Friday, 16 May 2025
NewsFeed

ผบ.ฉก.นราธิวาส นำกำลังพล พร้อมทั้ง เครื่องมือ ยุทธโทปกรณ์ทางทหาร บูรณาการปฎิบัติร่วมกับทุกภาคส่วน เร่งให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลตรี เฉลิมพร  ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส พร้อมกับ คุณสมฤดี ขำเขียว ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองพลทหารราบที่ 15 และกำลังพลจิตอาสา รุดเดินทางลงพื้นที่เกิดเหตุโกดังเก็บประทัด และดอกไม้ไฟ ระเบิด ในพื้นที่ ตำบลมูโนะ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส จากกรณี เกิดเหตุระเบิดที่โกดังเก็บประทัดและดอกไม้ไฟระเบิด เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2566 เวลา 15.10 น. ที่ผ่านมา แรงระเบิดกระจายรัศมีเป็นวงกว้าง ทำให้มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บหลายราย บ้านเรือน ทรัพย์สิน และรถยนต์พังเสียหายจำนวนมาก จากเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมสั่งการหน่วยทหารในพื้นที่ เร่งให้ความช่วยเหลือ  บูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วน เน้นย้ำกำลังพล และเครื่องมือยุทโธปกรณ์ ต้องมีความพร้อม ในการประสานการปฏิบัติตลอด 24 ชั่วโมง โดยข้อมูลล่าสุดนั้น มีผู้เสียชีวิต 9 ราย รอพิสูจน์ฯ  2 ราย และได้รับบาดเจ็บ 111 ราย 

ทั้งนี้ พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว กล่าวว่า จากเหตุโกดังเก็บประทัด และดอกไม้ไฟ ระเบิด ในพื้นที่ ตำบลมูโนะ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส นั้น ได้สั่งการจัดกำลังพล และเครื่องยุทโธปกรณ์ทางทหาร มีความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตลอด 24 ชั่วโมง โดยการบรูณาการปฎิบัติร่วมกับทุกภาคส่วน ซึ่งอยู่ภายใต้การดำเนินการดูแลของ นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส โดย ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กรมทหารราบที่ 151 ได้ปฎิบัติตามนโยบาย ของพลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก และ พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ในเน้นย้ำให้หน่วยทหารทุกหน่วย ได้เตรียมความพร้อม ในการให้ความช่วยเหลือ บรรเทาสาธารณภัย ให้แก่ผู้ประสบภัยในทุกรูป ซึ่ง ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กรมทหารราบที่ 151 จัดรถครัวสนามพระราชทาน จำนวน 1 คัน ประกอบเลี้ยงอาหารให้แก่ผู้ประสบภัย ,รถยนต์  FTS จำนวน 3 คัน 

ซึ่งเป็นรถยนต์ขนาดใหญ่เข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ขนย้ายประชาชน พร้อมทั้งทรัพย์สิน อพยพเข้ามายังศูนย์พักพิง , จัดกำลังพล ชุดปฎิบัติการจิตอาสาฯ  จากกรมทหารราบที่ 151 และ หน่วยขึ้นตรง จำนวน 50 นาย  ทำหน้าที่อำนวยการความสะดวก และให้การช่วยเหลือกับพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่เกิดเหตุ และศูนย์พักพิง (ศูนย์กีฬาองค์การบริหารส่วนตำบลมูโนะ ), รถบรรทุกน้ำ จำนวน 1 คัน ให้บริการน้ำแก่ผู้ประสบภัย ,ชุดทหารช่าง จำนวน 5 ชุดปฎิบัติการ พร้อมเครื่องยุทโธปกรณ์ในการวางแผน รื้อถอน ซากสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ก่อนจะพร้อมทำการเร่งปลูกสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ให้กับผู้ประสบภัย  พร้อมทั้ง ได้เน้นย้ำให้พี่น้องประชาชนให้ดูแลตัวเอง หากต้องการความช่วยเหลือสามารถแจ้ง หรือร้องขอความช่วยเหลือไปยังเจ้าหน้าที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ตลอดจนได้ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ และกำลังพลที่ปฎิบัติหน้าที่ ช่วยเหลือประชาชน โดยกล่าวว่า “ พวกเราคือ ครอบครัวเดียวกัน เราจะไม่ทิ้งกัน” ในสถานการณ์ที่พี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อน เช่นนี้ “ทหารเป็นต้องที่พึ่งให้กับประชาชนในทุกโอกาส”

'สุกัญญา มิเกล' ลั่น!! อีก 4 ปี ค่อยจ่ายภาษี จ่ายแล้วไม่ได้ประโยชน์

เมื่อวานนี้ (31 ก.ค. 66) ดารานักร้องเสียงห้าว สุกัญญา มิเกล มาร่วมพิธีบวงสรวง ซีรีส์ High School Bully ที่ ม.กรุงเทพ รังสิต หลังจากเสร็จพิธีกรเจ้าตัวได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องที่ตั้งแต่ออกมาคอลเอาท์ก็โดนบูลลี่หนัก

ทุกวันนี้ยังโดนบูลลี่อยู่มั้ย? “ก็ยังมีเรื่อยๆ นะ เราอยู่ในโหมดกีฬาสีเหลืองแดงนี่โดนประจำ อยู่ทางไหนอีกฝั่งก็ถล่ม เป็นเรื่องปกติ”

พอก้าวผ่านมาได้แล้วยังเจ็บปวดอยู่มั้ย? “นี่ไปบำบัดจิตมานะ ถ้าไม่ไปบำบัดจิตน่าจะไม่ดีขึ้น แต่ก็ยังเหลือเชื้อบ้าง บางอย่าง คือพอดีมีครูลี่เป็นนักบำบัดไปเรียนมาจากต่างประเทศ เราก็เลยได้ไปอยู่ 3 ครั้ง เหมือนเข้าคอร์สสำหรับเคลียร์จิตใต้สำนึกเลย

หลังจากนั้นเราก็รู้สึกว่าเรามองหาสิ่งที่เป็นข้อดีของตัวเรา ดังนั้นเวลาที่เขาบูลลี่หรือด่าเรา เราจะไม่รู้สึก เพราะมันไม่ใช่ความจริง สิ่งที่เป็นจริงคือสิ่งที่เรารู้อยู่ว่าเราทำอะไร และตั้งมั่นว่าเรารับรู้อย่างชัดเจนว่าเราทำอะไร และเราทำเพื่ออะไร มันเป็นผลร้ายหรือผลดีกับใคร

พอเรารับรู้แล้วมันก็เป็นเสียงภายนอก เป็นมุมมองของแต่ละคน ซึ่งเราก็เคารพ ก็ว่าจะฟ้องหลายทีแล้ว แต่ยังไม่กล้าฟ้องใครเลย ชาวเน็ตนี่แหละ พอไปดูโปรไฟล์แล้วแต่ละคนก็น่าสงสารพอๆ กับเราเลย (หัวเราะ)”

พอเราออกมาคอลเอาท์เรื่องการเมืองบ่อยๆ โดนหนักเลยมั้ย? “ก็โดนหนัก เรื่องของงานบางทีบางคนก็อยากได้งานจากเรา แต่พอบรรดาผู้บริหารเห็นก็ไม่เอาก็มี หรือบางร้านที่อยากเอาเราไปเล่นก็กลัวว่าฝั่งตรงข้ามจะมาสร้างปัญหาภายในร้าน ก็เลยไม่เอาเราไปเล่นก็มี”

คิดจะเพลาๆ ลงมั้ย? “เพลาเพื่อ เรายังจ่ายภาษีอยู่ ถ้าไม่จ่ายและมันไม่เอาภาษีเราแล้ว เราจะหยุด บอกว่าไม่จ่ายแล้วไม่ผิดเราจะหยุดเลย อย่างเลือกตั้ง 4 ปีครั้งนึงเนี่ย กะว่าอีก 4 ปีค่อยจ่ายภาษี เพราะจ่ายไปแล้วมันไม่ได้ประโยชน์อะไร เลือกไปแล้วไม่ได้มา”

ตอนนี้สภาพจิตใจกลับมา 100% หรือยัง? “ค่อนข้าง 100 จะมีบางช่วงที่เครียดมากๆ พอเครียดมากๆ อาการดิ่งก็จะกลับมา แต่ดิ่งล่าสุดคือเกี่ยวกับเรื่องชีวิต เรื่องที่อยู่อาศัย แต่มันน้อยมากเลยถ้าเทียบกับเมื่อก่อนนี้จะเป็นตลอดเวลา เรียกว่าเป็นโรคซึมเศร้าขั้นรุนแรง

แต่คนข้างนอกไม่รู้ เพราะเราไม่เคยไปบอกใคร และเวลาที่ไปออกทีวีมีรายการมาเชิญไป เราก็ทำตามหน้าที่ที่เขามีเป้าหมายให้เราไปออก ดังนั้นเราก็เลยไม่เคยแชร์สิ่งที่มันเป็นความจริงของเราเลย

ดังนั้นคนภายนอกก็จะไม่รู้ว่าเกิดสถานการณ์อะไรกับเราบ้าง และเราก็มองว่าคนรุ่นวัยเรา ศิลปินไม่ได้มีหน้าที่มาร้องโวยวายหรือเรียกร้องอะไร มีหน้าที่คือมีงานมาก็ทำตามหน้าที่ และเวลาเจอแฟนคลับ เราดูแลเขา เราให้ความสุขกับเขา ไม่ใช่เอาความทุกข์ของเรามาให้เขาแบบ เราคิดแบบนี้นะ ดังนั้นก็เลยไม่ค่อยมีใครรู้ว่าเราเจออะไรมาบ้าง”

เรื่องที่อยู่อาศัยคือยังไง? “คือเวลาที่เราไปเป็นฝั่งประชาธิปไตย แล้วเขาไม่พอใจ ก็อยากให้เราออกเร็วๆ ก็ไม่เป็นไร อันนั้นเรื่องของเรา ตอนนี้ก็กำลังทำเรื่องเคลียร์อยู่ ต้องเป็นไปในทางที่ดีสิ (ยิ้ม)”

แฟนหรือคนรอบข้างมีส่วนช่วยมั้ย? “ช่วยมากนะ ลูกชายจะคอยฮีลใจเรา เวลาที่เราย่ำแย่ เขารู้แหละ พอเรามีสถานการณ์ที่เริ่มบีบเรา เขาก็จะมาบอกว่าหม่ามี้ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวมันต้องผ่านไปนะ เขาจะคอยทำเรื่องตลกๆ ให้เราสบายใจ คือไม่ทำตัวสร้างปัญหาให้เราเครียดมากขึ้น

อันนี้ก็เป็นสิ่งที่ลูกช่วยแม่ได้ ลูกชายตอนนี้ก็วัยรุ่นแล้ว 14 แล้ว เขาเข้าใจมาตั้งแต่ 6-7 ขวบแล้วแหละ เวลาเราถามเขาว่าหนูรู้สึกแย่มั้ย เขาก็จะบอกว่าผมไม่ๆ อย่างนึงเขาอาจจะรู้สึกแหละบางเรื่อง แต่เขาก็พยายามจะแข็งแรงเพื่อเรา”

‘เต๋า เศรษฐพงศ์’ ฟินจัด!! หลังร่วมทานอาหารกับนักเตะ ‘เลสเตอร์’ การันตี!! ทุกคนเฟรนด์ลี่มาก แถมยังได้ลายเซ็นมาประดับอีกด้วย

(1 ส.ค. 66) เรียกว่าทำเอาพระเอกหน้าใน ‘เต๋า เศรษฐพงศ์’ ปลื้มปริ่มสุดๆ หลังเจ้าตัวได้มีโอกาสไปร่วมชมนิทรรศการของสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ที่ตึก คิงเพาเวอร์ มหานคร โดยช่วงท้ายของงานได้มีการจับ Lucky Draw โดยมี ‘เจมี วาร์ดี’ ศูนย์หน้าดาวยิง จากเลสเตอร์ซิตี้  ร่วมจับรางวัล ได้หมายเลขของเต๋า ทำให้เจ้าตัวมีโอกาสได้นั่งทานข้าวร่วมกับนักเตะ เลสเตอร์ ซิตี้ แบบครบทีม 

อีกทั้งในระหว่างที่รออาหาร หนุ่มเต๋า ได้นำเสื้อทีมฟุตบอลไปขอลายเซ็นกับนักเตะทุกคนและโค้ช ‘เต๋า เศรษฐพงศ์’ ได้แชร์โมเมนต์สุดประทับใจ ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว ซึ่งในคลิป เจ้าตัวเล่าว่า "แฮปปี้สุดๆ เพราะนักเตะทีมนี้เฟรนด์ลี่ เป็นกันเองมาก ตอนที่เดินเข้าไปขอลายเซ็น และขอเซลฟี่ ทุกคนยิ้มแย้มเป็นกันเองมากๆ"

‘ณวัฒน์’ ฟาดเดือด!! ปม ‘น้ำเพชร’ ขอให้ลบภาพจำมิสแกรนด์ ขีดเส้นตาย สั่งลบทุกอย่างให้หมดภายในวันนี้ ไม่งั้นเตรียมจ่าย

(1 ส.ค.66) กลายเป็นประเด็นร้อน หลังจากที่ ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ได้โพสต์ไอจีสตอรี่ฟาดถึงนางงามคนหนึ่ง ที่ประกาศ อยากจะลบภาพจำการเป็นมิสแกรนด์ แบบเจ็บจี๊ดว่า “เนรคุณแบบออกนอกหน้า”, “PD และผู้เกี่ยวข้องทุกจังหวัด ห้ามเชิญนางงามที่อยากลบภาพจำมิสแกรนด์ ขนาดต้องยืนแกล้งร้องไห้คนนั้นมาร่วมงานเด็ดขาด เพราะเป็นตัวอย่างที่ไม่เหมาะสมกับคนที่กำลังทำการประกวด” และ “การจะลบชื่อผู้ให้กำเนิด เปรียบเสมือนคนที่ไม่อยากให้ใครรู้ว่าพ่อแม่คือใคร”

โดยล่าสุดที่เพจ ณวัฒน์ อิสรไกรศีล - Mr.Nawat Itsaragrisil ก็ได้มีการโพสต์ประกาศจาก บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์นชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ถึง น้ำเพชร อิสรีย์ ธรากูพิพัฒน์ มิสแกรนด์นครสวรรค์ 2022 ทั้งยังใส่แคปชันไว้ว่า

“ให้ลบทุกอย่าง รวมถึงรูปคู่กับมิสแกรนด์ที่ยังมีสัญญาอยู่กับทางบริษัท เช่น รูปคู่กับชาล็อต ให้เสร็จสิ้นไม่เกินเวลา 14.00 น. ของวันนี้ (1 ส.ค.66) หากหลังจากเวลานี้หมายถึงยินดีชำระค่าลิขสิทธิ์เสียค่าใช้จ่ายทุกกรณีหากถ้ายังมีการปรากฏอยู่

จึงประกาศต่อสาธารณะเพื่อเป็นหลักฐานทางกฏหมาย” 

เหตุผล สั้น ๆ ที่นักการเมือง 'กลัว' รัฐธรรมนูญ 2560

ถูกปลุกปั่นให้กลายเป็นกฎหมายเผด็จการ แต่หากมองเหตุผลอย่างถ่องแท้ ก็เพราะรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 สร้างความ 'หวาดกลัว' ต่อบรรดานักการเมือง จนต้องต้องหาแนวร่วม 'ประชาชน' มาช่วยกัน 'ล้มล้าง' ให้สิ้น

อ้างอิง : ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 10 ก.ย. 2563 

‘ไผ่ ลิกค์’ ชงญัตติเข้าสภาฯ ตั้ง กมธ.พิจารณาบุหรี่ไฟฟ้า ชี้!! ต้องมีกฎหมายรองรับ หลังเยาวชนเริ่มใช้อย่างแพร่หลาย

(1 ส.ค. 66) นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า ในขณะนี้สภาผู้แทนราษฎรได้บรรจุญัตติด่วนที่ตนเสนอไป เพื่อขอให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาผลประโยชน์ของการมีกฎหมายควบคุมกำกับบุหรี่ไฟฟ้าแล้ว โดยตนเห็นว่า ปัจจุบันบุหรี่ไฟฟ้าเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น แต่ยังไม่มีกฎหมายรองรับและวิธีรับมือกับการบริโภค และการนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า แต่สภาพความเป็นจริงเราสามารถพบเห็นการใช้บุหรี่ไฟฟ้าอย่างแพร่หลาย มีการนำเสนอเพื่อผลกำไรผ่านทางช่องทางสื่ออินเทอร์เน็ต โดยไม่มีการเสียภาษีทำให้รัฐเสียประโยชน์ 

นายไผ่ กล่าวต่อว่า ในส่วนเกษตรกรผู้ปลูกใบยาสูบในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างได้รับผลกระทบจากปริมาณการรับซื้อลดลงอย่างมาก ทั้งจากมาตรการด้านสุขภาพและการลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า จนทำให้ราคาใบยาสูบตกต่ำมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งข้อมูลข้อดีข้อเสียของบุหรี่ไฟฟ้า โทษต่อสุขภาพของบุหรี่ไฟฟ้า ยังเป็นที่สงสัยว่าเป็นโทษต่อร่างกายมากน้อยเพียงใด 

"ผมจึงขอเสนอให้สภาฯ มาศึกษา และวางแนวทางเพื่อออกกฎหมายในการกำกับดูแลบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเร่งด่วน เพราะขณะนี้เด็กและเยาวชนมีการใช้การอย่างแพร่หลาย ทั้งที่แนวทางบุหรี่ไฟฟ้าของประเทศไทย ยังไม่มีงานวิจัยที่สามารถยืนยันได้อย่างแน่ชัดว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวนหรือไม่ มีแต่การกล่าวอ้างว่า ไอของบุหรี่ไฟฟ้าส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและโรคมะเร็ง ซึ่งถือเป็นประเด็นที่น่าเป็นห่วงถึงผลกระทบต่อสุขภาพจากบุหรี่ไฟฟ้า จึงต้องมีการออกมาตรการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้น" นายไผ่ กล่าว

เผยความจริง ‘ในหลวงรัชกาลที่ 10’ ทรง 'สืบสาน-รักษา-ต่อยอด' ตามรอยพระราชปณิธานในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อปวงชนชาวไทย

(1 ส.ค. 66) ผู้ใช้ TikTok บัญชี @user4667894730230 ได้แชร์คลิปวิดีโอเกี่ยวกับ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงปิดทองหลังพระและทรงทำงานอย่างเงียบๆ มาโดยตลอด เพื่อให้เข้าถึงประชาชนให้มากที่สุด ไม่ว่าที่แห่งนั้นจะทุรกันดารแค่ไหน ตามพระราชปณิธาน ‘สืบสาน รักษา ต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป’ โดยในคลิปได้ระบุว่า…

ส่วนใหญ่คนที่อ้างว่า ‘ในหลวงรัชกาลที่ 10’ ไม่เห็นทําอะไรเลย เราต้องดูว่าท่านขึ้นครองราชย์เป็นรัชกาลปัจจุบันมาแล้วกี่ปี หากจะไปเปรียบเทียบกับรัชกาลที่แล้วของพ่อท่าน ก็คงไม่ได้ เพราะสิ่งที่ท่านทํา ท่านได้เคยพูดเอาไว้แล้วตั้งแต่วันนั้น คือ ‘การสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป’ ซึ่งขณะนี้ท่านก็ได้ทรงต่อยอดอยู่ ไม่ว่าจะเป็น โครงการเกษตรวิชญา, โครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่ แก้ปัญหาภัยแล้ง, โครงการก่อสร้างระบบประปาบ้านผัง 16, โครงการฝายห้วยโสกรังพร้อมระบบส่งน้ำ ซึ่งโครงการเหล่านี้ที่เราได้นำเสนอมา คือโครงการในรัชกาลปัจจุบันที่พระองค์ท่านทรงทําและริเริ่มขึ้นมาในสิ่งที่ประชาชนเดือดร้อนจริงๆ แล้วพวกเราเดือดร้อนเรื่องอะไร? ดูได้จากเรื่องน้ำ ตรงไหนที่แห้งแล้ง น้ำก็ไปถึงประชาชน จนสามารถอยู่ดีกินดี และมีน้ำใช้ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อเลี้ยงสัตว์ หรือทําการเกษตร มีฝาย มีโคกหนองนา เคยรู้หรือเปล่าว่าสิ่งเหล่านี้คือของในหลวงรัชกาลที่ 10 หากศึกษาให้ดี ยังสามารถลองเอามาปรับใช้ในชีวิตจริงได้อีกด้วย อย่างน้ำบาดาล ภาคอีสาน และภาคกลาง ที่ไหนแห้งแล้งน้ำก็ไปถึง จนสามารถทําการเกษตรได้แบบที่เปลี่ยนไปเลย จากที่ทําแล้วเก็บเป็นรายปีไป ตอนนี้สามารถทําได้ทุกวันแล้ว

“ทุกวันนี้สบายกันเร็ว ตั้งแต่มีโครงการพระราชดําริเข้ามา ทำให้เราเลือกกินเลือกใช้ได้ จนสามารถใช้คําว่าสบายได้เลย” ชาวบ้านท่านหนึ่ง ได้กล่าว

นอกจากนี้ยังสามารถต่อยอดทางด้านอาชีพได้อีกด้วย จากสิ่งที่เห็นในรัชกาลปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นน้ำบาดาล ทําฝาย โคกหนองนา หรืออื่นๆ สำหรับคนที่มองว่าในหลวงรัชกาลที่ 10 ไม่ทําอะไร อยากให้ไปดูและท่านจะได้เบิกเนตรว่าของจริงเป็นแบบนี้ ถ้าไม่รู้จริงๆ ไม่ควรพูด และไม่เปรียบเทียบดีกว่า เพราะสิ่งที่ได้เห็นจากการไปลงพื้นที่ และคิดว่าหลายๆคนอาจยังไม่ทราบ อย่างโครงการน้ำบาดาล ที่จังหวัดกาญจนบุรี ในหลวงรัชกาลที่ 10 ทรงเสด็จเปิดพิธีเอง แต่หากพูดถึงเรื่องน้ำอยากจะบอกว่ามันชัดเจนมากสำหรับบ้านเราในหลายๆที่ที่ขาดแคลนน้ำ ทั้งนี้ ยังมีเหตุการณ์ที่ในหลวงรัชกาลที่ 10 ทรงเสด็จไปถึง แล้วไปดูว่าประชาชนได้เขียนจดหมายถึงในหลวงว่าพวกเขาเดือดร้อนอะไรกันบ้าง แล้วท่านก็รับทราบปัญหานี้ ซึ่งก็อยู่ในพระเนตรพระกรรณมาตลอด จากนั้นท่านก็ทรงแก้ปัญหาให้ 

หลังจากนั้นได้มีชาวบ้านต่างเล่าว่าพระองค์จะคอยส่งคนถวายฎีกามาเฝ้าติดตามและมาสอบถามเสมอ “ที่นี่ดีขึ้น เพราะว่าโครงการทำให้ ไม่ว่าอะไรท่านก็ทำให้หมด”

มันมีคนดื้อด้านที่ไม่ยอมรับ ประมาณว่าในหลวงรัชกาลที่ 9 ทํามาเยอะแล้ว 4 พัน 5 พันโครงการ ใช่…คุณรู้แค่นั้น แต่รัชกาลปัจจุบันท่านทํา คุณไม่รู้ไง…เพราะท่านทรงทําผ่านโครงการต่างๆ

“มีพื้นที่ทําในหมู่บ้านแล้วไม่ต้องไปที่ไหน เราสามารถสร้างอาชีพ สร้างรายได้ในหมู่บ้านได้เลย ที่สําคัญเกษตรกรจะมีรายได้ตลอดหมุนเวียน” ทั้งนี้ ได้มีชาวบ้านท่านหนึ่ง เอ่ยพร้อมน้ำตาที่ซึมว่าตนนั้นรักพระมหากษัตริย์มากแค่ไหน 

“เพราะพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสืบสาน รักษา ต่อยอด และทรงทํางานอย่างเงียบๆ แต่เข้าถึงความต้องการของคนไทย ไม่ว่าจะถิ่นทุรกันดารแค่ไหน ในหลวงก็ไปถึง”

'ชัยวุฒิ' ปัดตอบ!! สูตรรัฐบาล 265 เสียง 'ไร้กก.-พรรค 2 ลุง' ชี้!! การเมืองเป็นเรื่องตัวเลข ทำให้เกิดได้หลายสูตร

(1 ส.ค. 66) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวพรรคเพื่อไทย เตรียมตั้งรัฐบาล 265 เสียง โดยไม่มีพรรคก้าวไกล และพรรค 2 ลุง คือ พรรค พปชร. และรวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ว่า...

สูตรการเมืองมีได้หลายสูตร เกิดได้จากหลายกลุ่มหลายคน และเกิดได้ทุกสูตร เพราะการเมืองเป็นเรื่องของตัวเลข แต่ต้องรอดูว่าพรรคเพื่อไทย ที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จะสรุปออกมาอย่างไร และเวลานี้ยังไม่รู้จะชัดเจนอย่างไร ยังตอบไม่ได้ว่าสูตรดังกล่าวจะเกิดได้หรือไม่ 

ผู้สื่อข่าวถามว่าหากเป็นสูตรดังกล่าว พรรคพปชร.มีแนวทางที่จะยกมือโหวตนายกรัฐมนตรี จากพรรคเพื่อไทย ในวันที่ 4 ส.ค.นี้ อย่างไร นายชัยวุฒิ กล่าวว่า เรื่องนี้คงต้องมีการพูดคุยกันในพรรค พปชร.ก่อน และต้องรอดูท่าทีของพรรคเพื่อไทย ที่จะหาหารือกับ 8 พรรคร่วมรัฐบาลในวันที่ 2 ส.ค.นี้ จะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนออกมาเป็นอย่างไร เวลานี้ยังไม่รู้ว่าจะจบอย่างไร และเสียงสนับสนุนในสภามีเพียงพอหรือไม่

เมื่อถามว่า หากตั้งรัฐบาล 265 เสียงโดยไม่มีพรรค 2 ลุง รวมถึงพรรคก้าวไกล จะลดแรงต้านของสังคม ทั้งฝ่ายสนับสนุนพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ต้องถามว่าสังคมไหน สังคมของใคร เพราะในสังคมก็มีหลายกลุ่ม หลายฝ่าย ตนไม่ทราบว่าจะลดแรงเสียดทานสังคมหรือไม่ เพราะสังคมก็มีหลายกลุ่มที่มีเป้าหมายต่างกัน ดังนั้นต้องรอให้มีเหตุการณ์ตามที่มีกระแสคาดการณ์เกิดขึ้นก่อน

'พล.ต.อ.รอยฯ /ผอ.ศจร.ตร.' กำชับตำรวจจราจรทั่วประเทศเตรียมพร้อมดูแลประชาชน ที่เริ่มทยอยเดินทางกลับ อำนวยความสะดวกจราจร ขอ ปปช.ให้ความร่วมมือ ขับขี่ด้วยความไม่ประมาท และให้ใช้ความระมัดระวังในการขับขี่เป็นพิเศษเนื่องจากในห้วงนี้ มีฝนตกหนักและถนนเปียกลื่น

วันนี้ (1 ส.ค.66) พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศจร.ตร.) เปิดเผยว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการกำชับให้ดูแลอำนวยความสะดวกด้านการจราจรแก่พี่น้องประชาชนที่ใช้เส้นทางการจราจรในการเดินทางกลับหลังจากวันหยุดต่อเนื่อง โดยวันนี้เป็นวันหยุดวันที่ 5 แล้ว ทั้งประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนา และที่เดินทางออกไปท่องเที่ยวตามต่างจังหวัด ต่างเริ่มทยอยเดินทางกลับที่พัก ทำให้การจราจรมีปริมาณรถหนาแน่น สภาพการจราจรโดยรวมบนถนนสายหลักในหลายพื้นที่ติดขัดเป็นบางช่วง จึงกำชับตำรวจจราจรทั่วประเทศ พร้อมอำนวยความสะดวกจราจร ป้องกัน เเละลดอุบัติเหตุทางถนนของประชาชนในพื้นที่ ขอให้ประชาชนตรวจสอบความพร้อมของร่างกาย สภาพรถและตรวจสอบเส้นทางก่อนออกเดินทางเพื่อความปลอดภัย ประกอบกับมีประกาศเตือนของ กรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งวันที่ 1 – 2 ส.ค.2566 นี้มีฝนตกหนักเกือบทั้งประเทศ ซึ่งอาจจะทำเป็นปัจจัยเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุทางถนนได้ เนื่องจากทัศนวิสัยในการขับขี่จะลดลงเนื่องจากสภาพอากาศที่มีฝนตกหนัก ถนนมีสภาพเปียกลื่น ขอให้พี่น้องประชาชนใช้ความระมัดระวังในการขับขี่เป็นพิเศษด้วย หากต้องขับขี่ยานพาหนะขณะที่เกิดฝนตกหนักดังกล่าวตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งเตือน  ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงเน้นในการจับกุมเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุใน 10 ข้อหาหลัก ได้แก่ 
1. ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด
2. ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร
3. ขับรถย้อนศร
4. ไม่พกพาใบขับขี่
5. ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย
6. แซงในที่คับขัน
7. ขับขี่รถขณะเมาสุรา
8. ไม่สวมหมวกกันน็อก
9. ใช้รถมอเตอร์ไซค์ที่ไม่ปลอดภัย
10. ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ

ด้าน พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร ศจร.ตร. กล่าวว่า ตามที่ ผบ.ตร. ได้ออกข้อบังคับหัวหน้าเจ้าพนักงานจราจรทั่วราชอาณาจักร เพื่อกำหนดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงใช้ในการเปิดช่องทางพิเศษ เร่งระบายรถให้กับพี่น้องประชาชนในการเดินทางในห้วงวันหยุดยาว (28 ก.ค. – 2 ส.ค.66) นั้น เบื้องต้นกองบังคับการตำรวจทางหลวง มีความพร้อมในการปฏิบัติตามข้อบังคับดังกล่าว และหากในถนนมิตรภาพ ถนนพหลโยธิน และถนนสายเอเชีย มีปริมาณรถมากในช่วงใด เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ก็จะดำเนินการเปิดช่องทางพิเศษ เพื่อเร่งระบายรถให้พี่น้องประชาชนได้รับความสะดวกมากขึ้นในการเดินทาง 

นอกจากนี้ข้อมูลสถิติจากศูนย์ข้อมูลอุบัติเหตุทางถนน (https://www.thairsc.com/) พบว่าในห้วงวันหยุดที่ผ่านมานั้นตั้งแต่วันที่ 27 – 31 ก.ค.66 มียอดผู้เสียชีวิตสะสมแล้วถึง 153 ราย และเมื่อวาน (31 ก.ค.66) วันเดียว มียอดผู้เสียชีวิตถึง 45 ราย บาดเจ็บ 2,173 ราย สาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุก็คือ ขับรถเร็ว หลับใน ขับรถตัดหน้า/เปลี่ยนช่องทางเดินรถ(เลน)ในระยะกระชั้นชิด และเมาแล้วขับ ในส่วนการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจในความผิดฐานเมาแล้วขับ ตั้งแต่วันที่ 27 – 31 ก.ค.66 มียอดจับกุมสะสม 958 ราย ขอแจ้งเตือนประชาชนว่าหากท่านขับขี่รถในขณะเมาสุราและเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุแล้วมีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตนั้น จะมีความผิดต้องระวางโทษจำคุกสูงสุดถึง 10 ปี ปรับ 200,000 บาท และจะต้องถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับรถในทันทีอีกด้วย  

ทั้งนี้หากเกิดอุบัติเหตุ หรือเหตุฉุกเฉินต้องการความช่วยเหลือ ประชาชนสามารถสอบถาม แจ้งขอความช่วยเหลือ และแจ้งเหตุขัดข้องด้านการจราจร ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ที่
โทร. 191 จราจรทุก สน./สภ.
โทร. 1197 สายด่วนตำรวจจราจรในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล
โทร. 1193 ตำรวจทางหลวงทั่วประเทศ

ในห้วงหยุดยาวนี้ ขอให้ประชาชนทุกท่านขับขี่ด้วยความระมัดระวัง เคารพกฎจราจร มีน้ำใจกับเพื่อนร่วมทาง เดินทางท่องเที่ยว และกลับภูมิลำเนาโดยสวัสดิภาพ ด้วยความห่วงใยจาก ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

นักแสดงหนุ่มรุ่นใหญ่!! 'บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์' ชวนดารานักแสดงช่อง 7 และพุทธศาสนิกชน เข้าวัดทำบุญขอพร 'พระครูแจ้' ในวันอาสาฬหบูชา

ที่วัดบางพลีใหญ่กลาง ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ นายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ดารานักแสดงชื่อดังและนักสังคมสงเคราะห์ พร้อมด้วย นายชนะพล สัตยา ดารานักแสดง ช่อง 7 สี และเหล่าเพื่อนดารานักแสดงร่วมในพิธีทำบุญตักบาตร ถวายเป็นพุทธบูชา เนื่องในวันอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษา ประจำปี 2566 ณ วัดบางพลีใหญ่กลาง ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

โดยได้รับความเมตตา จากท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ (พระครูแจ้) เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง ประธานสงฆ์ พร้อมนำคณะสงฆ์วัดบางพลีใหญ่กลาง รับบิณฑบาตข้าวสาร อาหารแห้ง จากพุทธศาสนิกชน จากนั้น ท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง ได้แสดงพระธรรมเทศนาเนื่องในวันอาสาฬหบูชา ต่อมานำคณะสงฆ์วัดบางพลีใหญ่กลาง ประกอบพิธีเจริญชัยมงคลคาถา 

โดยมี นายฉะโอด รุ่งเรือง อดีตนายก อบต.บางพลีใหญ่ และไวยาวัจกร นายโสภณ มหาบุญ รองนายก อบต.บางพลีใหญ่ นายภูมินันท์ ขวัญเมือง อดีตรอง ผอ.สพป.เขต 2 สมุทรปราการ พ.ต.อ.กรวัฒน์ หันประดิษฐ์ อดีตรอง ผบก.ชลบุรี ดร.วีร์สุดา รุ่งเรือง นายก อบต.บางพลีใหญ่ ข้าราชการตำรวจ สภ.บางพลี และข้าราชการพลเรือน ตลอดจนพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดสมุทรปราการ ร่วมในพิธี

และสำหรับในช่วงบ่าย เวลาประมาณ 14.00 น. คณะสงฆ์วัดบางพลีใหญ่กลาง ร่วมประกอบพิธีเจริญชัยมงคลคาถาสวดปาติโมกข์ เนื่องในวันอาสาฬหบูชา จากนั้น ในช่วงเวลา 17.00 น. คณะสงฆ์วัดบางพลีใหญ่กลาง พร้อมด้วยพุทธศาสนิกชนและเหล่าดารานักแสดง ร่วมประกอบพิธีเวียนเทียนรอบพระอุโบสถ เนื่องในวันอาสาฬหบูชา อีกทั้ง เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัวอีกด้วย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top