Tuesday, 17 June 2025
NewsFeed

'ก.ต่างประเทศไทย' ออกแถลงการณ์ ยืนยันความภาคภูมิใจ ในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

เมื่อวานนี้ (8 ส.ค.67) นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยแถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศ ต่อกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งยุบพรรคก้าวไกล โดยยืนยันว่า...

คำวินิจฉัยดังกล่าว เป็นเอกสิทธิ์ และอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งอยู่ภายใต้ บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ตามหลักการแบ่งแยกอำนาจ และคำตัดสินของศาล เป็นสิ่งที่ไม่อาจสามารถแทรกแซงได้ โดยอำนาจอื่นหรืออำนาจรัฐบาล และผลคำตัดสินดังกล่าวมีผลผูกพันตามกฎหมาย และต้องได้รับความเคารพโดยปวงชนชาวไทย

อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยังเน้นย้ำอีกว่า ประเทศไทยจะยังคงดำเนินแนวทางค่านิยมตามหลักการประชาธิปไตย และในฐานะรัฐภาคีของกติการะหว่างประเทศ ว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง และย้ำความมุ่งมั่นต่อพันธกรณี และเสรีภาพการแสดงออก เสรีภาพในการสมาคม เสรีภาพในการชุมนุมอย่างสันติ และเสรีภาพในการจัดตั้งพรรคการเมือง

ประเทศไทยมีความภาคภูมิใจในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นส่วนสำคัญยิ่งต่อขนบประเพณีไทย ที่สร้างความเป็นชาติตลอดห้วงประวัติศาสตร์ของไทย และประเทศไทย จะดำเนินตามขนบประเพณีและระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขนี้อย่างมั่นคง ด้วยความภาคภูมิใจ และมีศักดิ์ศรี พร้อมเชื่อมั่นว่า ประชาชนคนไทยทุกคน จะเคารพในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และร่วมการนำพาประเทศไปข้างหน้า ตามวิถีทางประชาธิปไตยต่อไป

‘HP’ เล็งย้ายฐานจากจีนมาไทย เลี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ 'จีน-ไต้หวัน' เผย!! ซัพพลายเออร์กำลังสร้างโรงงาน-คลังสินค้าใหม่ในไทย

(9 ส.ค.67) สำนักข่าวนิกเกอิเอเชีย ระบุว่า 'เอชพี' (HP) บริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่จากสหรัฐฯ มีแผนจะย้ายฐานการผลิตคอมพิวเตอร์พีซี มากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ จากจีนมายังประเทศไทย เพื่อลดความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างจีนกับไต้หวัน นับเป็นความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญที่สุดของ HP ในการกระจายห่วงโซ่อุปทานออกจากจีน 

โดยแผนการดังกล่าวถือเป็นการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่ HP เคยดำเนินการมา เพื่อกระจายห่วงโซ่อุปทานออกจากเขตเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียอย่างจีน โดยบริษัทซัพพลายเออร์ของ HP อย่างน้อย 5 ราย กำลังสร้างโรงงานผลิตและคลังสินค้าแห่งใหม่ในไทย 

ปัจจุบัน HP มีฐานการผลิตใหญ่ที่สุดอยู่ในประเทศจีน สร้างเครือข่ายห่วงโซ่อุปทานร่วมกับซัพพลายเออร์ครอบคลุมทั่วประเทศจีน รวมถึงการพัฒนาเมือง 'ฉงชิ่ง' ให้กลายเป็นศูนย์กลางการส่งออกคอมพิวเตอร์พีซีชั้นนำของโลก 

ขณะที่ข้อมูลของบริษัทวิจัยไอดีซี ระบุว่า HP เป็นบริษัทที่จำหน่ายเครื่องคอมพิวเตอร์พีซี มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากเลอโนโว โดยมีการส่งมอบคอมพิวเตอร์พีซี มากถึงราว 52 ล้านเครื่องในปี 2566 

'ไปรษณีย์ไทย' จัดทำแสตมป์เฉลิมพระเกียรติ ‘สมเด็จพระพันปีหลวง' วางจำหน่าย 12 สิงหาคมทั่วประเทศ ในราคาดวงละ 9 บาท

(9 ส.ค.67) บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ออกแสตมป์เทิดพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 92 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง อัญเชิญพระฉายาลักษณ์ในฉลองพระองค์ชุดราตรีตัดเย็บด้วยผ้าไหม ประดับด้วยลูกปัดเลื่อม และปีกแมลงทับ มาจัดพิมพ์เป็น ดวงแสตมป์ ประกอบตราพระนามาภิไธยย่อ ส.ก. พร้อมเทคนิคพิเศษพิมพ์ทองบริเวณขอบนอกของแสตมป์และพิมพ์สปอตยูวีบริเวณเครื่องประดับและลวดลายปีกแมลงทับที่ฉลองพระองค์ พร้อมจำหน่าย 12 สิงหาคมนี้ ที่ไปรษณีย์ในกรุงเทพฯ และไปรษณีย์ประจำจังหวัด หรือช่องทางออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน/เว็บไซต์ www.thailandpostmart.com

ด้าน ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวว่า ไปรษณีย์ไทยจัดสร้างแสตมป์ที่ระลึกชุดวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 92 พรรษา 12 สิงหาคม 2567 โดยแสตมป์ชุดดังกล่าวได้อัญเชิญพระฉายาลักษณ์ในฉลองพระองค์ชุดราตรีตัดเย็บด้วยผ้าไหม ประดับด้วยลูกปัดเลื่อม และปีกแมลงทับมาจัดพิมพ์เป็น ดวงแสตมป์ ประกอบตราพระนามาภิไธยย่อ ส.ก. และยังได้ใช้เทคนิคพิเศษพิมพ์ทองบริเวณขอบนอกของแสตมป์และพิมพ์สปอตยูวีบริเวณเครื่องประดับและลวดลายปีกแมลงทับที่ฉลองพระองค์ เพื่อให้เกิดความเงาแวววาว สำหรับงานตกแต่งด้วยปีกแมลงทับนั้น สืบเนื่องจากพระราชดำริของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานแนวทางให้นำปีกแมลงทับมาประดับบนฉลองพระองค์ รวมถึงนำมาทำเป็นเครื่องประดับประเภทต่าง ๆ โดยให้มีการศึกษาค้นคว้าและวิจัยการเพาะเลี้ยงแมลงทับเพื่อนำมาเป็นวัตถุดิบในการประดิษฐ์เป็นผลิตภัณฑ์ของมูลนิธิศิลปาชีพอย่างยั่งยืนเพื่อเป็นศิลปหัตถกรรมคงอยู่คู่ชาติไทย

ทั้งนี้ แสตมป์จะจำหน่ายในราคาดวงละ 9 บาท (เต็มแผ่น 10 ดวง) ซองวันแรกจำหน่ายราคา 21 บาท โดยออกจำหน่าย 12 สิงหาคมนี้ ที่ไปรษณีย์ในกรุงเทพฯ และไปรษณีย์ประจำจังหวัด หรือทางออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน/เว็บไซต์ www.thailandpostmart.com หรือสอบถามเพิ่มเติมฝ่ายบริหารลูกค้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์บริการไปรษณีย์ โทร 0 2573 5480 , 0 2573 5463

'ลอรี่' ขอบคุณรัฐบาลสหรัฐฯ ห่วงใย ปมยุบ 'ก้าวไกล' หวัง!! คงไม่นำมาใช้สร้างแรงกดดันต่อกันในเวทีสากล

ไม่นานมานี้ นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ หรือ ‘ลอรี่’ รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกรณีนายแมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา ได้แสดงความเป็นกังวลต่อสถานการณ์การเมืองไทย หลังเหตุยุบพรรคก้าวไกลที่ระบุว่าคำตัดสินศาลอาจเป็นการบั่นทอนประชาธิปไตยในประเทศไทย โดยได้ชี้แจงเป็นภาษาอังกฤษ (แปลไทย) ความว่า...

“ผมลอรี่ พงศ์พล ยอดเมืองเจริญ ในฐานะตัวแทนประชาชนคนไทย เรายินดีน้อมรับความเป็นห่วงของท่าน แต่คงไม่มีประโยชน์อะไร หากนำมันมาสร้างแรงกดดันต่อกัน ระหว่างประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา ในเวทีสากล

เพราะประเด็นภายในชาติเรื่องนี้ มีความละเอียดอ่อน ความพยายามที่จะแก้ หรือยกเลิกกฎหมาย ‘Lèse-majesté’ หรือ ม.112 อันเป็นกฎหมายคุ้มครองประมุขแห่งรัฐ ซึ่งประเทศโดยมากมีบังคับใช้กันทั่ว ถือเป็นพฤติกรรมชัดเจนว่าเป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบการปกครองไทย ที่เป็นประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข แยกขาดจากกันไม่ได้

ศาลรัฐธรรมนูญไทย ได้วินิจฉัย เมื่อพรรคมีความผิดสำเร็จในพฤติกรรมที่ทำให้สถาบันกษัตริย์อ่อนแอลง ย่อมเป็นการกระทำที่เป็นการบ่อนทำลายต่อระบอบการปกครองไทยอย่างเลี่ยงไม่ได้

ผมหวังว่าท่านจะเข้าใจสถานการณ์การเมืองในประเทศไทย ไม่ได้มีอะไรน่าเป็นห่วง กฎหมายต้องเป็นกฎหมายบังคับใช้ได้ ขณะที่พรรคการเมืองจัดตั้งใหม่ ที่ทางพรรคก้าวไกลเปิดตัว ก็สามารถต่อสู้ในแนวทางประชาธิปไตยของตัวเองต่อไปได้

ขอบคุณในความห่วงใย.. แต่ประเทศไทยเราโอเค“

'อั้ม เนโกะ' รับ!! ไม่เห็นด้วย ศาลรธน. ยุบพรรคเลวๆ แม้จะทรยศผลประโยชน์ส่วนรวมของ ปชช.ในสังคม

(9 ส.ค.67) อั้ม เนโกะ-ศรัณย์ ฉุยฉาย นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งลี้ภัยอยู่ในประเทศฝรั่งเศส โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก วิจารณ์คำตัดสินยุบพรรคก้าวไกลของศาลรัฐธรรมนูญ และวิจารณ์พรรคก้าวไกล โดยระบุว่า...

“ทุกคนรู้โลกรู้ว่าบริบททางอำนาจของศาลไทยเป็นยังไง ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการยุบพรรคส้ม แม้ว่าจะเป็นพรรคที่อ่อนหัดทางการเมือง เป็นพรรคขี้ข้าจักรวรรดินิยมตะวันตก ทรยศผลประโยชน์ส่วนรวมของประชาชนในสังคม อ้างประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชนพร้อมหันหน้าซุกไข่ประเทศมหาอำนาจที่ใช้คำว่าสิทธิมนุษยชนเป็นเครื่องหมายทางการค้า โดยไม่มีความคิดวิพากษ์หรือต่อต้านแต่อย่างใด ดังนั้นแล้วต่อให้พรรคก้าวไกลจะไม่ได้เป็นพรรคก้าวหน้า ไม่ใช่พรรคฝ่ายซ้าย หรือเป็นพรรคที่สามารถนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงได้ อั้มก็ไม่เห็นด้วยกับการยุบพรรคเลว ๆ นี้ค่ะ”

‘ผู้ถือหุ้นกู้ EA’ รุ่น EA248A โหวตหนุน ยืดหนี้ 9 เดือน 16 วัน รับดอกเบี้ยเพิ่มเป็น 5% จ่ายทุก 6 เดือน ชี้!! ไม่ถือเป็นเหตุผิดนัด

(9 ส.ค. 67) บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (EA) ได้มีการจัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ รุ่น EA248A วงเงิน 1,500 ล้านบาท ซึ่งจะครบกำหนดชำระในวันที่ 15 สิงหาคม 2567 โดยผู้ถือหุ้นกู้ 98.5849% ได้ลงมติอนุมัติขยายวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ไปอีก 9 เดือน 16 วัน มีเพียง 1.4151% ไม่เห็นด้วย

ทั้งนี้ ส่งผลให้ หุ้นกู้ รุ่น EA248A ไม่ถือเป็นเหตุผิดนัด และการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยจากเดิม 3.11% เพิ่มอีก 1.89% รวมเป็น 5.00% ต่อปี พร้อมชำระดอกเบี้ยทุก ๆ 6 เดือน (ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 และวันครบกำหนดไถ่ถอน) และมีการเพิ่มหลักประกันแก่หุ้นกู้ โดยบริษัทฯยืนยันว่าจะชำระดอกเบี้ยที่จะครบกำหนด เพียงขอเลื่อนการไถ่ถอนเฉพาะเงินต้นเท่านั้น

นายวสุ กลมเกลี้ยง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน (CFO)  กล่าวว่า สำหรับแหล่งที่มาของเงินทุนที่ใช้ในการชำระหนี้หุ้นกู้ และดอกเบี้ยมาจาก 

1.กระแสเงินสดจากรายได้ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และโรงไฟฟ้าพลังงานลมประมาณ 1,000 ล้านบาท/ เดือน ซึ่งเป็นกระแสเงินสดหลักให้กับบริษัทฯ 

2.เงินทุนที่ได้รับจากการเข้าร่วมทุนกับผู้ร่วมทุนรายใหม่ (Strategic Partner) ที่ให้ความสนใจที่จะร่วมลงทุนเพื่อพัฒนาในโครงการต่าง ๆ ของบริษัทฯ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา 

3.การจำหน่ายสินทรัพย์ของบริษัทฯให้กับนักลงทุนที่ให้ความสนใจ รวมถึงการระดมทุนผ่านกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund)

“EA ขอยืนยันและรับรองว่าการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ยังคงดำเนินการเป็นไปตามปกติ และขอให้ผู้ถือหุ้นกู้ทุกรุ่นเชื่อมั่นว่าภาพรวมของการประกอบธุรกิจ ยังมีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจะมีรายได้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ” นายวสุกล่าว

ครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มที่ดีสำหรับการแก้ปัญหาสภาพคล่องระยะสั้นของ EA หลังจากเจ้าหนี้สถาบันการเงิน 9 แห่ง พร้อมสนับสนุนสินเชื่อใหม่ และ ผู้ถือหุ้นกู้ EA รุ่น EA248A อนุมัติขยายเวลาชำระหนี้ และมั่นใจว่าการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ EA รุ่น EA249A ในวันที่ 14 ส.ค.นี้ จะได้รับการสนับสนุนพิจารณาอนุมัติขยายระยะเวลาการชำระหนี้ออกไปเช่นเดียวกัน

‘กฟผ.’ ประกาศอัดฉีด ‘จอมพลัง’ ทีมชาติไทย โอลิมปิกปารีส 2024 ชี้!! หาก ‘ส้ม ดวงอักษร’ นักกีฬาคนสุดท้าย คว้าทองได้ รับไปเลย 5 ลบ.

(9 ส.ค.67) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ประกาศอัดฉีดจอมพลังทีมชาติไทย ชุดโอลิมปิกเกมส์ 2024 เหรียญเงิน 3 ล้านบาท และเหรียญทองแดง 2 ล้านบาท หากจอมพลังคนสุดท้าย ‘ส้ม’ ดวงอักษร ใจดี พิชิตเหรียญทอง รับไปเลย 5 ล้านบาท โดยมีกำหนดการมอบเงินในวันที่ 14 สิงหาคมนี้ ที่ห้องประชุมเกษม จาติกวณิช การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย สำนักงานใหญ่

ตามที่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นผู้สนับสนุนหลักของสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทยมาอย่างยาวนาน จนทำให้กีฬายกน้ำหนักของไทยสามารถก้าวไปอยู่ระดับแนวหน้าของโลก

จากผลงานการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2024 ‘ปารีสเกมส์’ ขณะนี้จอมพลังไทยสามารถคว้ามาแล้ว 2 เหรียญเงิน จาก ธีรพงศ์ ศิลาชัย ในรุ่น 61 กก.ชาย, วีรพล วิชุมา รุ่น 73 กก.ชาย และ 1 เหรียญทองแดง จากสุรจนา คำเบ้า รุ่น 49 กก.หญิง

ล่าสุด กฟผ.ได้แจ้งกับสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทยว่า จะมอบเงินให้กับนักกีฬายกน้ำหนักที่ได้รับเหรียญรางวัล โดยเหรียญเงินจะมอบให้ 3 ล้านบาท และเหรียญทองแดง 2 ล้านบาท

ทั้งนี้ ยังมีนักกีฬายกน้ำหนักอีก 1 คน คือ ดวงอักษร ใจดี ที่เตรียมขึ้นเวทีแข่งขันในวันที่ 11 สิงหาคมนี้ เวลา 16.30 น.ตามเวลาประเทศไทย หากสามารถคว้าเหรียญทองมาครองได้ จะมอบเงินให้จำนวน 5 ล้านบาท โดยกำหนดการมอบเงินรางวัลจะมีขึ้นในวันที่ 14 สิงหาคม 2567 เวลา 15.30 น. ที่ห้องประชุมเกษม จาติกวณิช การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย สำนักงานใหญ่

การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เป็นผู้สนับสนุนหลักของสมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ มาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 2547 ซึ่งในปีแรกสนับสนุนงบประมาณ 7,000,000 บาท และในปีนั้นมีการแข่งขันโอลิมปิก ครั้งที่ 28 ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ จอมพลังไทยทำผลงาน 2 เหรียญทอง 2 เหรียญทองแดง ก่อนที่ในโอลิมปิกครั้งต่อ ๆ มา นักยกลูกเหล็กของไทยก็สามารถคว้าเหรียญรางวัลได้อย่างต่อเนื่อง จนถึงโอลิมปิกเกมส์ 2024

อนึ่ง คณะนักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทยชุดโอลิมปิกเกมส์จะเดินทางกลับถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ในวันที่ 14 สิงหาคม 2567 โดยสายการบินไทย เที่ยวบิน TG931 เวลา 05.50 น.

สรุปเงินรางวัลจากการคว้าเหรียญเงินของทัพยกน้ำหนักไทย มาจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ การกีฬาแห่งประเทศไทย 7.2 ล้านบาท (จ่ายเป็นเงินก้อนอัตราร้อยละ 50 ส่วนอีกร้อยละ 50 แบ่งจ่ายเป็นรายเดือนในระยะเวลา 4 ปี), เงินเดือนจากคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ เดือนละ 10,000 บาท เป็นเวลา 20 ปี เป็นเงิน 2.4 ล้านบาท, การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) 3 ล้านบาท และจาก บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) 5 แสนบาท รวมเป็นเงิน 13.1 ล้านบาท

สำหรับเงินรางวัลจากการคว้าเหรียญทองแดงของทัพยกน้ำหนักไทย มาจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ การกีฬาแห่งประเทศไทย 4.8 ล้านบาท (จ่ายเป็นเงินก้อนอัตราร้อยละ 50 ส่วนอีกร้อยละ 50 แบ่งจ่ายเป็นรายเดือนในระยะเวลา 4 ปี), เงินเดือนจากคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ เดือนละ 8,000 บาท เป็นเวลา 20 ปี เป็นเงิน 1.92 ล้านบาท, การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) 2 ล้านบาท และจาก บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) 3 แสนบาท รวมเป็นเงิน 9.02 ล้านบาท

‘ชาวจีน’ ในกุ้ยหยาง ปลื้ม!! ‘อาหารไทย’ ยก ‘ต้มยำกุ้ง’ เมนูเด็ดสุด โต๊ะทั้งหมดถูกจองจนเต็มไม่ถึง 1 ชม. แม้เพิ่งเปิดร้านมา 2 เดือน

(9 ส.ค.67) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ห้วงยามเย็นก่อนพลบค่ำ เหล่าลูกค้าทยอยต่อคิวที่ร้านอาหารไทยแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ย่านแลนด์มาร์กใหม่ในเมืองกุ้ยหยาง มณฑลกุ้ยโจวทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน โดยโต๊ะทั้งหมดถูกจับจองจนเต็มภายในระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง และเกิดแถวรอคิวเป็นทางยาวอยู่หน้าจุดต้อนรับลูกค้า

ด้าน จ้าวหลินปิง เจ้าของร้านอาหารไทยแห่งนี้ ซึ่งเปิดทำการอย่างเป็นทางการเพียง 2 เดือนกว่า รู้สึกถึงการยอมรับและความนิยมชมชอบอาหารไทยของชาวเมืองกุ้ยหยาง ก่อให้เกิด ‘บทสนทนาเรื่องอาหาร’ ระหว่างจีนกับไทย โดยหนึ่งในเมนูยอดนิยมหนีไม่พ้น ‘ต้มยำกุ้ง’ ที่ถูกปากชาวเมืองกุ้ยหยางอย่างมาก

"รสเปรี้ยวของต้มยำกุ้งมาจากมะนาวเป็นหลัก ส่วนรสเปรี้ยวของซุปในกุ้ยโจวมาจากวัตถุดิบอย่างมะเขือเทศ" จ้าวกล่าว โดยไทยที่เป็นประเทศริมทะเลและกุ้ยโจวที่เป็นมณฑลภูเขาสูงต่างมีหลักการปรุงอาหารคล้ายกัน เช่น ปรับรสชาติเข้ากับท้องถิ่น ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ รักษารสชาติต้นตำรับ รวมถึงเก่งกาจเรื่องนึ่งและย่าง

นอกจากเมนูหลักที่เป็นอาหารไทยดั้งเดิม จ้าวและทีมงานยังทดลองใช้วัตถุดิบท้องถิ่นและวัฒนธรรมอาหารอันมีเอกลักษณ์ในกุ้ยโจวด้วย เช่น ไก่ย่างขอนแก่นที่เป็นเมนูยอดนิยมตามคำบอกของลูกค้า พวกเขาเสิร์ฟทั้งน้ำจิ้มแบบไทยและผงพริกสไตล์กุ้ยโจวที่มีคุณภาพสูงและเข้ากับไก่ย่างขอนแก่นได้ดี

ปัจจุบันร้านอาหารไทยแห่งนี้ยังคงรังสรรค์เมนูต่าง ๆ ที่ถูกปากชาวเมืองกุ้ยหยางเพิ่มเติม เพื่อเป็นที่ยอมรับของคนท้องถิ่นเพิ่มขึ้นพร้อมกับรักษาความเป็นไทย โดยจ้าวและทีมงานเข้าใจเกี่ยวกับอาหารและวัฒนธรรมของอาเซียนอย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะไทย และทดลองประสานอาหารไทยและจีนเพื่อสร้างรสชาติใหม่ตลอดสิบปีที่ผ่านมา

ณ เมืองคุนหมิง มณฑลอวิ๋นหนาน (ยูนนาน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ทีมงานของจ้าวสร้างสรรค์อาหารไทยที่สอดคล้องกับดอกไม้ตามฤดูกาล เพื่อตอบสนองความนิยมรับประทานดอกไม้ในท้องถิ่น โดยพวกเขายังคงความเปรี้ยวและความกลมกล่อมของอาหารไทย พร้อมผสมผสานกลิ่นหอมและความหวานของดอกไม้ที่ชาวเมืองคุนหมิงชื่นชอบ

ทุกวันนี้ทีมไท่ส่วงจินได้เปิดร้านอาหารไทย 5 แห่งแล้ว ซึ่งสาขาเมืองกุ้ยหยางเป็นสาขาแรกนอกเมืองคุนหมิง ตั้งอยู่ที่ศูนย์การค้านิว ปรินติง 1950 ดิสคัฟเวอรี โปรเจค (New Printing 1950 DISCOVERY Project) ที่ดัดแปลงมาจากโรงพิมพ์เก่าโดยรัฐบาลกุ้ยหยางเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

ช่วงลูกค้าแน่นร้านจะได้เห็นทั้งคนหนุ่มสาวและคนวัยกลางคนนั่งรับประทานอาหารกันอย่างคึกคักเป็นจำนวนมาก โดยกุ้ยเสี่ยวหมิ่น ซึ่งมารับประทานอาหารกับกลุ่มเพื่อน เผยว่าลูกของเขาแนะนำร้านอาหารไทยแห่งนี้เลยมาลองรับประทานดูและพบว่ารสชาติอร่อยตามต้นตำรับจริง ๆ

ด้าน พานจวิ้น ผู้จัดการร้านชาวไทยที่ทำงานร่วมกับทีมงานของจ้าวมานาน 11 ปี รู้สึกยินดีกับกระแสตอบรับ พร้อมเผยว่าวิธีปรุงอาหารของไทยกับจีนคล้ายกันมาก ขณะวัตถุดิบท้องถิ่นจากคุนหมิงและกุ้ยหยางมีความเฉพาะตัว การผสมผสานวัฒนธรรมและจุดเด่นของสองประเทศจึงมีนัยยะที่ดีไม่น้อย

ทั้งนี้ อาหารเปรียบดังสะพานที่ช่วยให้การแลกเปลี่ยนระหว่างไทยกับจีนใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น โดยทีมไท่ส่วงจินประเมินว่ามีร้านอาหารอาเซียนในคุนหมิงหลายพันแห่ง ส่วนในกุ้ยหยางมีร้านอาหารอาเซียนมากกว่า 20 แห่ง รวมถึงร้านอาหารไทย ขณะแผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) สนับสนุนการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและการค้าระหว่างสองประเทศ

จ้าวมองว่าการเดินทางระหว่างจีนกับไทยสะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยอานิสงส์จากนโยบายยกเว้นวีซ่าและอำนวยความสะดวกทางการค้าต่าง ๆ ซึ่งช่วยให้เขาเดินทางสำรวจกระแสในตลาดอาหารไทยได้บ่อยครั้ง และนำเข้าวัตถุดิบอาหารไทยที่สดใหม่ในราคาที่ดียิ่งขึ้นด้วย

"วัตถุดิบเกือบร้อยละ 80 ของร้านสาขาในกุ้ยหยางนำเข้าจากไทย โดยเฉพาะอาหารทะเลบางส่วนถูกขนส่งทางอากาศถึงคุนหมิงหรือกุ้ยหยางภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังจากสั่งซื้อตอนเช้า" จ้าวกล่าว พร้อมแสดงความหวังว่าจะมีการดำเนินนโยบายเพิ่มเติมเพื่อเกื้อหนุนการแลกเปลี่ยนระหว่างจีนกับไทย และสร้างพื้นที่ความร่วมมือเพื่อการค้าและการท่องเที่ยวท้องถิ่น

'รัดเกล้า' เตือน!! ข่าวโปรโมชัน ปตท.เติมน้ำมัน 245 บาท เป็นเฟกนิวส์ แนะ!! ควรตรวจสอบแหล่งที่มาให้แน่ชัด ก่อนเชื่อหรือส่งต่อ

(9 ส.ค. 67) นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่พบว่ามีการนำเสนอโปรโมชันเติมน้ำมัน 245 ฟรี 245 บาท ผ่านข้อความ SMS และให้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์เพื่อรับสิทธิ์ โดยมีการใช้ชื่อ ปตท. นั้น บริษัท ปตท. น้ำมัน และการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) กระทรวงพลังงาน ชี้แจงว่า ปตท. ไม่ได้จัดทำประชาสัมพันธ์หรือโปรโมชัน และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินการดังกล่าวนี้แต่อย่างใด

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้ตรวจสอบข้อมูลข่าวสารจากแหล่งที่เชื่อถือได้ โดยข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และบริการจากบริษัท ปตท. น้ำมัน และการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) กระทรวงพลังงาน สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.pttor.com หรือ โทร. 02-196-5959

ทั้งนี้ รัฐบาล โดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) มีความห่วงใยประชาชนถึงข่าวปลอม (fake news) ที่ถูกแพร่กระจายบนสื่อออนไลน์ และโซเชียลมีเดีย ซึ่งหากขาดความรู้ และมีการส่งต่ออาจทำให้ได้รับข้อมูลที่ผิด และส่งผลกระทบกับประชาชนที่หลงเชื่อ โดยประชาชนสามารถติดตามข่าวสาร และชี้แจงเบาะแสข่าวปลอมได้ที่เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com/ หรือโทรสายด่วนศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม GCC 1111 ต่อ 87 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

🔎ส่องโครงสร้างราคาน้ำมันแต่ละลิตร ประกอบด้วยอะไรบ้าง??

ในน้ำมันแต่ละลิตรที่เราใช้กันในทุกวันนี้ ประกอบด้วยราคาทั้งหมด 4 ส่วนดังนี้

>>40 - 60% ต้นทุนเนื้อน้ำมัน คือ ต้นทุนน้ำมันสำเร็จรูปที่ผลิตจากโรงกลั่น ซึ่งอ้างอิงราคาตามตลาดกลางภูมิภาคเอเชีย

>>30 - 40% ภาษีต่าง ๆ ได้แก่ ภาษีสรรพสามิต ภาษีเทศบาล และภาษีมูลค่าเพิ่ม เพื่อนำมาใช้เป็นงบประมาณในการพัฒนาประเทศ และบำรุงท้องถิ่น

>>5 - 20% กองทุนต่าง ๆ เช่น กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง: เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศไม่ให้เกิดความผันผวน และ กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน: เพื่อส่งเสริมสนับสนุนพลังงานทางเลือก พลังงานทดแทน เพื่อประสิทธิภาพและลดการใช้พลังงาน

>>10 - 18% ค่าการตลาด คือ ส่วนที่เป็นต้นทุน ค่าใช้จ่าย และกำไรของธุรกิจค้าปลีกน้ำนั้นทั้งระบบ

ในส่วนของ ‘ราคาขายปลีก’ ในปัจจุบัน ก็จะประกอบด้วย ราคา ณ โรงกลั่น / ภาษีสรรพสามิต / ภาษ / เทศบาล / กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง / กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน / ค่าการตลาด / ภาษีมูลค่าเพิ่ม

สำหรับแนวทางการแก้ไขภายใต้การนำของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นั้น นายพีระพันธุ์ ได้เปิดเผยผ่านรายการ ‘คนดังนั่งเคลียร์’ ว่า… 

“ที่บอกว่าราคาต้นทุนหน้าโรงกลั่นคือ 20 บาท ไม่รู้มาจากไหน ราคาจริงเท่าไหร่ไม่อาจรู้ได้ ซึ่งผมว่าเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว ดังนั้นจึงต้องใช้ระบบ Cost Plus คือ ต้นทุนจริงบวกค่าใช้จ่ายจริง จะได้เป็นราคาขายจริง…

“อีกเรื่องที่ต้องแก้ไขคือ ‘เงินสมทบเข้ากองทุน’ กฎหมายกำหนดให้ผู้ค้าน้ำมันเป็นคนจ่าย เปรียบเหมือนภาษี และเมื่อจ่ายไปแล้ว ก็เป็นต้นทุนที่ต้องไปหักในส่วนของค่าดำเนินงาน ไม่ใช่นำมาบวกในค่าน้ำมัน แต่หากนำมาบวกในค่าน้ำมัน หมายความว่าเป็นการผลักภาระให้ประชาชนต้องจ่าย ซึ่งไม่ถูกต้อง นี่คือสิ่งที่ผมต้องทำเป็นกฎหมายใหม่หมดเลย”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top