Saturday, 5 July 2025
NewsFeed

นราธิวาส-แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุคนร้ายรอบวางระเบิด กลางเมือง จ.นราธิวาส บริเวณรินเขื่อนท่าพระยาสาย

พร้อมเน้นย้ำเจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบครอบคลุมพื้นที่  และกำชับให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการดูแลเรื่องสิทธิต่างๆแก่ผู้เสียหาย โดยด่วน จากเหตุการณ์คนร้ายได้วางระเบิดแสวงเครื่อง ซึ่งติดตั้งในรถจักรยานยนต์ และจอดไว้บริเวณหน้าเขื่อนท่าพระยาสาย ถนนภูผาภักดี ตำบลบางนาค อำเภอเมืองนราธิวาส เมื่อคืนของวันที่ 6 พฤษภาคม 2567 เวลา 21.30 น. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเวลาที่พี่น้องประชาชนใช้พื้นที่ดังกล่าวพาบุตรหลานมาพักผ่อน และออกกำลังกาย ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 10 ราย เจ้าหน้าที่ อส. 2 ราย ประชาชนเพศหญิง 3 ราย, ประชาชนเพศชาย 3 ราย และประชาชนเพศหญิง สัญชาติมาเลเซีย 2 ราย

ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบและควบคุมพื้นที่ รวมทั้งได้ทำการปิดกั้นการจราจรโดยประสานชุดหน่วยเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด เคลียร์พื้นที่ พร้อมกับชุดพิสูจน์หลักฐาน ตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อขยายผลติดตามต่อคนร้านมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว ล่าสุดเจ้าหน้าที่ยังคงปิดกั้นการจราจรไม่ให้พี่น้องประชาชนใช้เส้นทางในการสัญจร เพื่อความปลอดภัย ซึ่งพื้นที่โดยรอบยังคงมีร้านค้าของพี่น้องประชาชนที่เปิดให้บริการ ยังคงเปิดทิ้งไว้ไม่มีการเก็บร้านเพราะตกใจจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้

ขณะที่ในวันนี้ 7 พฤษภาคม 2567 เวลา 10.30 น. ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วย พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9  พล.ต.ต.ไมตรี สันตยากุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส  นาวาเอกสันติ  เกตุศรีพงศ์ษา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน กองทัพเรือ ได้ให้การต้อนรับ พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4  ได้ลงตรวจสอบพื้นที่จุดเกิดเหตุ ณ  บริเวณริมเขื่อนท่าพระยาสาย ถนนภูผาภักดี ตำบลบางนาค อำเภอเมืองนราธิวาส

พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4  ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยกล่าวว่า “จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ แม่ทัพภาคที่ 4, ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส, ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส และส่วนที่เกี่ยวข้องได้พูดคุยและประเมินต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว โดยได้เน้นย้ำส่วนที่เกี่ยวข้องทุกส่วนให้เพิ่มการดูแล และคุมเข้มในพื้นที่ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาเราได้เน้นย้ำเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยช่วงนี้จังหวัดนราธิวาสได้มีการจัดงานประจำปี ทางเจ้าหน้าที่เลยเน้นหนักและมีการคุมเข้มในส่วนของสถานที่จัดงาน ซึ่งมีพี่น้องประชาชนเดินทางมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก อาจทำให้เกิดช่องว่างของการก่อเหตุและเกิดเหตุขึ้นครั้งนี้ หลังจากนี้คงต้องกลับไปวิเคราะห์สถานการณ์ และคุมเข้มให้มากกว่าเดิม จุดไหนที่มีช่องว่างให้ปิดช่องว่างในทุกจุด

อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ไปต้องขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน คงต้องมีการตรวจตราเรื่องยานพาหนะอย่างเข้มงวดมากกว่าเดิม อาจมีผลกระทบเรื่องความล่าช้าในการเดินทางบ้าง แต่อยากขอความร่วมมือให้พี่น้องประชาชนเข้าใจต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ด้วย” นอกจากนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ยังได้กำชับให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการดูแลเรื่องสิทธิต่างๆ และการรักษาเป็นการด่วน ตลอดจนสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพื้นที่ และตั้งจุดตรวจ ด่านตรวจทั้งเส้นทางหลักและเส้นทางรอง ที่คาดว่าคนร้ายจะใช้ในการหลบหนี พร้อมตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในทุกจุด โดยประสานการทำงานร่วมกับผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น เพื่อติดตามคนร้ายให้ได้โดยเร็ว สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน

ทั้งนี้ ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน หากพบเห็นเบาะแสของกลุ่มคนร้ายสามารถแจ้งได้ที่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงประจำพื้นที่ หรือหมายเลขสายด่วนกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า หมายเลข 1341 หรือ หมายเลขโทรศัพท์สายตรง แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 หมายเลข 061-1732999 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยทุกเบาะแสที่แจ้งเข้ามาจะถูกปิดเป็นความลับ

ข่าว.แวดาโอ๊ะ หะไร / อัสมา บินมะนุ จ.นราธิวาส 

‘ไรเดอร์’ เล่านาทีวัดใจ ส่งออเดอร์ให้ลูกค้าหน้าเรือนจำ ก่อนถูกสั่งให้วางไว้-เรียกชื่อ รับ!! เครียด แต่เป็นหน้าที่

(7 พ.ค.67) จากกรณีผู้ใช้ TikTok แม็ก มณฑล นักร้องส้นตีณ แชร์ไลฟ์ในติ๊กต็อกว่า 1 วันพันกว่าเรื่อง ได้รับออเดอร์มาให้มาส่งที่เรือนจำ เราคิดว่าเมียผู้คุมหรือผู้คุมสั่งแต่ไม่ใช่ เขาเขียนมาว่าให้เอาข้าวมันไก่ไปวางไว้ข้างกำแพงแล้วก็ให้เรียกชื่อ…..มากินข้าว โอ๊ยทำไมมันโชคดีตั้งแต่เช้าออเดอร์แรกด้วยครับ

บรรยากาศเรือนจำภูเก็ตสาขาในเมืองร้างไปแล้ว โคตรแจ็คพอตเลยจริง ๆ นี่ไงบรรยากาศคือร้างไปแล้ว ไม่มีนักโทษแล้ว เขาย้ายไปเรือนจำใหม่แล้ว ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องเป็นผม แต่เป็นหน้าที่ผมเข้าใจเครียดเลยไม่รู้จะทำอย่างไรสู้กันต่อไปชีวิต พร้อมข้อความว่า เจอออเดอร์การกุศล ให้วางข้างกำแพงแล้วเรียกชื่อ

หลังจากแชร์ออกไปมีคนเข้ามาวิจารณ์เป็นจำนวนมาก เช่น ป้ายทะเบียนกับเลขออเดอร์อะไร, แกะให้เค้าม้าย เปิดห่อข้าว แล้วเรียกค่ะ, ตอนเด็ก ๆ ตาเป็นผู้คุมที่เรือนจำภูเก็ต ไปทุกปิดเทอม เพิ่งรู้ว่ามันร้างแล้วเพราะกลับมาอยู่สตูล เป็นต้น

ทั้งนี้ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว ไรเดอร์ ถูกเรียกให้ไปส่งที่เรือนจำเก่า ตั้งอยู่ที่ ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต

'ญี่ปุ่น' สร้างอุปกรณ์ 'รับ-ส่ง' สัญญาณ 6G ได้เป็นครั้งแรกของโลก เร็วกว่า 5G ถึง 20 เท่า กุญแจสำคัญพายานพาหนะไร้คนขับรุดหน้า

(7 พ.ค. 67) TNN Tech รายงานว่า โดโคโมะ (DOCOMO) เอ็นทีที (NTT Corporation) เน็ก (NEC Corporation) และฟูจิสึ (Fujitsu) ร่วมกันพัฒนาอุปกรณ์ที่สามารถรับและส่งข้อมูลในย่านคลื่นความถี่ 6 กิกะเฮิร์ตซ (GHz) ซึ่งเป็นย่านคลื่นความถี่ที่เชื่อว่าจะถูกนำไปใช้งานกับการสื่อสารยุค 6G ได้เป็นครั้งแรกของโลก โดยมีความเร็วในการส่งสัญญาณที่ 100 กิกะบิตต่อวินาที (Gbps) หรือมากกว่า 5G ถึง 20 เท่า

สำหรับการทดลองส่งข้อมูลด้วยอุปกรณ์ 6G ครั้งแรกของโลก ได้เริ่มพัฒนามาตั้งแต่ปี 2021 โดยออกแบบให้รับและส่งสัญญาณที่ย่านความถี่ 6 GHz ซึ่งมีอีกชื่อว่า ซับเทระเฮิร์ตซ (Sub-terahertz) โดยอุปกรณ์ได้ส่งสัญญาณในช่วงความถี่ (Band) 100 - 300 GHz ต่างจาก 5G ที่มี Band ในการส่งสัญญาณที่ 40 GHz โดยสามารถส่งข้อมูลได้ที่ความเร็ว 100 Gbps รองรับระยะการส่งแบบไร้สายที่ 100 เมตร

การพัฒนาในครั้งนี้ เป็นการนำความสามารถในการวิเคราะห์การตั้งค่าสัญญาณไร้สาย (Wireless system configuration) ที่ DOCOMO เชี่ยวชาญ ร่วมกับการพัฒนาตัวอุปกรณ์ให้รองรับการส่งสัญญาณได้จริงโดย NTT 

ในขณะที่ NEC ได้เข้ามาร่วมวิจัยและพัฒนาเสาสัญญาณแบบใหม่แบบเรียงที่เรียกว่า เอพีเอเอ (APAA: Active Phased Array Antenna) ส่วน Fujitsu มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาชิปเพื่อขยายกำลังคลื่นในการรับและส่งสัญญาณในครั้งนี้

สำหรับอนาคตของ 6G จากฝั่งญี่ปุ่น จากการทดลองนี้ ยังทำให้ Fujitsu มีชิปที่สามารถขยายกำลังสัญญาณ 6G ได้มีประสิทธิภาพมากที่สุดในโลกในปัจจุบันด้วย ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาระยะการส่งสัญญาณ 6G ให้ไกลยิ่งขึ้นในอนาคต ในขณะเดียวกัน 6G ยังเป็นเทคโนโลยีที่เชื่อว่าเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาระบบยานพาหนะไร้คนขับ (Autonomous vehicle) อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม การพัฒนาระบบโครงข่ายสัญญาณ 6G จะมีความแตกต่างจากการเปลี่ยนผ่านสมัย 4G มายัง 5G เนื่องจากสัญญาณในระดับ Sub-terahertz จะมีกำลังและรูปแบบคลื่นที่ต่างจาก 5G ส่งผลให้ผู้ให้บริการโครงข่าย 6G ในอนาคตจำเป็นต้องลงทุนอุปกรณ์ในระบบใหม่ทั้งหมด ซึ่ง TNN Tech มองว่านี่อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การพัฒนาโครงข่าย 6G ยังต้องใช้เวลาอีกสักระยะ

5 เดือนแรก ต่างชาติแห่เที่ยวไทย ดันยอดทะลุ 12 ล้านคน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายประมาณ 605,201 ล้านบาท

(7 พ.ค. 67) รายงานข่าวจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยผลการประเมินเบื้องต้นพบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 5 พ.ค. 2567 นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาแตะระดับ 12 ล้านคน ในสัปดาห์ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาลดลงจากการชะลอตัวของกลุ่มนักท่องเที่ยวตลาดระยะใกล้ (Short haul) และตลาดระยะไกล (Long haul) จากการเริ่มเข้าสู่ช่วง Low season โดยเฉพาะภูมิภาคยุโรป ที่ส่งผลให้นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียขยับลงมาเป็นกลุ่มที่เข้ามาเป็นอันดับที่ 5 จากเดิมในอันดับที่ 4 ส่งผลให้ในภาพรวมสัปดาห์นี้ไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 639,822 คน ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า 12,419 คน หรือ 1.90% คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 91,403 คน

โดย 5 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้แก่ จีน 161,678 คน มาเลเซีย 84,127 คน อินเดีย 46,561 คน เกาหลีใต้ 31,738 คน และรัสเซีย 27,228 คน โดยนักท่องเที่ยวจีน เกาหลีใต้ อินเดีย และมาเลเซีย มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 9.41% 8.41%  5.96% และ 0.84% ในขณะที่นักท่องเที่ยวรัสเซีย มีการปรับตัวลดลง 9.15%

สำหรับในสัปดาห์ถัดไป คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาลดลงจากการเริ่มเข้าสู่ช่วง Low season แต่ยังคงมีปัจจัยส่งเสริมการเดินทาง ได้แก่ การลงนามยกเว้นวีซ่าระหว่างไทย-จีน และการขยายสิทธิการยกเว้นตรวจลงตรา ที่เดินทางไม่เกิน 60 วัน ให้กับนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย ที่มีผลช่วยสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยว เพิ่มการอำนวยความสะดวกในการเดินทาง และกระตุ้นให้สายการบิน เพิ่มจำนวนเที่ยวบิน

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมการท่องเที่ยวในปีนี้ โดยข้อมูล ณ วันที่ 6 พ.ค. 67 พบว่า ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 5 พ.ค. 2567 ที่ผ่านมาทั้งสิ้น 12,588,825 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 605,201 ล้านบาท โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน 2,461,620 คน มาเลเซีย 1,634,388 คนรัสเซีย 784,550 คนเกาหลีใต้ 704,427 คน และอินเดีย 677,783 คน

พิจิตร-มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ พร้อมด้วย หน่วยงานกระทรวงแรงงาน จ.พิจิตร กลุ่มไทยสมายล์ เติมกำลังใจ ให้ผู้พิการและผู้ยากไร้ 

​วันที่ 7 พฤษภาคม 2567 นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ ประธานมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์  ทีมงานมวลชนสัมพันธ์ (CSR) กลุ่มไทยสมายล์ กรุ๊ป  ลงพื้นที่มอบรถเข็นวีลแชร์ และอุปกรณ์เพื่อช่วยเหลือแก่ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ยากไร้ จำนวน 4 ราย และอีก 2 ราย ณ บ้านของผู้แจ้งความประสงค์ ที่อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร   โดย มี นายสมชาติ สุภารี ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน และหัวหน้าหน่วยราชการในสังกัดกระทรวงแรงงาน จ.พิจิตร ให้การต้อนรับ 

​นางเธียรรัตน์ กล่าวว่า ในนามมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ นำอุปกรณ์เพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุ ผู้พิการ 
และผู้ยากไร้ ประกอบไปด้วย รถเข็นวีลแชร์ จำนวน 4 คัน และไม้เท้าพยุงสามขา จำนวน 2 อัน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก กลุ่มไทยสมายล์ (รถและเรือโดยสารสาธารณะพลังงานไฟฟ้า) รวมถึงยังได้รับการสนับสนุนการขนส่งสิ่งของมายัง จ.พิจิตร โดย บริษัท สมบัติทัวร์ จำกัด มามอบให้กับ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ยากไร้ ตามที่ได้รับการประสานจาก หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดพิจิตร ทั้งนี้ได้ส่งมอบรถเข็นวีลแชร์ที่ อาคารสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงาน จังหวัดพิจิตร จำนวน 4 ราย ได้แก่ นางศิริพร บุญยัง (อายุ 39 ปี) นายบรรเจิด บุญเลิศ (อายุ 69 ปี) นางบุญรอด แซ่เจียม (อายุ 81 ปี) และนางถนอมศิลป์ สว่างวงษ์ภักดิ์ (อายุ 82 ปี) นอกจากนี้ยังได้ไปมอบไม้เท้าพยุงสามขา จำนวน 2 ราย ที่บ้านของผู้แจ้งความประสงค์ ณ บ้านของผู้แจ้งความประสงค์ อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร เป็นจำนวน 2 คัน ได้แก่ นายดำ คามวาศรี (อายุ 78 ปี) และนางเกศนีย์ แซ่เจียม (อาย 64 ปี) ซึ่งทั้ง 6 ราย เป็นกลุ่มเปราะบาง มีฐานะยากจน และประสบปัญหาความเดือดร้อนทางสังคม การที่มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ได้นำอุปกรณ์เพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ยากไร้ มามอบในครั้งนี้ เพื่อต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อน มอบกำลังใจ ให้แก่ผู้ป่วย ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ยากไร้ ซึ่งถือเป็นกิจกรรมหนึ่งซึ่งสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของมูลนิธิในด้านการสร้างสาธารณประโยชน์ต่อชุมชน สังคม และที่สำคัญจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ยากไร้ ซึ่งมีความยากลำบากในการดำเนินชีวิต ต้องการอุปกรณ์ช่วยเหลือดังกล่าวมากกว่าบุคคลทั่วไป

ทัพเรือภาคที่ 1 ร่วมกิจกรรมจิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567

วันที่ 7 พ.ค.67 เวลา 10.00 น. ทัพเรือภาคที่ 1 โดยมี ว่าที่ น.อ.ชิตพงศ์  ช้างงาม ช่วยปฏิบัติราชการทัพเรือภาคที่ 1 เป็นผู้แทน ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 พร้อมด้วยกำลังพลจิตอาสา จำนวน 10 นาย เข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสาพัฒนากับศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมี นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานในพิธี กิจกรรมประกอบด้วยการปลูกป่าชายเลน เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และกิจกรรมทำความสะอาดบริเวณชายหาด ณ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย ม.2 ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จว.ชลบุรี 
นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ชลบุรี 0909535645

#ทัพเรือภาคที่1
#จิตอาสาพระราชทาน
#เทิดทูนสถาบัน_ยึดมั่นระเบียบวินัย_ประชาชนภูมิใจ_ทะเลไทยมั่นคง
#Fit_for_the_Future
 

'อาร์ต พศุตม์' ยกความหมาย 'พอเพียง' ในมุมตน จนโดนใจชาวเน็ต ไม่ฟุ่มเฟือยจนเกินตัว ไม่อยากได้อยากมีจนเกินกำลัง ไม่คดโกงใคร

(8 พ.ค.67) มุมานะขยันทำมาหากินกตัญญูเลี้ยงพ่อแม่ พระเอกหนุ่ม คุณชายหมูกรอบ ‘อาร์ต พศุตม์’ ที่ตอนนี้กำลังรุ่งกิจการหมูกรอบขายดิบขายดี ออกบูธไม่ได้หยุด

ล่าสุดท่ามกลางกระแสดรามาร้อนแรงประเด็นทอล์กปมพอเพียงของ ‘โน้ส อุดม’ เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ นา ๆ ตอนนี้ หนุ่มอาร์ตก็ได้โพสต์คลิป พร้อมแคปชันว่า…

“ออกบูธ แฟชั่น ไอซ์แลนด์ นะคับ แบบนี้ เค้าเรียก ‘พอเพียง’ จ๊ะ ไม่จำเป็นต้องทำตัวจน ไม่จำเป็นต้องทำไร่ทำสวน ไม่จำเป็นต้องทำตัวให้ลำบาก

‘พอเพียง’ คือ รูัจักประมาณตนเอง พอใจในสิ่งที่มี ไม่ใช่ฟุ่มเฟือยจนเกินตัวเอง ไม่คดโกงใคร ไม่ได้อยากได้อยากมีจนเกินกำลัง”

เป็นคลิปขณะเจ้าตัวให้สัมภาษณ์ เอาจริง ๆ ชาตินี้อยู่สบาย ๆ แล้ว ไม่มีทางที่จะลงทุน 10 ล้าน เพื่อเสี่ยงวัดดวงเอาเงิน 100 ล้าน ไม่เอาเลย แต่ถ้าล้านหนึ่งจะมีเพิ่มมาอีก 5-6 ล้าน โอเค

ขณะที่มีคอมเมนต์ต่างเข้ามาสนับสนุนความคิดเห็น อาร์ต รัว ๆ อาทิ เห็นด้วยค่ะ , ใช่ที่สุดค่ะ , นี่แหละพอเพียง ไม่ใช่พูดพอเพียงและลามไปเรื่องทำเกษตร , ถูกต้องที่สุดค่ะ , ทัศนคติดีรักคุณอาร์ตครับ , ถูกต้องทุกคำ เป็นต้น

‘ฮาร์ท สุทธิพงศ์’ ถูกอัยการยื่นฟ้อง ม.112 หลังโพสต์หมิ่นเบื้องสูง ศาลประทับรับฟ้อง!! ให้ประกันตัว 2 แสน - ห้ามออกนอกประเทศ

เมื่อวานนี้ (7 พ.ค.67) ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ 3 ได้นำตัว นายสุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล หรือฮาร์ท อดีตพิธีกรและนักร้องชื่อดัง มายื่นฟ้องต่อศาลในความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท และผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ

จากกรณี นายสุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล หรือฮาร์ท อดีตพิธีกรและนักร้องชื่อดัง ได้แชร์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเกี่ยวกับสถาบันฯ เกี่ยวกับเรื่องโรคโควิด ช่วง พ.ศ.2564 ทำให้ในเวลาต่อมา นายอภิวัฒน์ ขันทอง ประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หรือ คตส. ตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี เข้าแจ้งความกับพนักงาน สถานีตำรวจนครบาล (สน.) นางเลิ้ง ให้ดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560

โดยศาลรับฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำที่ อ483/2567 โดยจำเลยยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวพร้อมหลักทรัพย์ 2 แสนบาท ศาลพิจารณาคำร้องพร้อมหลักทรัพย์แล้วอนุญาตปล่อยชั่วคราว โดยมีเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศยกเว้นได้รับอนุญาต

อัปเดต 5 ธุรกิจ ‘เสี่ยโน้ส อุดม แต้พานิช’ อีกหนึ่งบทบาทสำคัญนอกเหนือทอล์กโชว์

(8 พ.ค.67) สำนักข่าวอิศราได้รายงานว่า กลายเป็นประเด็นดรามา-ทอล์ก ออฟทาวน์อีกครั้ง ของ ‘โน้ส-อุดม แต้พานิช’ นักทอล์กโชว์ชื่อดัง

ล่าสุดผ่านเพจ Netflix แอปบริการสตรีมมิ่งชื่อดัง ได้โพสต์คลิปโปรโมตทอล์กโชว์ ‘เดี่ยวสเปเชียล ซูเปอร์ซอฟต์พาวเวอร์’ เนื้อหาบางช่วงพูดดึงความพอเพียง เหน็บ ๆ หยิก ๆ สับ ๆ ‘คนรวยลงรถตู้ทำเศรษฐกิจพอเพียง’ สร้างความไม่พอใจแก่คนในสังคม เหล่าคนดังจำนวนมาก บางรายออกมาโพสต์โต้กลับดุเดือดทำนองคราวหน้าคราวหลังอย่าทำเยี่ยงนี้อีก

หากจำกันได้ 2 ปี ก่อนยุค พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี วันที่ 11 ตุลาคม 2565 ‘โน้ส’ก็ออกมาทอล์กโชว์ พาดพิงเรื่องกู้เงิน, ผลงาน ฯลฯ แต่ไม่พูดถึงมาหยิกขบประเด็นทุจริตโครงการขนาดใหญ่อย่างกรณีรับจำนำข้าว ฯลฯ จนแฟนคลับลุงบอกว่า ‘โน้สเลือกข้าง’

ในมุมธุรกิจที่เคยนำข้อมูลมารายงานไปแล้ว นักพูดรายนี้ถือหุ้นและ/หรือเป็นกรรมการ 5 บริษัท ได้แก่…

1.บริษัท ลองรวย จำกัด ขายของชำ
2.บริษัท ทุเรียน จำกัด จำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม ไอศกรีม และเบเกอรี่
3.บริษัท พอดีพานิช จำกัด ออกแบบผลิตภัณฑ์ รับจ้างการแสดง และเขียนหนังสือเพื่อจำหน่าย 
4.บริษัท เมดอินแฮปปี้แลนด์ จำกัด จัดการแสดงทางธุรกิจและการแสดงสินค้า (จัดงานแสดงโชว์ รับจ้างแสดง ถ่ายโฆษณา แสดงแบบ)
5.บริษัท เอ็ม.โอ.ดี.ช็อป จำกัด ออกแบบและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของที่ระลึก

ผลประกอบการรอบปีบัญชีสิ้นสุด 31 ธ.ค.2564 มีกำไรสุทธิเพียงบริษัทเดียว คือ บริษัทคือ บริษัท เมดอินแฮปปี้แลนด์ จำกัด รายได้รวม 28,608,901.97 บาท กำไรสุทธิ 895,887.29 บาท งบดุล สินทรัพย์รวม 99,224,807.71 บาท หนี้สิน 87,180,540.19 บาท กำไรสะสม 7,044,267.52 บาท อีก 4 บริษัทแจ้งผลประกอบการขาดทุน

ผ่านมาเกือบ 2 ปี ในช่วงกระแสเชี่ยว มาอัปเดตสถานะของเขาอีกครั้ง ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ‘โน้ส อุดม’ ยังมีชื่อเป็นกรรมการและหรือถือหุ้นธุรกิจ 5 บริษัท ที่เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสำคัญคือ 2 บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นจากปีก่อน

1.บริษัท เมดอินแฮปปี้แลนด์ จำกัด รอบปีบัญชีสิ้นสุด 31 ธ.ค.2564 2564 รายได้รวม 28,608,901.97 บาท กำไรสุทธิ 895,887.29 บาท รอบปีบัญชีสิ้นสุด 31 ธ.ค. 2565 รายได้รวม 230,817,842.82 บาท กำไรสุทธิ 43,630,419.66 บาท เปรียบเทียบตัวเลข 2 ปี รายได้เพิ่มขึ้น 202,208,941 บาท กำไรสุทธิ เพิ่มขึ้น 42,734,532 บาท

2.บริษัท เอ็ม.โอ.ดี.ช็อป จำกัด ออกแบบและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของที่ระลึก รอบปีบัญชีสิ้นสุด 31 ธ.ค.2564 รายได้รวม 29,346.14 บาท ขาดทุนสุทธิ 304,253.57 บาท รอบปีบัญชีสิ้นสุด 31 ธ.ค.2565 รายได้รวม 16,758,915.14 บาท กำไรสุทธิ 826,789.83 บาท เปรียบเทียบตัวเลข 2 ปี รายได้เพิ่มขึ้น 16,729,569 บาท กำไรสุทธิ เพิ่มขึ้น 522,536 บาท

ขณะที่ 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท ลองรวย จำกัด บริษัท ทุเรียน จำกัด และ บริษัท พอดีพานิช จำกัด ผลประกอบการรายได้หลักหมื่นบาท และ 1.4 ล้านบาท ตามลำดับ ขาดทุนสุทธิเหมือนเดิม

สำหรับคนดังที่ร่วมหุ้นกับ ‘โน้ส’ มี นายอัครเดช ยอดจำปา (ก้อง ห้วยไร่ นักร้องลูกทุ่ง หมอลำ) ใน บริษัท ลองรวย จำกัด ด้วย

จากตัวเลขผลประกอบการ เห็นได้ว่า ผ่านไปเกือบ 2 ปี ฐานะทางธุรกิจเจ้าของทอล์กโชว์มั่งคั่งมากขึ้นจาก ‘โน้ส’ เป็น ‘เสี่ยโน้ส’ ไปแล้ว ?

'ไทย สมายล์ บัส' ไล่ออก!! 'กัปตันเมล์-บัสโฮสเตส' ใช้วาจาไม่สุภาพ แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมต่อผู้โดยสาร

(8 พ.ค. 67) จากเพจ 'ไทยสมายล์บัส' ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า...

ไทย สมายล์ บัส สั่งลงโทษ 'กัปตันเมล์-บัสโฮสเตส' ใช้วาจาไม่สุภาพ แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมต่อผู้โดยสาร โดยให้พ้นสภาพการเป็นพนักงานทันที ซึ่งทางบริษัทต้องการยกระดับการให้บริการขนส่งสาธารณะ ที่สะดวก ปลอดภัย และเป็นมิตรกับผู้ใช้บริการทุกคน

ทุกเคสที่ผู้โดยสารพบเห็นการกระทำที่ไม่เหมาะของพนักงาน และได้แจ้งร้องเรียนเข้ามาทาง In-box ‘ทางบริษัทได้รับเรื่อง พร้อมทำการตรวจสอบทุกเคส’ หากพบว่ามีความผิดจริง บริษัทจะดำเนินการลงโทษพนักงานตามมาตรการต่อไปโดยไม่มีการเลือกปฎิบัติ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top