Wednesday, 14 May 2025
Lite

‘ชาวต่างชาติ’ ประทับใจ ‘พฤติกรรมคนไทย’ เมื่อได้ยินเสียงเด็กร้องในที่สาธารณะ 

เมื่อวานนี้ (6 ส.ค. 66) เพจเฟซบุ๊ก ‘Vee Chirasreshtha’ ได้โพสต์ข้อความถึงพฤติกรรม นิสัยของคนไทยที่ชาวต่างชาติประทับใจ โดยระบุว่า

“ครอบครัวฝรั่งมาเที่ยวไทย พาลูกเล็ก ๆ ขึ้นรถไฟฟ้า เด็ก ๆ ก็เสียงดัง ดื้อ งอแง แม่ก็พยายามดูลูกไม่ให้รบกวนคนอื่น ปรากฏว่า พอลงจากรถ เขาถ่ายคลิปเล่าว่า คนไทยน่ารักมาก ๆ ที่ไม่มีใครมองเขาด้วยสายตาในเชิงต่อว่า หรือแม้แต่บ่นด่า เพราะในหลายประเทศ ถ้าเด็กงอแงหรือดื้อเสียงดังในรถไฟฟ้า เขาคงโดนต่อว่าไปแล้ว แต่ที่เขาแปลกใจกว่าคือ มีผู้โดยสารคนไทยพยายามพูดคุยทำเสียงให้ลูกเล็ก ๆ ที่งอแงของเขาให้หยุดร้องด้วย ซึ่งเขาประทับใจมาก”

‘ก๊อต จิรายุ’ ชำแหละ!! ‘ชาวเน็ต’ ออกเป็น 4 ประเภท พร้อมบอก “ถ้าแยกได้ จะเป็นการช่วยสังคมคัดสรรคน”

(7 ส.ค. 66) นักแสดงหนุ่มคนดัง ‘ก๊อต จิรายุ ตันตระกูล’ ได้เขียนข้อความว่า “เวลาได้ยินคำว่า ‘ชาวเน็ต’ ใช่ว่าจะเหมารวมเอาคนทั้งหมดที่เล่นโซเชียลว่าเป็นชาวเน็ต แต่จริง ๆ เราควรแยกประเภทชาวเน็ตเป็น 4 ประเภท ดังนี้

ประเภทที่ 1 ชาวเน็ตที่ไม่เอากระแสใด ๆ เลยที่ไม่ได้เกี่ยวกับเป้าหมายชีวิตของตน ชาวเน็ตกลุ่มนี้จะใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อสานฝันของตัวเองและปัดออกในสิ่งที่ทำให้ชีวิตล่าช้าจากความฝัน คนกลุ่มนี้เข้าใจธรรมชาติของคำว่ากระแสและสื่อ พวกเขาสามารถปัดสื่อไร้สาระออกจากชีวิตได้ทันทีหากเห็นว่าไม่ทำให้ชีวิตเจริญ คนกลุ่มนี้แม้จะอยู่ในโลกออนไลน์แต่เราอาจจะไม่เห็นพวกเขา

ประเภทที่ 2 เป็นชาวเน็ตที่แม้จะได้ยินสิ่งที่เป็นกระแส แต่ก็ไม่เชื่อไว้ก่อน เพราะมีสติปัญญารู้ว่าสื่อมักเล่ามุมเดียวจากที่มุมสื่อประสบมา ชาวเน็ตประเภทนี้จะแยกออกระหว่างสื่อกับเสี้ยม โดยชาวเน็ตกลุ่มนี้มักจะคัดสรรข้อมูลที่เข้าตัวมากกว่าที่จะรับทุกอย่างเข้าชีวิตอย่างไม่คิด

คนกลุ่มนี้แม้จะอยู่ในโลกออนไลน์แต่เราอาจจะเห็นเขาได้น้อย

ประเภทที่ 3 ชาวเน็ตที่เผลอเชื่อกระแสโคมลอยในโลกออนไลน์ แต่สามารถหยุดและตั้งสติได้เพื่อพิจารณาในมุมอื่น ๆ คือเป็นกลุ่มคนที่คล้อยตามกระแสที่มาไวไปไว แต่มีการฉุกคิดเห็นมุมต่าง มองมุมอื่นและพาตัวเองออกจากกระแสที่พิจารณาแล้วเห็นว่าไร้ประโยชน์ต่อตน

คนกลุ่มนี้อาจจะเห็นเขาปรากฏในคอนเทนต์ที่เป็นกระแส

ประเภทที่ 4 เป็นชาวเน็ตที่เชื่อทุกอย่างที่โลกออนไลน์ประเคนให้ โดยไม่สามารถใช้ความคิดวิเคราะห์ได้ เป็นกลุ่มคนที่ปราศจากสติในการวิเคราะห์ เป็นนักเชื่อที่มีนิสัยด่วนสรุป ไม่สามารถคัดกรองข่าวสารใด ๆ ได้ และมักทำตัวเป็น ‘ผู้รู้ดีในสิ่งที่ตนไม่รู้จริง’

ธรรมชาติของชาวเน็ตประเภทนี้ คือ จะส่งเสียงดังเพราะควบคุมตัวเองไม่ได้ และมักเห็นว่าเรื่องของทุกคนเป็นเรื่องของตนเอง คนกลุ่มนี้ไม่ใช้ศักยภาพสมองและอวดการไม่ใช้ศักยภาพอย่างภาคภูมิใจ

คนกลุ่มนี้พบอยู่มากในโลกออนไลน์ที่เป็นกระแส จะว่าไปคนกลุ่มนี้สามารถยกระดับจิตใจของตัวเองขึ้นได้ แต่มันต้องเริ่มจากการตั้งสติและแทนที่การด่วนสรุปด้วยการใช้ความพยายามเข้าใจในชีวิตของผู้อื่นมากขึ้น

สื่อหลายที่มักเหมารวมเอาคนทั้งหมดที่เล่นโซเชียลว่าเป็นชาวเน็ต แท้จริงหากมีการแยกประเภทก็ช่วยสังคมได้เป็นอย่างมากในการคัดสรรคน #คอมเมนต์อย่างผู้เจริญ #ชาวเน็ตประเภท4อาจไม่พอใจสิ่งนี้

‘ม้า อรนภา’ ซึ้งใจ ‘ชมพู่’ พาลูกๆ ร่วมงานศพคุณแม่ พร้อมสวมกอด - ให้กำลังใจ ทำซาบซึ้งน้ำตาซึม

เรียกได้ว่าได้รับกำลังใจจากทั้งเพื่อนพ้องน้องพี่คนบันเทิงและแฟน ๆ อย่างล้นหลามเลยทีเดียว สำหรับพิธีกรรุ่นใหญ่อย่าง ‘ม้า อรนภา กฤษฎี’ หลังสูญเสีย ‘คุณแม่ประมวล แสงสาคร’ คุณแม่สุดที่รักวัย 99 ปี ไปอย่างไม่มีวันกลับ

ซึ่งนอกจากจะได้รับกำลังใจจากโซเชียลอย่างล้นหลามแล้ว ภายในงานสวดอภิธรรมของคุณแม่ ก็มีเหล่าเพื่อนพ้องน้องพี่คนบันเทิงเดินทางไปร่วมงานและร่วมอาลัยกันเนืองแน่น เช่นเดียวกับซุปตาร์สาว ‘ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต’ ที่ได้พา ‘น้องสายฟ้า-น้องพายุ’ ไปร่วมอาลัยและส่งกำลังใจให้กับคุณยายม้าอีกด้วย

โดยเมื่อวานนี้ (6 ส.ค. 66) อินสตาแกรมของโพลีพลัส ก็ได้เผยภาพทีม 3 แซ่บ ที่ได้ไปร่วมอาลัยคุณแม่ประมวล พร้อมกับเปิดคลิปนาทีอบอุ่บปนซึ้งที่ ‘ชมพู่’ และ ‘น้องสายฟ้า-น้องพายุ’ สวมกอดส่งกำลังใจให้กับ ‘ม้า อรนภา’ ซึ่งช็อตนี้ก็ทำเอาพิธีกรรุ่นใหญ่ซาบซึ้งน้ำตารื้นเลยทีเดียว

ขณะที่ ‘ม้า อรนภา’ ก็ได้โพสต์ภาพบรรยากาศในงานสวดอภิธรรมคืนที่ 3 พร้อมกับเขียนแคปชั่นบอกว่า “สวดอภิธรรมคุณแม่คืนวันที่ 3 อบอวลไปด้วยความรักที่มีต่อแม่และม้า ขอบคุณทุกคนที่มีความรักต่อกันมาเสมอ เป็นคืนทีร้องไห้ด้วยความปลาบปลื้มมากที่สุด” ท่ามกลางเหล่าคนบันเทิงและแฟน ๆ เข้ามาคอมเมนต์ส่งกำลังใจอย่างคับคั่ง

‘บี้ สุกฤษฎิ์’ มีติ๊กต็อกแล้ว!! ประเดิมคลิปแรกกราบพระโชว์ งานนี้ถูกใจแฟนคลับ ถึงขั้นบอก “คลิปต่อไปขอสวดมนต์”

(7 ส.ค. 66) กระแส TikTok มาแรงสุด ๆ แม้แต่ ‘บี้ สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว’ นักร้องซุปตาร์คนดังของเมืองไทย ก็ไม่สามารถต้านทานได้ เปิด TikTok ของตัวเองแล้ว หลังจากห่างหายวงการบันเทิงไปเข้าวัด อยู่กับชีวิตธรรมะธัมโมจนแฟนคลับคิดถึงหนุ่มบี้เพียบ

หนุ่มบี้ นักร้องดังจากบ้านเดอะสตาร์ ได้เปิด TikTiok ชื่อ ‘biesukrit_w’ โดยประเดิมช่องติ๊กต็อกด้วยคลิปแรกที่ทำเอาแฟนคลับฮาลั่น ตามมาถล่มคอมเมนต์และไลก์เพียบ หลังจากหนุ่มบี้โพสต์คลิปไป 1 วันเท่านั้น ล่าสุดยอดวิวคลิปทะลุ 5 แสนวิวไปแล้วเรียบร้อย

จุกในอก!! ‘บีม กวี’ เผยวินาที ‘น้องพีร์’ ถาม “อาบิ๊กอยู่ไหน?”  งานนี้ทำเอาเหล่าแฟนๆ D2B ที่ได้ดูคลิปถึงกับน้ำตาริน

(7 ส.ค. 66) เรียกได้ว่าไม่มีใครไม่รู้จักกับวงบอยแบนด์ในตำนานอย่าง D2B ที่มีศิลปิน 3 คน อย่าง บิ๊ก ปาณรวัฐ กิตติกรเจริญ, แดน วรเวช ดานุวงศ์ และ บีม กวี ตันจรารักษ์ ซึ่งถือได้ว่า D2B เป็นกลุ่มบอยแบนด์ไทยที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และได้รับฉายา ‘บอยแบนด์อันดับ 1 ตลอดกาลของไทย’

แต่กลับมีข่าวร้ายเมื่อในวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2546 บิ๊ก ปาณรวัฐ ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกของวง D2B ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ตกอยู่ในอาการโคม่า ทำให้วง D2B ถูกยุบลง และหลังจากการประสบอุบัติเหตุของบิ๊ก แดนและบีมได้แยกออกมาตั้งวงใหม่ในชื่อแดน-บีม และ D2B ได้สิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการหลังจากบิ๊กเสียชีวิตในวันที่ 9 ธันวาคม ในปีเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม จากกระแสเรียกร้องจากแฟนคลับและความร่วมมือจากหลายฝ่าย ทำให้เกิดคอนเสิร์ตเพื่อรำลึกถึง D2B ขึ้นมาตลอดทุกปี และครั้งล่าสุดกลับมาอีกครั้งสำหรับงานคอนเสิร์ต แดน-บีม ครบรอบ 22 ปีวง ใน ‘D2B ETERNITY CONCERT : 22 ปีนับตั้งแต่วันที่ฉันรักเธอ’

โดยครั้งนี้ได้ใช้เทคโนโนโลยีพา บิ๊ก ปาณรวัฐ กลับมาอีกครั้ง โดยบนเวทีทำเอาขนลุกทั้งฮอลล์ เมื่อ บิ๊ก ปาณรวัฐ ได้ร่วมร้องเพลงกับทั้ง 3 คน เป็น D2B แบบครบวงอีกครั้ง ทำเอาแฟนคลับหลายคนถึงกับน้ำตาซึมกันเลยทีเดียว โดยต้องบอกเลยว่าทั้งภาพและเสียงนำเสมือนจริงมาก ๆเลยทีเดียว

ล่าสุดต้องบอกเลยว่าทำเอาบีบหัวใจเมื่อทางด้าน บีม กวี ได้ออกมาโพสต์คลิป น้องพีร์ ถามหา “อาบิ๊กอยู่ที่ไหน” ก่อนจะตอบว่า “อาบิ๊ก เขาไปอยู่ที่สวยๆ เขาอยู่ไกลแล้ว” ทำเอาทางด้าน บีม กวี ถึงกับถามว่า “ใครสอนเนี่ยลูก” ทางด้าน น้องพีร์ ก็ได้ถามต่อว่า “อาบิ๊กอยู่ไหน ทำไมน้องพีร์ไม่เคยเห็นอาบิ๊กเลย” 

‘อุ้ม ลักขณา’ รีโพสต์ไอจีน้องชาย พร้อมตัดพ้อ!! “ตายทั้งเป็น” หลัง ‘บอล กฤษณะ’ ออกมาสารภาพผิดว่าได้ทรยศต่อภรรยา

(7 ส.ค. 66) ท่ามกลางกระแสข่าวลือเตียงหักที่ยังคลุมเครือ ‘บอล กฤษณะ อมิตรสูญ’ ออกมาโพสต์ยอมรับผิดต่อ ‘อุ้ม ลักขณา อมิตรสูญ’ ที่ทรยศภรรยาและครอบครัว แม่ของอุ้ม ก็โพสต์เดือดว่า “จะพูดอะไรลับหลังช่วยเล่าเรื่องจริงด้วยนะ อย่าใส่ร้ายใส่ไฟคนอื่น เพื่อให้ตัวเองดูดี ทุเรศ! พูดว่าตรูจะเอาเงินเมิง ที่ไหนเมื่อไหร่?! สลึงบาทไม่เคยขอ อย่าว่าแต่ขอเลย ขอยืมยังไม่เคยสักครั้ง ‘มีแต่ให้ยืม’ ทีละล้านสองล้าน ไม่แมนเลยนะเมิง บอกแล้วนะว่าอย่าให้ตรูพูด #ความลับไม่มีในโลก #อย่ามาเห่าลับหลัง”

“งานนี้แม้คุณแม่ไม่ได้บอกว่าหมายถึงใคร แต่โลกออนไลน์ก็จับโยงไปถึงลูกเขยเรียบร้อยแล้ว ด้าน ‘อุ้ม’ เองก็แชร์ข่าวที่แม่ออกมาฟาดเดือด ๆ ผ่านสตอรี่อีกด้วย

ล่าสุด ‘จูเนียร์’ น้องชาย ‘อุ้ม ลักขณา’ ก็ได้โพสต์ไอจีสตอรี่ ภาพพร้อมหน้า อุ้ม และหลานสาว พร้อมแคปชันว่า "เห็นใบหน้ายิ้มร่าเริงอยู่ แต่ความรู้สึกพี่หนู ICU แล้วนะ"

ซึ่ง ‘อุ้ม ลักขณา’ ก็ได้รีโพสต์สตอรี่ของน้องชาย พร้อมใส่ข้อความว่า "ตายทั้งเป็น"

‘ธัญญ่า’ ฮาลั่น!! ‘เป๊ก สัณณ์ชัย’ ยอมให้ลูกสาวจับแปลงโฉม สวมบท ‘พ่อเกรซ’ ในมาตาลดา ชาวเน็ตเห็นแล้วเอ็นดูไม่ไหว

(7 ส.ค. 66) ‘ธัญญ่า ธัญญาเรศ’ โพสต์คลิปน่ารัก ‘น้องลียา’ ลูกสาวอินเทรนด์ละครดังอย่าง ‘มาตาลดา’ ได้จับ ‘พ่อเป๊ก สัณณ์ชัย’ มาถ่ายคลิปโคฟเวอร์เป็น ‘พ่อเกรซ’ ของมาตาลดา งานนี้พ่อเป๊กก็แอคติ้งเป็นพ่อเกรซแบบเนียนๆ ขนาดเมียตัวเองยังอดขำไม่ไหว จนโพสต์คลิประบุข้อความไว้ว่า…

“ขำไม่ไหว..โดนลียาจับใส่ผ้าพันคอ..ทาปาก ตอนแรกลูกจะใส่ที่คาดผมให้ด้วย พ่อบอกพ่อมาเฟียนะลูก ไว้หน้าพ่อบ้าง @_liyahengtrakul @pegliyah #มาตาลดา #พ่อเกรซ”

งานนี้พระเอกในเรื่องอย่าง ‘เจมส์ จิรายุ’ ก็ยังเข้ามาคอมเมนต์ด้วยว่า “น่าร๊ากกกก” ด้าน ‘จ๋า ยศสินี’ ผู้จัดละครก็ถึงกับร้องลั่นเรียกทั้งพ่อทั้งลูกว่า “ลียาลู๊กกกกกกกกกก คุณพ๊อออออออ” นอกจากนั้นยังมีทั้งคนบันเทิงและแฟน ๆ แห่คอมเมนต์กันรัว ๆ ทั้งขำทั้งเอ็นดูสองพ่อลูก

BLACKPINK จัดคอนเสิร์ตที่ฮานอย 2 วัน ดึงเงินเข้าเวียดนามได้ถึง!! 920 ล้านบาท

(7 ส.ค. 66) คอนเสิร์ตครั้งแรกในเวียดนามของวงเกิร์ลกรุ๊ปเคป็อบระดับโลกอย่าง BLACKPINK สำหรับ ‘BORN PINK WORLD TOUR’ ซึ่งจัดขึ้น 2 รอบ เมื่อวันที่ 29 - 30 กรกฏาคมที่ผ่านมา ณ My Dinh National Stadium ในกรุงฮานอย มีผู้เข้าชมกว่า 170,000 คน ส่วนยอดจำนวนของผู้เข้าชมจากต่างประเทศอยู่ที่ 30,000 คน

โดยการท่องเที่ยวของฮานอยรายงานว่า มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นเป็น 8% ในช่วงที่จัดคอนเสิร์ต BLACKPINK ซึ่งคิดเป็นจำนวนเงิน 26.5 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 920 ล้านบาทไทย จากชาวต่างชาติที่เข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นของประเทศเวียดนามได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ คอนเสิร์ตของ BLACKPINK ยังส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมการบริการของฮานอยด้วย เช่น โรงแรมในบริเวณใกล้เคียง My Dinh National Stadium ซึ่งมีอัตราการเข้าพักเพิ่มขึ้นที่ 20% ในขณะที่ ‘BORN PINK WORLD TOUR’ ยังสร้างสถิติใหม่เป็นทัวร์คอนเสิร์ตของกลุ่มศิลปินหญิงที่สร้างรายได้สูงสุด โดยมีรายได้อยู่ที่ 78.5 ล้านดอลลาร์ จากการแสดงคอนเสิร์ต 26 รอบ ตามรายงานของ Touring Data

เกิร์ลกรุ๊ปชื่อดัง ‘BLACKPINK’ เดบิวต์อย่างเป็นทางการ

หากเอ่ยชื่อ แบล็กพิงก์ (BLACKPINK) ชั่วโมงนี้ คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก เพราะนี่คือเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังของประเทศเกาหลีใต้ ภายใต้สังกัด YG Entertainment ประกอบด้วยสมาชิกจำนวน 4 คน คือ จีซู, เจนนี่, โรเซ่ และ ลิซ่า นั่นเอง

BLACKPINK เดบิวต์อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2559 พร้อมกับซิงเกิลอัลบั้ม Square One โดยมีซิงเกิลเปิดตัวอย่าง ‘Whistle’ และ ‘Boombayah’ ขึ้นถึงอันดับ 1 บน Gaon Digital Chart ในเกาหลีใต้ และ Billboard World Digital Song Chart ตามลำดับ ทำให้วงคว้ารางวัล Golden Disc Awards และ Seoul Music Awards สาขาศิลปินหน้าใหม่แห่งปี 2016

หลังจากนั้นก็ได้ปล่อยผลงานเพลงฮิตออกมามากมาย อาทิ Playing with Fire, Stay, As If It's Your Last และ Ddu-Du Ddu-Du รวมถึงได้ร่วมร้องกับนักร้องต่างประเทศชื่อดังอย่าง Selena Gomez ในเพลง Ice Cream, Dua Lipa ในเพลง Kiss and Make Up และ Lady Gaga ในเพลง Sour Candy

ทั้งนี้ ชื่อวง BLACKPINK นั้นสื่อความหมายถึงธรรมชาติของสมาชิกในวงที่มีความหลากหลายทางมิติ ทั้งความงามของหน้าตา บุคลิกลักษณะ และความสามารถที่เพียบพร้อม เต็มเปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์และการฝึกฝนที่จริงจัง

นอกจากนี้สมาชิกทุกคนต่างมีความเป็นผู้นำในแต่ละด้านได้ ทางค่ายและวงจึงตัดสินใจว่าจะไม่มีหัวหน้าวง อีกทั้งชื่อแฟนคลับอย่างเป็นทางการของ BLACKPINK คือ BLINK (บลิงก์) ที่เป็นการรวมกันของคำว่า BLACK และ PINK ซึ่งมีความหมายว่า คนที่รักและปกป้อง BLACKPINK เสมอ

ปัจจุบัน BLACKPINK เป็นหนึ่งในเกิร์ลกรุ๊ปที่ประสบความสำเร็จและเป็นที่ยอมรับไม่เพียงแต่ในเกาหลีใต้เท่านั้น แต่ยังมีชื่อเสียงโด่งดังในระดับโลก 

อบต.โพนงาม บริการประชาชน ด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ เน้นโปร่งใส คุ้มค่า สามารถตรวจสอบได้ และไร้มลพิษ

องค์การบริหารส่วนตำบลโพนงาม อำเภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนคร จัดตั้งตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เมื่อปี 2539 มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายจัดตั้ง ให้มีและบำรุงไฟฟ้าหรือแสงสว่างโดยวิธีอื่น ในการดำเนินการส่วนใหญ่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมักจะอุดหนุนงบประมาณให้การไฟฟ้าเป็นผู้ดำเนินการและเป็นทรัพย์สินของการไฟฟ้า ทั้งที่การไฟฟ้าก็มีอำนาจหน้าที่บริการการขยายเขตไฟฟ้าบริการประชาชนอยู่แล้ว แต่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็เลือกที่จะอุดหนุนงบประมาณ เนื่องจากสะดวกและง่ายไม่ต้องดำเนินการเอง

ปัจจุบันการไฟฟ้าจำกัดอัตราการใช้ไฟฟ้าส่องว่างสาธารณะในชุมชนลง ทำให้บางชุมชนบางพื้นที่ไม่มีแสงสว่างเพื่อความสะดวกและปลอดภัย

จากปัญหาดังกล่าว องค์การบริหารส่วนตำบลโพนงามได้เล็งเห็นความสำคัญในการแก้ไขปัญหาระบบแสงสว่างสาธารณะโดยมีความคิดริเริ่มในการเลือกใช้พลังงานทดแทนตามนโยบายรัฐบาล

โดยจัดทำคำของบประมาณเงินอุดหนุนเฉพาะกิจตามแผนกระจายอำนาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประจำปี 2565 โครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็กพร้อมติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างพลังงานแสงอาทิตย์ สายบ้านพลังใหม่ หมูที่ 11 ตำบลโพนงาม – บ้านวาใหญ่ ตำบลวาใหญ่ อำเภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนคร งบประมาณ 4.6 ล้านเศษ และได้ดำเนินการแล้วเสร็จเมื่อกลางปี 2565 จากการดำเนินโครงการก่อสร้างและติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar street light) ทำให้ประชาชนและผู้สัญจรมีความพึงพอใจอย่างมาก เพราะสะดวกสบาย ปลอดภัยในยามค่ำคืน และประหยัดค่าไฟฟ้าได้อีกด้วย ที่สำคัญเป็นการสนองนโยบายรัฐบาลในการรักษาสิ่งแวดล้อมได้อีกทางหนึ่ง ทำให้พื้นที่ข้างเคียงหรือหมู่บ้านอื่นมีความต้องการจะติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างพลังงานแสงอาทิตย์เช่นเดียวกัน ในปีงบประมาณ พ.ศ.2566 – 2570 องค์การบริหารส่วนตำบลโพนงาม ได้ประชาคมจัดทำแผนพัฒนาเพื่อขยายพื้นที่ติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างให้ครบทุกหมู่บ้านและตามสายทางสาธารณะที่ไฟฟ้าไปไม่ถึง ซึ่งในปีงบประมาณ พ.ศ.2567 องค์การบริหารส่วนตำบลโพนงาม ได้จัดทำคำของบประมาณเงินอุดหนุนเฉพาะกิจฯ จำนวน โครงการ ได้แก่

1.โครงการเสริมผิวจราจรแอสฟัลติกท์คอนกรีตพร้อมติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างพลังงานแสงอาทิตย์ สายหน้าวัดโพธิ์ชัย หมู่ที่ 1 ตำบลโพนงาม – บ้านวาใหญ่ ตำบลวาใหญ่ อำเภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนคร จำนวน 100 โคม ระยะทาง 2,000 เมตร

2.โครงการก่อสร้าง คอนกรีตเสริมเหล็ก พร้อมติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างพลังงานแสงอาทิตย์ สายบ้านพลังใหม่ หมู่ที่ 11 ตำบลโพนงาม – บ้านดอนทอย อำเภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนคร จำนวน 54 โคม ระยะทาง 1,000 เมตร

3.โครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็กพร้อมติดตั้งไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ สายบ้านเสาวัด หมู่ที่6 ตำบลโพนงาม – บ้านนาหวาย ตำบลท่าก้อน อำเภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนคร จำนวน 100 โคม ระยะทาง 2,000 เมตร ซึ่งองค์การบริหารส่วนตำบลคาดหมายว่าจะได้รับงบประมาณจากรัฐบาล และอีกส่วนหนึ่งองค์การบริหารส่วนตำบลโพนงามได้ใช้งบประมาณของตนเองดำเนินโครงการติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างพลังงานแสงอาทิตย์บริการชุมชนและสังคมภายในหมู่บ้านที่ไม่มีแสงสว่างหรือระบบไฟฟ้าของการไฟฟ้าไปไม่ถึง และนี่คือนโยบายดีๆ ที่องค์การบริหารส่วนตำบลโพนงามให้ความสำคัญตามหลักการบริการสาธารณะที่ว่า “น้ำไหล ไฟสว่าง ทางดี ประชาชีเป็นสุข เศรษฐกิจมั่งคั่ง” บนพื้นฐานหลักความคุ้มค่า โปร่งใส มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ตรวจสอบได้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top