Thursday, 10 July 2025
NewsFeed

เดียวดายปลายปากเหว!! ในใจ ‘เซเลนสกี้’ ความหวั่นใจสงครามกับรัสเซีย เมื่อยูเครนอาจถูกแบ่ง ‘เหนือ-ใต้’ แบบเกาหลี

โวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ผู้นำยูเครนยอมรับว่า การทำสงครามกับรัสเซียเป็นเรื่องที่เกินกำลังของกองทัพยูเครนมาก และยากที่จะเอาชนะได้อย่างเบ็ดเสร็จ แม้จะสามารถยันกองทัพรัสเซียที่พยายามจะพิชิตกรุงเคียฟได้ แต่ก็จะไม่สามารถที่จะผลักดันทหารรัสเซียออกไปจากยูเครนได้

เช่นเดียวกับกองทัพรัสเซีย ที่เริ่มเข้าใจแล้วว่าการที่จะยกทัพมาบุกยึดยูเครนทั้งประเทศ ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ง่ายๆ แล้วในยุคสมัยนี้เช่นกัน ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้สูง ว่ารัสเซียอาจต้องปรับลดเป้าหมายลง แต่ยังคงวัตถุประสงค์เดิมที่ตั้งไว้ 

ประเด็นดังกล่าวตรงกับความเห็นของหัวหน้าหน่วยข่าวกรองของยูเครน ว่ารัสเซียอาจใช้ ‘เกาหลีโมเดล’ แบ่งประเทศเป็น 2 ส่วน แล้วทางรัสเซียจะยึดครองไปส่วนหนึ่ง เหลืออีกฝั่งเป็นเขตปกครองของรัฐบาลยูเครนปัจจุบันไป 

เรื่องนี้อาจจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถยุติการสู้รบในครั้งนี้ได้ ในจังหวะที่รัสเซียพิชิตยูเครนทั้งประเทศไม่ไหว ยูเครนก็ไม่มีกำลังพอจะขับไล่กองทัพรัสเซียได้ และการเรียกให้กองกำลังต่างชาติเข้ามาผสมโรง ถล่มรัสเซียในยูเครนก็ยิ่งทำให้ประเทศบอบช้ำ แถมอาจลุกลามกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 ซึ่งคงไม่มีใครอยากให้เกิด

นอกจากนี้ หากยูเครนจะใช้กลยุทธ์สงครามแบบกองโจร ก็ยิ่งทำให้สงครามยืดเยื้อแบบสงครามในอัฟกานิสถาน และสุดท้ายยูเครนก็อาจจะไม่ได้แตกแค่ 2 ประเทศ เพราะในยูเครนก็มีกลุ่มแบ่งแยกดินแดนอีกจำนวนไม่น้อยที่พร้อมจะลุกฮือขึ้นมาประกาศแยกตนเป็นรัฐอิสระ สุดท้ายยูเครนอาจแตกเป็นประเทศเล็ก ประเทศน้อยอย่างที่เกิดขึ้นในยูโกสลาเวีย

เพราะโดยนัยแล้ว ดูเหมือนเป้าหมายหลักของสหรัฐอเมริกา ก็ไม่ใช่การสนับสนุนยูเครน แต่เป็นการโค่นล้ม ‘วลาดิมีร์ ปูติน’ ผู้นำรัสเซีย โหมแรงให้สงครามรุกลามใหญ่โต ซึ่งไม่เป็นผลดีกับยูเครนเลย

เมื่อเป็นเช่นนี้ โวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ จึงเหมือนยืนอยู่เดียวดายปลายปากเหว และต้องคิดให้หนักว่าจะตัดสินใจอย่างไรต่อไป เพราะเชื่อได้ว่า คงไม่มีผู้นำคนไหนอยากทำหินแตก หรืออยากแยกแผ่นดินในยุคสมัยของตนเองอย่างแน่นอน


เรื่อง : อรุณรัตน์

อ้างอิง : Sky News

โบว์ ณัฏฐา ชี้ การใส่มาตรการกระตุ้นที่ไม่ถึง ก็เหมือนการเข็นรถขึ้นเขา ถ้าเข็นเบาๆ ก็อาจถูกรถไหลทับ ต้องใส่แรงมากพอที่จะส่งรถขึ้นไปได้ มัน คือ การใส่ เพื่อให้เกิดการหมุนต่อ

จากสถานการณ์ความผันผวนของราคาพลังงาน อันเป็นผลพวงของความขัดแย้งระหว่างยูเครน-รัสเซีย ที่ทำให้ต้นทุนการผลิต การค้า-บริการต่างๆ ราคาดีดตัวสูงขึ้น ทำให้ค่าครองชีพเองก็มีการปรับตัวสูงขึ้นจนเกิดปรากฏการณ์ ‘แพงทั้งแผ่นดิน’ โดยรัฐบาลเองก็ได้เห็นถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน จึงได้กำหนด 10 มาตรการ เพื่อช่วยเหลือประชาชนขึ้น ดังนี้ 

1.) การเพิ่มเงินช่วยเหลือเพื่อซื้อก๊าซหุงต้มสำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 3.6 ล้านคน โดยเพิ่มเงินจากเดิม 45 บาท เป็น 100 บาท/เดือน
2.) ส่วนลดซื้อก๊าซหุงต้ม เดือนละ 100 บาท สำหรับผู้ค้าหาบเร่แผงลอยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวนประมาณ 5,500 คน
3.) ช่วยเหลือค่าน้ำมันให้กับผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมการขนส่งทางบก จำนวน 157,000 คน โดยช่วยลดค่าใช้จ่ายน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 250 บาทต่อเดือน และขอให้กรมการขนส่งทางบกกำกับราคาการให้บริการเพื่อให้ประชาชนที่ต้องใช้บริการมอเตอร์ไซค์รับจ้างมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางเท่าเดิม 
4.) คงราคาขายปลีกผู้ที่ใช้ก๊าซ NGV ไว้ที่ 15.59 บาทต่อกิโลกรัม
5.) ผู้ขับขี่แท็กซี่มิเตอร์ภายใต้โครงการลมหายใจเดียวกัน สามารถซื้อก๊าซได้ในราคา 13.62 บาท/กิโลกรัม
6.) ช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าที่จะเพิ่มขึ้นสำหรับผู้ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน โดยลดค่า Ft ลง 22 สตางค์ต่อหน่วยในช่วงเดือนพ.ค. - ส.ค.
7.) ตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลที่ 30 บาทต่อลิตร ไปจนถึงสิ้นเดือนเม.ย. 2565 หลังจากนั้น รัฐบาลจะเข้าไปช่วยเหลือส่วนที่ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นครึ่งหนึ่ง
8.) กำกับดูแลการปรับราคาก๊าซหุงต้มในช่วงตั้งแต่เดือนเม.ย.- มิ.ย. โดยใช้กองทุนน้ำมันเข้าไปช่วยลดผลกระทบจากการปรับราคาให้ไม่ขึ้นสูงเกินไป
9.) ลดอัตราเงินสมทบของนายจ้างและลูกจ้างที่อยู่ในระบบประกันสังคมมาตรา 33 จาก 5% เหลือ 1% เพื่อให้ลูกจ้างและนายจ้างสามารถมีกำลังในการใช้จ่ายและผู้ประกอบการสามารถมีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นในการดำเนินธุรกิจในช่วงถัดไป
10.) ลดอัตราเงินสมทบผู้ประกันตนมาตรา 39 จาก 9% เหลือ 1.9% และลดอัตราเงินสมทบของผู้ประกันตนมาตรา 40 ลงเหลือ 42-180 บาทต่อเดือน

หากแต่ว่าการกำหนดมาตรการเหล่านี้จากรัฐบาล ดูจะสร้างความกังขาต่อประชาชนทั่วไป ว่าแท้จริงแล้ว 10 มาตรการนี้ จะช่วยเหลือประชาชนจริงหรือไม่? โดย ‘โบว์ - ณัฏฐา มหัทธนา’ ได้ให้มุมมองเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว ไว้ว่า..

ทั้ง 10 มาตรการที่พูดถึงนั้น คือ มาตรการเดียว นั่นก็คือ ‘มาตรการลดค่าครองชีพ’ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีเพราะเป็นการลดภาระ แต่การลดภาระนั้น ต้องลดลงไปให้รู้สึกได้ว่าภาระนั้น มันถูกยกออกไปมากพอสมควรหรือเปล่า แต่ 10 ข้อที่ไล่มา หากแปลงออกมาเป็นเงินมันได้คนละกี่บาทต่อวัน

อย่างของแม่ค้าหาบเร่แผงลอย ให้เขาเดือนละร้อย เดือนละร้อย 3 เดือน คือ ส่วนลดค่าแก๊ส หารออกมาต่อวันตกวันละ 3 บาท แม่ค้าได้รับการลดภาระค่าครองชีพตกวันละ 3 บาท คำถามคือ ‘เขาจะรู้สึกอะไรไหม?’ ได้รู้สึกว่า ‘ภาระลดลงไปบ้างไหม?’ ประเด็นของโบว์ก็คือ ‘มันคือการลดภาระ ที่ไม่รู้สึกถึงการลดภาระเลย’ 

กรณีค่าไฟก็เช่นกัน การที่ออกมาบอกว่า 300 หน่วย ลด Ft 22 สตางค์ ถามว่าพอแปลงออกมาเป็นเงินแล้วได้กี่บาท เพราะเทียบดูแค่คิดจากค่าแก๊สวันละ 3 บาท ก็รู้แล้ว เพราะฉะนั้นมันเป็นการลดภาระแบบไม่รู้สึก คนรับเขาไม่รู้สึกอะไรเลย เหมือนน้ำซึมบ่อทราย คือเทไปเท่าไหร่ก็ซึมหายหมดไม่รู้สึก

ประเด็น คือ การจะช่วยก็ช่วยไป แต่ถ้าลองถามแม่ค้า เขาอยากให้ลดค่าแก๊สวันละ 3 บาท หรืออยากให้มีลูกค้าเข้ากันแน่ คุณลดให้ค่าแก๊ส 3 บาท แต่มันไม่มีลูกค้าเข้าร้าน เพราะคนไม่มีเงินไปจับจ่าย มันก็จะไม่มีผลในการที่จะทำชีวิตดีขึ้นจริงๆ

กลับกันหากไปมองอย่างนโยบาย ‘คนละครึ่ง’ / ‘เราเที่ยวด้วยกัน’ นโยบายพวกนี้ คือ นโยบายที่ดีในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพียงแต่นโยบายในการกระตุ้นเศรษฐกิจ อาจต้องมีที่ได้ผลมากกว่าเดิม เพราะตอนนี้สถานการณ์ไม่ได้มีแค่โควิด- 19 มันมีเรื่อง รัสเซีย-ยูเครน ที่ส่งผลกับน้ำมัน แล้วมันเลยยิ่งทำให้เศรษฐกิจแย่ลงไปอีก

"นายกฯ" ห่วง สถานการณ์ปุ๋ยขาดแคลน สั่ง ทุกหน่วยงาน เร่งบรรเทาความเดือดร้อนเกษตรกร-ไม่ให้กระทบความมั่นคงด้านอาหารของไทย

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยสถานการณ์ปุ๋ยขาดแคลน กำชับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องดูแลปัญหาบรรเทาภาระของประชาชนให้มากที่สุด ซึ่งที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์ สำรวจปริมาณปุ๋ยที่มีอยู่ในสต๊อก และการจัดหาปุ๋ยเพิ่มเติมให้เพียงพอแล้ว แต่ยังมีไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ประกอบกับราคาปุ๋ยที่สูงขึ้น จากหลายปัญหาในเวลาเดียวกันทั้งจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และสถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในต่างประเทศโดยเฉพาะความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน

นายธนกร กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามแก้ไขปัญหามาโดยตลอด แต่ไทยยังไม่สามารถผลิตปุ๋ยเคมีที่เป็นอาหารพืช และปุ๋ยยูเรียได้เอง เพราะไม่มีวัตถุดิบ ต้องอาศัยการนำเข้าจากต่างประเทศ ทำให้ราคาเป็นไปตามกลไกตลาดโลก ไม่ใช่ราคาปุ๋ยสูงเฉพาะในประเทศไทย จึงขอให้ประชาชนเข้าใจ 

นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ดำเนินโครงการปุ๋ยสั่งตัด ที่เหมาะกับสภาพดินและความต้องการของพืช อีกทั้งเร่งการผลิต ปุ๋ยหมักปุ๋ยอินทรีย์เสริมให้ประชาชนใช้ เพื่อช่วยเกษตรกรลดต้นทุน อีกทั้งได้มีมาตรการหลาย ๆ อย่าง เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนไม่ว่าจะเป็นมาตรการด้านพลังงาน และมาตรการช่วยเหลือแรงงานที่ได้รับความเดือดร้อนไปบ้างแล้ว ในส่วนของมาตรการปุ๋ยแพงนั้น นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประสานงานกับภาคเอกชนที่ประกอบธุรกิจนำเข้า เพื่อหาหนทางนำเข้าเพิ่มเติมให้ได้มากที่สุด พร้อมกับออกแนวคิดช่วยเหลือประชาชนบรรเทาความเดือดร้อนอย่างเต็มที่ เช่น ใช้มาตรการทางการเงิน ช่วยปล่อยเงินกู้พิเศษ เงินกู้ระยะยาว ดูแลเรื่องดอกเบี้ย 

“ชัยวุฒิ” ไม่ขอออกความเห็น หลังมีข่าวอนุทิน โดดร่มครม. แสดงจุดยืนโครงรถไฟฟ้าสายสีเขียว “ระบุ” หากต่อขยายผู้ประกอบการรายเดิมสะดวกประชาชน พร้อมลุยขอคำสั่งศาลเพื่อปิดกั้นเว็บไซต์ “มังกรฟ้า” วันนี้ ยัน ขายสลากออนไลน์ได้แต่ต้องขายของจริง

เมื่อวันที่ 29 มี.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประขุม ครม.นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวการนำ เรื่องการต่อขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ว่า ตนยังไม่ทราบในรายละเอียด ขึ้นอยู่กับที่ประชุมว่าจะพิจารณาอย่างไร ส่วนกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายศักดิ์สยามชิดชอบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมจะไม่เข้าในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้นั้น ตนไม่ทราบและไม่ขอออกความเห็น โดยขอดูที่ประชุมก่อนว่าจะว่าอย่างไร

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า เรื่องการต่อขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว เป็นสิ่งที่รัฐบาลในอดีตกับกรุงเทพฯดันร่วมกัน ในการสร้างส่วนต่อขยายจากระบบเดิม ไปยังจังหวัดสมุทรปราการและจังหวัดปทุมธานี เมื่อมีส่วนต่อขยายขึ้นมาก็ต้องหาคนมาเดินรถ เพื่อให้เกิดการดำเนินการที่ต่อเนื่อง เพราะหากทำไม่ได้ประชาชนก็จะลำบาก เพราะไม่มีการให้บริการรถไฟฟ้า โดยเฉพาะหากไม่ให้ผู้บริการเจ้าเดิม คือ BTS ขยายการเดินรถออกไป รถก็จะต้องเปลี่ยนสีเปลี่ยนคัน เมื่อประชาชนใช้บริการมาถึงสุดโครงการเดิม ก็ต้องเปลี่ยนรถคันใหม่ ทำให้ไม่สะดวกสบายมีปัญหาในการจราจรอย่างแน่นอน จึงเป็นที่มา ว่าต้องมีการขยายโครงการ ให้ผู้เดินรถเจ้าเดิมได้เดินรถต่อ ขอให้เข้าใจบริบทด้วย ว่าไม่ใช่เรื่องที่มีปัญหาอะไรแต่เป็นการพยายามทำ เพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชนชาวกรุงเทพฯปทุมธานีและสมุทรปราการ

'รมต.ภท.' เข้าประชุมครม.ตามปกติ หลังช่วงเช้า ลือสะพัด โดดประชุม ไม่สังฆกรรมสายสีเขียว

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ในช่วงเช้าก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี มีกระแสข่าวว่า ในการประชุม ครม. ครั้งนี้ จะมีการนำวาระ สัญญา โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว เข้าสู่การพิจารณา ในขณะที่รัฐมนตรีพรรคจะไม่เข้าร่วมประชุมเหมือนครั้งก่อน โดยจะใช้วิธีลาประชุม แต่ ปรากฏว่าก็ยังมีรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยทยอยเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีตามปกติเว้นแต่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลาที่ประชุมครม. เนื่องจากไปฉีดวัคซีนบูธตอร์เข็ม4 และมีอาการป่วยเล็กน้อย มาเมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา และน.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ยื่นใบลาป่วยต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี

ต่อมาเวลา 08.45 น. นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวดังกล่าวว่า รมต.ของพรรคหลายคนก็มา ผู้สื่อข่าวถามว่าแต่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย จะไม่เข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีในวันเดียวกันนี้ใช่หรือไม่ นาง กนกวรรณกล่าวว่า วันนี้ตนยังไม่ทราบ เมื่อถามย้ำว่าวันนี้มีวาระ รถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้าที่ประชุมครม. ใช่หรือไม่   นางกนกวรรณ กล่าวว่า ไม่ทราบ เมื่อถามย้ำว่า นายอนุทินได้แจ้งหรือไม่ว่าจะให้เข้าร่วมประชุมหรือไม่ นางกนกวรรณ กล่าวว่า เข้าประชุมปกติ พร้อมกับ ขอตัวเข้าห้องประชุมครม.ก่อน

รัฐบาลเร่งดันการลงทุนยานยนต์ไฟฟ้า ตั้งเป้าเป็นฮับ EV อาเซียน 

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ติดตามบรรยากาศการจัดงานบางกอก อินเตอร์ เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2022 ครั้งที่ 43 (Motor Show 2022) หรือ งานมอเตอร์โชว์ ณ เมืองทองธานี พร้อมรับทราบความคืบหน้าการจัดแสดงอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานไฟฟ้า ซึ่งอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยในปี 2565 เริ่มกลับมาตั้งหลักและฟื้นตัวอีกครั้งจากสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศที่เริ่มคลี่คลาย ยืนยันภาครัฐเร่งพลิกฟื้นภาคเศรษฐกิจทั้งระบบ เล็งออกมาตรการส่งเสริมรอบด้านเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมรถ EV ในประเทศให้มากยิ่งขึ้น พร้อมชูจุดเด่นด้านความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 

ทั้งนี้ รัฐบาลยังได้มองการขยายช่องทางสู่ตลาดยานยนต์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นทั้งภายในและต่างประเทศ รวมถึงจะมีการประเมินสถานการณ์และนโยบายการสนับสนุนการใช้รถ EV ของประเทศเพื่อนบ้าน และมีแผนออกมาตรการสนับสนุนต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ประเทศไทยสามารถบรรลุเป้าหมายในการเป็นศูนย์กลางการผลิตรถ EV ของภูมิภาคอาเซียนให้ได้ ขณะที่ก็มีเป้าหมายชัดเจนในการขับเคลื่อนให้เกิดการใช้งานรถ EV อย่างเป็นรูปธรรม 

โดยรัฐบาลตั้งเป้าภายใน 5 ปีจากนี้ จะมีการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไม่น้อยกว่า 360,000 คัน โดยแบ่งเป็นใช้ในประเทศ 260,000 คัน และส่งออก 100,000 คัน นอกจากนี้ คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ด EV) ได้ตั้งเป้าให้มีการใช้รถยนต์ไฟฟ้าทุกประเภท รวมกว่า 1.05 ล้านคันภายในปี 2568

 

'นิพนธ์' ยังไม่ชัด สายสีเขียวเข้าครม.หรือไม่ เชื่อรมต.เป็นผู้ใหญ่ คุยด้วยเหตุผล พร้อมจ่อฟัน "แม่ธนาธร" ปมรุกที่ดินป่าราชบุรี หลังข้อมูลพบรุกจริง 

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวจะมีการนำเข้าพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันเดียวกันนี้หรือไม่ ว่า ยัง ต้องรอดูในที่ประชุม เมื่อถามว่า ที่ให้แต่ละหน่วยงานไปดูในรายละเอียด มีรายงานเพิ่มเติมเข้ามาแล้วหรือไม่ นายนิพนธ์ กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบ เรื่องนี้ต้องรอดูว่าจากการประชุมเมื่อวันก่อนข้อมูลครบถ้วนแล้วหรือยัง ที่มีข้อสงสัยในเรื่องของทรัพย์สินต่างๆ เพราะฉะนั้นต้องรอดูว่าทุกอย่างมีคำตอบหรือยัง 

เมื่อถามอีกว่า ในส่วนของกทม.แจ้งว่าส่งรายงานข้อศึกษามาเรียบร้อยแล้ว นายนิพนธ์ ตอบว่า กทม. อาจจะตอบแล้ว แต่คนที่ถามเขาได้คำตอบครบหรือยัง อันนี้ก็ต้องดูก่อนจะพิจารณา เมื่อถามว่า หาก ครม.มีการหยิบยกเข้ามาหารือและรัฐมนตรีในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ไม่เห็นชอบจะถือเป็นมติของ ครม.หรือไม่ นายนิพนธ์ กล่าวว่า ให้รอผลการประชุมก่อนดีกว่า ไม่อยากไปคาดการณ์อะไรล่วงหน้า ตนคิดว่าครม.ก็ล้วนแต่เป็นผู้ใหญ่กันทั้งนั้น ก็พูดจากันด้วยเหตุผล คนเชื่ออย่างนั้น

วางยาพิษ ‘เสี่ยหมี’ - นักสันติภาพยูเครน ระหว่างร่วมการเจรจาสันติภาพ 2 ประเทศ

วอลล์ สตรีท รายงานข่าวด่วนว่า โรมัน อับราโมวิช อดีตเจ้าของสโมสรฟุตบอล เชลซี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้มีอำนาจของรัสเซีย ได้ถูกลักลอบวางยาพิษ พร้อมกับนักเจรจาเพื่อสันติภาพชาวยูเครน

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในการประชุมที่กรุงเคียฟ มีผู้ถูกวางยาพิษทั้งสิ้น 3 คนด้วยกัน หนึ่งในนั้นรายงานข่าวยืนยันว่าเป็น โรมัน อับราโมวิช

โรมัน พร้อมด้วยผู้ประกอบการชาวรัสเซียอีกคนหนึ่งได้มีส่วนร่วมในการเจรจาร่วมกับตัวแทนของยูเครน  ตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 3 มีนาคมได้เกิดขึ้นที่ยูเครน และการประชุมดำเนินไปจนถึงเวลาประมาณ 22:00 น.

การกลับมาของรัสเซีย ในสงครามค่าเงินรูเบิล จาก 177 สู่ 95/US ความสำเร็จ ที่สหรัฐฯ และ NATO ไม่อยากเห็น

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ โพสต์ข้อความเฟซบุ๊ก ระบุว่า ความสำเร็จของรัสเซีย ในสงครามค่าเงินรูเบิล

วันนี้ ขอนำกลับไปตรวจอีกแนวรบหนึ่ง ที่รัสเซียสามารถรุกคืบ ยึดพื้นที่กลับคืนมาเรื่อยๆ ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา

จากค่าเงินรูเบิลที่เคยร่วง ระเนระนาด ไปแตะ 177.26 รูเบิล/ดอลลาร์

ล่าสุด ค่าเงินรูเบิลกลับมาอยู่ที่ 95 รูเบิล/ดอลลาร์ !!!!

ถ้านับจากช่วงก่อนสงครามรัสเซีย-ยูเครนเปิดฉาก ที่ 77-78 รูเบิล/ดอลลาร์ ค่าเงินรูเบิลได้อ่อนค่าลงไปเพียงประมาณ 20% เท่านั้น

หลายคนคงสงสัยว่าทำไม? ทำไมรัสเซียถึงสามารถรุกคืบกลับมาได้

ทั้งๆ ที่สหรัฐและพันธมิตรได้ Freeze เงินสำรองระหว่างประเทศของรัสเซียไปบางส่วนแล้ว

คำตอบอยู่ที่ มาตรการ Capital Control และ Exchange Control ของธนาคารกลางรัสเซียที่ประกาศใช้ในช่วงที่ผ่านมา

- ไม่ให้ต่างชาติขายสินทรัพย์ในรัสเซีย และไม่ให้เอาเงินออก

- ให้ผู้ส่งออกต้องนำเงินตราต่างประเทศที่ได้มา 80% ขายสู่ตลาด

- คนที่อยากแลกเงินรูเบิลเป็นเงินตราต่างประเทศต้องจ่ายค่าคอม 30%

ทั้งหมดนี้ ทำให้รัสเซียไม่ค่อยมีเงินไหลออกจากประเทศ 

ซึ่งเมื่อรวมกับเงินจาก Current account ที่ปกติแล้วจะเป็นบวก (ปีที่แล้ว +5% ของ GDP) จากน้ำมันและก๊าซที่ยังสามารถขายให้ยุโรปและคนอื่นๆ ตลาดค่าเงินรูเบิลจึงเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้นเรื่อยๆ 

ยิ่งมีเสถียรภาพ คนรัสเซียยิ่งมั่นใจ ไม่ไปต่อแถวแลกเงิน

โดยมีเจ้ามือใหญ่ กระเป๋าใหญ่ (เพราะพิมพ์แบงก์เอง) คือ ธนาคารกลางของรัสเซีย กำกับภาพรวม กำหนดกฎเกณฑ์ที่ทำให้รัสเซียได้เปรียบ  

นับเป็นความสำเร็จ ที่สหรัฐและ NATO ไม่อยากเห็น 

เพราะหมายความว่า "นิวเคลียร์เศรษฐกิจ" ที่ต้องการทำให้ เงินเฟ้อรัสเซียพุ่ง บริษัทรัสเซียล้มละลายจากหนี้ต่างประเทศ (เหมือนไทยปี 40) คนตกงาน ต้องปิดแบงก์ นำไปสู่ Financial Sector Meltdown ไม่เป็นไปตามแผน  

นับว่าแนวรบนี้ รัสเซียสำเร็จในการยึดพื้นที่คืน

ทำให้สหรัฐและพันธมิตร ต้องไปหามาตรการอื่นๆ มา Sanctions เพิ่มเติม

สถาบันสอนภาษา GLIT ชวนน้องๆ เข้าคอร์สซัมเมอร์ เสริมการเรียนรู้สนทนาภาษาอังกฤษตั้งแต่เริ่มต้น

สถาบันสอนภาษานานาชาติ ประเทศไทย (Global Language Institute, Thailand หรือ GLIT ) เปิดหลักสูตร ‘English Summer Course Conversation For Beginner’ เสริมการเรียนรู้การสนทนาภาษาอังกฤษ ช่วงปิดเทอม ตลอดเดือนเมษายนนี้ 

โครงการ GLIT มี Course สำหรับน้องๆ ตั้งแต่ อายุ 9-15 ปี หรือ ป.4 - ม.3 จำนวน 10 ชั่วโมง มีทั้งแบบออนไลน์ และออนไซต์ 

คอร์สนี้ จะเน้นสนทนาภาษาอังกฤษ พร้อมให้เด็กๆ ได้ประสบการณ์ครบทั้ง เรียน เล่น สนุก ในรูปแบบ Play & Learn ที่จัดเต็มทั้งสาระและบันเทิง เพื่อปูพื้นฐานการสนทนาในชีวิตประจำวันแบบง่าย 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top