Monday, 7 July 2025
NewsFeed

สร้างอนาคตไทย ถก 22 แกนนำเครือข่ายสวัสดิการชุมชน แลกเปลี่ยนแนวคิดตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก

'อุตตม-สนธิรัตน์' นำทีมคณะผู้บริหารพรรค ประชุมร่วม 22 แกนนำเครือข่ายสวัสดิการชุมชนจาก ทั่วประเทศ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นแนวนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก สู่ นโยบายพรรค ด้านแกนนำเครือข่ายชง 2 นโยบาย ได้แก่ สร้างชุมชนเข้มแข็งเต็มพื้นที่ประเทศไทย และกระจายอำนาจชุมชนจัดการตนเอง

วานนี้ (13 มิ.ย. 65) ที่ทำการพรรคสร้างอนาคตไทย พรรคสร้างอนาคตไทยนำโดย นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายวิเชียร ชวลิต รองหัวหน้าพรรค นายนริศ เชยกลิ่น โฆษกพรรค และนายบุญส่ง ชเลธร รองเลขาธิการพรรค และนายมนต์ชีพ ศิวะสินางกูร ประชุมร่วม 22 แกนนำเครือข่ายสวัสดิการชุมชนจากทั่วประเทศ นำโดยนายแก้ว สังข์ชู ประธานอนุกรรมการเครือข่ายสวัสดิการชุมชน

นายอุตตม กล่าวว่า พรรคสร้างอนาคตไทยให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาปากท้องของประชาชนทั้งในระดับฐานราก ระดับประเทศ และระดับนานาชาติโดยเฉพาะเศรษฐกิจในระดับฐานราก ที่พรรคมีแนวความคิดที่จะจัดให้มีการประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับองค์กรชุมชน ปราชญ์ชาวบ้านและผู้นำชุมชนที่ประสบความสำเร็จ มีภูมิปัญญาในการสร้างเศรษฐกิจฐานรากที่เป็นรูปธรรมทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อนำแนวความคิดดังกล่าวมาจัดทำยุทธศาสตร์และนโยบายของพรรค เพื่อสร้างอนาคตเศรษฐกิจฐานราก แก้ปัญหาปากท้องประชาชนคนไทยในยุคข้าวยากหมากแพงและต้องเผชิญกับสถานการณ์วิกฤตโรคโควิด -19 ในปัจจุบัน

“พรรคเชื่อว่าการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม ต้องเริ่มแก้ที่เศรษฐกิจฐานราก ต้องร่วมคิดร่วมทำนโยบายโดยผู้ที่ขับเคลื่อนเรื่องนี้โดยตรง การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในวันนี้จะนำไปสู่การกลั่นกรองของทีมยุทธศาสตร์พรรค เพื่อจัดทำเป็นนโยบายของพรรคต่อไป” นายอุตตม กล่าว

'ปริญญา' กางกฏยูเอ็น นายกฯต้องรับผิดชอบ ปม คฝ.สาดกระสุนยางใส่ 'ทะลุแก๊ส' แบบประทับบ่ายิงสูง

(14 มิ.ย.2565) นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำภาควิชากฎหมายมหาชน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊ก Prinya Thaewanarumitkul ถึงการปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับม็อบทะลุแก๊สเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า การใช้กระสุนยาง ที่ #ไม่สอดคล้องกับกติกาของสหประชาชาติ

แนวปฏิบัติของสหประชาชาติด้านสิทธิมนุษยชนในเรื่องการใช้อาวุธที่มีความร้ายแรงต่ำในการบังคับใช้กฎหมาย (Guidance on less-lethal weapons in law enforcement) ได้กำหนดวิธีการใช้ #กระสุนยาง ไว้ที่ข้อ 7.5.2 ว่า
“Kinetic impact projectiles should generally be used only in direct fire with the aim of striking the lower abdomen or legs of a violent individual and only with a view to addressing an imminent threat of injury to either a law enforcement official or a member of the public”

แปลได้ความว่า “โดยหลักแล้วกระสุนยางควรใช้เฉพาะการยิงโดยตรงที่เล็งไปที่ท้องส่วนล่าง หรือขาของผู้ก่อความรุนแรง และเฉพาะเมื่อเห็นว่าจะเกิดภยันตรายต่อเจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมาย หรือต่อสมาชิกคนหนึ่งคนใดของสังคม”

ว่าง่าย ๆ สหประชาชาติกำหนดเงื่อนไขในการใช้กระสุนยางไว้สองข้อคือ #หนึ่ง #จะต้องเล็งต่ำไปที่ท้องส่วนล่างหรือขา ของผู้ก่อความรุนแรง จะยิงส่งเดชไม่ได้ และ #สอง ใช้กระสุนยาง #เฉพาะเพื่อป้องกันอันตรายที่กำลังเกิดกับเจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมายหรือประชาชน เท่านั้น
 

‘ชัชชาติ’ เผยกทม. พบเสพกัญชาดับ 1 ราย ยังนอนร.พ.อีก 3 มีเด็กอายุ 16 ด้วย

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ เผยข้อมูลสำนักการแพทย์ พบผู้ป่วยใช้กัญชามากเกินขนาดถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล 4 ราย และ หนึ่งในนั้นเสียชีวิต 1 ราย เล็งประกาศให้โรงเรียนในสังกัดปลอดกัญชา ขอพิจารณากฎหมายทำได้หรือไม่

เมื่อวันที่ (14 มิ.ย.2565)  นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยข้อมูลในการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร กรณีพบข้อมูลผู้ป่วยใช้กัญชามากจนเกินไปภายหลังปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติดเมื่อวันที่ (9 มิ.ย.2565) ที่ผ่านมา ว่า   สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร รายงานข้อมูลผู้ป่วย Overdose  กัญชาที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลสังกัดสำนักการแพทย์ พบ 4 ราย มี 1 รายเสียชีวิต ประกอบด้วย

1. รพ.ตากสิน ผู้ป่วย 2 ราย เพศชายอายุ 17 ปี และ 25 ปี อาการใจสั่น คาดว่าเกิดจากผลข้างเคียงของการเสพกัญชา

2. เจริญกรุงประชารักษ์ 1 ราย เพศชาย อายุ 51 ปี แน่นหน้าอกหลังเสพกัญชา มาด้วย heart failure และมี cardiac arrest ผู้ป่วยเสียชีวิต

3. รพ.หลวงพ่อทวีศักดิ์ ชุตินธโรอุทิศ 1 ราย เพศชายอายุ 16 ปี 6 เดือน เสพกัญชามาก  Overdose  ขณะนี้ On ET  tube อยู่ icu

‘โรม’ ซัด ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ได้แล้ว ทุกวันนี้มีแต่ใช้ปราบม็อบไล่รัฐบาล

รังสิมันต์ โรม ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า รัฐบาลได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ตั้งแต่วันที่ (26 มี.ค.2563) ด้วยข้ออ้างว่าเพื่อควบคุมการระบาดของโรค COVID-19 และต่ออายุมันออกมาอีก 18 ครั้ง จนถึง ณ วันนี้ (14 มิ.ย. 2565) เป็นเวลาผ่านมาแล้วถึง 2 ปี 2 เดือน 20 วัน

ในขณะที่มองดูสถานการณ์ COVID-19 ณ ปัจจุบัน จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันมีแนวโน้มลดลงเหลือหลักพันต้น ๆ ทุกจังหวัดทั่วประเทศถูกปรับสถานะเป็นพื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง), พื้นที่เฝ้าระวัง (สีเขียว), และพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว (สีฟ้า) กันหมดแล้ว สถานศึกษา, สถานบันเทิง, สถานประกอบการให้บริการต่าง ๆ กลับมาเปิดทำการได้แล้ว เริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ รวมถึงเริ่มมีการเตรียมการประกาศให้ COVID-19 เป็นโรคประจำถิ่นในไม่ช้า ซึ่งหากจะยังต้องมีมาตรการใด ๆ รองรับ ก็สามารถทำได้ผ่านการใช้กฎหมายปรกติคือ พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 มากไปกว่านั้นคือประชาชนโดยทั่วไปได้เรียนรู้ที่จะป้องกันตัว สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ และตรวจโรคเมื่อมีความเสี่ยงกันเป็นอย่างดีแล้ว

“กลายเป็นว่าตอนนี้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีที่ทางของมันจริง ๆ เหลือแค่การเอาไว้จัดการกับผู้ชุมนุมที่ต่อต้านรัฐบาล อย่างการชุมนุมที่แยกดินแดงเมื่อวันที่ (11 มิ.ย. 2565) ที่ผ่านมา ก็ถูกตำรวจเอามาอ้างเพื่อสลายการชุมนุมและจับกุมดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมอีกครั้ง กับอีกอย่างหนึ่งคือเอาไว้ป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ต้องรับผิดจากการใช้อำนาจ ใช้กำลังอาวุธโดยอ้าง พ.ร.ก. นี้”

15 มิถุนายน พ.ศ.2505 ปราสาทเขาพระวิหาร ตกเป็นของกัมพูชา หลังศาลโลกตัดสินให้ไทยเป็นฝ่ายแพ้คดี

15 มิถุนายน พ.ศ. 2505 ครบ 60 ปี ไทยสูญเสียกรรมสิทธิ์ในปราสาทเขาพระวิหารให้กับกัมพูชา

15 มิถุนายน พ.ศ. 2505 ศาลโลก หรือ ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice) ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ พิพากษาชี้ขาด คดีปราสาทเขาพระวิหาร ให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของประเทศกัมพูชา 

ปราสาทหินแห่งนี้เป็นศิลปะขอม สร้างขึ้นเพื่อถวายพระศิวะ ในสมัยพุทธศตวรรษที่ 16 ราวปี 1545-1593 ตรงกับรัชสมัยของสมเด็จพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 ของขอม ภาษาเขมรเรียกว่า "เปรี๊ยะ วิเฮียร์" (Phrea vihear) ตัวปราสาทสูง 657 เมตรจากระดับน้ำทะเล ตั้งอยู่บนทิวเขาพมนดงรักซึ่งกั้นระหว่างประเทศกัมพูชากับไทย ตัวปราสาทหันหน้าไปทางทิศเหนือ ด้านหน้าและทางขึ้นอยู่ในเขตประเทศไทย แต่ตัวปราสาทส่วนใหญ่อยู่ในประเทศกัมพูชา 

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ ค้นพบปราสาทแห่งนี้เมื่อปี 2442 แล้วทรงจารึกพระนามของพระองค์และปีที่ค้นพบไว้ที่บริเวณชะง่อนผาเป้ยตาดีว่า “118 สรรพสิทธิ์” เนื่องจากเขาพระวิหารตั้งอยู่ตรงรอยต่อของไทยกับกัมพูชา ซึ่งผลัดกันยึดครองดินแดนแถบนี้

ปธ.วิปฝ่ายค้านปลง เปิดศึกซักฟอกรัฐบาล รับสภาพ 'น็อคยาก’ ได้แค่ทำให้ช้ำ

‘ปธ.วิปฝ่ายค้าน’ รับ น็อครัฐบาลไม่ง่าย เล็งใช้ข้อมูลสู้ให้ช้ำ แย้ม ‘นิพนธ์’ ไม่รอดแม้คดีอยู่ระหว่างศาล รับ เคส ‘ครูโอ๊ะ’ มาทีหลังขอฟาดตู่ ให้รับผิดชอบแทน เปรียบ รัฐบาลเหมือนเรือรูรั่วทั่งลำ จนนายกฯ ไม่รู้ต้องอุดรูไหนก่อน จับตา ปรับครม.หลังซักฟอก เดาใจ ‘บิ๊กตู่’ ลากยาว

เมื่อวันที่ (14 มิ.ย. 2565) เวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงกรณีความคืบหน้าการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 ว่า ขณะนี้จำนวนรัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายลงตัวแล้วคือ 1 + 9 คือนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีอีก 9 คน ทั้งนี้พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ดูและตรวจสอบร่างญัตติแล้ว ซึ่งทุกคนโอเค วันนี้ (14 มิถุนายน) แต่ละพรรคร่วมฝ่ายค้านจะร่วมลงชื่อก่อนนำญัตติเสนอนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ในวันที่ 15 มิถุนายน เวลา 13.00 น. ส่วนหมัดเด็ดที่มั่นใจคิดว่าจะล้มรัฐบาลได้นั้นมีหลายประเด็น แต่จะน็อคได้หรือไม่ ตนคิดว่าการน็อคด้วยมือก็คงไม่ง่าย แต่หากน็อคโดยสาระและความรู้สึกของสังคม ที่จะรับไม่ได้มีหลายประเด็น

เมื่อถามว่า จะมีรายชื่อนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่มีคดีเรื่องการจัดซื้อเรื่องรถอเนกประสงค์ซ่อมบำรุงทาง สมัยเป็นนายก อบจ.สงขลา ถูกอภิปรายด้วยหรือไม่ เพราะตามมารยาทหากเรื่องอยู่ในกระบวนการตรวจสอบขององค์กรอื่นก็จะไม่นำมาบรรจุในรายชื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจ นายสุทิน กล่าวว่า ก็สามารถอภิปรายได้ ในมุมการเมือง และไม่ก้าวล่วงไปในเรื่องการพิจารณาคดี ดังนั้นเรื่องนายนิพนธ์ คิดว่า ไม่น่าเป็นปัญหา เพราะหากจะอภิปรายก็สามารถทำได้

เมื่อถามย้ำว่า จะมีชื่อนายนิพนธ์ เป็น 1 ใน 10 รัฐมนตรีใช่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ก็ไม่ควรจะละเว้นได้ เพราะเป็นความผิดชัดเจน และเป็นเรื่องที่นายกฯ ต้องตระหนักรวมถึง รัฐมนตรีในกรณีอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกันด้วย เป็นความรับผิดชอบที่นายกฯ ต้องคิด และรับผิดชอบ

นักการเมืองมะกันเสนอ ‘กม.เพิ่มอำนาจรัฐบาล’ ระงับการลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ไปจีน

นักการเมืองอเมริกาเห็นพ้องต่อข้อเสนอที่จะเพิ่มอำนาจให้รัฐบาล ระงับการลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในจีน อ้างว่าเป็นส่วนหนึ่งของการรับมืออิทธิพลที่ขยายตัวขึ้นของจีนในอนาคต

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเดโมแครต และรีพับลิกัน ได้หารือกันและเห็นพ้องที่จะเพิ่มอำนาจให้รัฐบาลชุดปัจจุบัน ด้วยการออกกฎหมายว่าด้วยการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของสหรัฐฯ ต่อจีน ด้วยการมอบเงินสนับสนุน 52,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้บริษัทผู้ผลิตชิปในการขยายภาคการผลิต เพื่อแข่งขันกับจีน

วุฒิสมาชิก มาร์ค วอร์เนอร์ บอกกับ Reuters ว่า เวลากำลังจะหมดลงในการออกกฎหมายชิป ซึ่งจะดึงการลงทุนออกนอกประเทศ ให้กลับเข้ามาในประเทศได้เป็นมูลค่ามหาศาล อีกทั้งจะช่วยให้สหรัฐฯ ลดการพึ่งพาชิปของจีน และเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของสหรัฐฯ ในด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีด้วย ด้วยเป้าหมายสูงสุดคือ ทำให้สหรัฐฯ คานอิทธิพลที่กำลังเพิ่มมากขึ้นของจีนได้

‘อนุทิน’ คาใจปล่อยข่าวคนเสพกัญชาตาย ย้ำให้ใช้ทางการแพทย์ ไม่เคยบอกให้เสพเพื่อโล่งหัว

มื่อวันที่ (14 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์กรณี ส.ว.เสนอออกใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กัญชาระหว่างที่ยังไม่มี พระราชบัญญัติพ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. …. ว่า มีประกาศองกระทรวงสาธารณสุขอยู่แล้ว ส่วนที่ ส.ว.เสนอมาต้องไปศึกษาดู ใครให้ข้อเสนออะไรที่เป็นประโยชน์พร้อมรับฟัง ขณะที่ร่างพ.ร.บ.กัญชานั้นทางกรรมาธิการได้ประชุมสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ทั้งนี้เราพยายามตั้งกรอบระยะเวลาว่ากฎหมายใหม่ให้จบภายในสมัยการประชุมนี้และเร่งกันอย่างเต็มที่

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ดังนั้นตอนนี้ถ้าทุกคนใช้ด้วยความเข้าใจ ใช้ด้วยเจตนารมณ์เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพ ใช้ทางด้านการแพทย์ก็จะไม่มีปัญหาอะไรต้องกังวล แต่ตอนนี้ที่เป็นเรื่องเป็นราว เพราะคนไปใช้ในทางที่ผิดวัตถุประสงค์ ไปใช้เสพเป็นต้นหรือเอาไปใช้ในทางที่ก่อให้เกิดผลต่อจิตประสาท ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับสุขภาพ ซึ่งไม่ใช่วัตถุประสงค์หรือเจตนารมณ์ของการทำให้กัญชามีความเสรียืนยันว่าเราไม่ได้เพิ่งมาทำ แต่มีการทำเรื่องนี้มากว่า 2 ปี มีพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่องค่อย ๆ แก้กฎระเบียบต่าง ๆ ไม่ใช่อยู่ ๆประกาศไม่ให้เป็นยาเสพติด เราทำในสิ่งที่ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด ให้ความรู้ให้ข้อมูลการใช้กัญชาอย่างเข้าใจในระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่เลือกตั้งเราเปิดเผยมาตลอด และไม่หวั่นไหว เพราะเราไม่ได้ใช้นโยบายมาเล่นการเมือง แต่ใช้เพื่อให้เกิดปากท้องที่ดี สุขภาพที่ดี ตนไม่มีการเมือง ใครเอาเรื่องนี้มาเป็นการเมืองดิสเครดิตต้องให้สังคมตัดสิน

เมื่อถามถึงกรณี กรุงเทพมหานคร (กทม.)ได้รับรายงาน พบผู้ป่วยจากการเสพกัญชาเกินขนาดในพื้นที่กรุงเทพฯหลังการปลดล็อกกัญชา จำนวน 4 ราย ในจำนวนนี้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชายวัย51 ปี และพบผู้ป่วยอายุน้อยที่สุด 16 ปี นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องไปดู ในรายงานด้วยว่ามีการเสพในปริมาณเท่าไร เสพในปริมาณที่พอดี เสพ ในปริมาณน้อย หรือมีการเสพโอเวอร์โดสหรือไม่เพิ่งสูบเมื่อวานหรือไม่ ถ้าเคยสูบโอเวอร์โดสได้ สูบเป็นประจำแล้ววันนี้มีเหตุขึ้นมาทำไมก่อนหน้านี้ไม่มีรายงานต้องการอะไร วันนี้ที่มีรายงานคนเสียชีวิต และคนที่ถูกหามส่งห้องฉุกเฉินในรายงานของแพทย์ก็มีคำว่าโอเวอร์โดส  ซึ่งคำว่าโอเวอร์โดส อย่าบอกว่าสูบกัญชา การกินยาแก้ปวดเกินขนาดก็โอเวอร์โดส แล้ว ต้องใช้อย่างเข้าใจ

ผู้สื่อข่าวถามว่าถ้าเป็นเช่นนั้นมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องการเมืองหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ผู้สื่อข่าวลองประเมินและวิเคราะห์เอาเองอย่าไปก้าวก่ายใครอยากทำอะไรก็ทำไป ถ้าเป็นเรื่องที่ดีกับประชาชน คนที่มาทำงานการเมืองต้องเอาประชาชนเป็นที่ตั้งอยู่แล้ว

ผบ.ฉก.นราธิวาส เปิดการจัดกิจกรรมฝึกอบรมเพิ่มประสิทธิภาพชุดปฏิบัติการลาดตระเวนทางน้ำ ตามแนวลำน้ำชายแดนไทย-มาเลเซีย 

ที่ฐานปฏิบัติการกองร้อยชุดควบคุมป้องกันชายแดน ที่ 4 บ้านศรีพงัน ตำบลเกาะสะท้อน อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส เดินทางลงพื้นที่ เป็นประธานพิธีเปิดการจัดกิจกรรมฝึกอบรมเพิ่มประสิทธิภาพชุดปฏิบัติการลาดตระเวนทางน้ำ ตามแนวลำน้ำชายแดนไทย-มาเลเซีย โดยมีพันเอก จตุพร ธานีพัฒน์ รองผู้บังคับชุดควบคุมป้องกันชายแดน, หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน กองทัพเรือ, ตำรวจตระเวนชายแดน และส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมกิจกรรม 

สำหรับกิจกรรมฝึกอบรมเพิ่มประสิทธิภาพชุดปฏิบัติการลาดตระเวนทางน้ำ ตามแนวลำน้ำชายแดนไทย-มาเลเซีย จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เจ้าหน้าที่มีความรู้ความสามารถในการขับเรือยนต์ลาดตระเวนทางน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนมีความรู้ในการบำรุงรักษาเครื่องยนต์เรือให้สามารถใช้การได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าใจยุทธวิธีของฝ่ายตรงข้าม กรณีถูกซุ่มโจมตี สามารถตอบโต้ได้อย่างทันท่วงที เพื่อให้กำลังพลรู้หลักและยุทธวิธีการตรวจค้นเรือ และตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมายเพิ่มขึ้น  

ตลอดจนเพื่อให้กำลังพลรู้หลักการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำ และสามารถทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้ ซึ่งกิจกรรมดังกล่าว มีกำลังพลผู้เข้าการอบรมทั้งสิ้น จำนวน  50 นาย จัดจาก เจ้าหน้าที่ทหาร ชุดควบคุมป้องกันชายแดน ที่ 3 และ ชุดควบคุมป้องกันชายแดน ที่ 4 จำนวน 20 นาย, เจ้าหน้าที่ ตำรวจตระเวนชายแดน จัดจากชุดเฝ้าตรวจชายแดน ในพื้นที่ อำเภอสุไหงโกลก และ อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส จำนวน 30 นาย ได้แก่ ชุดเฝ้าตรวจที่ 4412, ชุดเฝ้าตรวจที่ 4413 และ ชุดเฝ้าตรวจที่ 4414 จำนวยหน่วยละ 10 นาย ที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ตามแนวชายแดน ด้านจังหวัดนราธิวาส โดยมี วิทยากรชุดครูฝึก จัดจาก หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน กองทัพเรือ เป็นผู้อบรม ให้ ความรู้ แก่กำลังพลผู้เข้ารับการฝึกทุกนาย 

ตร. เตือน ระวังถูกชวนไปทำงานต่างประเทศ หวังได้เงินเยอะ สุดท้ายถูกหลอกบังคับให้ทำงานผิดกฎหมาย

วันที่ 14 มิ.ย.2565 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มีนโยบายให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนรู้เท่าทันถึงอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดนั้น

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่า มีพี่น้องประชาชนบางส่วนตกเป็นเหยื่อของการถูกหลอกชักชวนไปทำงานที่ประเทศเพื่อนบ้าน บริเวณเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ โดยข้อมูลที่ได้จากผู้เสียหายทราบว่า กลุ่มคนร้ายจะประกาศรับทำงานผ่านสื่อสังคมออนไลน์ อ้างว่าจะเป็นการจ้างไปทำงานในคาสิโนแห่งหนึ่ง ซึ่งจะได้รับค่าตอบแทนที่สูง จากนั้นจะให้ติดต่อกับนายหน้าผ่านทางแอปพลิเคชัน WeChat (วีแชต) เมื่อเหยื่อตกลงกับนายหน้าเรื่องการจ้างงานแล้ว นายหน้าก็จะนัดหมายเหยื่อในการเดินทางข้ามชายแดน โดยนายหน้าจะพาเหยื่อลักลอบข้ามแม่น้ำโขงเพื่อเข้าไปในเขตของประเทศเพื่อนบ้านโดยผิดกฎหมาย เมื่อไปถึงจะถูกกักตัวระยะหนึ่ง 

จากนั้นนายหน้าจะอ้างว่างานที่จ้างมาถูกยกเลิกแล้ว ให้เหยื่อไปทำงานอื่นที่ผิดกฎหมายโดยเฉพาะการหลอกลวงผู้อื่นผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เช่น การหลอกชักชวนให้คนไทยลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลผ่านสื่อสังคมออนไลน์ (หลอกรักชวนลงทุน หรือ Hybrid Scam) หรือหลอกลวงขายสินค้าออนไลน์ เป็นต้น 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top