Wednesday, 25 June 2025
NewsFeed

‘JETRO’ ชื่นชม ‘ไทย’ ให้ความสำคัญด้านความร่วมมือทาง ศก. พร้อมยกระดับห่วงโซ่อุตสาหกรรม ‘EV ไทย-ญี่ปุ่น’ อย่างยั่งยืน

เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 66 นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ผู้แทนการค้าไทย เผยผลหารือกับ นายคุโรดะ จุน (Mr.KURODA Jun) ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น ณ กรุงเทพฯ (Japan External Trade Organization : JETRO Bangkok) ว่า ประธานเจโทรชื่นชมนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลไทยที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน ระหว่างไทยกับญี่ปุ่น ซึ่งมีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการยกระดับห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายให้ความสำคัญ

พร้อมกันนี้ ได้ขอบคุณในความร่วมมือที่ใกล้ชิดกับหน่วยงานภาครัฐ เพื่อส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างกัน ทั้งบริษัทข้ามชาติและบริษัทวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ซึ่งจะเป็นรากฐานสำหรับการต่อยอดความร่วมมือด้านเศรษฐกิจอื่นๆ โดยประธานเจโทรได้ให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับนโยบายการสนับสนุนการลงทุนของไทยเพื่อให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่บริษัท Startup และวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม

นางนฤมล กล่าวว่า ไทยให้ความสำคัญกับญี่ปุ่นในฐานะมิตรประเทศสำคัญขนาดใหญ่ร่วมกับจีนและสหรัฐอเมริกา และเป็นประเทศที่มีความร่วมมือด้านเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดกับไทยมาอย่างยาวนาน โดยหวังว่าจะสามารถกระชับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

โดยได้ชี้แจงถึงนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น การส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของภูมิภาคอาเซียน (ASEAN EV hub) กองทุนสีเขียว (Green Fund)

นอกจากนี้ รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลไทยได้มีความร่วมมือที่ใกล้ชิดกับ OECD โดยสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้มีมีการดำเนินโครงการ Country PRogramme ระยะที่ 2 (พ.ศ.2566-2568) ร่วมกับ OECD ที่จะช่วยส่งเสริมศักยภาพ และการพัฒนาขัดความสามารถด้านการแข่งขันของไทย พร้อมทั้งสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุมและยั่งยืน ตลอดจนส่งเสริมหลักธรรมาภิบาลและความโปร่งใส และการปฏิรูปกฎระเบียบภายในประเทศให้ดียิ่งขึ้น

'อ.แพท' เตือน!! 'พิธา' โกหกทางคณิตศาสตร์ ตัวเลขมักจะไม่ลงตัว ชี้!! เป็นตัวจริง ม.Top 10 ของโลก ไม่ต้องไปแต่งเติมอะไรเพิ่ม

(22 พ.ย. 66) แพท แสงธรรม นักวิชาการอิสระ ด้าน Communication Facilitator และอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญในอีกหลายแขนง ได้โพสต์เกี่ยวกับเรื่องการศึกษาของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ โดยระบุว่า…

SELF SLANDER ป้ายสีตัวเอง

วันนี้ทั้งโซเชียล มีแต่เรื่องพิทาคิโอ และการเล่าเรื่องราวที่ไม่ตรงกัน สะท้อนบุคลิกและสภาพจิตไปถึงไหนต่อไหน

ใครจะแต่งเรื่องอะไรต้องไม่โกหกทางคณิตศาสตร์เพราะตัวเลขมันจะไม่ลงตัว

การไปเรียนที่ University of Texas at Austin ก็เป็นเรื่องที่น่าภูมิใจ เพราะ ranking ของ UT at Austin ก็ดีงามตามสถิติ ใน World Ranking อยู่ที่ช่วงอันดับ 50-70 ของมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลก เฉพาะในอเมริกา มีมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยที่ให้วุฒิปริญญาเกือบ 4,000 แห่ง Top 10% คือ อยู่ใน 400 อันดับแรก Top 1% คือใน 40 อันดับแรก UT at Austin จึงถือว่าอยู่ใน Top 2% ทำให้ UT at Austin เป็นมหาวิทยาลัยของรัฐที่มีความเป็นเลิศและมีศักดิ์ศรีสูงที่สุดแห่งหนึ่ง

Harvard และ MIT มีแคมพัสอยู่ใกล้กัน ห่างกันไม่ถึง 3 กม. ขับรถ 5 นาที เดิน ครึ่งชั่วโมง และมีโปรแกรมที่ช่วยให้ นศ. คว้าปริญญาได้จากทั้งสองแห่ง เรียกว่า joint degree program วิชา course work ที่ซ้ำกัน ก็เก็บหน่วยกิตมาจากที่ใดที่หนึ่ง ดังนั้น แทนที่จะต้องใช้เวลา 5 ปีเพื่อให้ได้ปริญญาบัตร 2 ใบ ก็อาจใช้เวลาเพียง 3 ปี

อย่างไร ก็ต้องเรียนหนัก เพราะมหาวิทยาลัยมีอันดับ สอนกันหนัก ต้องรักษาอันดับและมาตรฐานกันอย่างเหนียวแน่น ทั้งอาจารย์และนักศึกษาจริงจังกันอย่างเขี้ยวฝังร่าง ใครที่เรียนในสถาบันที่อยู่ใน อันดับ Top 100 ก็ถือว่าคุณภาพสูงอยู่แล้ว

ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องแต่งแต้มเรื่องราวให้กับประวัติการศึกษาอะไร ให้ผิดไปจากความจริง

ในกลุ่มวิชาการ นอกจากมองดูการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโดยมาตรฐานรวม อย่างของ QS ที่นิยมอ้างถึงกันเป็นเกณฑ์แล้ว ผู้รู้จริง ยังเจาะลึก เลือกมหาวิทยาลัย ที่มีความเป็นเลิศ เฉพาะทางอีก ตัวอย่างเช่น นอกเหนือจาก กลุ่ม Ivy League แล้ว มหาวิทยาลัยที่เด่นด้านสื่อสารมวลชน ยังมี University of Florida, University of North Carolina at Chapel Hill และ University of Michigan Ann Arbor เป็นต้น 

ส่วนทางด้านประวัติศาสตร์ นอกเหนือจากไอวี่ ลีก ก็ยังมี Duke, Vandebilt, Panoma College, Rice, Northwestern, Davidson College และอีกมากมาย

ทางด้านรัฐศาสตร์ นอกจากกลุ่มไอวี่ ก็ยังมี University of Wisconsin, Ohio State University, UT at Austin, New York University, Emory University etc.

ใครที่มุ่งมั่นในแต่ละสาขา จะพิจารณาความเป็นเลิศทางวิชาการเฉพาะสาขา ของแต่ละมหาวิทยาลัยด้วย ไม่ได้สมัครเรียนโดยดูจาก Ranking รวมๆ เป็นสำคัญ ไม่เน้นแบรนด์ใหญ่หรือความโด่งดังเป็นหลัก

มหาวิทยาลัยหลายแห่งในอเมริกา คนไทยไม่คุ้นเคย ดูแต่ Ranking รวม ๆ ที่มีตัวแปรหลายอย่าง ทั้งจำนวนนักศึกษานานาชาติ ความสมบูรณ์ทางด้านเทคโนโลยี ประมาณงานวิชาการที่ตีพิมพ์ของคณาจารย์ ฯลฯ ส่วนวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยที่เป็นเลิศ เฉพาะทาง ว่าด้วยความเจนชัดทางวิชาการไปเลย

ผู้ที่เรียนจบจากสถาบันที่มีชื่อเสียง รู้อยู่แก่ใจ เพื่อนคนไทยจะรู้จักหรือไม่ ไม่สำคัญ คนที่จบมาย่อมเป็นจอมยุทธ ที่ไม่ต้องประกาศหรือดัดแปลงข้อมูลใด ๆ

ภาพประกอบเหมือนไม่เกี่ยวกับเนื้อหา เพราะเป็นเรื่องของมหาวิทยาลัยไทย แต่ก็เกี่ยวแหละ จำนวนมหาวิทยาลัยทั่วโลกมีกว่า 25,000 แห่ง การจัดอันดับของ QS คัดไว้เฉพาะ 1,500 แห่ง 

ผู้ที่เรียนจบจากมหาวิทยาลัยที่อยู่ใน Top 10% ของโลกก็โอเคแล้ว ไม่ต้องไปแต่งเติม Storytelling ให้เสียเวลา ไม่เกิดประโยชน์

สรุปสถานการณ์ตลาดน้ำมันสัปดาห์ที่ 13 - 17 พ.ย. 66  จับตาปัจจัย ‘บวก-ลบ’ พร้อมแนวโน้ม 20 - 24 พ.ย. 66

ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงจากนักลงทุนเทขายทำกำไรและความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างสหรัฐฯ และจีนผ่อนคลาย 

-ความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างสหรัฐฯ และจีนผ่อนคลาย ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 พ.ย. 66 ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นาย Joe Biden และประธานาธิบดีจีน นาย Xi Jinping ได้ตกลงที่จะฟื้นฟูการเจรจาทางทหารระดับสูงตลอดจนการหารือระหว่างรัฐบาลเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) ในการประชุม Asia-Pacific Economic Cooperation (APEC) ที่ซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐฯ

-สำนักสถิติแห่งชาติของจีน (National Bureau of Statistics: NBS) รายงานโรงกลั่นนำน้ำมันดิบเข้ากลั่น (Throughput) ในเดือน ต.ค. 66 ลดลงจากเดือนก่อน  2.8% MoM อยู่ที่ 15.12 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากอุปสงค์ในภาคอุตสาหกรรมชะลอตัวและค่าการกลั่นลดลง ส่วนปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในประเทศลดลงจากเดือนก่อน 0.6% อยู่ที่ 4.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน

-กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ซื้อน้ำมันดิบปริมาณรวม 1.2 ล้านบาร์เรล เพื่อเติมคลังสำรองปิโตรเลียมเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Petroleum Reserve: SPR) โดยได้บรรลุข้อตกลงกับบริษัท 2 ราย ด้วยราคาเฉลี่ย 77.57 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และจะออกประมูลซื้อเพิ่มเติมอย่างน้อยจนถึงเดือน พ.ค. 67

-รายงานฉบับเดือน พ.ย. 66 ของ OPEC คาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกในปี 2566 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน  2.46 ล้านบาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ 102.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน (เพิ่มขึ้น 50,000 บาร์เรลต่อวัน จากคาดการณ์ครั้งก่อน) และในปี 2567 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2.25 ล้านบาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ 104.36 ล้านบาร์เรลต่อวัน (เพิ่มขึ้น 50,000 บาร์เรลต่อวัน จากคาดการณ์ครั้งก่อน)

-คาดการณ์ราคา ICE Brent สัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ $80-85/BBL ติดตามบันทึกการประชุม FOMC ของธนาคารกลางสหรัฐฯ วันที่ 20 พ.ย. 66 ประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา นาย Jerome Powell ส่งสัญญาณว่า Fed ไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และจับตาการประชุม Joint Ministerial Monitoring Committee (JMMC) ของกลุ่ม OPEC และพันธมิตร (OPEC+) ในวันที่ 26 พ.ย. 66 โดย ตลาดคาดการณ์ซาอุดีอาระเบียจะขยายเวลาอาสาลดการผลิตน้ำมันดิบเพิ่มเติม 1 MMBD จากเดิมสิ้นสุดเดือน ธ.ค. 66 (เริ่มต้นเดือน ก.ค. 66) ไปจนถึงอย่างน้อยไตรมาส 1/67 หรืออาจขยายถึงครึ่งแรกของปี 2567 และมองว่า OPEC+ จะมีมติคงนโยบายลดการผลิตน้ำมันดิบรวม 3.66 MMBD ไปจนถึงสิ้นปี 2567

‘ธนกร’ หนุนรัฐฯ แก้หนี้ ‘ใน-นอก’ ระบบครบวงจร  กวาดล้างมาเฟียเงินกู้ ทวงหนี้โหด ฟอกเงินบาป

(22 พ.ย. 66) นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า ตนขอสนับสนุนที่นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลเตรียมแถลงประกาศแก้หนี้สินให้กับประชาชน ทั้งหนี้ในระบบและหนี้นอกระบบในวันที่ 12 ธันวาคมนี้ เพราะเรื่องหนี้สิน เป็นเรื่องสำคัญมากกับชีวิตความเป็นอยู่โดยตรงของพี่น้องประชาชน ขอให้นายกฯ และรัฐบาลทำอย่างจริงจังแบบครบวงจร พร้อมยกให้เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อแก้ปัญหาให้ตรงจุดและต่อเนื่องจนเห็นผลเป็นรูปธรรม

การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ที่ส่วนใหญ่มาจากเงินที่อยู่นอกระบบสถาบันการเงิน ต้องมีกฎหมายควบคุมการคิดดอกเบี้ยให้เป็นไปตามกฎหมายกำหนด หากการให้กู้ยืมเงินนอกระบบต้องไม่คิดดอกเบี้ยเกินกว่าร้อยละ 15 ต่อปี หากคิดดอกเบี้ยโหดสูงกว่านั้นถือว่าผิดกฎหมาย 

นอกจากนั้น รัฐบาล โดยฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ควรลงไปตรวจสอบผู้ที่เป็นเจ้าหนี้ที่มักจะปล่อยเงินกู้จำนวนมาก ว่ามีแหล่งเงินมาจากไหนมาจากเงินสีเทา ธุรกิจผิดกฎหมาย การพนัน และยาเสพติดด้วยหรือไม่ เป็นการฟอกเงินผ่านการให้กู้ยืมอีกทอดหนึ่งหรือไม่

“ผมจึงขอให้รัฐบาลใช้โอกาสนี้ ดำเนินการกวาดล้างมาเฟียผู้มีอิทธิพลในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ที่อาจใช้ช่องทางนี้นำเงินสีเทาผิดกฎหมาย มาฟอกผ่านการปล่อยกู้ให้แก่ประชาชน และมีทีมทวงหนี้โหดไปทำร้ายร่างกายลูกหนี้ที่ผิดนัด จนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตตามที่เป็นข่าวมาจำนวนมากแล้ว” นายธนกร กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า การแก้ปัญหาหนี้สินจะช่วยประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในระยะยาวได้อย่างไร นายธนกร กล่าวว่า คนเป็นหนี้ก็ต้องใช้ แต่จะทำอย่างไรหากไม่มีรายได้ที่เพียงพอใช้หนี้ สุดท้ายแล้วก็อาจจะกลับมาเป็นหนี้ใหม่อีก ตนจึงมองว่ารัฐบาลควรส่งเสริมให้มีการฝึกทักษะอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ให้ประชาชน ต้องทำควบคู่ไปกับการช่วยปลดลดหนี้สิน จะเป็นทางออกช่วยให้พี่น้องประชาชนสามารถยืนด้วยตัวเองอย่างมั่นคง และจะเป็นการแก้ปัญหาปากท้องให้ประชาชนแบบยั่งยืน

“พรรครวมไทยสร้างชาติผ่าน 4 กระทรวง ก็เดินหน้าโครงการฝึกทักษะอาชีพ เพิ่มรายได้สร้างเศรษฐกิจในชุมชนต่อเนื่อง พร้อมทั้งให้ความรู้ ความเข้าใจวินัยการใช้เงิน เพื่อลดปัญหาหนี้ครัวเรือน หากรัฐบาลมีนโยบายแก้หนี้ทั้งในและนอกระบบออกมาช่วยประชาชนเพิ่มเติมด้วย ก็เชื่อว่า จะเป็นการทั้งสร้างรายได้ให้ประชาชนมีเพียงพอ ควบคู่ การแก้หนี้สิน จะทำให้มีความมั่นคงในชีวิต เกิดความเข้มแข็งยั่งยืนได้ในอนาคต” นายธนกร กล่าว

‘มท.’ จ่อห้ามออกใบอนุญาตพกปืนแบบ ป.12 เป็นเวลา 1 ปี หวังลดปัญหาอาชญากรรม พิทักษ์ความสงบของบ้านเมือง

เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 66 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ปัจจุบันได้ปรากฎปัญหาเด็ก เยาวชน และบุคคลที่ประสงค์ร้ายต่อสังคม สามารถเข้าถึงอาวุธปืนหรือสิ่งเทียมอาวุธปืนที่ดัดแปลงเป็นอาวุธ เช่น แบลงค์กัน (Blank Gun) ได้โดยง่าย รวมถึงมีการพกอาวุธปืนทั้งที่ได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย อาวุธปืนที่ผิดกฎหมาย ตลอดจนสิ่งเทียมอาวุธปืนดังกล่าว ไปในที่สาธารณะและใช้ก่ออาชญากรรม ส่งผลอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของประชาชนผู้บริสุทธิ์ ส่งผลกระทบด้านความสงบเรียบร้อยของสังคม เศรษฐกิจ การท่องเที่ยวและภาพลักษณ์ของประเทศตามที่ปรากฏตามสื่อสารมวลชนในหลายกรณี เพื่อเป็นการรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน และความปลอดภัยสาธารณะ ลดอาชญากรรม และควบคุมสถานการณ์บ้านเมืองให้เป็นปกติ

กระทรวงมหาดไทยจึงอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้ไฟ และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 ยกร่างคำสั่งนายกฯ และ รมว.มหาดไทย เรื่องห้ามออกใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว (แบบ ป.12) เป็นการชั่วคราว โดยมีสาระสำคัญเป็นการห้ามออกใบอนุญาตแบบ ป.12 เป็นเวลา 1 ปี

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ล่าสุดนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ได้ลงนามในคำสั่งฯ แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างนำเสนอให้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.คลังลงนาม ก่อนเผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษา และมีผลบังคับในวันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป

อย่างไรก็ตาม คำสั่งฯ จะไม่มีผลบังคับกับเจ้าหน้าที่ หรือบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้พกอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ ซึ่งอยู่ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ อาทิ เจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน เช่น ทหารตำรวจ ข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้างของหน่วยงานราชการหรือรัฐวิสาหกิจ ประชาชนซึ่งอยู่ระหว่างการช่วยเหลือราชการ และมีเหตุจำเป็นต้องมีและใช้อาวุธตามกฎหมาย

‘รัฐบาล’ ชวนประชาชนเที่ยวงาน ‘OTOP City 2023’ กระตุ้นเศรษฐกิจ ชม-ชิม-ชอป สินค้าฝีมือคนไทย 16-24 ธค.นี้ ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี

(22 พ.ย. 66) นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กรมการพัฒนาขุมชน กระทรวงมหาดไทย กำหนดจัดงาน OTOP City 2023 เพื่อจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ และสร้างรายได้ให้กับชุมชน รวมถึงเพื่อประชาสัมพันธ์การดำเนินงานโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ตลอดจนเพื่อสร้างการเรียนรู้แนวทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP ให้สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

นายคารม กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทย กำหนดเป้าหมายในการจัดงาน คือ ผู้ผลิตผู้ประกอบการ OTOP พี่ผ่านการคัดสรรสุดยอดหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ปีพ.ศ 2565 ระดับ 3-5 ดาวจาก 76 จังหวัดและกรุงเทพมหานคร และผู้ประกอบการ OTOP ชวนชิม เข้าร่วมจำหน่ายไม่น้อยกว่า 2,000 กลุ่ม/ราย และสามารถสร้างงาน สร้างรายได้ไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท สำหรับรูปแบบการจัดงานในครั้งนี้ จะมีการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว การจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย การจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP ระดับ 3-5 ดาว และอาหารชวนชิม กิจกรรมส่งเสริมการขายและการบริการ กิจกรรม Highlight ได้แก่ ศิลปิน OTOP นำเสนอผลงานที่มีอัตลักษณ์บ่งบอกถึงภูมิปัญญาอันทรงคุณค่า ผ้าไทยใส่ให้สนุก ตลาดกลางเส้นไหมและเส้นใยธรรมชาติ ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี OTOP Trader และหมู่บ้านคนรักษ์ช้าง

นายคารม กล่าวว่า รัฐบาลขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมสนับสนุนสินค้าจากผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ชม ชิม ช้อป และร่วมภาคภูมิใจไปกับสุดยอดสินค้า OTOP ทั่วไทย ที่สุดแห่งภูมิปัญญา ตั้งแต่ระหว่างวันที่ 16 - 24 ธันวาคม 2566 ที่อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยสร้างโอกาส สร้างอาชีพและสร้างรายได้ให้กับผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศไทย มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน

 

‘นายกฯ เศรษฐา’ คุย ‘ผบ.ทสส’ กำจัดยางเถื่อน หวัง!! สางปัญหาลุล่วง ราคายางโดด กก.ละ 5 บ.

(22 พ.ย. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหายางเถื่อนว่า วานนี้ (21 พ.ย.) ตนได้เข้าประชุมพรรคเพื่อไทย (พท.) ซึ่งประธาน สส.พรรคก็ได้ฝากเรื่องนี้ไว้แล้ว และ สส.หลายคนก็สะท้อนว่า ทุกวันนี้ไม่ได้มีแต่เรื่องหมูเถื่อน ยังมียางเถื่อนเกิดขึ้นด้วย

"ซึ่งผมยอมรับว่านี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินคำนี้ แต่ภารกิจเยอะก็พยายามรับฟัง จึงถามว่า เกิดขึ้นที่ไหน เขาก็บอกว่าทุกที่เต็มไปหมด ผมก็เลยบอกว่าให้ขยายความหน่อยได้ไหม ลงรายละเอียดนิดนึงได้หรือไม่ เพราะชายแดนไทยกับพม่ามีตั้งพันกว่ากิโลเมตร ผมจะได้ไปเจาะปัญหาได้อย่างตรงจุด ซึ่งเมื่อคืนและช่วงเช้าได้ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมก็พบว่า ในสมัยก่อนที่ จ.ตาก มีปัญหาเรื่องยางเถื่อนเยอะ แต่พอมีการสู้รบกันแถวนั้น ก็ย้ายมาที่สังขละบุรี และ จ.ระนอง จึงได้สั่งการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่า จะเป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และได้ประสานผ่านทาง พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) โดยโทรศัพท์คุยกันเมื่อตอน 7 โมง แล้วท่านก็โทรกลับมารายงานว่า ยอมรับว่ามีจริง ผมจึงสั่งการไปแล้ว ก็น่าจะดีขึ้น"

นายกฯ กล่าวว่า ทั้งนี้ สส.พรรคเพื่อไทย และ สส.อาวุโสของพรรคหลายคนมีความชำนาญการเรื่องยาง บอกว่าถ้าเรากำจัดตรงนี้ได้ ยางจะขึ้นมากิโลกรัมละ 5 บาท ซึ่งได้ยินแบบนี้ก็ใจฟู จึงอยากตั้งใจทำงาน และจะเร่งทำงานให้ และยังกล่าวอีกว่า เมื่อสักครู่มีคนบอกว่าของเถื่อนเยอะ ตนก็รับฟัง ถ้ามีตรงไหนก็บอกมาได้ ชี้เบาะแสมาให้ดี ๆ และจะเข้าไปบริหารจัดการให้

ปตท. รับโล่ ‘รางวัลชมเชยองค์กรโปร่งใส’ ครั้งที่ 11 รางวัลแห่งเกียรติยศด้านธรรมาภิบาล-ความโปร่งใส

เมื่อไม่นานมานี้ นายชฎิล ชวนะลิขิกร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารศักยภาพองค์กรและธรรมาภิบาล บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นผู้แทน ปตท. รับมอบโล่ ‘รางวัลชมเชยองค์กรโปร่งใส’ ครั้งที่ 11 (NACC Integrity Awards) จากพลตำรวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) 

โดยในปีนี้ ปตท. ได้รับรางวัลองค์กรโปร่งใสต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ประกอบด้วย รางวัลองค์กรโปร่งใส จำนวน 2 ครั้ง และรางวัลชมเชยองค์กรโปร่งใส จำนวน 3 ครั้ง สะท้อนการดำเนินธุรกิจภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีด้วยความเป็นธรรม โปร่งใส และตรวจสอบได้ ตามมาตรฐานสากล สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินธุรกิจขององค์กรที่รับผิดชอบต่อสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ยึดมั่นในหลักสิทธิมนุษยชน และผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน รวมถึงส่งเสริมการปฏิบัติงานอย่างมีจริยธรรมในองค์กร

สมาคมแม่บ้านตำรวจร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เชิญชวนบุตรหลานข้าราชการตำรวจประกวดแต่งเรียงความในหัวข้อ “พ่อของฉัน”

เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ ประจำปี 2566 ส่งเสริมความรักความผูกพันในครอบครัว

วันนี้ (22 พ.ย.66) คุณนิภาพรรณ สุขวิมล นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ เปิดเผยว่า สมาคมแม่บ้านตำรวจมีนโยบายมุ่งเน้นการดำเนินกิจกรรมสาธารณประโยชน์เพื่อธำรงไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และดำเนินกิจกรรมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตสร้างขวัญกำลังใจแก่ข้าราชการตำรวจและครอบครัว รวมถึงสนับสนุนภารกิจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเป็นการเทิดทูนพระคุณของพ่อและยกย่องบทบาทของพ่อที่มีต่อครอบครัวและสังคม โอกาสนี้ สมาคมแม่บ้านตำรวจจึงร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดกิจกรรมประกวดแต่งเรียงความ “พ่อของฉัน” เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2566 ขึ้น เพื่อส่งเสริมความรักความผูกพันในครอบครัว และสร้างขวัญกำลังใจให้กับข้าราชการตำรวจและครอบครัวอย่างต่อเนื่อง

โดยการประกวดครั้งนี้ ขอเชิญบุตรหลานข้าราชการตำรวจที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอุดมศึกษาระดับปริญญาตรี ร่วมส่งผลงานการแต่งเรียงความเพื่อชิงรางวัล ประกอบด้วย รางวัลชนะเลิศ จำนวน 10,000 บาท 1 รางวัล , รองชนะเลิศอันดับ 1 จำนวน 7,000 บาท 1 รางวัล , รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 จำนวน 5,000 บาท 2 รางวัล  , รางวัลชมเชย จำนวน 1,500 บาท 2 รางวัล โดยรางวัลชนะเลิศของแต่ละกองบัญชาการจะนำไปเผยแพร่ในแอปพลิเคชันแทนใจ  

ผู้สนใจร่วมโครงการสามารถส่งผลงานทาง e-mail : [email protected] ภายในวันที่ 27 พฤศจิกายนนี้ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์สมาคมแม่บ้านตำรวจ policewives.police.go.th

ตร. แนะนำ 3 วิธีป้องกัน ภัยร้ายไฮซีซัน เพจโรงแรมปลอม หลอกขายที่พักราคาถูก

วันนี้ (22 พฤศจิกายน 2566) พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่อาจได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งในปัจจุบันมีพี่น้องประชาชนจำนวนมากที่ได้รับความเสียหายจากการหลอกลวงบนโลกออนไลน์ โดยจากสถิติการรับแจ้งความออนไลน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565 จนถึงปัจจุบัน พบว่าจำนวนคดีในรูปแบบของการหลอกขายสินค้าและบริการออนไลน์ มีจำนวนกว่า 140,000 คดี มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 2,000 ล้านบาท

ปัจจุบัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่าในช่วงเทศกาลที่มีอัตราการท่องเที่ยวสูง หรือที่เรียกว่า ไฮซีซัน คนร้ายมักจะฉวยโอกาสนี้ในการสร้างเพจโรงแรมปลอม ลงโพสต์โฆษณาโปรโมชันที่พักราคาถูกกว่าปกติหลอกล่อให้เหยื่อสนใจ เมื่อเหยื่อหลงเชื่อติดต่อกับเพจปลอมเพื่อทำการจองที่พักและโอนเงินให้กับคนร้ายแล้ว คนร้ายก็จะทำทีเป็นส่งใบยืนยันการจองให้จนเหยื่อตายใจ ซึ่งกว่าเหยื่อจะรู้ตัวเวลาก็ผ่านไปนานพอสมควรแล้ว เพราะเหยื่อจะรู้ตัวก็ตอนที่เหยื่อเดินทางไปที่โรงแรม แล้วโรงแรมแจ้งว่าไม่ได้มีการจองที่พักจริงแต่อย่างใด

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอเตือนพี่น้องประชาชนให้ระมัดระวังในการเลือกจองที่พักผ่านเพจต่าง ๆ โดยขอให้ดำเนินการดังนี้
1. ตรวจสอบให้ดีก่อนว่าเพจดังกล่าวเป็นเพจของทางโรงแรมหรือที่พักดังกล่าวจริงหรือไม่ โดยดูจากข้อมูลความโปร่งใสของเพจ จำนวนผู้ติดตาม และหากเพจดังกล่าวมีเครื่องหมายติ๊กถูกสีน้ำเงิน (Blue Badge) ก็จะมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น
2. ควรเลือกจองที่พักผ่านแอปพลิเคชัน หรือเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ
3. อย่ารีบตัดสินใจจองที่พักที่มีราคาถูกเกินจริง เพราะอาจเป็นวิธีการที่คนร้ายใช้ในการหลอกลวงเหยื่อ
ในส่วนของผู้ประกอบการโรงแรมและที่พักต่าง ๆ ควรมีการประชาสัมพันธ์ช่องทางในการจองที่พักให้ชัดเจน เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกค้าหรือผู้ที่จะเข้ามาใช้บริการต้องตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ และตรวจสอบว่ามีคนร้ายสร้างเพจหรือเว็บไซต์ปลอมโดยอ้างเป็นโรงแรมหรือที่พักของท่านหรือไม่ หากพบให้รายงาน (Report) ไปยังผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ที่พบ และแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที

สุดท้ายนี้ หากพี่น้องประชาชนได้รับความเสียหายจากการหลอกขายสินค้าและบริการออนไลน์ หรือคดีอาญากรรมทางเทคโนโลยีอื่น ๆ สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่ศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ บนเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com หรือสายด่วน 1441 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top