Friday, 9 May 2025
NewsFeed

สีสันจากต่างประเทศ เมื่อทางการลาสเวกัสต้องการดึงดูดให้คนฉีดวัคซีนโควิด-19 จึงผุดไอเดียแปลกตั้งบูธฉีดวัคซีนไว้ในคลับเปลื้องผ้าเสียเลย

ความต้องการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในสหรัฐฯ ที่ลดลง ทำให้หลายพื้นที่พากันเค้นไอเดียหาวิธีที่จะดึงดูดให้ประชากรในสหรัฐฯ หันมาฉีดวัคซีนโควิด-19 มากขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ภาครัฐและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในลาสเวกัสก็เป็นกลุ่มหนึ่งที่ประสบปัญหาดังกล่าว

พวกเขาจึงหันมาใช้วิธีที่แหวกแนวมากขึ้นในการจูงใจให้ผู้คนมาฉีดวัคซีนโควิด-19 ด้วยการเปลี่ยน Larry Flynt’s Hustler Club คลับสำหรับผู้ใหญ่ที่เคยมีโชว์เปลื้องผ้ามาเป็นคลินิกฉีดวัคซีนแบบวอล์กอินแทน

โจแอนน์ รูปิเปอร์ หัวหน้าพยาบาลของฝ่ายบริการสาธารณสุขรัฐเนวาดาใต้ ซึ่งดูแลคลินิกแบบวอล์กอิน กล่าวว่า “นี่เป็นอีกวิธีหนึ่งในการเข้าถึงประชากรของเรา...มันอาจจะช่วยดึงดูดบางคนที่ชอบความแปลกใหม่ให้มาฉีดวัคซีนจนได้ ฉันคิดว่านะคะ”

คลินิกแห่งนี้เปิดทำการเฉพาะหัวค่ำ โดยให้บริการแก่ประชากรได้ประมาณ 100 คนต่อวัน หลังจากนั้นก็จะคืนพื้นที่ให้คลับเปลื้องผ้าเปิดทำการตามปกติ พนักงานหลายคนในคลับ รวมถึงเหล่านักแสดงโชว์ต่างก็เข้ารับการฉีดวัคซีนที่นี่

ผู้รับวัคซีนโควิด-19 บางคนที่เดินทางมาฉีดวัคซีนที่นี่ยอมรับว่า แต่เดิมพวกเขาไม่ได้เต็มใจที่จะรับวัคซีน แต่ตัดสินใจที่จะมารับวัคซีนเพราะต้องการมาดูโชว์ในคลับแห่งนี้ ถือเป็นผลพลอยได้

โรเบอร์โต มอนต์ติ ซึ่งอาศัยอยู่ใกล้กับคลับดังกล่าว เล่าว่า เขาคิดจะไปฉีดวัคซีนในสถานอื่น แต่สุดท้ายตัดสินใจมาที่ Hustler Club เพราะรู้สึกคุ้นเคยมากกว่า

“ผมเคยมาที่นี่หลาย...เอ่อ สองสามครั้ง...จริง ๆ อาจจะเป็น 10 ครั้งแหละ (หัวเราะ)” มอนต์ติบอก

ด้าน ไมเคิล ไมเยอร์ส ชาวเมืองลาสเวกัสกล่าว ขณะที่เขายืนรอคิวอยู่ท่ามกลางภาพวาบหวิวและป้ายแนะนำการเว้นระยะห่างทางสังคมว่า “ตอนภรรยาของผมบอกว่าที่นี่มีบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ผมก็ถามเธอว่า ‘โอ้ จริงหรอ’ พอเธอบอกว่าจริงผมก็ตอบกลับเลยว่า ‘ขอคิดดูสักครู่’”

ลิซา ฮาร์เปอร์ ภรรยาของไมเยอร์สบอกว่า สามีของเธอเปลี่ยนใจมาฉัดวัคซีนโควิด-19 ทันทีเมื่อเธอบอกเขาว่าสามารถมาฉีดที่ Hustler Club ได้

“คนจำนวนมากที่เดิมตัดสินใจหรือลังเลว่าจะไม่ฉีดวัคซีนโควิด-19 เปลี่ยนใจทันที มีผู้ชายหลายคนบอกว่า พวกเขามาที่นี่เพราะมันคือ Hustler Club นี่เป็นไอเดียที่ฉลาดมาก” ฮาร์เปอร์บอก

ไมเยอร์สในวัย 70 ปีบอกว่า เดิมเขาไม่เต็มใจที่จะฉีดวัคซีนโควิด-19 และกังวลว่ามันใช้งานได้จริงแค่ไหน แต่อายุของเขามากแล้ว และเขากังวลว่าจะแพร่เชื้อให้คนอื่นรวมถึงภรรยาของเขา บวกกับเมื่อมีบริการฉีดที่ Hustler Club ก็ทำให้เขาตัดสินใจได้

ไมเยอร์สกล่าวว่า เขารู้สึกผิดหวังเล็กน้อยที่ไม่มีนักเต้นอยู่บนเวทีในขณะที่เขากำลังฉีดวัคซีน แต่ก็เป็นไปได้ว่านั่นเพื่อกันไม่ให้ผู้ที่จะเข้ารับวัคซีนเกิดความดันขึ้นหรือพลุ่งพล่านเกินไปเสียก่อน

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของรัฐเนวาดากล่าวในสัปดาห์นี้ว่า ประชากรในรัฐที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไปมากกว่า 46% ได้รับวัคซีนโควิด-19 อย่างน้อยหนึ่งเข็มแล้ว แต่มีอัตราการฉีดลดลงอย่างมาก ทำให้รัฐไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ โดยมีเป้าหมายฉีดวัคซีนอยู่ที่ 75% ของประชากรที่มีสิทธิ์ได้รับวัคซีน

นั่นทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐเนวาดาหันมาเปิดบูธคลินิกฉีดวัคซีนตามสถานที่ต่าง ๆ มากขึ้น เช่น โบสถ์ โรงเรียน และบ้านพักคนชรา มาจนถึงคลับเปลื้องผ้า เพื่อเข้าถึงประชากรให้มากขึ้น

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของลาสเวกัส กล่าวว่า Hustler Club เป็นฝ่ายติดต่อมาเพื่อช่วยเพิ่มอัตราการฉีดวัคซีน โดยทางคลับบอกว่าเคยทำมาก่อนแล้วในนิวออร์ลีนส์และประสบความสำเร็จดี โดยมอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าที่มีหลักฐานการฉีดวัคซีนโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็น สิทธิเข้าชมฟรี เครื่องดื่มฟรี โชว์พิเศษจากนักแสดงที่ได้รับวัคซีน และสิทธิประโยชน์อื่น ๆ

ราล์ฟ เจมส์ ผู้จัดการทั่วไปของ Hustler Club กล่าวว่า นี่เป็นโอกาสดีที่จะได้ช่วยเหลือชุมชนให้กลับสู่สภาวะปกติได้เร็วขึ้น เขายอมรับว่า คนทั่วไปอาจมองว่าคลับเปลื้องผ้ากับสาธารณสุขเป็นสองอย่างที่อยู่ไกลกัน แต่เขากล่าวว่า “เราจะให้โอกาสนี้ ทำให้หลายคนได้เห็นว่า ที่นี่สะอาดแค่ไหน และมันก็เป็นธุรกิจปกติเหมือนธุรกิจอื่น ๆ”

ปัจจุบัน สหรัฐฯ ฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ประชากรแล้วกว่า 164 ล้านคน หรือ 49.68% ของประชากรทั้งประเทศ ขาดอีกเพียงราว 20% เท่านั้นก็จะบรรลุเป้าหมายฉีดวัคซีนให้ประชากร 70% ซึ่ง โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศไว้ว่า จะฉีดให้ถึงเป้าภายใน 4 ก.ค. ซึ่งตรงกับวันชาติ

 

ที่มา : https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/148180



แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit
LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

สื่อญี่ปุ่นรายงานว่า Mizuno บริษัทผู้ผลิตชุดกีฬา และอุปกรณ์กีฬาชั้นนำของญี่ปุ่น ประกาศยกเลิกการใช้ฝ้ายนำเข้าจากมณฑลซินเจียง ประเทศจีน เป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้า

สื่อญี่ปุ่นรายงานว่า Mizuno บริษัทผู้ผลิตชุดกีฬา และอุปกรณ์กีฬาชั้นนำของญี่ปุ่น ประกาศยกเลิกการใช้ฝ้ายนำเข้าจากมณฑลซินเจียง ประเทศจีน เป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้า ด้วยเหตุผลเรื่องการใช้แรงงานของชาวอุยกูร์ที่ละเมิดหลักสิทธิมนุษยชน ที่ตอนนี้รัฐบาลจีนกำลังถูกชาติเสรีตะวันตกกดดันเรื่องค่ายกักกันชนกลุ่มน้อยมุสลิม ในเขตมณฑลซินเจียง และการบังคับใช้แรงงานชาวซินเจียงอุยกูร์ที่เข้าข่ายแรงงานทาสในอุตสาหกรรมผลิตฝ้ายของจีน

และนอกจากบริษัท Mizuno แล้ว ยังมีบริษัทผู้ผลิตเสื้อผ้าญี่ปุ่นอย่าง World Co. และ Cox Co. ก็ประกาศว่าจะยกเลิกการใช้ฝ้ายจากซินเจียงเช่นกัน

การประกาศยกเลิกการนำใช้ฝ้ายจากซินเจียงของ Mizuno เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่สินค้าของ Uniqlo แบรนด์เสื้อชั้นนำของญี่ปุ่นถูกตีกลับทันทีที่เรือสินค้าเทียบท่าในลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา

โดยด่านศุลกากรสหรัฐฯ อ้างว่าทาง Uniqlo ละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ที่สั่งห้ามนำเข้าสินค้าที่ใช้วัตถุดิบฝ้ายจากซินเจียงทุกชนิดเข้าประเทศ ซึ่งสินค้าของ Uniqlo ที่เทียบท่าในสหรัฐอเมริกาล็อตนี้ ผลิตในช่วงเดือนมกราคมของปีนี้ ที่ทาง Uniqlo ยังคงใช้ฝ้ายจากซินเจียงอยู่ หลังนำเข้าผ่านบริษัท Xinjiang Production and Construction Corps หรือ XPCC ของรัฐบาลจีน ก่อนที่จะกลายเป็นประเด็นทางการเมืองที่ชาติตะวันตกออกมาตรการแบนสินค้าที่ใช้วัตถุดิบฝ้ายของซินเจียง กดดันให้หลายแบรนด์ดัง อย่าง Nike H&M Adidas ต้องยกเลิกการใช้ฝ้ายของซินเจียงเป็นวัตถุดิบผลิตสินค้า

ฉะนั้นการสั่งตีกลับยกล็อตสินค้าทั้งเรือของ Uniqlo จึงเหมือนการส่งสัญญาณเตือนไปถึงหลายแบรนด์ดังในญี่ปุ่น จนต้องรีบออกมาประกาศยุติการนำเข้าฝ้ายจากซินเจียง เพื่อรักษาตลาดของตนในสหรัฐฯ โดยเฉพาะ Mizuno ที่กำลังตีตลาดชุดอุปกรณ์กีฬา ถุงมือหนัง ไม้เบสบอลในสหรัฐอเมริกา และ แคนาดาได้ดี

แต่ในยุคสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน เมื่อได้อย่างก็ต้องเสียอีกอย่าง เพราะทันทีที่มีข่าวว่า Mizuno และอีกหลายแบรนด์ดังในญี่ปุ่นกำลังจะยกเลิกการใช้ฝ้ายจากซินเจียง ก็มีชาวเน็ตจีนก็พร้อมเท Mizuno และแบรนด์ญี่ปุ่นอื่น ๆ ในตลาดจีนเช่นกัน

นอกจากนี้อีกหลายแบรนด์ดังที่ออกแคมเปญยกเลิกการใช้ฝ้ายจากซินเจียง ก็ถูกชาวจีนต่อต้านอย่างหนักจนยอดขายหล่นวูบในตลาดจีน และยังถูกถอดตำแหน่งโลเคชั่นของร้านค้าออกจากแอปพลิเคชันแผนที่ของจีนอีกด้วย

เรียกได้ว่าเรื่องนี้ กลายเป็นเรื่องที่กลืนไม่เข้า คายไม่ออกของเหล่าบรรดาบริษัทผู้ผลิตสินค้าที่ต้องเกี่ยวข้องกับการใช้ฝ้ายในช่วงนี้ ที่นอกจากจะเจออุปสรรคจากเศรษฐกิจตกต่ำเพราะ Covid-19 แล้ว ยังมีปัจจัยที่ทำการค้าลำบากขึ้นไปอีก ต้นทุนก็ต้องดู ตลาดก็ต้องขาย กฎหมายก็ต้องอ่าน การเมืองก็ต้องระวัง ลำบากใจจริง ๆ หนอ

 

อ้างอิง: https://www.businessoffashion.com/news/retail/us-blocked-uniqlo-shirts-on-xinjiang-forced-labour-concerns

https://english.kyodonews.net/news/2021/05/ccc6f51f60cf-mizuno-to-stop-using-xinjiang-cotton-in-its-sportswear.html?phrase=Avigan&words=

https://www.channelnewsasia.com/news/business/japan-s-mizuno-and-world-co-to-stop-using-xinjiang-cotton---nikkei-14856978

https://www.globaltimes.cn/page/202105/1224235.shtml


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

นรข. คุมเข้มเฝ้าระวังป้องกันการลักลอบเข้าเมือง ในสถานการณ์โควิด - 19

การปฏิบัติหน้าที่ในการเฝ้าระวังป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายมีหลายหน่วยด้วยกันที่รับผิดชอบ และหนึ่งในนั้นก็คือหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เรามาดูว่าทางหน่วยงานมีแนวทางการปฏิบัติอย่างไร ในการควบคุมสถานการณ์ในขณะนี้

พลเรือตรี จรัสเกียรติ ไชยพันธุ์ ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เปิดเผยว่า ปกติบางท่านอาจจะเข้าใจว่า หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) รับผิดชอบเฉพาะแถวภาคอีสานอย่างเดียว จริงๆ แล้ว นรข. เป็นหน่วยเฉพาะกิจของกองทัพเรือ มีพื้นที่รับผิดชอบตลอดแนวลำแม่น้ำโขง ตั้งแต่ภาคเหนือจนถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมี นรข. อยู่ด้วยกัน 4 เขต คือ เขตเชียงราย เขตหนองคาย เขตนครพนม และ เขตอุบลราชธานี รับผิดชอบแบ่งพื้นที่กันไป โดยสถานการณ์การลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายในพื้นที่ นรข.เขตนครพนม มีการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายอยู่แต่ไม่มากนัก

จากสถิติในปีงบประมาณนี้ มีการกระทำผิดแล้วทั้งหมด 8 ครั้ง จับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายได้ 23 คน เป็นราษฎรชาวไทย 4 คนซึ่งเป็นผู้นำพาและเป็นราษฎรชาวลาว 19 คน แต่สถานการณ์ภาพรวมของการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายตลอดลำแม่น้ำโขงจะปรากฏอยู่ตลอดแนว ซึ่งที่ นรข.เขตเชียงราย มีการตรวจพบการกระทำผิดถึง 17 ครั้ง ที่ นรข.เขตหนองคาย มีการกระทำความผิดที่จับกุมได้ 9 ครั้ง ที่ นรข.เขตอุบลราชธานี มีการจับกุมได้ 3 ครั้ง

สรุปว่าการจับกุมที่ผ่านมาตั้งแต่ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา นรข. สามารถจับกุมได้ทั้งหมด 37 ครั้ง เป็นผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย รวม 180 คน เป็นราษฎรชาวไทย 27 คน และเป็นคนลาว 118 คน นอกจากนี้ยังมีราษฎรชาวจีนอีก 35 คน โดยทั้งหมดนี้จะมีกระบวนการที่มีคนนำพาเป็นคนไทยอยู่ทุกรายการ

ซึ่งจากภาพรวมจะสังเกตได้ว่ามีการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายตลอดแนวลำแม่น้ำโขง ซึ่งการลักลอบเข้ามาในประเทศไทยส่วนใหญ่จะเข้าไปในพื้นที่ตอนในเพื่อทำมาหากิน และอาจจะมีเป็นขบวนการอย่างเช่นที่ อุบลราชธานี ที่เข้ามาครั้งเดียวประมาณ 60 คนและมีรถตู้มารับเข้าไปในพื้นที่ส่วนใน ซึ่งก็ได้ทลายตรงนี้ไปแล้วเรียบร้อย

ในช่วงสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด -19 การลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายยิ่งจะต้องมีความเข้มงวดกวดขันมากยิ่งขึ้น เพราะบุคคลเหล่านี้อาจจะเป็นผู้นำพาหะโรคเข้ามาสู่ประเทศไทยได้ ซึ่ง นรข. เองก็ได้มีการกำชับกำลังพลตลอดแนวลำแม่น้ำโขงให้เพ่งเล็งไม่ให้เกิดการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายโดยเด็ดขาด ซึ่งสถานการณ์ตอนนี้มีเรื่องที่เป็นใจอยู่คือฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเรา โดยเฉพาะ สปป.ลาว ได้มีการเข้มงวดกวดขันคนของเขาด้วยทำให้ประมาณ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายลดน้อยลง

แต่อย่างไรก็ตาม นรข. ก็ยังใช้มาตรการลาดตระเวน การตรวจสอบตามจุดเสี่ยงต่าง ๆ เพื่อให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมืองให้ได้ 100 %

และปัจจุบันกำลังพลของหน่วยไม่ได้ออกจากพื้นที่ยังคงปฏิบัติงานในพื้นที่ครบทุกนาย อีกทั้งก็ต้องขอขอบคุณทางจังหวัดนครพนมที่ได้ให้เจ้าหน้าที่ของ นรข.นครพนม ซึ่งประกอบไปด้วย สถานีเรือบ้านแพง สถานีเรือนครพนม สถานีเรือธาตุพนม และนรข.เขตนครพนม ที่อยู่ธาตุพนมได้รับการฉีดวัคซีนโควิด -19 เรียบร้อยแล้วทั้งหมดทุกนาย ทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ไม่ต้องห่วงกังวลเกี่ยวกับการติดเชื้อ ทำให้ทุกคนมีกำลังใจในการทำงานมากยิ่งขึ้นด้วย

เราจะเห็นว่าแม้ภารกิจจะมีความเสี่ยง แต่กำลังพลทุกนายของ นรข. ก็พร้อมจะปฏิบัติหน้าที่ เพื่อเฝ้าระวังป้องกันการลักลอบเข้าเมืองให้ทุกคนมีความปลอดภัยและห่างไกลจากไวรัสโควิด -19


ภาพ /ข่าว  สุเทพ หันจรัส  ผสข.นครพนม/ทินกร เพชรดี สปช นครพนม

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แถลงข่าวประจำสัปดาห์ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า...

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่งการให้กรมชลประทานและกรมประมงเตรียมความพร้อมเต็มพิกัดเพื่อรับมือพายุไซโคลน ‘ยาอาส’ ซึ่งเป็นมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังแรงขึ้นพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง 

ทั้งนี้ได้สั่งระดมเครื่องจักร/เครื่องมือและเจ้าหน้าที่ ให้สามารถช่วยเหลือประชาชนและชาวประมงได้ทันที ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งเตือนมา

รายงานล่าสุดว่า เผยว่า พายุไซโคลน ‘ยาอาส’ จะเคลื่อนขึ้นฝั่งรัฐโอริสสา-รัฐกัลกัตตาของอินเดียในวันนี้ (26 พ.ค.64) ส่งผลให้ 4 จังหวัดภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งจนถึงวันที่ 27 พ.ค. โดยคลื่นลมในทะเลอันดามันมีกำลังแรง มีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

“ท่านรัฐมนตรียังกำชับให้หน่วยงานกรมชลประทานและกรมประมงในพื้นที่ประชาสัมพันธ์ถึงสถานการณ์น้ำรวมทั้งการแจ้งเตือนต่าง ๆ ไปยังประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชนให้ได้มากที่สุด” อลงกรณ์ กล่าว

ทางด้านนายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า กรมชลประทานได้เตรียมความพร้อมรับมือพายุไซโคลน ‘ยาอาส’ ตามข้อสั่งการของเจ้ากระทรวงเกษตรฯ ด้วยการกำหนดพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยซ้ำซาก กำหนดเจ้าหน้าที่ประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการแจ้งเตือนประชาชน การจัดสรรทรัพยากรเครื่องจักร เครื่องมือ อาทิ เครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ เข้าไปประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อให้สามารถช่วยเหลือประชาชนได้ทันที

นอกจากนี้ ยังติดตามวิเคราะห์แนวโน้มสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด บริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำให้อยู่ในเกณฑ์เก็บกัก (RULE CURVE) โดยพิจารณาปรับลดการระบายให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ ใช้อาคารชลประทานในการบริหารจัดการน้ำตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ

นายอลงกรณ์ กล่าวต่ออีกว่า ไม่เพียงแค่การรับมือพายุไซโคลน ‘ยาอาส’ เท่านั้น แต่ทาง ดร.เฉลิมชัย ยังได้ติดตามสถานการณ์ฝนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งพบว่ามีปริมาณฝนลดลงในพื้นที่ตอนบนของประเทศ จึงสั่งการให้กรมชลประทานเร่งดูแลบริหารจัดการน้ำและประสานการทำงานกับกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เพื่อปฏิบัติการฝนหลวงในพื้นที่ทางตอนบนของประเทศเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากในช่วงนี้ทางตอนบนยังคงมีฝนตกน้อย ประกอบกับปริมาณน้ำต้นทุนในเขื่อนต่าง ๆ ไม่เพียงพอที่จะสนับสนุนให้เกษตรกรที่ทำการเพาะปลูกข้าวต่อเนื่องหรือข้าวนาปีได้อย่างเต็มศักยภาพ

สำหรับสถานการณ์น้ำและการจัดสรรน้ำล่าสุดวันนี้ กรมชลประทานรายงานว่า อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้น 35,564 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 47 ของความจุอ่างรวมกัน ยังสามารถรองรับน้ำได้รวมกันประมาณ 40,504 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 8,540 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 34 ของความจุอ่างรวมกัน ยังสามารถรองรับน้ำได้รวมกันอีกประมาณ 16,331 ล้าน ลบ.ม. สำหรับการเตรียมพร้อมใช้พื้นที่ลุ่มต่ำรองรับน้ำนอง กรมชลประทานได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2560 ด้วยการใช้พื้นที่อย่างเต็มศักยภาพ ทั้งพื้นที่ลุ่มต่ำทุ่งบางระกำและพื้นที่ลุ่มต่ำเจ้าพระยา 13 ทุ่ง ได้แก่…

1.) ทุ่งฝั่งซ้ายชัยนาท-ป่าสัก 
2.) ทุ่งป่าโมก 
3.) ทุ่งเจ้าเจ็ด 
4.) ทุ่งบางกุ้ง 
5.) ทุ่งผักไห่ 
6.) ทุ่งโพธิ์พระยา 
7.) ทุ่งเชียงราก 
8.) ทุ่งท่าวุ้ง 
9.) ทุ่งบางกุ่ม 
10.) ทุ่งบางบาล-บ้านแพน 
11.) ทุ่งพระยาบรรลือ 
12.) ทุ่งรังสิตใต้ 
13.) ทุ่งบางระกำ 

รวมพื้นที่รับน้ำประมาณ 1,410,267 ไร่


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit
LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

คุมตัว 2 พี่น้อง ‘บังกิบหลี’ และ ‘บังกอหนี’ ผู้ต้องหาร่วมขบวนฆ่า นายสุชาติ ส่งฝากขังที่เรือนจำจังหวัดกระบี่ หลังศาลอนุมัติฝากขังผลัดแรก เบื้องต้น บังกิบหลี ยังปฏิเสธ “ลั่นผมไม่ได้ทำ ผมไม่ได้ยิง”

วันที่ 25 พ.ค.64 เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ กก.สส.ภ.8 ชุดสืบสวน ภ.จว.กระบี่ คุมตัวนายสุรชัย หรือบังกิบหลี เริงสมุทร และนายสุริยันต์หรือบังกอหนี เริงสมุทร น้องชาย สองผู้ต้องหาคนสำคัญในคดี สังหารโหดนายสุชาติ ขาวล้วน เจ้าของร้านอาหารและฟิชชิ่ง ใน อ.ลำทับ จ.กระบี่ ออกจาก ห้องขัง สภ.อ่าวนาง จ.กระบี่ ไปยังเรือนจำจังหวัดกระบี่ หลังเสร็จสิ้นการสอบปากคำเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยนายกอหนี น้องชาย ยอมเปิดปากรับสารภาพกับพนักงานสอบสวน ว่าได้ช่วยฝังศพ และฝังรถนายสุชาติด้วย หลังจนท.สอบปากคำ ร่วม 5 ชั่วโมง เมื่อคืนที่ผ่านมา แต่ไม่สมัครใจทำแผน ส่วนบังกิบหลี พี่ชายยังให้ดการปฏิเสธ และขอให้กาในชั้นศาลเท่านั้น จนท.จึงได้ขออนุมัติศาลฝากขังผ่านวีดีโอคอนเฟอเร้นซ์ และศาลจังหวัดกระบี่ก็ได้อนุมัติฝากขังเมือช่วงก่อนเที่ยงที่ผ่านมา

ทั้งนี้ระหว่างที่จนท. คุมตัวนายกิบหลี ขึ้นรถ  อีโอดี ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม ว่า ยอมรับหรือไม่ว่าเป็นคนลงมือยิง นายสุชาติ ตามที่พยานให้การซัดทอด บังกิบหลี บอกว่า “ผมไม่รู้ ผมไม่ได้ทำ ผมไม่ได้ยิง ครับ”จากนั้น เจ้าหน้าที่นำตัวขึ้น รถ อีโอดี ไปฝากขังที่ เรือนจำจังหวัดกระบี่

ขณะที่นางอารักษ์ ทับไทร อายุ 34 ปี ลูกสาวนายสุชาติ ขาวล้วน พร้อมด้วย นายชูวงศ์ มณีกุล ทนายความเดินทางไปที่ศาลจังหวัดกระบี่ เพื่อยื่นเอกสารเพิ่มเติมในการคัดค้านการประกันตัวบังฟิตและพวก ถูกข่มขู่ ว่าหากมีการติดตาม หรือแจ้งความ จะฆ่าทั้งครอบครัว เนื่องจาก เกรงว่ากากกลุ่มของบังฟิต ได้ประกันตัวจะไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

นายชูวงศ์ มณีกุล ทนายความ ระบุว่า ปมการสังหารอย่างโหดเหี้ยม ครั้งนี้ มาจากความยัดแย้ง ระหว่างนายสุชาติ ขาวล้วน กับ นายสุริยา เริงสมุทร (บังฟิต) เกี่ยวกับธุรกิจมืด ไม่ใช่จากเรื่องเงิน 3 แสน ที่บังฟิตอ้าง เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ สืบสวน อย่างจริงจังกับขบวนการธุรกิจมืดกลุ่มนี้เชื่อว่ามีกลุ่มผู้กว้างขวาง ในพื้นที่อยู่เบื้องหลังหลายคน

นางอารักษ์ ทับไทร ลูกสาวนายสุชาติ เปิดเผยว่า แม้ว่าเจ้าหน้าที่จับกุมตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ ทั้งหมดแล้วแต่ยังไม่ เผาศพพ่อ เนื่องจากต้องรอ ผลชันสูจน์  และ เอกสารต่าง ๆ ก่อน โดยพอใจกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่ สามารถจับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ทั้งหมด


ภาพ/ข่าว  ณัฏฐพงษ์ ศรีปล้อง รายงาน

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผยผลการศึกษาประสิทธิผลวัคซีนซิโนแวค ที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อได้รับวัคซีน ครบ 2 เข็ม สามารถลดโอกาสการติดเชื้อได้ถึง 83.3% ลดความรุนแรงกรณีที่มีการติดเชื้อ และไม่พบปอดอักเสบ

นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวในที่ประชุมสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ครั้งที่ 4/2564 เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ.2564 ว่า การควบคุมโรคโควิด-19 ในคลัสเตอร์ต่าง ๆ ในต่างจังหวัด ระบบสาธารณสุขสามารถค้นหาผู้ติดเชื้อและผู้สัมผัสได้อย่างรวดเร็ว และมีการบริหารจัดการได้ดี เช่น ที่จังหวัดเพชรบุรี สามารถสร้างโรงพยาบาลสนามได้อย่างรวดเร็ว มีการบริหารจัดการเตียงรับผู้ติดเชื้อ สำหรับเรื่องวัคซีนจะต้องฉีดเข็มแรกให้ครอบคลุมร้อยละ 70 ภายในเดือนตุลาคมนี้ 

นายแพทย์เกียรติภูมิ กล่าวต่อว่า สำหรับการฉีดวัคซีนที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อฟื้นฟูพื้นที่เศรษฐกิจการท่องเที่ยวนั้น ขณะนี้ มีผู้ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว ร้อยละ 22 และได้รับเข็มแรกแล้ว ร้อยละ 45 ของประชากรในจังหวัดภูเก็ต จากการศึกษาประสิทธิผลของวัคซีนซิโนแวคต่อโอกาสการติดเชื้อโควิด-19 โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่ครบระยะเวลากักตัว 14 วัน ในจังหวัดภูเก็ต จำนวน 1,366 ราย 

พบว่า กลุ่มที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคอย่างน้อย 1 เข็ม จะมีประสิทธิผล ในการลดโอกาสการติดเชื้อร้อยละ 73.1 ส่วนกลุ่มที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม ลดโอกาสการติดเชื้อร้อยละ 83.3 นอกจากนี้ ได้ศึกษาในกลุ่มผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 386 ราย (ผู้ป่วยโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต 237 ราย และผู้ป่วยโรงพยาบาลสนาม 149 ราย) พบว่าผู้ติดเชื้อที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็ม จำนวน 6 ราย ทุกรายไม่พบภาวะปอดอักเสบ ส่วนผู้ติดเชื้อหลังได้รับวัคซีนเข็ม 1 จำนวน 31 ราย มี 4 รายที่มีภาวะปอดอักเสบ คิดเป็นร้อยละ 12.9 ซึ่งความชุกของการเกิดปอดอักเสบ ในกลุ่มนี้ไม่แตกต่างจากกลุ่มที่ไม่ได้รับวัคซีน รวมทั้งในเดือนพฤษภาคม 2564 (ข้อมูล ณ วันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ.2564) จังหวัดภูเก็ตไม่พบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ในกลุ่มที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็มแล้ว 

ข้อมูลการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าการได้รับวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็มตามแผนการฉีดวัคซีน สามารถลด การติดเชื้อได้ถึงร้อยละ 83 และลดความรุนแรงกรณีที่มีการติดเชื้อได้ดี สำหรับผู้ที่ฉีดเข็มเดียวยังพบติดเชื้อมีอาการรุนแรงอยู่บ้าง แต่ไม่มากนัก จึงยังคงต้องระมัดระวังแม้จะฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว ทั้งการสวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือ หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก รักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit
LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

แม่ร่ำไห้ลูกชายวัย 19 กลับจากกทม.ให้กักตัว14 วัน เครียดวิ่งโดดลงน้ำฆ่าตัวตายประชดโควิด

วันที่ 25 พ.ค. 2564  นางอุดมศรี  ขจรกลิ่น อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 87/4 หมู่ 2 ต.ปากทาง อ.เมือง จ.พิจิตร นั่งร่ำไห้อยู่ริมตลิ่งแม่น้ำน่านบริเวณใกล้กับสะพานแขวนข้ามแม่น้ำน่าน บริเวณหน้าวัดราชช้างขวัญ ต.ปากทาง อ.เมืองพิจิตร โดยเล่าเหตุการณ์ให้ฟังถึงสาเหตุที่มานั่งร้องไห้ ว่า เกิดจากเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2564 ที่ผ่านมา ลูกชายของตน ชื่อนายอนุชิต  อิ่มใจ  อายุ 19 ปี  เดินทางกลับมาจากกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นพื้นที่สีแดงและมีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด

ดังนั้น เมื่อกลับมาถึงบ้านที่พิจิตร คนในครอบครัวพร้อมทั้ง อสม.ก็ขอร้องให้กักตัวอยู่บ้าน 14 วัน ซึ่งนายอนุชิต ก็ถูกกักตัวอยู่ที่บ้าน ผ่านมาได้ 2 วัน ในวันเกิดเหตุคือเมื่อวานในช่วงเย็น นายอนุชิตจะออกจากบ้านไปหาเพื่อน เนื่องจากถูกกักตัวอยู่บ้านแล้วเกิดอึดอัดใจ ร้อนรุ่ม อยากเจอเพื่อน ๆ จะออกจากบ้านให้ได้ คนในครอบครัวก็ไม่ยอมให้ออกจากบ้าน เนื่องจากในพื้นที่พิจิตรเองก็มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดด้วยเช่นกัน ทำให้นายอนุชิต อายุ 19 ปี กับคนในครอบครัวเกิดมีปากเสียงและโต้เถียงกัน ทำให้ นายอนุชิต เกิดน้อยเนื้อต่ำใจและระเบิดอารมณ์ ตะโกนว่าไม่มีใครรัก จากนั้นก็วิ่งออกจากบ้านแล้วตะโกนว่าจะฆ่าตัวตาย และได้วิ่งออกจากบ้านซึ่งอยู่ริมแม่น้ำน่าน

นางอุดมศรี ผู้เป็นแม่ ก็วิ่งไล่ตามยื้อยุดฉุดกระชากลูกชายที่กำลังวิ่งลงไปที่ริมตลิ่งใกล้กับสะพานแขวน แต่ด้วยแรงของผู้เป็นแม่ ซึ่งอายุมากแล้วก็สู้แรงของลูกชายที่เป็นเด็กวัยรุ่นไม่ได้และผู้เป็นแม่ก็หกล้มที่ริมตลิ่ง ทำให้ลูกชายวิ่งไปจนถึงริมฝั่งน้ำแล้วกระโดดพุ่งหลาวลงไปในแม่น้ำน่านเพื่อฆ่าตัวตายต่อหน้าต่อตาของ นางอุดมศรี ผู้เป็นแม่

ความคืบหน้าล่าสุด หน่วยกู้ภัยต่างๆพร้อมนักประดาน้ำต่างช่วยกันงมหาศพหนุ่มวัย 19 ปี รายนี้ ที่น้อยใจคนในครอบครัวที่บังคับให้กักตัว 14 วัน หลังจากที่เดินทางกลับมาจากกรุงเทพฯ แต่ด้วยความเป็นเด็กวัยรุ่นก็อยากจะออกจากบ้านไปพบเจอเพื่อนฝูง แต่ถูกห้ามปราม จึงเกิดความน้อยเนื้อต่ำใจโดดน้ำฆ่าตัวตายดังกล่าว ซึ่งขณะผู้สื่อข่าวรายงานหน่วยกู้ภัยกำลังเร่งค้นหาร่างของผู้ตายในแม่น้ำน่าน แต่ก็ยังหาไม่พบ ซึ่งหากมีความคืบหน้าผู้สื่อข่าวจะได้รายงานให้ทราบต่อไป


ภาพ/ข่าว  สิทธิพจน์  พิจิตร

ความสำเร็จ ‘ผีแดง’ ใต้ปีก ‘เซอร์ อเล็กซ์’

หากใครเป็นแฟนปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คงต้องถ่างตารอคืนนี้ตามเวลาไทย 2.00 น. (27 พ.ค.64) ไปกับอีกแมตช์ที่น่ารอคอยระหว่าง แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด กับ บิยาร์เรอัล ในศึกยูฟ่ายูโรปาคัพรอบชิงชนะเลิศ 

ทว่า ก่อนจะไปถึงตรงนั้น ก็อยากย้อนอดีตความยิ่งใหญ่ของสโมสรแห่งนี้ ผ่านบทสัมภาษณ์ของบุคคลระดับตำนานแห่งเมืองแมนจาก Sky Sports Football ที่น่าจะทำให้แฟนผีหลายๆ คน ฮึกเหิมก่อน Kick Off กันได้เบาๆ เพราะนี่เป็นบทสนทนาพูดคุยกันระหว่าง อดีตนายใหญ่แห่งโรงละครแห่งความฝัน ‘เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน’ และ ‘แกรี่ เนวิลล์’ ลูกทีมคู่ใจ

แน่นอนว่า ด้านหลังฉาก ทั้งคู่เคยมีบทสนทนากันมาแล้วไม่ต่ำกว่าล้านคำ แต่หลังจากแกรี่ได้แขวนสตั๊ด และผันตัวไปเป็นสื่อแล้วนั้น ในบทสัมภาษณ์หนนี้ เขาได้ยิงคำถามต่ออดีตนายใหญ่ที่เขาเคารพรักที่สุดในชีวิตมากมาย 

อย่างไรก็ตาม หนึ่งในคำถามที่ แกรี่ ได้ถามอดีตเจ้านายใหญ่ของเขา น่าจะฉายภาพความเป็นจริงของโลกกีฬา ทีมฟุตบอลที่เขาเคยคุม และอาจจะรวมถึงทัศนคติการใช้ชีวิตของคนในวันนี้ได้ดี

>> ทำไม ‘เซอร์ อเล็กซ์’ ถึงพาทีมรักษามาตรฐานเอาไว้ได้ในทุกปี แม้จะเหมือนเข้าสู่ช่วงหมดยุค แต่พวกเขาก็กลับมาได้ทุกครั้ง?

โดยแกรี่ ได้ลงลึกไปถึงเรื่องการพูดปลุกใจเหล่าพลพรรคปีศาจแดงในห้องแต่งตัว ซึ่งอดีตนายใหญ่ของเขาเคยพูดถึงเรื่องอู่ต่อเรือของรัฐบาลสก็อตแลนด์หลายครั้ง สมัยตอนที่ยังเป็นเด็ก อะไรที่ทำให้เซอร์ฯ ต้องพูดเรื่องนี้ในห้องแต่งตัวทุกครั้ง?

>> เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้ตอบว่า:
“ฉันคิดว่า เหตุผลที่ฉันพูด เพราะส่วนใหญ่ลูกทีมของฉันไม่ได้มาจาก ‘ชนชั้นแรงงาน’ เหมือนกับฉัน ฉันจึงต้องพยายามใส่ความรู้สึกแบบนั้นลงไป ให้ทุกคนรู้ว่า ‘การทำงานหนักนี่แหละ คือ พรสวรรค์ที่ดีที่สุด’ ฉันก็เลยเปรียบเทียบกับคนที่ทำงานในอู่ต่อเรือ ในเหมือง ในโรงงานผลิตเหล็ก 

“นายอาจจะไม่ได้เป็นชนชั้นแรงงานนะ แต่ปู่หรือพ่อของนาย ต้องเป็นแน่ๆ และพวกเขาจะบอกนายว่า มันสำคัญมากที่จะต้องทำงานหนัก แม้แต่นักฟุตบอลที่ดีที่สุดในทีม ซึ่งมีพรสวรรค์มากที่สุด เขาต้องแสดงให้เห็นว่า เขาทำงานหนักมากกว่าคนอื่น

“และฉันคิดว่า ฉันโชคดีที่เด็กๆ เข้าใจในสิ่งที่ฉันบอก พวกเขาเชื่อที่ฉันบอกว่า การทำงานหนักคือพรสวรรค์ที่ดีที่สุด”

แม้จะเป็นคำตอบสั้น ๆ แต่ ‘เซอร์ อเล็กซ์’ ก็สะท้อนคำตอบนี้ออกมาได้โดนใจสังคมในปัจจุบัน สังคมที่กำลังคาดหวังจะได้ในบางอย่างแบบฉาบช่วยและไม่คิดพยายามใดๆ เลยได้ดีทีเดียว

หากคุณเป็นแฟนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สามารถอ่านเนื้อหาเต็มได้ที่ >> https://www.facebook.com/1642712996030734/posts/2629092844059406/

ที่มา: https://www.facebook.com/1642712996030734/posts/2629092844059406/
https://www.youtube.com/watch?v=ExfC1nRVLSU
Sky Sports Football


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit
LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

เตรียมเปิด รพ.สนามบ้านวิทย์ฯ รองรับผู้ป่วยพิการติดโควิด-19 พร้อมเปิดบริการ 1 มิ.ย. นี้

วันนี้ 26 พ.ค. 64 เวลา 10.00 น. ที่อาคารบ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย อําเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ‘นางสาวสราญภัทร อนุมัติราชกิจ’ อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ร่วมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมการจัดตั้ง ‘โรงพยาบาลสนามบ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร เพื่อคนพิการ’ โดยมี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำลงพื้นที่ พร้อมด้วย ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งเป็นบูรณาการการทำงาน 3 กระทรวงหลัก ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในการบริหารจัดการเพื่อให้บริการผู้ป่วยพิการที่อายุระหว่าง 15-65 ปี ที่ได้รับเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จำนวน 224 เตียง โดยจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 มิถุนายน 2564 

อีกทั้ง ‘อาจารย์ชูศักดิ์ จันทยานนท์’ ประธานสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย ‘นายสุชาติโอวาทวรรณสกุล’ นายกสมาคมผู้ปก ของคนพิการทางสติปัญญาแห่งประเทศไทย และ คณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ ร่วมบงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อม ด้วย

ทั้งนี้ ในส่วนของกระทรวง พม. พก. มีภารกิจด้านสวัสดิการสังคม ชีวิตความเป็นอยู่ และสิ่งของอุปโภคบริโภค สนับสนุนบริการคนพิการ ภายใต้ชื่อ ‘ทีมเรามีเรา’ ประกอบด้วย นักสังคมสงเคราะห์และนักพัฒนาสังคม ตลอดจนผู้ปฏิบัติงานให้ความช่วยเหลือคนพิการ ซึ่งเป็นบุคลากรของ พก. เพื่อรับแจ้งเหตุ เฝ้าระวัง ประสานส่งต่อ และติดตามการให้ความช่วยเหลือคนพิการที่ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และต่างจังหวัด ผ่านศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน พม. โทร. 1300 และสายด่วนคนพิการ 1479 รวมถึงแอปพลิเคชัน TTRS กรณีคนพิการทางการได้ยินและสื่อความหมาย ซึ่งนับเป็นโครงการต้นแบบ (Prototype Project) ที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการเฉพาะของคนพิการในการเข้าถึงบริการและใช้ประโยชน์ในพื้นที่เพื่อรักษาอาการป่วยจากโรคโควิด-19 ในกลุ่มคนพิการที่ไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย ให้มีความปลอดภัยที่สุด

โฆษกรัฐฯ แจง การจัดทำงบฯ ปี 65 รัฐบาลมีวงเงินเตรียมพร้อมสำหรับการดำเนินมาตรการเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเหมาะสม

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ที่จัดทำงบประมาณโดยกำหนดกรอบวงเงินงบประมาณไว้ที่ 3.1 ล้านล้านบาทในปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ว่า รัฐบาลได้มีการตั้งวงเงินงบกลาง รายการสำรองจ่ายเพื่อฉุกเฉินและจำเป็น เพื่อการเยียวยาประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ นอกจากนี้ ยังมีกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีสำหรับการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตามยุทธศาสตร์แผนแม่บทเฉพาะกิจ อาทิ การเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากภายในประเทศ (Local Economy) การปรับปรุงและพัฒนาปัจจัยพื้นฐานเพื่อส่งเสริมการฟื้นฟูและพัฒนาประเทศ (Enabling Factors) 

ซึ่งจะช่วยเยียวยา ฟื้นฟูผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ได้เช่นกัน รวมถึงพรก. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติมพ.ศ.2564 ที่ได้มีประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ซึ่งจะนำไปใช้เพื่อแก้ไขปัญหาการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และช่วยเหลือเยียวยา ชดเชยให้แก่ประชาชนทุกสาขาอาชีพ รวมถึงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 จึงขอมั่นใจได้ว่า ในปี 2564 และ 2565 รัฐบาลมีวงเงินเตรียมพร้อมสำหรับการดำเนินมาตรการเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19  อย่างเหมาะสม


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top