Friday, 4 July 2025
NewsFeed

‘CEO โบอิ้ง’ รับผิด!! ปมผนังหน้าต่างเครื่องบินหลุดกลางอากาศ ชี้!! เกิดจาก ‘นอตหลวม’ สัญญาจะไม่ให้เหตุการณ์ซ้ำรอยอีก

เมื่อวานนี้ (10 ม.ค.67) เดฟ คาลฮูน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของบริษัทโบอิ้ง กล่าวยอมรับว่ากรณี เครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ 9 ของ สายการบิน อะแลสกา แอร์ไลน์ ที่ผนังหน้าต่างหลุดออกมาทั้งชิ้นระหว่างบินอยู่กลางอากาศนั้น เป็นความผิดพลาดของโบอิ้ง และได้กล่าวย้ำระหว่างการประชุมกับพนักงานของตนเองว่าบริษัทจะไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก 

ถ้อยแถลงของซีอีโอโบอิ้งนับเป็นการยอมรับความผิดพลาดของบริษัทต่อที่สาธารณะ ‘เป็นครั้งแรก’ นับตั้งแต่เกิดเหตุชิ้นส่วนหน้าต่างที่ถูกติดตั้งแทนประตูฉุกเฉินหลุดออกมาทั้งหมดระหว่างบินจากเมืองพอร์ตแลนด์ ในรัฐออริกอน ไปยังเมืองออนแทรีโอ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันศุกร์ที่ 5 ม.ค.67 ที่ผ่านมา

ขณะที่สแตน ดีล ผู้บริหารระดับสูงของโบอิ้งได้กล่าวระหว่างการประชุมทาวน์ฮอลล์ของบริษัทด้วยว่า โบอิ้งยอมรับว่าเหตุการณ์ถือเป็นความผิดพลาดร้ายแรง และได้ดำเนินการรื้อกระบวนการตรวจสอบ และการควบคุมคุณภาพการผลิตเครื่องบินในบริษัทแล้ว 

คาลฮูน กล่าวต่อหน้าพนักงานในการประชุมทาวน์ฮอลล์ที่โรงงานผลิตโบอิ้ง 737 แม็กซ์ ในวอชิงตัน ว่า รู้สึกสั่นไปถึงกระดูกเมื่อได้ยินข่าวเหตุการณ์ ซึ่งทำให้นึกถึงวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ของโบอิ้งเมื่อเกือบ 5 ปีก่อน หลังจากที่เกิดเหตุเครื่องบินรุ่น 737 แม็กซ์ ประสบเหตุตกถึง 2 ลำ ภายในเวลาห่างกันไม่ถึง 6 เดือน จนทำให้มีผู้เสียชีวิตรวมกันมากถึงเกือบ 500 คน และทำให้บริษัทเผชิญวิกฤติครั้งเลวร้ายที่สุด

"อันดับแรกที่เราจะต้องทำเพื่อรับมือกับเหตุการณ์นี้ก็คือ ยอมรับความผิดพลาดของเรา เราจะดำเนินการเรื่องนี้ด้วยความโปร่งใสอย่างเต็มที่ 100% ในทุก ๆ ขั้นตอนของกระบวนการ" คาลฮูน กล่าวและย้ำว่า โบอิ้งจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐ (เอฟเอเอ) และคณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งของสหรัฐ (เอ็นทีเอสบี) 

ทั้งนี้ ผลตรวจสอบบ่งชี้ 'นอตหลวม'

โดยปัญหาที่เกิดขึ้นกับเครื่องบินของอะแลสกา แอร์ไลน์นั้น เกิดขึ้นกับแผ่นประตู Door plug ซึ่งมีลักษณะเป็นแผ่นประตูและหน้าต่าง แต่ไม่ใช่ประตูที่เปิด-ปิดได้ โดยถูกนำมาแทนที่ประตูทางออก เพื่อให้เครื่องบินสามารถเพิ่มที่นั่งบริเวณดังกล่าวรองรับผู้โดยสารได้มากขึ้น

สายการบินอะแลสกา แอร์ไลน์ ได้เปิดเผยผลการตรวจสอบจากช่างเทคนิคที่เข้าตรวจสอบเครื่องบินรุ่น 737 MAX 9 ของบริษัทซึ่งถูกสั่งระงับการให้บริการทั้งหมดชั่วคราว พบว่า เครื่องบินรุ่นดังกล่าวบางลำมีปัญหาเรื่อง ‘ฮาร์ดแวร์หลวม’ ซึ่งสายการบินยังไม่ยืนยันถึงสาเหตุที่แผ่นประตูหลุดขณะบิน แต่ระบุเพียงว่าชิ้นส่วนที่หลุดนั้นถูกยึดด้วย นอตหลัก 4 ตัว และนอตรองอีก 12 ตัว  

ขณะนี้บริษัทกำลังรอเอกสารสุดท้ายที่จะจัดส่งมาจากทางโบอิ้ง และทางสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐ (เอฟเอเอ) ก่อนจะสามารถเริ่มการตรวจสอบทางเทคนิคอย่างละเอียดอีกครั้ง

ด้านแหล่งข่าวรายหนึ่งเปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า สายการบิน ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ซึ่งได้ระงับเครื่องบินรุ่นดังกล่าวชั่วคราวเช่นกัน ตรวจพบเครื่องบินที่มีปัญหานอตหลวมแล้ว 10 ลำ และตัวเลขอาจสูงขึ้นกว่านี้

ปัจจุบัน มีเครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ 9 ที่ถูกสั่งห้ามบินชั่วคราวทั้งหมด 171 ลำ

ยักษ์เทคฯ 'อเมซอน' เดินหน้าปลดพนักงาน 'ไพร์ม วิดีโอ-เอ็มจีเอ็มสตูดิโอ' หลัง 'ทุนจม-เล็งหาทิศทางใหม่' ตั้งเป้าปลดให้ได้ 27,000 คนในปี 67

อเมซอน อินคอร์ปอเรชั่น ยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีและอีคอมเมิร์ซระดับโลกในสหรัฐอเมริกา ประกาศปลดพนักงานจำนวนมากหลายร้อยคนขึ้นไปใน 2 ธุรกิจชื่อดัง ได้แก่ 'ไพร์ม วิดีโอ' (Prime Video) ธุรกิจสตรีมมิ่งภาพยนตร์ชื่อดังระดับโลก และอเมซอน เอ็มจีเอ็ม สตูดิโอ ธุรกิจผลิตภาพยนตร์ ในสหรัฐอเมริกา สำหรับการปลดพนักงานจำนวนมากใน 2 บริษัทนี้ เป็นไปตามนโยบายของอเมซอนที่ประกาศไว้ตั้งแต่เมื่อปีผ่านมาว่าต้องปรับลดค่าใช้จ่ายลงให้มากที่สุดและต่อเนื่องด้วยการตั้งเป้าหมายปลดพนักงานมากมายถึง 27,000 คนระหว่างปี 2023 ถึงสิ้นปี 2024 

(11 ม.ค.67) Btimes รายงาน นายไมค์ ฮอพกิ้นส์ รองผู้อำนวยการอาวุโส ไพร์ม วิดีโอ และอเมซอน เอ็มจีเอ็ม สตูดิโอ กล่าวว่า ได้วิเคราะห์ แจกแจงโอกาสหลายอย่างที่จะลดหรือยุติการลงทุนในธุรกิจบางประเภท ในขณะที่ไปเพิ่มการลงทุนและเน้นความสำคัญสิ่งริเริ่มใหม่ๆ ด้านเนื้อหา และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งสร้างผลสำเร็จที่เห็นผลมากขึ้น 

ในช่วงที่ผ่านมา บริษัททุ่มเงินลงทุนจำนวนมากมายในการตั้งและบุกธุรกิจสื่อ โดยใช้เงินลงทุนมากถึง 8,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 297,500 ล้านบาท ในการผนวกกิจการเอ็มจีเอ็ม และใช้เงิน 465 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 16,275 ล้านบาทในการสร้างภาพยนตร์ซีซั่นแรกของเดอะลอร์ด ออฟ เดอะ ริง ตอนเดอะ ริง ออฟ พาวเวอร์ มาอยู่บนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งภาพยนตร์ของไพร์ม วิดีโอ

ขณะที่เมื่อวานนี้ (10 ม.ค.67) 'ทวิชต์' (Twitch) แบรนด์แพลตฟอร์มถ่ายทอดสดการเล่นเกมและการแข่งขันอี-สปอร์ต (e-Sports) ชื่อดังระดับโลกของบริษัทเทคโนโลยีและยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซชื่อดังระดับโลก อเมซอน อินคอร์ปอเรชั่น เตรียมประกาศในวันพุธนี้ตามเวลาในสหรัฐด้วยการปลดพนักงานครั้งใหญ่ออกมากกว่า 500 คน หรือมากถึง 35% ของพนักงานทั้งหมดในปัจจุบัน โดยการเตรียมประกาศปลดพนักงานในวันพุธนี้ นับเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 1 ปีผ่านมา ในปี 2023 ทวิชต์ปลดพนักงาน 2 รอบรวมกันกว่า 400 คน 

สาเหตุจากผลประกอบการของทวิชต์ที่ขาดทุนต่อเนื่อง ซึ่งผลจากการลงทุนสูงเพื่อให้บริการเว็บไซต์ในรูปแบบแพลตฟอร์มถ่ายทอดสดรองรับการเล่นเกมออนไลน์และการแข่งขันอี-สปอร์ต ที่กินเวลามากถึง 1,800 ล้านชั่วโมงต่อเดือน นับเป็นขนาดการให้บริการถ่ายทอดสดเกมออนไลน์ที่ใหญ่มหึมาแห่งหนึ่งของโลก ที่สำคัญเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงมีราคาแพงมาก ทั้งๆ ที่ทวิชต์ใช้โครงสร้างเครือข่ายเทคโนโลยีของบริษัทอเมซอน อินคอร์ปอเรชั่น 

นอกจากนี้ เมื่อเดือนธันวาคมปี 2023 ผ่านไป ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ นายแดน แคลนซี เปิดเผยว่า ทวิชต์จะยุติบริการถ่ายทอดสดเกมออนไลน์ และอี-สปอร์ตในประเทศเกาหลีใต้ สาเหตุจากค่าใช้จ่ายสูงอย่างมากมาย ท่ามกลางในปี 2023 เกิดการทยอยลาออกของผู้บริหารระดับสูงในบริษัททวิชต์หลายคนในช่วงที่ผ่านมา 

บริษัทอเมซอน อินคอร์ปอเรชั่น เข้าซื้อกิจการทวิชต์เมื่อปี 2015 ปรากฏว่า นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาถึง 9 ปีในปัจจุบัน ทวิชต์ ไม่สามารถสร้างผลประกอบการเป็นกำไรให้กับอเมซอน อินคอร์ปอเรชั่นได้เลยแม้แต่ปีเดียว เนื่องจากรูปแบบการหารายได้จากค่าโฆษณาไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่ชะลอตัว อัตราดอกเบี้ยปรับขึ้นอย่างรวดเร็ว และอยู่ในระดับสูงทุกวันนี้มาอย่างต่อเนื่อง 

‘ตร.เนปาล’ บุกรวบ ‘บุดดาบอย’ ผู้นำทางจิตวิญญาณชื่อดัง ข้อหาข่มขืนผู้เยาว์ และเอี่ยวการหายตัวไปของผู้ติดตาม

(11 ม.ค.67) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ราม พหาทุร พามชาน (Ram Bahadur Bomjan) ผู้นำทางจิตวิญญาณชาวเนปาล วัย 33 ปี หรือที่รู้จักกันในชื่อ บุดดาบอย (Buddha Boy) ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศผู้เยาว์ และเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของผู้ติดตามของเขาอย่างน้อย 4 ราย

ตามรายงานของสำนักงานสืบสวนกลาง ระบุว่า พามชานถูกรวบตัวได้เมื่อวันที่ 9 มกราคม ที่ผ่านมา จากบ้านของเขาในพื้นที่กาฐมาณฑุ เมืองหลวงของเนปาล พร้อมใส่กุญแจมือ และแถลงต่อหน้าสื่อมวลชน โดยมีการเปิดเผยว่า เขาพยายามหลบหนีโดยการกระโดดจากหน้าต่างชั้น 2 เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ไม่สำเร็จ และถูกจับกุมได้ในที่สุด

พามชานถูกจับกุมด้วยข้อหาข่มขืนผู้เยาว์วัย 14 ปี ที่อาศรมในเมืองซาร์ลาฮี ทางตอนใต้ของเมืองหลวง รวมทั้งข้อกล่าวหาเรื่องการละเมิดและการประพฤติมิชอบย้อนหลังไปกว่า 10 ปี นับตั้งแต่ปี 2553 เขาถูกยื่นฟ้องหลายสิบครั้งเกี่ยวกับการทำร้ายร่างกาย มีการระบุว่า เขาทุบตีเหยื่อซึ่งเป็นผู้ติดตาม เหตุเพราะรบกวนสมาธิของเขา ทั้งยังมีแม่ชีวัย 18 ปี อ้างว่าถูกเขาข่มขืนที่วัดแห่งหนึ่ง เมื่อปี 2561 และในปีถัดมา มีรายงานว่าสาวก 4 รายของเขา หายตัวไปจากอาศรมแห่งหนึ่ง ซึ่งในปัจจุบันก็ยังไม่ทราบชะตากรรม

ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ยังได้ยึดของกลางเป็นธนบัตรเนปาลจำนวนมาก มีมูลค่าเทียบเท่าประมาณ 227,000 ดอลลาร์ (ราว 7.9 ล้านบาท) และธนบัตรสกุลเงินต่างประเทศอื่น ๆ มูลค่าประมาณ 23,000 ดอลลาร์ (ราว 8 แสนบาท) หลังจากนี้ คาดว่าพามชานจะถูกนำตัวไปขึ้นศาลทางตอนใต้ของเนปาล เพื่อรับฟังคำตัดสิน

‘ดร.เสรี’ ชี้!! ปีนี้มีสิทธิร้อนเพิ่ม ผลพวงที่ส่งต่อมาจากปี 2023

(11 ม.ค. 67) รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ รองประธานกรรมการมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า #โลกร้อนสุด 2023 อะไรจะเกิดขึ้นตามมาในปี 2024 นอกเหนือการควบคุม

ปี 2023 เป็นปีที่นักวิทยาศาสตร์ไม่ได้มีการคาดการณ์ไว้ว่าจะเป็นปีที่ร้อนที่สุด แต่อุณหภูมิเฉลี่ยกลับเพิ่มขึ้นกว่า 1.48oC เมื่อ 100 ปีที่แล้ว และสูงกว่าปี 2016 ที่เคยเป็นสถิติสูงสุด ปัจจัยสำคัญอันหนึ่งมาจากปรากฏการณ์ El Nino ที่กำลังเกิดขึ้น และคาดการณ์ว่าจะแตะระดับสูงสุด ในเดือนมกราคมปีนี้ ดังนั้นการเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงสภาพอากาศสุดขั้วต่างๆจึงเกิดตามมาโดยไม่สามารถควบคุมได้ ดังตัวอย่างการเกิดคลื่นความร้อน และไฟป่าในแคนาดา US และยุโรป น้ำท่วมใหญ่ในแอฟริกาตะวันออก รวมทั้งน้ำท่วมรุนแรงในภาคใต้ประเทศไทย

จากข้อมูลอุณหภูมิเฉลี่ยรายวันในปี 2023 ยังบ่งชี้ว่าตั้งแต่เดือนมิถุนายน อุณหภูมิเฉลี่ยรายวันทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (173 วันที่อุณหภูมิสูงเกิน 1.5 oC) ตั้งแต่มนุษย์เริ่มมีการใช้พลังงานฟอสซิล ดังนั้นนักวิทยาศาสตร์จึงยังคงไม่มั่นใจว่าเหตุการณ์ความรุนแรงจากสภาพอากาศสุดขั้วใด จะเกิดขึ้นบ้าง และจะเกิดขึ้นเมื่อไรในอนาคต แม้แต่การคาดการณ์ปริมาณฝนยังมีความคลาดเคลื่อนสูง และไม่สามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้าในระยะยาวเป็นรายเดือน รายฤดูกาล เป็นต้น เนื่องจากอุณหภูมิน้ำทะเลก็ยังสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์เหมือนกัน

ดังนั้นด้วยโมเมนตัม และการถ่ายทอดพลังงานความร้อนต่อเนื่องจากปี 2023 ทำให้ปี 2024 จึงเป็นปีที่มีความเสี่ยงสูงที่จะร้อนกว่าปี 2023 การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิดังกล่าวบ่งชี้การเกิดขีดจำกัด 1.5oC ตามข้อตกลงปารีสซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยในรอบ 20-30 ปี และอาจจะแตะ 3oC จากการประเมินรายงาน NDC (National Determined Contribution) ของแต่ละประเทศที่ส่งมาในปัจจุบัน ดังนั้นเหตุการณ์ความรุนแรงจากสภาพอากาศสุดขั้วจึงไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ และต้องเฝ้าระวังกันต่อไป 

โรงพยาบาลตำรวจจัดงานวันเด็ก จัดเต็ม มอบของขวัญ ขนม ผลไม้ และของรางวัลจำนวนมากให้เด็กๆ

วันนี้ (11 มกราคม 2567) โรงพยาบาลตำรวจจัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2567 หลากหลายกิจกรรม ณ ห้องตรวจโรคกุมารเวชกรรม อาคารเฉลิมพระเกียรติมหาราชินี 60 พรรษา โรงพยาบาลตำรวจ โดย พ.ต.อ.โสภณ พรกุลวิไล หัวหน้ากลุ่มงานกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลตำรวจ ผู้เชี่ยวชาญอนุสาขากุมารเวชศาสตร์โรคต่อมไร้ท่อและเมแทบอลิซึม ให้การต้อนรับ พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ และ ร.ต.ท.หญิง สายพิณ สมพงษ์ ภริยา ประธานเปิดงาน ที่แต่งกายชุดในเจ้าชายและเจ้าหญิง โดยมี พ.ต.อ.หญิง ศิริกุล ศรีสง่า โฆษกโรงพยาบาลตำรวจ ทีมงานโฆษก และเจ้าหน้าที่จากทีมศูนย์ประชาสัมพันธ์ สื่อสารองค์กร พร้อมทีมแพทย์ พยาบาลในทุกสาขาของหน่วยกุมารเวชกรรม โรง พยาบาลตำรวจ ร่วมกิจกรรมด้วย

ปีนี้ทุกคนแต่งตัวเป็นการ์ตูน ฮีโร่ และการ์ตูนน่ารักๆ ที่เด็กชื่นชอบ ขณะที่ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ 9 สาขา ได้แก่กุมารแพทย์ ทารกแรกเกิด โรคหัวใจ โรคปอด โรคไต โรคติดเชื้อ โรคเลือด โรคภูมิแพ้ โรคต่อมไร้ท่อ พัฒนาการและพฤติกรรม ขึ้นแสดงเพลง Baby Shark บนเวทีร่วมกับเด็กๆ สร้างสีสัน ความสนุกสนานให้กับผู้ร่วมงานทุกคนโดยนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ พร้อมภริยา มอบรางวัลให้เด็กๆ ที่ขึ้นแสดงบนเวที และแจกไอศกรีมให้กับเด็กทุกคนด้วย พร้อมนำขนม ไอศกรีม มอบให้กับเด็กและผู้ปกครองที่พักรักษาตัวที่หอผู้ป่วยเด็กด้วย

ขณะที่หน่วยกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลตำรวจ จัดหลากหลายกิจกรรม อาทิ แจกของรางวัล เล่นเกม จับฉลาก และกิจกรรมสันทนาการ ที่ให้ความสนุกสนานกับเด็กและผู้ปกครอง บรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น ทุกคนมีรอยยิ้มแห่งความสุขกับการจัดงานวันเด็กปีนี้ นอกจากความสนุกสนานแล้ว ยังมีกิจกรรมที่ให้ความรู้ อาทิ ซุ้มโภชนาการ ให้ความรู้เกี่ยวกับอาหารที่เหมาะสมกับวัยของเด็กๆ , ซุ้มทันตกรรมให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพฟันการแปรงฟันอย่างถูกวิธี , ซุ้มนมแม่ ให้ความรู้เรื่องการให้นมบุตรในแต่ละช่วงวัย ให้คำปรึกษาปัญหาเกี่ยวกับการให้นมบุตร , ซุ้มประเมินพัฒนาการ ให้ความรู้เรื่องพัฒนาการเด็กในแต่ละวัยอย่างเหมาะสมหากเด็กมีพัฒนาการปกติ จะฝึกให้เด็กอ่านหนังสือ เขียนหนังสือ หากผิดปกติ อาจจะต้องพบแพทย์

เพื่อแนะนำขั้นตอนการเสริมสร้างพัฒนาการให้กับผู้ปกครอง ซึ่งมีการแนะนำผ่านกล้อง ระบบ LINE OFFICIAL ที่บ้าน ใช้เวลาเพียง 1 เดือนแล้วให้เด็กกลับมาทดสอบใหม่อีกครั้งจนกว่าจะผ่านเกณฑ์ อีกทั้งสอนการช่วยชีวิตเบื้องต้นกรณีอาหารติดคอเด็ก รวมไปถึงสนทนาให้ความรู้ในหัวข้อ "กุมารแพทย์ไขปัญหา" และมีการเล่านิทานเกร็ดความรู้ โดยนักศึกษาพยาบาลด้วย

‘จุลพงศ์’ แนะ ‘ธปท.’ ไล่จี้!! ‘ธ.พาณิชย์’ ขึ้นดอกเบี้ยเงินฝาก ลองลดกำไรลงบ้าง อาจกระตุ้น ปชช. กลับมาออมได้

(11 ม.ค.67) ที่รัฐสภา นายจุลพงศ์ อยู่เกษ สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวถึง กรณีการวิพากษ์วิจารณ์ส่วนต่างของดอกเบี้ยเงินฝากกับดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ ว่า ตามที่รัฐบาลอ้างว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ควรลดลงเพราะเงินเฟ้อของไทยอยู่ในระดับต่ำนั้น อันที่จริงแล้วเงินเฟ้อของไทยถูกบิดเบือน ไม่ได้สะท้อนสภาพที่เป็นจริง เพราะรัฐบาลทั้งที่ผ่านมาและรัฐบาลชุดปัจจุบันได้แทรกแซงราคาพลังงานและราคาค่าไฟฟ้า ทำให้ดูเหมือนเงินเฟ้อของไทยต่ำ รวมถึงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2.50 เปอร์เซ็นต์ ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศนั้น ยังต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ที่ประเทศมาเลเซีย อยู่ที่ 3 เปอร์เซ็นต์ ประเทศเวียดนาม 4 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐอยู่ที่ 5.35 เปอร์เซ็นต์

นายจุลพงศ์ กล่าวว่า การที่รัฐบาลเรียกร้องให้ธนาคารแห่งประเทศไทยลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงโดยหวังว่าดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารจะลดลงนั้น จะทำให้เกิดปัญหาเงินทุนไหลออกไปประเทศอื่นที่มีผลตอบแทนสูงกว่า อาจจะทำให้ค่าเงินบาทอ่อนลงจนไม่มีเสถียรภาพ ซึ่งหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทยคือการรักษาเสถียรภาพค่าเงินบาท

“ตนมองว่าหากไม่มีการใช้นโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ธนาคารแห่งประเทศไทยอาจจะสามารถลดดอกเบี้ยนโยบายลงได้ แต่การที่เศรษฐกิจไทยยังไม่ดี ประกอบกับการที่รัฐบาลมีนโยบายดังกล่าว การลดดอกเบี้ยนโยบายลงจะเป็นการกดดันค่าเงินบาท ปีที่แล้วเงินทุนจากต่างประเทศไหลออกจากประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ผู้นำเข้าสินค้าไทยในต่างประเทศจะหยุดซื้อสินค้าจากไทยเพื่อหวังว่าค่าเงินบาทของไทยจะอ่อนลงไปอีก ก็จะเกิดปัญหาการส่งออกตามมา”

นายจุลพงศ์ กล่าวว่า ตนเห็นด้วยกับนักการเงินบางท่านที่ออกมาให้ความเห็นว่าดอกเบี้ยที่ควรจะเปลี่ยนแปลงนั้น ไม่ใช่ดอกเบี้ยเงินกู้ แต่ควรจะเปลี่ยนแปลงโดยการให้ธนาคารพาณิชย์ขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากมากกว่า เพราะดอกเบี้ยเงินฝากแทบจะไม่ขยับขึ้นเลยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อัตราดอกเบี้ยเงินฝากลบด้วยอัตราเงินเฟ้อติดลบมายาวนาน หากอัตราดอกเบี้ยเงินฝากต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อ

“การขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากอาจจะทำให้กำไรของธนาคารลดลง แต่ในสภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ ธนาคารพาณิชย์ควรลดส่วนต่างของดอกเบี้ยเงินกู้กับดอกเบี้ยเงินฝากลง อย่าเอาแต่กำไรอย่างเดียวเพราะตามรายงานข่าวในขณะนี้ รายได้ที่เพิ่มขึ้นของธนาคารพาณิชย์จากส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยในไตรมาสที่สามของปี 2566 เทียบกับไตรมาสที่สามของปี 2565 ถึงเกือบ 20 เปอร์เซ็นต์” นายจุลพงศ์ กล่าว

นายจุลพงศ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ธนาคารแห่งประเทศไทยควรกดดันให้ธนาคารพาณิชย์ขึ้นดอกเบี้ยเงินฝาก เพื่อเป็นแรงจูงใจให้ประชาชนกลับมาเก็บออมเงินมากขึ้น แทนที่จะใช้เงินก่อนเก็บเงินเช่นทุกวันนี้

กองทัพอากาศขอเชิญร่วมงานวันเด็กแห่งชาติ กองทัพอากาศ ประจำปี 2567 

กองทัพอากาศ ขอเชิญร่วมกิจกรรมงานวันเด็กแห่งชาติ กองทัพอากาศ ประจำปี 2567 โดยส่วนกลางที่ตั้งดอนเมืองจัด ณ ฝูงบิน 601 กองบิน 6 พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศและการบินแห่งชาติ สนามบินเล็กกองทัพอากาศ (ทุ่งสีกัน) สำหรับต่างจังหวัดจัด ณ โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช (สระบุรี) โรงเรียนการบิน กำแพงแสน และกองบินต่างๆ 
ทั่วประเทศ ในวันเสาร์ที่ 13 มกราคม 2567 ระหว่างเวลา 08.00 - 15.00 น. โดยที่ตั้งดอนเมืองมีการจัดกิจกรรมที่น่าสนใจ ดังนี้

• การแสดงภาคการบิน (AIR SHOW) ของเครื่องบินแบบต่าง ๆ ได้แก่ การบินผ่านสนามบิน และการบินผ่านปล่อยควันสี 
• การตั้งแสดงยุทโธปกรณ์ และการตั้งแสดงอากาศยาน จำนวน 12 แบบ ได้แก่ T-50, F-16 A/B, AU-23A, EC-725, F-5 E/F, Alpha Jet, CT/4E, A-340, DA-42, T-6C, C-130H และ Gripen เป็นต้น
• กิจกรรมบนเวที ได้แก่ การแสดงดนตรีของวงดุริยางค์ทหารอากาศและแขกรับเชิญ การเดินแบบโดยนักเรียนนายเรืออากาศและนักเรียนพยาบาลทหารอากาศ การแสดงของศิลปิน Girl Group BERRY BERRY การเล่นเกมส์แจกของรางวัล เป็นต้น
• กิจกรรมอื่น ๆ ได้แก่ การออกบูธนิทรรศการของหน่วยงานต่าง ๆ การแสดงของสุนัขทหาร การแสดง Fancy Drill การแสดงกระบี่กระบอง การแสดง Drum Zeed การแสดงรถเกราะ (1 Condor, V-150) เป็นต้น

ทั้งนี้ กองทัพอากาศ ได้จัดรถโดยสารปรับอากาศ จากกรมขนส่งทหารอากาศ อำนวยความสะดวก รับ-ส่งผู้ร่วมงานจากจุดจอดรถ ไปยังบริเวณงานฯ สำหรับผู้ที่เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว สามารถจอดรถได้ 4 จุด ดังนี้
- จุดจอดรถ อุทยานการบินกองทัพอากาศ รองรับได้ประมาณ 400 คัน
- จุดจอดรถ หอประชุมกานตรัตน์ รองรับได้ประมาณ 50 คัน
- จุดจอดรถ หอประชุมกองทัพอากาศ (ทองใหญ่) รองรับได้ประมาณ 300 คัน
- จุดจอดรถบริเวณโรงเรียนจ่าอากาศ รองรับได้ประมาณ 500 คัน

โดยสามารถรับชมการถ่ายทอดสดการจัดกิจกรรมงานวันเด็กแห่งชาติของกองทัพอากาศ ประจำปี 2567 ได้ที่ www.rtaf.live และเฟซบุ๊ก “กองทัพอากาศไทย Royal Thai Air Force” ระหว่างเวลา 08.00 - 10.00 น. ทั้งนี้ ขอความร่วมมือไม่บินโดรนเหนือบริเวณพื้นที่จัดงาน รวมถึงไม่นำลูกโป่ง อาวุธและสิ่งของมีคม วัตถุไวไฟ และสัตว์เลี้ยง เข้ามายังบริเวณงาน 

นอกจากนี้ ในวันที่ 13 มกราคม ของทุกปี ยังเป็นวันการบินแห่งชาติ ซึ่งในปีนี้ ตรงกับกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ กองทัพอากาศ จึงจัดให้มีพิธีวางพานพุ่ม เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ บริเวณโรงเก็บอากาศยาน ฝูงบิน 601 กองบิน 6  โดยมี พลอากาศเอก พันธ์ภักดี  พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นประธานในพิธีวันการบินแห่งชาตินั้น เริ่มต้นมาจากปีพุทธศักราช 2454 โดยจอมพล สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ กรมหลวงพิศณุโลกประชานารถ ได้นำความขึ้นกราบบังคมทูลต่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) ถึงความจำเป็นและประโยชน์ของเครื่องบินที่ต้องมีไว้เพื่อป้องกันประเทศ จึงมีคำสั่งให้นายทหาร 3 นาย (บุพการีทหารอากาศ) คือ พลอากาศโท พระยาเฉลิมอากาศ, นาวาอากาศเอก พระยาเวหาสยานศิลปสิทธิ์ และนาวาอากาศเอก พระยาทะยานพิฆาต (ยศสุดท้าย) ไปเรียนวิชาการบินที่ประเทศฝรั่งเศส ในระหว่างที่นายทหารทั้ง 3 นาย เดินทางไปศึกษาที่ประเทศฝรั่งเศสนั้น ทางการก็ได้สั่งซื้อเครื่องบินเป็นครั้งแรกจากฝรั่งเศส มาจำนวน 7 เครื่อง ประกอบด้วย เครื่องบินแบบเบรเกต์ปีก 2 ชั้น จำนวน 3 เครื่อง และเครื่องบินแบบนิเออปอร์ตปีกชั้นเดียว จำนวน 4 เครื่อง เข้าไว้ประจำการ 

นอกจากนี้ เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์) ยังได้อุทิศทรัพย์ส่วนตัว ซื้อเครื่องบินแบบเบรเกต์ให้ราชการไว้ใช้งานอีก 1 เครื่อง ด้วยเห็นว่าเครื่องบินสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในทางราชการได้ ทำให้ในยุคแรกประเทศไทยมีเครื่องบินประจำการ จำนวน 8 เครื่อง หลังสำเร็จการศึกษานายทหาร นักบินทั้ง 3 นาย ได้กลับมาทดลองบินครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2456 (ค.ศ.1913) ซึ่งนายทหารนักบินทั้ง 3 นาย สามารถขับเครื่องบินและร่อนลงจอดได้เป็นอย่างดี ท่ามกลางเสียงชื่นชมของผู้ชมจำนวนมากที่มารอชม เนื่องจากในสมัยนั้น การขึ้นบินบนท้องฟ้าถือเป็นเรื่องที่เสี่ยงอันตรายอย่างยิ่ง ผู้ที่สามารถขับเครื่องบินได้จึงได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้กล้าหาญ และถือเป็นเกียรติประวัติที่ควรได้รับการสรรเสริญ

ในเวลาต่อมา พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงสถาปนาแผนกการบินขึ้นในกระทรวงกลาโหม เป็นผลให้กิจการการบินไทยได้รับการพัฒนาขึ้นมาตามลำดับ จากนั้นในวันที่ 13 มกราคม 2456 (ค.ศ.1914 ห้วงนั้นประเทศไทยถือเอาวันที่  1 เมษายน เป็นวันขึ้นศักราชใหม่) พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จทอดพระเนตรการบิน โดยมีนายทหารนักบินขึ้นแสดงการบินถวายและโปรยกระดาษถวายพระพรชัยมงคล ในการนี้ มีเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ ข้าราชการ และประชาชนมาร่วมเฝ้าเสด็จและชมการแสดงการบินในครั้งนี้ด้วย กระทั่ง ในวันที่ 31 พฤษภาคม 2537 คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติ เห็นชอบกำหนดให้วันที่ 13 มกราคมของทุกปี เป็นวันการบินแห่งชาติ โดยเริ่มตั้งแต่พุทธศักราช 2538 เป็นต้นมา เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และในวันนี้ได้มีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนได้ทราบถึงประวัติความเป็นมาของการบินไทย และคุณประโยชน์ของกิจการการบิน อีกด้วย

ศาลสั่งจำคุก ‘นัฏฐพล’ 6 เดือน ไม่รอลงอาญา ฐานหมิ่นเบื้องสูง ผ่านโพสต์ ‘สมศักดิ์ เจียมฯ’

(11 ม.ค. 67) ทวิตเตอร์ TLHR / ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ศาลอาญาอ่านคำพิพากษาคดี ‘นัฏฐพล’ ประชาชนวัย 27 ปี เหตุคอมเมนต์ใต้โพสต์ ‘Somsak Jeamteerasakul’

ศาลพิพากษาจำคุก 3 ปี แต่เนื่องจากให้การรับสารภาพ จึงลดโทษกึ่งหนึ่ง เหลือ 1 ปี 6 เดือน ไม่รอลงอาญา ขณะนี้อยู่ระหว่างยื่นประกันตัว

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 2566 เวลา 10.00 น. ที่ศาลอาญา พนักงานอัยการ สํานักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ‘นัฏฐพล’ (สงวนนามสกุล) ประชาชนวัย 27 ปี ในข้อหา ‘หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ’ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(3) จากการโพสต์แสดงความเห็นใต้โพสต์ในเฟซบุ๊กของ ‘Somsak Jeamteerasakul’ เกี่ยวกับข่าวลืออาการป่วยของรัชกาลที่ 10 เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม 2564

คดีนี้ นัฏฐพลเข้ารับทราบข้อกล่าวหาเมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2564 ที่กองกํากับการ 3 กองบังคับการปราบปรามความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) โดยมี พ.ต.ต.กิตติพงศ์ อมฤตโอฬาร สว.กก.3 บก.ปอท. เป็นผู้กล่าวหา โดยนัฏฐพลได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และได้รับการปล่อยตัวโดยไม่ถูกควบคุมตัวไว้

สำหรับคำฟ้อง พรทิพย์ บุตรภักดิ์ พนักงานอัยการ สํานักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 9 บรรยายฟ้องโดยสรุปว่า เมื่อวันที่ 12 พ.ค. 2564 เวลากลางวัน ได้มีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊ก ‘Somsak Jeamteerasakul’ โพสต์ข้อความว่า “มีข่าวลือว่าวชิราลงกรณ์ป่วยอยู่ศิริราช มีใครยืนยันข่าวนี้ได้บ้าง?” ซึ่งตั้งค่าเปิดเป็นสาธารณะ ต่อมาวันเดียวกันภายหลังจากนั้นได้มีผู้ใช้งานเฟซบุ๊กอีกรายโพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็น (Comment) ตอบกลับไปใต้โพสต์ดังกล่าว พร้อมแนบภาพการ์ตูน

อัยการ ระบุว่า ประชาชนหรือบุคคลทั่วไปที่พบเห็นข้อความที่จําเลยได้โพสต์ดังกล่าว เข้าใจได้ว่า รัชกาลที่ 10 ถูกสาปแช่งให้ตายอย่างทรมาน เป็นการจองเวร อาฆาต อันเป็นการดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายรัชกาลที่ 10 ทําให้ประชาชนหรือบุคคลทั่วไปเกิดความเข้าใจผิดต่อรัชกาลที่ 10 และสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ จนอาจนํามาซึ่งความเกลียดชังหรือความแตกแยกในสังคม และเป็นข้อมูลที่บิดเบือนต่อสถาบันฯ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร

ภายหลังศาลรับฟ้อง และทนายยื่นประกัน เวลา 16.50 น. ศาลอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวนัฏฐพลระหว่างพิจารณาคดี ด้วยวงเงินประกัน 90,000 บาท ซึ่งใช้เงินจากกองทุนราษฎรประสงค์ ศาลยังกำหนดเงื่อนไขห้ามกระทำความผิดในลักษณะเดียวกันกับที่ถูกฟ้องซ้ำอีก พร้อมทั้งนัดประชุมคดีเพื่อสอบคำให้การและตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 27 พ.ย. 2566 เวลา 09.00 น. ที่่ผ่านมา

ร้อยเอ็ด…มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ มอบผ้าห่มกันหนาวพระราชทาน 3,000 ผืน แก่ราษฎรในจังหวัดร้อยเอ็ด

วันนี้ (11 มกราคม 2567) เวลา 10.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประจำจังหวัดร้อยเอ็ด เชิญผ้าห่มกันหนาวพระราชทาน จำนวน 3,000 และสิ่งของพระราชทาน จำนวน 3,000 ชุด ไปมอบแก่ราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยหนาว ในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด 

โดยมี นายนพดล จอมเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วย นายอำเภอหนองฮี หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ บ้านม่วงหวาน หมู่ที่ 12 ตำบลเด่นราษฎร์ อำเภอหนองฮี จังหวัดร้อยเอ็ด

โดยในวันนี้ได้มอบผ้าห่มกันหนาวพระราชทาน จำนวน 8 อำเภอ ประกอบไปด้วย อำเภอหนองฮีอำเภอโพนทราย อำเภออาจสามารถ อำเภอเสลภูมิ อำเภอโพนทอง อำเภอหนองพอก อำเภอโพธิ์ชัย และอำเภอเมยวดี เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่ ซึ่งเป็นขัวกำลังใจและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยหนาว ต่อไป

รองโจ๊ก กำชับตำรวจตระเวนชายแดนเดินตามปณิธานสมเด็จย่า ร่วมสืบสาน รักษา ต่อยอด เสริมสร้างคุณภาพชีวิตด้านการศึกษาให้เด็กชายขอบ และร่วมเฝ้าระวังปัญหายาเสพติด หลังระดับน้ำในแม่น้ำโขงลดลง จนเดินข้ามได้ในหลายจุด หวั่นเป็นจุดลำเลียงยาเสพติด

11 มกราคม 2567 13.00 น.พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญ และประชุมรับฟังสรุปสถานการณ์ด้านความมั่นคงและชายแดน ในความรับผิดชอบของ กก.ตชด.24 ค่ายเสนีย์รณยุทธ จังหวัดอุดรธานี พร้อมมอบสิ่งของ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ ที่ปฎิบัติงานมาตลอดทั้งปี ซึ่งการตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญเป็นไปตามแนวทางที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้มอบหมายให้ดำเนินการในฐานะรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่กำกับดูแลงานด้านความมั่นคง

รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้กล่าวชมเชยการทำงานของตำรวจตระเวนชายแดน ซึ่งเสียสละรับผิดชอบพื้นที่ที่ไร้ความเจริญ และยังทำหน้าที่ปกป้องประชาชน ตามแนวชายแดนทั้งในแง่ของปัญหายาเสพติดและการศึกษาของเยาวชนชายขอบ เพื่อให้เด็กเด็กเติบโตอย่างมีคุณภาพ เป็นการสืบสาน รักษา และ ต่อยอด พระปณิธานของสมเด็จย่า ที่ทรงมุ่งมั่นให้เกิดความเท่าเทียมในสังคม 

สำหรับค่าย ตชด. แห่งนี้ รับผิดชอบ 4 หน่วยด้วยกัน ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี บึงกาฬ เลย และหนองคาย โดยกำชับให้เฝ้าระวังปัญหาการลักลอบนำเข้ายาเสพติด เนื่องจากมีพื้นที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ที่พบการลักลอบการนำเข้ายาเสพติดผ่านลำน้ำโขงเข้ามา เข้าในพื้นที่ชั้นใน ซึ่งมีทั้งแบบรายย่อยและรายใหญ่ ล้วนเป็นภัย ต่อชีวิตและทรัพย์สิน ยิ่งในช่วงนี้ ลำน้ำโขงลดระดับลงอย่างมาก ทำให้หลายช่วง  เดินข้ามไปมา ได้สะดวก จึงต้องเฝ้าระวังให้เข้มข้น

นอกจากนี้ยังขอให้เพิ่มความเข้มงวดในเรื่องของการค้ามนุษย์และค้าประเวณี ซึ่งเป็นหน้างานหลัก ของศูนย์พิทักษ์เด็กสตรี ครอบครัว ปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคการประมง โดยที่ผ่านมาพบว่า ยังมีปัญหาลักลอบเข้ามาค้าประเวณีและถ่ายคลิปอนาจาร เพื่อนำเข้าสู่โซเชียล ยากต่อการกู้ภาพเด็กๆ กลับออกมา จึงกลายเป็นบาดแผลเมื่อเด็กโตเป็นผู้ใหญ่ ดังนั้นการให้การศึกษาสำหรับเยาวชนและการป้องปราม จึงเป็นงานคู่ขนานที่ขาดส่วนใดส่วนหนึ่งไม่ได้ และ หากความเข้มงวดเหล่านี้ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ปัญหาที่เกิดขึ้นจะค่อยๆ ลดลงและหมดไปในที่สุด

อีกทั้งได้กล่าวชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนทุกนายที่ร่วมกันสนับสนุนกำลังพลในการดูแลประชาชนช่วงเดินทางกลับภูมิลำเนาในเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมาจนทำให้งานด้านการจราจรและอุบัติเหตุลดลงเป็นที่น่าพอใจและขอให้เดินตามแนวทางนี้ต่อไปเพื่อรับมือกับอีกหลายเทศกาลหยุดยาวที่จะเริ่มขึ้นหลังจากนี้เป็นต้นไปโดยเฉพาะเทศกาลสงกรานต์


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top