Wednesday, 18 June 2025
NewsFeed

วัฒนธรรม ‘ญี่ปุ่น’ ในมุมที่ชาวต่างชาติไม่เคยรู้!! เผยให้เห็นหลากเรื่องราว 'แปลกๆ' ที่ทำให้ต้องรู้สึก ‘ทึ่ง’

ชาวต่างชาติมักไม่ค่อยเชื่อข้อเท็จจริงต่าง ๆ เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่น จนกระทั่งพวกเขาได้เดินทางมายังประเทศญี่ปุ่นเอง หลังจากที่ได้ไปญี่ปุ่นหลายครั้ง ก็ได้สรุปข้อเท็จจริงบางอย่างเกี่ยวกับประเทศนี้ที่ชาวต่างชาติไม่เคยรู้มาก่อน ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ มักจะทำให้ผู้มาเยือนต้องประหลาดใจอยู่เสมอ

รอยสักที่เป็นสัญลักษณ์ของญี่ปุ่น เรื่องราวของรอยในญี่ปุ่นสักมักจะเกี่ยวข้องกับยากูซ่า ดังนั้นสถานที่สาธารณะหลายแห่ง เช่น บ่อน้ำพุร้อน (ออนเซ็น) ยิม และสระว่ายน้ำ จึงไม่อนุญาตให้ผู้ที่มีรอยสักที่มองเห็นได้ชัดใช้บริการ ซึ่งสถานการณ์นี้กำลังค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงไป เพราะปัจจุบันผู้คนในทุกประเทศต่างนิยมการสัก แต่รอยสักก็ยังเป็นสิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้กับชาวต่างชาติผู้มาเยือนจำนวนมาก

ห้องน้ำสาธารณะที่สุดแปลกและน่าทึ่ง นอกเหนือจากห้องน้ำของญี่ปุ่นจะมีเทคโนโลยีที่สุดล้ำแล้ว ห้องน้ำสาธารณะของญี่ปุ่นมักจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ อาทิ เครื่องใช้ในห้องน้ำฟรี ที่นั่งชักโครกที่สามารถปรับอุณหภูมิได้ และแม้แต่ที่นั่งสำหรับเด็กที่มีการติดตั้งไว้ภายในห้องน้ำ ยิ่งไปกว่านั้น ห้องน้ำหลายแห่งยังเปิดเพลงหรือเสียงธรรมชาติเพื่อกลบเสียงระบายของเสียที่น่าอับอายอีกด้วย

ขนม KitKat ตามแต่ฤดูกาล ในญี่ปุ่นมีขนม KitKat รสชาติต่าง ๆ มากมายที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล ซึ่งสามารถหาซื้อได้ตั้งแต่รส ชาเขียว สาเก ไปจนถึงรส วาซาบิ และมันเทศ

การนอนในที่สาธารณะ การเห็นคนงีบหลับในที่สาธารณะ เช่น ร้านกาแฟ บนรถไฟ หรือแม้กระทั่งที่โต๊ะทำงานนั้นถือเป็นเรื่องปกติ ซึ่งไม่ถือว่าเป็นการขี้เกียจ แต่กลับเป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่า คน ๆ นั้นได้ทำงานอย่างหนักและทุ่มเทให้กับงานอย่างเต็มที่

ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติที่ไม่เหมือนใคร ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติของญี่ปุ่นไม่ได้ขายแค่เครื่องดื่มและของขบเคี้ยวเท่านั้น ยังสามารถซื้อ ไข่สด ผัก แบตเตอรี่ ร่ม หรือแม้แต่อาหารร้อน ๆ จากตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติเหล่านี้ได้

วัฒนธรรมการไม่ให้ทิป ในญี่ปุ่นไม่มีการให้ทิป และอาจถือเป็นความหยาบคายด้วยซ้ำ หากมีการให้ทิป เพราะบริการที่ดีเยี่ยมเป็นสิ่งที่ทั้งผู้ให้และรับบริการต่างก็คาดหวังเอาไว้ และการให้บริการที่ดี ถือเป็นมาตรฐานของสังคมญี่ปุ่น ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นต้องมีการจ่ายเงินเพิ่มแต่อย่างใด

ระบบเลขที่อยู่ที่มีความซับซ้อน ระบบเลขที่อยู่ของญี่ปุ่นแตกต่างจากประเทศตะวันตกหลาย ๆ ประเทศ โดยเลขที่อยู่จะอิงตามพื้นที่และหมายเลขบล็อกแทนที่จะใช้ชื่อถนน ซึ่งอาจสร้างความสับสนให้กับชาวต่างชาติผู้มาเยือนได้

การซดบะหมี่ไม่ถือว่าเป็นการเสียมารยาท ประเทศญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับมารยาทที่ดีเป็นอย่างยิ่ง แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องทานบะหมี่จนหมดชาม มีเพียงวิธีเดียวเท่านั้นในการทาน นั่นก็คือการซดบะหมี่ด้วยเสียงอันดัง การซดบะหมี่เป็นการแสดงความสุข และยังช่วยทำให้บะหมี่เย็นลงขณะที่ทานอีกด้วย ด้วยการจับตะเกียบไว้ในมือข้างหนึ่งแล้วโน้มตัวไปเหนือชาม บางครั้งจะมีผ้ากันเปื้อนให้ชาวต่างชาติ แต่ก่อนออกจากร้าน ควรจะเช็ดชามที่มีฝาสีขาวจนสะอาดเสียก่อน

อาหารคริสต์มาสอีฟแบบดั้งเดิมคือ KFC มีชาวญี่ปุ่นจำนวนมากที่ร่วมการเฉลิมฉลองคริสต์มาส แต่รสชาติของอาหารในเทศกาลนี้ไม่ได้เป็นอย่างที่คาดหวังในญี่ปุ่น ดังนั้นการไปทานมื้อค่ำที่ร้าน KFC สาขาใกล้บ้านในวันคริสต์มาสอีฟจึงถือเป็นประเพณี คาดว่า ชาวญี่ปุ่นประมาณ 3.6 ล้านคนจะออกมาทานอาหารค่ำในวันคริสต์มาสอีฟที่ร้าน KFC ซึ่งต้องรอคิวยาวและต้องสั่งจองอาหารล่วงหน้าหลายสัปดาห์ หลายคนบอกว่า ไก่งวงไม่ค่อยมีขาย ดังนั้นพันเอก Sanders จึงต้องมาญี่ปุ่นเพื่อตอบสนองความต้องการนี้

ญี่ปุ่นไม่ได้มีแค่เมือง เมืองที่มีประชากรหนาแน่นถือเป็นจุดเด่นของญี่ปุ่น แต่ญี่ปุ่นไม่ใช่ประเทศที่มีป่าเขาน้อย เพราะพื้นที่ประมาณ 70% ของญี่ปุ่นประกอบด้วยป่าและภูเขา ซึ่งไม่เหมาะสำหรับการเกษตรหรืออยู่อาศัย มีภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่มากกว่า 100 ลูก และภูเขาที่สูงที่สุดคือภูเขาไฟฟูจิอันโด่งดังซึ่งมีความสูง 3,776 เมตร

เกาะกระต่ายในญี่ปุ่น แม้ว่าญี่ปุ่นประกอบด้วยเกาะเกือบ 7,000 เกาะ เกาะโอคุโนะชิมะ (Okunoshima) ซึ่งเป็นเกาะเล็ก ๆ นั้นมีชื่อเสียงที่สุดจากประชากรกระต่ายที่อยากรู้อยากเห็นและมีหูโต เกาะแห่งนี้เคยถูกใช้เพื่อทดสอบอาวุธเคมีในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง และว่ากันว่า หลังสงครามสัตว์ทดลองเหล่านี้สามารถเดินเตร่ไปมาบนเกาะอย่างอิสระ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม จำนวนสัตว์ทดลองก็เพิ่มจำนวนขึ้นในสภาพแวดล้อมที่ปราศจากสัตว์นักล่า (ห้ามสุนัขและแมวเข้ามาในพื้นที่) และปัจจุบันเกาะโอคุโนะชิมะก็กลายเป็นจุดยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบกระต่าย

เลข 4 เป็นเลขอับโชคอย่างมาก ชาวญี่ปุ่นมักหลีกเลี่ยงเลข 4 (‘Shi’) เนื่องจากออกเสียงคล้ายกับคำว่าความตายในภาษาญี่ปุ่นมากเกินไป หากสังเกตให้ดีในญี่ปุ่น จะเห็นว่า อาคารต่าง ๆ ไม่มีชั้นที่สี่ สินค้าต่าง ๆ จะขายเป็นชุดละ 3 หรือ 5 ชิ้น และมีการระมัดระวังเป็นพิเศษเพื่อหลีกเลี่ยงการพบเจอเลขนี้ในชีวิตประจำวัน

เทศกาลเปลือยกาย ฮาดากะมัตสึริ ญี่ปุ่นมีชื่อเสียงในเรื่องเทศกาลมากมายไม่หยุดหย่อน แต่เทศกาลฮาดากะมัตสึริ (Hadaka Matsuri) อาจเป็นหนึ่งในเทศกาลที่แปลกประหลาดที่สุด เมื่อชายชาวญี่ปุ่นหลายพันคนเปลือยกายในที่สาธารณะเพื่อเฉลิมฉลองปีใหม่ โดยเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดจัดขึ้นที่เมืองโอกายามะ โดยมีชายชาวญี่ปุ่นประมาณ 9,000 คนออกมาเดินขบวนที่เรียกว่า ‘ฟุนโดชิ’

รถไฟญี่ปุ่นเป็นรถไฟที่ตรงเวลาที่สุดในโลก รถไฟญี่ปุ่นล่าช้าเฉลี่ยเพียง 18 วินาที อะไรทำให้รถไฟญี่ปุ่นตรงเวลาได้ขนาดนี้? เพราะ...พนักงานขับรถไฟได้รับการฝึกฝนในเครื่องฝึกจำลองที่สมจริงสุด ๆ และขับรถไฟเพียงสายเดียวเท่านั้น หลายคนไม่จำเป็นต้องใช้มาตรวัดความเร็วเพื่อให้รู้ว่ารถไฟวิ่งเร็วแค่ไหนเสียด้วยซ้ำ การแข่งขันระหว่างบริษัทรถไฟก็ดุเดือดเช่นกัน ดังนั้นการตามหลังจึงไม่ช่วยอะไร พวกเขาทำงานอย่างหนักเพื่อรักษาจำนวนผู้โดยสารรถไฟของญี่ปุ่นที่แม้ว่าจะมีจำนวนมากเอาไว้ให้ได้ ไม่ว่าจะต้องทำอะไรก็ตาม (แม้ว่าจะต้องสร้างห้างสรรพสินค้าสุดหรูหราในสถานีรถไฟก็ตาม)

ชาวญี่ปุ่นทุกคนมีตราประทับเป็นของตัวเอง ในญี่ปุ่นไม่มีลายเซ็น แต่พวกเขามีตราประทับเป็นของตัวเอง ตราประทับที่เรียกว่า ‘ฮังโกะ (Hanko)’ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะเป็นชื่อของคนญี่ปุ่นที่แปลเป็นอักษรคันจิ และทำจากไหมหรือแป้งพืช ผู้ใหญ่จะมีตราประทับนี้สามอัน อันหนึ่งไว้สำหรับเซ็นชื่อในจดหมายและเรื่องส่วนตัว อันหนึ่งไว้สำหรับประทับตราธนาคาร และอีกอันไว้สำหรับแสดงตัวตน ตราประทับเหล่านี้ไม่มีความจำเป็นสำหรับนักท่องเที่ยว แต่ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นสามารถหาซื้อตราประทับนี้เองได้จากร้านค้าเล็ก ๆ ทั่วไปในท้องถิ่น

พื้นป้องกันนินจามีอยู่จริง ในช่วงยุคศักดินา ขุนนางญี่ปุ่นผู้มั่งคั่งจะสร้างบ้านที่มีพื้นที่ส่งเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด (เรียกว่า พื้นไนติงเกล) เพื่อป้องกันนินจา นักรบรับจ้างในตำนานของญี่ปุ่นในยุคศักดินาที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีนั้น มีตำนานและนิทานพื้นบ้านกล่าวกันว่า นินจาสามารถ เดินบนน้ำ ล่องหน และควบคุมธาตุต่าง ๆ ตามธรรมชาติได้ นั่นคงเป็นแรงบันดาลใจให้ทำพื้นใหม่

การเดินทางไปญี่ปุ่นแต่ละครั้งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก็จะ พบเห็น เจอะเจอ วัฒนธรรมที่มีความเป็นเอกลักษณ์และมีความซับซ้อนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ญี่ปุ่นกลายเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยสถานที่ที่เต็มไปด้วยความสุขมากมาย และมีการค้นพบเรื่องราวต่าง ๆ ในแบบที่ไม่มีใครเคยคาดคิดมาก่อนเลย

'อรรถชัย สิงห์ทอง' ชนะเลิศ Microsoft PowerPoint version 2019 เวที The Microsoft Office Specialist World Championship 2024

เมื่อวานนี้ (1 ส.ค.67) เพจเฟซบุ๊ก ‘MOS Olympic Thailand Competition’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า…

“เย้!!!!! #เฮลั่น เด็กไทยคว้าแชมป์โลก 🇹🇭 โชว์ฟอร์มเก่ง เอาชนะคู่แข่งจากทั่วโลกบนเวทีการแข่งขัน The Microsoft Office Specialist World Championship 2024 การแข่งขันทักษะการใช้งาน Program Microsoft PowerPoint

ซึ่งการแข่งขันจัดขึ้นในระหว่างวันที่ July 28 - 31, 2024 ณ เมือง Anaheim รัฐ California ประเทศสหรัฐอเมริกา

โดยนายอรรถชัย สิงห์ทอง ตัวแทนนักศึกษาจากคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เข้าแข่งขันในโปรแกรม Microsoft PowerPoint Version 2019 และได้รับรางวัลชนะเลิศจากการแข่งขันดังกล่าว

ขอแสดงความยินดีกับเยาวชนคนเก่ง ที่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยได้สำเร็จ”

‘นายกฯ มาเลย์’ ควันออกหู!! ‘เฟซบุ๊ก’ ลบโพสต์ไว้อาลัยผู้นำฮามาส ประณาม ‘Meta’ เลิกเป็นเครื่องมือให้ ‘ไซออนิสต์อิสราเอล’ เสียที

เมื่อวานนี้ (1 ส.ค.67) นายกรัฐมนตรี อันวาร์ อิบราฮิม แห่งมาเลเซีย ออกมาประณาม เมตา แพลตฟอร์มส (Meta Platforms) บริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก (Facebook) อย่างดุเดือดว่าทำตัว ‘ขี้ขลาดตาขาว’ หลังถูกเฟซบุ๊กลบโพสต์ที่ตนเองแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเหตุลอบสังหาร อิสมาอีล ฮานิเยห์ ผู้นำกลุ่มฮามาส

มาเลเซียซึ่งมีพลเมืองส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามถือเป็นชาติที่แสดงจุดยืนสนับสนุนปาเลสไตน์อย่างแข็งขันเรื่อยมา และนายกฯ อันวาร์ ก็ได้โพสต์คลิปวิดีโอบันทึกการสนทนาระหว่างตนกับเจ้าหน้าที่ฮามาสคนหนึ่ง เพื่อแสดงความโศกเศร้าอาลัยต่อการจากไปของฮานิเยห์ ก่อนที่โพสต์ดังกล่าวจะถูกเฟซบุ๊กลบออกไป

เหตุลอบสังหารอุกอาจครั้งนี้เกิดขึ้นระหว่างที่ ฮานิเยห์ เดินทางไปยังกรุงเตหะรานของอิหร่าน เพื่อเข้าร่วมพิธีสาบานตนรับตำแหน่งของประธานาธิบดี มาซูด เปเซสเคียน ผู้นำอิหร่านคนใหม่

หลายฝ่ายมองว่า นี่คือการเติมเชื้อไฟให้กับความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่รุนแรงอยู่แล้ว และอาจทำให้การสู้รบในกาซาลุกลามขยายวงกว้างจนกลายเป็นสงครามระดับภูมิภาค

อันวาร์ ซึ่งมีโอกาสได้พบ ฮานิเยห์ ที่กาตาร์เมื่อเดือน พ.ค. ระบุว่า ตนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้นำทางการเมืองของฮามาส แม้มาเลเซียจะไม่ได้เข้าไปมีส่วนสนับสนุนฮามาสในด้านการทหารก็ตาม

“ขอให้นี่เป็นการส่งสารที่ชัดเจนแจ่มแจ้งถึงเมตา : หยุดแสดงอาการขี้ขลาดตาขาวแบบนี้เสียที และเลิกทำตัวเป็นเครื่องมือให้กับระบอบไซออนิสต์อิสราเอล!” อันวาร์ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก

ทั้งนี้ เมตา ยังไม่ออกมาตอบคำถามสื่อมวลชนในวันที่ 1 ส.ค.67 ขณะที่กระทรวงสื่อสารของมาเลเซียระบุว่า จะมีการเปิดแถลงข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลมาเลเซียเคยประท้วงเมตามาแล้วหลายครั้งเรื่องการปิดกั้นคอนเทนต์ต่าง ๆ รวมถึงข่าวที่ อันวาร์ ไปพบกับ ฮานิเยห์ ครั้งสุดท้าย ซึ่งต่อมาทางเมตาก็ได้ยอมปลดบล็อกโพสต์ดังกล่าวให้

โดย เมตา ออกมาอธิบายในตอนนั้นว่า ‘ไม่ได้มีเจตนา’ ปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นบนเฟซบุ๊ก และก็ไม่เคยใช้มาตรการจำกัดเนื้อหาที่สนับสนุนชาวปาเลสไตน์ด้วย

อย่างไรก็ตาม เมตา ถือว่าฮามาสซึ่งเป็นขบวนการอิสลามิสต์ที่ปกครองฉนวนกาซาคือหนึ่งใน ‘องค์กรอันตราย’ (dangerous organization) และห้ามการเผยแพร่เนื้อหายกย่องเชิดชูคนกลุ่มนี้ นอกจากนี้เมตายังใช้ระบบตรวจจับอัตโนมัติร่วมกับทรัพยากรบุคคลในการลบโพสต์หรือติดป้ายคำเตือนภาพกราฟิกต่าง ๆ ที่เข้าข่ายผิดกฎของแพลตฟอร์มด้วย

รัฐบาลมาเลเซียประกาศจุดยืนสนับสนุนทางออกแบบ 2 รัฐควบคู่ (two-state solution) เพื่อสร้างสันติภาพที่ยั่งยืนระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์

🔎ส่อง 10 เมืองที่มีความเสี่ยงมากที่สุดในโลก...ไทยไม่ติด!!

‘การากัส’ เมืองหลวงของเวเนซุเอลา เป็นเพียงเมืองเดียวที่ได้คะแนนเต็ม 100 ในเรื่องความเสี่ยง ประกอบไปด้วย ด้านความมั่นคงด้านสุขภาพ สะท้อนถึงระดับและคุณภาพของบริการสุขภาพและโครงสร้างพื้นฐานที่ต่ำ

โดยการากัสมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของโครงสร้างพื้นฐานที่สูงเป็นอันดับที่ 2 ซึ่งสะท้อนถึงความพร้อมใช้งานและคุณภาพของโครงสร้างพื้นฐานของเมือง ขณะที่ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางดิจิทัลที่สูงเป็นอันดับสอง สะท้อนถึงความสามารถของประชาชนในการใช้อินเทอร์เน็ตได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องกลัวการละเมิดความเป็นส่วนตัว การขโมยข้อมูลประจำตัว และการโจมตีทางออนไลน์

อัตราการก่ออาชญากรรมของการากัสยังได้รับคะแนนความปลอดภัยในการเดินทางต่ำที่สุดจากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งให้คำแนะนำ ‘ระดับ 4: ห้ามเดินทาง’

ด้าน ‘การาจี’ เมืองหลวงของปากีสถานถือเป็นเมืองที่มีความเสี่ยงเป็นอันดับที่ 2 โดย Forbes Advisor จัดประเภทการาจีว่ามีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยส่วนบุคคลสูงที่สุด และมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของโครงสร้างพื้นฐานสูงสุดเป็นอันดับที่ 4

“การก่อการร้ายและความรุนแรงที่ดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่องโดยกลุ่มหัวรุนแรงได้นำไปสู่การโจมตีเป้าหมายพลเรือน รวมถึงทหารและตำรวจในพื้นที่โดยไม่เลือกปฏิบัติ” กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุในคำแนะนำการเดินทางที่ตีพิมพ์ในเดือนมิถุนายน 2566 โดยให้คำแนะนำ ‘ระดับ 3’ เตือนนักท่องเที่ยวให้พิจารณาการเดินทางอีกครั้ง

ส่วน ‘ย่างกุ้ง’ ประเทศเมียนมา อยู่ในอันดับที่ 3 ของเมืองที่ไม่ปลอดภัยสำหรับนักเดินทางมากที่สุดในโลก

โดยคะแนนของย่างกุ้งคือ 91.67 จาก 100 มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางดิจิทัลสูงสุด สะท้อนถึงความสามารถของประชาชนในการใช้อินเทอร์เน็ตได้อย่างอิสระ โดยไม่ต้องกลัวการละเมิดความเป็นส่วนตัว การโจรกรรมข้อมูลประจำตัว และการโจมตีทางออนไลน์ มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยส่วนบุคคลที่สูงเป็นอันดับที่ 3 สะท้อนถึงความเสี่ยงจากอาชญากรรม ความรุนแรง ภัยคุกคามจากการก่อการร้าย ภัยพิบัติทางธรรมชาติ และความเปราะบางทางเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงด้านความมั่นคงด้านสุขภาพที่สูงเป็นอันดับที่ 3 ซึ่งสะท้อนถึงระดับและคุณภาพของบริการและโครงสร้างพื้นฐานด้านการดูแลสุขภาพ

สำหรับ ‘กรุงเทพมหานคร’ อยู่กึ่งกลางของการจัดอันดับ โดยอยู่ที่อันดับ 30 (ปลอดภัยอันดับที่ 30 ของโลก/เสี่ยงอันดับที่ 30 ของโลก) โดยได้คะแนน 53.34 ความเสี่ยงด้านอาชญากรรมอยู่อันดับที่ 3 ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยด้านสุขภาพและความเสี่ยงด้านอาชญากรรมอันดับที่ 39 ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของโครงสร้างพื้นฐานอันดับที่ 22 และความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางดิจิทัลอันดับที่ 17

ที่น่ากังวลคือ เมืองหลวงของประเทศไทย มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยส่วนบุคคลสูงเป็นอันดับที่ 5 เท่ากับมะนิลาของฟิลิปปินส์

‘Apple’ ประกาศลบซีรีส์โฆษณา 'The Underdogs' แล้ว พร้อมขอโทษที่ไม่ได้นำเสนอวิถีชีวิตของไทยในปัจจุบัน

หลังจากเมื่อวันที่ 18 ก.ค.67 ‘Apple’ ได้ปล่อยคลิปโฆษณา The Underdogs: OOO (Out Of Office) ที่มีการถ่ายทำในประเทศไทย ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมในการนำเสนอเนื้อหา หลายประเด็นภายหลังจากเผยแพร่ และสร้างความไม่พอใจต่อคนไทยและต่างชาติที่รับไม่ได้กับเมืองไทยในมุมล้าหลัง ไม่เจริญ ไม่ปลอดภัย จากคลิปโฆษณาดังกล่าว

ล่าสุดทาง Apple ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวและวันที่ 2 ส.ค.67 Apple ก็ได้ทำการยุติเผยแพร่ (ลบ) โฆษณา The Underdogs: OOO (Out Of Office) แล้ว พร้อมออกแถลงการณ์ ดังนี้...

"สืบเนื่องจากซีรีส์โฆษณา 'The Underdogs' ซึ่งถือเป็นผลงานชิ้นที่ 5 ในซีรีส์นี้ ทางเรามีการทำงานใกล้ชิดร่วมกับบริษัทในประเทศไทยเพื่อดำเนินการสร้างและผลิตชิ้นงานโฆษณา ซึ่งได้ทำการถ่ายทำในประเทศไทย ทั้งนี้เรามุ่งหวังและมีความตั้งใจที่จะถ่ายทอดวัฒนธรรมและมุมมองความคิดในแง่ดีของประเทศไทย และเราขออภัยที่โฆษณาชิ้นนี้ไม่ได้นำเสนอวิถีชีวิตของประเทศไทยที่เป็นอยู่ในปัจจุบันได้อย่างครบถ้วนและเหมาะสม ณ ตอนนี้ ทางเราได้ดำเนินการยุติการเผยแพร่โฆษณาดังกล่าวแล้ว”

‘บอร์ด EA’ ไฟเขียว!! แต่งตั้ง ‘สุพันธุ์ มงคลสุธี’ นั่งกรรมการฯ ส่ง ‘ฉัตรพล ศรีประทุม’ ขึ้นนั่ง CEO ส่วน ‘วสุ กลมเกลี้ยง’ นั่ง CFO

บอร์ด EA อนุมัติแต่งตั้ง ‘สุพันธุ์ มงคลสุธี’ เข้าดำรงตำแหน่งกรรมการคนใหม่ พร้อมตั้ง ‘ฉัตรพล ศรีประทุม’ ขึ้นแท่น CEO ขณะที่ ‘วสุ กลมเกลี้ยง’ ขึ้นนั่ง CFO มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.นี้ ทางด้าน ‘สมใจนึก เองตระกูล’ ยังคงนั่งเป็นประธานบอร์ด มั่นใจศักยภาพทีมผู้บริหารรุ่นใหม่สามารถผลักดันแผนธุรกิจที่วางไว้ให้องค์กรเติบโตในแนวทางพลังงานสะอาด ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตอบโจทย์ Net Zero สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน 

(2 ส.ค. 67)  นายสมใจนึก เองตระกูล ประธานกรรมการ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (EA) เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติแต่งตั้งนายสุพันธ์ มงคลสุธี เข้ารับตำแหน่งกรรมการแทนนายชัชวาลย์ เจียรวนนท์ และมีมติแต่งตั้งทีมผู้บริหารรุ่นใหม่โดยมี นายฉัตรพล ศรีประทุม ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) และนายวสุ กลมเกลี้ยง ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน (CFO) โดยมีผลตั้งแต่ วันที่ 1 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี อดีตประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ถือเป็นบุคคลที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญการดำเนินธุรกิจ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และกรรมการ บริษัท พลัส เทค อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน)

ขณะที่นายฉัตรพล ศรีประทุม จบการศึกษาวิศวกรรมศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโท MBA การเงิน ร่วมงานกับบริษัทฯ มากว่า 10 ปี ผ่านงานด้านการพัฒนากลยุทธ์และวางแผนการลงทุน รวมถึงโครงการกลยุทธ์ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการพัฒนา ปัจจุบันเป็นซีอีโอ บริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) และประธานกรรมการ บริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ไต้หวัน) ผลงานโดดเด่นล่าสุด นำ EA เข้าโครงการซื้อขายคาร์บอนเครดิตระหว่างประเทศ นับเป็นโครงการแรกของโลกที่มีการซื้อขายกันเกิดขึ้น ภายใต้ความตกลงปารีส Article 6.2 ซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่างไทย-สวิตเซอร์แลนด์ ผ่านกรอบความร่วมมือกันระหว่างประเทศที่มีการระบุชัดเจนว่าจะต้องเป็นโครงการการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจ นับเป็นแรงกระตุ้นที่ดีสำหรับภาคเอกชนในการพัฒนาโครงการที่ช่วยรักษาและปกป้องสิ่งแวดล้อม

ส่วนนายวสุ กลมเกลี้ยง จบการศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และปริญญาโทด้านการบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ สาขาการเงินระหว่างประเทศ ก่อนเข้ามาร่วมงานกับบริษัทฯ เคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารสถาบันการเงินหลายแห่ง และเมื่อร่วมงานที่บริษัทฯ ได้ดูแลด้านการบริหารการเงินการจัดหาแหล่งเงินทุนจากทั้งตลาดเงินและตลาดทุน รวมถึงรับผิดชอบงานการลงทุนทั้งในและต่างประเทศของกลุ่มบริษัทฯ ทั้งหมด 

ผลงานโดดเด่นล่าสุด เป็นผู้มีส่วนสำคัญในการเจรจาและจัดโครงสร้างการลงทุนใน บมจ. เน็กซ์ พอยท์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการและกรรมการบริหาร บมจ. เน็กซ์ พอยท์ นอกจากนี้ยังเป็นผู้ร่วมผลักดันการตั้งบริษัทร่วมทุน Super Holding Company กับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดย EA มีสิทธิในการบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดแบบรวมศูนย์ของ สปป.ลาวทั้งหมด เพื่อให้กลายเป็นศูนย์กลางจำหน่าย และ บริหารพลังงานสะอาดแบบครบวงจร 

นายสมใจนึก กล่าวเพิ่มเติมว่า “ผมในฐานะประธานกรรมการมั่นใจว่าทีมผู้บริหารใหม่ ทั้ง CEO และ CFO เป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์การทำงานร่วมกับ EA มานาน พร้อมที่จะสานต่อภารกิจทั้งด้านธุรกิจพลังงานสะอาด แบตเตอรี่ ยานยนต์ไฟฟ้า ระบบกักเก็บพลังงาน การซื้อขายคาร์บอนเครดิต การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์สุทธิ นำพาองค์กรเติบโตได้ตามแผนงานที่วางไว้”

ในส่วนของหุ้นกู้บริษัทฯจะจัดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ในวันที่ 9 และ วันที่ 14 สิงหาคม 2567 โดยบริษัทฯ จะเพิ่มอัตราผลตอบแทนและขอเลื่อนการไถ่ถอนหุ้นกู้ออกไปเป็นภายในปีหน้า

‘แองเจล่า คารินี’ นักชกสาวอิตาลี เปิดใจหลังพ่ายกำปั้นคู่แข่งที่มีเพศสภาพไม่เหมือนกัน ในศึกโอลิมปิก 2024

ในการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นหญิงของกีฬาโอลิมปิก ที่ปารีส เป็นเจ้าภาพ การชกระหว่าง ‘ไอมาน คาลิฟ’ กับ ‘แองเจล่า คารินี’ นักมวยหญิงชาวอิตาลี จบลงในเวลาเพียง 46 วินาที หลังจาก คารินี ตัดสินใจขอยอมแพ้ หลังจากถูกหมัดของ คาลิฟ 

ทั้งนี้ คารินี พยายามกลั้นน้ำตาหลังจบการแข่งขัน และต่อมาได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า "มันอาจเป็นการแข่งขันครึ่งหนึ่งในชีวิต แต่ฉันจำเป็นต้องรักษาชีวิตตัวเองเช่นกันในช่วงเวลาดังกล่าว"

‘เจเค.โรว์ลิง-อีลอน’ วิจารณ์!! กีฬามวยสมัครเล่นหญิงใน ‘โอลิมปิกปารีส’ หลังยืนหยัดปล่อยคู่แข่งที่มี ‘ฮอร์โมนเพศชาย’ สูงกว่าปกติชกหญิงแท้

(2 ส.ค.67) เจเค.โรว์ลิง นักเขียนชื่อดัง และอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีเจ้าของเทสลา เป็นหนึ่งในบรรดาบุคคลที่มีชื่อเสียงที่ออกมาประณามโอลิมปิก ต่อกรณีที่อนุญาตให้ ‘ไอมาน คาลิฟ’ จากแอลจีเรีย เข้าแข่งขันในกีฬามวยสมัครเล่นหญิงในปารีเกมส์ 2024 แม้เธอถูกตัดสิทธิจากศึกชิงแชมป์โลกของผู้หญิงเมื่อปีที่แล้ว หลังไม่ผ่านการตรวจเพศ สืบเนื่องจากมีระดับเทสโทสเตอโรน หรือฮอร์โมนเพศชายสูงกว่าปกติ

ในการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นหญิงของกีฬาโอลิมปิก ที่ปารีสเป็นเจ้าภาพ การชกระหว่าง ไอมาน คาลิฟ กับแองเจล่า คารินี นักมวยหญิงชาวอิตาลี จบลงในเวลาเพียง 46 วินาที หลังจาก คารินี ตัดสินใจขอยอมแพ้ หลังจากถูกหมัดของ คาลิฟ 

ทั้งนี้ คารินี พยายามกลั้นน้ำตาหลังจบการแข่งขัน และต่อมาได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า "มันอาจเป็นการแข่งขันครึ่งหนึ่งในชีวิต แต่ฉันจำเป็นต้องรักษาชีวิตตัวเองเช่นกันในช่วงเวลาดังกล่าว"

"ฉันให้เกียรติกับประเทศของฉันด้วยความซื่อสัตย์เสมอ ไฟต์นี้ฉันไม่ประสบความสำเร็จเพราะฉันไม่สามารถสู้ต่อไปได้ ตั้งแต่เกิดมาฉันไม่เคยเจอหมัดหนักขนาดนี้มาก่อน" เธอกล่าว

คารินี บอกต่อว่า "ฉันตัดสินใจยุติการชกเพราะหลังจากโดนชกไปสองหมัด จากประสบการณ์หลายปีบนสังเวียน และตลอดชีวิตการชกมวย ฉันรู้สึกเจ็บมาก ๆ ที่จมูก ฉันบอกว่า ‘พอแล้ว’ เพราะ...ฉันไม่สามารถที่จะเอาชนะไฟต์นี้ได้ ดังนั้นฉันคิดว่าบางทีมันคงจะดีกว่าถ้ายุติการชกไปซะ"

"ฉันขึ้นสังเวียนเพื่อที่จะต่อสู้ ฉันไม่เคยยอมแพ้ ฉันไม่กลัว ไม่หวั่นการขึ้นเวที หรือการที่ต้องรับหมัด แต่การโดนต่อยครั้งนี้มันเจ็บมาก ๆ และฉันพูดกับตัวเองว่าพอเหอะ ฉันออกจากการแข่งขันแต่ก็ยังคงความภาคภูมิใจ" คารินี กล่าว

ด้าน เจเค.โรว์ลิง เขียนบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ พร้อมกับแชร์ภาพที่ คารินี กำลังน้ำตาริน และคาลิฟ พยายามปลอบโยนเธอ ในการชกที่จบลงอย่างรวดเร็ว "นักมวยหญิงคนหนึ่ง เธอถูกพรากทุกสิ่งที่เธอได้ฝึกฝนทุ่มเทมา เพียงเพราะคุณยอมให้นักมวยชายขึ้นสังเวียนสู้กับเธอ"

"จะมีภาพไหนที่สรุปได้ถึงการเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิความเท่าเทียมทางเพศของเราได้ดีกว่านี้อีกหรือไม่ รอยยิ้มเยาะเย้ยของผู้ชาย ที่ได้รับการคุ้มครองจากสถาบันกีฬาที่เกลียดชังผู้หญิง และเพลิดเพลินกับความทุกข์ทรมานของผู้หญิงที่เขาเพิ่งต่อยเธอเข้าที่ศีรษะ และความทะเยอทะยานในชีวิตของเธอ เพิ่งถูกเขาทำลายไป"

ขณะที่ทางด้าน อีลอน มัสก์ ก็ได้ร่วมแชร์โพสต์ของ ไรลีย์ ไกเนส นักกีฬาว่ายน้ำ ที่อ้างว่า "ผู้ชายไม่ควรเป็นส่วนหนึ่งในกีฬาของผู้หญิง" พร้อมกับเขียนตอบกลับข้อความกล่าวว่า "แน่นอนที่สุด"

โอลิมปิกยืนหยัดต่อการตัดสินใจอนุญาตให้ คาลิฟ ที่มีเพศสภาพหญิงตั้งแต่เกิด แต่มีระดับเทสโทสเตอโรนหรือฮอร์โมนเพศชายสูงกว่าปกติ เข้าแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นประเภทหญิงในปารีสเกมส์

"พาสปอร์ตของทั้งสองคนระบุว่าทั้งคู่เป็นผู้หญิง เพราะฉะนั้นถือว่าทั้งสองคนเป็นผู้หญิง ทั้งสองคนมีสิทธิเข้าร่วมการแข่งขันเพราะไม่ได้มีการฝ่าฝืนกฎเกณฑ์ที่โอลิมปิกระบุไว้ นี่คือสิ่งที่พวกเธอเป็น และเราสนับสนุนให้พวกเธอได้แข่งเต็มที่ มันจะเป็นไม่ให้เกียรติที่เราจะมาเถียงกันถึงรายละเอียดของนักกีฬาแต่ละคน นักกีฬาผ่านทัวร์นาเมนต์ที่โอลิมปิกจัดมาหลายรายการ พวกเธอไม่ได้เพิ่งมาแข่ง" โฆษกระบุ

คารินี ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ไม่ขอวิจารณ์การเข้าร่วมแข่งขันของ คาลิฟ โดยบอกว่า "ฉันปรารถนาเห็นเธอเดินหน้าไปจนสุดทาง (คว้าเหรียญทอง) เพื่อเธอจะได้มีความสุข ฉันไม่ใช่คนที่จะมาตัดสินใคร ๆ ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อตัดสินคนอื่น"

‘เพชรมงคล’ คนรุ่นใหม่ ปชป.แนะ!! ศธ.จัดตั้งศูนย์ ‘Drop Out’ ดึงเด็กไทยที่หลุดระบบให้จบการศึกษา แบบไม่ต้องเริ่มเรียนใหม่

(2 ส.ค.67) นายเพชรมงคล วัสสุวรรณ ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอนและคนรุ่นใหม่พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงปัญหาเด็กหลุดระบบการศึกษาเป็นเรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องการแก้ไข เพราะในปัจจุบันประเทศไทยมีแนวโน้มการ Drop out สูงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศอย่างยิ่ง

การแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนและตรงจุดไม่ใช่การนำเด็กกลับเข้าสู่ระบบการศึกษาอีกครั้ง แต่ต้องนำระบบการศึกษาที่ตอบโจทย์และเหมาะสมกับผู้เรียนไปรองรับผู้ที่หลุดจากระบบการศึกษา

สาเหตุที่เด็กหลุดออกจากระบบการศึกษามีหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง คุณแม่วัยใส, ยาเสพติด, เกเร รวมถึงปัญหาความยากจนของครอบครัว ที่ทำให้ผู้ปกครองไม่สามารถสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเรียนได้ ปัญหาครอบครัวที่ซับซ้อน สภาพแวดล้อมทางสังคมที่ไม่เอื้ออำนวย และรวมไปถึงระบบการศึกษาที่ไม่ตอบโจทย์หรือรองรับกับความแตกต่างหลากหลาย

วันนี้เราต้องยอมรับว่าการศึกษาในปัจจุบันมีต้นทุนสูงมาก และมีหลักเกณฑ์ตัวชี้วัดเยอะเกินความจำเป็น ซึ่งไม่ตอบโจทย์ เกิดประโยชน์กับตัวผู้เรียนจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เด็ก หันหลังให้กับการศึกษา หรือหลุดระบบการศึกษาออกไป

จริง ๆ แล้วเรื่องนี้ ตนเคยให้สัมภาษณ์และเสนอกระทรวงศึกษาธิการไปหลายปีแล้วเกี่ยวกับการจัดตั้งศูนย์ ‘Drop out’ แก้ไขปัญหาเด็กหลุดระบบการศึกษาก็เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน และลดความเหลื่อมล้ำในสังคม โดยใช้กลไกธนาคารหน่วยกิต สำหรับเด็กที่หลุดระบบการมีต้นทุนเดิม เช่น เวลาศึกษาเดิม หน่วยกิตเดิม นำมาเทียบโอนให้สามารถจบการศึกษาได้ โดยไม่ต้องเริ่มเรียนใหม่ ดังนั้นควรมีโรงเรียนนำร่องทั้งการศึกษาภาคบังคับ ขั้นพื้นฐาน อาชีวศึกษา และสถาบันฝึกอบรมวิชาชีพเฉพาะทางมาเป็นศูนย์นำร่องในการแก้ไขปัญหานี้

ดังนั้น ควรจัดระบบการศึกษาทางเลือกให้เป็นรูปธรรมและสามารถรองรับนักเรียนที่มีความหลากหลาย ให้ ผู้เรียนได้มีทางเลือกในการเข้าถึงการศึกษาได้ ในความเป็นจริงแล้วระบบการศึกษาต้องตอบโจทย์ผู้เรียน เข้าถึงตัวผู้เรียนมากกว่าการให้ผู้เรียนเข้าถึงเอง ที่สำคัญต้องสอดคล้องกับยุคสมัยและสภาพเศรษฐกิจด้วย 

สุดท้ายนี้ ตนเชื่ออย่างยิ่งว่ารัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ คนปัจจุบันให้ความสำคัญกับปัญหาเด็กหลุดระบบการศึกษา และควรยกขึ้นเป็นวาระแห่งชาติที่ต้องเร่งแก้ไข แม้ว่าปัญหาเด็กหลุดระบบการศึกษาจะยังคงเป็นความท้าทายใหญ่ แต่ความพยายามของทุกฝ่ายจะช่วยให้ประเทศไทยสามารถก้าวข้ามปัญหานี้ไปได้ และสร้างอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืนให้กับเยาวชนต่อไป

How to invest คุยเรื่องลงทุนกับ 'อรวดี ศิริผดุงธรรม' 'หุ้น-ทอง-อสังหาฯ' ในห้วงเวลาที่ต้องคลิกให้ถูกจังหวะ

รายการ THE TOMORROW มหาชนต้องรู้ ซึ่งออกอากาศทางสถานีวิทยุ ส.ทร. FM93.0 MHz และสื่อออนไลน์ ในเครือ THE STATES TIMES ได้พูดคุยกับ คุณอรวดี ศิริผดุงธรรม Senior Investment Advisory เมื่อวันที่ 3 ส.ค.67 ในประเด็น 'เกาะติดการลงทุนไทย' ว่า...

ช่วงนี้หากมองการลงทุนในตลาดหุ้น คงต้องพิจารณาให้รอบด้าน เนื่องจากมีแรงเทขายหุ้นจากต่างชาติตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมา แต่ก็ไม่ได้ทิ้งหุ้นไทยทั้งหมด เพียงแต่เปลี่ยนการลงทุนไปยังอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโต เช่น ยานยนต์, การแพทย์ และสื่อสาร 

อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวมองว่า นักลงทุนควรมองหาโอกาสการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่า เช่น กลุ่มที่มีหนี้เป็นสกุลเงินต่างประเทศ, โรงไฟฟ้า, สายการบิน, สินค้านำเข้า เป็นต้น 

ต่อมา คาดกันว่าในเดือนกันยายนนี้ หากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติลดดอกเบี้ย ก็จะส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจและสินทรัพย์เสี่ยงในอนาคต ซึ่งจะเป็นโอกาสของนักลงทุนเช่นกัน 

ส่วนนักลงทุนมือใหม่ที่สนใจลงทุนในตลาดหุ้นช่วงนี้ ก็อยากให้เริ่มต้นด้วยการสำรวจตัวเองก่อนว่า สามารถรับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน? แนะนำให้ลองกรอกแบบฟอร์มประเมินความเสี่ยงก่อนลงทุน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก จากนั้นควรศึกษาข้อมูลของบริษัทที่สนใจลงทุนอย่างละเอียด เช่น ข้อมูลพื้นฐานของบริษัท, ผู้บริหาร, ธรรมาภิบาล, สินค้าและบริการตอบโจทย์ผู้บริโภคหรือไม่ 

คุณอรวดี ให้คำแนะนำในส่วนนี้เพิ่มด้วยว่า "การเล่นหุ้น จำเป็นต้องมองภาพใหญ่ของประเทศให้ออก ว่ากำลังเดินไปในทิศทางไหน เช่น รัฐบาลกำลังมีโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศแบบใด แล้วหุ้นตัวไหนที่มีได้อานิสงส์จากโครงการนี้ เช่น ห้างสรรพสินค้า, โรงแรม หรือ ร้านค้าปลีก เข้าข่ายไหม จากนั้นก็ค่อย ๆ ทยอยซื้อเก็บไปเรื่อย ๆ พอในระยะยาว เราก็อาจจะสามารถเอาชนะตลาดได้"

เมื่อถามถึงการลงทุนในตลาดทองคำ? คุณอรวดี เผยว่า ปัจจุบันมีผลงานวิจัยรายงานว่าทองคำบนโลกอาจมีให้ขุดได้อีกไม่เกิน 20 ปีเท่านั้น หมายความว่าปริมาณทองคำจะเริ่มลดลงเรื่อยๆ สวนทางกับความต้องการที่มีมากขึ้น ภายใต้จุดเด่นที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) ซึ่งได้รับความนิยมสูง สามารถจับต้องได้ และมูลค่าของทองคำไม่ได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ย

ทว่า ในช่วงเศรษฐกิจขาขึ้น นักลงทุนส่วนใหญ่ไม่นิยมลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ แต่ไปลงทุนในสินทรัพย์อื่น ๆ เพื่อทำกำไรมากกว่า แต่กลับกันถ้าเศรษฐกิจขาลง นักลงทุนจะหันกลับมาลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำมากขึ้น 

ดังนั้น การลงทุนทองคำสามารถลงทุนได้เรื่อยๆ แต่ต้องรู้กลยุทธ์ว่าจะลงทุนในรูปแบบใด ระยะสั้น ระยะกลาง หรือระยะยาว ถ้าลงทุนในระยะยาวมีโอกาสทำกำไรได้สูง 

เมื่อถามถึงการลงทุนในส่วนของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย? คุณอรวดี กล่าวว่า ในปัจจุบันอสังหาฯ เหมาะกับนักลงทุนที่มีเงินเย็นมากกว่า เพราะถ้าลงทุนไปแล้ว ไม่สามารถปล่อยเช่า หรือขายได้ ต้นทุนจะสูงขึ้น เนื่องจากต้องจ่ายค่าเสื่อมและค่าส่วนกลางตลอดเวลา ซึ่งปัจจุบันความต้องการอสังหาฯ ในไทยไม่ได้เฟื่องฟูเหมือนเมื่อก่อน อาจต้องรอนโยบายจากรัฐบาลมาสนับสนุน เพื่อให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์กลับมาคึกคักอีกครั้ง 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top