Thursday, 10 July 2025
NewsFeed

'รมว. สุชาติ' นำทีมไทยแลนด์ลุยไซต์งานซาอุฯ เตรียมส่งออกแรงงาน

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยนายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) จ่าเอกยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรี นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน ได้เดินทางถึงประเทศซาอุอิอาราเบีย โดยมีนายอับดุลมายิด อัลราชูดีย์ รัฐมนตรีช่วยดูแลกิจการแรงงาน กระทรวงพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาสังคม  พร้อมด้วยนายสธน เกษมสันต์ ณ อยุธยา อุปทูต ณ กรุงริยาด ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ณ กรุงริยาด ประเทศ โดยนายสุชาติกล่าวว่า ในวันนี้ผมได้นำคณะผู้บริหารของกระทรวงแรงงานมายังกรุงริยาด ประเทศซาอุดิอาราเบีย เพื่อเตรียมเข้าร่วมพิธีลงนามความตกลงด้านแรงงานในวันที่ 28 มีนาคน 2565 เวลา 12.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น

จากนั้น นายสุชาติ และคณะ ยังได้ตรวจเยี่ยมและพบปะให้กำลังใจเจ้าหน้าที่สำนักงานแรงงานไทย ณ กรุงริยาด รวมทั้งหารือข้อราชการกับนายสธน เกษมสันต์ ณ อยุธยา อุปทูต ณ กรุงริยาด โดยกล่าวว่า ขอขอบคุณท่านอุปทูต ที่ให้การดูแลอัครราชทูตที่ปรึกษาและเจ้าหน้าที่ของฝ่ายแรงงาน และให้คำแนะนำ สนับสนุน การปฏิบัติงาน ของฝ่ายแรงงานฯ ซึ่งเป็นหน่วยงานของกระทรวงแรงงาน ที่ประจำการที่กรุงริยาดรวมถึงช่วยเหลือดูแลแรงงานไทยในซาอุดีอาระเบีย ให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่เหมาะสม ได้รับการคุ้มครองสิทธิตามกฎหมาย นอกจากนี้ ขอขอบคุณกระทรวงการต่างประเทศที่ช่วยผลักดันสนับสนุนให้การลงนามความตกลงด้านแรงงานในครั้งนี้ประสบความสำเร็จโดยเร็ว มุ่งหวังให้การจ้างแรงงานไทยเป็นไปตามพันธกรณีระหว่างประเทศด้านแรงงานของทั้งสองประเทศ ทั้งนี้ ขอความร่วมมือทางการซาอุดีอาระเบียช่วยตรวจตราในการต่อต้านการค้ามนุษย์ ปกป้องคุ้มครองสิทธิของนายจ้างและแรงงาน รวมถึงการบังคับใช้กฎระเบียบ สัญญาจ้างงานระหว่างกันที่เป็นธรรม แรงงานได้รับค่าจ้าง สวัสดิการ และสิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย

สำหรับสถานการณ์ด้านแรงงาน ปัจจุบันมีแรงงานไทยที่ไปทำงานอยู่ในซาอุดีอาระเบีย จำนวน 1,334 คน แรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานส่วนใหญ่เป็นการแจ้งการเดินทางด้วยตนเอง นายจ้างพาไปทำงาน และ Re - entry ซึ่งตำแหน่งงานที่แรงงานไทยเดินทางไปทำงาน เช่น ช่างเชื่อม ช่างเทคนิค ช่างเครื่องยนต์ ผู้ปฏิบัติงานในโรงงาน ผู้ควบคุมเครื่องจักร คนงานผลิตผลิตภัณฑ์ทั่วไป คนงานควบคุมเครื่องจักร ผู้ช่วยกุ๊ก แม่บ้าน เป็นต้น

นายสุชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันเดียวกันนี้ผมยังได้พบปะหารือกับตัวแทนบริษัทรับเหมาก่อสร้าง เพื่อตรวจเยี่ยมสภาพการจ้างงานในสถานประกอบการไซด์งานก่อสร้างของซาอุดีอาระเบีย ณ ไซด์งานก่อสร้างบริษัท AL BAWANI -CP02 โดยได้พบปะพูดคุยกับผู้ประกอบการธุรกิจก่อสร้างในประเด็นความต้องการแรงงานในกิจการก่อสร้างของซาอุดีอาระเบีย สภาพเศรษฐกิจโดยรวม แนวโน้มการเติบโตของธุรกิจก่อสร้างในอนาคต ตลอดจนแผนการลงทุนในโครงการก่อสร้างอื่น ๆ ที่วางแผนไว้ ตลอดจนมาตรการดูแลคุณภาพชีวิตและสวัสดิการของแรงงานต่างชาติที่เข้ามาทำงานในซาอุดีอาระเบียนั้น จะมี E-Contract Program ซึ่งเป็นการทำสัญญาจ้างอิเล็กทรอนิกส์ มุ่งรักษาสิทธิของลูกจ้าง และลดความขัดแย้งระหว่างลูกจ้างและนายจ้าง

“เสกสกล” เห็นด้วย “ซูเปอร์โพล”ปชช.พอใจ 10 มาตรการช่วยเหลือ อย่าฟังฝ่ายค้านโจมตีนายกฯ เอาแต่ผลประโยชน์ตัวเอง

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เห็นด้วยกับสำนักวิจัยซูเปอร์โพล ที่สำรวจความคิดเห็นของประชาชนเรื่อง 10 มาตรการช่วยเหลือประชาชน พบว่าร้อยละ 84.2 พอใจ โดยเฉพาะเรื่องของพลังงาน ลดภาระค่าไฟฟ้า และประชาชนร้อยละ 59.7   ยังให้โอกาสรัฐบาลได้ทำงานต่อ จึงเป็นการแสดงให้เห็นว่านายกฯให้ความสำคัญกับประชาชน  มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาอย่างแท้จริง จนได้รับความไว้วางใจจากประชาชนที่อยากให้นายกฯบริหารงานแก้ไขปัญหาต่อไป

นายเสกสกล กล่าวว่า ตลอดเวลาของการทำหน้าที่ นายกฯและรัฐบาล ได้ทำงานอย่างหนักในการที่จะแก้ไขปัญหาประเทศชาติ และแม้จะเกิดวิกฤตต่างๆ ทั้งสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลถึงปัญหาเศรษฐกิจ รวมถึงสถานการณ์ในรัสเซียและยูเครนที่กำลังเกิดขึ้น นายกฯ และรัฐบาล ยังช่วยกันคิดเพื่อที่จะหามาตรการต่างๆออกมาให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เพราะนายกฯเข้าใจความเดือดร้อนของประชาชนอย่างแท้จริง  

ก.แรงงาน จัดทำแผนปฏิบัติราชการด้านการพัฒนาทรัพยากรบุคคล ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566 - 2570) เน้นการพัฒนา ปรับปรุงระบบการบริหาร พัฒนาทรัพยากรบุคคล พร้อมก้าวไปสู่การเป็นกระทรวงด้านเศรษฐกิจ

นางบุปผา พันธุ์เพ็ง รองปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อจัดทำแผนปฏิบัติราชการด้านการพัฒนาทรัพยากรบุคคล ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566 - 2570) ของกระทรวงแรงงาน ณ ห้องประชุมจอมพล ป. พิบูลสงคราม ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน โดยกล่าวว่า ในฐานะรองปลัดกระทรวงแรงงาน ที่รับผิดชอบงานในหน้าที่ของกองบริหารทรัพยากรบุคคล ต้องการเห็นแผนปฏิบัติราชการด้านการพัฒนาทรัพยากรบุคคล ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566 - 2570) ของกระทรวงแรงงาน ที่มุ่งเน้นการพัฒนา การปรับปรุงระบบการบริหารและการพัฒนาทรัพยากรบุคคลให้สอดคล้องกับภารกิจของกระทรวงแรงงาน ในปัจจุบันที่อยู่ในยุคกำลังจะก้าวข้ามผ่านการเป็นกระทรวงด้านสังคม เพื่อเสริมสร้างและพัฒนาให้คนของเราเป็นทั้งคนดีและคนเก่ง ตลอดจนมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศชาติ และช่วยเหลือประชาชน เป็นกลไกหลักในการพัฒนากระทรวงแรงงานให้ก้าวไปสู่การเป็นกระทรวงด้านเศรษฐกิจต่อไป

ปัจจุบันสังคมมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ตลอดจนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ทำให้รูปแบบการทำงาน และดำรงชีวิตประจำวันเปลี่ยนแปลงไป ก่อให้เกิดวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) เกิดการเว้นระยะห่างทางสังคม การทำกิจกรรม การซื้อขายและใช้บริการทางออนไลน์ เพิ่มขึ้น เป็นสังคมยุคดิจิทัลที่ไร้พรมแดน ดังนั้น การพัฒนาทรัพยากรบุคคลของกระทรวงแรงงานจึงจำเป็นต้องมีการปรับตัวให้ทันกับกระแสการเปลี่ยนแปลง และมีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ในระดับต่างๆ โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ว่ากระทรวงแรงงานเป็นที่พึ่งผู้ใช้แรงงานได้อย่างแท้จริง โดยการทำงานต้องมีการบูรณาการและการสร้างเครือข่าย รวมทั้งยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล ตลอดจนปฏิบัติงานได้อย่างมืออาชีพที่มุ่งผลสัมฤทธิ์

“นายกฯ”กำชับทุกฝ่ายปฏิบัติตามมาตรการ VUCA ช่วงเทศกาลสงกรานต์ เชื่อ สามารถควบคุมระบาดโควิด-19 ได้ 

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เน้นแนวทางการควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะสถานการณ์ช่วงก่อน-ระหว่าง-หลังเทศกาลสงกรานต์ ถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญ โดยกำชับทุกฝ่ายต้องปฏิบัติตามมาตรการ VUCA อย่างเข้มงวด ได้แก่ V-วัคซีน ขอให้เข้ารับการฉีดวัคซีนและวัคซีนเข็มกระตุ้น U- ป้องกันตนเองสูงสุดตลอดเวลา  C- COVID Safe Living ใช้ชีวิตอย่างปลอดภัย หลีกเลี่ยงจัดกิจกรรมเสี่ยง และ A-ตรวจ ATK กรณีที่มีความเสี่ยงต่อการรับเชื้อ รวมทั้งสถานประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ยังคงใช้มาตรการโควิดฟรีเซตติ้ง และการตรวจ ATK อย่างสม่ำเสมอ 

นายธนกร กล่าวว่า นายกฯ ยังเน้นทิศทางการทำงานของรัฐบาล โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมการตรวจหาเชื้อ การฉีดวัคซีน ระบบการดูแลรักษาพยาบาลผู้ติดเชื้อ ลดการระบาด ลดจำนวนผู้เสียชีวิต ทั้งนี้หากทุกฝ่ายเข้มแข็งในการปฏิบัติตามมาตรการ ลดความเสี่ยงทุกกิจกรรม อาจทำให้สามารถควบคุมการติดเชื้อโควิด-19 หลังเทศกาลสงกรานต์ ให้ต่ำกว่าที่กระทรวงสาธารณสุขประมาณการณ์ได้

“ประวิตร” เล็ง 60 วัน เชื่อมโยงฐานข้อมูลด้านสวัสดิการของรัฐให้เสร็จ ลดเหลื่อมล้ำ-แก้ยากจน

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบูรณาการเชื่อมโยงฐานข้อมูลด้านสวัสดิการของรัฐ ครั้งที่ 1/65 ผ่านระบบ วิดีโอคอนเฟอเรนซ์ มูลนิธิป่ารอยต่อฯ 

โดยที่ประชุมเห็นชอบแนวทางการเชื่อมโยงฐานข้อมูลด้านสวัสดิการของรัฐ ใน 3 แนวทาง คือ การออกแบบการเชื่อมโยงฐานข้อมูลด้านสวัสดิการของรัฐด้านเทคนิค (Technical ) เนื่องจากยังไม่มีระบบเชื่อมโยงข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดปัญหาการรับสวัสดิการซ้ำซ้อน ข้อมูลตกหล่น ไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ภาครัฐไม่สามารถใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร นอกจากนั้นยังมีปัญหา ข้อกฎหมาย ระเบียบและข้อบังคับ ที่ไม่สามารถบังคับใช้และตรวจสอบได้ โดยมอบให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สถาบันส่งเสริมการวิเคราะห์และบริหารข้อมูลขนาดใหญ่ภาครัฐ และสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) เป็นหน่วยหลักในการดำเนินการออกแบบการเชื่อมโยงฐานข้อมูลดังกล่าว

ที่ประชุมรับทราบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นรม.และรมว.กห. ที่ให้ความสำคัญกับการเร่งจัดทำฐานข้อมูลด้านสวัสดิการของรัฐให้เป็นฐานข้อมูลเดี่ยว เพื่อขับเคลื่อนแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำและความยากจนอย่างเป็นระบบ มีเอกภาพ ทั่วถึงเป็นธรรมมากขึ้น โดยไม่ซ้ำซ้อนและสามารถตรวจสอบได้ โดยต้องการกำหนดระยะเวลาแล้วเสร็จโดยเร็ว สำหรับแนวทางการรวบรวมข้อมูลด้านสวัสดิการของรัฐและขั้นตอนการให้บริการด้านสวัสดิการของรัฐแก่ประชาชน ( Business ) ซึ่งมีข้อมูลทับซ้อนอยู่ในหลายหน่วยงาน และไม่เป็นฐานข้อมูลเดียวกัน ( Big Data ) โดยยังไม่มีหน่วยงานเจ้าภาพหลัก 

ซึ่งข้อมูลด้านสวัสดิการของประชาชนตลอดช่วงชีวิตในประเทศไทย จำนวน 69 สวัสดิการ แบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ประเภทที่ต้องร่วมจ่ายเงินสมทบ ประเภทที่ไม่ต้องร่วมจ่ายเงินสมทบ และประเภทที่เป็นสวัสดิการข้าราชการ ที่ประชุมมอบหมายให้ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์กระทรวงคมนาคมกระทรวงมหาดไทย กระทรวง กรมการปกครอง และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เป็นหน่วยหลักรับผิดชอบรวบรวมข้อมูล และให้ข้อเสนอแนะ การให้บริการด้านสวัสดิการของรัฐแก่ประชาชน 

‘มังกรฟ้า’ หยุดขายสลากออนไลน์ชั่วคราว ลั่น พร้อมให้ความร่วมมือรัฐบาลแก้หวยแพง

มังกรฟ้า ออกประกาศปิดกิจการขายสลากออนไลน์ชั่วคราว เริ่ม 16 เม.ย.นี้ พร้อมให้ความร่วมมือรัฐบาลแก้ปัญหาหวยแพง

วันที่ 28 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี หรือแรมโบ้อีสาน ประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. รองประธาน พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบช.ภ.1 ร่วมกับ พ.ท.หนุน ศันสนาคมผอ.สนง.สลากกินแบ่งรัฐบาล และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง นำหมายค้นศาล อาญาเข้าตรวจค้นบริษัท มังกรฟ้า ลอตเตอรี่จำกัด เมื่อวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา

โดยสืบสวนทราบว่าบริษัทดังกล่าวไม่ได้รับการจัดสรรโควตา มีการกว้านซื้อสลากฯ จากผู้ได้รับโควตาผู้ค้า รายย่อยและบุคคลทั่วไปมากกว่า 2 ล้านฉบับ นำเข้าสู่ ระบบแพลตฟอร์มมังกรฟ้า เสนอขายหรือแทรกแซงกลไกราคา ทำให้ราคาสลากฯ มีมูลค่าสูงกว่าที่กฎหมายกำหนด

'หมอวรงค์' ชี้!! 'อุ๊งอิ๊ง' เป็นนายกฯ 'โอ๊ค' นั่งมท.1 ไม่แปลก!! แต่ไม่สนถูกผิดอีก เสี่ยงไม่มีแผ่นดินอยู่ อย่ามาว่ากัน

28 มี.ค. 65 - นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom ว่า "อย่ามาว่ากันนะ"

อุ๊งอิ๊งเคยออกมาพูดเรื่อง ครอบครัวเพื่อไทยจะแลนด์สไลด์ 14 ล้านเสียง

ล่าสุดหมอชลน่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกมาปั่นกระแส ครอบครัวเพื่อไทย จะได้รับการตอบรับ 10-12 ล้านเสียง

ในทางระบอบประชาธิปไตย ไม่แปลกที่ "อุ๊งอิ๊ง" จะขึ้นมาเป็นนายก หรือจะเอา "โอ๊ค" มาเป็นรัฐมนตรีมหาดไทยด้วยก็ได้

‘พิธา’ แจ้งติดโควิดรอบสองภายใน 1 เดือน คาด!! ติดจากช่างภาพที่ร่วมงาน

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘Pita Limjaroenrat - พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ แจ้งติดเชื้อโควิด-19 รอบที่ 2 ภายใน 1 เดือน โดยระบุว่า... 

เรียนพี่น้องประชาชนที่เคารพครับ จากที่ผมได้ชี้แจงกับพี่น้องประชาชนผ่านช่องทางส่วนตัวเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ว่าผมและลูกสาวของผมตรวจพบเชื้อโควิดผ่านชุดตรวจ ATK ตั้งแต่ช่วงต้นเดือน เข้าสู่ระบบ HI และกักตัวเป็นเวลา 10 วันหลังจากที่มีอาการ จนหายจากอาการโควิดและตรวจไม่พบเชื้อในสัปดาห์ถัดมา กลับไปทำงานตามปกติและยังตรวจ ATK เป็นประจำทุกวัน

อย่างไรก็ตาม เมื่อวานซืนนี้ผมได้มีอาการไม่สบายอีกครั้งหนึ่งและตรวจพบเชื้อโควิดผ่านชุดตรวจ ATK ผลเป็นบวกทั้งๆ ที่ไม่น่าเป็นไปได้ ผมจึงไปตรวจยืนยันผลอีกครั้งโดยการตรวจ PCR ก็พบว่าติดเชื้อโควิดอีกครั้งหนึ่ง โดยมีค่า CT อยู่ที่ 19 ซึ่งแพทย์ระบุว่าหมายถึงปริมาณเชื้อมาก วินิจฉัยว่าเป็นการติดโควิด (reinfection) อีกครั้งหนึ่ง ไม่ใช่ซากเชื้อจากการเป็นโควิดครั้งก่อน

การติดโควิดครั้งที่สองของผมสันนิษฐานว่าติดจากช่างภาพที่ร่วมงานกัน (ถือเป็น close contact เดียวที่ติดโควิด) โดยผมติดคนเดียว ลูกสาวของผมไม่ได้ติดด้วยและตอนนี้ลูกอยู่ในความดูแลของคุณแม่แล้วครับ

เมื่อผมได้คอนเฟิร์มผลด้วยการตรวจ PCR ว่าเป็นการติดซ้ำครั้งที่ 2 (Reinfection) แน่นอน ผมได้สอบถามแพทย์เรื่องการติดซ้ำของสายพันธุ์โอมิครอน BA1 และ BA2 ได้รับการชี้แจงว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้และในอังกฤษมีผู้ติดโควิดซ้ำถึง 650,000 คน โดยโอมิครอนมีโอกาสติดซ้ำมากกว่าเดลตาถึง 5 เท่า ตอนนี้กำลังมีการส่งต่อผลแล็ปของผมเพื่อตรวจสายพันธุ์ต่อไปครับ

ผมขอใช้โอกาสนี้ขอโทษที่ผมไม่สามารถไปร่วมงาน Nation Dinner Talk ในเย็นวันนี้ได้ และไม่สามารถไปพบปะ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติตามแผนเดิมได้ อย่างไรก็ตามผมก็ขอทำงานในสถานการณ์ที่ต้องกักตัวต่อไป และขอติดตามการบริหารสถานการณ์โควิดและการแก้ไขปัญหาค่าครองชีพของรัฐบาลต่อไป

ตัวผมในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ติดตามการบริหารสถานการณ์โควิดมาโดยตลอด ขอใช้โอกาสนี้สื่อสารกับทุกท่านครับว่า ในบริบทการเปลี่ยนผ่านของโควิดจากโรคระบาดระดับโลก (Pandemic) เป็นโรคประจำถิ่น (Endemic) นั้นยังมี 2 ปัจจัยสำคัญที่เรายังจำเป็นต้องติดตามการทำงานของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เราสามารถเปิดเศรษฐกิจได้อย่างสมดุลกับการรักษาความมั่นคงทางสาธารณสุขให้กับพี่น้องประชาชน

“ของขวัญยุวกาชาดไทย 100 ปี แห่งการสถาปนา” โครงการป่าที่ภักดี น้อมนำแนวทางพระราชเสาวนีย์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 

สำนักงานยุวกาชาด สภากาชาดไทย ร่วมกับศูนย์ราชการุณย์เขาล้านสภากาชาดไทย จัดโครงการป่าที่ภักดี เพื่อส่งมอบ “ ของขวัญยุวกาชาดไทย 100 ปี แห่งการสถาปนา” ในวันเสาร์ที่ 26 มีนาคม 2565 ณ ศูนย์ราชการุณย์สภากาชาดไทย เขาล้าน จังหวัดตราด

นายเตช  บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทยเป็นประธานในการงาน ส่งมอบ “ของขวัญยุวกาชาดไทย 100 ปี แห่งการสถาปนา” โครงการป่าภักดี โดยมีพระมหาไมตรี ปุญญามะรินโท ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด  นางชุลีพร เตรัตน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดตราด คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม เหรัญญิกสภากาชาดไทย นายแพทย์พินิจ กุลละวณิชย์ ผู้ช่วยเลขาธิการสภากาชาดไทย นางสุนันทา  ศรอนุสิน ผู้อำนวยการสำนักงานยุวกาชาด และรักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานอาสากาชาด นางนนทิยา แก้วเกตุ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารงานกลาง รองศาสตราจารย์ ดร.ชัชพล ไชยพร รองคณบดีคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และแขกผู้มีเกียรติร่วมงาน ภายใต้มาตรการการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

การส่งมอบของขวัญยุวกาชาดไทย 100 ปี แห่งการสถาปนาในครั้งนี้ เป็นการน้อมนำแนวทางจากพระราชดำรัส ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สภานายิกาสภากาชาดไทย ที่ว่า “พระเจ้าอยู่หัวเป็นน้ำ ฉันจะเป็นป่า ป่าที่ถวายความจงรักภักดีต่อน้ำพระเจ้าอยู่หัวสร้างอ่างเก็บน้ำ ฉันจะสร้างป่า" ที่พระราชทานแก่ราษฎรบ้านถ้ำติ้ว อำเภอส่องดาว จังหวัดสกลนคร เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พุทธศักราช 2525 และมีพระราชเสาวนีย์ให้จัดตั้งโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อันเป็นแนวทางสำคัญในการอนุรักษ์ทรัพยากรของคนในชาติ โดยเฉพาะสำนักงานยุวกาชาด ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้สภากาชาดไทยที่มีอาสายุวกาชาดผู้รักษ์ในทรัพยากรของประเทศอันจักได้สนองพระเดชพระคุณประดับพระบารมีแห่งพระองค์ โดยโครงการป่าที่ภักดีนอกจากเป็นโครงการที่ให้ความสำคัญในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะป่าไม้แล้ว

โครงการนี้ยังเป็นการสร้างเยาวชนผู้ผ่านเข้ามาเยือนในผืนป่าได้มีแนวคิดทักษะช่วยเหลือผู้อื่น และความรักษ์ในปิตุภูมิและมาตุภูมิถิ่นเกิดของตนวัตถุประสงค์ของโครงการนี้จึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่แสดงออกถึงการดำเนินงานด้วยความตั้งใจที่ว่าจักทำเพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สภานายิกาสภากาชาดไทย พระองค์ผู้ทรงมีคุณูปการต่อผืนป่าและทรัพยากรของประเทศอีกทั้งเพื่อรวมพลังเยาวชนในการบำรุงรักษาผืนป่าราชพฤกษ์ ต้นมหาพรหมราชินี ต้นรวงผึ้งและต้นจำปีสิรินธร ให้สมกับเป็น“ถิ่นของต้นไม้แห่งความจงรักภักดี” สถานที่แห่งความอุดมสมบูรณ์ ดินแดนแห่งความมีมนุษยธรรมและแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดตราด

ส่งแล้วตู้แรก "ไก่ไปซาอุฯ" จุรินทร์ สร้างประวัติศาสตร์ในรอบ 18 ปี "บุกตลาดอาหารซาอุ" ตั้งเป้าไทยส่งออกไก่ 980,000 ตันปีนี้และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ 

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์  หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ส่งออกไก่แปรรูป "ตู้ปฐมฤกษ์" ของไทย ไปซาอุดิอาระเบีย พร้อมด้วยนายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด(มหาชน) พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ เลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย  นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายบุณย์ธีร์ พานิชประไพ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน และคณะผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่โรงงานแปรรูปเนื้อไก่ซีพีเอฟ (มีนบุรี 2)

นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ตามที่ท่านจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และท่านเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผลักดันประสานงานกับรัฐบาลซาอุฯจนกระทั่งประสบความสำเร็จให้การรับรองอนุมัติให้นำเข้าไก่จากประเทศไทยเป็นครั้งแรกในรอบ 18 ปี โดยมีโรงงานของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์ จำกัด(มหาชน) หรือซีพีเอฟได้รับการรับรองจำนวน 5 โรงงาน ขอขอบคุณท่านรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องที่ให้ความร่วมมือช่วยประสานงานกับประเทศซาอุดิอาระเบียจนสามารถส่งออกไก่ของไทยกับซาอุฯได้สำเร็จเพิ่มขีดความสามารถในการส่งออกไก่ในประเทศไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน

วันนี้ส่งมอบไก่ล็อตแรกไปยังประเทศซาอุฯเป็นครั้งแรกในรอบ 18 ปี ตั้งแต่ปี 2547 และเดือนนี้คาดว่าจะส่งออกได้ 600 ตัน มูลค่า 47 ล้านบาท และภายในสิ้นปีจะส่งออกได้ 300 ตู้ ปริมาณ 6,000 ตัน มูลค่า 400-500 ล้านบาท และคาดว่าเราจะสามารถทำได้ถึง 60,000 ตัน ภายใน 5 ปี หรือมูลค่า 4,200 ล้านบาท ทั้งไก่สดแช่เย็นแช่แข็งและไก่แปรรูปที่ผ่านกระบวนการมาตรฐานสากลอย่างเคร่งครัดตามหลักศาสนาอิสลาม ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย 

นายจุรินทร์ กล่าวว่าวันนี้ถือเป็นวันประวัติศาสตร์อีกวันหนึ่งของการส่งออกสินค้าไทยไปซาอุดีอาระเบียโดยเฉพาะไก่ซึ่งเป็นสินค้าเป้าหมายที่มีความสำคัญหลังจากที่เราขาดโอกาสไปตลอด 18 ปีที่ผ่านมา เมื่อตนเข้ามารับหน้าที่เป้าหมายหนึ่งที่ตั้งไว้คือการฟื้นความสัมพันธ์ทางการค้ากับซาอุดิอาระเบียโดยเฉพาะสินค้าสำคัญหนึ่งปีที่ผ่านมาได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์ ทูตเกษตรและประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศ เจรจากับทางการซาอุฯ จนคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม ซาอุดิอาระเบียตรวจโรงงานและให้การรับรองแล้ว 11 โรงงาน ที่ได้คุณภาพมาตรฐานที่จะส่งออกไก่ไปซาอุฯ และหลังจากนายกรัฐมนตรีเดินทางไปเยือนซาอุดิอาระเบีย ตนได้สั่งการอีกครั้งให้ทูตพาณิชย์กับทูตเกษตรและผู้แทนสถานทูตไทยประจำซาอุดิอาระเบียเดินทางไปพบกับ องค์การอาหารและยาของซาอุดิอาระเบีย (SFDA)  และออกประกาศผ่านเว็บไซต์เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2565  จะสามารถส่งออกไก่ไปซาอุดิอาระเบียได้ ขอขอบคุณคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยที่ช่วยประสานงาน ดูแลมาตรฐานต่างๆให้เป็นไปตามหลักศาสนาอิสลาม 

“ช่วงที่ผ่านมาซาอุดิอาระเบียนำเข้าไก่ 75% จากประเทศบราซิล  25% จากยูเครนและฝรั่งเศส จากนี้ไปตนคิดว่าไก่จากประเทศไทยจะเป็นตลาดสำคัญที่ซาอุดิอาระเบียได้ในอนาคต โดยปี 64 เราส่งออกไก่ไปทั่วโลกประมาณ 900,000 ตันนำเงินเข้าประเทศประมาณ 100,000 ล้านบาท และปี 65 ตั้งเป้าว่าจะทำได้ 980,000 ตัน การส่งออกไก่ไปซาอุถือเป็นการเพิ่มมูลค่าการส่งออกและเพิ่มตัวเลขการส่งออกไก่ของไทยด้วย ขอแสดงความยินดีกับซีพีเอฟเป็นโรงงานแรกที่ได้ส่งออกไก่ไปซาอุฯ ตู้ปฐมฤกษ์ หลังจากที่ขาดหายไป 18 ปี และกระทรวงพาณิชย์มีแผนงานสำคัญที่จะประสานงานกับซาอุดิอาระเบียนำคณะเดินทางไปซาอุดิอาระเบีย ไปขายของทำตัวเลขส่งออกสำหรับการเดินทางไปเยือนและขอเชิญชวนภาคเอกชนที่สนใจ” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top