Thursday, 10 July 2025
NewsFeed

'โฆษก บช.ทท.' ยืดอกไหว้ขอโทษประชาชน เหตุ ด.ต.เรียกรับส่วย ทำให้หน่วยเสียภาพลักษณ์ เผยสั่งต้นสังกัดตั้งกรรมการสอบ รอง สว.-สว. ฐานไม่ดูแลลูกน้อง

เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 65 ที่กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (บช.ทท.) พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (รอง ผบช.ทท.) ในฐานะโฆษกกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ยกมือไหว้กล่าวขอโทษประชาชนกับเหตุการณ์ ด.ต. ในสังกัดตำรวจท่องเที่ยวทำลายภาพลักษณ์ และสร้างความไม่พอใจให้กับประชาชน กรณีเรียกรับผลประโยชน์จากสถานบันเทิงในพื้นที่ สภ.บางใหญ่

ทั้งนี้ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเหตุการณ์จริง โดยวันเกิดเหตุคือวันที่ 7 ก.ค. ที่ผ่านมา ทางผู้บังคับบัญชาได้มีการสั่งการให้ ด.ต. รายดังกล่าว ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ บก.น.4-6 กทม.หรือในพื้นที่ เช่น สน.ประเวศ, สน.บางรัก, สน.ทองหล่อ แต่ปรากฏว่า ด.ต.นายดังกล่าวกลับนำรถยนต์สายตรวจตำรวจท่องเที่ยว หมายเลข 112 ขับไปยังพื้นที่ สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พร้อมกับนายมานัส สุขสม ผู้ต้องหาชาวสุพรรณบุรี ทำการเรียกรับผลประโยชน์กับสถานบันเทิงในพื้นที่ ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเข้าจับกุมพร้อมเงินของกลาง

สำหรับพฤติการณ์ของ ด.ต.รายนี้ พบว่ามีการอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง แต่มีการขับรถตำรวจท่องเที่ยวไปเรียกรับเงิน โดยมีการสวมใส่เสื้อกั๊กสีดำ มีตราตำรวจท่องเที่ยว ส่วนเครื่องแบบตำรวจถูกแขวนไว้ในรถสายตรวจ ร่วมกับนายมานัส ที่ขับรถเก๋งอีกคัน โดยนายมานัสจะอ้างว่าตนเองเป็นตำรวจท่องเที่ยวเข้าไปสมทบก่อเหตุ

สำหรับประวัติของ ด.ต. ภูวเมศร์ หิรัญวงศ์วราดล ผบ.หมู่ ส.ทท.1 กก.1 บก .ทท.2 อายุ 38 ปี เข้ารับราชการตั้งแต่ปี 2553 รวม 12 ปี โดยก่อนหน้านี้ได้ปฏิบัติหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ก่อนจะถูกโยกย้ายมาอยู่กรุงเทพเมื่อต้นเดือนมกราคม 2565 ซึ่งตอนแรกที่ย้ายมาได้ปฏิบัติหน้าที่สายตรวจ แต่ต่อมาถูกผู้บังคับบัญชามีคำสั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่ธุรการเมื่อวันที่ 11 มี.ค. 65 กระทั่งเดือน มิ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวมีการติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมาก ทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนกำลังพลเป็นครั้งคราวเพื่อช่วยงานออกตรวจ ทำให้ ด.ต.รายนี้มีโอกาสที่ใช้รถสายตรวจในการก่อเหตุ 

เหตุลอบยิง ‘อาเบะ’ สะท้อนรูรั่วสังคมญี่ปุ่น อนุรักษ์นิยมจัดๆ ที่อาจวัดรอยตาม ‘สหรัฐฯ’

เหตุการณ์สุดช็อกที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อ ‘ชินโซ อาเบะ’ อดีตนายกรัฐมนตรีที่ครองตำแหน่งนานที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล หลังจากที่เขาถูกยิงล้มลงขณะกำลังกล่าวสุนทรพจน์ช่วยพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ซึ่งเป็นพรรคแกนนำรัฐบาล หาเสียงบริเวณนอกสถานีรถไฟในเมืองนารา ช่วงเช้าวันนี้ (8 ก.ค.) นั้น กำลังถูกวิเคราะห์ถึงแนวทางการเมืองแบบอนุรักษ์นิยมจัด ๆ ในญี่ปุ่นที่กำลังก่อให้เกิดรูรั่วแก่สังคมจนเกิดเหตุการณ์น่าเศร้า ที่ควรต้องถูกแก้ไขอย่างรวดเร็ว

‘ดร.ปิติ ศรีแสงนาม’ ผู้อำนวยการศูนย์อาเซียนศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘Piti Srisangnam’ เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ในหัวข้อ ‘ญี่ปุ่นจะเปลี่ยนไปตลอดกาล’ โดยมีเนื้อหา ดังนี้...

ญี่ปุ่นคือสังคมที่สงบสุข ปลอดภัยสูง อัตราการเกิดอาชาญกรรมต่ำมาก การมีอาวุธในครอบครอง คือ เรื่องผิดปกติ การพกพาอาวุธในที่สาธารณะแทบจะไม่เคยเกิดขึ้น

'เต้' ฉายแสง!! แถลงห่วง 'บิ๊กตู' หวั่นโดนยิงเหมือน 'อาเบะ' แนะ!! ใช้ 4 หมื่นคนคุ้มกัน หรือถ้ากลัวก็อยู่เฉยๆ ที่ รอ.1

(8 ก.ค.65) ที่รัฐสภา นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ แถลงถึงกรณี ชินโซ อาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ถูกลอบยิง 3 นัด ขณะที่กำลังปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครสภาสูงประเทศญี่ปุ่น ว่า...นายชินโซ เป็นนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งมายาวนานที่สุดของประเทศญี่ปุ่น เป็นเวลาถึง 7 ปี 8 เดือน 27 วัน ตนอดนึกไม่ได้ว่าต้องเป็นห่วงนายกรัฐมนตรีไทย ซึ่งดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค. 2557 ตราบจนปัจจุบัน ระยะเวลาใกล้เคียงกับนายชินโซ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ 7 ปี 10 เดือน 11 วัน

นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อว่า ตนทราบมาว่านายกฯ ทั้งสองท่านมีความสนิทสนมกัน ในฐานะ ส.ส.ที่ประชาชนเลือกมา ตนมีความเป็นห่วงต่อนายกฯ ไทย เพราะช่วงนี้พล.อ.ประยุทธ์ลงพื้นที่หาเสียงบ่อย ไปในแต่ละจุดก็มีทั้งประชาชนที่ให้ความรักเป็นจำนวนพอนับได้ แต่ก็มีประชาชนที่ไม่รักเป็นจำนวนมากเช่นกัน จึงอยากให้ท่านระวังตัวนิดหนึ่ง เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ ขนาดนายกฯ ญี่ปุ่น ประชาชนธรรมดาซื้อลูกซองหัวตัดธรรมดายังยิงได้เลย

‘พงศกร - ประภัสร์’ หวนคอก ‘เพื่อไทย’ ร่วมดันแลนด์สไลด์อย่างถล่มทลาย

พรรคเพื่อไทย นำโดย นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมาและเลขาธิการพรรค, นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม.และโฆษกพรรค, นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ อดีต ส.ส.มหาสารคาม พร้อมกับแกนนำพรรคเพื่อไทย ให้การต้อนรับ นายพงศกร อรรณนพพร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการและอดีตประธานคณะกรรมการบริหารพื้นที่พรรคไทยสร้างไทย และนายพัชรกร อรรณนพพร บุตรชายนายพงศกร พร้อมนายประภัสร์ จงสงวน อดีตผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย อดีตผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยและอดีตผู้อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่า กทม. พรรคไทยสร้างไทย เข้าร่วมงานงานการเมืองกับพรรคเพื่อไทย 

นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย ซึ่งเชื่อว่าทั้งสองท่านจะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนพรรคเพื่อไทยให้เป็นความหวังและสร้างโอกาสให้พี่น้องประชาชน โดยเฉพาะนายพงศกร ที่จะเป็นกำลังสำคัญในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อไปสู่การแลนด์สไลด์ขอนแก่นในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง รวมไปถึงนายประภัสร์ ที่เป็นผู้มีความรู้ความสามารถทางด้านคมนาคมคนสำคัญ มาช่วยกันสร้างสรรค์นโยบายเพื่อพี่น้องประชาชน และสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นการส่งสัญญาณถึงผู้มีอำนาจว่าพรรคเพื่อไทยมีความพร้อม และมีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถที่จะนำพาอนาคตพี่น้องประชาชนและประเทศชาติไปสู่ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพื่อประโยชน์สูงสุดของพี่น้องประชาชน

‘ชินโซ อาเบะ’ อดีตนายกฯ แดนอาทิตย์อุทัย ผู้ครองตำแหน่งยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น

อาลัย ‘ชินโซ อาเบะ’ นายกรัฐมนตรีที่ครองตำแหน่งนานที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น กับช่วงเวลาดำรงตำแหน่งรวม 7 ปี 8 เดือน 27 วัน ถึงแก่กรรม ในวัย 67 ปี หลังถูกลอบยิงขณะกล่าวสุนทรพจน์

‘ชินโซ อาเบะ’ เกิด 21 กันยายน พ.ศ. 2497 ที่เมืองนางาโตะ จังหวัดยามางูจิ และได้ศึกษาด้านรัฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเซเกะ และศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย ในสหรัฐอเมริกา ภายหลังจบการศึกษา ได้ทำงานกับบริษัทโคเบะสตีล และได้ลาออกในปี 2525 เพื่อเข้ามาเล่นการเมืองต่อมาได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในจังหวัดยามากูชิ ซึ่งเดิมเคยเป็นของพ่อ 

หลังจากนั้นเขาก็มีความก้าวหน้าทางการเมืองตามลำดับ เริ่มจากหัวหน้าฝ่ายสวัสดิการสังคมของพรรค LDP ในปี 2542 ตามด้วยรองเลขาธิการพรรคในปีต่อมา และขึ้นมาเป็นเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ตำแหน่งเดียวกับพ่อในปี 2548 

ต่อมาในวันที่ 26 กันยายนปี พ.ศ.2549 ได้เป็นนายกรัฐมนตรีสมัยแรก แต่เพียงปีเดียวก็ต้องลาออก จากกรณีทุจริตของรัฐมนตรีเกษตร และทัศนะเกี่ยวกับสงครามโลกของรัฐมนตรีกลาโหมที่สร้างความไม่พอใจให้คนในประเทศ 

อย่างไรก็ตามอาเบะก็ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2555 และได้ประกาศยุบสภาในวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 ก่อนครบวาระตำแหน่ง เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 14 ธันวาคม 2557 และได้รับเลือกตั้งอีกครั้งจนในวันที่ 28 สิงหาคม 2563 อาเบะประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเนื่องจากลำไส้ใหญ่อักเสบมีแผล (Ulcerative colitis) และสุขภาพที่ไม่แข็งแรง นับว่าเป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นที่ครองตำแหน่งนานที่สุดในประวัติศาสตร์นานถึงหากนับรวมแล้วจะเป็นเวลา 7 ปี 8 เดือน 27 วัน ซึ่งความนิยมในตัวเขาขึ้นๆ ลงๆ แต่ยังคงดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ถึง 3 ครั้ง 

นอกจากนี้ “ชินโซ อาเบะ” ยังมีฉายาว่า "เจ้าชาย" เพราะมาจากตระกูลใหญ่ทางการเมืองในฐานะบุตรชายของนายชิน

นิตยสาร Forbes จัดอันดับ 50 มหาเศรษฐีไทย ประจำปี 2565

นิตยสาร Forbes จัดอันดับ 50 มหาเศรษฐีไทย ประจำปี 2565 โดยในปีนี้ ‘พี่น้องเจียรวนนท์’ แห่งเครือซีพี ยังครองแชมป์มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในไทยอีกสมัยไปด้วยทรัพย์สิน 2.65 หมื่นล้านเหรียญ หรือราว 9.33 แสนล้านบาท

Forbes รายงานว่า เนื่องจากภาคการท่องเที่ยวที่เป็นเครื่องยนต์หลักของเศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้นตัวกลับมาได้เนื่องจากโควิด-19 เศรษฐกิจที่ซบเซาทำให้ดัชนีหุ้นไทยปรับลดจากจากจุดสูงสุดลง 3%

ไม่เพียงเท่านั้น ตั้งแต่จากการอันดับมหาเศรษฐีไทยครั้งล่าสุด อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อหน่วยดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงถึง 12% ส่งให้มูลค่ารวมทรัพย์สินของมหาเศรษฐีไทยทั้ง 50 รายชื่อ ลดลงเกือบ 6% มาอยู่ที่ 1.51 แสนล้านเหรียญ หรือคิดเป็น 5.31 ล้านล้านบาท เมื่อเทียบกับการจัดอันดับปีที่ผ่านมา

สำหรับ 10 อันดับแรกของปีนี้ ยังคงมีการขึ้น-ลง สลับกันกับปีก่อนๆ ส่วนทั้ง 50 อันดับเป็นอย่างไรบ้าง คลิกดูได้ที่ https://www.forbes.com/lists/thailand-billionaires/?sh=56cd7d16223e

เปิด 3 แกนกลยุทธ์สร้างอนาคตให้เมืองไทย ในวันที่ ‘รบ.ประยุทธ์’ ทำสำเร็จแล้วหลายส่วน

'บิ๊กตู่' ปรับลุคใหม่ ปล่อยคลิปแถลงการณ์ 'กลยุทธ์ 3 แกน สร้างอนาคต' โชว์แผนนำไทยพ้นวิกฤติ 

นายกฯ ออกแถลงการณ์ ‘กลยุทธ์ 3 แกน สร้างอนาคต’ ปลุกคนไทยร่วมสู้วิกฤติอีกครั้ง ให้หลุดพ้นความจน สร้างความมั่งคั่งรุ่งเรือง ลั่นเป็นภารกิจนายกฯ ต้องทำให้เกิดขึ้นจริง เหน็บรบ.อดีตวางโครงการสวยหรูเก็บขึ้นหิ้งฝุ่นเกาะ ยอมรับนำเสนอไม่เก่งแต่รู้วิธีทำเรื่องใหญ่ให้เกิดขึ้นได้ อ้อนบริสุทธิ์ใจ มีหัวใจอยู่กับปชช.และประเทศ

(8 ก.ค.65) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวแถลงการณ์ ‘กลยุทธ์ 3 แกน สร้างอนาคต’ เป็นคลิปวิดีโอความยาว 17.48 นาที ผ่านเพจเฟซบุ๊ก ‘ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut-Chan-o-cha’ ว่า... 

วันนี้ตนอยากพูดกับทุกท่าน เกี่ยวกับอนาคตของบ้านเรา และการเดินหน้าต่อไปของประเทศไทย ตอนนี้ประเทศไทยกำลังกลับเข้าสู่ภาวะการใช้ชีวิตที่ใกล้เคียงปกติแล้ว ข้างหน้าของเรายังมีอีกหนึ่งภัยร้ายที่ใหญ่ ยิ่งกว่ารอเราอยู่ นั่นคือ เราจะอยู่รอดอย่างไร จากการโหมกระหน่ำของพายุการขึ้นราคาทุกอย่าง ซึ่งสงครามรัสเซีย-ยูเครน เป็นส่วนสำคัญยิ่งที่กระตุ้นให้ข้าวของแพง ไม่ว่าจะเป็น ราคาน้ำมัน อาหาร ค่าขนส่ง จนถึงขั้น ทำให้บางประเทศในภูมิภาค เข้าใกล้การล่มสลายทางเศรษฐกิจ วันนี้ตนขอใช้เวลาซักนิด เล่าเรื่องสำคัญ คือ กลยุทธ์ภาพใหญ่ของตนที่จะมาแก้ปัญหาปากท้องและความยากจนให้หมดไปเสียที

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาหลายรัฐบาลที่เข้ามาบริหารประเทศในช่วงระยะสั้นๆ ได้ดำเนินนโยบายระยะสั้น แก้ปัญหาความยากจนเฉพาะหน้า หรือมีโครงการลดแลกแจกแถมต่างๆ ซึ่งแน่นอนว่า บางโครงการเป็นสิ่งที่ควรทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามวิกฤต เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน แต่โครงการแบบนั้น ไม่ใช่วิธีที่จะแก้ปัญหาความยากจนได้อย่างยั่งยืน และแน่นอนว่าวิธีการเหล่านั้น ไม่ทำให้ใครรวยขึ้นมาได้ เพราะฉะนั้น ตนจึงตั้งใจเดินหน้าด้วยความมุ่งมั่น ที่จะทำเรื่องใหญ่ๆ ให้เกิดขึ้นให้ได้ เพื่อช่วยทุกคนให้สามารถสร้างรายได้ ได้มากขึ้นอย่างยั่งยืน ตนขอให้ทุกท่านเดินหน้าไปกับตน ในช่วงเวลาที่ภารกิจระยะยาวเพื่อทุกคน ที่ตนได้ทำมาอย่างต่อเนื่อง ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว ตนกำลังขับเคลื่อนกลยุทธ์ภาพใหญ่ที่มี 3 แกนหลัก ที่จะมายกระดับความรุ่งเรืองของประเทศ เป็น 3 แกนหลักที่กำลังจะเสร็จ และกำลังจะพร้อมที่จะช่วยเราทุกคนได้ในอนาคตอันใกล้

>> แกนที่ 1
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า แกนที่ 1 คือโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศ ที่ใหญ่ที่สุด และบูรณาการมากที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศไทย โครงการสร้างทางรถไฟ ถนน สนามบิน หรือท่าเรือ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อยกระดับความรุ่งเรืองมั่งคั่งของทุกคน โครงการที่ต้องใช้เวลาก่อสร้างยาวนานหลายปี และตอนนี้ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว

เป็นสิบๆ ปีที่ผ่านมา รัฐมักจะวางแผนโครงการที่สวยหรูมากมาย ทั้งการสร้างทางรถไฟ ถนน สนามบิน และท่าเรือ แต่สุดท้าย แผนโครงการที่สวยหรูเหล่านั้นก็ถูกเก็บขึ้นหิ้ง จนฝุ่นเกาะ และไม่เคยถูกทำให้เกิดขึ้นจริง – กลายเป็นว่า ประชาชนหลายสิบล้านคน ยังคงต้องใช้ชีวิตกันต่อไป โดยไม่ได้รับประโยชน์จากการมีโครงสร้างพื้นฐาน และการคมนาคมขนส่งที่ดีกว่า และถูกกว่า ที่ในที่สุดแล้ว จะช่วยเปิดโอกาสให้ประชาชน สร้างรายได้ ได้มากขึ้นด้วย 

ความมุ่งมั่นหลักของตนคือ ทำอย่างไรให้โครงการนับร้อยๆ เหล่านั้น เกิดขึ้นจริงให้ได้ และเป็นไปอย่างบูรณาการ เพราะตนรู้ว่า เมื่อโครงการทางรถไฟ โครงการรถไฟความเร็วสูง ถนน ท่าเรือ และสนามบินต่างๆ เกิดขึ้นจริง โครงการเหล่านั้นจะเชื่อมต่อกัน เหมือนต่อจิ๊กซอว์ภาพใหญ่ได้สำเร็จ และนั่นคือเวลาที่เราจะคาดหวังถึงความเจริญรุ่งเรืองอย่างก้าวกระโดดของประเทศเราได้ – และเมื่อโครงการต่างๆ เหล่านั้นเชื่อมต่อกัน จะเป็นเหมือนสะพานเชื่อม เป็นเครื่องมือให้ทุกคนเข้าถึงโอกาสที่จะสร้างความมั่งคั่งให้กับตัวเอง และประเทศได้โครงการสำคัญต่างๆ ของเรา ในทุกมุมของประเทศ มีความคืบหน้าไปมากพอสมควร และเริ่มใกล้ที่จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว

>> แกนที่ 2
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า แกนที่ 2 ของกลยุทธ์ภาพใหญ่ของตน เพื่อที่จะสร้างความมั่งคั่งรุ่งเรืองให้กับคนไทย คือแกนที่เกี่ยวกับภาคอุตสาหกรรมทั้งหมด โดยภาคอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมที่ต่อเนื่องเชื่อมโยงต่างๆ เป็นภาคอุตสาหกรรมที่หล่อเลี้ยงเชื่อมต่อไปถึงธุรกิจขนาดใหญ่ และธุรกิจขนาดเล็กอีกมากมาย ตลอดจนดึงเงินมหาศาลให้ไหลเข้าประเทศไทย ผ่านการส่งออกต่างๆ เป็นตัวขับเคลื่อนความมั่งคั่งรุ่งเรืองของไทย ที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่ง ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา 

แต่วันนี้ อุตสาหกรรมนี้ กำลังตกอยู่ในความเสี่ยงครั้งใหญ่ เพราะการเปลี่ยนแปลงไปสู่การใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเกิดขึ้นทั่วโลก เป็นเวลาที่ผู้ผลิตยานยนต์ อาจจะต้องเลือกที่จะสร้างโรงงานผลิตรูปแบบใหม่ ในประเทศต่างๆ 

ดังนั้น เราต้องเดินหน้าให้เร็ว และเร็วกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค ที่กำลังพยายามจะใช้โอกาสนี้ ดึงเอาอุตสาหกรรมยานยนต์ออกไปจากประเทศไทย ให้ไปอยู่ในประเทศของเขา เพราะฉะนั้นผมได้ขับเคลื่อน และพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลกในการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่สำคัญของโลก เราต้องล็อกผู้ผลิตยานยนต์ทั่วโลก ให้อยู่ในประเทศไทย และเราต้องช่วยให้เรื่องต่างๆ ง่ายขึ้นสำหรับเขา ในการที่เค้าจะลงทุนเพิ่ม และขยายธุรกิจของเค้าในประเทศไทย 

ถ้าเราทำสำเร็จ เส้นทางนี้จะเป็นรากฐานที่สำคัญที่เกื้อหนุนหล่อเลี้ยงอุตสาหกรรมต่างๆ และประเทศไทยให้มั่งคั่งต่อไปได้ อีกเป็น 20-30 ปีข้างหน้า วันนี้ เราเดินมาได้ไกลแล้ว ด้วยการทำงานอย่างรวดเร็ว และบูรณาการหลายหน่วยงาน จนผู้ผลิตยานยนต์ระดับโลกหลายราย แสดงเจตนารมณ์ว่าจะเดินหน้าตั้งโรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย แต่ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่เราจะต้องทำ ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า เพื่อให้ได้ข้อสรุปกับผู้ผลิตยานยนต์ต่างๆ เหล่านั้น

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า และอีกส่วนหนึ่งของภารกิจในแกนหลักที่ 2 ของตนคือ เราจะต้องทำให้ราคารถยนต์ไฟฟ้า และค่าใช้จ่ายในการใช้รถยนต์ไฟฟ้า มีราคาที่ถูกลง สำหรับคนไทยทุกคน ตนจะให้รายละเอียดเพิ่มเติม และความคืบหน้า เกี่ยวกับกลยุทธ์แกนที่ 2 นี้ ประมาณช่วงเดือนหน้า

'เฉลิมชัย' ทำลายสถิติสำเร็จอีกครั้งส่งออกผลไม้ครึ่งปีแรกทะลุ 1 ล้านตัน สร้างรายได้กว่า 8 หมื่นล้าน ชื่นชมชาวสวนภาครัฐภาคเอกชนร่วมมือพัฒนาคุณภาพจนครองแชมป์ตลาดจีนเด็ดขาดเกือบ 50% แต่ห่วงลำไยทรุดสั่งฟรุ้ทบอร์ดปรับกลยุทธ์เร่งแก้ไข

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (ฟรุ้ทบอร์ด-Fruit Board) แถลงวันนี้ (8 ก.ค.) ว่า การส่งออกผลไม้สดไปสาธารณรัฐประชาชนจีนภายใต้พิธีสารระหว่างไทย-จีนในรอบ 6 เดือนแรกปีนี้มีปริมาณถึง 1,123,543 ตัน ทำลายสถิติการส่งออกในระยะเวลาเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งส่งออกได้ 1,002,771 ตัน โดยเพิ่มขึ้นกว่า 120,000 ตัน หรือกว่า 10% คิดเป็นมูลค่าการส่งออก 81,282 ล้านบาท

ในขณะที่ต้องเผชิญกับปัญหาและอุปสรรคนานัปการโดยเฉพาะผลกระทบจากมาตรการไดนามิคซีโร่โควิดของจีนในการป้องกันการแพร่ระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่ปลายปี 2564 เป็นต้นมา และสงครามรัสเซีย-ยูเครน ตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นส่งผลต่อค่าระวางขนส่งทางบกทางเรือทางอากาศปรับตัวเพิ่มขึ้นในขณะที่กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลงจากภาวะเศรษฐกิจทำให้มูลค่าการส่งออกผลไม้สดลดลง 2,900 ล้านบาท หรือลดลง 3.45% ส่วนหนึ่งเกิดจากการส่งออกลำไยลดลง เนื่องจากการปิดด่านบางด่านของจีนช่วงปลายปีต่อเนื่องถึงต้นปีจากปัญหาโควิด-19 ในจีนจึงสั่งให้ฟรุ้ทบอร์ดปรับกลยุทธ์เร่งแก้ไขปัญหาลำไยซึ่งหล่นจากการส่งออกไปจีนเป็นลำดับ 3 รองจากทุเรียนและมะพร้าว

‘ชนินทร์’ จี้ ‘ประยุทธ์’ เลิกกดทับท้องถิ่น เร่งกระจายเงินชดเชยภาษีที่ดินฯ ค้างจ่ายปี 63-64 ห่วงท้องถิ่นถังแตก ขาดการพัฒนา

นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย และที่ปรึกษาอนุกรรมาธิการงบประมาณท้องถิ่นปี 2566 กล่าวว่า จากการบริหารงานของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้นำพาประเทศชาติมาถึงจุดที่ถังแตกอยู่บนกองหนี้ทุกด้าน ปัญหานี้กระจายตัวไปยังในระดับท้องถิ่นอย่างชัดเจนแล้วจากผลกระทบของการลดหย่อนภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในปี 2563 และ 2564 ซึ่งเป็นรายได้สำคัญของท้องถิ่นทำให้กลุ่มเทศบาลเมือง เทศบาลนคร เมืองพัทยา และกรุงเทพมหานคร จัดเก็บจริงลดลงเป็นอย่างมาก จากเดิมที่เคยมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีโรงเรือนและที่ดิน กับภาษีบำรุงท้องที่ในปี 2562 ถึงปีละกว่า 22,000 บาท รวมสองปีกว่า 44,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันท้องถิ่นเหล่านี้ยังไม่ได้รับการชดเชยรายได้จากรัฐแม้แต่บาทเดียว 

นายชนินทร์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันนายกเทศมนตรีในหลายเทศบาลสะท้อนว่ามีความลำบากมาก เพราะการขาดรายได้จากภาษีที่ดินฯ ทำให้ต้องหยุดการลงทุนเพื่อพัฒนาในพื้นที่ทุกอย่าง รวมถึงต้องนำเงินสะสมที่มีออกมาใช้จ่ายเป็นค่าบริหารจัดการแทนรายได้ที่หายไป แม้ในปีนี้จะสามารถเก็บภาษีที่ดินฯ ได้ในอัตราปกติแล้ว แต่ประชาชนและเอกชนยังอยู่ในภาวะขัดสน ชักหน้าไม่ถึงหลัง ดังนั้นพลเอกประยุทธ์ต้องรีบแก้ปัญหานี้ให้จบ เร่งจัดสรรเงินชดเชยรายได้ให้องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นต่างๆ ตามที่เคยสัญญาไว้อย่างเร่งด่วน โดยอาจนำเงินงบประมาณคงเหลือในปี 2565 ถ่ายโอนมาจัดสรรก่อน หรือเสนอแปรญัตติงบประมาณ 2566 ที่ไม่จำเป็นมาเติมให้ในส่วนนี้ เพื่อเร่งนำส่งท้องถิ่นให้กลับมาสร้างงาน สร้างรายได้ เกิดการลงทุนและจ้างงานอีกครั้ง

“การบริหารงานของพลเอกประยุทธ์ ยืนอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับการ ‘กระจายอำนาจ’ โดยสิ้นเชิง ที่ผ่านมาพลเอกประยุทธ์ละทิ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้เคว้ง ซ้ำยังกดทับท้องถิ่นให้ขาดการพัฒนา เหมือนคนถูกตัดแขนตัดขาแล้วไม่เร่งรักษาให้ร่างกายฟื้นคืนสภาพ เร่งคืนรายได้ให้พวกเขา ให้ท้องถิ่นแข็งแรงขึ้นโดยเร็ว” นายชนินทร์กล่าว

โรงพยาบาลพญาไท 3 เปิดศูนย์ Mee Suk Center (ศูนย์มะเร็งและโรคเลือด)

นพ.สุรพล โล่ห์สิริวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพญาไท 3 รศ.คลินิก พญ.วารุณี จินารัตน์ ผอ.แพทย์  นพ.อภิชัย โตวณะบุตร ผช.ผอ.แพทย์ คุณศุภกร พะวันนา ผอ.สายบริหารการตลาดเครือ รพ.พญาไท - เปาโล คุณณัฐชานันท์ นิธิโชติวรภัทร์ ผอ.ฝ่ายการตลาด คุณนิตยา กฤตธนเวช ผอ.ฝ่ายบริหาร พว.ภาวิณี วัยปัทมะ ผอ.ฝ่ายพยาบาล ตลอดเจ้าหน้าที่พยาบาล พนักงาน ร่วมทำบุญ บวงสรวงสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เพื่อเป็นศิริมงคล เนื่องในโอกาสฤกษ์งามยามดี เปิดศูนย์ Mee Suk Center ศูนย์มะเร็งและโรคเลือด โฉมใหม่ ไฉไลกว่าเดิม พื้นที่กว้างขวางขึ้น ทันสมัยกว่าเดิม ตลอดยังเพิ่มเครื่องมือทันสมัย เพื่อรองรับผู้ใช้บริการได้อย่างเต็มที่ บนชั้น 17 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top