Friday, 9 May 2025
News

‘หมอเหรียญทอง’ แชร์เคสผู้ป่วยเข้าโครงการ 3,000 ผ่าตัดทุกโรค ตอบโจทย์ผู้ป่วยสิทธิบัตรทองที่พร้อมจ่ายบางส่วนไม่ต้องรอคิว

(31 มี.ค. 68) พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ จีรนันท์ ประยงค์อุทัย ได้โพสต์ถึงผม เมื่อ 29 มี.ค.68 เวลา 13.59 น. ความว่า

"คุณหมอคะวันนี้หนูตัดสินใจพาแฟนไปรักษาไส้เลื่อนที่มงกุฎวัฒนะโดยใช้โครงการ 3000 ผ่าตัดทุกโรค 
พอไปถึงกรอกข้อมูลที่เวชระเบียนพยาบาลให้ขึ้นไปพบหมอที่ชั้น 5 คุณหมอซักประวัติแล้วนัดมาตรวจปอดตรวจหัวใจวันอังคารเลยค่ะ 

หมอบอกว่าถ้าไม่มีอะไรจะนัดผ่าในวันที่ 4 เลย แฟนหนูดีใจมากเขาบอกว่าไม่ต้องทนเจ็บไม่ต้องเดินขาถ่างอีกแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้หนูกับแฟนไปคลินิก - รพ.รัฐ เป็นเวลาเกือบ 2 ปี ต้องหยุดทำงาน หยุดขายของ เทียวไปเทียวมาไม่รู้กี่รอบ สุดท้าย รพ.รัฐ เลื่อนผ่าไปอีก 2-3 ปี เพราะคิวเต็ม 

มาถึงวันนี้หนูรู้สึกเหมือนเทวดามาช่วยคนธรรมดาอย่างเรา หนูขอบพระคุณคุณหมอมากๆค่ะ"

โครงการ '3,000 บาท ผ่าตัด(หัตถการรักษา)ทุกโรค ไม่ต้องรอผ่าตัดนานข้ามปี เฉพาะผู้ป่วยสิทธิบัตรทองเท่านั้น ทุกเขต ทุกจังหวัดทั่วราชอาณาจักร ไม่ต้องขอใบส่งตัว 

โทร. 02-574-5000 กด 0 แล้วแจ้งปัญหาการรอผ่าตัด หรือ หัตถการรักษา ...โอปะเรเตอร์จะโอนสายไปยังแผนกที่เกี่ยวข้อง หรือ สำนักงาน ผอ.รพ.

โครงการนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ
1. แก้ปัญหาให้แก่ผู้ป่วยบัตรทองที่รอคอยการผ่าตัดหรือการรักษานานข้ามปี
2. แก้ปัญหา รพ.รัฐ ที่มีผู้ป่วยบัตรทองจำนวนมากรอคอยการผ่าตัดหรือการรักษา
3. แก้ปัญหาความยากลำบากในการขอใบส่งตัวให้แก่ผู้ป่วยบัตรทอง

นี่คืออีกหนึ่งแคมเปญย่อยของโครงการบัตรทองแพลตตินั่ม รพ.มงกุฎวัฒนะ 'ผู้ป่วยบัตรทอง กัดฟันพึ่งตนเอง จ่ายค่ารักษาเองในราคา รพ.รัฐ หากต้องแอดมิตใช้สิทธิบัตรทอง สปสช.จ่ายให้ ผู้ป่วยบัตรทองจากทุกคลินิก ทุกเขต ทุกจังหวัด ไม่ต้องใช้ใบส่งตัว'

พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา
ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ
30 มี.ค.68 เวลา 8.46 น.
หมายเหตุ ผมไม่ใช่เทวดานะครับ ผมเป็นแค่ 'คนทำมาหากินกับคนป่วย' เท่านั้น

‘สุริยะ’ ชงครม. เปิด ‘มอเตอร์เวย์ฟรี’ 7 วัน รับสงกรานต์ 68 ช่วยอำนวยความสะดวกการเดินทางให้ประชาชน

(31 มี.ค. 68) เมื่อเวลา 13.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 1 เม.ย.นี้ กระทรวงคมนาคม เตรียมเสนอที่ประชุมเห็นชอบการยกเว้นค่าผ่านทาง หรือ ทางด่วนฟรี บนทางหลวงพิเศษ หรือ มอเตอร์เวย์ฟรีหมายเลข 7 และหมายเลข 9 รวมระยะเวลา 7 วัน ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 11 เม.ย.68 ถึงเวลา 24.00 น. ของวันที่ 17 เม.ย.68

“กระทรวงคมนาคม จะเสนอการเว้นค่าทางด่วนช่วงสงกรานต์ ปีนี้ เข้ามาให้ครม. อนุมัติ โดยจะมีระยะเวลา 7 วัน เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการเดินทางให้ประชาชน” นายสุริยะ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการประกาศให้ขึ้นทางด่วนฟรี ที่ผ่านมากรมทางหลวง ได้จัดทำกำหนดยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนต์บนทางหลวงพิเศษดังต่อไปนี้ 1. ทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 สายกรุงเทพมหานคร - บ้านฉาง ตอนกรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา รวมทางแยกไปบรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 34 (บางวัว) ทางแยกเข้าชลบุรี ทางแยกเข้า ท่าเรือแหลมฉบัง ทางแยกเข้าพัทยา และตอนบ้านหนองปรือ - บ้านฉาง รวมทางแยกไปบรรจบทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 3 (บ้านอำเภอ) ตามกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 สายกรุงเทพมหานคร - บ้านฉาง พ.ศ. 2564

2.ทางหลวงพิเศษหมายเลข 9  (ก) ทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 สายวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร (ถนนกาญจนาภิเษก) ตอนพระประแดง - บางแค ช่วงพระประแดง - ต่างระดับบางขุนเทียน ตามกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียม การใช้ยานยนต์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 สายถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร (ถนนกาญจนาภิเษก) ตอนพระประแดง - บางแค ช่วงพระประแดง - ต่างระดับ บางขุนเทียน พ.ศ.2555 (ข) ทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 สายวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร (ถนนกาญจนาภิเษก) ตอนบางปะอิน - บางพลี ตามกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนต์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 สายวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร (ถนนกาญจนาภิเษก) ตอนบางปะอิน - บางพลี พ.ศ.2558

ส่วนการยกเว้นค่าผ่านทางของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย นั้น รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม แจ้งว่า ขณะนี้ยังรอการประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

กฟผ. – มูลนิธินายช่างไทยฯ เตรียมนำทีมวิศวกรลงพื้นที่ ตรวจสอบโครงสร้างอาคารโรงเรียน สพฐ. หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว

(1 เม.ย. 68) กฟผ. จับมือ มูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา จัดอบรมความพร้อมวิศวกรและช่างอาสา กฟผ. ก่อนเริ่มลงพื้นที่ 4 – 5 เมษายน 2568 นี้ เพื่อตรวจสอบโครงสร้างอาคารโรงเรียน สพฐ. ที่ได้รับผลกระทบเบื้องต้น 130 โรงเรียนในพื้นที่ กรุงเทพฯ ปริมณฑล และสมุทรสงคราม หวังฟื้นฟูอาคารเรียนที่ได้รับผลกระทบให้เร็วที่สุด

นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในฐานะประธานมูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา เผยว่า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวใหญ่ศูนย์กลางประเทศเมียนมา ส่งผลให้อาคารบ้านเรือนในหลายพื้นที่ของไทยได้รับความเสียหาย ประชาชนได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก รวมทั้งโรงเรียนภายใต้การดูแลของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กฟผ. จึงร่วมกับมูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา เตรียมนำทีมวิศวกรและช่างอาสา กฟผ. กว่า 200 คน ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงสร้างอาคารเรียนของ สพฐ. เบื้องต้น จำนวน 130 โรงเรียน ใน 7 พื้นที่ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และนครปฐม ระหว่างวันที่ 4 - 5 เมษายน 2568 นี้ หวังฟื้นฟูเพื่อให้ครู นักเรียนกลับเข้าเรียนและสอบได้โดยเร็วที่สุด

ทั้งนี้ กฟผ. และมูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา เตรียมจัดอบรม “แนวทางการตรวจสอบอาคาร หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว เพื่อเตรียมพร้อมก่อนลงพื้นที่ตรวจสอบโรงรียนในสังกัด สพฐ.” ให้กับทีมวิศวกรและช่างอาสา กฟผ. โดยทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญจากมูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา ศาสตราจารย์ ดร.อมร พิมานมาศ นายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย และนายวสวัตติ์ กฤษศิริธีรภาคย์ เลขาธิการมูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา และอดีตนายกสมาคมผู้ตรวจสอบอาคาร เพื่อให้วิศวกรและช่างอาสา กฟผ. ทุกคน ได้รับความรู้ ความเข้าใจมากยิ่งขึ้น และสามารถตรวจสอบสภาพอาคารที่ผ่านเหตุการณ์แผ่นดินไหวได้อย่างถูกต้อง ในวันพุธที่ 2 เมษายน 2568 ณ ห้องออดิทอเรียม ชั้น 3 อาคาร 50 ปี กฟผ. สำนักงานใหญ่ กฟผ. อ.บางกรวย จ.นนทบุรี 

“กฟผ. ขอขอบคุณ วิศวกร และช่างอาสา ทุกท่านที่ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบโครงสร้างอาคารโรงเรียน สพฐ. ในครั้งนี้ และ กฟผ. ขอร่วมเป็นอีกหนึ่งกำลังใจ เคียงข้างคนไทยทุกวิกฤต” นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าว

‘สุริยะ’ เป็นตัวแทนรัฐบาลไทยร่วมงานฌาปนกิจ ‘พล.อ.คำไต สีพันดอน’ พร้อมร่วมหารือรองนายกฯ สปป.ลาว เชื่อมโยงการเดินทางด้านถนน - ราง

เมื่อวันที่ (7 เม.ย. 68) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะผู้แทนรัฐบาลไทย ได้เข้าร่วมงานฌาปนกิจศพระดับชาติของพลเอก คำไต สีพันดอน อดีตประธานประเทศแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่ลานพระธาตุหลวง เวียงจันทน์

รองนายกรัฐมนตรีฯ ลงนามในสมุดไว้อาลัยต่อการถึงแก่อสัญกรรมของพลเอก คำไต สีพันดอน พร้อมทั้งกล่าวแสดงความเสียใจในฐานะผู้แทนของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลไทย ต่อนายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรี สปป. ลาว

นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรีฯ ยังได้พบหารือกับนายสะเหลิมไซ กมมะสิด รองนายกรัฐมนตรี สปป. ลาว โดยได้รับการแสดงความขอบคุณจากรัฐบาลและประชาชน สปป. ลาว ทั้งยังหารือเกี่ยวกับแนวทางการเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างกันในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะการส่งเสริมความเชื่อมโยงด้านถนนและรางระหว่างสองประเทศ

พลเอก คำไต สีพันดอน มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนความสัมพันธ์ไทย - ลาวให้ก้าวไปข้างหน้า โดยเป็นนายกรัฐมนตรี สปป. ลาวท่านแรกที่เดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2535 ซึ่งถือเป็นการวางรากฐานสำหรับมิตรภาพและความร่วมมือระหว่างสองประเทศ ที่นำมาซึ่งผลประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมแก่ประชาชนทั้งสองประเทศจนถึงปัจจุบัน

กต.สหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ปม ‘พอล แชมเบอร์ส’ ถูกจับด้วยมาตรา 112 พร้อม เรียกร้องให้ไทยเคารพ “เสรีภาพในการแสดงออก”

(9 เมษายน 2568) เพจเฟซบุ๊ก U.S. Embassy Bangkok ของสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้เผยแพร่แถลงการณ์ของ แทมมี บรูซ (Tammy Bruce) โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ต่อกรณีการจับกุม พอล แชมเบอร์ส (Paul Chambers) พลเมืองอเมริกัน ด้วยข้อหาความผิดตามกฎหมายหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ ว่า...

“สหรัฐอเมริการู้สึกตกใจต่อการจับกุม นายพอล แชมเบอร์ส พลเมืองอเมริกัน ในประเทศไทย ด้วยข้อหาความผิดทางอาญาฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และเรากำลังติดตามสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือพลเมืองอเมริกันในต่างประเทศอย่างจริงจัง และเรากำลังติดต่อกับทางการไทยเกี่ยวกับกรณีนี้

“กรณีนี้ตอกย้ำถึงความกังวลที่มีมาอย่างยาวนานของเรา ต่อการใช้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพในประเทศไทย เราขอเรียกร้องให้ทางการไทยเคารพเสรีภาพในการแสดงออก และให้แน่ใจว่า กฎหมายจะไม่ถูกใช้เพื่อปิดกั้นการแสดงออกที่ได้รับอนุญาต ในฐานะพันธมิตรของประเทศไทยตามสนธิสัญญา เราจะติดตามประเด็นนี้อย่างใกล้ชิดและสนับสนุนการปฏิบัติที่เป็นธรรมต่อนายพอล แชมเบอร์ส”

แถลงการณ์ยังระบุด้วยว่า เจ้าหน้าที่กงสุลของสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ในกรุงเทพฯ กำลังให้ความช่วยเหลือด้านกงสุลที่เหมาะสมทั้งหมดแก่แชมเบอร์ส และเรียกร้องขอเข้าพบแชมเบอร์ส เพื่อให้แน่ใจว่ามีความเป็นอยู่ที่ดี และให้การสนับสนุนที่จำเป็น

ทั้งนี้แชมเบอร์ส นักวิชาการสัญชาติอเมริกัน ประจำมหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก ถูกกองทัพภาคที่ 3 แจ้งความร้องทุกข์ด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2568 ต่อมาแชมเบอร์สได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา และศาลจังหวัดพิษณุโลกมีคำสั่ง ‘ไม่ให้ประกันตัว’ โดยให้เหตุผลว่า เป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง และผู้ต้องหาเป็นชาวต่างชาติ เกรงว่าจะหลบหนี

‘ดร.พอล’ อาจารย์ ม.นเรศวร คดี 112 ถูกถอนวีซ่า หลังศาลให้ประกันตัว ด้านทนายเตรียมอุทธรณ์คำสั่ง ตม. ใน 48 ชม.

(10 เม.ย. 68) ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เผยศาลอุทธรณ์ภาค 6 ให้ประกัน ‘ดร.พอล แชมเบอร์ส’ นักวิชาการอเมริกัน อาจารย์ ม.นเรศวร แล้ว แต่ยังถูก ตม.ควบคุมตัว เหตุถูกเพิกถอนวีซ่า ทนายเตรียมอุทธรณ์คำสั่ง ตม.ภายใน 48 ชม.

จากกรณีที่ ดร.พอล เวสลีย์ แชมเบอร์ส นักวิชาการชาวอเมริกัน ประจำสถานประชาคมอาเซียนศึกษา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ถูกกองทัพภาคที่ 3 แจ้งความดำเนินคดีฐานกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ต่อมา ดร.พอลได้เข้ามอบตัวที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก เมื่อวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยที่ศาลจังหวัดพิษณุโลกไม่อนุญาตให้ประกันตัวในชั้นสอบสวน และในวันนี้ (9 เม.ย.) ทนายความของ ดร.พอล ได้อุทธรณ์คำสั่งศาลเพื่อขอประกันตัวอีกครั้งนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 17.58 น.ที่ผ่านมา เฟซบุ๊ก ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน โพสต์ข้อความว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 6 อนุญาตให้ประกันตัว "พอล แชมเบอร์ส" แล้ว แต่ทนายยังต้องติดตามไปขอประกันตัวผู้ต้องหากับทาง ตม.ต่อไป

โดยก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 15.15 น. ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนระบุว่า ดร.พอล แชมเบอร์ส ได้ถูกเพิกถอนวีซ่าแล้ว ทนายเตรียมยื่นอุทธรณ์คำสั่ง ตม.ภายใน 48 ชม.นี้

ต่อมาเวลา 16.20 น.ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนระบุอีกว่า ศูนย์ทนายฯ ได้รับแจ้งว่า ตร.จะเข้าไปค้นห้องทำงาน ที่ ม.นเรศวร ของ "พอล แชมเบอร์ส" โดยเป็นหมายค้นจากศาลจังหวัดพิษณุโลก

'สุทธิพงษ์' เผยข้อบกพร่องของโครงการก่อสร้าง สตง. จากลิฟต์ถึงทางเดิน ยันเตรียมเปลี่ยนแผนสร้างสำนักงานใหม่

(10 เม.ย. 68) ที่อาคารรัฐสภา คณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณประชุมเพื่อสอบถามการก่อสร้างอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว โดย สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ประธานการประชุม ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง รวมถึง สุทธิพงษ์ บุญนิธิ รองผู้ว่าสำนักงาน สตง.

สุทธิพงษ์ เปิดเผยว่าเกิดความเข้าใจผิดในโครงการก่อสร้างที่มีบริษัท อิตาเลียนไทยฯ เป็นผู้ชนะการประมูลแท้จริง แต่ผู้ดำเนินการคือ ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 และมีการปรับแก้แบบการก่อสร้างในส่วนลิฟต์และทางเดินที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย

โดยจุดแกนกลางของลิฟต์ (Core Lift) มีการปรับแก้แบบ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีทั้งทางเดินหลักและทางเดินรอง การออกแบบทางเดินหลักต้องมีความกว้าง 2 เมตรตามกฎหมาย

แต่การก่อสร้างและปูกำแพงหินอ่อนเสร็จแล้วจะทำให้พื้นที่ทางเดินหายไปข้างละ 5 เซนติเมตร เหลือความกว้างเพียง 1.90 เมตร ส่วนทางเดินรองเหลือความกว้างเพียง 1.40 เมตร ซึ่งถือว่าผิดกฎหมายการก่อสร้าง พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร จึงได้ทำเรื่องให้มีการปรับเปลี่ยนให้เป็นไปตามแบบ โดยมีวุฒิวิศวกรเป็นผู้เซ็นรับรองแบบ

สุทธิพงษ์ ยืนยันว่า “ไม่ว่าจะเป็นคณะของตนเองหรือคณะตรวจรับผู้ควบคุมงาน เราจะทำมากกว่าที่เราตรวจ เพราะถ้าผิดเมื่อไหร่ ทัวร์มันจะลงมากกว่าปกติ มันผิดจรรยาบรรณ” เขายังเสริมด้วยว่า “ถ้าผมจะสร้างบ้านเพื่อให้บ้านล้มทับคนของผม 2,400 คน ผมต้องเอาอำมหิตเบอร์ไหน ถ้าการออกแบบครั้งนี้เกิดจากความเผอเรอ หรือประมาทท่านกำลังจะฆ่าคนนะครับ วิศวกรท่านหนึ่งเคยกล่าวไว้ว่า แผ่นดินไหวไม่เคยฆ่าคน คนออกแบบนี่แหละเป็นคนฆ่าคน”

ทั้งนี้ สตง. ได้จัดทีมตรวจสอบโครงสร้างอาคาร พร้อมขอความร่วมมือจาก องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ACT) เพื่อเพิ่มความโปร่งใสในการบริหารโครงการ นอกจากนี้ยังรายงานการแจ้งประกันภัยวงเงิน 2,136 ล้านบาท เพื่อเยียวยาผู้ประสบภัย พร้อมกับการปรับแผนสร้างสำนักงานใหม่จากตึกสูงเป็นตึกแนวราบที่ดินเช่าจากการไฟฟ้าแห่งประเทศไทย

โค้งสุดท้ายก่อนปิดรับสมัคร ‘DAD NIDA’ รุ่นที่ 10 สุดยอดหลักสูตรพัฒนาผู้นำยุคดิจิทัลตอบโจทย์โลกธุรกิจยุคใหม่

(21 เม.ย. 68) เพจเฟซบุ๊ก ‘DAD NIDA’ เพจประชาสัมพันธ์หลักสูตร Development Administrator in Digital Era (DAD) จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้โพสต์ข้อความเชิญชวนสมัครเรียนโครงการ DAD NIDA รุ่นที่ 10 ระบุว่า…

ถ้าคุณกำลังมองหาหลักสูตรผู้บริหารที่ช่วยยกระดับศักยภาพและเครือข่าย DAD NIDA รุ่นที่ 10 คือคำตอบ พบกับวิทยากรชั้นนำจากหลายวงการ
เปิดรับสมัครแล้ววันนี้ การันตีคุณภาพโดย NIDA

✨ Key Highlights ที่คุณไม่ควรพลาด ✨
🔹 เนื้อหาปรับปรุงใหม่ตอบโจทย์โลกอนาคต
✅ Speed Networking – ขยายคอนเนคชันทางธุรกิจอย่างรวดเร็ว
✅ DAD Executive Networking Night – สร้างเครือข่ายกับผู้บริหารระดับแนวหน้า
✅ DAD Site Visit – เรียนรู้จากองค์กรชั้นนำผ่านการเยี่ยมชมสถานที่จริง
🔹 New Curriculum
📌 องค์ความรู้ด้านเศรษฐกิจและการพัฒนาผู้นำยุคใหม่
📌 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีกับอุตสาหกรรมต่างๆ
📌 อัปเดตเทรนด์ดิจิทัลสำคัญ
📌 พัฒนา soft skill ด้านภาวะผู้นำในยุคดิจิทัล

🔹 หลักสูตรนี้เหมาะกับใคร
✅ ภาคเอกชน – ผู้ประกอบการ ผู้บริหาร เจ้าของธุรกิจ
✅ ข้าราชการและองค์กรภาครัฐ – ข้าราชการพลเรือน ข้าราชการตุลาการ ข้าราชการทูต ข้าราชการตำรวจ นายทหาร และผู้บริหารในองค์กรภาครัฐ
✅ บุคคลที่เกี่ยวข้องกับสื่อและสังคม – สื่อมวลชน ศิลปิน ดารา พิธีกร ผู้บริหารภาคประชาสังคม มูลนิธิ ngos สมาคม

ก้าวสู่การเป็นผู้นำยุคดิจิทัลกับหลักสูตร Development Administrator in Digital Era (DAD) ที่ออกแบบมาเพื่อพัฒนาผู้บริหารและผู้นำแห่งอนาคต 🕊️
📅 สมัครได้แล้ววันนี้ - 30 เมษายน 2568
📌 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม www.dadnida.com
👉 ลงทะเบียน https://forms.gle/roAqiV7U1p4oCdSa9
📞 สอบถามเพิ่มเติม โทร. 092-728-6722

Zus Coffee รุกตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเต็มสูบ เตรียมเปิดสาขาใหม่เกือบ 200 แห่งภายในปี 2568 พร้อมเปิดตัวสาขาแรกในไทย

(24 เม.ย. 68) Zus Coffee (ซุส คอฟฟี่) แบรนด์กาแฟชื่อดังจากมาเลเซีย เตรียมเปิดร้านใหม่เกือบ 200 แห่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภายในปี 2568 โดยแบ่งเป็น 107 สาขาในมาเลเซีย 80 สาขาในฟิลิปปินส์ 6 สาขาในสิงคโปร์ และอีกหนึ่งสาขาแรกในประเทศไทยและอินโดนีเซีย

เมื่อไม่นานมานี้ Zus Coffee ได้แซงหน้าสตาร์บัคส์ขึ้นเป็นเชนร้านกาแฟที่มีจำนวนสาขามากที่สุดในมาเลเซีย โดยมีสาขาทั้งหมด 743 แห่ง เทียบกับสตาร์บัคส์ที่มีเพียง 320 แห่ง

การเติบโตของ Zus Coffee เกิดขึ้นในช่วงที่สตาร์บัคส์ในมาเลเซียเผชิญกับผลกระทบจากการคว่ำบาตรทางการเมือง ซึ่งส่งผลกระทบต่อรายได้ของผู้ประกอบการในประเทศ

Zus Coffee เริ่มต้นจากร้านเล็กๆ ในปี 2019 และสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว โดยรายงานรายได้สุทธิในปี 2024 เพิ่มขึ้นถึงสามเท่า เป็น 37 ล้านริงกิต (ราว 281 ล้านบาท) ซึ่งกว่า 70% ของยอดขายมาจากการสั่งซื้อผ่านระบบออนไลน์ สะท้อนถึงความสำเร็จของโมเดลธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี

‘ภูมิกิตติ์ - เอมาอร’ แชมป์สวิง “บางจาก แชมเปี้ยนชิพ 2025” คว้าตั๋วลุยญี่ปุ่นรายการ “Yonex Junior Golf Championship”

(28 เม.ย. 68) นายดาว์ปกรณ์ รัตนสุวรรณ ประธานจัดการแข่งขัน “ช้าง-เจ็นซ์ กอล์ฟ ทัวร์” มอบรางวัลและร่วมแสดงความยินดีกับ ภูมิกิตติ์ พิชยเสาวภาคย์ และเอมาอร มณีฤทธิ์ นักกอล์ฟเยาวชนที่คว้าแชมป์รุ่น Super GENZ พร้อมคว้าตั๋วแข่งที่ญี่ปุ่น ในการแข่งขันรายการ “บางจาก แชมเปี้ยนชิพ 2025” ที่สนามกบินทร์บุรี สปอร์ต คลับ จ.ปราจีนบุรี  เมื่อวันที่ 20 เมษายน ที่ผ่านมา

“บริษัท เดอะ เจ็นซ์ จำกัด”  ร่วมกับ “บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)” จัดแมทช์แข่งกอล์ฟเยาวชน “บางจาก แชมเปี้ยนชิพ 2025” ทำการแข่งขัน 3 วัน (54 หลุม) แข่งขันระหว่างวันที่ 18-20 เมษายน 2568 ที่สนามกบินทร์บุรี สปอร์ต คลับ จ.ปราจีนบุรี  รายการนี้เป็นรายการที่รับรองโดย WAGR (World Amateur Golf Ranking) เก็บคะแนนสะสมเพื่อจัดอันดับนักกอล์ฟเยาวชนโลก และเก็บคะแนนสะสมของ JGS (Junior Golf Scoreboard)  โดยในสนามนี้จะทำการคัดเลือก นักกอล์ฟเยาวชนที่ทำสกอร์ดีที่สุด (Best Score) จากรุ่น Super Genz (15-18 ปี) และ Junior Genz (11-14 ปี) ชาย 1 คน และหญิง 1 คน ที่จะได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันกอล์ฟที่ประเทศญี่ปุ่น ในรายการ Yonex Junior Golf Championship 2025

หลังจากการแข่งขันในรอบสุดท้ายจบลง ผลปรากฏว่า ภูมิกิตติ์ พิชยเสาวภาคย์ ในรุ่น Super GENZ (ชาย) แชมป์เก่าสนามนี้ในปีที่แล้ว ในรอบสุดท้ายฟอร์มยังคงร้อนแรง กดเพิ่มอีก 7 อันเดอร์ จบสามวันที่ 12 อันเดอร์พาร์  ส่วนในรุ่น Super GENZ (หญิง) รอบสุดท้ายเบียดกันมาแบบสูสี สู้กันสนุกจบหลุม 18 สกอร์รวมเท่ากันที่ 3 อันเดอร์พาร์ 213 ถึง 3 คน คือ วิชญาดา แรมเมือง, จิรัชยา ปรีชาสุชาติ  และเอมาอร มณีฤทธิ์ ต้องตัดสินกันด้วยการเพลย์ออฟถึง 3 รอบ โดยการเพลย์ออฟรอบสุดท้ายที่หลุม 12 พาร์ 5 เป็น เอมาอร มณีฤทธิ์ ตีช็อต 2 ลงหลุมไป ได้อีเกิ้ล คว้าแชมป์รุ่นนี้ไปครอง พร้อมคว้าตั๋วแข่งญี่ปุ่น ในรายการ Yonex Junior Golf Championship 2025

รายการต่อไปเป็นการแข่งขันเก็บคะแนนสะสมรายการที่ 3 “บางจาก มาเตอร์ส 2025” ซึ่งเป็นรายการที่เก็บคะแนนสะสมของ Junior Golf Scoreboard (JGS) แข่งขันระหว่างวันที่ 10-11 พฤษภาคม 2568 สนามปัตตาเวีย เซ็นจูรี่ กอล์ฟ คลับ จ.ชลบุรี สำหรับผู้ปกครองและนักกอล์ฟที่สนใจเข้าร่วมแข่งขันสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Official Line : @genzgolf  หรือโทร. 065 696 2229


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top