Friday, 28 June 2024
NewsFeed

‘เศรษฐา’ ตรวจความคืบหน้า สนามบิน ‘เพชรหัวหิน’  เตรียมเดินหน้าสู่ การเป็น ‘Aviation Hub-Tourism Hub’ 

(16 มิ.ย.67) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ทวิตผ่าน X ว่า 

สนามบิน ‘เพชรหัวหิน’ คืบหน้าไปมาก เราเดินหน้าสู่การเป็น Aviation Hub และ Tourism Hub ครับ

ก่อนหน้านี้ผมเคยมาตรวจความพร้อม และเร่งรัดการขยายรันเวย์ที่นี่แล้วครั้งหนึ่ง วันนี้ใช้เวลาช่วงวันหยุดมาตรวจความพร้อมของที่นี่อีกครั้ง เพราะตอนนี้มีสายการบินพาณิชย์ของแอร์เอเชียเปิดให้บริการในเส้นทางบิน หัวหิน-เชียงใหม่ แล้ว วันละ 1 เที่ยวบิน ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวมากขึ้น

เพชรบุรี-ประจวบคีรีขันธ์ ถือเป็นประตูบานหนึ่งสู่การเป็น Aviation Hub และ Tourism Hub โดยทางสายการบินแอร์เอเซียพร้อมเปิดเส้นทางบินจากภูมิภาคอื่นทั้งอีสาน และใต้ มาลงที่นี่เพิ่มเติมด้วย ซึ่งผมได้กำชับท่านรัฐมนตรีสุริยะ และท่านปลัดคมนาคม ที่เดินทางมาตรวจสนามบินด้วยกันวันนี้ เร่งดำเนินการปรับปรุงพื้นที่ให้บริการ และประสานกับสายการบินพาณิชย์ต่าง ๆ ที่พร้อมให้บริการในพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากสามารถเปิดเส้นทางบินเพิ่มได้ครับ

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีได้ลงพื้นที่แล้วครั้งหนึ่งในช่วงการประชุมครม. สัญจรที่จังหวัดเพชรบุรี  และ จะมีการเปลี่ยนชื่อจากท่าอากาศยานหัวหินเป็นท่าอากาศยาน “เพชรหัวหิน”เพื่อรองรับและเชื่อมโยงการท่องเที่ยวระหว่างหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์กับจังหวัดเพชรบุรี   ขณะเดียวกันก็เตรียมที่จะขยายเส้นทางเพิ่มจากเดิมที่มีเพียงแค่หัวหินเชียงใหม่ ไปยังพื้นที่ภาคอีสานและภาคใต้และในอนาคตจะมีการเปิดเส้นทางเพิ่มจากหัวหินไปมาเลเซีย

(สุรินทร์) กองกำลังสุรนารี จัดพิธีบำเพ็ญกุศล และเจริญพระพุทธมนต์ เนื่องในงานวันสถาปนา ครบรอบปีที่ 46

วันที่ 16 มิถุนายน 2567 ที่ หน้ากองบัญชาการกองกำลังสุรนารี ค่ายวีรวัฒน์โยธิน อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ พลตรี ณัฎฐ์ ศรีอินทร์  ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี นำกำลังพล พร้อมด้วย หน่วยขึ้นตรง จัดพิธี บวงสรวง สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระสยามเทวาธิราช ศาลเท้ามหาพหรม เท้าสุรนารี ประจำกองกำลังสุรนารี เนื่องในวันครบรอบวันคล้ายวันสถาปนากองกำลังสุรนารี ครบรอบ 46 ปี  

จากนั้นได้เป็นประธานนำข้าราชการ ทหาร รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ฝ่ายเสนาธิการทหาร ร่วมทำบุญ เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากองบัญชาการกองกำลังสุรนารี ครบรอบปีที่ 46 เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่หน่วย โดยมี นายพิจิตร บุญทัน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ร่วมเป็นเกียรติในพิธีฯ ด้วย และหน่วยงานราชการในพื้นที่ ชายแดนที่รับผิดชอบ จากจังหวัดสุรินทร์ จังหวัดอำนาจเจริญ จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดบุรีรัมย์ จำนวนกว่า 100 นาย เข้าร่วมในพิธี

ปุรุศักดิ์  แสนกล้า  ข่าว/ภาพ
 

‘อนุทิน’ ปลื้ม!! หลังได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์

เมื่อวานนี้ (16 มิ.ย.67) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า…

“อยู่ใต้ร่มพระบารมีสองแผ่นดิน ชั่วชีวินขอเป็นข้าฟ้าจักรี”

หลังราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศรายชื่อบุคคลที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทุติยจุลจอมเกล้า ฝ่ายหน้า และเหรียญรัตนาภรณ์รัชกาลที่ 10 ชั้น 3 ซึ่งในจำนวนนี้มี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รวมอยู่ด้วย

‘รัฐบาล’ ประกาศข่าวดี ‘ผู้ประกันตน ม.33-ม.39’ อายุ 50 ขี้นไป สามารถรับบริการฉีด ‘วัคซีนไข้หวัดใหญ่’ ฟรี!! ถึง 31 ธ.ค.ปีนี้

(17 มิ.ย.67) นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.- 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีผู้ป่วยจำนวน 139,326 ราย อัตราป่วย 214.64 ต่อประชากรแสนคน ผู้เสียชีวิต 10 ราย ในจ.นครราชสีมา 5 ราย, นครศรีธรรมราช 2 ราย, ชัยภูมิ, สุราษฎร์ธานี และกรุงเทพมหานคร จังหวัดละ 1 ราย อัตราป่วยตาย 0.007 โดยมีสาเหตุเกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ชนิด A 9 ราย และชนิด B 1 ราย เมื่อเปรียบเทียบกับสถานการณ์ปี 2566 คาดว่าจำนวนผู้ป่วยจะเริ่มสูงขึ้นในช่วงเดือน มิ.ย. และจะพบผู้ป่วยสูงสุดในช่วงเดือน ส.ค.-พ.ย. ซึ่งเป็นฤดูกาลระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ในช่วงฤดูฝน เนื่องจากในช่วงนี้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง และกำลังจะเข้าสู่ช่วงฤดูฝนที่ เป็นฤดูกาลระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่

นายคารม กล่าวว่า นอกจากกลุ่มเสี่ยง 7 กลุ่มเสี่ยงแล้ว รัฐบาลโดยสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงานเชิญชวนผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และมาตรา 39 อายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป เข้ารับบริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลประจำปี 2567 ที่สถานพยาบาลตามสิทธิของผู้ประกันตนได้ฟรี ซึ่งในปี 2567 นี้ ได้ขยายการให้บริการฉีดวัคซีนออกไปถึงวันที่ 31 ธ.ค.2567 เพื่อให้ผู้ประกันตนสามารถเข้ารับบริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้ที่สถานพยาบาลตามสิทธิของผู้ประกันตนได้อย่างทั่วถึง โดยแนะนำให้ติดต่อนัดหมายการฉีดวัคซีนกับสถานพยาบาลตามสิทธิก่อนเข้ารับบริการ สำหรับผู้มีโรคประจำตัว หรือมีประวัติการแพ้วัคซีนควรปรึกษาแพทย์ก่อนการเข้ารับบริการ หากประชาชนต้องการรับข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานประกันสังคม สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.sso.go.th หรือหากมีข้อสงสัยต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานคร พื้นที่จังหวัดสาขาทุกแห่ง หรือที่สายด่วน 1506

“แนะนำประชาชนฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี เนื่องจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่มีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์การระบาดทุกปี โดยเฉพาะประชาชนกลุ่มเสี่ยงควรรับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี ในช่วงก่อนฤดูกาลระบาดเพื่อลดความรุนแรงของโรคและลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนได้ สามารถเข้ารับวัคซีนไข้หวัดใหญ่โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายได้ที่สถานบริการสาธารณสุขของรัฐ และสถานพยาบาลเอกชนใกล้บ้านที่เข้าร่วมโครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และเพื่อความสะดวก สามารถโทรนัดหมายกับหน่วยบริการล่วงหน้า เพื่อทราบวันเวลาเข้ารับบริการที่แน่นอน พร้อมกันนี้ขอความร่วมมือประชาชนให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด เน้นการสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อย ๆ เพื่อป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422” นายคารม กล่าว

'ปวิณ' ปัดรับช่อดอกไม้แสดงความยินดีจาก 'มาดามแป้ง' พร้อมเบรกถ่ายภาพคู่ ด้าน 'สารัช' รับแทน แก้เกี้ยว

(17 มิ.ย.67) ผู้สื่อข่าวรายงาน หลังเกิดดราม่าในวงการลูกหนังไทย ย้อนความกลับไป ก่อนหน้านี้ นายปวิณ ภิรมย์ภักดี ประธานสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งอุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ในยุคการบริหารของ ‘มาดามแป้ง’ นวลพรรณ ล่ำซำ เป็นนายกสมาคม

พร้อมกับมีรายงานก่อนหน้านี้ว่า นายปวิณ ไม่พอใจการทำงานของสมาคมในหลายเรื่อง แต่ไม่มีรายงานแน่ชัดว่าไม่พอใจเกี่ยวกับเรื่องใดบ้าง

ล่าสุดเมื่อ 16 มิ.ย. หลังเกมที่ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เฉือนชนะเมืองทอง ยูไนเต็ด 1-0 คว้าแชมป์ฟุตบอลรีโว่ คัพ 2023-24 และเป็นแชมป์รายการนี้สมัยแรกของสโมสร ‘มาดามแป้ง’ ได้หอบช่อดอกไม้ไปร่วมแสดงความยินดีด้วย

แต่ว่าเหตุการณ์กลับไม่เป็นไปอย่างสวยงาม เมื่อนายปวิณ ปฏิเสธที่รับช่อดอกไม้จากมาดามแป้ง มีเพียงการยกมือไหว้ตามทำเนียบเท่านั้น รวมถึงไม่ให้ถ่ายรูปคู่ด้วย โดยได้เรียก สารัช อยู่เย็น กองกลางกัปตันทีมเข้ามารับดอกไม้จากมาดามแป้งแทน

‘Onitsuka Tiger-ดอยตุง’ เปิดตัวรองเท้าลายผ้าทอคอลเลกชันพิเศษ ผสมผสานงานฝีมือดั้งเดิมไทยและกลิ่นอายแฟชั่นสไตล์ญี่ปุ่น

ประสบความสำเร็จจากครั้งแรก Onitsuka Tiger (โอนิซึกะ ไทเกอร์) แบรนด์แฟชั่นสัญชาติญี่ปุ่น มีความภูมิใจที่จะนำเสนอการร่วมมือกันเป็นครั้งที่ 2 กับ โครงการพัฒนาดอยตุง ซึ่งถือเป็นโครงการหลักของมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่ได้สร้างสรรค์ รองเท้าที่เกิดจากความร่วมมือและความคิดริเริ่มในการก้าวข้ามพรมแดน ที่ได้นำลวดลายผ้าทอออริจินัลของดอยตุงมาเป็นการใช้วัสดุที่ได้รับการออกแบบใหม่และพัฒนาใหม่เพื่อให้เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้มากขึ้น ด้วยเหตุนี้ผ้าทอในคอลเลกชันนี้จึงเป็นผ้าออริจินัลที่ทำขึ้นเป็นพิเศษสำหรับ ‘Onitsuka Tiger’ โดยเฉพาะ

สำหรับสินค้าในคอลเลกชันนี้เป็นการผสมผสานระหว่างงานฝีมือแบบดั้งเดิมของช่างฝีมือในประเทศไทย เข้ากับรองเท้ารุ่นไอคอนิก อันเป็นเอกลักษณ์ของ Onitsuka Tiger ทำให้เกิดเป็นรองเท้าที่รวมไว้ซึ่งคุณภาพอันเป็นเอกลักษณ์ทั้งแบบไทยและแบบเฉพาะของ Onitsuka Tiger โดยมีเป้าหมายคือการแสวงหาผลิตภัณฑ์ที่มีดีไซน์เหนือกาลเวลา โครงสร้างที่ทนทานและมอบความสบาย เมื่อสวมใส่ ซึ่งจะเหมาะสมกับผู้คนที่หลากหลายทั่วโลก 

รองเท้าทั้งหมดนี้ถูกสร้างขึ้นผ่านกระบวนการผลิตที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและวัสดุที่ยั่งยืน ความร่วมมือกันในครั้งนี้ยังสร้างคุณประโยชน์ต่อสังคมและการจ้างงานที่มีความหมายแก่ชาวดอยตุง รองเท้าอันเป็นเอกลักษณ์เหล่านี้เป็นการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมไทย-ญี่ปุ่น โดยที่มุ่งเน้นไปที่ประเด็นความยั่งยืน 

รองเท้าทุกรุ่นจะวางจำหน่ายในร้าน Onitsuka Tiger และบนอีคอมเมิร์ซ รวมทั้งร้านดอยตุง ซึ่งนอกเหนือจากรองเท้าแล้วในคอลลาบอเรชันโปรเจกต์ปีนี้ยังมีเครื่องแต่งกายที่จะวางขายเฉพาะร้านดอยตุงอีกด้วย

สำหรับรองเท้าโอนิซึกะ ไทเกอร์ รุ่นไอคอนิกครั้งนี้มีด้วยกัน 4 แบบ ได้แก่ 

-MEXICO 66 Thai-Exclusive Model มีจำหน่ายเฉพาะที่ประเทศไทยเท่านั้น 
-MEXICO 66 
-SERRANO CL
-MEXICO 66 PARATY

‘SME D Bank’ ผนึก ‘ส.อ.ท.’ เปิดกล่องของขวัญเพื่อ SME ปี 2567 ช่วยเสริมสภาพคล่องผ่านสินเชื่อครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจกว่า 2 หมื่น ลบ.

(17 มิ.ย. 67) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล สนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเติบโตยั่งยืน ร่วมทัพมอบบริการ ‘เติมทุนคู่พัฒนา’ ในงาน ‘เปิดกล่องของขวัญเพื่อ SME ปี 2567’ จัดโดย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เพื่อส่งเสริมให้สมาชิกของ ส.อ.ท. และผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เข้าถึงแหล่งทุน อัตราดอกเบี้ยพิเศษ ที่เตรียมไว้รองรับ วงเงินรวมมากว่า  20,000 ล้านบาท ผ่านผลิตภัณฑ์สินเชื่อครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจ วงเงินกู้สูงสุด 50 ล้านบาท ผ่อนนานสูงสุด 15 ปี และปลอดชำระเงินต้นสูงสุด 12 เดือน ช่วยเสริมสภาพคล่อง ยกระดับธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน จัดครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ระหว่างเดือนมิถุนายน ถึง พฤศจิกายน 2567 

ไฮไลต์จาก SME D Bank ‘ด้านการเงิน’ ได้แก่ สินเชื่อ ‘Smile Biz ธุรกิจยิ้มได้’ ผ่อนปรนเงื่อนไขสุดพิเศษ ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ทำธุรกิจ 1 ปีก็กู้ได้ ดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 6.50% ต่อปี 

นอกจากนั้น ยังมีสินเชื่อ ‘SME Refinance’ อัตราดอกเบี้ยคงที่ ปีแรกเพียง 2.99% ต่อปี ช่วยลดต้นทุนการเงิน ผ่อนหนักเป็นเบา, สินเชื่อ ‘BCG Loan’ ยกระดับธุรกิจเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 4.75% ต่อปี, สินเชื่อ ‘เสริมสภาพคล่องผู้รับเหมา’ สนับสนุนเข้าถึงงานจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐที่มีมูลค่ากว่า 1.3 ล้านล้านบาทต่อปี พร้อมรับแคมเปญพิเศษ สำหรับผู้ประกอบการที่ไม่เคยใช้สินเชื่อของ SME D Bank มาก่อน เมื่อยื่นกู้สินเชื่อและใช้วงเงิน ตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป รับ Cash Back ค่าวิเคราะห์โครงการ มูลค่าสูงสุด 5,000 บาท

ขณะเดียวกัน ยังมอบบริการ ‘ด้านการพัฒนา’ เสริมแกร่งธุรกิจครบวงจร ผ่านแพลตฟอร์ม ‘DX by SME D Bank’ (dx.smebank.co.th) ซึ่งบูรณาการการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน สถาบันการศึกษากว่า 50 แห่ง มาไว้ในจุดเดียว ให้บริการฟรี มีฟีเจอร์สำคัญ เช่น Business Health Check ระบบตรวจประเมินสุขภาพธุรกิจ, E-Learning รวบรวมหลักสูตรความรู้สำคัญ ช่วยเพิ่มศักยภาพการประกอบธุรกิจ เรียนรู้ได้ด้วยตัวเองตลอด 24 ชม., SME D Coach ที่ปรึกษาและให้คำแนะนำธุรกิจจากโค้ชมืออาชีพ, SME D Activity ระบบจองเข้าร่วมกิจกรรมเติมความรู้ต่อเนื่องตลอดทั้งปี, SME D Market ขยายตลาดด้วย E-marketplace และจับคู่ธุรกิจ อีกทั้ง ยังมี SME D Privilege สิทธิประโยชน์พิเศษอื่น ๆ ให้อีกมากมาย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Call Center 1357

'2 สื่อยักษ์' ตีข่าว ปรากฏการณ์ 'หลานม่า' ไวรัลแรงจนเกิดกระแสชาเลนจ์ในหลายประเทศ

(17 มิ.ย. 67) จากเพจ 'Thailand Box office and Entertainment' เผยว่า เว็บไซต์ข่าว BBC ของอังกฤษ และ South China Morning Post ของฮ่องกง รายงานปรากฏการณ์ของหลานม่า ที่สั่นสะเทือนไปทั้งเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการขึ้นแท่นอันดับ 1 หนังทำเงิน 

พร้อมกับมีมุมมองว่า #หลานม่า ประสบความสำเร็จพร้อมกับกระแสไวรัลใน Tiktok ในหลายประเทศ ที่หลายคนแข่งกันทำชาเลนจ์ ดูหนังเรื่องนี้ยังไงไม่ให้เสียน้ำตา รวมถึงไวรัลแจกกระดาษซับน้ำตา และ รีแอคของคนดูหลังดูหนังจบที่ตาบวมกันเป็นแถว 

ถือเป็นการตอกย้ำว่า เนื้อหาของหนังเข้าถึงคนดูในอาเซียนและเอเชียเป็นวงกว้างไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

‘ตำรวจ’ พบ 3 เรือน้ำมันเถื่อน แถวพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ตรวจสอบ!! ‘น้ำมัน-ลูกเรือ' หายบางส่วน เร่งนำเข้าฝั่ง

เมื่อวานนี้ (16 มิ.ย.67) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) เปิดเผยว่า ยืนยันว่าพบเรือน้ำมันทั้ง 3 ลำ พร้อมลูกเรือบางส่วนเรียบร้อยแล้ว ตำรวจน้ำกำลังนำเรือเข้าฝั่งที่อำเภอเมืองจังหวัดสงขลา โดยรายละเอียดได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผบก.รน. เป็นผู้แถลงข่าวที่กองกับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำ จ.สงขลา เวลา 12.00 น. ในวันนี้ (17 มิ.ย.67)

ด้าน พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ เปิดเผยว่า ตำรวจน้ำ ได้ประสานกับประเทศเพื่อนบ้าน จนล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา พบเรือน้ำมันเถื่อนทั้ง 3 ลำแล้ว ที่บริเวณพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษจำเพาะสามประเทศ คือ ไทย กัมพูชา และเวียดนาม จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่าน้ำมันบางส่วนหายไปอยู่ไม่เต็มจำนวน และลูกเรือจากจำนวน 16 คน ตอนนี้เหลือเพียง 8 คนเท่านั้น และที่บริเวณตัวเรือพบว่ามีความพยายามที่จะอำพรางเปลี่ยนแปลงสีของเรือน้ำมันของกลางอีกด้วย

จากการสืบสวนเบื้องต้นเชื่อว่า เรือทั้งสามลำดังกล่าวเข้าเทียบท่าที่ประเทศกัมพูชามาก่อนหน้านี้แล้ว และมีลูกเรือบางส่วนลงจากเรือไป พร้อมทั้งน้ำมันบางส่วนก็หายไปด้วย อย่างไรก็ตามจากการที่ทางการประสานกับประเทศเพื่อนบ้านที่ได้ทำการออกตรวจลาดตระเวนทางทะเล ทำให้เรือทั้ง 3 ลำ หลบหนีออกจากท่าเรือในกัมพูชา แล้วออกสู่น่านน้ำเพื่อที่จะหลบหนี แต่ทั้งนี้จากการประสานกันอย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถค้นพบหรือทั้ง 3 ลำที่บริเวณดังกล่าว และจะนำเข้าฝั่งภายในวันนี้ (17 มิ.ย. 67) โดยเรือหนึ่งใน 3 ลำไม่สามารถขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเองจึงต้องทำการลากเข้าฝั่ง พร้อมกับอีกสองลำที่เหลือ ซึ่งสามารถขับได้ตามปกติ

'รมว.ปุ้ย' ย้ำ!! ท่าที FTA ไทย - EU  ต้องปกป้องอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย

(17 มิ.ย. 67) นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้มอบนโยบายให้กับ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ในฐานะผู้แทนประเทศไทยในการเจรจาต่อรองด้านอุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า ให้ปกป้องผลประโยชน์ของผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ในการประชุมภายใต้การเจรจาความตกลงการค้าเสรี (Free Trade Agreement - FTA) ไทย - สภาพยุโรป (EU) รอบที่ 3 ระหว่างวันที่ 17-20 มิถุนายน 2567 ณ กรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม ซึ่งก่อนหน้านี้ ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรอบที่ 2 ที่กรุงเทพมหานคร มาแล้ว

สำหรับการประชุมรอบที่ 3 ที่จะเกิดขึ้น ณ กรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม สมอ. จะเป็นผู้แทนประเทศไทยเข้าร่วมในการเจรจาจัดทำอุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า โดยมีประเด็นหารือสำคัญที่ EU นำเสนอ เช่น การยอมรับผลการตรวจสอบและรับรอง เพื่ออำนวยความสะดวกในการส่งออกและนำเข้า การตรวจติดตามสินค้าในตลาด มาตรฐาน กฎระเบียบทางเทคนิค และกระบวนการตรวจสอบและรับรองในสาขายานยนต์  ซึ่งประเทศไทยเห็นว่าเป็นประเด็นที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนหลายภาคส่วน การเจรจาจึงต้องมีความรอบคอบเพื่อให้มีพันธกรณีที่เหมาะสม เป็นประโยชน์กับภาคอุตสาหกรรมไทย และคุ้มครองความปลอดภัยผู้บริโภค

ด้านนายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ในฐานะที่ สมอ. เป็นผู้แทนประเทศไทย มีหน้าที่รับผิดชอบในการเจรจาอุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้าที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดมาตรฐาน การประกาศใช้มาตรฐาน กฎระเบียบทางเทคนิค และกระบวนการตรวจสอบและรับรองระหว่างไทยกับ EU ที่มีสมาชิก 27 ประเทศ เพื่อให้เกิดความสะดวกและลดอุปสรรคทางการค้าที่เกิดจากการใช้มาตรการด้านเทคนิคมากีดกันทางการค้าระหว่างไทย และ EU ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายจะเจรจาในประเด็นคงค้างจากการประชุมครั้งที่ผ่านมา โดยท่าทีของไทยจะเจรจาบนพื้นฐานของความตกลง WTO และจะพิจารณาให้มีพันธกรณีเพิ่มเติมได้ตามความเหมาะสม โดยหน่วยงานของไทยสามารถปฏิบัติได้ และเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทย 

สำหรับประเด็นที่จะหารือเพิ่มเติมกับ EU คือ การกำหนดมาตรฐาน กฎระเบียบทางเทคนิค และการตรวจสอบรับรองผลิตภัณฑ์ยานยนต์และชิ้นส่วน โดยตระหนักถึงความพร้อมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และความพร้อมของผู้ประกอบการไทยในการปฏิบัติตามพันธกรณี ซึ่งเป็นภารกิจหลักที่สำคัญของ สมอ. ในการเจรจาเพื่อ ลดอุปสรรคที่เกิดจากการใช้มาตรการด้านเทคนิคมากีดกันทางการค้า และช่วยเหลือผู้ประกอบการให้ได้รับความสะดวกทางการค้าระหว่างประเทศ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top