Friday, 20 June 2025
NewsFeed

‘คนวงใน’ จวก!! ‘พิธา’ จัดแฟนมีต ฉบับหลงตัวเองกลางนิวยอร์ก ทำตัวเป็นเซเลป ขอคัดเลือกคนเข้าพบผ่านการส่ง CV

(27 ต.ค. 66) เพจเฟซบุ๊ก ‘Street Hero V3’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “ยังไงๆ” พร้อมรูปภาพที่เป็นคำกล่าวอ้างในฐานะคนทำงาน และโหวตเตอร์ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล โดยระบุว่า…

คุณพิธาคะ วิธีการทำงานกับชุมชนของคุณพังนะคะ 

เข้าใจว่ามานิวยอร์กอยากพบปะคนทำงานประสบความสำเร็จใน ตปท. แต่ทีมไม่ทำการบ้านมาเลย เล่นหว่านอินไวท์ไปทั่วสารทิศ แถมยังบอกให้คนส่ง CV ไปให้ตัวเองเลือกว่าจะคุยกะใคร เพ้อเจ้อมาก แอพโพรชแบบนี้มันมีฐานคิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลาง เป็นเซเลป ใครๆ ก็ต้องอยากเข้าพบ ดิฉันติดตรงนี้มาก นี่ไม่ใช่ปัญหาลอจิสติก แต่เป็นปัญหาปรัชญาการทำงาน ไม่เล็กสำหรับดิฉัน

เอาใหม่นะคะ วันหลังอยากคุยกับใครให้นัด ไม่ใช่ให้เขาออดิชั่นเข้าพบ แสดงให้เห็นว่าจริงๆ แล้วไม่ได้รู้ว่าจะคุยเรื่องอะไร ไม่มีอเจนด้า เป็นงานออปติก แล้วนัดล่วงหน้านะคะ ไม่ใช่มาบอกภายในวีคเดียวกัน คนประสบความสำเร็จ เขามีงานมีการทำ ไม่ได้ว่างไปเจอได้ตามสะดวกคุณเสมอ

ทำงานชุมชนต้องให้เกียรติคนในชุมชนที่คุณทำงานกะเขาด้วย วางตัวให้อยู่ในระนาบเดียวกันให้ได้ก่อนแล้วค่อยมาคุยกันค่ะ

ผิดหวังในฐานะคนทำงานและในฐานะโหวตเต้อค่ะ

‘นพ.สมรส’ แชร์อุทาหรณ์ฝังเข็มผิดวิธี ‘จนปอดรั่ว’ หมอแนะ!! เกิดจาก ประมาท-กายวิภาคไม่แม่น

เมื่อวานนี้ (26 ต.ค.66) นพ.สมรส พงศ์ละไม แพทย์ประจำศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้โพสต์เฟซบุ๊ก “Somros MD Phonglamai ” เตือนเกี่ยวกับการฝังเข็ม ระบุว่า...

คนไข้ปวดคอบ่าไหล่ ไปฝังเข็ม วันต่อมาหายใจแล้วเจ็บหน้าอกทุกครั้ง เจ็บแปล๊บๆ x-ray เจอปอดรั่ว pneumothorax นิวโมธอแรกซ์ ! ถ้าขึ้นเครื่องบินอาจตายได้ 

1. การฝังเข็มหรือการลงเข็ม เป็นการรักษาอาการปวดกล้ามเนื้อ ออฟฟิศซินโดรมที่ดี ประหยัด มีประสิทธิภาพถ้าใช้อย่างถูกต้องเหมาะสม ไม่ประมาท เข้าใจการดำเนินโรคอย่างถูกต้อง

2. แต่ช่วงหลังๆเจอปัญหาปอดรั่วบ่อยขึ้นมากๆ คนไข้มักมีอาการไอหลังฝังเข็ม
สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดคือ 'ประมาท' 'กายวิภาคไม่แม่น' 
อย่าฝังลึกเกินจำเป็น มากกว่า 3.34 cm to 5.35 cm.  +/- ผอมอ้วน
อย่าปักจำนวนเข็มมากเกินจำเป็น
อย่าให้คนไข้ขยับตัวโดยไม่จำเป็น ให้คนไข้หายใจด้วยท้อง เบาๆ ฝังตอนหายใจออกให้ปอดแฟ่บ
ทิศทางเข้ากล้ามเนื้อ ไม่ใช่เข้าปอด พระเจ้าอยู่ในรายละเอียด

3. สำหรับแพทย์จีน อย่าจำแค่ว่าจุดนี้ฝังได้กี่ชุ่น กี่ ซม. เพราะเคสนี้กล้ามเนื้อก็หนา ไม่ได้ผอม ไม่มีโรคปอดใดๆ เป็นเรื่องของความเชี่ยวชาญชำนาญล้วนๆ มีอาจารย์หลายท่านสอนน้องๆว่าปักลึกได้เลย ไม่ต้องกลัว อันนี้อันตรายอย่างยิ่ง !

4. สำหรับคุณหมอแผนปัจจุบัน ตอนฉีดยาชาเข้า Trigger point ก็ยิ่งต้องระวังนะครับ ปลายเข็ม syringe ใหญ่กว่าเข็มฝังเข็มมาก ปอดรั่วจะใหญ่กว่านี้เยอะ

5. สำหรับคนที่ไม่ใช่แพทย์แผนปัจจุบันหรือแพทย์จีน “ไม่ควรฝังเข็มในสิ่งที่เราไม่เชี่ยวชาญ” นะครับ เห็นน้องๆวิชาชีพอื่นๆแอบทำกันหลายคลินิก ถ้าทำแล้วคนไข้ปอดรั่วหนัก พิการ เสียชีวิตขึ้นมา จะโดนทั้งอาญา แพ่ง วิชาชีพ และวินัยได้นะครับ

6. ฝากอาจารย์ในมหาวิทยาลัยทั้งแพทย์แผนปัจจุบันและแพทย์จีนเข้มข้นกับการสอนน้องๆกันหน่อยนะครับ ให้แม่นอนาโตมี่หน่อย รู้ทิศทางและตำแหน่งปอดดีๆ อย่าย่ามใจประมาทเกินไป ถ้าประมาทก็พิการหรือตายได้

7. ทุกครั้งที่เราจะฝังเข็ม/ลงเข็ม ต้อง Informed Consent เสมอว่าจะมีโอกาสเกิดปอดรั่วได้, และติดตามอาการคนไข้สม่ำเสมอ, ถ้ามีปัญหารีบ take action ดูแลคนไข้เต็มที่

8. อย่ามั่นใจในตัวเองเกินไป ไม่มีอะไร 100% ใน medicine ต่อให้ฝังมา 10 ปีก็เกิดได้ถ้าทุกอย่างซวยจริงๆ

9. ถ้าปอดรั่วขนาดเล็ก 1-2 เซนติเมตร มักปิดเองใน 1-2 สัปดาห์ (ดังนั้นจำนวนผู้ป่วยที่แท้จริงจึงมากกว่าที่รายงานจากโรงพยาบาล เพราะคนไข้หายได้เอง) ติดตามอาการเหนื่อย หายใจเจ็บ ออกซิเจนปลายนิ้ว ตลอด  อาจพิจารณา x-ray ซ้ำ 24-48 ชั่วโมง
ถ้าขนาดใหญ่ > 2 เซนติเมตร อาจต้องใส่ท่อระบาย ขึ้นกับหลายปัจจัยและคุณหมอเจ้าของไข้

10. ถ้าสมมติคนไข้รายนี้ ขึ้นเครื่องบินก่อนที่ปอดรั่วหาย จะเกิดอะไรขึ้น ? 
ขณะที่ขึ้นบินแรงดันในเครื่องจะต่ำ ทำให้ปอดรั่วลามมากขึ้นได้ ในกรณีที่แย่ที่สุดคือเสียชีวิต ดังนั้นอย่าเสี่ยง งดบินไปเลยอย่างน้อย 2 สัปดาห์หรือยืนยันแน่ชัดว่ารูรั่วปิดสนิทแล้ว 
การฝังเข็มไม่ได้น่ากลัว สิ่งที่น่ากลัวคือความประมาท 

เพราะคนที่ต้องมารักษาปอดรั่ว มักไม่ใช่คนทำให้ปอดรั่วนะครับ
นพ.สมรส พงศ์ละไม
แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูและกายภาพบำบัด แพทย์ฝังเข็ม 
#DrSomros #Acupuncture #Pneumothorax #ฝังเข็ม #ปอดรั่ว
ถ้าอาจารย์ท่านใดอยากแชร์ประสบการณ์ หรือมี update guideline ก็ยินดีเลยนะครับ 

คนไข้เป็นหมอด้วยเคสนี้
ขอบคุณคนไข้ที่ให้ภาพมาเป็นวิทยาทาน คงจะกลัวฝังเข็มไปอีกนาน ขอบคุณอาจารย์เอกที่ช่วยคอนเฟิร์มฟิล์มครับ 

‘นักแสดงสิงคโปร์ชื่อดัง’ ทุ่มเงินแสน จ้างนางรำชุดใหญ่ 52 คน แก้บน ‘พระพรหมเอราวัณ’ หลังพรที่เคยขอไว้ 3 ปีก่อน สมปรารถนา

เมื่อไม่นานมานี้ สื่อต่างประเทศ รายงานว่า ‘นายริชาร์ด โลว์’ หรือ ‘หลิว เฉียน อี’ นักแสดงสิงคโปร์ชื่อดัง ได้มาแก้บนที่ ‘ศาลท้าวมหาพรหม’ หรือ ‘พระพรหมเอราวัณ’ บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ถนนราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร โดยจ้างนางรำ รำถวายกว่า 52 คน

โดย สื่อต่างประเทศ รายงานว่า นักแสดงวัย 71 ปีนี้ ทุ่มเงินไปกว่า 104,000 บาท ไปกับการแก้บน เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (24 ตุลาคม) เพื่อแสดงความขอบคุณสำหรับความปรารถนา 2 ข้อ ที่เขาเคยขอไว้เมื่อ 3 ปีก่อน

ริชาร์ด ได้เชิญนางรำ 52 คน มารำในพิธี โดยจ้างนางรำคนละ 2,000 บาท และเสริมว่า นี่เป็นครั้งแรกที่เขาจัดพิธีที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ และเมื่อถามว่า ทำไมเขาถึงเลือกเลขนี้ เขาบอกว่าเลขนำโชคของเขาคือ 26

“เมื่อความปรารถนาแรกเป็นจริง ก็คิดว่าจะจ้างนางรำ 26 คน มาร่วมพิธี แต่แล้วความปรารถนาอีกข้อก็สมหวัง ก็เลยตั้งใจเพิ่มอีก 26 คน” และยังบอกด้วยว่า 52 ก็ยังหมายถึงปีเกิดเขาด้วย

เมื่อถามถึงสิ่งที่เขาอธิษฐานั้น เขาลังเลไปอยู่สักครู่ ก่อนเปิดเผยว่า เขาไม่รู้ว่าจะใช้ชีวิตอย่างไรในอดีต ด้วยอายุของเขา เขาก็หวังให้สถานการณ์ทางการเงินของเขามีความก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็นเพราะความปรารถนาที่เขาทำไว้ สิ่งต่างๆ ก็พลิกผัน ริชาร์ดบอกว่า เส้นทางอาชีพของเขาราบรื่นขึ้น และสถานการณ์ทางการเงินเขาก็ดีขึ้นมา เขารู้สึกขอบคุณมากๆ สำหรับการเปลี่ยนแปลง

“ผมอายุ 70 กว่าแล้ว การมีชีวิตที่มั่นคงในช่วงปีหลังๆ คือความฝันของคนรุ่นใหญ่ทุกคน” ริชาร์ดบอก และกล่าวว่า “แน่นอนสิ่งสำคัญที่สุดคือ สุขภาพ คุณจะทำงานได้ก็ต่อเมื่อมีสุขภาพที่ดี”

อย่างไรก็ตาม ความตั้งใจเดิมที่จะมาขอบคุณพระพรหม ถูกระงับไปเพราะโควิด 19 ก่อนที่เขาจะได้โอกาสบินมาไทยเมื่อจันทร์ที่ผ่านมา พร้อมกับภรรยา และน้องชาย เพื่อเตรียมพิธีที่จัดขึ้นในเวลา 07.00 น. ของวันอังคาร ที่เขาคุกเข่าตลอด 45 นาทีของพิธี

‘ธนกร’ ยัน!! ‘ลุงตู่’ ไม่ยุ่งการเมือง ไม่ข้องแวะรัฐบาลเศรษฐา วอน!! หยุดพาดพิง-ด้อยค่า ขอให้นึกถึงผลงาน 9 ปีที่ผ่านมา

(27 ต.ค. 66) นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่หลายคนในบางพรรคการเมือง ยังพูดพาดพิง ไปถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้ประกาศวางมือทางการเมืองและลาออก จากการเป็นประธานยุทธศาสตร์ของพรรครวมไทยสร้างชาติไปนานแล้ว ขอทุกคนทุกฝ่าย อย่าพูดพาดพิง ด้อยค่า หรือ ดึงเข้ามาเกี่ยวโยงการเมือง

เมื่อถามว่า แต่ก็ยังมีคนเชื่อว่าพล.อ.ประยุทธ์ อยู่เบื้องหลังคอยแนะนำรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี อยู่ นายธนกร กล่าวว่า ไม่เป็นความจริงเลย นายเศรษฐา มีคณะที่ปรึกษากว่า 10 คน ทำงานมีความเป็นตัวของตัวเอง ที่จะบริหารประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้อยู่เบื้องหลังรัฐบาลอย่างที่ถูกพาดพิงกล่าวหา และมั่นใจว่าประชาชนเห็นผลงานตลอด 9 ปีที่ผ่านมาของพล.อ.ประยุทธ์ ทั้งเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน รถไฟฟ้า การขนส่งคมนาคม ความมั่นคงด้านพลังงาน การวางรากฐานการเงินการคลัง พัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ อีอีซี วางโครงการแลนด์บริดจ์ สร้างระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ ระบบบัตรสวัสดิการแห่งรัฐช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง และผู้มีรายได้น้อยมาตลอด ฯลฯ ทั้งหมด เป็นการเดินตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีเพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับประเทศไทย 

“การที่พล.อ.ประยุทธ์ ทุ่มเททำงานหนักมาตลอดกว่า 10 ปีตั้งแต่สมัยเป็นผู้บัญชาการทหารบก ต่อเนื่องมาเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ได้มีเวลาไปพักผ่อนเที่ยวต่างประเทศกับครอบครัวเลย ในช่วงที่วางมือทางการเมืองก็ถือเป็นโอกาสดีได้ใช้เวลาพักผ่อนกับครอบครัวบ้าง เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว ส่วนฝ่ายการเมืองก็ว่ากันไป แต่ขอให้ใช้เวทีสภาผู้แทนราษฎรอย่างสร้างสรรค์เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นที่ตั้งจะดีกว่า ผมไม่เข้าใจจริง ๆ คนประเภทไหนที่เห็นคนดีมีความสุขแล้วเป็นทุกข์ หรืออาจจะเป็นคนบกพร่องทางสติปัญญาป่วยทางจิตหรือไม่” นายธนกรกล่าว

‘ผู้แทนการค้าไทย’ หารือความร่วมมือฯ ทูต ‘กลุ่มประเทศเบเนลักซ์’ หวังเจาะตลาดยุโรปเพิ่ม ผลักดันเอฟทีเอ ‘ไทย-อียู’ สำเร็จใน 2 ปี

(27 ต.ค. 66) นางนลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย เปิดเผยถึงการหารือกับเอกอัครราชทูตกลุ่มประเทศเบเนลักซ์ประจำประเทศไทย นางซีบีย์ เดอ การ์ตีเย ดีฟว์ เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเบลเยียม, นายแพทริก เฮมเมอร์ เอกอัครราชทูตราชรัฐลักเซมเบิร์ก และนายเร็มโก โยฮันเนิส ฟัน ไวน์คาร์เดิน เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลนโยบายและแนวทางยกระดับความร่วมมือระหว่างประเทศไทย กับสหภาพยุโรปและกลุ่มประเทศเบเนลักซ์ โดยเฉพาะเรื่องการจัดทำความตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) ไทย-สหภาพยุโรป ที่เป็นคู่ค้าอันดับ 4 ของไทย รองจากจีน สหรัฐฯ และญี่ปุ่น ไม่รวมอาเซียน โดยการค้ารวมมีมูลค่า 41,038.10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็น 6.95% ของการค้าไทยในตลาดโลก

นางนลินี กล่าวว่า การเจรจาความตกลงฯ ไทย-สหภาพยุโรป หยุดชะงักมาตั้งแต่ปี 2557 ต่อมาเดือน มี.ค. 2566 ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันประกาศเปิดการเจรจาอย่างเป็นทางการ โดยวางแผนว่าจะจัดการประชุมปีละ 3 ครั้ง ตั้งเป้าเบื้องต้นเพื่อหาข้อสรุปการเจรจาภายใน 2 ปี โดยเริ่มเจรจารอบแรก ณ กรุงบรัสเซลล์ เมื่อวันที่ 18 - 22 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยการเจรจาเป็นไปด้วยดี และเราหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนการเจรจา เพื่อให้สามารถสรุปผลและบังคับใช้ได้โดยเร็ว ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการสร้างโอกาสทางการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป รวมถึงประเทศเบลเยียม เนเธอร์แลนด์ และลักเซมเบิร์ก ด้วย และไทยมีกำหนดเป็นเจ้าภาพจัดการเจรจารอบต่อไปในเดือน ม.ค. 2567

นางนลินี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำว่า รัฐบาลมีแนวทางสร้างรายได้โดยใช้การทูตเศรษฐกิจเชิงรุก เพื่อเปิดประตูการค้าสู่ตลาดใหม่ หนึ่งในนั้นคือ กลุ่มสหภาพยุโรป และมุ่งเน้นพัฒนาเศรษฐกิจใหม่ เช่น พัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล อุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง อุตสาหกรรมสีเขียว และสานต่อนโยบาย Carbon Neutrality ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายข้อตกลงสีเขียว (EU Green Deal) ของสหภาพยุโรป ที่ต้องการสร้างสังคมที่เป็นธรรมบนพื้นฐานเศรษฐกิจที่ทันสมัย ใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และตั้งเป้าลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 55% ภายในปี 2030 และลดเป็นศูนย์ภายในปี 2050

ทั้งนี้ ไทยคาดหวังว่าจะมีการพูดคุยและร่วมมือเชิงลึกเกี่ยวกับมาตรการ การรายงานข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของสินค้าแต่ละชนิด เพื่อลดภาระของผู้ประกอบการไทยในการส่งสินค้าออกไปยังสหภาพยุโรปต่อไป

‘ภูมิธรรม’ สอนมวย!! ‘ก้าวไกล’ การเมืองแบบใหม่ไม่ใช่ค้านทุกเรื่อง พร้อมลุยต่อ ‘เงินดิจิทัล’ ตามสโลแกน ‘คิดใหญ่ ทำเป็น’

(27 ต.ค. 66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะรักษาการรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีที่พรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้ถาม นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แต่นายเศรษฐา มอบให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม มาตอบกระทู้สดแทน จนทำให้พรรคก้าวไกลเกิดความไม่พอใจ ว่า ก็ถือว่าเป็นสิทธิที่พรรคก้าวไกลจะอภิปราย แต่เราได้เคยตกลงกันแล้วว่า เราจะทำงานการเมืองกันอย่างสร้างสรรค์ ตนเชื่อว่า นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล และ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล อภิปรายในสภาต้องใจเย็น และรับฟังปัญหาให้มากขึ้น บรรยากาศในการทำงานระหว่างรัฐบาล และ ฝ่ายค้าน ก็จะดีขึ้น

“แต่ก็ต้องยอมรับว่า นายกรัฐมนตรี จะมาตอบหรือไม่ก็ได้ หากมีภารกิจ ถ้ามีเวลาก็จะมาให้ทัน หากไม่มีอคติมากจนเกินไป เพราะบรรยากาศในสภา ไม่ใช่เรื่องของคน 2 ฝ่ายจะมาขัดแย้งกัน ไม่อยากให้จับผิดหรือใช้เวทีทางการเมือง ทั้งเวทีรัฐสภา หรือเวทีอื่นๆในการดิสเครดิต ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ เพราะรัฐบาลพร้อมจะทำงาน” นายภูมิธรรม กล่าว

นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ฝากถึงพรรคก้าวไกล ในวันที่ 10 พ.ย. จะมีการรับฟังความเห็นเรื่องรัฐธรรมนูญ จากพรรคก้าวไกล และหลายๆภาคส่วน รวมถึงกลุ่มวิชาชีพต่างๆ และภาคประชาสังคม ยืนยันเราไม่คิดจะค้าน ต่างฝ่ายต่างเป็นนักการเมือง อยากเห็นการเปลี่ยนแปลง เราควรทำการเมืองแบบใหม่ ไม่ใช่ฝ่ายค้าน และจะค้านทุกเรื่อง หรือเสาะหาจุดในการโจมตี อยากให้ประชาชนเห็นแล้วสบาย ไม่ใช่มีแต่ภาพการโจมตีทางการเมืองใส่กัน สิ่งใดที่มีปัญหา ก็ขอให้ช่วยท้วงติง ไม่ใช่ใช้ทุกโอกาสและเวลาในการดิสเครดิตใส่กัน มันไม่เป็นประโยชน์และไม่สร้างสรรค์

ส่วนกรณีที่พรรคก้าวไกลยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต่อที่ประชุมรัฐสภา เพราะไม่เชื่อใจ คณะกรรมการศึกษาการทำประชามติฯ ของรัฐบาล นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนเคยพูดหลายครั้งแล้วว่า การเมืองให้ดูที่ความเป็นจริง และใช้หลักการและเหตุผลที่ถูกต้องที่พยายามเดิน เราจะทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ โดยที่ไม่แตะหมวด 1 และ 2 แต่พรรคก้าวไกลเสนอแก้รัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ซึ่งทำให้เรารู้ว่า คนบางส่วนก็ยังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ถ้ายังดึงดันแบบนี้จะไปต่อไม่ได้ พรรคเพื่อไทย จะแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น แต่เราไม่อยากเห็นประชาธิปไตยแบบสุดขั้ว โดยไม่คำนึงถึงความเห็นต่าง และจะต้องคุยกันให้ตกผลึก และเคารพความเห็นที่แตกต่าง แต่ไม่จำเป็นต้องตามใจกัน เราก็แสดงจุดยืนเรา ท่านก็แสดงจุดยืนของท่าน แต่ทำอย่างไรให้สังคมส่วนใหญ่เกิดความเข้าใจ นี่จึงเป็นที่มาของการตั้งอนุกรรมการเข้ามาแก้ไขปัญหาเหล่า ขอร้องอย่าอคติต่อกัน เราจะทำให้ประเทศนี้ไปในทิศทางที่ดี

เมื่อถามว่าแฮชแท็ก #เพื่อไทยตระบัดสัตย์ ซึ่งคาดว่า น่าจะมาจากประเด็นกระแสข่าวอนุกรรมการดิจิทัลวอลเล็ต ที่อาจจะแบ่งหรือเพิ่มหลักเกณฑ์ผู้เข้าร่วมโครงการ ที่จากเดิมจะแจกทุกคน นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่เป็นไร เป็นเพียงความเห็น เรายอมรับความเห็นหลากหลาย มีทั้งคนเห็นด้วยและเห็นต่าง พรรคเพื่อไทยเผชิญสิ่งนี้มาโดยตลอด เรากำลังออกนอกกรอบ เหมือนที่เราเคยทำในโครงการ 30 บาท , กองทุนหมู่บ้าน และโครงการอื่นๆ แต่โครงการเหล่านั้น ก็มีวัตถุประสงค์ที่แตกต่าง เหมือนดิจิทัลวอลเล็ต ที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น ถ้ายังปล่อยก็จะเหมือน 9 ปีที่ผ่านมา แต่ทุกคำวิจารณ์ เรารับฟัง แต่ไม่คิดปรับปรุง แต่เราจะทำให้รอบคอบมากขึ้น

เมื่อถามต่อว่า สโลแกน “คิดใหญ่ ทำเป็น” ในช่วงเลือกตั้ง แต่พอเป็นรัฐบาล ดูเหมือนจะทำไม่ได้ เหมือนในช่วงที่หาเสียง จะกระทบต่อความเชื่อมั่นในการเลือกตั้งรอบหน้าหรือไม่ นายภูมิธรรม ยืนยันว่า เพื่อไทยคิดใหญ่ทำเป็น เราทำเรื่องใหญ่ เรื่องยาก ให้เป็นเรื่องที่ทำได้ และนี่คือด่านสำคัญ ที่พรรคเพื่อไทยจะต้องพิสูจน์ตัวเองให้ประชาชนมั่นใจ แต่ถ้าจะทำให้ 100% นั้นยาก

“ผลงานในอนาคต จะพิสูจน์ได้ว่า เพื่อไทย มีความสามารถ เราเดินทุกนโยบาย ในช่วงที่เป็นรัฐบาล 1-2 เดือนที่ผ่านมา อยากให้คนใช้วิจารณญาณให้กว้างขวาง และให้โอกาสเราในการทำงาน” นายภูมิธรรม กล่าว

ผบ.ตร. ออกคำสั่งแนวทางการดำเนินการตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ.2565 มีผลเมื่อ 25 ต.ค.66 ให้ตำรวจทั่วประเทศปฏิบัติตาม ให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมายทุกขั้นตอน ย้ำคำสั่งปรับเป็นพินัยให้คำนึงถึงความเหมาะสม

วันนี้ ( 27ต.ค.66 )พล.ต.ท. อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า “ตามที่มี พ.ร.บ.ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ.2565  โดยได้กำหนดให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียว เป็นความผิดทางพินัย โดยความผิดทางพินัยไม่ถือเป็นโทษทางปกครองหรือทางอาญา โดยมีวิธีการขั้นตอนในการแสวงหาข้อเท็จจริง รวบรวมพยานหลักฐาน การแจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงข้อเท็จจริงหรือแก้ข้อกล่าวหา ภายในระยะเวลาไม่น้อยกว่า 30 วัน หากผู้ถูกกล่าวหาไม่ชี้แจงหรือแก้ข้อกล่าวหาภายในระยะเวลาดังกล่าว เจ้าหน้าที่ของรัฐจะมีคำสั่งปรับเป็นพินัยให้ผู้ถูกกล่าวหาชำระค่าปรับภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง และไม่ให้บันทึกการกระทำความผิดทางพินัยไว้ในบันทึกประวัติอาชญากรรมฯ โดยมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่ 25 ต.ค.66 เป็นต้นไปนั้น

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์  สุขวิมล  ผบ.ตร. ได้สั่งตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษากฎหมาย และกำหนดแนวทางรองรับในการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ.2565 ซึ่งได้มีคำสั่ง ตร.ที่ 591/2566 ลงวันที่ 24 ต.ค.66 เรื่อง แนวทางการดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ.2565 โดยในส่วนของ ตร. มีกฎหมายที่รับผิดชอบโดยตรง 3 ฉบับ ได้แก่ พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 และ พ.ร.บ.ธุรกิจรักษาความปลอดภัย พ.ศ.2558 ส่วนกฎหมายอื่นๆ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจอาจจะเกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้ (26 ต.ค.66) รัฐมนตรีผู้รักษาการตามกระทรวงต่าง ๆ ได้ออกประกาศกำหนดให้ ตร. เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ จำนวน 4 ฉบับแล้ว ได้แก่ พ.ร.บ.กำหนดค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงและสะพาน พ.ศ. 2497, พ.ร.บ.ทางหลวง พ.ศ. 2535, พ.ร.บ.เพิ่มอำนาจตำรวจในการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดทางน้ำ พ.ศ. 2496, พ.ร.บ.สถานบริการ พ.ศ. 2509 

โดยในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้กำหนดแนวทาง ดังนี้
1. กรณีเมื่อมีเหตุอันควรสงสัยหรือมีการกล่าวหาหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐพบเห็นว่าความผิดทางพินัยแล้วนั้น ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐดำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐาน แจ้งข้อกล่าวหา และต้องให้โอกาสผู้ถูกกล่าวหาได้ชี้แจงหรือแก้ข้อกล่าวหานั้น หากผู้ถูกกล่าวหาไม่ชี้แจงหรือแก้ข้อกล่าวหาภายในระยะเวลา เจ้าหน้าที่ของรัฐจะดำเนินการออกคำสั่งปรับเป็นพินัยแจ้งไปยังผู้ถูกกล่าวหา และหากผู้ถูกกล่าวหาไม่ชำระค่าปรับ ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐรวบรวมหลักฐาน ทำสำนวนส่งอัยการฟ้องต่อศาล ทั้งนี้ ผู้ถูกกล่าวหาสามารถชี้แจงหรือแก้ข้อกล่าวหาผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ได้

และในการกำหนดค่าปรับทางพินัย ให้คำนึงถึงความเหมาะสม ความร้ายแรงของผลกระทบที่เกิดขึ้นในสังคม และสถานภาพทางเศรษฐกิจ ความรู้ผิดชอบ อายุ หรือสิ่งอื่นทั้งปวงของผู้กระทำผิดด้วย ทั้งนี้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง

ในกรณีที่ตำรวจ พบการกระทำความผิดทางพินัยตามกฎหมายอื่นๆ ให้มีหน้าที่แจ้งให้หน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบกฎหมายนั้นๆ เพื่อพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป เว้นแต่เป็นความผิดทางพินัยที่ตำรวจเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ก็ให้ดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการปรับเป็นพินัยต่อไป

2. แนวทางการออกใบสั่งจราจรและการดำเนินคดีปรับเป็นพินัย สำหรับ พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522  มีสาระสำคัญ กล่าวคือ เจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีอำนาจปรับเป็นพินัยตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 คือ เจ้าพนักงานจราจร ที่ดำรงตำแหน่งสารวัตรหรือตำแหน่งเทียบเท่าขึ้นไป นอกจากนี้ยังได้มีประกาศกำหนดให้ ตร. เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตาม พ.ร.บ.ทางหลวง พ.ศ. 2535 เพิ่มเติมอีกด้วย 

- เจ้าหน้าที่ของรัฐ สามารถออกใบสั่งตามมาตรา 140 แห่ง พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ได้ทั้ง 3 รูปแบบ (ใบสั่งเจ้าพนักงานจราจรสำหรับให้กับผู้ขับขี่ ติด ผูก หรือแสดงไว้ที่รถ/ใบสั่งสำหรับส่งทางไปรษณีย์/ใบสั่งอิเล็กทรอนิกส์) โดยแนบคำแจ้งสิทธิตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565 ไปพร้อมใบสั่ง (สิทธิการขอผ่อนชำระ/สิทธิขอชำระค่าปรับต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือบริการสาธารณะ)
- ช่องทางการชำระค่าปรับจราจร สามารถชำระได้ 3 ช่องทางตามเดิม (ทางอิเล็กทรอนิกส์/ไปรษณีย์/ที่สถานีตำรวจ)
- ในกรณีที่พ้นระยะเวลาชำระค่าปรับตามหนังสือแจ้งการไม่ชำระค่าปรับ (หนังสือเตือน) หรือกรณีผู้ถูกกล่าวหาปฏิเสธ ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐสรุปข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย รวบรวมหลักฐาน ทำสำนวนส่งอัยการฟ้องต่อศาลต่อไป

ทั้งนี้ ยืนยันว่า ตร. มีความพร้อมในการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ.2565 เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย ในการเปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียว เป็นความผิดทางพินัย โดยความผิดทางพินัยไม่ถือเป็นโทษทางปกครองหรือทางอาญา ผู้ถูกกล่าวหา สามารถผ่อนชำระหรือขอชำระค่าปรับต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือขอทำงานบริการสาธารณะได้ ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่สังคมต่อไป

‘ไอซ์ รักชนก’ ทรัพย์สิน 5.8 ลบ. สะสมหนังสือ 733 เล่ม ‘ธิษะณา’ รวย 56 ลบ. กระเป๋าแบรนด์เนม-งานศิลป์เพียบ

(27 ต.ค. 66) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สส. จำนวน 61 ราย โดยเป็นกรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2566 จำนวน 59 ราย และกรณีพ้นจากตำแหน่ง จำนวน 2 ราย ซึ่งมีบุคคลที่น่าสนใจคือ น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคก้าวไกล โดย น.ส.รักชนก ศรีนอก อายุ 29 ปี แจ้งสถานภาพโสด พร้อมกับแจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 5,840,477 บาท แบ่งเป็น เงินฝาก 7 บัญชี มูลค่า  354,508 บาท เงินลงทุน 716,404 บาท โดยมีเงินลงทุนในเหรียญบิตคอยน์ 3 รายการ อีก 4 รายการเป็นเงินลงทุนในบริษัท ที่ดิน 1 แปลง ในเขตบางขุนเทียน กทม. มูลค่า 1,750,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง แจ้งว่าเป็นตึกเดี่ยว 2 ชั้น มูลค่า 1,750,000 บาท ยานพาหนะเป็นรถยนต์ 1 คัน มูลค่า 1,000,000 บาท ทรัพย์สินอื่น 269,564 บาท 

นอกจากนี้ มีหนี้สิน 1,814,816 บาท แบ่งเป็นเงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น 1,425,296 บาท และหนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ 389,520 บาท 

สำหรับทรัพย์สินอื่นที่น่าสนใจ คือ หนังสือ 733 เล่ม อาทิ ท่านประธานที่(ไม่)เคารพ หนังสือระบอบประยุทธ์, หนังสือก่อร่างเป็นบางกอก, หนังสือใต้เงาปฏิวัติ, หนังสือ 300 นโยบายเปลี่ยนประเทศ, หนังสือเดอะท็อปซีเคร็ต, หนังสือไอน์สไตน์พบพระพุทธเจ้าเห็น, UTOPIA, THE FRENCH REVOLUTION, กบฏบวรเดช, ภูมิปัญญาปฏิวัติฝรั่งเศส, ปฏิวัติ รศ.130, หนังสือฟ้าบ่กั้น, หนังสือนายพลในเขาวงกต, หนังสือสัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเล, หนังสือโฉมหน้าศักดินาไทย, หนังสือไตรภาคแก่งคอย, หนังสือสยามปฏิวัติ, หนังสือนานาประชาธิปไตย, หนังสือกาลวิบัติ, หนังสือหลังบ้านคณะราษฎร, หนังสือดาบพิฆาตอสูร เป็นต้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.รักชนก ได้แจ้งด้วยว่ามีประวัติการทำงานย้อนหลัง 5 ปี โดยเมื่อปี 2562-2566 เป็นกรรมการในบริษัทหาเงินไปดาวอังคารจำกัด และปี 2563-2566 เป็นกรรมการในบริษัทเดินเล่นบนดาวอังคารจำกัด และปี 2564-2566 เป็นที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการพัฒนาการเมือง การสื่อสาร และการมีส่วนร่วมของประชาชน 

อีกคนที่น่าสนใจคือ น.ส.ธิษะณา ชุณหะวัณ สส.กทม.พรรคก้าวไกล แจ้งสถานะหย่า เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 66 มีบุตรชาย 1 เกิดจากบิดา มารดาที่มิได้จดทะเบียนสมรส คือ ด.ช. คณิศร ชุณหะวัณ อายุ 13 ปี โดยมีทรัพย์สินทั้งสิ้น 56,498,789 บาท หนี้สินทั้งสิ้น 26,471 บาท ซึ่งเป็นเงินเบิกเกินบัญชี ส่วนทรัพย์สินประกอบด้วย เงินฝาก 11,684 บาท เงินลงทุน 1,564,000 บาท ที่ดิน 53,984,105 บาท ยานพาหนะ 239,000 บาท ทรัพย์สินอื่น 700,000 บาท โดยที่ดินส่วนใหญ่ ประกอบด้วยโฉนดที่ดิน 7 ฉบับ อยู่ในซ.ราชครู เขตพญาไท กทม. อาคารชุดบ้านแสนสราญหัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ ที่ดินใน จ.เชียงใหม่ จ.สมุทรสงคราม และที่ดินที่ดอนเมือง กทม. 

นอกจากนี้ ยังมีทรัพย์สินอื่น ๆ ประกอบด้วย งานศิลปะโดยชาวอะบอริจิน ระบุว่าซื้อมาจากแกลลารีที่ออสเตรเลีย งานศิลปะภาพเรือสำเภาล้อเลียนการเมือง และภาพธรรมชาติ วาดโดย โดยวสันต์ สิทธิเขตต์ อดีตศิลปินกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) กระเป๋าชาแนล ขนาด 8 นิ้ว หนังคาเวียร์สีเขียว มูลค่า 7 หมื่นบาท กระเป๋าชาแนล 10 นิ้วหนังคาเวียร์สีเบจ มูลค่า 1.8 แสนบาท กระเป๋าชาแนลชาแนล 10 นิ้ว หนังคาเวียร์สีแดง มูลค่า 1.8 แสนบาท และกระเป๋าชาแนลบอยขนาด 10 นิ้ว สีทองหนังคาเวียร์ สภาพ 50% มูลค่า 1.8 แสนบาท

‘รองโฆษกฯ’ เตือนผู้ปกครอง ระวัง ‘ขนมโรลออน’ หวั่นเด็กๆ ซื้อบริโภค ชี้ มีสารอันตราย ย้ำ!! ‘ผู้นำเข้า-จำหน่าย’ ไม่ได้ขออนุญาต มีโทษหนัก

(27 ต.ค. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แจ้งเตือนให้เฝ้าระวังการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ขนมลูกอมลูกกลิ้ง ที่กำลังเป็นกระแสแพร่หลายในกลุ่มเด็กและเยาวชนปรากฏทางสื่อออนไลน์ โดยขนมดังกล่าวยังไม่มีการยื่นขออนุญาตผลิตภัณฑ์ จากคณะกรรมการองค์การอาหารและยา (อย.) ฉลากและภาชนะบรรจุไม่ถูกต้องตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข และพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522

นายคารม กล่าวว่า รมว.กระทรวงศึกษาธิการ ได้สั่งการกำชับผู้บริหารสถานศึกษาทุกแห่ง ให้สื่อสารไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัด เฝ้าระวังและติดตามการขายขนมลูกอมลูกกลิ้งรอบโรงเรียน อาจจะส่งผลต่อสุขภาพอนามัยของเด็กเมื่อกินเข้าไป และเตือนพ่อแม่ ผู้ปกครอง ประชาชน ร่วมสอดส่องดูแลการขายอาหารและขนมบริเวณรอบโรงเรียน หากพบเห็นสามารถแจ้งข้อมูลทางสายด่วน อย.1556 ทางไลน์ Line@FDAThai เฟซบุ๊ก FDAThai หรืออีเมล [email protected] ตลอดจนสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ

ทั้งนี้ ขอเตือนผู้นำเข้า และผู้จำหน่าย มีความผิดตามกฎหมาย หากพบขนมรูปแบบโรลออน วางขายโดยไม่ขออนุญาตนำเข้า จะมีโทษปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท หากตรวจวิเคราะห์แล้วพบใช้วัตถุเจือปนอาหารไม่เป็นไปตามกฎหมาย มีโทษ ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท และกรณีที่พบว่าภาชนะที่ใช้บรรจุอาหารไม่มีมาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

'เบลล่า' งานรุม!! คิวพรีเซ็นเตอร์แน่นเกิน 30 ตัว เปรย!! อยากมีคนข้างกาย แฟนคลับแซว 'โป๊ป' มีลุ้นไหม?

เมื่อวานนี้ (26 ต.ค. 66) เบลล่า ได้ให้สัมภาษณ์ในงาน 'เปิดประตูสู่พรหมลิขิต' ณ สุราลัย ฮอลล์ ชั้น 7 ไอคอนสยาม พร้อมเผยถึงเรื่องที่งานพรีเซ็นเตอร์รุมแน่นเกิน 30 ตัว แต่ยังรับได้อีก

ล่าสุดมีแฟนละครนับว่าช่วงพักเบรกมีโฆษณาเบลเกิน 10 ตัว?
“อ๋อ…แม่เบลก็นับค่ะ ต้องขอบคุณลูกค้าด้วยค่ะ (หลังบุพเพสันนิวาสมีพรีเซ็นเตอร์เยอะมาก พอพรหมลิขิตมีคนติดต่อเข้ามาเยอะไหม?) มีเพิ่มค่ะ ต้องรอดูค่ะ (ดีลล่วงหน้าไว้เลย?) ใช่ค่ะ (ผลพลอยได้กลับมาเยอะ?) ก็ด้วยค่ะ เราต้องขอบคุณลูกค้าทุกๆ คนที่เชื่อใจและให้โอกาสเบลด้วย”

รวมๆ แล้วถึง 50 ตัวไหม?
“บ้าเหรอ(ยิ้ม) น่าจะเกิน 30 แต่เบลยังทำงานอย่างอื่นอยู่ค่ะทุกคน ไม่ได้รับพรีเซ็นเตอร์อย่างเดียว ถามว่ายังมีส่วนไหนในร่างกายเหลืออีกบ้าง อันนี้ต้องให้ผู้จัดการจัดแจงว่าอะไรที่ไม่ซ้ำ แต่ว่าเบลก็ดูนะ ไม่ได้แบบรับทุกตัว ตัวไหนที่มีความทับซ้อน คือไม่ใช่แบบเป็นตัวเดียวกันแต่ว่าไลน์ใกล้ๆ กันเบลก็จะปฏิเสธไป (จากพรหมลิขิตเพิ่มมาอีกกี่ตัว?) ตอนนี้ 2 มี 2 ที่ ที่ตกลงไปแล้วค่ะ”

ตั้งเป้าจะโกยไว้เท่าไหร่?
“ไม่ตั้งเป้าอะไรทั้งสิ้นค่ะ แล้วแต่โอกาสที่เข้ามาแหละ ก็อย่างที่บอกว่าเบลโชคดีที่ทุกคนเชื่อใจเบล”

ลักกี้อินเกมแล้ว ลักกี้อินเลิฟด้วยไหม?
“ยังไม่อินอะไรทั้งสิ้นค่ะ (เชื่อได้ไหมที่บอกว่าลักกี้อินเกมแล้วจะไม่ลักกี้อินเลิฟ?) มันต้องเชื่อแล้วมั้ย(ยิ้ม) เบลไม่รู้นะ แต่ว่าเบลชิลๆ อ่ะ ถามว่าตอนนี้มีความสุขมั้ย ก็มีความสุขดี ถามว่าอยากมีมั้ยก็อยากมีถ้าไม่ได้กระทบกับงาน (ตอนนี้มีเงินโอเคกว่ามีผู้ชายถูกไหม?) อย่าใช้คำนั้นเลยดีกว่า(หัวเราะ)”
แม่ว่ายังไงบ้าง?
.
“คุณแม่ชิลๆ เลยค่ะ แล้วแต่เรา แต่ว่าอาจจะชิลได้ไม่นานแล้วแหละดูทรงแล้วอายุอานาม (แม่เร่งไหม?) แม่เบลไม่เร่งหรอก แต่อายุเท่านี้แล้วก็คงไม่นาน”

เห็นช่วงนี้รับขวัญหลานเยอะมาก ไม่รู้สึกว่าอยากมีบ้างเหรอ?
“(หัวเราะ)จริง คือเพื่อนมีลูกจนรู้สึกแบบเลี้ยงหลานเก่งมาก แต่เอาจริงเบลเห็นเพื่อนมีลูกก็เหนื่อยกันมากๆ จนเบลเห็นก็ลังเล หรือว่าเป็นแบบนี้ดีแล้ว”

ทำไมอยู่ดีๆ มีความคิดลังเลว่าจะมีหรือไม่มี?
“ตอนเด็กๆ ก็มีความฝันมาตลอดแหละ อยากจะสร้างครอบครัวอะไรต่างๆ โดยที่เราไม่รู้รายละเอียดเลยว่าการที่จะเลี้ยงคนคนนึงมามันขนาดไหน แต่อันนี้มันข้ามสเต็ปไปเนาะ ขอมีคนข้างกายก่อนค่ะ”

แสดงว่าไปทำบุญไม่เคยขอเรื่องความรักเลย?
“เริ่มขอแล้ว (I told พระแม่ลักษมีแล้วหรือยัง?) ขอแล้ว(หัวเราะ) (เอารูปใครไปอ้างอิง?) ไม่มี ไม่รู้ไง คือตอนนั้นก็ไปไหว้ คือขอรวมๆ ความรักความเมตตา คือถ้าจะมีใครก็อยากมีคนที่โอเค เบลไม่ได้บอกกำหนดระยะเวลาเลย อาจจะ 10 ปีข้างหน้า (หัวเราะ) ล้อเล่นค่ะ”

จริงๆ อาจจะมีคนเข้ามา แต่เรามีความกังวลกับการมีความรักอีกครั้ง?
“เบลว่าคนอื่นกังวลในจุดนี้มากกว่าเบลอีก (คนคาดหวังคนที่มาคู่กับเราจะเป็นยังไง?) ใช่ค่ะ ซึ่งเบลไม่ได้ตั้งอะไรขนาดนั้นเลยนะ ขอแค่จิตใจดีเป็นเพื่อนคู่คิดได้ (เพื่อนแนะนำไหม?) เพื่อนเลิกแนะนำไปแล้ว เรามันเล่นตัวเยอะไปหน่อย ไม่เสียดายหรอกช่วงนั้นมันก็ไม่มีเวลาจริงๆ”

หลายคนเชียร์กับพี่โป๊ปอีกแล้ว พอจะมีโอกาสลุ้นไหม?
“ไม่รู้…แต่ว่าในละครได้แน่ๆ (เคยคุยเรื่องนี้ไหม?) ก็ขำๆ ดีค่ะ ช่วงหนึ่งเป็นแก๊ง 4 คน หมื่นเรือง แม่จันทร์วาดด้วย แล้วเราก็มองหน้ากันว่าแก๊งเรามันมีอาถรรพ์หรือเปล่า (แต่ตอนนี้หมื่นเรืองไม่โสดแล้ว?) ใช่ค่ะ ให้นำไปก่อน”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top