แม่ร่ำไห้ลูกชายวัย 19 กลับจากกทม.ให้กักตัว14 วัน เครียดวิ่งโดดลงน้ำฆ่าตัวตายประชดโควิด

วันที่ 25 พ.ค. 2564  นางอุดมศรี  ขจรกลิ่น อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 87/4 หมู่ 2 ต.ปากทาง อ.เมือง จ.พิจิตร นั่งร่ำไห้อยู่ริมตลิ่งแม่น้ำน่านบริเวณใกล้กับสะพานแขวนข้ามแม่น้ำน่าน บริเวณหน้าวัดราชช้างขวัญ ต.ปากทาง อ.เมืองพิจิตร โดยเล่าเหตุการณ์ให้ฟังถึงสาเหตุที่มานั่งร้องไห้ ว่า เกิดจากเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2564 ที่ผ่านมา ลูกชายของตน ชื่อนายอนุชิต  อิ่มใจ  อายุ 19 ปี  เดินทางกลับมาจากกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นพื้นที่สีแดงและมีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด

ดังนั้น เมื่อกลับมาถึงบ้านที่พิจิตร คนในครอบครัวพร้อมทั้ง อสม.ก็ขอร้องให้กักตัวอยู่บ้าน 14 วัน ซึ่งนายอนุชิต ก็ถูกกักตัวอยู่ที่บ้าน ผ่านมาได้ 2 วัน ในวันเกิดเหตุคือเมื่อวานในช่วงเย็น นายอนุชิตจะออกจากบ้านไปหาเพื่อน เนื่องจากถูกกักตัวอยู่บ้านแล้วเกิดอึดอัดใจ ร้อนรุ่ม อยากเจอเพื่อน ๆ จะออกจากบ้านให้ได้ คนในครอบครัวก็ไม่ยอมให้ออกจากบ้าน เนื่องจากในพื้นที่พิจิตรเองก็มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดด้วยเช่นกัน ทำให้นายอนุชิต อายุ 19 ปี กับคนในครอบครัวเกิดมีปากเสียงและโต้เถียงกัน ทำให้ นายอนุชิต เกิดน้อยเนื้อต่ำใจและระเบิดอารมณ์ ตะโกนว่าไม่มีใครรัก จากนั้นก็วิ่งออกจากบ้านแล้วตะโกนว่าจะฆ่าตัวตาย และได้วิ่งออกจากบ้านซึ่งอยู่ริมแม่น้ำน่าน

นางอุดมศรี ผู้เป็นแม่ ก็วิ่งไล่ตามยื้อยุดฉุดกระชากลูกชายที่กำลังวิ่งลงไปที่ริมตลิ่งใกล้กับสะพานแขวน แต่ด้วยแรงของผู้เป็นแม่ ซึ่งอายุมากแล้วก็สู้แรงของลูกชายที่เป็นเด็กวัยรุ่นไม่ได้และผู้เป็นแม่ก็หกล้มที่ริมตลิ่ง ทำให้ลูกชายวิ่งไปจนถึงริมฝั่งน้ำแล้วกระโดดพุ่งหลาวลงไปในแม่น้ำน่านเพื่อฆ่าตัวตายต่อหน้าต่อตาของ นางอุดมศรี ผู้เป็นแม่

ความคืบหน้าล่าสุด หน่วยกู้ภัยต่างๆพร้อมนักประดาน้ำต่างช่วยกันงมหาศพหนุ่มวัย 19 ปี รายนี้ ที่น้อยใจคนในครอบครัวที่บังคับให้กักตัว 14 วัน หลังจากที่เดินทางกลับมาจากกรุงเทพฯ แต่ด้วยความเป็นเด็กวัยรุ่นก็อยากจะออกจากบ้านไปพบเจอเพื่อนฝูง แต่ถูกห้ามปราม จึงเกิดความน้อยเนื้อต่ำใจโดดน้ำฆ่าตัวตายดังกล่าว ซึ่งขณะผู้สื่อข่าวรายงานหน่วยกู้ภัยกำลังเร่งค้นหาร่างของผู้ตายในแม่น้ำน่าน แต่ก็ยังหาไม่พบ ซึ่งหากมีความคืบหน้าผู้สื่อข่าวจะได้รายงานให้ทราบต่อไป


ภาพ/ข่าว  สิทธิพจน์  พิจิตร