Saturday, 17 May 2025
NewsFeed

‘ดร.หิมาลัย’ วอน อย่าให้ทุนนอกครอบการเมืองไทย หลังมีคนปูด ‘นักการเมือง’ รับเงินแก้ ม.112

จากกรณีที่มีนักกิจกรรมทางการเมือง ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่า มีนักการเมืองบางคนของพรรคที่จ้องจะแก้กฎหมายอาญา มาตรา 112 เคยได้รับเงินสนับสนุนจากทุนต่างชาติ เพื่อให้แก้ไขมาตราดังกล่าว รวมถึงในช่วงที่ผ่านมา มีข้อมูลว่า ทุนจากต่างชาติให้การสนับสนุนกลุ่มเอ็นจีโอ ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง

ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้แสดงความเห็นต่อเรื่องนี้ว่า การที่เอ็นจีโอได้รับเงินสนับสนุนจากต่างประเทศ ไม่ใช่เรื่องที่ผิด หากเป็นการใช้เพื่อช่วยเหลือทางด้านสังคม ทางด้านเศรษฐกิจ หรือ การพัฒนาการเมือง แต่หากนำมาใช้เป็นทุนเพื่อเคลื่อนไหวทางการเมือง และล้มล้างระบอบการปกครองของประเทศนั้น ๆ ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย และถือเป็นบ่อนทำลายชาติ

ทั้งนี้ ดร.หิมาลัย ได้ให้มุมมองต่อว่า ที่ผ่านมามีหลายประเทศที่ถูกต่างชาติแทรกแซงทางการเมืองจนนำไปสู่ความล่มสลาย ประเทศย่อยยับ ประชาชนต้องลี้ภัยหนีจากบ้านเกิดเมืองนอน เพราะฉะนั้น จึงอยากจะตั้งคำถามกับพี่น้องคนไทยว่า เราจะยอมรับให้องค์กรต่างประเทศสนับสนุนการเงิน เพื่อมาเคลื่อนไหวทางการเมือง แล้วทำให้ประเทศเราพังทลายเช่นนั้นหรือ?

“ก่อนการเลือกตั้งที่ผ่านมา มีคนเคยถามผมหลายครั้งว่า ถ้าพรรคที่อยู่ฝั่งตรงข้ามขึ้นมาเป็นรัฐบาล จะรู้สึกอย่างไร ผมบอกว่าไม่ได้รู้สึกเสียใจใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะเป็นวิถีทางประชาธิปไตย ถึงอย่างไร ไทยก็ปกครองไทยด้วยกันเอง แต่หากเป็นพรรคการเมืองที่มีทุนต่างชาติหนุนหลัง และพยายามจะแทรกแซงการปกครองของไทย อันนี้ ผมจะไม่ยอมรับอย่างแน่นอน และเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ก็จะไม่มีวันยอมเช่นเดียวกัน”

ขณะเดียวกัน ดร.หิมาลัย ยังฝากถึงพรรคการเมืองและประชาชนที่พยายามจะยกเลิกมาตรา 112 ว่า อยากให้ทุกคนศึกษาประวัติศาสตร์ให้ถ่องแท้และเป็นธรรม ในอดีตที่ผ่านมา สถาบันกษัตริย์ได้ต่อสู้กู้ประเทศชาติบ้านเมือง มีคุณูปการเป็นอเนกอนันต์ ด้วยความเสียสละ และวิริยะอุตสาหะอย่างมาก จนทำให้เรายืนหยัดเป็นชาติที่ไม่ตกเป็นเมืองขึ้นของชาตินักล่าอาณานิคม ทั้งจากเงินถุงแดง ที่รัชกาลที่ 3 ท่านทรงเก็บไว้ดูแลบ้านเมือง และได้นำไปไถ่ประเทศเมื่อครั้งเกิดวิกฤต ร.ศ.112

หรือแม้แต่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ที่ทรงเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก สร้างสัมพันธไมตรีกับชาติมหาอำนาจ ก็เพื่อรักษาประเทศชาติให้คงเอกราชไว้ให้ลูกหลาน

“ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ทรงทำให้กับชาติบ้านเมืองมาอย่างยาวนาน จึงไม่แปลกที่จะมีคนรู้สึกรักและผูกพันกับสถาบันฯ และไม่ไว้วางใจพรรคการเมืองที่มีแนวคิดที่จะล้มสถาบันให้ขึ้นมาบริหารบ้านเมือง เพราะฉะนั้น อย่าได้ดูถูกและด้อยค่าความจงรักภักดีที่คนส่วนใหญ่มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์” ดร.หิมาลัย กล่าว

แฟนวอลเลย์บอลเวียดนาม โดนวิพากษ์วิจารณ์สนั่น!! หลังโห่ใส่ ‘นักกีฬาทีมชาติไทย’ ในศึก ซี วี.ลีก 2023

(7 ส.ค. 66) ควันหลงหลังจากที่ ‘วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย’ เอาชนะ ‘เวียดนาม’ ไป 3-1 เซต (22-25, 25-20, 28-26 และ 25-17) ในศึกวอลเลย์บอล ซี วี.ลีก 2023 (SEA V.League) สัปดาห์แรก นัดสุดท้าย ส่งผลให้นักตบสาวไทยเก็บชัยชนะ 3 นัดติด คว้าแชมป์ไปครอง

อย่างไรก็ตาม หลังจบเกมแฟนวอลเลย์บอลเวียดนามบางส่วนโดนวิจารณ์อย่างหนัก หลังส่งเสียงโห่ใส่นักกีฬาทีมชาติไทยตอนที่กำลังจะเสิร์ฟ หลายคนมองว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม โดยระบุว่า "กองเชียร์เวียดนาม เราเห็นนะ ตอนน้องบุ๋มบิ๋มกำลังจะเสิร์ฟ พวกคุณส่งเสียงโห่ แบบนี้ไม่น่ารักเลยนะคะ"

จากนั้นก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นบนโพสต์ดังกล่าวมากมาย อย่างเช่น 

"ใช่ค่ะ ไม่น่ารัก ไม่เจอแบบนี้ที่สนามไทยแน่นอน"
"ถ้าเขามาบ้านเรา เราก็ไม่ต้องทำเหมือนเขา เป็นเจ้าบ้านที่ดี ต้อนรับทุกทีม แบบนี้เขาเห็นก็จะละอายไปเองแหละ"
"ฝีมือพัฒนาขึ้น แต่การเชียร์อยู่ในระดับพัฒนาลง"
"อยากไประดับโลกแต่พฤติกรรมยัง...."
"ใช่ค่ะ น่าเกลียดมาก ส่วนของเรากองเชียร์น่ารัก แข่งระดับโลกเขายังชอบเลย ทีมไหนเราก็เชียร์"
"ใช่แล้วค่ะ เห็นด้วยกับโพสต์นี้ แต่ขอชมเชยน้องบุ๋มบิ๋มสงบนิ่ง เสิร์ฟได้ดีมาก”
"จริง มารยาทแย่ โห่ตอนเสิร์ฟได้ไง

อบต.โพนงาม บริการประชาชน ด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ เน้นโปร่งใส คุ้มค่า สามารถตรวจสอบได้ และไร้มลพิษ

องค์การบริหารส่วนตำบลโพนงาม อำเภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนคร จัดตั้งตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เมื่อปี 2539 มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายจัดตั้ง ให้มีและบำรุงไฟฟ้าหรือแสงสว่างโดยวิธีอื่น ในการดำเนินการส่วนใหญ่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมักจะอุดหนุนงบประมาณให้การไฟฟ้าเป็นผู้ดำเนินการและเป็นทรัพย์สินของการไฟฟ้า ทั้งที่การไฟฟ้าก็มีอำนาจหน้าที่บริการการขยายเขตไฟฟ้าบริการประชาชนอยู่แล้ว แต่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็เลือกที่จะอุดหนุนงบประมาณ เนื่องจากสะดวกและง่ายไม่ต้องดำเนินการเอง

ปัจจุบันการไฟฟ้าจำกัดอัตราการใช้ไฟฟ้าส่องว่างสาธารณะในชุมชนลง ทำให้บางชุมชนบางพื้นที่ไม่มีแสงสว่างเพื่อความสะดวกและปลอดภัย

จากปัญหาดังกล่าว องค์การบริหารส่วนตำบลโพนงามได้เล็งเห็นความสำคัญในการแก้ไขปัญหาระบบแสงสว่างสาธารณะโดยมีความคิดริเริ่มในการเลือกใช้พลังงานทดแทนตามนโยบายรัฐบาล

โดยจัดทำคำของบประมาณเงินอุดหนุนเฉพาะกิจตามแผนกระจายอำนาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประจำปี 2565 โครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็กพร้อมติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างพลังงานแสงอาทิตย์ สายบ้านพลังใหม่ หมูที่ 11 ตำบลโพนงาม – บ้านวาใหญ่ ตำบลวาใหญ่ อำเภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนคร งบประมาณ 4.6 ล้านเศษ และได้ดำเนินการแล้วเสร็จเมื่อกลางปี 2565 จากการดำเนินโครงการก่อสร้างและติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar street light) ทำให้ประชาชนและผู้สัญจรมีความพึงพอใจอย่างมาก เพราะสะดวกสบาย ปลอดภัยในยามค่ำคืน และประหยัดค่าไฟฟ้าได้อีกด้วย ที่สำคัญเป็นการสนองนโยบายรัฐบาลในการรักษาสิ่งแวดล้อมได้อีกทางหนึ่ง ทำให้พื้นที่ข้างเคียงหรือหมู่บ้านอื่นมีความต้องการจะติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างพลังงานแสงอาทิตย์เช่นเดียวกัน ในปีงบประมาณ พ.ศ.2566 – 2570 องค์การบริหารส่วนตำบลโพนงาม ได้ประชาคมจัดทำแผนพัฒนาเพื่อขยายพื้นที่ติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างให้ครบทุกหมู่บ้านและตามสายทางสาธารณะที่ไฟฟ้าไปไม่ถึง ซึ่งในปีงบประมาณ พ.ศ.2567 องค์การบริหารส่วนตำบลโพนงาม ได้จัดทำคำของบประมาณเงินอุดหนุนเฉพาะกิจฯ จำนวน โครงการ ได้แก่

1.โครงการเสริมผิวจราจรแอสฟัลติกท์คอนกรีตพร้อมติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างพลังงานแสงอาทิตย์ สายหน้าวัดโพธิ์ชัย หมู่ที่ 1 ตำบลโพนงาม – บ้านวาใหญ่ ตำบลวาใหญ่ อำเภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนคร จำนวน 100 โคม ระยะทาง 2,000 เมตร

2.โครงการก่อสร้าง คอนกรีตเสริมเหล็ก พร้อมติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างพลังงานแสงอาทิตย์ สายบ้านพลังใหม่ หมู่ที่ 11 ตำบลโพนงาม – บ้านดอนทอย อำเภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนคร จำนวน 54 โคม ระยะทาง 1,000 เมตร

3.โครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็กพร้อมติดตั้งไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ สายบ้านเสาวัด หมู่ที่6 ตำบลโพนงาม – บ้านนาหวาย ตำบลท่าก้อน อำเภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนคร จำนวน 100 โคม ระยะทาง 2,000 เมตร ซึ่งองค์การบริหารส่วนตำบลคาดหมายว่าจะได้รับงบประมาณจากรัฐบาล และอีกส่วนหนึ่งองค์การบริหารส่วนตำบลโพนงามได้ใช้งบประมาณของตนเองดำเนินโครงการติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างพลังงานแสงอาทิตย์บริการชุมชนและสังคมภายในหมู่บ้านที่ไม่มีแสงสว่างหรือระบบไฟฟ้าของการไฟฟ้าไปไม่ถึง และนี่คือนโยบายดีๆ ที่องค์การบริหารส่วนตำบลโพนงามให้ความสำคัญตามหลักการบริการสาธารณะที่ว่า “น้ำไหล ไฟสว่าง ทางดี ประชาชีเป็นสุข เศรษฐกิจมั่งคั่ง” บนพื้นฐานหลักความคุ้มค่า โปร่งใส มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ตรวจสอบได้

‘กระติ๊บ ชวัลกร’ คว้ารางวัล 1 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน จากการแข่งขันทำอาหาร ‘Philippine Culinary Cup 2023’

เรียกได้ว่าเป็นคนที่สวยครบเครื่องและมากความสามารถจริง ๆ สำหรับนักแสดงสาว ‘กระติ๊บ ชวัลกร วรรธนพิสิฐกุล’ ไม่ว่าจะเป็นด้านการแสดง ด้านศิลปะ และฝีไม้ลายมือด้านการทำอาหาร

ซึ่งล่าสุด ‘กระติ๊บ ชวัลกร’ ก็ได้ออกมาประกาศข่าวดีผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัว หลังจากที่ได้เป็นตัวแทนทีมชาติไทย ลงแข่งขันทำอาหารในงาน ‘Philippine Culinary Cup 2023’ ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นงานระดับนานาชาติ ที่ได้รับการรับรองจากสมาคมเชฟโลก ซึ่งงานนี้สาวกระติ๊บก็สามารถคว้าเหรียญทองประเภท Pasta และคว้าเหรียญเงิน ประเภท U.S. Poultry มาครองได้สำเร็จ

โดยงานนี้นักแสดงสาวก็ได้โพสต์ภาพพร้อมกับเขียนแคปชันบรรยายอย่างภูมิใจว่า... “มาไกลเกินฝันค่ะ ติ๊บได้อยู่ทีมชาติไทยแล้วค่ะ ขอบคุณสำหรับโอกาสที่ให้ติ๊บได้เข้าทีมชาติไทย ขอบคุณเชฟ วิลแมน เชฟเมย์ เชฟผึ้ง และทีม Thailand culinary Academy ทุกคน การแข่งขันทำอาหารระดับนานาชาติครั้งนี้ มีเชฟเข้าร่วมแข่งขันกว่า 800 คน จาก 15 ประเทศ ตัดสินโดยสมาคมเชฟโลก

ติ๊บได้ 1 เหรียญทอง Philippine Culinary Cup World Food Expo Best Pasta / Overall Champions with Gold Medals award. คะแนนสูงสุดในการแข่งขันประเภทนี้ Chef Shawankorn Wanthanaphisitkul

และ 1 เหรียญเงิน Philippine Culinary Cup Chef Shawankorn Wanthanaphisitkul Duck - Sliver Medal จากการลงแข่งสองประเภท

ขอบคุณ airasia ขอบคุณ Chitrada technology institute ขอบคุณสถานที่ซ้อม Kitchen Lab by Kitchen World ขอบคุณคุณแม่ที่เป็นแรงบันดาลใจ ขอบคุณปะป๋า ขอบคุณปั่น และทุกๆคน ที่คอยอยู่ซัพพอร์ตมาตลอด เหรียญทองนี้เพื่อประเทศไทยค่ะ TH

ที่สำคัญที่สุดร้าน A Bowl Of Pasta นางลิ้นจี่, Maze dining สำหรับทุก ๆ อย่างค่ะ ใครอยากกินพาสต้าอร่อย ๆ หรืออาหาร fine dining เริ่ด ๆ พลาดไม่ได้ค่ะ !! #ไปมะนิลาไปกับแอร์เอเชีย #airasiatravels”

หลังจากโพสต์เผยแพร่ไปแล้วเหล่าเพื่อนพ้องคนบันเทิงและแฟน ๆ ที่เข้ามาคอมเมนต์แสดงความยินดีอย่างคับคั่ง

‘บิ๊กป้อม’ นำคณะลงพื้นที่ตลาดมูโนะ พร้อมสั่งถอดบทเรียน - เยียวยาเต็มที่

‘พล.อ.ประวิตร’ ลงใต้ ขอบคุณน้ำใจคนไทยทั่วประเทศหลั่งไหลบริจาคช่วยพี่น้องชาวมูโนะ สั่งระดมเร่งด่วนฟื้นฟูพื้นที่และช่วยเหลือด้านจิตใจ การเงิน อาชีพและการศึกษา

(7 ส.ค. 66) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง, รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะ เดินทางลงภาคใต้ พื้นที่ ต.มูโนะ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส ตรวจดูพื้นที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งเยี่ยมให้กำลังใจพี่น้องชาวมูโนะและเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ให้ความช่วยเหลือประชาชน จากเหตุโกดังพลุดอกไม้ไฟระเบิดที่ผ่านมา

โดย พล.อ.ประวิตร และคณะ เดินทางไปสนามกีฬามหาราช รับทราบรายงานสถานการณ์ความเสียหายและการช่วยเหลือ จาก ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส, อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ รวมทั้งผู้แทน สธ. และศธ. มีผู้ได้รับผลกระทบ 682 ครัวเรือน เสียชีวิต 11 ราย บาดเจ็บ 389 ราย บ้านเรือนเสียหาย 682 หลัง รร.เสียหาย 3 แห่ง โดยมีการพระราชทานความช่วยเหลือทั้งสิ่งของพระราชทานและโรงครัวพระราชทานต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน ต่อจากนั้นได้เดินทางไปยังพื้นที่เกิดเหตุตรวจเยี่ยมความคืบหน้าในการซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนและโรงเรียนบ้าน มูโนะ พร้อมทั้งเดินทางไป รพ.สุไหงโก-ลก เยี่ยมและให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งทีมแพทย์และสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานในพื้นที่

พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อพี่น้องชาวมูโนะ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้น ซึ่งมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย บ้านเรือนและอาคารสถานที่ได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง และที่สำคัญมีผลกระทบต่อจิตใจและขวัญของพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างมาก ขอเป็นเป็นกำลังใจให้กับทุกคน เพื่อการก้าวผ่านความยากลำบากครั้งสำคัญนี้ไปด้วยกัน โดยยืนยันว่ารัฐบาลจะช่วยเหลือดูแลและไม่ทอดทิ้งกัน 

พล.อ.ประวิตร ยังได้กำชับ ขอให้ทุกส่วนราชการในพื้นที่ทั้งภาครัฐ เอกชนและทหารร่วมระดมความช่วยเหลือฟื้นฟูพื้นที่ โดยเฉพาะการก่อสร้างและปรับปรุงบ้านพักอาศัยที่เสียหาย รวมทั้งระบบสาธารณูปโภคในพื้นที่ให้สามารถใช้การได้เร็วที่สุด ทั้งนี้การก่อสร้างปรับปรุง รร.มูโนะ ได้สั่งการมอบหมายให้ รมว.ศธ.ลงพื้นที่รับทราบปัญหาตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อปรับปรุงและก่อสร้างอาคารใหม่ทดแทนอาคารเดิมที่เสียหาย ซึ่งทราบว่ามีภาคเอกชนร่วมสนับสนุนสร้างอาคารใหม่ให้กับเด็กเล็ก ที่กำลังจะเปิดเทอมในเร็ววันนี้ และให้ติดตามเยียวยาครูและนักเรียนที่ได้รับผลกระทบโดยให้เร่งซ่อมแซมบ้านครูและนักเรียนที่เสียหาย จำนวน 120 หลัง และบาลัยจำนวน 2 หลัง รวมถึงจัดหาอุปกรณ์การเรียนการสอนที่เสียหาย เพื่อให้สถานศึกษาสามารถกลับมาเปิดได้โดยเร็ว ทั้งนี้ ขอให้ สธ.ให้ความสำคัญในการเข้าไปเยียวยาผลกระทบด้านจิตใจกับผู้ได้รับผลกระทบอย่างทั่วถึงและต่อเนื่อง

สำหรับการฟื้นฟูที่พักอาศัยและพัฒนาอาชีพ ได้กำชับ รมว.ที่เกี่ยวข้อง ร่วมระดมธนาคาร สถาบันการเงินของรัฐ และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เข้ามาให้การช่วยเหลือด้านเงินทุนโดยปราศจากดอกเบี้ย โดยให้ ศอ.บต.ประสาน กระทรวงการคลัง จัดหามาตรการด้านการเงินและการคลัง เป็นกรณีพิเศษ เพื่อช่วยเหลือประชาชน เช่น การพักชำระหนี้จากความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น โดยเตรียมเสนอ ครม.ต่อไป

พล.อ.ประวิตร ยังได้กล่าวขอบคุณน้ำใจคนไทยทั่วประเทศ ที่ร่วมหลั่งไหลบริจาคเงินกว่า 23.24 ล้านบาทและความช่วยเหลืออื่น ๆ มาอย่างไม่ขาดสายผ่านจังหวัด โดยย้ำขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งนำเงินดังกล่าวใช้ให้ตรงกับวัตถุประสงค์ของผู้บริจาคด้วยความรวดเร็ว ทั่วถึงเป็นธรรมและโปร่งใส พร้อมทั้งขอขอบคุณและเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่รัฐจากทุกหน่วยงาน รวมทั้งอาสาสมัครและภาคเอกชน ที่ร่วมกันเร่งให้ความช่วยเหลือเยียวยาพี่น้องชาวมูโนะ ที่ได้รับผลกระทบหลังจากเกิดเหตุการณ์ต่อเนื่องมา โดยขอให้กรมประชาสัมพันธ์ ให้ความสำคัญและคงความต่อเนื่องในการสร้างความเข้าใจในภาวะวิกฤตกับประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้ย้ำกับกระทรวงมหาดไทย, ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอให้ถอดบทเรียนจากเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้น โดยจะต้องไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีกในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งถือเป็นความเสียหายที่ไม่อาจยอมรับได้และจะต้องมีผู้รับผิดชอบ โดยขอให้สอบลึกเชื่อมโยงกับทุกหน่วยงานและเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ละเลยหน้าที่หรือแสวงประโยชน์อันมิชอบอย่างจริงจัง เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างและสร้างความสูญเสียเช่นที่เกิดขึ้น

รัสเซียเริ่มสร้าง 'กล้องโทรทรรศน์สุริยะ' ใหญ่สุดในยูเรเซีย ใช้งบราว 1.3 หมื่นล้านบาท คาดเปิดใช้ได้ภายในปี 2030

วลาดิวอสตอก, 6 ส.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันเสาร์ (5 ส.ค.) สถาบันฟิสิกส์สุริยะ-โลก (Institute of Solar-Terrestrial Physics) สังกัดสถาบันวิทยาศาสตร์รัสเซีย (RAS) สาขาไซบีเรีย ในสาธารณรัฐบูเรียเตีย หนึ่งในเขตการปกครองรัสเซีย ได้จัดพิธีวางศิลาฤกษ์การก่อสร้างกล้องโทรทรรศน์สุริยะ (solar telescope) หรือกล้องโทรทรรศน์ดูดวงอาทิตย์ ขนาดใหญ่ที่สุดในทวีปยูเรเซีย
กล้องโทรทรรศน์ดังกล่าวเป็นอุปกรณ์ที่มีความซับซ้อนและราคาแพงที่สุดของโครงการเนชันแนล เฮลิโอจีโอฟิสิคัล คอมเพล็กซ์ (National Heliogeophysical Complex) โดยจะตั้งประจำการอยู่ที่หอสังเกตการณ์ดวงอาทิตย์ ซายัน (Sayan Solar Observatory) สังกัดสถาบันฟิสิกส์ฯ ใกล้กับหมู่บ้านมันดาในบูเรียเตีย โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 3.6 หมื่นล้านรูเบิล (ราว 1.3 หมื่นล้านบาท) และคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการได้ภายในปี 2030

วัตถุประสงค์หลักของกล้องโทรทรรศน์ตัวนี้คือใช้ในการศึกษาธรรมชาติของสนามแม่เหล็กและวัฏจักรกิจกรรมดวงอาทิตย์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตบนโลกในแง่มุมต่างๆ กล้องโทรทรรศน์ฯ จะช่วยให้คณะนักวิทยาศาสตร์ทำการสำรวจโครงสร้างของชั้นบรรยากาศโฟโตสเฟียร์ (photosphere) อันเป็นชั้นพื้นผิวของดวงอาทิตย์ที่สามารถมองเห็นได้ ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งชั้นผิวนี้กล้องโทรทรรศน์ขนาดเล็กและอุปกรณ์สังเกตการณ์ในวงโคจรจะไม่สามารถเข้าถึงได้

ขณะเดียวกัน กล้องโทรทรรศน์ฯ จะสามารถวิเคราะห์สเปกตรัมและรับข้อมูลเฉพาะเกี่ยวกับสนามแม่เหล็กและการเคลื่อนที่ของสสาร ตลอดจนช่วยศึกษาสาเหตุการเกิดเปลวสุริยะ (solar flare) การพ่นมวลโคโรนา (coronal mass ejection) และปรากฏการณ์อื่นๆ บนดวงอาทิตย์ นอกจากนี้จะยังช่วยแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์พื้นฐานและการประยุกต์ใช้ในฟิสิกส์สุริยะ (solar physics)

ทั้งนี้ กลไกทางแสงของกล้องโทรทรรศน์ดังกล่าวจะประกอบด้วยกระจก 13 ชิ้น โดยกระจกหลักมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 3 เมตร ทำขึ้นมาจากแอสโตรทอล วัสดุกลาสเซรามิกแบบพิเศษชนิดหนึ่ง โดยความสูงของโครงสร้างกล้องโทรทรรศน์ฯ ทั้งหมดจะอยู่ที่ 42 เมตร และมีน้ำหนักรวม 120 ตัน

กลุ่มรัฐประหารไนเจอร์ 'ปิดน่านฟ้า-ขอแรงหนุน Wagner' เตรียมรับมือกองกำลังทหารจากแอฟริกาตะวันตก

สถานการณ์ภายในประเทศไนเจอร์ยังคงน่าเป็นห่วง หลังเกิดเหตุรัฐประหารยึดอำนาจประธานาธิบดี โมฮัมเหม็ด บาซูม เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2566 และได้ก่อตั้งรัฐบาลทหาร ภายใต้ชื่อกลุ่มว่าสภาพิทักษ์มาตุภูมิแห่งชาติ - National Council for the Safeguard of the Homeland (CNSP) โดยมีนายพล อามาดู อับรามาเน ชีอานี เป็นผู้นำสูงสุด

ล่าสุด กลุ่มชาติพันธมิตรแห่งแอฟริกาตะวันตก ภายใต้ชื่อกลุ่มว่า Economic Community of West African States (ECOWAS) ตัดสินใจยื่นคำขาดที่จะใช้กำลังทหารเข้าแทรกแซงกิจการภายในของไนเจอร์ หากผู้นำทหารไม่ยอมปล่อยตัว และ คืนอำนาจให้ ประธานาธิบดี โมฮัมเหม็ด บาซูม ภายในวันอาทิตย์ที่ 6 สิงหาคม

แต่ทว่า คณะรัฐบาลทหารไนเจอร์ไม่นำพาคำขู่จากพันธมิตร ECOWAS ได้สั่งปิดน่านฟ้าทั่วประเทศ หลังถึงกำหนดเส้นตายของ ECOWAS โดยโฆษกของกองทัพไนเจอร์ประกาศผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจว่ามีข้อมูลยืนยันแล้วว่า มีกองกำลังต่างชาติในแอฟริกากลางได้เตรียมพลล่วงหน้าเพื่อบุกโจมตี แทรกแซงกิจการของไนเจอร์ แต่กองทัพไนเจอร์ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ ในประเด็นนี้ กล่าวเพียงว่าพร้อมรับมือ และ ป้องกันดินแดนอยางเต็มที่ อันเป็นเหตุที่ต้องปิดน่านฟ้า และได้ขอแรงสนับสนุนจากประชาชนในประเทศ

เมื่อเป็นเช่นนี้ สื่อตะวันตกจึงจับตามองไปที่ความเคลื่อนไหวของกองกำลัง ECOWAS ว่าจะมีการยกระดับอย่างไรในการกดดันรัฐบาลทหารไนเจอร์หลังจากพ้นกำหนดเส้นตายที่ทางกลุ่มได้เคยประกาศไว้

ด้านนาย อับเดล ฟาตู มูซาห์ กรรมาธิการด้านการเมือง สันติภาพ และความมั่นคง ได้กล่าวว่า "องค์ประกอบทั้งหมดในการเข้าแทรกแซงสถานการณ์ที่ไนเจอร์ รวมถึงทรัพยากรที่ต้องใช้ แผนการ และ เงื่อนไขเวลา ทางกลุ่มได้พิจารณาไว้หมดแล้ว แต่เรายังต้องการใช้วิธีทางการทูต ส่งสาส์นถึงคณะรัฐบาลทหารที่ไนเจอร์ว่าเรายังให้โอกาสพวกเขาได้แก้ไขในสิ่งที่ได้ทำลงไป"

ECOWAS หรือ กลุ่มประชาคมเศรษฐกิจแห่งรัฐอาฟริกาตะวันตก ประกอบด้วยชาติสมาชิกถึง 15 ประเทศ กินพื้นที่รวมกันกว่า 5 ล้านตารางกิโลเมตร และประชากรมากกว่า 387 ล้านคน และเคยได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มพันธมิตรเสาหลักของทวีปแอฟริกา

แต่ด้วยคลื่นกระแสการรัฐประหารของหลายชาติสมาชิกในกลุ่ม เริ่มต้นตั้งแต่การรัฐประหารในมาลี และ กีนี ในปี 2021 ที่บูร์กินา ฟาโซ ในปี 2022 และล่าสุดที่ไนเจอร์ในปีนี้ ทำให้ทั้ง 4 ชาติถูกคว่ำบาตร และระงับสถานะความเป็นสมาชิก ECOWAS ซึ่งส่งผลต่อความเป็นเอกภาพและความมั่นคงในกลุ่มเศรษฐกิจแห่งนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ด้านนาย มูฮัมมาดู บูฮารี ประธานาธิบดีของไนจีเรีย ประเทศที่ถือเป็นพี่ใหญ่ที่สุดใน ECOWAS ได้ตัดสินใจใช้กำลังทหารเข้าแทรกแซงไนเจอร์ แต่ทั้งนี้นโยบายการแทรกแซงการเมืองในประเทศเพื่อนบ้านของผู้นำไนจีเรีย ยังไม่ได้รับการอนุมัติจากสภาสูงด้วยเหตุว่าไนจีเรียไม่ควรเข้าไปวุ่นวายในกิจการภายในของประเทศอื่น

ด้าน มาลี และ บูร์กีนา ฟาโซ ที่ปัจจุบันอยู่ภายใต้การนำของรัฐบาลทหาร รวมถึง แอลจีเรีย ออกมาคัดค้านการแทรกแซงไนเจอร์ด้วยกำลังทหาร เพราะนั่นหมายถึงการประกาศสงครามที่จะนำไปสู่ความรุนแรงขึ้นไปอีก

ส่วนชาติมหาอำนาจตะวันตกอย่างสหรัฐอเมริกา และ สหภาพยุโรป ได้ออกมาประณามกลุ่มก่อการรัฐประหารที่ไนเจอร์ และประกาศพร้อมที่จะสนับสนุนกลุ่ม ECOWAS การใช้กำลังกดดันรัฐบาลทหารไนเจอร์ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด เพื่อคืนอำนาจให้กับประธานาธิบดี โมฮัมเหม็ด บาซูม และปกป้องระบอบประชาธิปไตยของไนเจอร์

ในขณะเดียวกัน ด้านผู้นำทหารของไนเจอร์ก็ได้เตรียมแผนสอง หากกองกำลังของ ECOWAS บุกเข้าโจมตีไนเจอร์จริง ด้วยการขอกำลังเสริมจากกลุ่ม Wagner กองกำลังทหารรับจ้างของรัสเซีย เพื่อเสริมทัพรับมือกองทัพต่างชาติไว้แล้วเช่นกัน

เรียกได้ว่าสถานการณ์ที่ไนเจอร์ในวันนี้ กำลังเดินหน้าเข้าตามสูตรสงครามตัวแทนระหว่าง 2 ขั้วอำนาจโลก ที่อาจทำให้ไนเจอร์กลายเป็นยูเครนแห่งแอฟริกาตะวันตกก็เป็นได้ 

‘เมก้าพลาซ่า’ ประกาศ!! สั่งห้าม ‘มาเฟียสะพานเหล็ก’ เข้าพื้นที่เด็ดขาด พร้อมประสานงานเจ้าหน้าที่ ให้รักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด

เมื่อวานนี้ (7 ส.ค. 66) จากกรณี ร้านของเล่นในตึกเมกะพลาซ่า ย่านสะพานเหล็ก วังบูรพา กทม. โพสต์เรื่องราวว่า ถูกพ่อค้าในตึกเดียวกัน ทำตัวอันธพาลข่มขู่ ทำลายข้าวของ

ศูนย์การค้าเมก้า พลาซ่า สะพานเหล็ก แถลงการณ์ถึงผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ใช้บริการทุกท่าน ระบุว่า ตามที่ผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ใช้บริการทุกท่านทราบเรื่องเหตุทะเลาะวิวาทของร้านค้าภายในศูนย์การค้า เมื่อวันที่ 6 ส.ค.66 บริเวณชั้น 6 นั้น ศูนย์การค้าเมก้า พลาซ่า สะพานเหล็ก ใคร่ขอแสดงความเสียใจและขออภัยอย่างสูงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เกิดเสียงดังและสร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้มาใช้บริการภายในศูนย์การค้า

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางศูนย์การค้ามิได้นิ่งนอนใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าว ศูนย์การค้าได้ดำเนินการผลักดันบุคคลที่ก่อให้เกิดความไม่สงบออกจากพื้นที่ภายในศูนย์การค้าแล้ว รวมทั้งได้ประสานงานสถานีตำรวจนครบาลพระราชวัง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่อาคารและเจ้าหน้าที่ไฟร์แมน ให้รักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด

ทั้งนี้ศูนย์การค้า เมก้า พลาซ่า สะพานเหล็ก ได้ให้ความสำคัญอย่างสูงสุดในเรื่องของความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ใช้บริการทุกท่าน เพื่อให้เกิดความมั่นใจในการเข้าใช้บริการภายในศูนย์การค้า ทางศูนย์การค้าได้ห้ามบุคคลดังกล่าวเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด มีผลตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ศูนย์การค้าเมก้า พลาซ่า สะพานเหล็ก

‘นีโน่’ ชี้!! ในสังคมไทย ‘ผู้อาวุโส’ ยังต้องช่วยเหลือเกื้อกูล ‘คนรุ่นใหม่’ เพื่อให้มีกำลัง ไม่เป็นภาระสังคม

สังคมไทย สังคมแห่งการเกื้อกูล สังคมที่ยังไงๆ ผู้ใหญ่ ผู้อาวุโส ก็ไม่สามารถทอดทิ้งต้นอ่อนที่กำลังจะเติบโตในอนาคตได้ แม้เขาจะเป็นอย่างไรในวันนี้ก็ตาม
 

‘วอลเลย์บอลหญิงไทย’ ผงาด!! พลิกเอาชนะ ‘จีน’ 3-2 เซต  เขี่ยอดีตแชมป์ 4 สมัยตกรอบ ในศึกชิงแชมป์โลก ที่ฮังการี

(8 ส.ค. 66) การแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง U-19 ชิงแชมป์โลก ที่ประเทศฮังการี รอบ 16 ทีมสุดท้าย ทีมไทยในฐานะทีมอันดับ 4 ของกลุ่ม C พบ จีนทีมแชมป์จากกลุ่ม A ที่ยังไม่เสียเซตให้กับคู่แข่งเลยในทัวร์นาเมนต์นี้ ไทยเสียเปรียบเรื่องรูปร่างเพราะผู้เล่นจีน ทุกคนล้วนสูงกว่าทั้งนั้น

เริ่มเกม สาวไทยสู้ได้ดี ผลัดกันทำคะแนน ทั้งตบ ทั้งบล็อก สลับกับจีนได้อย่างสูสี จนต้องเล่นกันถึงช่วง ดิวซ์ ที่ก็ยังสูสี คู่คี่ เล่นกันเกิน 30 คะแนน ก่อนสาวไทย แพ้ไปก่อน 31 - 33

เซตที่ 2 เหมือนสาวไทยพลังหมด ประกอบกับการตบ ที่กว่าจะผ่านบล็อกสูงใหญ่ของ ผู้เล่นจีนแต่ละแต้มได้ ยากเหลือเกิน ทำให้แพ้ไปอีกในเซตที่ 2 คะแนน 16 - 25 พอมาถึงเซตนี้ใคร ๆ ต่างก็มองว่า สาวจีน น่าจะชนะ ไทย แล้ว

แต่อีก 2 เซตต่อมาทีมสาวไทย กลับมาเร่งเครื่อง ทั้งตบ ทั้งบล็อก กลับมาเอาชนะสาวจีน ได้แบบ สกอร์ ค่อนข้างขาดเลย 25 - 16 และ 25 - 17

เซตที่ 5 เซตตัดสิน ทีมสาวไทยก็ยังออกมาทำคะแนนได้อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ จีน กลายเป็นว่า กดดันตัวเอง ตีเสียเองบ่อยครั้งก่อนที่สุดท้าย ทีมไทย จะเอาชนะในเซตตัดสิน 15-12 พลิกแซงเอาชนะ จีน ไปแบบเหลือเชื่อ 3-2 เซต เขี่ยอดีตแชมป์รายการนี้ 4 สมัยตกรอบ

สถิติเกมนี้ ทีมไทยทำคะแนนจากการตบถึง 69 คะแนน ในขณะที่ จีนทำไปแค่ 64 เท่านั้น โดยกาญจนา ศรีใสแก้ว เป็นผู้เล่นไทยที่ทำแต้มสูงสุดในเกมนี้ ทำไป 30 คะแนน ตบ 25,บล็อก 2, เสิร์ฟเอซ 3 และวริศรา ศรีทาเลิศ ทำเพิ่มอีก 25 คะแนน

ทำให้ ทีมสาวไทยเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย วอลเลย์บอลหญิง U-19 ชิงแชมป์โลก โดยจะไปพบกับ โครเอเชียที่ชนะ โปแลนด์มา 3-2 เซต ในวันที่ 9 ส.ค.นี้

ส่วนวอลเลย์บอลหญิงชุดใหญ่ ก็ได้เดินทางจากเวียดนาม ไปที่ จ.เชียงใหม่ แล้ว เพื่อเตรียมแข่งขัน ซีวีลีก สนาม 2 ที่จะแข่งขัน 11 - 13 ส.ค.นี้

นัดแรกวันที่ 11 ส.ค.เวลา 18.00 น. ไทย พบ ฟิลิปปินส์
วันที่ 12 ส.ค.เวลา 18.00 น. ไทย พบ อินโดนีเซีย
วันที่ 13 ส.ค.เวลา 18.00 น. ไทย พบ เวียดนาม


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top