Monday, 7 July 2025
NewsFeed

พระนักพัฒนา ผู้เปี่ยมล้นด้วยเมตตา!! “พระครูแจ้” ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการซ่อมแซมอาคารเรียน เผย ไม่หนักใจอะไรการศึกษาต้องมาก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ (พระครูแจ้) เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง นำคณะเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เขต 1 และเขต 2 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ พม.สมุทรปราการ เดินทางไปยังโรงเรียนวัดกาหลง ต.เปร็ง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ เพื่อติดตามความคืบหน้าการซ่อมแซมอาคารเรียนโรงเรียนวัดกาหลง หลังถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่มทำให้อาคารเรียน จำนวน 2 หลัง ได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยท่านเจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลางเมตตารับเป็นเจ้าภาพช่วยเหลือค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด

​​​​​​

โดยทางด้าน ท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ (พระครูแจ้) เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง เปิดเผยว่า ในวันนี้พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เขต 1 และเขต 2 เจ้าหน้าที่ พม.สมุทรปราการ ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบความคืบหน้าการซ่อมแซมอาคารเรียนโรงเรียนวัดกาหลง พบว่าอาคารเรียนหลังแรกทางช่างได้ดำเนินการซ่อมแซมเสร็จเป็นที่เรียบร้อย โดยดำเนินการมุงหลังคาเปลี่ยนใหม่ให้ทั้งหมดพร้อมทั้งดูแลซ่อมแซมส่วนที่พังเสียหายจนเป็นที่เรียบร้อยพร้อมใช้งาน คงเหลือเพียงอีกหนึ่งอาคารซึ่งอยู่ในระหว่างรื้อถอนส่วนที่เสียหายออกเพื่อเร่งปรับปรุงซ่อมแซมให้เสร็จเรียบร้อยก่อนเปิดเทอมนี้

ซึ่งอาคารหลังที่สองมีสภาพพังเสียหายมาก อีกทั้ง หลังคาก็ได้รับความเสียหายทั้งหมด รวมถึงอุปกรณ์ที่สำคัญในการศึกษาก็ได้รับความเสียหายเช่นเดียวกัน  อาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์ โต๊ะ เก้าอี้ พัดลมเพดาน สมุดหนังสือ ส่วนใหญ่ไม่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ โดยท่านพระครูแจ้ยังกล่าวต่ออีกว่า ไม่รู้สึกหนักใจอะไรในเรื่องค่าใช้จ่ายยังคงพร้อมให้ความช่วยเหลือจนกว่าช่างจะดำเนินการซ่อมแซมจนเสร็จเป็นที่เรียบร้อยและสามารถเปิดทำการเรียนการสอนได้ตามปกติ เนื่องจากที่ผ่านมา วัดบางพลีใหญ่กลางได้เมตตาช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากมาโดยตลอดจึงไม่มีความหนักใจอะไร อีกทั้ง การศึกษานั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก

มาดามแป้ง เข้าร่วมงานแถลงข่าว ก่อนช้างศึก U23 ลุยซีเกมส์ ครั้งที่ 31

มาดามแป้ง เข้าร่วมงานแถลงข่าว ก่อนช้างศึก U23 ลุยซีเกมส์ ครั้งที่ 31

“มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมชาติไทย ร่วมแถลงข่าวก่อนที่ ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี เดินทางไปลุยศึกซีเกมส์ 2021 ที่ประเทศเวียดนาม ยืนยันขุนพล ช้างศึก พร้อมทำเต็มที่ภายใต้ความพร้อมทั้งหมดที่มี 

“มาดามแป้ง” เข้าร่วมการแถลงข่าว MEET THE PRESS การแข่งขัน ซีเกมส์ ครั้งที่ 31 พร้อมกับ มาโน โพลกิ้ง กุนซือใหญ่ เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2565 ก่อนกล่าวว่า “ในฐานะสวมหมวกเป็นประธานสโมสรเหมือนกัน แป้ง ต้องขอโทษด้วยหากว่าการแถลงข่าวที่ผ่านมา ทำให้บางสโมสรขุ่นข้องหมองใจ” 

“เพราะ แป้ง เข้าใจดีว่าแต่ละสโมสรอยู่ในสถานการณ์ที่แตกต่างกัน แต่ก็อยากขอบคุณทุกสโมสร ที่ตอนนี้ยินดีปล่อยผู้เล่นมาแล้วหลายคน และ ทุกทีมก็ให้การตอบรับเป็นอย่างดี”

มาดามแป้ง กล่าวต่อ “เราอยากได้เหรียญทองในซีเกมส์ครั้งนี้ แต่ก็เป็นเส้นทางที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะในขณะที่เราเผชิญกับข้อจำกัดมากมาย หลายชาติก็เริ่มเตรียมทีมกันไปแล้ว อย่าง เวียดนาม เจ้าภาพ และ แชมป์เก่า มีการหยุดลีกถึง 4 เดือน และ เพิ่งอุ่นเครื่องเสมอกับ เกาหลีใต้ U20 1-1 , อินโดฯ ก็ไปฝึกซ้อมที่ เกาหลีใต้ 2 สัปดาห์ , เมียนมา ไป ยูเออี 2 สัปดาห์ และ สิงคโปร์ ก็เตรียมเข้าแคมป์ วันที่ 25 เมษายน ขณะที่เราจะเข้าแคมป์วันที่ 1 พฤษภาคม นี้”

“แผนงานเบื้องต้น นักกีฬากลุ่มแรก จะเดินทางวันที่ 4 พฤษภาคม ลงเครื่องที่ กรุงฮานอย ก่อนต่อรถไปที่ เมืองนัม ดินห์ ส่วนกลุ่มที่ 2 ที่ยังต้องลงเล่นไทยลีก นัดสุดท้าย เนื่องจากสถานการณ์ของทีมยังมีลุ้นอันดับ จะออกเดินทางไปพร้อม แป้ง ในวันที่ 5 พฤษภาคม 2565 ซึ่งจะไปอยู่กับน้อง ๆ ตั้งแต่นัดแรกเลย”

“สุดท้าย ด้วยปัญหา และ ข้อจำกัดทั้งหมด แป้ง ต้องขอแรงเชียร์จากผู้เล่นคนที่ 12 ส่งพลังใจให้ ทีมชาติไทย ไปถึงเป้าหมายด้วยกัน แป้งไม่รู้ว่าเราจะได้เหรียญทองตามสิ่งที่ทุกคนคาดหวังหรือไม่ แต่เราจะทำให้เต็มที่ ภายใต้ความพร้อมทั้งหมดที่เรามี” มาดามแป้ง ปิดท้าย

สำหรับ ทีมชาติไทย U23 อยู่ในกลุ่มบี ร่วมกับ มาเลซีย , กัมพูชา, สปป.ลาว และ สิงคโปร์ โดยจะแข่งขันที่ สนาม เธียน ตรวง สเตเดียม ในเมือง นัม ดินห์ มีโปรแกรมการแข่งขัน ดังนี้ 

นัดแรก : ไทย พบ มาเลเซีย สนาม เธียน ตรวง สเตเดียม วันที่ 7 พฤษภาคม 2565 เวลา 19.00 น.   

นัดที่สอง : ไทย พบ สิงคโปร์ สนาม  เธียน ตรวง สเตเดียม วันที่ 9 พฤษภาคม 2565 เวลา 19.00 น.   

นัดที่สาม : กัมพูชา พบ ไทย สนาม  เธียน ตรวง สเตเดียม วันที่ 14 พฤษภาคม 2565 เวลา 19.00 น.   

นัดที่สาม : สปป.ลาว พบ ไทย สนาม  เธียน ตรวง สเตเดียม วันที่ 16 พฤษภาคม 2565 เวลา 19.00 น. 

'สกลธี' ฟ้อง 2 พิธีกร วิจารณ์หยาบ กระทบหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.

‘สกลธี’ ใช้สิทธิ์ทางกฎหมายมอบทนายความ ยื่นฟ้องดำเนินคดี2 พิธีกรรายการ Talking Thailand Voice TV ‘วิโรจน์-ลักขณา’ ฐานวิพากษ์วิจารณ์และอาจทำให้ตนถูกเกลียดชังโดยที่ไม่ทราบเรื่องที่มาที่ไปทั้งหมด ทั้งยังสร้างความเสียหายช่วงหาเสียงลงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ระบุสื่อวิจารณ์ได้แต่ควรอยู่บนขอบเขต

วันที่ 20 เม.ย. 65 นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้แข่งขันลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 3 ได้โพสต์ข้อความลงบน Facebook ส่วนตัว โดยระบุว่า ‘16 ปีที่อยู่ในการเมือง ผมเข้าใจดีถึงความเป็นบุคคลสาธารณะของผมครับ…ดังนั้นการที่จะถูกวิพากษ์วิจารณ์จากทั้งประชาชนและสื่อมวลชนเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ยาก และผมก็ยอมรับและรับฟังเสมอมาเพราะในทุกสังคมก็มีทั้งคนที่ทั้งเข้าใจและไม่เข้าใจในหลายสิ่งที่เราทำ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น…การจะวิพากษ์วิจารณ์ก็ต้องเป็นการติชมโดยสุจริตและไม่เป็นการด้อยค่าหรือด่าทอด้วยจิตใจที่มืดบอดและอคติในตัวบุคคลที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ ยิ่งเป็นสื่อมวลชนด้วยแล้ว จรรยาบรรณในการทำหน้าที่เป็นสิ่งสำคัญครับ หากไร้ซึ่งจรรยาบรรณของสื่อมวลชนรายนั้นๆ คิดอย่างไรพูดอย่างนั้นโดยไม่ผ่านการกลั่นกรองของสมอง ก็ไม่มีค่าพอที่จะเป็นสื่อมวลชนครับ’ นายสกลธี เขียนระบุบน Facebook ส่วนตัว

โดยนายสกลธี ยังเขียนระบุบน Facebook ส่วนตัวอีกว่า สืบเนื่องจากรายการ Talking Thailand ซึ่งออกอากาศทางแฟนเพจของ Voice TV เมื่อวันที่ 24 มี.ค. และ 11 เม.ย. 2565 ซึ่งดำเนินรายการโดย นายวิโรจน์ อาลี น.ส.ลักขณา ปันวิชัย หรือ ‘คำผกา’ ได้กล่าวถึงผม อุดมการณ์ทางการเมืองของผม รวมถึงสิ่งที่ผมได้เคยโพสต์ในอดีตด้วยการด้อยค่าและถ้อยคำหยาบคาย เกินกว่าหน้าที่ของสื่อมวลชนจะติชมหรือวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริต และเป็นที่เชื่อได้ว่าอาจทำให้ผมถูกเกลียดชังจากบุคคลที่ได้รับชมรายการและไม่ทราบเรื่องที่มาที่ไปทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระหว่างที่ผมอยู่ในช่วงหาเสียงลงเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผมจึงขอใช้สิทธิ์ทางกฎหมายมอบให้ทนายความไปฟ้องดำเนินคดีบุคคลทั้ง 2 คนรวมถึงบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องต่อไป

'อดีตบิ๊กข่าวกรอง' เผย!! รัสเซียทดลองจรวดข้ามทวีปสำเร็จ เป็นสัญญาณบอกชาติตะวันตกว่า...พร้อมรบนะ!!

'นันทิวัฒน์' เผยท่ามกลางสงครามยูเครน รัสเซียแถลงผลทดสอบจรวดข้ามทวีปรุ่นใหม่สำเร็จ เหมือนส่งสัญญาณบอกชาติตะวันตกว่า พร้อมรบนะ

21 เม.ย. 65 - นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ ‘จรวดข้ามทวีปรุ่นใหม่ของรัสเซีย’ ระบุว่า ท่ามกลางความวุ่นวายของการสู้รบในยูเครน รัสเซียได้แถลงข่าวความสำเร็จของการทดสอบจรวดข้ามทวีปรุ่นใหม่เมื่อ 20 เมษายน

รัสเซียประสบความสำเร็จในการทดสอบยิงจรวด RS-28 Sarmat ซึ่งเป็น Inter - Continental Ballestic Missile จาก Plesetsk ทางตอนเหนือของรัสเซียไปตกยัง Kura ที่คาบสมุทรคัมชัตกา ทางตะวันออกสุดของประเทศรัสเซีย

รองโฆษกรัฐบาล ชวน  ปชช.ใช้บริการสำนักงานที่ดินออนไลน์ จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมนอกพื้นที่ตั้งที่ดินได้

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มีนโยบายให้พัฒนาบริการรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ โดยให้แต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบริการประชาชนโดยตรงนำระบบดิจิทัลเข้ามาปรับใช้กับการให้บริการ อำนวยความสะดวกให้กับประชาชน และผู้ประกอบธุรกิจ ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย ได้พัฒนาสำนักงานที่ดินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อสนับสนุนการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมที่ดินออนไลน์ ให้ประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครสามารถจดทะเบียน ณ สำนักงานที่ดินแห่งใดของกรุงเทพมหานครก็ได้ที่ใกล้บ้านหรือที่สะดวก โดยไม่ต้องเดินทางไปยังสำนักงานที่ดินซึ่งที่ดินนั้นตั้งอยู่ โดยสิทธิหรือนิติกรรม ที่จะดำเนินการจดทะเบียนต่างสำนักงานได้นี้จะต้องเป็นแบบที่ไม่มีการต้องประกาศหรือรังวัด ต้องมีเอกสารเป็นโฉนดที่ดินเท่านั้น และเจ้าของที่ดินต้องเข้าไปดำเนินการด้วยตนเอง  

โดยผู้ต้องการใช้บริการจดทะเบียนที่ดินต่างสำนักงานแบบออนไลน์นี้  จะต้องจองคิวล่วงหน้าโดยโหลดแอปพลิเคชั่น e-QLands เพื่อเข้าไปลงทะเบียนจองคิวล่วงหน้า 3 วันทำการ  โดยเข้าไปในแอปพลิเคชั่นแล้วกดเลือกจองคิวจดทะเบียนต่างสำนัก เลือกสำนักงานที่ใกล้บ้านหรือที่สะดวกรอการยืนยัน จากนั้นก็เดินทางไปจดทะเบียน ณ สำนักงานที่ดินที่จองไว้ได้ 

“รัฐบาลขอเชิญชวนผู้ที่ต้องจดทะเบียนสิทธิหรือนิติกรรมที่ดินใช้บริการจดทะเบียนที่ดินต่างสำนักงานแบบออนไลน์ ซึ่งจะเพิ่มความสะดวก ลดลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ลดเวลาทำนิติกรรมได้มาก เพราะปีหนึ่งๆในกรุงเทพมหานครมีผู้จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมถึงปีละ 9 แสนรายการ โดยบริการนี้จะครอบคลุมที่ดินในกรุงเทพมหานครทั้งหมด 2.2 ล้านแปลง” น.ส.ไตรศุลี กล่าว  

“เทพไท”เฉลย ทำไม “จุรินทร์” ยอมรับเป็นนำ”ปริญญ์”เข้าปชป. ทั้งที่ขาดคุณสมบัติทุกข้อ  ชี้ “จุรินทร์”แถลงยอมรับความจริง แสดงถึงความเป็นสุภาพบุรุษ

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า จากการที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้แถลงข่าวว่า ตนรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง และต้องขอถือโอกาสนี้ กราบขอโทษกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ในฐานะหัวหน้าพรรคขอเรียนว่า ตนมีส่วนสำคัญในการนำนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคฯ เข้าพรรค แม้ว่ากระบวนการจะต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการบริหารพรรค และการดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค จะต้องผ่านการลงคะแนนให้ความเห็นชอบจากที่ประชุมใหญ่ก็ตาม หรือแม้แต่กรณีที่เราไม่อาจจะทราบการณ์ล่วงหน้าว่า จะเกิดอะไรขึ้นอย่างไร แต่เมื่อเกิดเหตุขึ้นมา ในฐานะหัวหน้าพรรค ก็หนีไม่พ้นที่จะต้องรับผิดชอบ ต้องร่วมกับคณะกรรมการบริหารพรรค แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นให้ดีที่สุด

ผมคิดว่าคำพูดของนายจุรินทร์ที่ยอมรับว่า มีส่วนสำคัญในการนำนายปริญญ์ เข้าเป็นรองหัวหน้าพรรค ทำให้สังคมอยากรู้ว่า มีส่วนสำคัญอย่างไร จึงขออนุญาตอธิบายตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ดังนี้ 1.นายปริญญ์ เป็นบุคคลภายนอก ซึ่งเพิ่งเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ การเข้าสู่ตำแหน่งคณะกรรมการบริหารพรรค ต้องมีคุณสมบัติตามข้อบังคับพรรค ข้อ 31 ระบุว่า สมาชิกผู้มีคุณสมบัติที่จะได้รับเลือกตั้ง เป็นคณะกรรมการบริหารพรรค จะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ และเป็นสมาชิกติดต่อกันไม่น้อยกว่า 5 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง

เว้นแต่สมาชิกที่มีคุณสมบัติข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้  (1)เป็นหรือเคยเป็นกรรมการบริหารพรรค (2)เป็นหรือเคยเป็นคณะกรรมการสาขาพรรค (3)เป็นหรือเคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในนามพรรค(4)เป็นหรือเคยเป็นรัฐมนตรีในนามพรรค (5)เป็นหรือเคยเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น ที่พรรคส่งลงสมัครรับเลือกตั้ง และ(6)สมาชิกที่ประชุมใหญ่ มีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของที่ประชุมใหญ่ มีมติให้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นคณะกรรมการบริหารพรรค 

ถ้าพิจารณาตามข้อบังคับพรรค นายปริญญ์ ขาดคุณสมบัติการเข้าเป็นรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จึงทำให้นายจุรินทร์ ในฐานะหัวหน้าพรรค ได้ใช้สิทธิ์เสนอตามข้อ31(6) ขอให้ที่ประชุมใหญ่ มีมติยกเว้นคุณสมบัติ เพื่อให้นายปริญญ์ มีคุณสมบัติเป็นรองหัวหน้าพรรคได้ จึงเป็นความรับผิดชอบโดยตรงของนายจุรินทร์ ที่เป็นผู้เสนอชื่อนายปริญญ์ ให้ที่ประชุมใหญ่รับรองเข้าเป็นรองหัวหน้าพรรคตามภารกิจ ซึ่งที่ประชุมใหญ่ได้ให้การรับรอง เปรียบเสมือนการล็อกสเปกตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค จากโควต้าของหัวหน้าพรรค

2.เมื่อมีกระแสข่าวว่านายจุรินทร์ จะเสนอชื่อนายปริญญ์ ขึ้นเป็นรองหัวหน้าพรรค ทำให้มีสมาชิกพรรคจำนวนหนึ่ง ที่ทราบประวัติของนายปริญญ์มาก่อน ได้เข้าให้ข้อมูลและท้วงติงเกี่ยวกับประวัตินายปริญญ์ต่อนายจุรินทร์ แต่เมื่อนายจุรินทร์ยืนยันที่จะใช้สิทธิ์เสนอชื่อ นายปริญญ์เป็นรองหัวหน้าพรรค ก็เป็นสิทธิ์ของผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ที่สามารถกระทำได้ และ3.การเสนอชื่อนายปริญญ์ ขึ้นเป็นรองหัวหน้าพรรค เพื่อทำภารกิจเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย ต้องการให้เข้ามาแทนที่บทบาทของนายกรณ์ จาติกวณิชย์ อดีตหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ สมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นหัวหน้าพรรค เพราะนายกรณ์ เป็นคู่แข่งขันในตำแหน่งหัวหน้าพรรคกับนายจุรินทร์

“บิ๊กช้าง” นั่งหัวโต๊ะประชุมติดตาม-สั่งการเหล่าทัพ เข้าช่วยเหลือปชช. ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ รวมไปถึงการฟื้นฟู 

ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มอบหมายให้ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม  เป็นประธานศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกระทรวงกลาโหม ให้ทุกเหล่าทัพเร่งช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วนจากสภาพอากาศแปรปรวนเกิดพายุฤดูร้อน ฝนฟ้าคะนองลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตก ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากความเสียหายของบ้านเรือนประชาชน ที่อยู่อาศัยรวมถึงคอกเลี้ยงสัตว์และพื้นที่ทำการเกษตร โดยมี บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 3,241 หลัง ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 21จังหวัด รวม58อำเภอโดยทางนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ขอบคุณหน่วยทหาร และกำลังพลในพื้นที่ ทภ. 2 และ ทภ.3 รวมทั้งหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ( นทพ.) ในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย ที่ได้เข้าช่วยซ่อมแซม บ้านเรือนประชาชนรวมทั้งช่วยขนย้ายสิ่งของและผลผลิตทางการเกษตรอีกทั้งยังได้ช่วยเข้าปรับปรุงพื้นที่ทำการเกษตรและคอกเลี้ยงสัตว์ การอพยพสัตว์เลี้ยงไปอยู่ในที่ปลอดภัย 

รองโฆษกรัฐบาล ชวน  ปชช.ใช้บริการสำนักงานที่ดินออนไลน์ จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมนอกพื้นที่ตั้งที่ดินได้

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มีนโยบายให้พัฒนาบริการรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ โดยให้แต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบริการประชาชนโดยตรงนำระบบดิจิทัลเข้ามาปรับใช้กับการให้บริการ อำนวยความสะดวกให้กับประชาชน และผู้ประกอบธุรกิจ ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย ได้พัฒนาสำนักงานที่ดินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อสนับสนุนการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมที่ดินออนไลน์ ให้ประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครสามารถจดทะเบียน ณ สำนักงานที่ดินแห่งใดของกรุงเทพมหานครก็ได้ที่ใกล้บ้านหรือที่สะดวก โดยไม่ต้องเดินทางไปยังสำนักงานที่ดินซึ่งที่ดินนั้นตั้งอยู่ โดยสิทธิหรือนิติกรรม ที่จะดำเนินการจดทะเบียนต่างสำนักงานได้นี้จะต้องเป็นแบบที่ไม่มีการต้องประกาศหรือรังวัด ต้องมีเอกสารเป็นโฉนดที่ดินเท่านั้น และเจ้าของที่ดินต้องเข้าไปดำเนินการด้วยตนเอง  โดยผู้ต้องการใช้บริการจดทะเบียนที่ดินต่างสำนักงานแบบออนไลน์นี้  จะต้องจองคิวล่วงหน้าโดยโหลดแอปพลิเคชั่น e-QLands เพื่อเข้าไปลงทะเบียนจองคิวล่วงหน้า 3 วันทำการ  โดยเข้าไปในแอปพลิเคชั่นแล้วกดเลือกจองคิวจดทะเบียนต่างสำนัก เลือกสำนักงานที่ใกล้บ้านหรือที่สะดวกรอการยืนยัน จากนั้นก็เดินทางไปจดทะเบียน ณ สำนักงานที่ดินที่จองไว้ได้ 

“รัฐบาลขอเชิญชวนผู้ที่ต้องจดทะเบียนสิทธิหรือนิติกรรมที่ดินใช้บริการจดทะเบียนที่ดินต่างสำนักงานแบบออนไลน์ ซึ่งจะเพิ่มความสะดวก ลดลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ลดเวลาทำนิติกรรมได้มาก เพราะปีหนึ่งๆในกรุงเทพมหานครมีผู้จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมถึงปีละ 9 แสนรายการ โดยบริการนี้จะครอบคลุมที่ดินในกรุงเทพมหานครทั้งหมด 2.2 ล้านแปลง” น.ส.ไตรศุลี กล่าว  

เปิดสถิติเด็กตกน้ำ จมน้ำตาย ช่วงปิดเทอมใหญ่ - นายกฯ ขอผู้ปกครองสอนพื้นฐานการช่วยเหลือตัวเอง

เมื่อวันที่ 21 เมษายน ที่ทำเนียบรัฐบาล  นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบข้อมูลการเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรค ระบบรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการตกน้ำ จมน้ำ ระหว่างวันที่ 1 มกราคม - 30 มีนาคม 2565 พบเหตุการณ์เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี จมน้ำรวมทั้งหมด 64 เหตุการณ์ รวม 70 ราย แบ่งเป็น เสียชีวิต 57 ราย บาดเจ็บ 13 ราย แหล่งน้ำที่เกิดเหตุการณ์มากที่สุด ได้แก่ คลอง แม่น้ำ แหล่งน้ำที่ใช้ในเกษตรกรรม ทะเล และสระว่ายน้ำ ตามลำดับ ลักษณะเหตุการณ์ที่พบบ่อยได้แก่ เด็กลงเล่นน้ำโดยไม่แจ้งผู้ปกครองหรือไม่มีผู้ปกครองดูแลใกล้ชิดตลอดเวลา อุบัติเหตุพลัดตกแหล่งน้ำที่ไม่มีขอบกั้น และเล่นน้ำในบริเวณที่มีคลื่นลมแรง 

นายธนกร กล่าวว่า ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยในชีวิตของเด็กทุกคน โดยเฉพาะเด็กที่อยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด เนื่องจากขณะนี้เป็นช่วงปิดเทอมใหญ่ที่เด็ก ๆ อาศัยอยู่ที่บ้านเป็นหลัก ประกอบกับสภาพอากาศร้อน เด็กอาจชวนกันไปเล่นน้ำตามแหล่งน้ำธรรมชาติ แหล่งน้ำที่ใช้ในการเกษตร หรือบ่อน้ำชุมชน จึงอาจมีความเสี่ยงเหตุการณ์เด็กได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุตกน้ำหรือจมน้ำ ในกลุ่มเด็กอายุน้อยกว่า 15 ปี มากขึ้นได้ พร้อมเตือนให้ผู้ปกครองระวังดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด 

นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีไม่ต้องการเห็นภาพการเสียชีวิตจากการจมน้ำในช่วงปิดเทอมใหญ่ โดยได้ กำชับให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เทศบาล อบต. ที่มีแหล่งน้ำธรรมชาติอยู่ในพื้นที่ของตนเอง ต้องพยายามควบคุมพื้นที่เสี่ยง รวมทั้งบุคลากรสาธารณสุขในพื้นที่ต้องร่วมกับชุมชนสำรวจแหล่งน้ำเสี่ยง จัดการแหล่งน้ำให้ปลอดภัย เช่น การสร้างรั้วกั้น ป้ายเตือน เตรียมอุปกรณ์ช่วยคนตกน้ำไว้บริเวณแหล่งน้ำเสี่ยง และให้ความรู้เรื่องแหล่งน้ำเสี่ยง การป้องกัน และการปฏิบัติตัวเมื่อพบคนตกน้ำ หรือจมน้ำให้กับประชาชน รวมถึงเน้นย้ำโรงเรียนให้ความรู้เรื่องดังกล่าวกับนักเรียนอย่างต่อเนื่องตามบริบทพื้นที่ ให้ทุกพื้นที่ทั่วประเทศร่วมมือกันลดปัญหาเด็กจมน้ำเสียชีวิตในช่วงปิดเทอมให้เป็นศูนย์ ลดความสูญเสียให้ได้ เพราะเด็ก ๆ คือบุตรหลานของเราทุกคน  

‘ญี่ปุ่น’ พัฒนา 'ตะเกียบเสริมเค็ม' ตอบโจทย์ปัญหาสุขภาพ ลดโซเดียมก็อร่อยได้

หลังจากพัฒนาจอทีวีรับรสไปแล้ว นักวิจัยชาวญี่ปุ่นคนนี้ยังได้คิดค้นตะเกียบเสริมรสเค็ม หวังช่วยคนลดโซเดียม

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ศาสตราจารย์โฮเมอิ มิยาชิตะ จากมหาวิทยาลัยเมจิ ประเทศญี่ปุ่น ได้พัฒนาตะเกียบไฟฟ้าที่ช่วยเสริมรสชาติเค็ม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดการบริโภคโซเดียมแต่อาหารยังคงมีรสเค็มอยู่

ซึ่งนับว่าตอบโจทย์ชาวญี่ปุ่นที่มักบริโภคอาหารรสเค็ม โดยเฉลี่ยแล้วผู้ใหญ่ชาวญี่ปุ่นบริโภคเกลือประมาณ 10 กรัมต่อวัน ซึ่งมากกว่าปริมาณที่องค์การอนามัยโลกแนะนำถึง 2 เท่า

การบริโภคโซเดียมที่มากเกินไปเป็นสาเหตุหนึ่งของความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมอง และโรคภัยไข้เจ็บอื่นๆ เพื่อป้องกันโรคเหล่านี้จึงจำเป็นต้องลดปริมาณเกลือที่เราบริโภคลง แต่การทำเช่นนั้นทำให้เราต้องทนกินอาหารที่ไม่อร่อย หรือรสชาติไม่ถูกปาก


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top