Wednesday, 14 May 2025
NewsFeed

ผู้ประกอบการร้านอาหารไทย โร่ขอคำแนะนำ “กรณ์-วรวุฒิ” ก่อนตัดสินใจกู้เงินจาก มาตรการช่วยเหลือกระทรวงพาณิชย์ หวั่นเผาเงินตัวเองหากรัฐมุ่งแก้ปัญหาระยะสั้น แนะรัฐเป็นหนี้ทางเดียว ประเทศชาติเดินได้ แต่ถ้าโยนหนี้มาภาคประชาชน อนาคตตายหมู่

สมาคมร้านอาหารไทยและสตรีทฟู้ดรวมตัวกัน จัดคลับเฮาส์เพื่อขอความเห็นและข้อเสนอแนะจาก นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า และ นายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรค ในฐานะกูรูทางการเงิน และกูรูด้านอีคอมเมิร์ส ที่สร้างธุรกิจเอสเอ็มอี สู่ธุรกิจขนาดใหญ่ เป็นผู้ที่มีประสบการณ์ตรง ทั้งนี้เพื่อหาแนวทางว่าต้องเตรียมตัวอย่างไร ก่อนยื่นกู้เงินจากกระทรวงพาณิชย์ที่มี

โดยนายกรณ์ กล่าวว่า ในฐานะที่เคยเป็น รมว.คลัง ก็พยายามผลักดันให้เกิดการปรับเปลี่ยนนโยบายเท่าที่เราจะทำได้ ที่ผ่านมาพยายามสื่อสารไปถึงฝ่ายบริการงบประมาณ งบประจำหรืองบเงินกู้ ที่ต้องหันมาช่วยผู้ประกอบการโดยตรงมากขึ้น ปีที่แล้วที่มา พรก เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำออกมา แต่โครงสร้างเงื่อนไขไม่เอื้อต่อคนตัวเล็ก มาครั้งนี้แบงค์ชาติ ได้ปรับเป็นโครงการ “จับคู่กู้เงิน” ที่ดูเหมือนมีความหวังมากขึ้นในการเข้าถึงการกู้อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ อย่างไรก็ตามสถาบันการเงินก็ต้องทำหน้าที่ของเขาตามกฎเกณฑ์พิจารณาถึงแผนธุรกิจ กระแสเงินสด รวมไปถึงโอกาสการสร้างรายได้ ตรงนี้ก็ยังเป็นประเด็นที่ท้าทายกับร้านอาหารซึ่งมีเกือบ 3 แสนล้านแห่งทั่วประเทศ บางร้านอาจจะยังเข้าถึงสินเชื่อได้ยาก ซึ่งต้องมาดูว่ามีประเด็นอะไรที่ภาครัฐต้องเข้ามาช่วยเรื่องเพิ่มโอกาสการสร้างรายได้ และลดค่าใช้จ่าย เพราะตอนนี้ข้อจำกัดก็มีมาก ทั้งเรื่องจำกัดการนั่งกินในร้าน ไม่เกิน 25% เวลาเปิดไม่เกิน 21.00 และการห้ามขายแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นอุปสรรคในการหารายได้ 

นายกรณ์ กล่าวว่า มาตรการต่าง ๆ ที่รัฐบาลกำหนดมากเพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อ ดังนั้นจึงมีความพยายามปลดล็อควัคซีนเพื่อให้เข้าถึงประชาชนให้มากที่สุด ซึ่งแม้จะเริ่มฉีดกันบ้างแล้ว แต่ก็ยังมีข้อจำกัดเรื่องประสิทธิภาพการเข้าถึงวัคซีน ซึ่งต้องทนสถานการณ์แบบนี้ไปอีกประมาณ 2-3 เดือน เมื่อถึงจุดที่มีประชาชนฉีดวัคซีนมากพอ จนสถานการณ์ดีขึ้น มาตรการต่าง ๆ เริ่มคลี่คลาย ดังนั้นผู้ประกอบการแต่ละราย ก็จะต้องประเมินสถานการณ์ว่า เราจะเปิดช่วงนี้คุ้มหรือไม่ หรือควรรอไปอีก 2-3 เดือน  อีกด้านคือมาตรการในการลดค่าใช้จ่าย ที่เชื่อว่ารัฐสามารถเข้ามามีบทบาทได้อีกมาก โดยเฉพาะเรื่องภาษีที่รัฐควรยื่นมีเข้ามาช่วยในจังหวะนี้ การช่วยผู้ที่เคยเสียภาษีให้รัฐ ซึ่งรัฐมีตัวเลขที่ชัดเจนว่า ผู้ประกอบการเคยมีรายได้และเสียภาษีเท่าไร และลดลงมาเท่าไร คิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ ก็จะสามารถคำนวณส่วนชดเชยได้อย่างค่อนข้างแม่นยำ 

“ผมอยากเห็นรัฐบาลมีการจัดสรรงบ โดยเฉพาะงบเงินกู้ก้อนใหม่ 5 แสนล้าน อยากเห็นการจัดสรรส่วนหนึ่งมาช่วยเหลือผู้ประกอบการที่เคยเสียภาษี ซึ่งการช่วยเหลือนี้ควรเป็นการช่วยเหลือนอกเหนือเงินกู้ เพราะการกู้ในภาวะนี้กับบางรายอาจเป็นการสร้างและสะสมปัญหาใหม่ซึ่งไม่ใช่การรอดอย่างยั่งยืน รัฐควรพิจารณาในการลดค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาระค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ ซึ่งคือการจ่ายให้หน่วยงานรัฐวิสาหกิจอยู่แล้ว รัฐสามารถช่วยลดภาระส่วนนี้ได้หรือไม่ รวมถึงข้อเสนอการเข้าถึงเงินประกันสังคม หรือการลดภาระการจ่ายเบี้ยประกันสังคม ทั้งหมดนี้ต้องคิดให้ครบถ้วนทั้งเงินก้อนมาชดเชย รวมไปถึงการสนับสนุนลดค่าใช้จ่ายและในส่วนของเงินกู้ที่กำลังจะเกิดขึ้น” หัวหน้าพรรคกล้ากล่าว

ด้านนายวรวุฒิ รองหัวหน้าพรรคกล้า กล่าวว่า วิกฤตโควิดรอบนี้ ผู้ประกอบการทุกคนกำลังดิ้นรน หนีตาย คนที่ไม่เคยเป็นหนี้ก็ต้องเป็น มาถึงขั้นนี้ที่ไหนมีหนทางผู้ประกอบการไปหมด ซึ่งครั้งนี้นับเป็นปรากฎการณ์ที่ดี ที่ทั้งธนาคารพาณิชย์  หน่วยงานภาครัฐ เอกชนมาช่วยกัน ตอนนี้คนที่รอดคือคนที่ปรับตัวมากที่สุด หลายธุรกิจต้องจากไป มาตรการของรัฐต้องเข้ามาช่วยกิจการพวกนี้เพราะมันกระทบในวงกว้าง ดูได้จากมาตรการที่ประธานาธิบดีสหรัฐ โจ ไบเดน ออกมาอุ้มธุรกิจร้านอาหารโดยเฉพาะ เนื่องจากเป็นธุรกิจบริการสังคม ถ้าร้านอาหารอยู่ไม่ได้ ก็จะส่งผลกระทบภาคสังคมหลายส่วน ดังนั้นธุรกิจร้านอาหารต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ และเราก็อยากเห็นรัฐบาลดูแลเป็นพิเศษเช่นกัน แต่ขณะนี้ยังไม่เป็นเช่นนั้น อย่างไรก็ตามก็ยังมีหวังในช่วงโค้งสุดท้ายของการแพร่ระบาด เนื่องจากมีการทยอยฉีดวัคซีนกันแล้ว เราอดทนอีกนิด 

“ในมุมธุรกิจอยากแนะนำว่าคนที่จะรอดคือคนที่ปรับเปลี่ยนมากที่สุด รวมถึงสามารถวิเคราะห์ว่าทางไหนใช่ ทางไหนไม่ใช่ อาจต้องทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน ทำทุกทางให้รอด ถ้าปรับน้อยโอกาสรอดในภาวะวิกฤตก็จะยาก ภาวะวิกฤตขนาดนี้ บางรายปรับตัวไม่ทัน นั่นเป็นเหตุที่มีการเรียกร้องความช่วยเหลือจากภาครัฐ ทั้งลดค่าใช้จ่าย ลดภาษี และการเข้าถึงแหล่งทุน กลุ่มธุรกิจพวกนี้คือคนที่ดำเนินการตามมาตรการภาครัฐทั้งเว้นระยะห่าง จำกัดที่นั่ง 25% หรือจำกัดเวลาเปิด เขาได้รับผลกระทบโดนตรงจากการเป็นคนดีของรัฐบาล รัฐบาลควรหาทางชดเชยในการลดค่าใช้จ่ายให้พวกเขาด้วย” นายวรวุฒิ กล่าว 

ทั้งนี้ ในช่วงที่เปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็น ก็มีการนำเสนอว่า ความสำคัญอยู่ที่การวางแผนเรื่องกระแสเงินสดเพื่อคาดการณ์อนาคตว่าการกู้ครั้งนี้เราสามารถชำระคืนได้หรือไม่ ต้องดูการวางแผนธุรกิจและดูกันยาวๆ เพราะการกู้ครั้งนี้ ไม่ใช่แค่กู้มาเพื่อแก้ปัญหาระยะสั้น ต้องอยู่ได้ระยะยาว และต้องไปต่อได้ ไม่เช่นนั้นก็เหมือนเผาเงินตัวเองไป และหากมองในฝั่งของรัฐบาล ครั้งนี้เป็นเรื่องของโรคระบาด ไม่ใช่ความผิดของใคร รัฐบาลก็หนี้สูง กู้มาหากช่วยไม่ถูกจุด เอกชนก็หนี้สูงเพื่อให้ตัวเองรอด จริงๆ ควรเลือกหนี้อันเดียว คือรัฐบาลต้องมีหนี้ต่อ GDP สูง แล้วเอามาดูแลเอกชนที่จะอยู่รอดผ่านวิกฤตได้ อย่างที่คุณกรณ์ กล่าวไว้ว่ารัฐมีตัวเลขภาษีในระบบ รัฐช่วยเหลือตามสัดส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีนิติบุคคลที่เคยจ่ายมาอย่างถูกต้องก็ควรดูแลเขา รวมไปถึงส่วนของประกันสังคมที่รัฐควรดูแล ส่วนร้านค้าที่ไม่อยู่ในระบบเอาตรงๆ ต่อไปก็ต้องเข้ามาในระบบมากขึ้น อาจจะช่วยได้ไม่เท่าคนที่อยู่ในระบบ ในวันนี้แต่เขาคือฟันเฟืองหนึ่งของระบบเศรษฐกิจ เรื่องที่ช่วยง่ายสุดตอนนี้คือเรื่องการดูแลเรื่องของแรงงาน เงินเดือนเพื่อให้มีการจ้างงาน เพราะช่วยให้เศรษฐกิจเดิน มีเงินเดือนเกิดการบริโภค เศรษฐกิจก็เดินต่อ รัฐบาลจะมาอุ้มคนตกงานมันไม่ใช่ 

“เราเห็นด้วยกับทางพรรคกล้ามาตลอดที่ตั้งใจช่วยคนตัวเล็ก เพราะเอสเอ็มอี เกิดยากตายง่าย ถ้าตายแล้วเกิดใหม่ไม่ได้ เขาสะสมทุนมาทั้งชีวิตมันยากมากมีพลังก็ไม่มีทุน อย่าให้เขาตายไป จึงอยากเสนอว่าภาครัฐอย่าสร้างสองหนี้พร้อมกัน อย่าบังคับให้ภาคประชาชนเป็นหนี้เป็นสิน ควรให้รัฐบาลเป็นหนี้คนเดียวไปเลยดูแลทั้งระบบ เพราะรัฐบาลสามารถสร้าง economic modeling และคาดการณ์ว่าจะกลับมาเก็บภาษีได้เมื่อไหร่มีแผน 5 ปี 7 ปี วางแผนไปว่าถ้าเศรษฐกิจรอด พยายามให้ทุกคน เข้าระบบ ก็ได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ได้ภาษีนิติบุคคลเอามา จ่ายชำระหนี้ได้”

ทั้งนี้ นายกรณ์ กล่าวแสดงความเห็นด้วยต่อความคิดเห็นดังกล่าว ว่ารัฐควรแบกรับภาระหนี้ เครดิตรัฐบาลดีกว่าของพวกเราทุกคน ความสามารถในการกู้ยืมของรัฐบาลได้ดอกเบี้ยต่ำกว่าเราทุกคน รัฐบาลยังมีศักยภาพในการช่วยเหลือเราได้อีกเยอะ

แฟนบอลไทย ดีใจ บิ๊กตู่ หนุน ให้ได้ดู บอลยูโร คลายเครียดจากโควิด-19 ขอบคุณ "โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ" ผู้เซ็นสัญญาซื้อลิขสิทธิ์

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พี่น้องแฟนฟุตบอลชาวไทย ฝากขอบคุณนายกฯ และรัฐบาลที่ทำให้คนไทยได้ดูการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป2020 หรือ ยูโร 2020 ที่กรมประชาสัมพันธ์ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (เอ็นบีที) ได้รับลิขสิทธิ์ถ่ายทอด ในขณะที่ประเทศเกิดวิกฤตการระบาดเชื้อโควิด-19 อยู่ ประชาชนเกิดความเครียดอยู่บ้าง

หากได้ชมการแข่งขันฟุตบอลยูโร ที่สามารถดูได้ทุกบ้านนั้นจะทำให้คนได้ผ่อนคลายขึ้นได้ การแข่งขันฟุตบอลยูโร เป็นรายการที่ประชาชนคนไทยให้ความสนใจมาก นายกฯ จึงมีแนวคิดที่ต้องการให้คนไทยได้ชมการแข่งขันฟุตบอล จึงประสานงานหลายส่วนทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมกันเพื่อให้สามารถถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโรให้ได้ แสดงให้เห็นว่านายกฯได้ให้ความสำคัญกับประชาชนในทุกเรื่อง ซึ่งแม้ในขณะที่ประเทศกำลังเจอกับวิกฤตโควิดก็ตาม แต่นายกฯ ก็ไม่ลืมที่จะดำเนินการเรื่องนี้เพื่อให้ความสุขแก่คนไทย แฟนฟุตบอลชาวไทยก็ฝากขอขอบคุณผู้สนับสนุน นายโกมล จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานบริหาร บริษัท ซัมมิทฟุตแวร์ จำกัด ที่เป็นผู้เซ็นสัญญาซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลยูโร 2020 ในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นการช่วยเหลือกันในขณะที่ประเทศกำลังประสบปัญหาอยู่ หลังจากนายกฯได้มอบให้นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เจรจาเป็นผลสำเร็จในการถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโรได้ชมกันทั่วประเทศ 

จู้ด เบลลิงแฮม กลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดในศึกยูโร หลังถูกเปลี่ยนตัวลงสนามแทน แฮร์รี่ เคน ในช่วง 10 นาทีสุดท้าย และทำผลงานได้ดีแม้จะมีเวลาให้โชว์ของเพียงไม่นานก็ตาม

เจ้าหนูเบลลิงแฮมสร้างประวัติศาสตร์

อังกฤษ ในยุคนี้มีนักเตะดาวรุ่งพุ่งแรงขึ้นมาประดับวงการลูกหนังมากมาย ล่าสุด จู้ด เบลลิงแฮม ปีกฟอร์มฮอต ได้กลายเป็นนักเตะแห่งประวัติศาสตร์ เมื่อเขาเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดที่ได้ลงสนามในเกม ยูโร แมตช์ที่ อังกฤษ เฉือน โครเอเชีย

ดาวเตะจากทัพ "เสือเหลือง" โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทน แฮร์รี่ เคน ในนาทีที่ 82 ทำให้เขาเป็นแข้งที่อายุน้อยที่สุดในวัย 17 ปี 349 วัน ทำลายสถิติของ เจโตร วิลเลมส์ ดาวเตะชาวฮอลแลนด์ ที่ทำเอาไว้เมื่อ 9 ปีก่อน

 

ที่มา: https://www.siamsport.co.th/football/euro2020/view/240347


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“จุรินทร์” นำคณะ เยี่ยมชาวสวนปาล์ม ชูบริหารเชิงรุกดึงราคาปาล์มพุ่ง เปิดโครงการผลิตน้ำประปาช่วยคนบ้านคลองหวายเล็กหลายร้อยครัวเรือนมีน้ำสะอาดบริโภค ทริปต่อไปทัวร์อีสาน

ที่เทศบาลตําบลคลองพนพัฒนา อ.คลองท่อม จ.กระบี่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์  รวมถึง น.ส.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายสาคร เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ นายสมชาย หาญภักดีปฏิมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ และนายณธรรมรักษ์ จงรักษ์ นายกเทศมนตรีตำบลคลองพนพัฒนา ได้ร่วมกันลงพื้นที่พบปะกลุ่มเกษตรกรใน อ.คลองท่อม และมอบถุงยังชีพ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 

นายจุรินทร์ กล่าวแสดงความยินดีกับชาวสวนปาล์มที่วันนี้ปาล์มราคาดีอยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 6.80 บาท และ 7 บาทในบางช่วง ซึ่งเป็นผลจากมาตรการบริหารจัดการเชิงรุกที่กระทรวงพาณิชย์ร่วมมือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะกรรมการนโยบายปาล์มแห่งชาติในการกำหนดมาตรการหลายเรื่อง อาทิ การสกัดการลักลอบนำเข้าปาล์มจากต่างประเทศ การสนับสนุนผู้ส่งออกน้ำมันปาล์ม กก.ละ 2 บาทเพื่อส่งเสริมให้การส่งออกและรับซื้อผลปาล์มในประเทศ แต่มีเงื่อนไข คือสต๊อกปาล์มในประเทศต้องเกิน 300,000 ตัน และราคาปาล์มต่างประเทศต้องต่ำกว่าในประเทศ แต่ถ้าราคาตก ยังมีนโยบายประกันรายได้เกษตรกรมาช่วยชาวสวนปาล์มให้ได้รับเงินส่วนต่าง  

นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า ส่วนข้อกังวลของเกษตรกรเรื่องปุ๋ยราคาแพงนั้น มีสาเหตุมาจากบริษัทผลิตแม่ปุ๋ยใหญ่คือประเทศจีน มีประเทศอินเดียมาประมูลแม่ปุ๋ยจากจีนไปล็อตใหญ่เพื่อใช้ในการเกษตร และจีนเริ่มฤดูไถหว่านฤดูใหม่ ทำให้เขาต้องสต๊อกปุ๋ยเอาไว้ใช้ในประเทศ ทำให้ปุ๋ยในตลาดโลกขาดแคลน ทั้งนี้ ตนได้มอบหมายให้เชิญผู้นำเข้าปุ๋ยมาพูดคุยเพื่อหาจุดสมดุล ด้วยการกดราคาปุ๋ยลงมา แต่ให้พอมีกำไรบ้าง ไม่ให้กระทบกับเกษตรกรเกินไป และมีมาตรการเสริมให้เกษตรกรรวมกลุ่มกัน เพื่อที่จะสามารถซื้อปุ๋ยราคาพิเศษได้ โดยกระทรวงพาณิชย์กับกระทรวงเกษตรฯ จับมือการช่วยแก้ปัญหาด้วยการประสานงานกับพาณิชย์จังหวัดและเกษตรจังหวัดให้รวมตัวกันซื้อปุ๋ยราคาพิเศษในนามกลุ่มจะช่วยลดราคาลงไปได้ 

จากนั้น นายจุรินทร์และคณะ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมโครงการระบบผลิตน้ำประปา หมู่ที่ 6 บ้านคลองหวายเล็ก ต.คลองขนาน อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ โดนนายจุรินทร์ กล่าวว่า ระบบผลิตน้ำประปาแห่งนี้เป็นระบบใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีซึ่งได้ขึ้นทะเบียนนวัตกรรมที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สามารถดูดน้ำจากแหล่งน้ำที่มีอยู่ผ่านขั้นตอนกระบวนการถังกรองฆ่าเชื้อและสูบไปหอสูงประมาณ 20 เมตร และมีระบบกระจายน้ำลงมายังครัวเรือนได้ 200-500 ครัวเรือน จะช่วยให้ประชาชนในชุมชนสามารถมีน้ำอุปโภคบริโภคที่มีคุณภาพ ถึงขั้นบริโภคได้โดยปลอดภัย และเรื่องค่าใช้จ่ายรายปีในการดำเนินการเรื่องต้องซื้อสารฆ่าเชื้อและเปลี่ยนวัสดุกรอง รวมถึงการดูแลระบบบริหารจัดการบำรุงรักษา เมื่อติดตั้งระบบเสร็จแล้วเปิดให้บริการตั้งแต่วันนี้ ชุมชนสามารถใช้น้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีองค์กรที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อบริหารน้ำ คือสหกรณ์กลุ่มผู้ใช้น้ำบ้านคลองหวายเล็ก ต้นทุนประมาณคิวละ 4 บาท ที่เหลือเป็นระบบบริหารจัดการและกำไรเข้าสหกรณ์ใช้ช่วยเหลือดูแลหมู่บ้านต่อไป  
 
นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้ ตนจะทำกิจกรรม “จุรินทร์ ออนทัวร์” ในพื้นที่ภาคอีสาน โดยจะเดินทางไปยัง จ.อุดรธานีในวันที่ 17 มิ.ย.นี้ จากนั้นจะไปที่ จ.ขอนแก่นในวันที่ 18 มิ.ย. ตามด้วยวันที่ 19 มิ.ย. จะลงพื้นที่จ.นครราชสีมา

นายกฯ สั่ง สตช.-ดีอีเอส-ฝ่ายปกครอง เข้มงวด ปราบ โต๊ะพนันบอลยูโร พนันออนไลน์ พร้อมจี้ จนท. ตรวจร้านอาหารแอบขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ฝ่าฝืนมาตรการโควิด-19

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นห่วงสถานการณ์การเล่นการพนันในช่วงการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020 รอบสุดท้าย จึงได้กำชับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ฝ่ายปกครอง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้มงวดในการตรวจสอบ ป้องกันการพนันฟุตบอล ทั้งการลักลอบเปิดโต๊ะพนันในพื้นที่ต่างๆ และการพนันออนไลน์ ซึ่งมีอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน โดยขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบ หากพบการกระทำความผิด ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่มีละเว้น 

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ส่งความสุขให้ประชาชน ได้รับชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร 2020 รอบสุด ผ่านช่อง NBT2HD โดยเห็นว่าจะช่วยลดความเครียดจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จึงขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเล่นการพนัน ซึ่งถือว่าผิดกฎหมาย ที่สำคัญยังเสี่ยงต่อการสูญเสียทรัทย์สินจากการเล่นการพนันด้วย นอกจากนี้ ยังขอให้ประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตา พบการลับลอบเปิดโต๊ะพนัน รวมถึงแหล่งพนันออนไลน์ ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ เพื่อดำเนินคดี

นอกจากนี้ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้รับรายงานการลักลอบจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร โดยเป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนดในมาตรการควบคุมโรคตามประกาศของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. จึงกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หมั่นตรวจตราร้านอาหารทุกพื้นที่ เพื่อป้องกันการกระทำความผิด พร้อมย้ำให้เจ้าหน้าที่ไม่ปล่อยปละละเลย อันจะเป็นเหตุของแหล่งแพร่เชื้อโควิด-19 นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้ปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนด จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงคำสั่ง เพื่อความปลอดภัยด้านสุขอนามัย ของทั้งผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการ

รัฐบาล ชี้ ผลงานปราบยาเสพติดข้ามชาติ อื้อ! จ่อถก 6 ชาติลุ่มน้ำโขง-UNODC 5 ก.ค. นี้

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมามีการรายงานข่าวการจับกุมผู้ต้องหาขบวนการค้ายาเสพติดเครือข่ายข้ามพรมแดนและข้ามชาติในหลายกรณี แสดงให้เห็นถึงการดำเนินการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเป็นการทำงานร่วมกันของหลายภาคส่วนประกอบด้วย สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ศูนย์รักษาความปลอดภัย กองทัพไทย ตำรวจปรามปรามยาเสพติด กรมศุลกากร เครือข่ายภาคประชาชน และหน่วยงานต่างประเทศ เป็นต้น โดยสถิติการตรวจยึด นับตั้งแต่ปี 2562 มีปริมาณมากขึ้น โดยเฉพาะยาไอซ์ และเฮโรอีน ที่ถูกนำเข้าเพื่อส่งผ่านไปยังต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ฮ่องกง เป็นต้น ถือเป็นปัญหาร่วมกันของประเทศในภูมิภาค 

ทั้งนี้รัฐบาลโดยสำนักงาน ป.ป.ส. ได้ประสานความร่วมมือกับประเทศลุ่มน้ำโขง 6 ประเทศ คือ จีน เมียนมา ลาว กัมพูชา เวียดนาม และไทย และสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) เพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหาในวันที่ 5 ก.ค.นี้

น.ส.รัชดา กล่าวว่า สำหรับสถิติการจับกุมยาเสพติดในประเทศไทยตั้งแต่ ต.ค.63-มิ.ย.64 ยึดยาบ้า 344 ล้านเม็ด ไอซ์ 20,662 กก. และเฮโรอีน 2,760 กก. ยาอี 279,868 เม็ด รวมทั้งจับกุมยาเสพติดที่เตรียมส่งออกไปยังต่างประเทศ รวม 84 คดี เป็นยาบ้า 39,002 เม็ด ไอซ์ 72.08 กก. เฮโรอีน 285.69 กก. ยาอี 1,922 เม็ด นอกจากดำเนินการจับกุมแล้ว กระทรวงยุติธรรม ยังได้ทำงานเชิงรุกเรื่องการขยายผลการยึดทรัพย์ผู้กระทำผิดคดียาเสพติด ส่งผลให้ ตัวเลขการยึดทรัพย์ ในสามไตรมาสแรก ของปีงบประมาณ 2564 มีมูลค่า 4,549 ล้านบาท มากกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วถึง 3,480 ล้านบาท ซึ่งทางกระทรวงยุติธรรมได้ตั้งเป้ายึดทรัพย์ให้ได้ทั้งปี 6,000 ล้านบาท

น.ส.รัชดา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ความสำคัญในการปราบปรามปัญหายาเสพติด ถือเป็นนโยบายเร่งด่วน และวาระแห่งชาติ ได้ให้การสนับสนุนงบประมาณ สำหรับยกระดับเครื่องมืออุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการเอาผิดยึดทรัพย์ผู้เกี่ยวข้อง พร้อมปรับปรุงกฎหมาย โดยครม. ผ่านร่างกฎหมาย 3 ฉบับ ซึ่งขณะนี้รอการเห็นชอบจากรัฐสภา ประกอบด้วย ร่างพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด ร่างประมวลกฎหมายคดียาเสพติด ร่างพระราชาบัญญัติคดียาเสพติด มีสาระสำคัญ เกี่ยวกับการกำหนดอัตราโทษใหม่ที่เหมาะสม การขยายผลการยึดทรัพย์ ส่งผลทำให้การตัดวงจรและทำลายเครือข่ายยาเสพติดได้สะดวกและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

“เสี่ยโจ้” อัดนายกฯ สอบตก ถามม้าตอบช้าง ไม่มีรายละเอียดใช้เงินกู้ ซัดกองทัพเรือยังจะซื้อเรือดำน้ำทั้งที่ประเทศต้องกู้เงิน จี้ทำโพลถาม ปชช.ควรซื้อไหม

ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พร้อมด้วยนายจิรพงษ์ ทรงวัชรภารณ์ ส.ส.นนทบุรี พรรค พท.ร่วมแถลงข่าว โดยนายยุทธพงศ์ ในฐานะโฆษกรรมาธิการงบประมาณฯ กล่าวถึงความคืบหน้าของกรรมาธิการงบประมาณ 65 ว่า เราเริ่มประชุมเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา เริ่มจากภาพรวมเศรษฐกิจไทย โดยสภาพัฒน์ฯ ยืนยันว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยเติบโตร้อยละ 4-5 ส่วนงบประมาณ 65 จำนวน 3.10 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการจัดเก็บ 2.60 ล้านบาท เงินกู้ 7 แสนล้านบาท ซึ่งกระทรวงการคลังระบุว่าจะจัดเก็บตามเป้าได้ ส่วนงบประมาณปี 64 ที่กำลังใช้อยู่ประมาณ 3.30 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นรายได้ 2.67 ล้านบาท ซึ่งปีนี้กระทรวงการคลังคาดว่าจัดเก็บต่ำกว่าเป้าประมาณ 2 แสนล้านบาท ทั้งนี้ จะพิจารณาตั้งอนุกรรมาธิการรวม 8 คณะโดยจะตั้งอนุกรรมาธิการชุดต่างๆ ในวันที่ 16 มิ.ย.นี้ และในสัปดาห์นี้จะพิจารณากระทรวงการคลังต่อ กระทรวงพาณิชย์ และกระทวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

นายยุทธพงศ์ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้กองทัพเรือได้เปิดเพจเรือดำน้ำทางเฟซบุ๊ก "เรือดำน้ำไทย Thai Submarine" โดยยอมรับว่าตั้งงบซื้อเรือดำน้ำใหม่ 2 ลำ จำนวน 22,500 ล้านบาทอยู่ในงบประมาณปี 65 โดยอ้างว่ามีความจำเป็น เพราะเคยมีเรือดำน้ำประจำการมาก่อนตั้งแต่ปี 2481 สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มาถึงตอนนี้มีความจำเป็นเพราะเป็นเรื่องยุทธศาสตร์ทางทะเล แต่ตอนนี้มีวิกฤตเศรษฐกิจ คนอดอยาก และการแพร่ระบาดของโควิด-19 วันนี้เราไม่มีเงินจะซื้อ ต้องไปกู้เงินมา โดยปี 65 กู้ 7 แสนล้านบาท และสัปดาห์ที่ผ่านมาก็กู้อีก 5 แสนล้านบาท ถามว่าเรือดำน้ำสำคัญอย่างไรกว่าปากท้องและวัคซีนประชาชน หากกองทัพเรือมั่นใจว่าเรือดำน้ำเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน ขอท้าให้กองทัพเรือทำโพลสอบถามประชาชน ว่าในภาวะเช่นนี้เหมาะสมหรือไม่ที่จะซื้อเรือดำน้ำใหม่อีก 2 ลำ ประชาชนเห็นด้วยหรือไม่ จะได้ไม่ต้องมีปัญหาว่ากรรมาธิการฯ คัดค้านหรือมีอคติกับกองทัพเรือ แต่วันนี้ประเทศไม่มีงบประมาณ เป็นความเดือดร้อนของประชาชน อีสานบ้านตนตอนนี้วัวยังติดเชื้อ ไม่มีเงินช่วยเขาเลย ดังนั้นกู้เงินมาแล้วก็ต้องเอามาช่วยประชาชนก่อน

นายยุทธพงศ์ กล่าวถึงการอภิปราย พ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้านบาทที่การพิจารณาของรัฐสภาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า นายกฯ ตอบไม่ตรงคำถาม ใช้เทคนิคถามม้า ตอบช้าง ไม่ตอบสาระสำคัญ พรรคร่วมฝ่ายค้านอภิปรายว่าเหมือนตีเช็คเปล่าให้นายกฯ 5 แสนล้าน โดยไม่มีรายละเอียดการใช้เงิน มีเนื้อหาเพียง 3 บรรทัดว่า เพื่อแก้ไขเยียวยาฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมจากไวรัสโควิด-19 ใช้ในการแพทย์และสาธารณสุข 3 หมื่นล้านบาท ช่วยเหลือเยียวยาประชาชนและเกษตรกร 3 แสนล้านบาท และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม 1.7 แสนล้านบาท ขณะที่เงินกู้เก่า 1.0 ล้านล้านบาท ก็ยังเหลืออยู่ 2.9 แสนล้านบาท ดังนั้นที่ฝ่ายค้านเสนอให้ออก พ.ร.บ.งบประมาณกลางปีเพื่อให้ตรวจสอบการใช้งบได้ ก็ไม่ยอมทำ ตอนนายกฯ มาถึงสภาฯ ก็ไม่ตอบคำถาม แถมมาก็ยังมาพูดข่มขู่ว่าพวกพูดข้างนอกให้ระวัง ตนถือว่าสอบตกเพราะชี้เแจงไม่ได้เลย ส่วนที่บอกว่าไม่โง่หรอกที่จะกู้ถึง 60% ก็ไม่อธิบาย ไปพูดสำนวนโวหาร แล้วก็พูดเลยไปพูดถึง ส.ส.พปชร.ที่ไปพาใครมาแถลงข่าวแทน สรุปไม่ตอบคำถามเรื่องวัคซีนเลย ไม่ตอบว่าจะเอาเงินกู้ไปทำอะไร ที่สำคัญที่ฝ่ายค้านถามเรื่องวัคซีนแอสตร้าฯ ว่าซื้อเท่าไร กำหนดส่งมอบเมื่อไร ที่บอกจะฉีดวัคซีนเป็นวาระแห่งชาติเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา สุดท้ายก็ฉีดได้ 4.1 แสนคน ฉีดไม่ถึงวันละ 5 แสนคนตามที่ตั้งเป้าไว้

ด้านนายจิรพงษ์ กล่าวว่า คนที่มีฐานะสามารถไปฉีดวัคซีนในต่างประเทศได้ ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่ท่านทำได้ แต่ชนชั้นกลางและชนชั้นล่างของประเทศกลับไม่มีสิทธิเลือกวัคซีนได้เลย คนที่ป่วยยังต้องไปนอนโรงพยาบาลสนาม สะท้อนให้เห็นความเหลื่อมล้ำในสังคมไทยได้อย่างชัดเจน รัฐบาลพยายามฉีดวัคซีนให้ประชาชน แต่จำนวนการฉีดวัคซีนให้ประชาชนกลับลดลงเรื่อยๆ จนหมอชนบทออกมาแนะนำให้กระทรวงสาธารณสุข ออกมาพูดความจริงว่าวัคซีนไม่เพียงพอ เจ้าหน้าที่ก็เครียดเพราะกังวลเรื่องการถูกเพ่งโทษ ขณัที่บุคลากรทางการแพทย์ไม่ได้รับเบี้ยเลี้ยง ไม่สามารถเบิกเบี้ยเลี้ยงได้ ให้ใช้งบฯจากโรงพยาบาลไปก่อน ตนจึงขอเรียกร้องให้นำเงินจากการกู้เงินนำมาจัดสรรให้บุคลากรเหล่านี้ด้วย

อนุทิน โพสต์ ชี้ ปมวัคซีน มีบางคนพยายามทำให้ปัญหามันใหญ่ขึ้น

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โพสต์เฟสบุ๊ก ในเพจ Like Anutin ระบุข้อความว่า อย่าให้คนทำงาน กลายเป็น "แพะ" เรื่องการบริหารจัดการวัคซีนนั้น ต่างฝ่าย ต่างมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบตามตัวบทกฎหมายที่กำหนด กระทรวงสาธารณสุขมีหน้าที่ในการจัดหา และกระจายไปตามแผนที่ ศบค.กำหนด เมื่อวัคซีนถึงพื้นที่ ก็เป็นบทบาทของหน่วยงานในพื้นที่นั้นๆ ต้องบริหารจัดการวัคซีนตามที่แสดงเจตจำนงค์ไป ทุกอย่างชัดเจน 

ทว่ายามมีปัญหา ทั้งใน กทม.และจังหวัดอื่นๆ กลับกลายเป็น สธ.ต้องถูกวิจารณ์อย่างสาหัส ทั้งที่ได้ทำหน้าที่อย่างครบถ้วนสุดความสามารถแล้ว อย่าแปลกใจ หากเราจะเห็น คน สธ.ออกมาชี้แจงรัวๆ เรื่องการเลื่อนฉีดวัคซีนในพื้นที่ต่างๆ โดยเน้นย้ำว่า ทางหน่วยงาน ไม่ได้มีอำนาจรับผิดชอบตรงนั้น หากเข้าไปแทรกแซงจะกลายเป็นก้าวก่าย เพราะมาจุดนี้ ดูเหมือนคนทำงาน ที่มีสภาพไม่ต่างจากแพะ ก็ทนแบกรับปัญหาของคนอื่นต่อไปไม่ไหวแล้วเช่นกัน 

เรามักจะพูดเสมอว่าเรื่องโควิด เราต้องช่วยกัน แต่ในความเป็นจริง บางคนก็พยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยกันแก้ปัญหา แต่บางคนกลับพยายามจะทำให้ปัญหามันใหญ่ขึ้นไปอีก 

“ครูกัลยา” ให้ความเชื่อมั่น เด็ก-ผู้ปกครอง เปิดเทอมได้เรียนอย่างปลอดภัยจากโควิด-19 ย้ำรัฐบาลเร่งฉีดวัคซีนให้ครูในพื้นที่เสี่ยงสีแดง กรุงเทพฯ และปริมณฑลโดยเร็วที่สุด

ที่กระทรวงศึกษาธิการ ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้ความเชื่อมั่นกับนักเรียนและผู้ปกครอง เปิดเทอมวันนี้นักเรียนทุกคนจะได้เรียนอย่างครบถ้วนผ่านช่องทางและแพลตฟอร์มที่เหมาะสม อย่างปลอดภัยจากไวรัสโควิด-19 พร้อมย้ำรัฐบาลเร่งฉีดวัคซันให้ครูที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เสียง กรุงเทพฯและปริมณฑลโดยเร็วที่สุด 

ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงการเปิดภาคเรียนปีการศึกษา 2564 ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ ว่า ขณะนี้มีโรงเรียนหลายประเภทได้เปิดเรียนไปตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2564 แล้วเนื่องจากพื้นที่หรือจังหวัดที่โรงเรียนนั้นตั้งอยู่ไม่มีการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 หรือมีน้อยมาก จึงสามารถทำการปฏิบัติการเรียนการสอนที่โรงเรียนได้ปกติภายใต้มาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ของจังหวัดนั้น และเป็นไปตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขในการป้องกันโรคอย่างเข้มงวด

โดยกระทรวงศึกษาธิการขอให้ความมั่นใจว่าโรงเรียนทุกแห่งที่ได้เปิดการเรียนการสอนไปแล้วเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน และที่ได้เปิดในวันนี้ (14 มิถุนายน 2564) มีความพร้อมทั้งในเรื่องการเรียนการสอน รวมถึงเรื่องความปลอดภัยซึ่งให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก โดยโรงเรียนจะจัดการเรียนการสอนใน 5 รูปแบบ คือ 1.) On-site เรียนที่โรงเรียน โดยมีมาตรการเฝ้าระวังตามประกาศของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 (ศบค.) 2.) On-air เรียนผ่านมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือ DLTV 3.) On-demand เรียนผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ 4.) On-line เรียนผ่านอินเตอร์เน็ต และ 5.) On-hand เรียนที่บ้านด้วยเอกสาร เช่น หนังสือ แบบฝึกหัด หรืออาจใช้วิธีอื่นๆ เช่น วิทยุ เป็นต้น เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่  

“กระทรวงศึกษาธิการเรามีประสบการณ์ เกี่ยวกับการเรียนการสอนในทุกช่องทาง และทุกแพลตฟอร์ม ทั้ง On-line On-air On-hand On-demand ต่างๆ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปลายปี 2562 จนถึงปัจจุบัน ทำให้คุณครูและผู้บริหารโรงเรียนสามารถจัดการให้ความพร้อมและความปลอดภัยในการที่นักเรียนจะมาเรียนที่โรงเรียนเลย หรือจะเรียน On-line หรือช่องทางต่างๆ ด้วยอุปกรณ์ที่ครบถ้วน จึงมั่นใจว่านักเรียนทุกคนจะสามารถเรียนได้ในหลายรูปแบบ คุณพ่อคุณแม่หรือผู้ปกครองก็จะได้สบายใจว่าบุตรหลานของท่านจะได้รับการศึกษาอย่างครบถ้วนและปลอดภัยที่สุด โควิด-19 จะไม่สามารถที่จะมาหยุดการเรียนการสอนของเราได้”ดร.คุณหญิงกัลยา กล่าว

นอกจากนี้คุณหญิงกัลยา กล่าวต่อว่า ทางรัฐบาลให้ความสำคัญกับการฉีดวัคซีนให้กับคุณครู และบุคลากรทางการศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคลากรทางการศึกษาที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือพื้นที่สีแดงเข้ม 4 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ, นนทบุรี, ปทุมธานี และสมุทรปราการ ให้ได้รับการฉีดวัคซีนอย่างครบถ้วนโดยเร็วที่สุด 
 

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา โพสต์ข้อความพบปัญหาผู้ได้รับวัคซีน ‘Sinovac’ 2 เข็มแล้ว แต่ภูมิคุ้มกันขึ้นน้อยถึงน้อยมาก ย้ำต้องระมัดระวัง

เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha ระบุว่า

“เริ่มเห็น ปัญหาภูมิขึ้นน้อยถึงน้อยมากมาก…ต้องเริ่มระมัดระวัง

นพ.เขตต์ ศรีประทักษ์

คุณชนิดา รุจิศรีสาโรช

นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา

ผู้ที่ได้รับวัคซีนชิโนแวค ครบสองเข็มไปแล้ว สามถึงสี่สัปดาห์พบว่ามีหลายรายที่ neutralizing antibody ไม่มี หรือที่สูงเพียง 20-30%

การวัด ตัดที่ 20% inhibition คือความสามารถในการยับยั้งไวรัสได้ต้องมากกว่า 20% จึงจะถือว่ามีภูมิคุ้มกัน (ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพ โรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ รพ.จุฬา)

ทั้งนี้ อาจจัดแบ่งออกได้ เป็นสามลักษณะ

1.) คนที่ได้รับวัคซีนตามปกติจะมีการตอบสนองที่สูง กลางและต่ำเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่ต้องขึ้น

วัคซีนเทคนิคเชื้อตายเช่นวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้าต้องฉีดสามเข็มในวันที่ศูนย์ สามและเจ็ดถึงจะเริ่มเห็นภูมิคุ้มกันในเลือดประมาณวันที่ 10 และขึ้นในทุกคนในวันที่ 14

ดังนั้น วัคซีนซิโนแวค ฉีดสองเข็มห่างกันหนึ่งเดือนจึงทำการประเมินที่สามหรือสี่สัปดาห์หลังจากเข็มที่สอง แต่ทั้งนี้ ควรจะต้องมีภูมิขึ้นในระดับน่าพอใจในทุกคน

2.) แต่ในบางกลุ่มที่ได้รับวัคซีนในวันเดียวกัน รับการฉีดที่เดียวกัน ปรากฏว่าไม่มีภูมิขึ้นเลย (น้อยกว่า 20%) อาจเป็นไปได้ว่าวัคซีนในชุดเดียวกันนั้นอาจจะมีปัญหา

3.) มีภาวะประจำตัวที่สำคัญเช่น สูงอายุและมีเบาหวาน ที่ภูมิไม่ขึ้น ทั้งนี้ จากการเก็บข้อมูลของสถาบันแห่งหนี่ง

4.) เริ่มมีการรายงานผู้ป่วย covid-19 ทั้ง ๆ ที่ฉีด Sinovac ครบ 2 เข็ม และ astra 1 เข็มแล้ว

บางรายที่ติดมีการตรวจวัดภูมิคุ้มกันหลังฉีดแล้วว่าขึ้น แต่ไม่สูงมาก

• ดังนั้น ในกรณีที่ภูมิไม่ขึ้นหรือขึ้นน้อยกว่า 68% ซึ่งเป็นตัวเลขในทางทฤษฎีที่มีความสัมพันธ์กับการป้องกันการติด อาจจะต้องพิจารณาถึงการได้รับวัคซีนเข็มที่สามไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อเก่าหรือยี่ห้อใหม่ก็ตาม

• นอกจากนั้น ในกรณีของการเกิดอาการแพ้หรือมีผลข้างเคียงไม่ว่าจะเป็นวัคซีนอะไรก็ตาม ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าทำให้ภูมิคุ้มกันยิ่งสูงขึ้น เพราะเป็นการอักเสบผ่านทางคนละระบบ

• ทางการสิงคโปร์ยินยอมให้ผู้ที่มีประวัติแพ้ยาหรือแพ้อาหารอย่างรุนแรงฉีด mRNA ได้ แต่ปรากฏว่าด้วยสาเหตุอะไรอธิบายไม่ได้ คนสิงคโปร์มีปฏิกิริยาแพ้ค่อนข้างรุนแรงต่อวัคซีน ดังนั้น ให้เป็นข้อปฏิบัติว่าถ้ามีอาการแพ้ดังกล่าวให้ไปฉีดวัคซีนอื่นเช่นซิโนแวค”


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top