาวกัมพูชาทั้งหมด รับว่าจะเดินทางไปรับจ้างใช้แรงงานในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยง มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อันอาจนำไปสู่คลัสเตอร์การแพร่ระบาดในวงกว้าง

ตามนโยบายของ ผบก.ตม.4 ได้สั่งการเน้นย้ำให้ ตม.จังหวัด ในสังกัด บก.ตม.4 เพิ่มความเข้มในการป้องกันการลักลอบขนคนต่างด้าวเข้าเมือง และจับกุมขบวนการลักลอบขนคนต่างด้าว โดยให้มีผลการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ผกก.ตม.จว.สุรินทร์ จึงสั่งการให้ชุดสืบสวน ตม.จว.สุรินทร์ สืบสวนหาข่าวติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มนายหน้าขนแรงงานต่างด้าวที่อยู่ในพื้นที่ จ.สุรินทร์ ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง

ในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งได้รับรายงานจากสายข่าวว่า จะมีการลักลอบพาบุคคลต่างด้าว สัญชาติ กัมพูชา เดินเท้าเข้ามาผ่านช่องทางธรรมชาติคะลาคะมุม จึงประสานหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ วางกำลังดักซุ่มจนกระทั่งพบกลุ่มบุคคลต่างด้าวจำนวน 8 ราย จึงแสดงตัวเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ เข้าจับกุม ตรวจสอบแล้ว ไม่พบเอกสารสำคัญประจำตัว หรือหนังสือเดินทาง สอบถามหนึ่งในกลุ่มบุคคลต่างด้าวได้ความว่า ตนกับพวกอีก 7 คน ต้องการเดินทางไปหางานทำในพื้นที่จังหวัดชั้นใน จึงติดต่อกับนายหน้ารับพาคนต่างด้าวข้ามมาฝั่งไทย โดยผ่านช่องทางธรรมชาติ เมื่อเดินมาถึงบริเวณถนนหลวง จะมีรถตู้มารับพาไปส่งยังพื้นที่จังหวัดชั้นในต่อไป จึงควบคุมตัวไปผลักดันส่งกลับต่อไป ทั้งนี้ ตม.สุรินทร์ กำลังเร่งสืบสวนขยายผลหาตัวการนำพาแรงงานดังกล่าว

สตม.ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตราย ต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน อันทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

รมว.สุชาติ เผย รัฐ-เอกชน จับมือเดินหน้ามาตรการป้องกันควบคุมโควิดแก่ลูกจ้างในโรงงาน ขับเคลื่อนธุรกิจโดยเร็ว

นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ประชุมหารือร่วมกับ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือมาตรการป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสถานประกอบกิจการโรงงาน สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ช่วยภาคธุรกิจขับเคลื่อนต่อไปได้โดยเร็ว 

ที่ห้องประชุม อก.1 ชั้น 2 อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานการประชุมหารือมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสถานประกอบกิจการโรงงาน ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (VDO Conference) โดยมี นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย 

โดย รมว.แรงงาน กล่าวว่า รัฐบาล ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กระทรวงแรงงานภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยพี่น้องแรงงานในสถานประกอบกิจการโรงงานจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งรัฐบาล โดยศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ได้มอบหมายกระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงแรงงาน เป็นเจ้าภาพ ในการขับเคลื่อนมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 สถานประกอบกิจการโรงงาน ทั้งในและนอกนิคมอุตสาหกรรม 

นายสุชาติ กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ประกันตนมาตรา 33 จำนวน 11 ล้านคน ซึ่งกระทรวงแรงงานโดยสำนักงานประกันสังคมได้ตอบสนองนโยบายรัฐบาล โดยดำเนินการขอความร่วมมือให้นายจ้างในระบบประกันสังคมสำรวจ และกรอกข้อมูลความต้องการรับวัคซีนโควิด-19 ของผู้ประกันตนผ่านระบบ Web Service ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค.-3 มิ.ย.64 ซึ่งในการดำเนินการดังกล่าวมีผู้ประกันตนมาตรา 33 แสดงความประสงค์ขอรับวัคซีนเป็นจำนวน 6,012,662 ราย คิดเป็นร้อยละ 77.5 และในวันนี้กระทรวงแรงงานและกระทรวงอุตสาหกรรม รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีประชุมร่วมกันในวาระสำคัญพิจารณาเกี่ยวกับมาตรการเร่งรัดการฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรและแรงงานในสถานประกอบกิจการโรงงาน 

“กระทรวงแรงงาน มีความห่วงใยพี่น้องแรงงานในสถานประกอบกิจการโรงงานจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หารือแนวทางเพื่อกำหนดมาตรการเร่งรัดการฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรและแรงงานในสถานประกอบกิจการโรงงาน ซึ่งเป็นการบูรณาการร่วมกันในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสถานประกอบกิจการโรงงาน รวมทั้งสร้างภูมิคุ้มกันหมู่แก่แรงงาน ให้สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ เพื่อให้ภาคธุรกิจได้มีการขับเคลื่อนต่อไปได้โดยเร็ว” นายสุชาติ กล่าวในท้ายสุด

ปลัด สปน. แจ้ง ขยายเวลา เวิร์ก ฟรอม โฮม ถึง 30 มิ.ย. มั่นใจ งานมีประสิทธิภาพ-ช่วยลดการแพร่ระบาด โควิด-19

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากมติคณะรัฐมนตรี ประกาศของศบค.และสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในขณะนี้ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้พิจารณาแล้วให้มีการขยายเวลาการ เวิร์ก ฟรอมโฮม ต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 30 มิถุนายนนี้ 

นายธีรภัทร กล่าวว่า โดยยึดแนวทางปฎิบัติที่ประกาศไว้เดิม แต่มีประเด็นเพิ่มเติมคือ เร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ของสปน. ได้รับการฉีดวัคซีนให้ครบถ้วนโดยเร็ว ซึ่งขณะนี้ได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้วประมาณ 74% อย่างไรก็ตามการดำเนินงานในขณะนี้ยังเป็นการประชุมหารือผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ซึ่งทุกการประชุมคณะกรรมการตามกฏหมาย และคณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้องต่างๆยังเป็นไปด้วยดี นอกจากนี้ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีปกติจะต้องติดตามงานภาคต่างๆในต่างจังหวัด ก็ปรับมาใช้ระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อติดตามงานในพื้นที่ โดยในบางภารกิจในพื้นที่ เช่น การตรวจมาตรฐานศูนย์ราชการสะดวก 300 กว่าหน่วย สปน.ได้ติดตามสถานะภาพในพื้นที่จริงผ่านระบบวิดีโอเคลื่อนที่ เพื่อดูพื้นที่จริงอย่างใกล้ชิด ได้เห็นในพื้นที่นั้นๆมีสภาพเป็นอย่างไรในเวลาที่ติดตามด้วย

นายธีรภัทร กล่าวว่า ในส่วนงานศูนย์บริการประชาชน สำนักนายกรัฐมนตรี ในการรับเรื่องราวร้องทุกข์ ยังคงใช้ 4 ช่องทางเดิม คือ

1.) สายด่วนของรัฐบาล1111

2.) ตู้ปณ.1111 และ

3.) เว็บไซต์ www.1111.go.th

4.) แอพพลิเคชั่น PSC1111

เนื่องจากสถานการณ์ โควิด-19 ยังต้องคงเฝ้าระวัง การรับเรื่องราวร้องทุกข์ ยังดำเนินการไปได้ด้วยดี โดยมากกว่า 90% เรื่องได้ยุติส่วนที่เหลือเป็นเรื่องของข้อกฎหมายที่ต้องพิจารณาเป็นรายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สปน.ได้รายงานข้อเสนอแนะและเรื่องร้องทุกข์ให้นายกรัฐมนตรีทราบทุกสัปดาห์ และนายกรัฐมนตรีได้เร่งรัดทุกเรื่องในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี รวมหลายเรื่องนำไปสู่นโยบายการช่วยเหลือประชาชนในภาพรวม การช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคโควิด-19 และฟื้นฟูเศรษฐกิจด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมาเมื่อเจ้าหน้าที่เวิร์กฟอรมโฮม มีปัญหาอุปสรรคอย่างไรหรือไม่ นายธีรภัทร กล่าวว่า หากทุกคนมาทำงานในที่ทำงานพร้อมกัน ประสิทธิภาพย่อมดีกว่าอยู่แล้ว แต่การทำงานชีวิตวิถีใหม่ เวิร์กฟอรมโฮม บางเรื่องที่ต้องการความรวดเร็วเร่งด่วน เราก็ใช้การพูดคุยและส่งผ่านข้อมูลผ่านอีเมล และไลน์ โดยที่ไม่ได้เห็นหน้ากัน แต่ในบางครั้งการได้ทำงานแบบพบเห็นหน้ากันก็จะมีประสิทธิภาพมากกว่า อย่างไรก็ตาม จากการประเมินในเวลานี้โดยติดตามการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่นๆด้วย ถือว่าประสิทธิภาพของการทำงานเป็นไปด้วยดี สามารถขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี

นายธีรภัทร กล่าวว่า ขณะนี้ทุกหน่วยงานใน สปน. ได้ปรับแผนการรายงาน ผลการทำงานต่อผู้บังคับบัญชา ซึ่งทุกหน่วยงานจะได้รายงานความคืบหน้าการทำงานมาที่ตน ว่ามีผลการทำงานอย่างไรบ้าง ในทุกสัปดาห์ โดยให้ระดับรองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้ตรวจราชการฯ ผู้อำนวยการสำนัก และผู้อำนวยการกอง ประชุมคอนฟอร์เรนพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของตนอยู่ตลอด โดยเมื่อวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมาตนได้ประชุมระดับผู้บริหารของสำนักนายกฯ สรุปงานผ่านวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ 2-3 ชั่วโมง 

นอกจากงานปกติแล้วยังต้องทำงานช่วยศบค.ในเรื่องการแก้ไขปัญหาโควิด-19 ด้วย เช่น การบริหารจัดการหน้ากากอนามัย การสนับสนุนถุงยังชีพรายครอบครัวให้กับชาวบ้านในหมู่บ้าน 14 จังหวัดที่ต้องปิดเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 

ทั้งนี้ขอย้ำว่าปัจจุบันถึงแม้หน่วยราชการจะเวิร์กฟอรมโฮม แต่คุณภาพงานยังมีประสิทธิภาพอยู่ เป็นการช่วยลดการเดินทางและช่วยลดการแพร่ระบาดโควิด-19 ในช่วงนี้ 

จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนลดกิจกรรมที่ต้องพบปะกัน และดำเนินการตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดอีกระยะหนึ่ง รวมทั้งร่วมกันฉีดวัคซีน แล้วการดำรงชีวิตตามปกติจะได้คืนกลับมาโดยเร็ว

โรงพยาบาลพญาไท 3 เสริมกำลังใจ พร้อมสร้างมาตรฐานความปลอดภัย ให้แก่ผู้รับบริการ

เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดี กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก, รองศาสตราจารย์ นายแพทย์สุวัฒน์ เบญจพลพิทักษ์ ปลัดกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจหน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่ ศูนย์การค้าเดอะมอลล์บางแค เอ็ม ซี ซี ฮอลล์ ชั้น4

โดยเครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล ภายใต้ความร่วมมือของกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) นำทีมโดยรศ.คลินิก พญ.วารุณี จินารัตน์ ผู้อำนวยการแพทย์โรงพยาบาลพญาไท 3 และคุณณัฐชานันท์ นิธิโชติวรภัทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดโรงพยาบาลพญาไท 3 พร้อมด้วย ทีมแพทย์และพยาบาลที่ปฏิบัติหน้าที่ พร้อมด้วยผู้บริหารของกลุ่มความร่วมมือ โดยมี กฤษณา อัมพุช พร้อมด้วย นายแพทย์อภิชาต วชิรพันธ์, ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล, รุจิรา อารินทร์, ดร.พรชัย มงคลวนิช ให้การต้อนรับ

ถือเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่และผู้ปฏิบัติงาน อีกทั้งยังสร้างความเชื่อมั่นในมาตรฐานการบริหารจัดการที่มาพร้อมความปลอดภัยให้แก่ประชาชนผู้เข้ารับบริการในครั้งนี้

ตำรวจเพชรฯ จับแก๊งขนบุหรี่เถื่อนมูลค่า 6 ล้านบาท ปลอมเครื่องหมายการค้าของผู้จดทะเบียน มาจำหน่ายให้ตามสถานบันเทิง

วันที่ 11 มิ.ย. ที่หน้าทำการ ภ.จ.เพชรบุรี พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร ผบก.ภ.จ.เพชรบุรี พร้อมด้วย นายกฤติเดช จิตรโอฬาร ฝ่ายบริหารการจัดเก็บภาษี สรรพสามิตพื้นที่เพชรบุรี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าวการจับกุมขบวนการลักลอบขนบุหรี่ผิดกฎหมาย พร้อมของกลางบุหรี่ปลอมยี่ห้อ SMS จำนวน 25,619 ซอง และบุหรี่เถื่อนยี่ห้อ Mond/John จำนวน 20,000 ซอง รวม 45, 619 ซอง คิดเป็นมูลค่ากว่า 6 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.ชะอำได้รับแจ้งเหตุรถกระบะชนเสาไฟฟ้าบริเวณบ้านสระ ซอย 3 ริมถนนเพชรเกษมขาล่องใต้ อ.ชะอำ จึงรุดไปตรวจสอบพบรถกระบะมิตซูบิชิ ไททัน สีขาว ป้ายทะเบียน ยข 8030 ชลบุรี ชนกับเสาไฟฟ้าข้างทางก่อนเสียหลักแฉลบพุ่งชนกำแพงร้านอาหารเจ้กุ้งพ่นไฟได้รับความเสียหายด้วย ในที่เกิดเหตุพบบุหรี่เถื่อนบรรจุใส่ลังกระดาษจำนวนมากตกอยู่จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน ส่วนคนในรถหนีไปได้

พล.ต.ต.อุทัย กล่าวว่าภายหลังเกิดเหตุได้สืบหาตัวคนร้ายจนทราบชื่อว่า นายนฤพงศ์ ชุ่มสวัสดิ์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 810/5 ถ.เพชรเกษม(บ่อแขม) อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี จึงนำหมายศาล จ.เพชรบุรี ที่ 154/2564 ลงวันที่ 1 มิ.ย.64 เข้าจับกุมตัวได้ที่บ้านพักในหมู่บ้านบางควาย-บางไทรย้อย อ.ชะอำ นำมาดำเนินคดีในความผิดฐานมีไว้เพื่อจำหน่าย จำหน่ายและเสนอจำหน่ายยาสูบชนิดบุหรี่ซิกาแรต ตรา SMS ซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอม ปลอมเครื่องหมายการค้าของผู้อื่นที่จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย พร้อมกันนี้ได้ให้ชุดสืบสวนสืบหาตัวผู้ร่วมขบวนการเนื่องจากสืบทราบว่าเป็นแก๊งรายใหญ่ที่นำบุหรี่ผิดกฎหมายมาจำหน่ายให้ตามสถานบันเทิงต่าง ๆ ในเขต อ.ชะอำ และ อ.หัวหิน ซึ่งจะได้ดำเนินการจับกุมต่อไป


ภาพ/ข่าว  นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวสยามโฟกัสไทม์ / 4เหล่าทัพ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ผู้ว่าฯนราธิวาส สั่งการให้เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายติดตามจับคุมยาเสพติด หลังสายข่าวแจ้งมียาเสพติดจำนวนมากอยู่ในพื้นที่ชายแดน เตรียมส่งประเทศเพื่อนบ้าน

เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2564 เวลา 10.30 น.ภายใต้อำนวยการของ นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้สั่งการนายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงโก-ลก และนายอนิรุทธ บัวอ่อน นายอำเภอสุไหงปาดี ดำเนินการบูรณาการ กำลังฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร เข้าตรวจยึดยาเสพติด สืบเนื่องจากชุดเฉพาะกิจฝ่ายปกครองอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส

นำโดยนายพิมล จงรักษ์ ปลัดอำเภอ ได้จับกุมเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่จึงขยายผลไปอำเภอสุไหงปาดี โดยสามารถตรวจยึดยาเสพติดยาบ้าได้จำนวน 102,800 เม็ด ณ หลังบ้านเช่าไม่มีเลขที่ หมู่ 5 บ้านบือเจาะบือซา ตำบลปะลุรู อำเภอสุไหงปาดี  จังหวัดนราธิวาส 


ภาพ/ข่าว  แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส

อช.แก่งกระจาน เปิดแผน “ปักษาแหวกรัง เต่าดำมุดบาดาล” ป้องปรามผู้บุกรุกป่าและล่าสัตว์

วันที่ 11 มิ.ย. นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี เปิดเผยว่าทางอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานได้เปิดแผนปฏิบัติการ “ปักษาแหวกรัง เต่าดำมุดบาดาล” ระหว่างวันที่ 7-10 มิถุนายน 64 โดยสนธิกำลังร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจฯพญาเสือ กองร้อย ตชด.ที่ 144 ศพฐ.7 สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ สภ.แก่งกระจาน กองการบิน สป.ทส. สมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า (WCS) ออกปฏิบัติการเพื่อพิสูจน์ทราบพื้นที่เป้าหมายในเขตอุทยาน ตามนโยบายของ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) นายยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษา รมว.ทส. และ นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในการดูแลรักษาป่าและป้องกันกระทำความผิดเกี่ยวป่าไม้ มี นายอิทธิพล ไทยกมล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน

จัดตั้งกองบัญชาการเหตุการณ์ ณ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยส่งกำลังพลทางอากาศด้วยเฮลิคอปเตอร์รวม 15 นายลงสนาม ฮ.ชั่วคราว เพื่อเดินเท้าเข้าพื้นที่เป้าหมายระยะทางเดินเท้า 7 กม.ใช้เวลาเดินประมาณ 3 วัน 2 คืน ขณะที่ น.ส.เนตรนภา งามเนตร ผช.หน.อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน นำกำลังพลเดินลาดตระเวนตามพื้นที่เป้าหมายในห้วงเวลาดังกล่าว

ผลการปฏิบัติสามารถยึดเพิงพักรวม 3 หลัง หลังแรกพบเครื่องอุปโภคบริโภค ยารักษาโรค เครื่องกระสุนปืนไทยประดิษฐ์ ดินปืนจำนวนมาก ปลอกกระสุนปืนลูกซอง ซากสัตว์ป่าไม่สามารถระบุชนิดได้ซุกซ่อนอยู่ หลังที่ 2 และ 3 อยู่ห่างจากเพิงพักแรกที่ตรวจพบประมาณ 4 กม. ไม่พบบุคคลใดในเพิงพัก พบปลอกกระสุนปืนลูกซอง ผ้าห่ม เสื้อผ้าที่มีสภาพใหม่ ขวานที่ใช้สำหรับตัดไม้ ขวดน้ำ สลิงที่ใช้สำหรับทำแร้วดักสัตว์ จึงทำบันทึกตรวจยึดก่อนเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.แก่งกระจาน ฐานความผิดตาม พรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 พรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 และ พรบ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 เพื่อติดตามหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ภาพ/ข่าว  นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวสยามโฟกัสไทม์ / 4เหล่าทัพ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

สืบสวน ภ.จว.นครพนม ไล่ล่าขบวนการ ค้ากัญชาข้ามชาติ

เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2564 เวลาประมาณ 03.00 - 09.00 น. กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ตำรวจน้ำนครพนม เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันขยายผลการจับกุม ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดประเภท 5 กัญชาแห้งอัดแท่ง ซึ่งลักลอบขนมาจากประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว ข้ามแม่น้ำโขงขึ้นฝั่งในพื้นที่ จ.นครพนม  โดยเจ้าหน้าที่จับกุมได้ผู้ต้องหา 2 คน ที่บริเวณสามแยกไฟแดงหน้าโลตัสสาขาธาตุพนม จากการตรวจสอบภายในรถยนต์ พบหีบห่อถุงพลาสติกสีดำ ภายในบรรจุกัญชาแห้งอัดแท่ง จำนวน 13 กระสอบ น้ำหนักประมาณ 520 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ภายในรถยนต์กระบะโตโยต้า คันหมายเลขทะเบียน บต 4339 มุกดาหาร เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ธาตุพนม เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

เวลาต่อมาในวันเดียวกันเจ้าหน้าที่ชุดเดิมได้สอบสวนขยายผลจากคำให้การของผู้ต้องหาทั้ง 2 คน โดยได้ติดตามจับกุม ขบวนการค้ากัญชาข้ามชาติกลุ่มเดียวกัน ได้ในขณะจอดพักที่บริเวณรีสอร์ท คุณเพียร รีสอร์ท ต.คำอาฮวน อ.เมือง จ.มุกดาหาร พิกัด 48Q VD 691256 ได้ผู้ต้องหา 3 ราย 1.นายสุวัชชัย แจ้งแสง อายุ 36 ปี 187 หมู่ 19 ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง  จ.นครราชสีมา 2.นายสมชาติ แสงสว่าง อายุ 36 ปี ที่อยู่ 628 ซ.บางบอน 3 ข.บางบอน เขตบางขุนเทียน กทม. และ 3.นายสุพัฒน์ โพธิ์ร่มขิง อายุ 32 ปี ที่อยู่ เลขที่ 4 ซอยบางกระดี่ 1 แยก 14 ข.แสมดำ ข.บางขุนเทียน กทม. พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 5 กัญชาแห้งอัดแท่ง จำนวน 25 กระสอบ คาดว่าน้ำหนักประมาณ 1,150 กก. บรรทุกในกระบะหลังคาทึบของรถยนต์เชฟโรเล็ต โคโรลาโด สีดำ หมายเลขทะเบียน 1 ฒน 4730 กทม. และรถร่วมขบวนการอีก 2 คัน เป็นรถตู้ โตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน นข 8712 ภูเก็ต และรถยนต์กระบะ ฟอร์ด เรนเจอร์ สีบรอนด์เทา ติดสัญญาณไซเรน หมายเลขทะเบียน ถข 7545 กทม. พร้อมด้วยโทรศัพท์มือถืออีก จำนวน 5 เครื่อง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางกลับไปสอบสวนขยายผล และแถลงข่าว จากนั้นจะนำส่งเจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


ภาพ/ข่าว  เดวิท โชคชัย จ.มุกดาหาร


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top