Thursday, 23 May 2024
NewsFeed

‘รมว.ปุ้ย’ ยก!! ความสัมพันธ์ ‘ไทย-จีน’ มั่งคง เหตุผลสำคัญผลักดันเศรษฐกิจระหว่างกัน

(23 เม.ย.67) น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม ร่วมกล่าวสุนทรพจน์ในงานสัมมนา ‘Nanning City Investment Environment Promotion and Economic and Trade Cooperation Exchange Event (Thailand)’ โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์, นายหนง เซิงเหวิน เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ ประจำนครหนานหนิง, นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน, นายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมมงคล ประธานหอการค้าไทย-จีน และนายจาง เซียว-เซียว ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ร่วมงาน ณ หอประชุมกวางหวาถัง หอการค้าไทย-จีน ชั้น 9 อาคารไทย ซีซี ถนนสาทรใต้ เขตสาทร กรุงเทพฯ

น.ส.พิมพ์ภัทรา กล่าวว่า จีนและไทยเป็นประเทศที่มีความสัมพันธ์อันดีมาอย่างยาวนาน ทั้งในด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม การค้า และการลงทุน ที่ผ่านมาไทยกับจีนพัฒนาความสัมพันธ์ให้มีความก้าวหน้าอย่างเด่นชัด สู่การเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือทางยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน ตั้งอยู่บนพื้นฐานของ ‘นโยบายจีนเดียว’ มีความไว้เนื้อเชื่อใจกัน เคารพซึ่งกันและกัน และผลประโยชน์ร่วมกัน รวมทั้งการมีวิสัยทัศน์ร่วมกันต่อสันติภาพ ความเจริญรุ่งเรือง และการพัฒนาอย่างยั่งยืน จีนถือเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย เป็นเวลา 12 ปี ติดต่อกัน

ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม ได้วางนโยบายการพัฒนาเพื่อต่อยอดอุตสาหกรรมเดิมและสร้างมูลค่าเพิ่มให้เศรษฐกิจด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ จึงได้ผลักดันนโยบายในการส่งเสริมและสนับสนุนอุตสาหกรรมที่ไทยมีศักยภาพ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งได้ขับเคลื่อนมาตรการส่งเสริมการใช้และการผลิตยานยนต์ไฟฟ้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปี 66 ไทยขึ้นเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคที่มีการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าสูงสุด และมีผู้ผลิตยานยนต์และชิ้นส่วนเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ รัฐบาลและกระทรวงอุตสาหกรรมยังให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมอื่น เช่น อุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ รวมทั้งอุตสาหกรรมดั้งเดิมที่มีศักยภาพสู่อุตสาหกรรมเศรษฐกิจ อาทิ อุตสาหกรรมฮาลาล รวมถึงยา เครื่องสำอาง และสปาฮาลาล ตลอดจนการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบอุตสาหกรรมตามนโยบาย รัฐบาลดิจิทัล และการกำกับดูแลการประกอบอุตสาหกรรมให้เป็นไปตามหลักธรรมภิบาล รวมทั้งการส่งเสริมผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพให้สามารถดำรงอยู่ได้ภายใต้ การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี และตระหนักถึงการรักษาสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น

“ดิฉันเชื่อมั่นว่าการดำเนินการตามนโยบายดังกล่าวจะส่งผลให้เศรษฐกิจอุตสาหกรรมไทยมีทิศทางที่ดีขึ้น นำไปสู่การพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในระยะยาว และเดินหน้าสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต การสัมมนาในวันนี้เป็นการพัฒนาความสัมพันธ์และความร่วมมือของไทยและจีน กระชับความร่วมมือกับนครหนานหนิง ซึ่งได้วางเป้าหมายให้เป็นเมืองหลวงของโลจิสติกส์ ศูนย์กลางการกระจายสินค้าและเป็นประตูการค้าของจีนสู่อาเซียนรวมถึงประเทศไทย อีกทั้งนครหนานหนิงยังเร่งดำเนินนโยบายการยกระดับศักยภาพการสร้างสรรค์นวัตกรรม และให้ความสำคัญกับสตาร์ทอัพอย่างต่อเนื่อง มีการสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการสร้างความเข้มแข็งและเติบโตผ่านโครงการบ่มเพาะ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาเชิงพาณิชย์ได้ และอาจมีความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมไทยต่อไป” รมว.อุตสาหกรรม กล่าว

‘เจ๊จง’ เปิดใจลดราคาหมูทอด ไม่ได้ทำเอากระแส แต่เมื่อราคาวัตถุดิบลดราคา ร้านค้าควรลดตาม

จากกรณีร้านหมูทอดเจ๊จง ร้านหมูทอดชื่อดังประกาศลดราคาหมูทอด ทั้งขายเป็นขีดเป็นกิโล จากขีดละ 31 บาท เหลือขีดละ 30 บาท หมูทอดราคา 300 บาทต่อกิโลกรัม จนทำเอาได้ใจผู้บริโภค

(23 เม.ย.67) คุณจงใจ กิจแสวง หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ ‘หมูทอดเจ๊จง’ เจ้าของร้านหมูทอดชื่อดัง เผยถึงสาเหตุของการประกาศลดราคาหมูทอดลงว่า จริง ๆ ไม่มีอะไรเลย แต่สืบเนื่องจากเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาตนไปหาหมอกับลูก ที่มีสาขาอยู่ที่ตลาดสดธนบุรี และลูกเล่าให้ฟังว่ามีลูกค้ามาบอกว่ารักตนมาก เพราะเวลาของขึ้นราคาก็ขึ้น เวลาของลดราคาก็ลงตามด้วย ตนเลยรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่น่ารักดี

ต่อมาวันอาทิตย์เวลาประมาณสามทุ่ม ตนเลยโทรหาลูกทุกคนว่า “โอเคมั้ย ถ้าวันจันทร์จะลด 10 บาท” ลูกก็บอกว่าแล้วแต่ตน ก็เลยตัดสินใจที่จะประกาศลดราคา แต่ยกเว้นสาขาในห้างสรรพสินค้า เนื่องด้วยราคาค่าเช่าที่แพง โดยตนมองว่าที่ตนลดขีดละ 1 บาท แต่ถ้าเป็นกิโล ก็เท่ากับลด 10 บาท ก็ไม่ใช่น้อย ๆ บางคนซื้อไป 1 กิโลกรัม สามารถกินได้หลายวันเลย

สำหรับเรื่องนี้ เจ๊จงมองว่า แล้วแต่มุมมอง แต่ถ้าหากว่าอยากจะอยู่นาน ๆ ก็ต้องมีความจริงใจต่อผู้บริโภค ‘เธอบ้าง ฉันบ้าง’ ไม่ใช่ว่าจะเอาอย่างเดียว มันเลยทำให้ตนยังอยู่ได้มากว่า 20 ปี และยังส่งต่อธุรกิจให้กับลูกอีก 4 คนได้ด้วย รวมถึงยังทำให้ลูกค้ารักร้านตน และรักลูกตนด้วย

เจ๊จง กล่าวอีกว่า ไม่ได้มองว่าที่ตนทำเป็นการสวนกระแส แต่ตนเป็นแบบนี้อยู่แล้ว ขนาดช่วงที่หมูแพง มีผู้ใหญ่มาดูราคาขายให้ตนว่าต้องขายเท่านี้ แต่ตนมองว่าแพงไป ก็ไม่ขายราคานั้น หรือช่วงที่หมูลดราคา แต่ของอย่างอื่นขึ้น เช่น แก๊ส, พริก หรือแม้กระทั่งค่าแรง แต่ตนไม่กังวล เพราะค่าแรงลูกจ้างร้านตนได้เยอะกว่าที่รัฐบาลจะให้ขึ้นค่าแรงอยู่แล้ว ซึ่งราคาที่ลดมานี้ ตนคิดว่าน่าจะสามารถตรึงเอาไว้อีกสักพักเลย

อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้ลดราคาเพื่อหวังให้ลูกค้ามาซื้อเยอะขึ้น เพราะลูกค้าที่ร้านตนเยอะแบบนี้อยู่แล้ว นอกจากนี้ตนเป็นคนที่เล่นโซเชียลมีเดีย เห็นว่ามีคนที่ลำบากอีกเยอะ อย่างเคสหนึ่งที่ยอมขายของในบ้านทั้งหมด เพื่อนำเงินไปจ่ายค่าเทอมลูก ตนเลยมองว่าการช่วยเหลือแค่นิด ๆ หน่อย ๆ อาจทำให้เขาดีขึ้นก็ได้

ทั้งนี้ตนก็แปลกใจที่เมื่อเวลาราคาวัตถุดิบขึ้น ร้านค้าต่างขึ้นราคา แต่เมื่อถึงเวลาราคาวัตถุดิบลดราคา กลับไม่ลดราคาสินค้าตามด้วย แต่ร้านตนนั้นทำแบบนี้มานานแล้ว เวลาขึ้นราคาจะขึ้นครั้งละ 1-2 บาท และเวลาลดราคาก็จะลดครั้งละ 1-2 บาท ตามราคาที่ขึ้นไป

ตนจึงอยากให้แม่ค้าหลาย ๆ คนดูเป็นแบบอย่างว่า ถ้าอยากจะขายได้นาน ๆ ส่งต่อถึงรุ่นลูกได้ ก็ลองนำไปปรับใช้ดู แต่ทั้งนี้ตนก็เข้าใจร้านเล็ก ๆ ว่าอาจจะขายน้อย เวลาซื้อวัตถุดิบ ก็ซื้อในปริมาณที่เยอะไม่ได้ แต่ถ้าขายได้ทำราคาได้ ก็ควรจะแบ่ง ๆ กัน ลดราคาได้ก็ลด จะได้ขายได้นาน ๆ

ที่ตนออกมาประกาศลดราคาแบบนี้ ตนไม่ได้ตั้งใจจะไปทำลายร้านอื่น ตนเข้าใจแต่ตนอยากให้ดูร้านตนมากกว่าว่าทำไมถึงขายมาได้นาน

สุดท้ายนี้อยากขอบคุณลูกค้าทุกคน ที่รักในแบรนด์หมูทอดเจ๊จง ยืนยันว่าจะแบบนี้ไปเรื่อย ๆ และจะส่งเจตนารมณ์ไปถึงรุ่นลูกด้วยว่าอย่าเอาเปรียบซึ่งกันและกัน แล้วจะอยู่ในสังคมได้ ส่วนที่หลายคนอวยยศตนว่า ‘เจ๊จง คนจริง’ นั้น ตนมองว่าเป็นคนจริงใจมากว่า

ทั้งนี้ ลูกค้าส่วนใหญ่ร้านหมูทอดเจ๊จง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า มาซื้อหมูทอดและอาหารที่ร้านเป็นประจำ เนื่องจากมีราคาที่ถูก และมองว่าการที่เจ๊จงลดราคาแบบนี้ถือเป็นการคืนกำไรให้ผู้บริโภค และจริงใจต่อลูกค้า บางรายเป็นลูกค้าประจำเดินทางมาไกล เพื่อซื้อหมูทอดโดยเฉพาะ เพราะรักเจ๊จง เจ๊จงช่วยเหลือคนที่ลำบากมาเยอะ

‘โชกุบุสซึ’ ควงหมอช้าง’ ผุด ‘ครีมอาบน้ำสายมู’ เสริมพลังตามราศีธาตุทั้ง 4 ‘ดิน-น้ำ-ลม-ไฟ’

(23 เม.ย.67) นายประเสริฐ สุรัตนเมธากุล ผู้จัดการส่วนผลิตภัณฑ์ดูแลความงามและเด็ก บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ครีมอาบน้ำโชกุบุสซึมียอดจำหน่ายเป็นอันดับ 1 ติดต่อกัน 3 ปีซ้อน ในประเทศไทย ปีนี้มีโปรเจ็กต์มากมาย โดยหนึ่งในโปรเจ็กต์ คือ ‘โชกุบุสซึ จักรราศี’ ครีมอาบน้ำสายมูตัวแรกที่ได้ครีเอทร่วมกับผู้บริหารโลตัส และได้รับเกียรติจากหมอช้าง ผู้เชี่ยวชาญสายมูคนสำคัญของเมืองไทย มาช่วยคัดเลือกกลิ่นให้เหมาะสมกับคนแต่ละธาตุ ตามหลักการทางโหราศาสตร์ เพราะมองว่าเทรนด์การมูเป็นกระแสที่กำลังมาแรง

ทั้งนี้ จากข้อมูลที่ทำการรีเสิร์ชจะเห็นได้ว่าคนไทยกว่า 70% มีความสนใจเกี่ยวกับการมูเตลู ประกอบกับหลังจากสถานการณ์โควิค ได้เห็นภาพความยากลำบากในการใช้ชีวิตของผู้บริโภค จึงอยากเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้กำลังใจกับทุกคน ภายใต้ผลิตภัณฑ์ที่บริษัทตั้งใจสร้างสรรค์มาเป็นพิเศษ เพื่อเสริมสร้างพลังความโชคดี ทำให้ทุกคนสามารถก้าวออกไปใช้ชีวิตและเผชิญกับสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างมั่นใจ

สำหรับบรรยากาศในงานถูกเนรมิตให้กลายเป็นพื้นที่แห่งความเชื่อ ในคอนเซ็ปต์ ‘มูให้ปังเสริมพลังดวงดี’ เพื่อให้ลูกค้าสายมูเข้ามาเสริมพลังดวงดี พร้อมเปิดรับความเฮงความปังกับกิจกรรมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เปิดดวงไปกับนักพยากรณ์, เปิดประตูบุญ สู่พระธาตุประจำปีเกิด และ เปิดโชครับคำทำนาย Shokubutsu Zodiac นอกจากนี้ ‘หมอช้าง - ทศพร ศรีตุลา’ ยังเผยทริคเสริมดวงชะตาให้เฮงปังอย่างมั่นใจด้วยว่า “หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้มีความสุขคือ ช่วงเวลาในการอาบน้ำ ประกอบกับตามหลักฮวงจุ้ย น้ำเป็นสิ่งชำระล้างที่ดี ส่วนธาตุเป็นตัวบอกอารมณ์และความรู้สึกของคน โดยธาตุตามระบบสากล (Zodiac) มี 4 ธาตุ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ

สำหรับปัจจัยที่จะกระตุ้นให้อารมณ์คนเปลี่ยนมีสองประการ คือ ‘สภาพแวดล้อม’ และ ‘กลิ่น’ เมื่อการอาบน้ำและกลิ่นหอมเป็นสองปัจจัยสำคัญในการสร้างความสุข ดังนั้น ถ้าอยากมีความสุข แนะนำให้อาบน้ำด้วยผลิตภัณฑ์ ‘โชกุบุสซึ จักรราศี’ ที่ผ่านการออกแบบมาให้มีกลิ่นหอมตรงตามระบบธาตุ โดยสามารถใช้ได้ทั้งครีมอาบน้ำตามธาตุของตัวเอง หรือครีมอาบน้ำของธาตุอื่น ๆ ยกตัวอย่างเช่น หากต้องการปรับสมดุลก่อนนอน สามารถเลือกใช้ครีมอาบน้ำของธาตุน้ำ เพราะเป็นธาตุของการผ่อนคลาย หรือก่อนออกจากบ้าน อยากกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ก็สามารถเลือกใช้ครีมอาบน้ำของธาตุลมที่ตอบโจทย์ในเรื่องนี้ได้

สัมผัสประสบการณ์สร้างสุขเสริมเฮงกับผลิตภัณฑ์ ‘โชกุบุสซึ จักรราศี’ (Shokubutsu Zodiac) ครีมอาบน้ำสายมูกระตุ้นพลังแห่งความโชคดี ที่ช่วยทำความสะอาดผิวได้อย่างมั่นใจ ท่ามกลางการปลอบประโลมผิวอย่างอ่อนโยนจากกลิ่นของพืชพรรณธรรมชาติ มีมาให้เลือกมูในแบบลิมิเต็ด อิดิชัน พร้อมกัน 4 กลิ่น 4 ธาตุ ได้แก่ ธาตุดิน (สีเขียว) ธาตุน้ำ (สีฟ้า) ธาตุลม (สีชมพู) และ ธาตุไฟ (สีส้ม) บรรจุขวดขนาด 500 มล. จำหน่ายในราคาพิเศษ 99 บาท จากราคาปกติ 125 บาท พร้อมโปรโมชันสุดคุ้มมากมาย อาทิ ซื้อครีมอาบน้ำโชกุบุสซึ จักรราศี ครบ 189 บาท รับฟรี สร้อยข้อมือเสริมดวง 1 ชิ้น จากแบรนด์โชกุบุสซึ มูลค่า 199 บาท สมาชิกมายโลตัส รับสิทธิ์เพิ่มลุ้นรับเบอร์มงคล ใช้แล้วมีแต่ความเฮงความปัง ถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม 2567 เท่านั้น

อย่างไรก็ดี ไลอ้อน ประเทศไทย ยังคงเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมเพื่อสุขภาวะที่ดีอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการของผู้บริโภคทุกกลุ่ม โดยมั่นใจว่า ผลิตภัณฑ์ครีมอาบน้ำโชกุบุสซึ จักรราศี จะเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ได้การตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค ครีมอาบน้ำ ‘โชกุบุสซึ จักรราศี’ มีจัดจำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่ Lotus’s เท่านั้น! (ยกเว้น Lotus’s go fresh) และ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง Facebook: Shokubutsu

'รัดเกล้า' ชี้!! 'ครม.' เห็นชอบฟรีวีซ่า 'รัสเซีย' 60 วัน  เชื่อ 'ดึงดูดนทท.-กระตุ้นเศรษฐกิจ' เริ่ม 1 พ.ค.-31 ก.ค.นี้

(23 เม.ย.67) นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า​ ในปี 2566 มีนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียเดินทางมาประเทศไทยมากกว่า 1.61 ล้านคนซึ่งมากเป็นอันดับหนึ่งของนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคยุโรปและมากเป็นอันดับห้าของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดที่เดินทางเข้าประเทศไทย โดยประเทศไทยมีรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย รวม 84,666 ล้านบาท ซึ่งหากย้อนไปเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.2548​ ประเทศไทยและรัสเซียได้ลงนามความตกลงว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราหนังสือเดินทางธรรมดาร่วมกัน​ ส่งผลให้ผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาไทยและรัสเซียสามารถเดินทางระหว่างกันและพำนักในประเทศได้ไม่เกิน 30 วัน โดยไม่ต้องขอรับการตรวจลงตรา

ต่อมา ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง กำหนดรายชื่อประเทศที่ผู้ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว ได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราและให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ไม่เกิน 90 วัน เป็นกรณีพิเศษ โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.2566 ถึงวันที่ 30 เม.ย.2567​ กล่าวคือหมดเขตสิ้นเดือนนี้นั่นเอง

เพื่อความต่อเนื่องของมาตรการ วันนี้ (23 เม.ย.) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติและเห็นชอบการยกเว้นการตรวจลงตรา (VISA) เพื่อการท่องเที่ยวให้แก่ผู้ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางสัญชาติรัสเซีย เป็นกรณีพิเศษและเป็นการชั่วคราว ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้

1.อนุมัติในหลักการในการกำหนดให้ ‘สหพันธรัฐรัสเซีย’ อยู่ในรายชื่อประเทศในประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องกำหนดรายชื่อประเทศที่ผู้ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางซึ่งเข้าในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว ได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราและให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ไม่เกิน 60 วัน เป็นกรณีพิเศษ โดยมีเงื่อนไขให้มีผลบังคับใช้ชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.2567 ถึงวันที่ 31 ก.ค.2567เพื่อประโยชน์ต่อมิติเศรษฐกิจและการต่างประเทศกับสหพันธรัฐรัสเซีย โดยเฉพาะด้านความเชื่อมโยงระหว่างประชาชนที่เป็นรากฐานของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

2. ให้ความเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง กำหนดรายชื่อประเทศที่ผู้ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว ได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราและให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ไม่เกินหกสิบวัน เป็นกรณีพิเศษ และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย (มท.) และสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองดำเนินการปรับปรุงแก้ไขประกาศหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป

3. มอบหมายให้หน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้องกำกับติดตามและประเมินผลกระทบจากการออกประกาศกระทรวงมหาดไทยฉบับนี้ ทั้งนี้ หากมีผลกระทบต่อความมั่นคงและผลประโยชน์แห่งชาติ หน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้องอาจเสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณายกเลิกประกาศกระทรวงมหาดไทยดังกล่าวต่อไปได้

“การยกเว้นการตรวจลงตราเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียให้เดินทางมาท่องเที่ยวและพำนักในราชอาณาจักรตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกรกฎาคม 2567 ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในภาพรวมอีกด้วย” รองโฆษกฯ​ กล่าว

ส่องราคาน้ำมัน ในอาเซียน 'เบนซิน-ดีเซล' ใครแพงที่สุด-ถูกที่สุด?

จัดอันดับราคาน้ำมัน 'เบนซิน-ดีเซล' ในอาเซียน ใครแพงที่สุด-ถูกที่สุด? แล้วไทยอยู่ตรงจุดไหน? ✨✨

ข้อควรรู้ : การเก็บข้อมูลราคาน้ำมันในอาเซียน

- แต่ละประเทศสมาชิกมีมาตรการภาษี และระบบการเก็บเงินเข้ากองทุนหรืออุดหนุนราคาพลังงานที่แตกต่างกัน
- หลายประเทศเพื่อนบ้านยังมีการอุดหนุนราคาอยู่
- ไทยสนับสนุนการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ให้การอุดหนุนราคาโดยกองทุนน้ำมันฯ จึงทำให้ราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ถูกกว่าเบนซิน

(หมายเหตุ : ข้อมูลราคาน้ำมันข้างต้น ประเทศไทย อ้างอิงราคาจาก ปตท. และ บางจาก และเป็นราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95, E10 ซึ่งมีสัดส่วนการใช้มากที่สุด)

'บิ๊กโจ๊ก' ส่งตัวแทนยื่นหนังสือ ป.ป.ช. ขอถอนคำร้องเอาผิด 'เศรษฐา'  ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีปมแต่งตั้ง 'ผบ.ตร.' 

(23 เม.ย.67) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า ช่วงเช้าวันที่ 23 เม.ย. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ได้ส่งตัวแทนมายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อขอถอนเรื่องที่ยื่นให้ป.ป.ช.ตรวจสอบนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เมื่อวันที่ 22 เม.ย. กรณีปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ในการสกัดกั้นไม่ให้เป็น ผบ.ตร. โดยขัดต่อ พ.ร.บ.ตำรวจ โดยระบุเหตุผลว่า ไม่ติดใจจะดำเนินการเอาผิดนายกรัฐมนตรีแล้ว ส่วนกรณีการเอาผิดพนักงานสอบสวนที่เกี่ยวข้องนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ไม่ได้ยื่นถอนเรื่องแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม กรณีการยื่นให้ตรวจสอบนายกรัฐมนตรี แม้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์จะไม่ติดใจดำเนินการ แต่ ป.ป.ช.ก็ยังต้องดำเนินการตรวจสอบต่อไป เพราะก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส เคยมายื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบนายกรัฐมนตรีในข้อกล่าวหาทำนองเดียวกัน ซึ่งเรื่องอยู่ระหว่างการตรวจสอบของ ป.ป.ช.

'ดร.นิว' ชำแหละ!! 'ธนาธร' ชี้นำการเลือก สว. ชุดใหม่ ทำให้นึกถึงหัวหน้าปรสิตใน Parasyte: The Grey

(24 เม.ย.67) นายศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ 'ดร.นิว' นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Suphanat Aphinyan ระบุว่า...

เห็นนายธนาธรชี้นำการเลือก สว. ชุดใหม่ ทำให้นึกถึงหัวหน้าปรสิตใน Parasyte: The Grey ที่กระเสือกกระสนดิ้นรนให้ได้มาซึ่งอำนาจโดยการครอบงำองค์กรมนุษย์ วาทกรรม สว. ประชาชน ที่กล่าวอ้าง ความจริงเป็นขบวนการชี้นำการสมัครเพื่อฮั้วโหวตแบบพวกมากลากไป หวังนำไปสู่การผลิต สว. ธนาธร ใช่หรือไม่?

'บีม พลังใบ' ประกาศเลิกกัญชาถาวร พร้อมเผยอุทาหรณ์ สมองรวน น้ำลายไหลไม่รู้ตัว 'จำเรื่องที่พูด-จับใจความไม่ได้'

เมื่อวานนี้ (23 เม.ย. 67) หลังสงกรานต์ หลายคนที่ติดตามเฟซบุ๊กของพิธีกรหนุ่ม ‘บีม ศรัณยู ประชากริช’ หรือ ‘บีม พลังใบ’ ออกมาโพสต์ข้อความดูดรามา ๆ ขึ้นรูปจอดำ จนล่าสุดเจ้าตัวก็ได้โพสต์ความในใจออกมาชัดเจนว่าจากนี้ ขอเลิกกัญชาถาวรแล้ว เพราะมีผลต่อการหลั่งสารเคมีในสมอง จนมีภาวะซึมเศร้า โดยบีมได้โพสต์ข้อความใจความว่า...

“I’ll be back Now I’m lost. Lead me the right pathways. I will just follow. (ฉันจะกลับมา ตอนนี้ฉันหลงทางแล้ว นำฉันไปสู่เส้นทางที่ถูกต้อง ฉันจะทำตามเท่านั้น)

ผมเลิกกัญชาอย่างถาวรครับ เพราะสารเคมีในสมองผมหลั่งเพี้ยน ผมใช้กัญชาเพื่อความชิล ชิลกับทุกปัญหาจนปัญหาพอกหางหมู ผมใช้มันมากเกินไป บางทีผมสุขมาก(ล้นๆ) บางทีจมทุกข์(down) มันมากเกินคนปกติ อารมณ์สวิง บวกกับ ‘ภาวะโรคซึมเศร้า’ ทำให้ระบบประมวลผลในสมองผมรวนไปหมด พูดวนไปมา น้ำลายไหลไม่รู้ตัว จำเรื่องที่พูดไปไม่ได้เลย จับใจความไม่ได้

… ผมเขียนไว้เพื่ออุทาหรณ์ เพื่อป้องกันคนซ้ำรอยแบบผม… ไม่มีความสุขในชีวิตเลย

ขอบคุณช่า (ภรรยา) ที่มาดึงผมขึ้นจากหลุม หลุมที่ไม่ลึกมากแต่ผมลุกขึ้นเองไม่ไหว เห็นทางออกแต่มันทำไม่ได้ ผมจะหายขาดและมีสติในการใช้ชีวิตตลอดเวลาครับ จากคนเคยคม แต่วันนี้มันทู่ไปหมด I’ll be back.”

งานนี้มีแฟน ๆ เข้ามาให้กำลังใจ บีม ศรัณยู มากมาย และก็มีชาวเน็ตไม่น้อยเลยที่ตกอยู่ในสภาวะเดียวกับบีม ทั้งต้องพบจิตแพทย์ กำลังรักษา และรักษาจนหายเลยลาขาดกับกัญชา

'หมอดื้อ' เฉลย!! ทำไมยังพูดผลกระทบวัคซีน ในเมื่อมันผ่านไปแล้ว ลั่น!! มันไม่ได้ผ่านไป ผลเสียยังฝังอยู่กับตัว ควรระงับเทคโนโลยีนี้

(24 เม.ย.67) ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า

คนถามว่ามาพูดเรื่องผลกระทบทำไมในเมื่อมันผ่านไปแล้ว?

คำตอบคือ

1- มันไม่ได้ผ่านไปครับยังฝังอยู่กับตัวเราและใครยังไม่มีอาการปรากฏไม่ควรนิ่งนอนใจ รักษาตัวให้ดีหลีกเลี่ยงผลกระทบที่ทำให้เกิดการอักเสบมากขึ้นในร่างกายการควบคุมอาหารเข้าใกล้มังสวิรัติ คุมโรคประจำตัว กำลังสม่ำเสมอ แดดและกระบวนการถอนพิษ เป็นไปได้

2- เพื่อให้หยุด ระงับเทคโนโลยีนี้ เพื่อใช้กับวัคซีนอื่น ๆ ถ้าไม่มีการปรับเปลี่ยน และไม่มีขั้นตอนในการควบคุมความปลอดภัยและเลิกบริการฉีด เลิกบังคับให้ฉีด ของวัคซีนนี้ จากการจุดกระแสต่าง ๆ

3- เพื่อให้ตระหนักในผลกระทบที่เกิดขึ้นและให้เข้าใจว่า ไม่ใช่โรคที่คิดไปเอง ดังที่ถูกสั่งพักงาน เพราะหมอวินิจฉัยไม่ได้แต่ในที่สุดพบการอักเสบมากมายมหาศาลในร่างกายแม้กระทั่งไปทำ PET scan เจอการอักเสบทั่วตัวและต่อมน้ำเหลืองโตเต็มตัว

4- เพื่อให้มีการเยียวยาผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับผลกระทบอย่างจริงจัง เป็นหมื่นเป็นแสนคน

5- ในที่สุดเพื่อหาคนรับผิดชอบ เมื่อรู้ความจริงแทนที่จะระงับ กลับส่งเสริมต่อและทำการเปลี่ยนความจริงให้เป็นเท็จ

คนเหล่านี้ ต่ำทราม และไม่ควรเป็นคนไทย

‘พพ.’ ผนึกกำลังลงนาม MOU ‘3 สมาคมวิชาชีพ’ ยกระดับพัฒนาประสิทธิภาพ ‘พลังงาน-พลังงานทดแทน’

พพ. ผนึก 3 สมาคมวิชาชีพ สานต่อการเพิ่มประสิทธิภาพพลังงานและพลังงานทดแทน มุ่งสร้างมาตรฐานวิชาชีพด้านอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนให้เข้มแข็ง เตรียมผลิตบุคลากรด้านพลังงานกว่า 1,400 คน ขับเคลื่อนการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน เปิดเผยว่า กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ได้จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การสนับสนุนและพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพพลังงานและพลังงานทดแทน ระหว่างสมาคมเครื่องกำเนิดไฟฟ้าไทย โดย นายธวัช มีชัย นายกสมาคมเครื่องกำเนิดไฟฟ้าไทย สมาคมผู้ตรวจสอบอาคาร โดย ดร.พิชญะ จันทรานุวัฒน์ นายกสมาคมผู้ตรวจสอบอาคาร และสมาคมไฟฟ้าแสงสว่างแห่งประเทศไทย โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปฐมทัศน์ จิระเดชะ นายกสมาคมไฟฟ้าแสงสว่างแห่งประเทศไทย ณ อาคารอนุรักษ์พลังงานเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดปทุมธานี

ทั้งนี้ นายวัฒนพงษ์ กล่าวว่า การลงนามดังกล่าวเป็นการสานต่อความร่วมมือระหว่าง 4 หน่วยงาน ให้มีความต่อเนื่องจากบันทึกข้อตกลงเดิมได้สิ้นสุดลง โดยมีประเด็นสาระสำคัญในการสนับสนุนและพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพพลังงานและพลังงานทดแทน ในด้านมาตรฐานการปฏิบัติงาน ระบบฐานข้อมูล การสนับสนุนองค์ความรู้ การพัฒนาบุคลากร ให้กับวิศวกร สถาปนิก ผู้บริหารอาคารและโรงงาน เจ้าหน้าที่อาคารและโรงงานผู้รับผิดชอบด้านพลังงาน ผู้ตรวจสอบและรับรองการจัดการพลังงาน ผู้ตรวจสอบอาคาร ผู้ตรวจประเมินค่าอนุรักษ์พลังงาน ผู้ตรวจระบบผลิตพลังงานควบคุม และบุคคลทั่วไป เพื่อนำไปสู่การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

โดยกิจกรรมแรกที่จะเกิดขึ้นจากความร่วมมือนี้ คือ หลักสูตรอบรม ‘การจัดทำแบบตรวจสอบระบบผลิตพลังงานควบคุม’ กรณีผลิตพลังงานควบคุมจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าและพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อพัฒนามาตรฐานประสิทธิภาพด้านพลังงานควบคุมเรื่องกำเนิดไฟฟ้า การถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีด้านพลังงานและแบ่งปันข้อมูลการใช้พลังงานสำหรับภาคธุรกิจ และอุตสาหกรรม และการพัฒนาบุคลากรจัดฝึกอบรมผู้ตรวจสอบระบบผลิตพลังงานควบคุมเพื่อเพิ่มพูนความรู้ความเข้าใจในหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการตรวจสอบและจัดทำรายงานแบบตรวจสอบระบบผลิตพลังงานควบคุม เพื่อให้ความเห็นในการพิจารณาออกใบอนุญาตผลิตพลังงานควบคุมจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าและพลังงานแสงอาทิตย์ รวมทั้งพัฒนามาตรฐานประสิทธิภาพการใช้พลังงานและเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการออกแบบก่อสร้างอาคารหรือดัดแปลงอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงานให้แก่ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม โดยในปีที่ผ่านมามีผู้ผ่านการอบรมรวมจำนวน 181 คน โดย พพ.มีเป้าหมายผลิตผู้ตรวจสอบระบบผลิตพลังงานควบคุมให้ได้กว่า 1,400 คน เพื่อให้เพียงพอและทันต่อกระแสการประหยัดพลังงาน การผลิตและใช้พลังงานทดแทน อาทิ การติดตั้งโซลาร์ รูฟท็อป การผลิตพลังงานจากระบบก๊าซชีวภาพ ของสถานประกอบการ เป็นต้น

นายวัฒนพงษ์ กล่าวอีกว่า “จากความร่วมมือนี้ นับเป็นร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ กับสมาคมวิชาชีพ เพื่อร่วมกันผลักดันให้ภาคอุตสาหกรรมและอาคารธุรกิจ มีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างมาตรฐานวิชาชีพด้านอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทน ที่มีความเข้มแข็ง ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ” นายวัฒนพงษ์ กล่าว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top