Monday, 7 July 2025
NewsFeed

กรมวิชาการเกษตรแจกกัญชา 1 ล้านต้น เปิดลงทะเบียน 16 มิ.ย.นี้

นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมวิชาการเกษตรจะแจกต้นกัญชาให้ประชาชนที่สนใจครัวเรือนละ 2 ต้น ตามเป้าหมาย 1 ล้านต้นของรัฐบาลหรือประมาณ 500,000 ครัวเรือน ภายหลังการปลดล็อกวันที่ 9 มิ.ย. 2565 ให้กัญชา กัญชง และกระท่อม ไม่เป็นพืชในบัญชียาเสพติดอีกต่อไป ทั้งนี้สามารถลงทะเบียนแจ้งความจำนงได้ตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย.65 เป็นต้นไป ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตร (ศวพ.) ของกรมวิชาการเกษตรทั่วประเทศซึ่งมีอยู่ 53 จังหวัด 

ทั้งนี้ การแจกต้นกัญชาให้ครัวเรือนละ 2 ต้น ทั้งหมดเป็นสายพันธุ์ไทย ซึ่งพันธุ์ที่แจกหลัก ๆ คือ พันธุ์อิสระ 01 พัฒนาพันธุ์โดยกรมการแพทย์ กรมวิชาการเกษตร และมูลนิธิวนเกษตรอินทรีย์ ซึ่งเป็นพันธุ์รับรองเมื่อ 29 ม.ค.64 นอกจากนั้นจะมีกระทรวงสาธารณสุขสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ในโครงการนี้ด้วย 

โฆษก ทร.เผย บริษัท CSOC ต้อง กำหนดระยะเวลาในการส่งมอบเรือดำน้ำให้ กองทัพเรือ พิจารณา ภายใน 60

โฆษก ทร.เผยผลการประชุมหารือเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาเครื่องยนต์ขับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำหรับเรือดำน้ำของกองทัพเรือ

เมื่อ 9 มิ.ย.65 เวลา 18.00 น. พลเรือโท ปกครอง  มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ  เปิดเผยถึงผลการประชุมท้ายเรือ เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาเครื่องยนต์ขับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าระหว่าง กองทัพเรือ กับ บริษัท CSOS โดยมี พลเรือเอก เถลิงศักดิ์ ศิริสวัสดิ์ เสนาธิการทหารเรือ ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารโครงการจัดหาเรือดำน้ำ เป็นประธานฝ่ายไทย และ Mr.  Liu Song รองประธาน บริษัท CSOC เป็นประธานฝ่ายจีน และมีรองผู้ช่วยทูตฝ่ายทหาร ประจำสถานเอกอัครราชทูตจีน/กรุงเทพ ร่วมในการประชุม ซึ่งจัดให้มีขึ้น ณ ห้องประชุม อาคารส่วนบัญชาการกองทัพเรือ พื้นที่วังนันทอุทยาน  เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร

โดย บริษัท CSOC แจ้งว่าได้ใช้ความพยายามในการเจรจา กับบริษัท MTU สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ทั้งในระดับ บริษัท-บริษัท รัฐบาล-รัฐบาล และ ช่องทางทางการทูต ในการจัดหาเครื่องยนต์ขับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า แต่ไม่สามารถดำเนินการให้เป็นไปตามข้อตกลงได้

ทั้งนี้ บริษัท CSOC ได้เสนอเครื่องยนต์ดีเซล ขับเครื่องกำเนิดไฟฟ้ารุ่น CHD 620 ให้ กองทัพเรือพิจารณาทดแทนรุ่น MTU 396 แต่อย่างไรก็ตาม กองทัพเรือ ได้แจ้งยืนยันความต้องการใช้ เครื่องยนต์ดีเซลขับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า MTU 396 ตามข้อตกลงเนื่องจากเครื่องยนต์ CHD620 ที่ บริษัท CSOC เสนอ ไม่เคยมีการใช้งานในเรือดำน้ำของประเทศใดมาก่อน

แน่นแฟ้น!! สานสัมพันธ์ 'กองทัพเรือ' และ 'สื่อมวลชน'

กองเรือยุทธการ ร่วมกับหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ทัพเรือภาคที่ 1 หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง จัดกิจกรรมสื่อมวลชนสัมพันธ์ ประจำปี งป.65

(9 มิ.ย.65) พลเรือเอก สุวิน แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เป็นประธาน มีผู้บังคับบัญชา หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกองเรือยุทธการ ผู้บังคับบัญชาหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ทัพเรือภาคที่ 1 หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ร่วมจัดกิจกรรมสื่อมวลชนสัมพันธ์ ในปี งป.65  

โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างความคุ้นเคยและพัฒนาความสัมพันธ์อันดี ระหว่างผู้บังคับบัญชา ของกองทัพเรือ กับ สื่อมวลชนสาขาต่างๆ ที่ได้ให้ความร่วมมือกับกองเรือยุทธการ และกองทัพเรือ ด้วยดีเสมอมา อันจะทำให้ได้รับการส่งเสริม สนับสนุน และได้รับความร่วมมือ ในการเผยแพร่การประชาสัมพันธ์ ผลงาน ภารกิจ หน้าที่ และกิจกรรมที่สำคัญของกองเรือยุทธการ และกองทัพเรือ

กรมแพทย์ทหารเรือ มอบประกาศนียบัตร ผู้สำเร็จการศึกษาอบรมหลักสูตร แพทย์ประจำบ้าน 5 สาขา

กรมแพทย์ทหารเรือ พัฒนาศักยภาพด้านการแพทย์อย่างไม่หยุดยั้ง จนได้การรับรองให้เป็นสถาบันผลิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเพิ่มมากขึ้น เพื่อรับใช้สังคมไทย

นาวาโทหญิง ชะรอยบุญ ศาสตรสุข โฆษกกรมแพทย์ทหารเรือ ได้เปิดเผยว่า พลเรือโท ชลธร สุวรรณกิตติ เจ้ากรมแพทย์ทหารเรือ เป็นประธานในพิธี มอบประกาศนียบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาอบรมหลักสูตรแพทย์ประจำบ้าน 5 สาขา ประกอบด้วยสาขาศัลยศาสตร์ สาขาอายุรศาสตร์ สาขาเวชศาสตร์ฉุกเฉิน สาขาเวชศาสตร์ป้องกันแขนงเวชศาสตร์ทางทะเล และสาขาศัลยศาสตร์ยูโรวิทยา รวมทั้งสิ้น 15 นาย ซึ่งเป็นแพทย์ในส่วนของกองทัพเรือ 3 นาย และนอกกองทัพเรือ 12 นาย เมื่อวันที่ 9  มิถุนายน ที่ผ่านมา 

ซึ่งภายหลังสำเร็จการอบรมแล้ว แพทย์ที่ผ่านการอบรมจะต้องออกไปปฎิบัติหน้าที่แพทย์เฉพาะทางในโรงพยาบาลต่างๆ ทั้งในและนอกกองทัพเรือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่างจังหวัดได้แก่ จังหวัดเลย, ชัยภูมิ, พิษณุโลก, ราชบุรี, ชลบุรี และตราด

'ทูตจีน' เยือนจันทบุรี ย้ำสัมพันธ์ไทยจีนแน่นแฟ้น ปลื้มชาวสวนทุเรียนไทยให้ความสำคัญกับมาตรการ GAP Plus เผยจีนนำเข้าทุเรียนไทยเพิ่ม 87%

'เฉลิมชัย' พอใจยอดส่งออกทุเรียนจากภาคตะวันออกของไทยไปจีน 4 เดือนปีนี้กว่า 4.3 แสนตัน ทำลายสถิติส่งออกมากกว่าปี 2564 

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดเผยวันนี้ว่า ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) แสดงความพอใจต่อรายงานการส่งออกทุเรียนจากภาคตะวันออกของไทยไปจีน ระหว่าง 1 ก.พ. – 5 มิ.ย. ปีนี้ มีปริมาณ 433,809.92 ตัน เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 มีปริมาณ 425,000 ตันซึ่งเป็นทำลายสถิติการส่งออกของฤดูกาลปี 2564 ซึ่งในปัจจุบันจังหวัดจันทบุรีมีการเก็บเกี่ยวผลผลิตทุเรียนแล้ว 91% ส่งออกแล้ว 87% สำหรับมังคุดเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว 73% และส่งออกแล้ว 60%       

นอกจากนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหมายให้นายสมชวน รัตนมังคลานนท์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำนายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตวิสามัญ ผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำราชอาณาจักรไทย และคณะ เดินทางศึกษาดูงานด้านการเกษตร ณ จันทบุรี ในวันที่ 10 มิถุนายน โดยมีส่วนราชการ ได้แก่ นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นางสาวอิงอร ปัญญากิจ รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร นายพิษณุ คล้ายเจตน์ดี ผู้ตรวจราชการกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายชลธี นุ่มหนู ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 นางสาววนิดา กำเนิดเพ็ชร์ ผู้อำนวยการสำนักการเกษตรต่างประเทศ และนายภานุศักดิ์ สายพาณิชย์ นายกสมาคมทุเรียนไทย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับ

โดยคณะได้เดินทางไปยังสวนทุเรียนรักตะวัน อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี จากนั้นเข้าเยี่ยมชมและหารือกับผู้ประกอบการโรงคัดบรรจุผลไม้ ดราก้อน เฟรชฟรุ๊ต อ.มะขาม จ.จันทบุรี เพื่อรับทราบมาตรการ GMP Plus ที่มีการควบคุมดูแลผลไม้ส่งออกที่ปลอดโรคแมลงศัตรูพืชและปลอดโควิด-19 จากนั้นได้เดินทางไปยังสหกรณ์การเกษตรเขาคิชฌกูฏ อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี ซึ่งถือเป็นสหกรณ์ต้นแบบที่ได้มีการพัฒนาคุณภาพสินค้าแบบครบวงจร

ทั้งนี้นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน กล่าวว่า “ทุเรียนถือว่าเป็นราชาแห่งผลไม้หรือคิงออฟฟรุตที่ได้รับความชื่นชอบจากชาวจีนและชาวไทย ผมและคณะของผมก็เป็นผู้บริโภคทุเรียนของไทย การเดินทางมาดูสวนทุเรียนครั้งนี้ ในด้านนึงก็เพื่อศึกษาเรียนรู้การผลิตทุเรียน รวมถึงมาตรการต่างๆเพื่อควบคุมโควิด-19 อย่าง GAP Plus และที่สำคัญในฐานะผู้บริโภคที่ชื่นชอบทุเรียน  อยากแสดงความเคารพต่อผุ้ผลิตทุเรียน ที่ผลิตทุเรียนที่อร่อยผู้บริโภคชาวจีนจึงได้ชิมทุเรียนที่อร่อยสุดๆ 

"ผมจำได้ว่าครั้งแรกที่ได้ชิมทุเรียน คือ ได้เดินทางมาประเทศไทยเมื่อ 20 ปีก่อน แต่ตอนนี้ทุเรียนไทยมีขายทั่วไปในประเทศจีน เพราะฉะนั้นผมเองก็อยากขอบคุณกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จังหวัดจันทบุรี สมาคมทุเรียนไทย และท่านสมชวน รัตนมังคลานนท์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ได้ชวนผมมาดูสวนทุเรียนประเทศไทย 

"จีนกับไทยเป็นประเทศฉันท์มิตร ตามคำกล่าวที่ว่า จีนไทยพี่น้องกันใช่อื่นไกล ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งสองประเทศจะไปมาหาสู่กันลดลง แต่ว่าทั้งสองประเทศได้ร่วมมือร่วมใจ สนับสนุนซึ่งกันและกัน ทั้งเรื่องการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ทำให้ความสัมพันธ์ไทยจีนแน่นแฟ้นกันมากขึ้นผ่านการต่อสู้เรื่องโควิด-19 ซึ่งระหว่างความสัมพันธ์ไทย-จีน คือการค้าขายสินค้าทางด้านเกษตร ซึ่งปีที่แล้วสินค้าเกษตรของไทยที่ส่งไปจีน มูลค่าทะลุ 11,300 ล้านเหรียญสหรัฐ (กว่า 3 แสนล้านบาท) เติบโต 33 % มีสินค้าทุเรียนที่ส่งไปจีนมูลค่า 5,430 ล้านเหรียญสหรัฐ (กว่า 1.6 แสนล้านบาท) เติบโต 87% 

"ตั้งแต่มีโควิดขึ้นมาพวกเราก็มีมาตรการต่างๆเพื่อป้องกัน และฝ่ายจีนก็ใช้มาตรการต่างๆเพื่อส่งเสริมการส่งออกทุเรียนไทยไปยังจีน ยกตัวอย่างเช่น มนฑลกว่างสี ในเรื่องการการอำนวยความสะดวกส่งผลไม้ไทยไปจีน ก็ได้ขยายเวลาทำการจากวันละ 8 ชั่วโมง เป็นวันละ 10 ชั่วโมง และจากทำการจากอาทิตย์ละ 5 วัน เป็นอาทิตย์ละ 7 วัน 

"ผมได้ยินว่าปีนี้ประเทศไทยมีทุเรียนออกมาเยอะมาก แต่ผมก็มั่นใจว่าการส่งออกทุเรียนไทยไปจีนจะประสบความสำเร็จ ในเรื่องของการขนส่งก็ได้มีการเปิดรถไฟลาว-จีน เชื่อว่าอนาคตประเทศไทยจะส่งสินค้าไปยังประเทศจีนได้ทางรถไฟอีกทาง ตอนนี้จีนกับไทยก็ผลักดันการสร้างรถไฟไทย-จีน อนาคตจะมีการขนส่งสะดวกขึ้นเพื่อส่งสินค้าของไทยไปจีนมากขึ้น 

"ทาง นายกสมาคมทุเรียนไทยบอกผมว่าจะมีการปลูกต้นทุเรียนร่วมกัน ซึ่งผมเชื่อว่าสินค้าเกษตรโดยเฉพาะทุเรียน เป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ของไทย-จีน ผมเองก็หวังว่าต้นทุเรียนที่เราได้ร่วมปลูกกันจะเป็นสัญลักษณ์ของความสัมพันธ์ทั้งสองประเทศ ที่ได้มีร่วมกัน"

นายสมชวน รัตนมังคลานนท์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า กระทรวงเกษตรฯ ได้รับทราบถึงมาตรการนำเข้าสินค้าของประเทศจีนที่ต้องการให้เป็น Zero Covid จึงได้ดำเนินมาตรการคุมเข้มและร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสร้างมาตรฐานการส่งออกผลไม้ที่ไม่มีการปนเปื้อนของเชื้อโควิด-19 โดยเริ่มตั้งแต่กระบวนการในสวน โรงคัดบรรจุ และการขนส่ง รวมทั้งได้มีการเพิ่มมาตรการของเกษตรกร จากมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับทุเรียน (GAP) เป็น GAP Plus โดยเพิ่มเติมเรื่องการควบคุมและเฝ้าระวังการระบาดของโรคโควิด-19 ในสวน เพื่อลดเชื้อและการปนเปื้อนในผลผลิต สำหรับโรงคัดบรรจุจะเพิ่มมาตรการจากหลักเกณฑ์ในการจัดการขั้นตอนพื้นฐานของกระบวนการผลิต (GMP) เป็น GMP Plus โดยจัดทำมาตรการความปลอดภัยในโรงคัดบรรจุ (Covid Free Setting) และมาตรฐานความปลอดภัยจากเชื้อโควิด-19 ในผลไม้

ขณะเดียวกัน จังหวัดจันทบุรีได้ตระหนักและมีการติดตามสถานการณ์เกี่ยวกับการปนเปื้อนของเชื้อโควิด-19 ในผลไม้ส่งออกไปจีน จึงได้มีการวางมาตรการที่เข้มข้นมากขึ้น ได้แก่ การตรวจ ATK แก่บุคลากรที่ปฏิบัติงานในโรงคัดบรรจุเป็นประจำ การจัด Big Cleaning เพื่อทำความสะอาดโรงคัดบรรจุ และการฉีดพ่นน้ำยาก่อนการบรรจุและก่อนการขนส่งจนสินค้าที่ส่งออกเป็นที่ยอมรับ และมีการอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าเข้าประเทศจีนได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

'นายกฯ' ปลื้ม!! 'ไทย-เยอรมนี' ร่วมมือพัฒนา EV ผลักดันไทยสู่ฐานผลิตยานยนต์ไฟฟ้าแห่งเอเชีย

(11 มิ.ย.65) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชื่นชมความร่วมมือระหว่างไทย และเยอรมนี จัดแข่งขันความคิดสร้างสรรค์สำหรับการคมนาคมยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคต 'EV Hackathon: Future EV Mobility Creative Contest for Sustainability #EV4Sustain' หัวข้อการแข่งขัน คือ ยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle) มุ่งขับเคลื่อนพันธมิตรเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน (Partners for Sustainable Growth) ระหว่างเดือน มิ.ย.-ส.ค.นี้ เนื่องในวาระครบรอบ 160 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างไทยและเยอรมนี ที่ร่วมกันผลักดันยานยนต์ไฟฟ้าประเทศไทย เพื่อพัฒนาและต่อยอด นโยบายส่งเสริมการใช้รถ EV และนโยบายเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green (BCG) Economy) ของรัฐบาล

นายธนกร กล่าวว่า กิจกรรมดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากภาคีที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาควิชาการ และภาคเอกชน ในการส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยและเยอรมนี ซึ่งเป็นประเทศที่มีหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญของไทยในทุกมิติ ทั้งการศึกษา สิ่งแวดล้อม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม และสอดรับกับนโยบายเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว ด้วยการลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า ตามนโยบาย 30@30 ที่รัฐบาลมุ่งให้ความสำคัญ เนื่องจากเป็นนวัตกรรมที่มิตรกับสิ่งแวดล้อม ช่วยลดภาวะทางอากาศ โดยรัฐบาลตั้งเป้าผลิตรถ ZEV (Zero Emission Vehicle) รถยนต์ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ ให้ได้อย่างน้อย 30% ของการผลิตยานยนต์และพัฒนาประเทศไทยสู่การเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าโลกภายในปี ค.ศ. 2030

'นักเขียนซีไรต์' กร้าว!! เหตุผลที่ต้อง 'เป็นสลิ่ม​ต่อไป' เพราะนักการเมืองไร้สำนึก ปั่นคนเกลียดกันเพื่ออำนาจตน

(11 มิ.ย.65) วิมล ไทรนิ่มนวล นักเขียนรางวัลซีไรต์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ว่าเป็นสลิ่ม​ต่อไป...

เหตุผลที่ผมเป็นสลิ่ม ก็เพราะผมต้องการให้  'ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว จะแบ่งแยกมิได้' และมีการปกครองด้วย 'ระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข'

ส่วนเรื่องการเมือง ก็ว่าทีละเรื่อง​ ทีละคน​ ทีละพรรค​ไม่เป็นกองเชียร์นักการเมืองเฉพาะเรื่อง เฉพาะคน หรือเฉพาะพรรค​ เพราะการเมืองและนักการเมืองเป็นเรื่องอำนาจและผลประโยชน์ที่พวกเขาต้องมาก่อน!

ประชาชนมาก่อนตอนเลือกตั้งเท่านั้น!

ถ้าไม่มีพระมหากษัตริย์และสถาบันพระมหากษัตริย์​ ปล่อยให้นักการเมืองแย่งชิงกันเป็นประมุข​ แย่งชิงอำนาจและผลประโยชน์กันเอง​ 'เพื่อประชาชน' บ้านเมืองหายนะแน่ๆ​ เพราะไม่มีใครเกรงใจใคร

ยามมีศึกสงครามก็จะเหมือนกับนักการเมืองในประเทศต่างๆ​ ส่วนมาก​ ที่ตัดสินใจตามใจตนเป็นหลัก​ ส่วนพลเมืองมีหน้าที่เป็นเหยื่อ

'กลาโหมจีน' กร้าว!! 'ไม่ลังเลที่จะเริ่มสงคราม' หากไต้หวันกล้าประกาศเอกราชแยกตัวจากจีน

รัฐมนตรีกลาโหมของจีน ประกาศต่อรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ว่า จีนไม่ลังเลที่จะเริ่มสงคราม หากไต้หวันประกาศเอกราช

โดยคำประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างการประชุมด้านความมั่นคง ‘แชงกรี-ลา ไดอะลอก’ ที่ประเทศสิงคโปร์ ที่เปิดฉากขึ้นแล้วในวันนี้ 10 มิถุนายน โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เจ้าหน้าที่ระดับสูง และเหล่าผู้นำภาคธุรกิจจากทั้งภูมิภาคเอเชีย และกลุ่มประเทศตะวันตกเข้าร่วม

นี่ถือเป็นครั้งแรกที่รัฐมนตรีกลาโหมจีน 'เว่ย เฟิ่งเหอ' เผชิญหน้ากับ ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ แบบต่อหน้าเป็นครั้งแรก โดยเฟิ่งเหอเตือนออสตินว่า “หากใครกล้าแยกไต้หวันออกจากจีน กองทัพจีนจะไม่ลังเลที่จะเริ่มสงคราม ไม่ว่าจะต้องสูญเสียเท่าไหร่ก็ตาม” 

ไม่เพียงเท่านั้น เฟิ่งเหอ ยังให้คำมั่นว่าจีนจะ “ทำลายแผนการประกาศเอกราชของไต้หวันให้ป่นไม่มีชิ้นดี และจะธำรงไว้ซึ่งความเป็นเอกภาพของมาตุภูมิ” ตามแถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมจีน

เขายังย้ำว่า “ไต้หวันคือของจีน...การใช้ไต้หวันเพื่อกดดันจีน จะไม่มีวันสำเร็จ”

ด้านออสตินระบุว่า สหรัฐฯ “ยืนกรานถึงความสำคัญของสันติภาพและเสถียรภาพทั่วช่องแคบไต้หวัน และต่อต้านความพยายามเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ปัจจุบัน และร้องขอให้จีนยับยั้งช่างใจต่อการกระทำที่จะบั่นทอนเสถียรภาพต่อไต้หวัน”

บุกค้นบ้านคนใกล้ชิด ล่าจับ ‘สุนทร วิลาวัลย์’ แต่คว้าน้ำเหลว ลุ้นคดีรุกเขาใหญ่หมดอายุความวันนี้

บุกค้นบ้านครูโอ๊ะ-สจ.โต้ง ล่าจับนายกฯสุนทร ตร.ปูพรม5จุดปราจีนคว้าน้ำเหลว-ไหวตัวหนี ลุ้นคดีรุกป่าเขาใหญ่หมดอายุความวันนี้

เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) สั่งการให้ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.), ตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) และตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) กระจายกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายจำนวน 5 จุด ในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี เพื่อตามจับกุมตัว นายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ลงวันที่ 9 มิถุนายน 2565 ข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ รักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาล บิดาของ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ หลังตกเป็นผู้ต้องหาในคดีบุกรุกอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ใน จ.ปราจีนบุรี พื้นที่กว่า 150 ไร่ ยังอยู่ระหว่างการหลบหนี

ทั้งนี้ เป้าหมายสำคัญในการเข้าตรวจค้นครั้งนี้ อยู่ที่บ้านเลขที่ 21/1 ถ.วัดโรมันอุทิศ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี บ้านพักของนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลูกสาวนายสุนทร , บ้านเลขที่ 43 ถ.วัดโรมันอุทิศ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี สำนักงานของนายสุนทร, โรงแรมบางปะกง เลขที่ 41 ถ.วัดโรมันอุทิศ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี และบ้านพักของ นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือชื่อเดิมคือ นายเต็มพงษ์ ฤทธิ์เดช หรือ ส.จ.โต้ง อายุ 46 ปี ผู้กว้างขวางในพื้นที่และมีความใกล้ชิดกับนายสุนทร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เบื้องต้นจากการเข้าตรวจค้นและตรวจสอบ ยังไม่พบตัวนายสุนทร คาดว่าไหวตัวทัน ชิงหลบหนีออกจากพื้นที่ไปได้ไม่นาน จากการสอบถามบุคคลใกล้ชิด ส่วนใหญ่อ้างว่าไม่พบเห็นหรือติดต่อกับนายสุนทรมานานกว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหน้าออกหมายจับ แต่เจ้าหน้าที่เองก็ยังไม่ปักใจเชื่อ พร้อมกระจายกำลังลงพื้นที่ไล่สืบหาเบาะแสเพื่อแกะรอยติดตามตัวให้ได้ก่อนที่คดีดังจะหมดอายุความลงในวันที่ 13 มิถุนายน

ผู้ประกอบการรถเมล์ ยอมรับลดเที่ยววิ่ง หลังผู้โดยสารร้อง หลัง 2 ทุ่ม รถเมล์วิ่งน้อย

เพจ ‘รถเมล์ไทยแฟนคลับ Rotmaethai’ เผยเสียงสะท้อนจากประชนชนผู้ใช้บริการรถเมล์ ร้องหลัง 20.00 น. รถวิ่งน้อยลง ด้าน ขสมก.ยอมรับบรรดาผู้ประกอบการต้องลดเที่ยววิ่ง เหตุราคาน้ำมันพุ่ง แบกรับต้นทุนไม่ไหว

เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. เพจ ‘รถเมล์ไทยแฟนคลับ Rotmaethai’ ได้ออกมาโพสต์เสียงสะท้อนจากประชนชนผู้ใช้บริการรถเมล์ ร้องหลัง 20.00 น.รถเมล์หายไปไหนหมด อยากให้หน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องช่วยลงมาดู หรือลองมาใช้บริการรถเมล์กลับบ้านอย่างประชาชนดู จะได้รู้ถึงความทุกข์ ความลำบากของประชาชนผู้ใช้บริการ รถมาเต็ม! ขึ้นไม่ได้ วันไหนฝนตก ลำบากสุด ๆ และรถเมล์บางเส้นทาง ขสมก.เคยมีวิ่งกะสว่าง พอขนส่งให้เอกชนมาเดินรถแทน กะสว่างกลับหายไปก็มี เพจรถเมล์ไทยแฟนคลับขอเป็นสื่อส่งเสียงสะท้อนถึงหน่วยงานที่ดูแล และผู้มีอำนาจ ช่วยสั่งการช่วยเหลือประชาชนหน่อยนะครับ เพราะประชาชนผู้ใช้บริการรถเมล์ไม่ได้มีรายได้สูง พอที่จะจ่ายค่าแท็กซี่ได้ทุกวัน ถ้าโพสต์นี้ถึงผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ช่วยประชาชนด้วยครับ

ต่อมา นายพิเชษฐ์ เจียมบุรเศรษฐ์ นายกสมาคมกิจการรถโดยสารประจำทางไทย ได้ออกมาชี้แจงว่า ในนามสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทางไทยจึงขอเป็นตัวแทนในการกล่าวขอโทษประชาชนผู้โดยสารที่มีความจำเป็นต้องใช้บริการรถโดยสารในชีวิตประจำวัน ว่าผู้ประกอบการรถโดยสารจะพยายามยืนหยัดเพื่อเคียงข้างการให้บริการให้ดีที่สุดเท่าที่สามารถดำเนินการได้ โดยระหว่างที่ยังไม่มีทางออกในการแบกรับต้นทุนนี้ อาจต้องส่งผลให้ผู้โดยสารได้รับผลกระทบในความไม่สะดวกในการใช้บริการ

เนื่องจากบรรดาผู้ประกอบการต้องลดเที่ยววิ่งลงและทยอยหยุดการให้บริการในบางเส้นทาง ซึ่งเป็นทางเลือกทางสุดท้ายก่อนที่อาจต้องปิดกิจการถาวรในที่สุด และขอขอบคุณประชาชนผู้โดยสารทุกท่าน ที่เข้าใจและเป็นกำลังใจในการประกอบการเดินรถโดยสารของไทยมาโดยตลอด


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top