Tuesday, 8 July 2025
NewsFeed

รมว.สุชาติ แจงเงื่อนไข ใครมีสิทธิกู้เงินกองทุนผู้รับงานไปทำที่บ้าน รับดอกเบี้ย 0% 

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน แจงคุณสมบัติผู้มีสิทธิกู้ยืมเงินจากกองทุนผู้รับงานไปทำที่บ้าน พร้อมรับดอกเบี้ย 0% ในงวดที่ 1 -12  หลังมีผู้สนใจและสอบถามหลักเกณฑ์เข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยคุณสมบัติของผู้กู้จะต้องเป็นผู้รับงานไปทำที่บ้านที่จดทะเบียนไว้กับกรมการจัดหางาน มีการดำเนินการร่วมกันมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 เดือน มีผลการดำเนินการและมีรายได้จากการรับงานไปทำที่บ้านหรือมีหลักฐานการรับงานไปทำที่บ้านจากผู้จ้างงาน มีสถานประกอบการที่สามารถติดต่อได้ ซึ่งมีได้ทั้งประเภทบุคคลและกลุ่มบุคคล 

“พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน มีความห่วงใยพี่น้องแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 โดยเฉพาะแรงงานนอกระบบ และกลุ่มเปราะบางที่ต้องการทำงาน มีรายได้ และยังมีศักยภาพ แต่ไม่มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุน โดยกำชับกระทรวงแรงงานดูแลช่วยเหลืออย่างเท่าเทียม ทั่วถึงเพื่อให้สามารถก้าวต่อไปได้ภายใต้สถานการณ์โควิด – 19  ซึ่งในปีงบประมาณ 2565 กรมการจัดหางานได้รับอนุมัติวงเงินกู้ยืม จำนวน 5,000,000 บาท โดยให้ลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้รับงาน/กลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้าน จากร้อยละ 3 ต่อปี ลดเหลือร้อยละ 0 ต่อปี งวดที่ 1-12 โดยสามารถยื่นคำขอกู้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 - 31 สิงหาคม 2565 ณ สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือสำนักงานจัดหางานจังหวัด ในท้องที่ที่ผู้รับงานไปทำที่บ้านได้จดทะเบียนไว้กับกรมการจัดหางาน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าว

ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า กองทุนผู้รับงานไปทำที่บ้านของกรมการจัดหางานพร้อมให้บริการแก่ผู้จ้างงานที่ต้องการจะส่งงานให้กับผู้รับงานไปทำที่บ้าน ประชาชนทั่วไปที่ต้องการจะรับงานไปทำที่บ้าน และผู้รับงานไปทำที่บ้าน ซึ่งมีหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการให้กู้เงินและการชำระหนี้เงินกู้ ดังนี้

กรณีบุคคล วงเงินกู้ 1 - 50,000 บาท ชำระคืนภายใน 2 ปี มีคุณสมบัติดังนี้    
1. ต้องเป็นผู้รับงานไปทำที่บ้านที่จดทะเบียนกับกรมการจัดหางาน
2. มีผลการดำเนินการและมีรายได้จากการรับงานไปทำที่บ้านหรือ มีหลักฐานการรับงานไปทำที่บ้านจากผู้จ้างงาน
3. มีทรัพย์สินหรือเงินทุนไม่น้อยกว่า 5,000 บาท 
4. ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
5. ไม่เคยเป็นผู้ถูกดำเนินคดีหรืออยู่ในระหว่างดำเนินคดีเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินกองทุน

กรณีกลุ่มบุคคล วงเงินกู้ไม่เกิน 50,000 บาท ชำระคืนภายใน 2 ปี วงเงินกู้ 50,001 - 100,000 บาท ชำระคืนภายใน 4 ปี และวงเงินกู้ 100,001 - 300,000 บาท ชำระคืนภายใน 5 ปี โดยมีคุณสมบัติดังนี้
1. เป็นผู้รับงานไปทำที่บ้านที่จดทะเบียน (กลุ่มบุคคล) กับกรมการจัดหางาน
2. ต้องมีสมาชิกกลุ่มกู้ร่วมกันไม่น้อยกว่า 5 คน
3. มีผลการดำเนินการและมีรายได้จากการรับงานไปทำที่บ้านหรือ มีหลักฐานการรับงานไปทำที่บ้านจากผู้จ้างงาน
4. มีทรัพย์สินหรือเงินทุนในการดำเนินกิจกรรมของกลุ่มรวมกันไม่น้อยกว่า 10,000 บาท
5. ไม่เคยเป็นผู้ถูกดำเนินคดีหรืออยู่ในระหว่างดำเนินคดีเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินกองทุน

'บิ๊กป้อม' ประชุม 'กองทุนกีฬาฯ' เร่งพัฒนากีฬาสู่ความเป็นเลิศระดับสากล  พร้อมดูแลสวัสดิการนักกีฬา-นักกีฬาคนพิการ  สร้างขวัญกำลังใจ  ชื่นชมความสำเร็จ ไทยคว้าแชมป์ 'AFF FUTSAL 2022' สมัยที่16 ขอบคุณนักกีฬา/ทีมผู้ฝึกสอน สร้างชื่อเสียงให้ไทยต่อเนื่อง

พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษก รอง นรม. เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม.ได้เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่2/2565  ณ มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด  ผ่านระบบ วีดีโอคอนเฟอเรนซ์

ที่ประชุม ได้รับทราบรายงาน ผลการให้ความช่วยเหลือด้านสวัสดิการกีฬาของกองทุนฯ ได้แก่ค่ารักษาพยาบาล กรณีอุบัติเหตุ หรือการเจ็บป่วย และเงินช่วยเหลือครอบครัว กรณีเสียชีวิต ตลอดจนการให้ทุนการศึกษา แก่นักกีฬาและบุคลากรทางการกีฬา ประจำปี2564 โดยมีผู้ผ่านเกณฑ์การพิจารณาทุน รวม 372 คน จากสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย 206 คน และจากสมาคมกีฬาแห่งจังหวัด 166 คน ซึ่งปัจจุบันกองทุนฯได้ให้การสนับสนุนทุนการศึกษา แก่นักกีฬาและบุคลากรกีฬา โดยเป็นทุนต่อเนื่อง(ปี60-63) จำนวน 201 คนแล้ว  รวมถึงรับทราบความคืบหน้ากิจกรรมขับเคลื่อนกีฬามวยไทย ของสมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นฯ ผ่านองค์กรกีฬานานาชาติ ที่ได้รับการรับรองจาก IOC (IFMA) ได้แก่รายการ European Muaythai Championships 2022 ประเทศตุรกี ,รายการ World Expo Dubai ประเทศสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ รวมถึง การส่งเสริมตำรามวยไทย 9 ขั้น เข้าสู่ระบบการศึกษาในมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ 

จากนั้นที่ประชุม ได้มีการพิจารณาเห็นชอบ แผนงานการสนับสนุนระบบการพัฒนานักกีฬา สู่ความเป็นเลิศ ทั้งในระดับชาติ/นานาชาติ (เพิ่มเติม) และการพัฒนาบุคลากรกีฬา(เพิ่มเติม) ซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์ และหลักเกณฑ์ของกองทุนฯ และเห็นชอบการสนับสนุนการจัดการแข่งขันกีฬาอาชีพ เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ และสนับสนุนกิจกรรม/เครื่องมือทางด้านวิทยาศาสตร์อาชีพการกีฬา(เพิ่มเติม) รวมทั้งโครงการจัดหาอุปกรณ์วิทยาศาสตร์การกีฬา และเห็นชอบส่งเสริมการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันระดับนานาชาติ/ระดับชาติ (เพิ่มเติม) พร้อมทั้ง เห็นชอบสนับสนุนเงินรางวัลให้แก่นักกีฬา ผู้ฝึกสอน และสมาคมกีฬา 8 สมาคม จาก 10 รายการที่ผ่านมา รวมเป็นเงิน 49,050,000 บาท 

'นายกฯ' ยินดีไทยแชมป์ฟุตซอลอาเซียน 2022 สมัยที่ 16 พร้อมผลักดันการกีฬาไทยสู่ความสำเร็จในระดับนานาชาติ

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แสดงความยินดีและภูมิใจอย่างยิ่งกับฟุตซอลทีมชาติไทยที่สามารถคว้าแชมป์ฟุตซอลอาเซียน 2022 สมัยที่ 16 ได้สำเร็จ หลังจากเอาชนะทีมชาติอินโดนีเซีย ในการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์อาเซียน 2022 (AFF Futsal Championship) รอบชิงชนะเลิศ ณ อินดอร์สเตเดียม หัวหมาก เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา พร้อมชื่นชมและขอบคุณนักกีฬาและผู้ที่มีส่วนร่วมทุกภาคส่วน โดยยินดีผลักดันศักยภาพการกีฬาของไทยเพื่อต่อยอดความสำเร็จในระดับนานาชาติ

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทีมชาติฟุตซอลไทยคว้าชัยชนะได้อย่างต่อเนื่อง เอาชนะทีมชาติเวียดนามในรอบรองชนะเลิศ และได้รับชัยชนะจากการแข่งรอบชิงชนะเลิศกับทีมชาติอินโดนีเซียด้วยสกอร์ 5-3 (ลูกโทษ) และสกอร์รวม 7-5 คว้าแชมป์อาเซียน 2022 ถือเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมของทีมชาติไทย และเป็นการรักษาแชมป์ฟุตซอลอาเซียน เป็นผลสำเร็จต่อเนื่องถึง 16 สมัย 

'หมอวรงค์' แจ้งข่าวดี!! หลังศาลอาญาแผนกคดีทุจริตรับคำร้อง ฟ้อง 'ขรก.-เอกชน' เอี่ยวทุจริตสัมปทานดาวเทียมไทยคม

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเกี่ยวกับความคืบหน้าสัญญาสัมปานดาวเทียมไทยคม ระบุว่า...

ถ้าจำกันได้ ผมเคยฟ้องคุณยิ่งลักษณ์และคณะ กรณีดาวเทียมไทยคม ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ซึ่งต่อมาศาลได้พิจารณาแล้ว ส่วนของนักการเมืองต้องไปยื่นผ่านป.ป.ช.ก่อน ถ้าจะมาฟ้องศาลทุจริต ต้องแยกพิจารณาเฉพาะข้าราชการและเอกชน

ทางทีมกฎหมายจึงตัดสินใจ ฟ้องเฉพาะข้าราชการและเอกชนผู้เกี่ยวข้อง ผ่านศาลทุจริต เฉพาะส่วนที่ทำให้ประเทศชาติเสียหาย และมีหลักฐานประกอบชัดเจน เช่นไม่ปฏิบัติตามสัญญาสัมปทานดาวเทียม เนื่องจากข้าราชก็เป็นปัจจัยสำคัญ ในการตอบสนองการทุจริตที่เกิดขึ้น

พวกเราจึงตัดสินใจฟ้องปลัดกระทรวงดีอีเอส เป็นจำเลยที่ 1 เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นจำเลยที่ 2-4 และเอกชนผู้เกี่ยวข้องรวมทั้งสิ้น 29 ราย ดังต่อไปนี้

นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ที่ ๑
นายภุขพงค์ โนดไธสง ที่ ๒
นางปียนุช วุฒิสอน ที่ ๓
นางวรรณพร เทพหัสดิน ณ อยุธยา ที่ ๔
บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ที่ ๕
นายสมประสงค์ บุญยะชัย ที่ ๖
นายบุญชัย ถิราติ ที่ ๗
พลอากาศเอก มานัต วงษ์วาทย์ ที่ ๘
ดร.ปรเมธี วิมลศิริ ที่ ๙
นายสมชาย จิณโณวาท ที่ ๑๐
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ตร.ปารีณา ศรีวนิชย์ ที่ ๑๑
นายสุพร หลักมั่นคง ที่ ๑๒
นายเอนก พนาอภิชน ที่ ๑๓
นายอนันต์ แก้วร่วมวงศ์ ที่ ๑๔
บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ที่ ๑๕
นายกานต์ ตระกูลฮุน ที่ ๑๖
นายสมชาย ศุภธาดา ที่ ๑๗
นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย ที่ ๑๘
นางสาวมานิดา ชินเมอร์แมน ที่ ๑๙
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ที่ ๒0
นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล ที่ ๒๑
นางสาวจีน โล เงี้ยบ จง ที่ ๒๒
นายอาเธอร์ หลาน เต้าอี้ ที่ ๒๓
นายคณิต วัลยะเพ็ชร์ ที่ ๒๔
นางวรางค์ ไชยวรรณ ที่ ๒๕
นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ที่ ๒๖
นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ ที่ ๒๗
นางสาวบังอร สุทธิพัฒนกิจ ที่ ๒๘
นายสมิทธ์ พนมยงค์ ที่ ๒๙

'จรจัดสรร' ที่พักพิง 'สุนัขจรจัด' จากสถาปัตยกรรมขนาดเล็กพับเก็บได้ เซฟน้องหมา-สร้างจุดสังเกตแก่คนกลัวให้เดินเลี่ยง

ไวรัล! ที่พักพิง "จรจัดสรร" อีกทางเลือกแก้ปัญหาหมาจรจัด ด้วยการออกแบบสถาปัตยกรรมขนาดเล็ก บังแดด-กันฝนให้หมาจรจัด แลนด์มาร์กให้อาหารเป็นหลักแหล่ง และเป็นจุดสังเกตให้คนกลัวหมา หวังลดความขัดแย้งในชุมชน

หมาจรจัดเป็นปัญหาที่อยู่คู่กับสังคมไทยมานาน โดยเฉพาะความขัดแย้งในชุมชนระหว่างคนกับหมา ทั้งเรื่องความสกปรกจากการกินและคุ้ยอาหาร หรือความปลอดภัยจากการถูกกัด หรือวิ่งตัดหน้ารถ ซึ่งที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีการรณรงค์จากทั้งหน่วยงานรัฐและ NGO ให้แก้ปัญหาตั้งแต่ต้นทาง อย่างขอให้แต่ละคนประเมินความพร้อมก่อนตัดสินใจเลี้ยง หรือขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยง แต่สุดท้ายจำนวนหมาจรจัดก็ยังไม่ได้หมดไป

กลุ่มจิตอาสาคนรักหมาแต่ละกลุ่ม ก็พยายามที่จะแก้ไขปัญหาและลดความขัดแย้งเท่าที่จะทำได้ ทั้งการจัดโครงการสุนัขชุมชนในแต่ละพื้นที่ หรือการสนับสนุนศูนย์พักพิงหมาจรจัดต่าง ๆ

ล่าสุด ในสื่อสังคมออนไลน์ มีการส่งต่อโพสต์ไวรัลเกี่ยวกับอีกหนึ่งทางเลือกในการแก้ไขปัญหาหมาจรจัดอย่าง "ที่พักพิง" โครงการจรจัดสรรเป็นงานวิจัยระดับปริญญาเอก หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาศิลปะการออกแบบเชิงวัฒนธรรม คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ที่ริเริ่มโครงการจากความเป็นคนรักหมา จึงต้องการดูแลสวัสดิภาพหมาให้ดีขึ้น

"อาจารย์ยศพร จันทองจีน" เจ้าของโครงการ ให้สัมภาษณ์กับไทยพีบีเอสว่า ที่พักพิงโครงการจรจัดสรร เป็นการสร้างสถาปัตยกรรมขนาดเล็ก ใช้อุปกรณ์เพียงแค่เหล็กและไวนิลซึ่งได้รับบริจาคจากโรงพิมพ์ แต่ช่วงนี้เหล็กราคาแพง ทำให้ราคา 1 ชุด อยู่ที่ 1,500 - 2,000 บาท โดยจรจัดสรรจะเลือกพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตจากชุมชน และไม่เกะกะขวางทาง มีอาสาสมัครคอยดูแลความเรียบร้อยและความสะอาด เพื่อเป็นการจัดการหมาจรจัดในชุมชนอย่างเป็นระบบ

“จุดประสงค์แรกเราคือ อยากหาที่บังฝนและบังแดดให้หมาจรจัดที่เขาไม่มีบ้านอยู่ เพื่อให้สวัสดิภาพชีวิตของเขาดีขึ้น”

เบื้องต้น นำร่องทำความร่วมมือกับจิตอาสากลุ่มสุนัขชุมชนเมืองทอง โดยติดตั้งที่พักพิงไปแล้ว 10 ชุด บริเวณข้างมหาวิทยาลัยศิลปากร 2 ชุด ข้างลานจอดรถอิมแพ็กอารีนา 5 ชุด และบริเวณปั๊มน้ำเมืองทอง อีก 3 ชุด ซึ่งคนในพื้นที่แจ้งว่า มีหมาเข้าไปพักเพื่อบังแดดอยู่บ้าง และเมื่อมีอาสาสมัครนำข้าวไปวางไว้ ก็มีหมาเข้าไปกินอาหารด้านในด้วย

“ที่พักพิงนี้เป็นจุดให้จิตอาสานำอาหารมาให้หมาได้แบบไม่เกะกะหรือรบกวนคนทั่วไป และเป็นสถาปัตยกรรมขนาดเล็กที่พับเก็บได้ ซึ่งจะช่วยลดความขัดแย้งของคนในชุมชน และเป็นจุดสังเกตสำหรับคนที่กลัวหมาให้เดินเลี่ยงได้”

หลังเปิดเผยภาพไปจนกลายเป็นไวรัล อาจารย์ยศพร ยอมรับว่า รู้สึกดีใจที่ทำให้ประชาชนในวงกว้างได้ตระหนักถึงปัญหาหมาจรจัดที่เป็นเรื่องใกล้ตัวมากกว่าที่คิด และหวังจะให้ทุกคนร่วมแชร์ไอเดียแก้ไขปัญหาผ่านโซเชียล รวมถึงให้หน่วยงานที่ได้มาเห็นวิธีการหนึ่งที่จะช่วยแก้ไขปัญหาหมาจรจัดและลดความขัดแย้งในชุมชนได้

“เราอยากให้เข้าใจว่า การทำโครงการนี้ ไม่ใช่ทำเพื่อให้หมาจรจัดเพิ่มขึ้น ไม่ใช่การสร้างปัญหา แต่เป็นอีกหนึ่งทางแก้ปัญหาสำหรับกลุ่มคนรักหมาที่พอจะทำได้ด้วยกำลังที่มี”

ทอท.คาดสงกรานต์คนนั่งเครื่องบิน 1 ล้านคน

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ทอท. เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565 ซึ่งจะมีวันหยุดยาวหลายวัน อาจได้เห็นภาพบรรยากาศการเดินทางที่คึกคักของประชาชนมากขึ้นจากปีก่อน โดย AOT คาดปริมาณการจราจรทางอากาศ ณ สนามบินทั้ง 6 แห่งระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2565 จะมีเที่ยวบินประมาณ 9,310 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 14.48% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นเที่ยวบินภายใน ประเทศประมาณ 6,820 เที่ยวบิน ลดลง 2.79% และเที่ยวบินระหว่างประเทศประมาณ 2,490 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 123.14% 

ทั้งนี้คาดว่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการประมาณ 1 ล้านคน เพิ่มขึ้น 103.07% แบ่งเป็นผู้โดยสารภายในประเทศประมาณ 843,220 คน เพิ่มขึ้น 62.08% และผู้โดยสารระหว่างประเทศประมาณ 238,800 คน เพิ่มขึ้น 1,798.07% 

อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาจากประมาณการปริมาณการจราจรทางอากาศในช่วงเทศกาลสงกรานต์ มีตัวเลขที่น่าสนใจคือเที่ยวบินและผู้โดยสารระหว่างประเทศที่สนามบินดอนเมือง และภูเก็ต มีปริมาณที่เพิ่มสูงขึ้นมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยที่สุวรรณภูมิคาดว่าจะมีเที่ยวบินระหว่างประเทศประมาณ 1,790 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 70.52% และมีผู้โดยสารระหว่างประเทศประมาณ 160,300 คน เพิ่มขึ้น 1,179.37% 

ก.แรงงาน จับมือ 12 หน่วยงาน เอ็มโอยูเชื่อมข้อมูลจัดหางานช่วยเหลือระบบเพื่อนครอบครัว

วันที่ 11 เมษายน 2565 นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ 
นายวรรณรัตน์ ศรีสุขใส รองปลัดกระทรวงแรงงาน ร่วมงานวันผู้สูงอายุแห่งชาติ และลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เรื่อง การขับเคลื่อนการให้บริการและความช่วยเหลือในระบบเพื่อนครอบครัว : Family Line โดยมี นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าว ณ ศูนย์การค้าไอคอนสยาม ถนนเจริญนคร เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร

นายวรรณรัตน์ กล่าวว่า การลงนามข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ทุกฝ่ายตกลงร่วมมือกันดำเนินการขับเคลื่อนการให้บริการและความช่วยเหลือในระบบเพื่อครอบครัว : Family Line เพื่อบูรณาการความร่วมมือในการให้คำปรึกษา ติดตาม ช่วยเหลือ จัดสวัสดิการคุ้มครองสิทธิ และส่งต่อผู้ใช้บริการและครอบครัว

รวมทั้งพัฒนาพื้นที่การเรียนรู้ออนไลน์ ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และสื่อสร้างสรรค์ด้านครอบครัว สำหรับสมาชิกครอบครัวทุกช่วงวัย ในส่วนของขอบเขตความร่วมมือของกระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางาน จะสนับสนุนบุคลากรร่วมเป็นผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาในระบบเพื่อนครอบครัว : Family Line ในประเด็นการหางาน สนับสนุนการแลกเปลี่ยนและเชื่อมโยงข้อมูลเกี่ยวกับการจัดหางาน สนับสนุนการติดตาม ช่วยเหลือ และส่งต่อผู้ใช้บริการและครอบครัว รวมทั้งสนับสนุนการพัฒนาความเข้มแข็งของสถาบันครอบครัว และการขับเคลื่อนระบบเพื่อนครอบครัว : Family Line

เกาหลีเหนือจวก ‘ไบเดน’ ชายแก่ที่ 'สมองเลอะเลือน' หลังตราหน้า 'ปูติน' ก่ออาชญากรรมสงคราม

รัฐบาลเกาหลีเหนือกล่าวโจมตีประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ว่าเป็น “ชายแก่ที่สมองเลอะเลือน” หลังออกมาครหา วลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียว่าก่ออาชญากรรมสงครามในยูเครน

ถ้อยคำวิจารณ์เจ็บแสบนี้มีขึ้นหลังจาก ไบเดน ตราหน้าผู้นำหมีขาวเป็นอาชญากรสงคราม และเรียกร้องให้นำตัว ปูติน ขึ้นศาลระหว่างประเทศเพื่อไต่สวนความผิดฐานเข่นฆ่าพลเรือนในเมืองบูชา (Bucha)

“ประมุขฝ่ายบริหารของสหรัฐฯ กล่าวให้ร้ายประธานาธิบดีแห่งรัสเซีย โดยอาศัยข้ออ้างที่ไม่มีมูลความจริง” สำนักข่าว KCNA ของเกาหลีเหนือรายงานเมื่อวันเสาร์ (9 เม.ย.)

“คำพูดพล่อยๆ เช่นนี้มีแต่จะออกมาจากปากของพวกลูกหลานแยงกี้ ซึ่งถนัดเรื่องการรุกรานและวางแผนโจมตีผู้อื่น”

สื่อโสมแดงยังวิจารณ์ ไบเดน ว่าเป็น “ประธานาธิบดีที่ใครๆ ก็รู้ว่าปากไม่มีหูรูด” ทว่าไม่ได้เอ่ยชื่อออกมาตรงๆ

“สิ่งที่เราสรุปได้ก็คือ เขามีปัญหาในเรื่องกระบวนการคิด และคำพูดที่ขาดความยับยั้งชั่งใจก็คือสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความสะเพร่าของชายแก่ที่สมองเริ่มเลอะเลือน”

“อนาคตของสหรัฐฯ ดูจะมืดมนเสียแล้ว เมื่อปล่อยให้คนเช่นนี้ขึ้นมาเป็นผู้นำ”

ก้าวใหม่แห่งความเจริญ ‘ทางด่วนใหม่ พระราม๓-ดาวคะนอง-บางขุนเทียน’ และ ‘สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาคู่ขนานสะพานพระราม ๙’

ทางด่วนท่าเรือ-ดาวคะนอง และ สะพานขึงพระราม ๙
เปิดใช้งาน พ.ศ. ๒๕๓๐

ภาพนี้ กำลังก่อสร้าง ทางด่วนใหม่ พระราม ๓-ดาวคะนอง-บางขุนเทียน และสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งใหม่คู่ขนานสะพานขึงพระราม ๙

โครงการนี้ คือโครงการเดียวกันกับที่เราเห็นการก่อสร้างบนเกาะกลางถนนพระราม ๒ ในเวลานี้นั่นเอง

สธ. ไฟเขียว ลดวันกักตัว กลุ่มเสี่ยงเหลือ 5 วัน จ่อเสนอ ศบค. ประกาศใช้หลังสงกรานต์

คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข เห็นชอบลดวันกักตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจาก 7 วัน เหลือ 5 วัน ติดตามอาการ 5 วัน จ่อเสนอ ศปก.ศบค.พิจารณาใช้หลังสงกรานต์นี้

วันนี้ (11 เม.ย.) ที่ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ โดยมี นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้พบผู้ติดเชื้อในทุกจังหวัดแต่ส่วนใหญ่ไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย ส่วนผู้ป่วยที่มีอาการมากในกลุ่มสีเหลืองและสีแดงต้องเข้ารักษาตัวใน รพ.อัตราครองเตียงประมาณ 30% ซึ่ง สธ. ได้เตรียมพร้อมยาต้านไวรัสที่จะใช้รักษาผู้ป่วยโควิด ทั้งยาฟาวิพิราเวียร์ ยาโมลนูพิราเวียร์ และยาแพ็กซ์โลวิด รวมถึงจัดหาเวชภัณฑ์ซึ่งเป็นสารภูมิคุ้มกันชนิดออกฤทธิ์ยาว หรือ Long acting antibodies

สำหรับฉีดในผู้ที่มีความเสี่ยงและมีภูมิคุ้มกันต่ำ เพื่อป้องกันไม่ให้ติดเชื้อจนมีอาการหนักด้วย ส่วนการฉีดวัคซีนโควิด ภาพรวมไปแล้วกว่า 130 ล้านโดส ครอบคลุมเข็มแรกกว่า 80% เข็มที่สอง 73% และเข็มที่สาม 35% แต่ยังมีผู้สูงอายุอายุ 60 ปีขึ้นไปและผู้ป่วยติดเตียงจำนวนหนึ่งที่เดินทางไม่สะดวกทำให้ยังไม่ได้รับวัคซีน ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาจึงมีการรณรงค์ “Save 608 by booster dose” เร่งรัดการฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุ โดยให้เจ้าหน้าที่ร่วมกับอสม. ออกสำรวจ และให้บริการฉีดวัคซีนเชิงรุกถึงบ้านโดยเร็ว เพื่อป้องกันการเสียชีวิต


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top