Wednesday, 14 May 2025
Lite

‘เมย์ พิชญ์นาฏ’ เล่าโมเมนต์ตอนถูกขอแต่งงาน พร้อมเผยแผนงานวิวาห์และอนาคตครอบครัว

(4 ส.ค. 66) หลังจากร่วมงานบวงสรวงละครเรื่อง ‘บุหงาส่าหรี’ ของช่องวัน 31 ที่อาคารจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ วันนี้ (4 ส.ค. 66) แล้วทุกคนก็บอก ‘เมย์ พิชญ์นาฏ สาขากร’ เป็นเสียงเดียวว่า “ดูมีออร่ามาก” ซึ่งพอได้ยินเจ้าตัวก็ย้อนถาม “จริงหรอคะ?” พร้อมกล่าวว่า “ก็คงเป็นแบบนั้น มีความสุขค่ะ” บอกพลางยิ้มกว้าง

ทั้งนี้ สาวเมย์ พิชญ์นาฏ ยังได้เล่าอีกว่า ตอนที่ถูกขอแต่งงาน เธอไม่รู้จะบอกกับทุกคนอย่างไรดี เพราะคู่ของเธอไม่ได้มีโมเมนต์แบบฝ่ายชายคุกเข่าขอ พร้อมสวมแหวนเพชร

“เขาพาเราไปทานข้าวย้อนหลังวันเกิด แล้วอยู่ดีๆ ก็ถามคำถามมากมาย ว่าชอบของขวัญชิ้นไหน ตอนคบกันชอบไปเที่ยวไหน ถามเยอะมาก เราก็ว่าวันนี้ทำไมถามเยอะ แล้วคำถามสุดท้ายพร้อมแต่งงานหรือยัง อยากแต่งหรือยัง เขาพร้อมแล้ว อะไรแบบนี้ แล้วเขาก็บอกว่ายังไม่มีแหวนนะ จะถามว่าอยากไปเลือกด้วยกันไหม หรืออยากให้เขาเลือกมาเลย เพราะเขากลัวไม่ถูกใจ เราก็งงนิดนึง ว่านี่คือขอแต่งงานหรืออะไร เลยบอกว่าให้เขาไปเลือกเลยละกัน แหวนอะไรก็ได้ แล้วเดี๋ยวเรากลับไปถามที่บ้านก่อน ว่าโอเคกับเธอไหม แล้วเธอกลับไปถามพ่อแม่เธอก่อน ว่าโอเคกับเราไหม แล้วเอาพ่อแม่มาเจอกัน ก็ผ่านไปแบบเร็วมาก เรียบง่ายมาก” เมย์ เล่า

พร้อมเล่าอีกว่า หลังเวลาผ่านไปสักระยะ จึงตัดสินใจบอกผ่านอินสตาแกรมโดยใช้รูปที่ถ่ายด้วยกันตอนวันวาเลนไทน์มาลง

ส่วนเรื่องการคุกเข่าขอแต่งนั้น เมย์ เล่าว่า “ตอนนั้นอยากมีนะ คือแบบ เฮ้ย!! นี่ขอแล้วเหรอ แล้วจะมีเซอร์ไพรส์อีกไหม ก็เอ๊ะ… หรือเราจะเก็บเป็นความลับก่อน เดี๋ยวเขามีเซอร์ไพรส์ แต่ก็ได้ฤกษ์มาแล้ว ก็รู้สึกว่าเราต้องรีบเตรียมงาน มานั่งรอแล้วแหวนยังไม่มี กลัวทำอะไรไม่ทัน ก็ไม่รู้ว่าจะมีอีกไหม หรือไม่มีแล้ว ก็ไม่เป็นอะไร ก็จะแต่งแล้วแหละ” เมย์ กล่าวพร้อมยิ้ม

สำหรับฤกษ์แต่ง เมย์บอก ว่าเป็นช่วงเดือนธันวาคมนี้

ด้านเรื่องความรักของตัวเอง เมย์ตอบว่า “เมย์รู้สึกว่าเมย์อยู่ในวงการนี้มานาน แล้วก็เป็นข่าวเรื่องความรักเยอะ ทุกครั้งที่เมย์อกหักหรือโสดก็จะมีคนให้กำลังใจ ทุกคนดูแบบเอาใจช่วยเรามาตลอด ขอบคุณมากๆ นะคะ ขอบคุณทุกข้อความ เมย์ได้อ่านหมดเลย ซาบซึ้งจริงๆ แล้วก็อยากให้ทุกคนหายห่วง ว่าวันนี้เมย์ได้เจอคนที่เขาพร้อมที่จะจับมือกับเราไปในทุกช่วง” พร้อมเล่าอีกว่าเพื่อนๆ ก็ดีใจกับข่าวดีข่าวนี้ของเธอ

“ทุกคนดีใจมากๆ เป้ยนี่คือเสียงสั่นเลย เหมือนจะร้องไห้ เพื่อนสนิทบางคนที่เราแอบบอกก่อนจะโพสต์ข้อความ ก็กรี๊ดแล้วบอกว่าดีใจมาก ดีใจกว่าตอนที่เขากำลังจะแต่งงานเองอีก เขาอยากให้เรามีความสุข พี่อั้ม พี่หนิง กระแต ทุกคนคือดีใจ” เมย์ กล่าว

ในส่วนงานแต่ง เมย์บอกว่าเพิ่งเตรียมไปได้ราว 30% เพราะติดถ่ายละคร โดยงานตั้งใจจะให้ออกแนวอบอุ่น เป็นกันเอง ไม่ได้หรูหราอะไรมาก ทุกคนมาแบบสบายๆ แล้วก็มีความสุข

สำหรับเพื่อนเจ้าสาว เมย์บอกปนอาการหัวเราะๆ ว่า “คัดแล้วคัดอีก 22 คน คือเรามีเพื่อนดารา 12 คนที่มีสตอรี่ว่าผ่านอะไรกันมาบ้าง อีก 10 คนเป็นเพื่อนตอนเด็กๆ ที่อยู่ในทุกช่วงเวลา ก็อยากให้เขาได้อยู่กับเราด้วย เพื่อนเจ้าบ่าวมี 18 คน ก็เป็นวันเกิดเขา เขาเกิด 18 เมย์ เกิด 22 ก็เลยเป็นแบบนี้”

เรื่องทายาท เมย์บอกได้ฝากไข่ไว้ 5-6 ปีแล้ว และคิดว่าจะรีบใช้หลังจากแต่ง

“เพราะเราเกิดปีไก่ และแฟนเกิดปีมังกร เขาอยากจะให้ลูกเกิดปีมังกร ก็คือปีหน้า ตอนนี้ก็รีบเตรียมสุขภาพไว้ก่อน พอหลังแต่งก็รีบทำให้ทัน คงไม่ไปมู ไปหาหมอน่าจะดีกว่า ใช้วิทยาศาสตร์ช่วยเลย เพราะว่าเราก็แก่แล้ว” เมย์ที่ปัจจุบันอายุ 42 ปีบอก

ทั้งยังบอกทิ้งท้ายว่า “ถ้าจะมีจริงๆ จะเป็นชาย หรือหญิง หรือฝาแฝดก็ได้หมด และถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะมีสัก 2 คน”

คิกออฟ 'เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 66' กิน-ช้อป-เที่ยวแบบอันซีนที่ศูนย์สิริกิติ์ ใต้อัตลักษณ์ 5 ภูมิภาคสุดคูล ที่สายเที่ยวไม่ควรพลาด

งานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2566 จัดขึ้นปีนี้ ซึ่งเป็นครั้งที่ 41 ภายใต้แนวคิดนวัฒนธรรม นำนวัตกรรมเทคโนโลยีสมัยใหม่ร่วมถ่ายทอดอัตลักษณ์ของ 5 ภูมิภาคในมุมมองสุดอันซีน โดยมีความพิเศษก็คือมีการย้ายสถานที่จัดงานจากสวนลุมพินี มาจัดที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตั้งแต่วันที่ 2-6 สิงหาคม 2566 ข้อดีของการย้ายมาจัดที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ก็คือมีสถานกว้างขวางพร้อมที่จอดรถรองรับอย่างเพียงพอ และสามารถป้องกันปัญหาฝนตกในช่วงนี้ได้ จึงทำให้เราสามารถมาเที่ยวได้แบบชิลๆ โดยไม่ต้องกลัวฝน แถมยังมาพร้อมกับคอนเทนต์น่าสนุกและของกินของขายมากมายภายในงาน 

งานนี้จัดขึ้นที่ชั้น LG ในศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยจะมีการแบ่งโซนในงานออกเป็น 5 ภาค ได้แก่ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ กระจายอยู่ทั่วพื้นที่

โดยแต่ละภาคก็จะขนเอาของดีของเด่นของแต่ละภาคมาจัดแสดงโชว์กัน ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวดังๆ ขึ้นชื่อ ก็จะมีการจำลองรูปแบบมาให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูป เช็กอินกันแบบเก๋ๆ เรียกได้ว่ามางานเดียวเหมือนได้ไปเที่ยวทั่วเมืองไทยเลย

ในส่วนของกินภายในงานก็ต้องบอกเลยว่าจัดเต็มอลังการมาก อาหารถิ่นของแต่ละภาคถูกนำมาวางขายตามภาคของตัวเอง อยากกินอาหารเหนือ อาหารอีสาน อาหารภาคกลาง อาหารภาคใต้ หรืออาหารภาคตะวันออก ก็สามารถไปเดินเลือกซื้อหากันภายในงานได้อย่างจุใจ แถมราคาไม่แพงด้วย มาฝากท้องกันได้ทุกวัน

นอกจากนี้ภายในงาน ก็ยังมีเวทีคอนเสิร์ตกระจายอยู่ตามภาคต่างๆ พร้อมกับศิลปินนักร้องที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาสร้างความสนุกให้กับผู้ร่วมงานในทุกวันด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งงานที่ไม่ควรพลาด ต้องไปเดินเที่ยว เดินช้อป และหาของกินอร่อยๆ ว่าแล้วก็รีบไปที่ ศูนย์สิริกิติ์กันเลย

ข้อมูลเพิ่มเติม
สถานที่จัดงาน : ฮอลล์ 5-8 ชั้น LG ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 60 ถ. รัชดาภิเษก แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร
พิกัด : https://goo.gl/maps/Xd8vsqJpcUvuHPHD6
ระยะเวลาจัดงาน : 2-6 สิงหาคม 2566 เวลา 10.00 – 21.00 น

6 สิงหาคม พ.ศ. 2488 สหรัฐฯ ทิ้งระเบิดปรมาณู ‘เมืองฮิโรชิมา’ คร่าชีวิตชาวญี่ปุ่นทันที 80,000 คน

วันนี้เมื่อ 78 ปีที่แล้ว นับเป็นอีกหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ที่ชาวญี่ปุ่นและชาวโลกยากจะลืมเลือน เมื่อสหรัฐอเมริกา ทิ้งระเบิดปรมาณู เหนือเมืองฮิโรชิมา ส่งผลให้มีคนตายทันที 80,000 คน

วันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2488 เป็นอีกหนึ่งวันที่คนญี่ปุ่นไม่มีวันลืม เมื่อระเบิดปรมาณู ‘ลิตเติลบอย (Little Boy)’ ถูกทิ้งเหนือเมืองฮิโรชิมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทันทีประมาณ 80,000 คน และมีผู้เสียชีวิตจากการได้รับกัมมันตภาพรังสีอีก 60,000 คน

‘ลิตเติลบอย (Little Boy)’ เป็นชื่อระเบิดปรมาณู ที่ถูกนำไปทิ้งเหนือเมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น โดยเครื่องบิน B-29 Superfortress (เครื่องบินลำนี้มีชื่อ Enola Gay) และระเบิดลูกนี้ ยังนับเป็นระเบิดปรมาณูลูกแรกที่ใช้ในการสงครามอีกด้วย

อาวุธนี้พัฒนาขึ้น ในระหว่างจัดตั้ง ‘โครงการแมนฮัตตัน’ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดย ‘จูเลียส โรเบิร์ต ออปเพนไฮเมอร์’ ผู้ที่ได้ฉายาว่า ‘บิดาแห่งระเบิดปรมาณู’

สำหรับ ‘ลิตเติลบอย’ มีความยาว 3 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 71 เซนติเมตร และน้ำหนัก 4,000 กิโลกรัม บรรจุธาตุยูเรเนียมประมาณ 64 กิโลกรัม และจากเหตุการณ์นี้ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทันทีประมาณ 80,000 คน และมีผู้เสียชีวิตจากการได้รับกัมมันตภาพรังสีอีก 60,000 คน

‘ปอย ตรีชฎา’ อัปเดตทริปปีนเขาช่วงฮันนีมูน ได้แผลถลอกทั้งตัว แต่สามีดูแลไม่ห่าง

เรียกว่าชีวิตหลังวิวาห์แฮปปี้มีความสุขสุด ๆ สำหรับคู่สามีภรรยา ‘ปอย ตรีชฎา หงษ์หยก’ และ ‘โอ๊ค บรรลุ’ ซึ่งทั้งสองออกทริปฮันนีมูนที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และได้มีการไปทำกิจกรรมปีนเขาที่ยอดเขามัทเทอร์ฮอร์นด้วยกัน

โดยล่าสุดสาวปอย ได้ปล่อยโมเมนต์พิเศษอัปเดตความหวานกันแบบข้ามทวีป ซึ่งในทริปนี้ทั้งสอง เลือกที่จะไปผจญภัยในสไตล์ที่ชอบ นั่นก็คือการปีนขึ้นยอดเขา Matterhorn พร้อมกับเก็บภาพบรรยากาศความสวยและความประทับใจมาฝากแฟน ๆ ผ่านโซเชียล

แม้ว่างานนี้สาวปอยจะได้รับบาดเจ็บจนมีแผลถลอกทั่วร่างกาย ทั้งมือ ทั้งหัวเข่า แต่คุณสามี ‘โอ๊ค บรรลุ’ ก็คอยดูแลไม่ห่าง เรียกได้ว่าทริปนี้แม้จะเหนื่อยบ้างเจ็บบ้าง แต่ความหวานนั้นอยู่ในระดับสิบเกินต้านเลยจ้า

Portobello & Desire จิบน้ำชายามบ่าย สไตล์อังกฤษ ร้านหรูวินเทจ ในสวนร่มรื่น ย่านเกษตร-นวมินทร์

วันอาทิตย์ แบบนี้ THE STATES TIMES ขอแนะนำร้านดีๆ ที่จะทำให้ วันอาทิตย์ของคุณวันนี้กลายเป็นวันหยุดสุดพิเศษ

Portobello & Desire (พอร์ทโทเบลโล่ แอนด์ เดเซเร) คาเฟ่สีขาวบรรยากาศอบอุ่น ย่านเกษตรนวมินทร์ ร้านนี้เปิดอยู่ในซอยประดิษฐ์มนูธรรม ร้านตกแต่งสไตล์อังกฤษ มีโซนเอาท์ดอร์ให้ดื่มด่ำกับบรรยากาศสบายท่ามกลางสวนร่มรื่น รวมถึงโซนห้องแอร์ที่เน้นโทนสีขาวแนวชวนฝันแบบเรียบหรู 

เดินเข้ามาจากทางด้านหน้า จะเห็นพื้นที่นั่งในสวนเอาท์ดอร์ที่กว้าง มีที่นั่งอยู่หลากหลายท่ามกลางสวนสีเขียว ส่วนตัวร้านนั้น เป็นบ้านวินเทจสีขาว  บรรยากาศแบบ English Country Home แสนอบอุ่น จากสวนมองไปเห็นพื้นที่ภายในร้านซึ่งทำเป็นหน้าต่างให้มองออกมาข้างนอกได้ เรียกได้ว่านั่งทานอาหารไปก็ชมสวนไปด้วย ส่วนพื้นที่โซนห้องแอร์เย็นๆนั้น พื้นที่ไม่กว้างมากแต่ตกแต่งได้น่ารักชวนฝัน ประดับด้วยดอกไม่ในโทนสีขาว 

สำหรับเมนูอาหารของPortobello & Desire จะเน้นอาหารแบบตะวันตกสไตล์โฮมเมด โดยมีทั้งอาหารจานหลักและเมนูของว่าง แต่ละอย่างล้วนได้รับการปรุงอย่างใส่ใจ และมีความสร้างสรรค์ตามแบบฉบับของทางร้าน เมนูแนะนำ ได้แก่ “garlic bread” ขนมปังกระเทียมเนื้อนุ่ม, “spicy salmon” แซลมอนหั่นเต๋า เคล้าน้ำยำเนื้อข้น, “spaghetti clams meat” สปาเกตตี้ผัดพริกแห้งใส่หอยลายรสจัดจ้าน, “duck confit” น่องเป็ดปรุงด้วยซอสส้ม, “orange crepe” เครปนุ่ม ๆ เสิร์ฟกับพีชเชื่อมและส้มเชื่อม และ “rose soda” สดชื่นซู่ซ่า สั่งมากินตัดเลี่ยนได้เป็นอย่างดี

เมนูของหวาน ก็มีมากมายอาทิ เครปสตรอเบอรี่ ที่มาพร้อมไอศกรีมวนิลลาและสตรอเบอรี่ สดกรอบอร่อย เครื่องดื่มก็มีหลากหลายให้เลือก ซึ่งล้วนเข้ากันได้ดีกับอาหาร โดยเฉพาะชาที่มีกลิ่นหอม รสชาติเยี่ยมมาก

ข้อมูลเพิ่มเติม
เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-พฤหัสบดี ตั้งแต่เวลา 11.00-21.00 น. และวันศุกร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น. 
ที่อยู่ : ถนนประเสริฐมนูกิจ แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ
เบอร์โทรศัพท์ : 098-289-8703

เรื่อง : กันย์ ฉันทภิญญา Content Manager

‘อิม เฟี้ยว์ฟ้าว’ อัปเดตคดี ‘อดีตผู้จัดการยักยอกทรัพย์’ เผย ให้อภัยไม่เอาความ หลังอีกฝ่ายยอมรับผิด-คืนเงิน

หลังจากก่อนหน้านี้ นักแสดงสาว เฟี้ยว์ฟ้าว สุดสวิงริงโก้ ได้มีเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาล เดินหน้าฟ้องร้องกับอดีตผู้จัดการส่วนตัว ในข้อหาคดียักยอกทรัพย์ หลังร่วมทำธุรกิจทัวร์ท่องเที่ยวพม่าด้วยกัน

ล่าสุด (4 ส.ค.66) เฟี้ยว์ฟ้าว ได้ออกมาอัปเดตคดีเกี่ยวกับผู้จัดการผ่านทางอินสตาแกรม โดยระบุว่า…

“คดีเกี่ยวกับ..#อดีตผู้จัดการเฟี้ยว์ฟ้าว ที่มีการ.. #ยักยอกทรัพย์ และอีก #ยักยอกทัวร์พม่า ที่ผ่านมานั้น

อิมขอแจ้งความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีในครั้งนี้

#อดีตผู้จัดการส่วนตัวได้ให้การยอมรับสารภาพผิดต่อศาล และ ได้ชดใช้คืนเงินให้อิม #ในสิ่งที่อดีตผู้จัดการได้ยักยอกไป ต่อหน้าศาลในวันที่ 3 สิงหาคม 2566

ซึ่งคดีนี้...อดีตผู้จัดการส่วนตัวได้ยักยอกไป เป็นการกระทำที่ผิด และ เป็นสิ่งที่ไม่ดี เราได้ทำการแจ้งความฟ้องร้องดำเนินคดีมาเป็นระยะเวลานานพอสมควร เพราะเกิดในช่วงสถานการณ์โควิดช่วงรุนแรง ทำให้คดีเกิดความล่าช้าไปบ้าง (โดยที่อิมได้เคย..ชี้แจงต่อสื่อมวลชน และทุกคนไปบ้างแล้วนั้น)

**ในครั้งนี้***

เห็นว่ามีการยอมรับสารภาพผิด อิมก็พร้อมจะให้อภัยและไม่เอาความในคดีนี้ ถือว่าคดีนี้ได้สิ้นสุดต่อกัน แต่หากยังไม่กลับตัวกลับใจอีก อิมก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไปเน้อ

อิมขอขอบคุณศาลในความยุติธรรม ตลอดถึง #ทนายวิน ที่เคียงข้างสู้คดีความด้วยคุณธรรมและความถูกต้อง #และที่สำคัญ #อิมขอบคุณทุกๆคน ที่คอยเมตตาให้กำลังใจเสมอมาเน้อ ขอบคุณมากๆนะคะ”

ครั้งหนึ่งในชีวิต!! 'จี้เพ็ก' ยูทูปเบอร์อาหารภูเก็ต รุ่นคุณย่าวัย 78 เข้ารับพระราชทานโล่ประกาศเกียรติคุณในงานวันสตรีไทยดีเด่นประจำปี 66

(4 ส.ค.66) เพจ 'Phuket OK' ได้โพสต์ข้อความแสดงความยินดีกับ นางปราณี มานะจิตต์ 'จี้เพ็ก' อายุ 78 ปี ยูทูปเบอร์อาหารภูเก็ต รุ่นคุณย่า ซึ่งแจ้งเกิดจากเมนู 'หมูฮ้อง' และเข้ารับพระราชทานโล่ประกาศเกียรติคุณในงานวันสตรีไทยดีเด่นประจำปี 2566 ว่า...

คนภูเก็ต เข้ารับพระราชทานโล่ประกาศเกียรติคุณในงานวันสตรีไทยดีเด่นประจำปี 2566 ของสภาสมาคมสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ 

คนชอบเข้าครัว ต้องรู้จักจี้เพ็ก เจ้าของช่องยูทูปชื่อดัง 'จี้เพ็ก สองแม่ลูกเข้าครัว' ยูทูปเบอร์รุ่นคุณย่า ที่มีผู้ติดตามกว่า 4 แสนคน ยอดวิวมากกว่า 50 ล้านวิว คอยบอกเล่าวิธีทำเมนูอาหารภูเก็ต ส่งต่อความสุขด้วยสูตรเด็ดเคล็ดลับความอร่อย เป็นแรงบันดาลใจให้คนเข้าครัวทำกับข้าวตามสูตรที่จี้เพ็กสอน

เมนูแรกที่ทำให้ผู้ติดตามรู้จักจี้เพ็ก คือ หมูฮ้อง อาหารคนภูเก็ต จากนั้นก็มีเมนูอื่นๆ มาให้ติดตามเรื่อยๆ จนมีแฟนคลับเหนียวแน่น นอกจากเป็นยูทูปเปอร์แล้ว จี้เพ็กยังทำงานจิตอาสาสอนทำอาหารและขนมในโรงเรียน ชุมชน ช่วยเหลือสังคม Phuket OK จึงไม่แปลกใจเลยที่จี้เพ็กได้รับการเสนอชื่อ และ ได้รับคัดเลือกเข้ารับรางวัลฯ

จี้เพ็ก คือ คนภูเก็ต ที่เราภูมิใจ

ภรรยา ‘เอส กันตพงศ์’ อัปเดตอาการสามี หลังเข้าผ่าตัดใส่เครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจ

(5 ก.ค. 66) หลังจากที่ ‘คิตตี้ คริสติน่า’ ภรรยาของพระเอกหนุ่ม ‘เอส กันตพงศ์’ ออกมาโพสต์ขอกำลังใจจากแฟนคลับ ให้สามีเข้ารับการผ่าตัดใส่เครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติอย่างราบรื่น ล่าสุดคิตตี้ก็ได้ออกมาอัปเดตอาการของเอส โดยได้โพสต์ภาพถ่ายครอบครัวพร้อมเขียนข้อความว่า…

“I would like to update that the operation of my husband @s_kantapong went well.
S is still in quite some pain but is recovering well so far without any complications.
This picture was taken before the operation and Valentina took the part of supporting her Papa very serious and also tried to cheer him up afterwards.
Thank you everyone for the overwhelming support. We are truly thankful 🙏🙏🙏

ฉันขออัพเดทเรื่องการผ่าตัดของสามีของฉัน @s_kantapong ผ่านไปได้ด้วยดี
S ยังคงมีอาการเจ็บแผลอยู่บ้าง แต่ขณะนี้มีอาการฟื้นตัวได้ดี โดยไม่มีอาการแทรกซ้อนใดๆ 
ภาพนี้ถ่ายก่อนการผ่าตัดและวาเลนตินาเข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุนอย่างจริงจังและให้กำลังใจพ่อของเธอจนถึงตอนนี้
ขอบคุณทุกคนที่สนับสนุนอย่างล้นหลาม พวกเราขอบคุณจริงๆครับ 🙏🙏🙏

#bumrungrakfamily #เอสกันตพงศ์ #เอส #s_kantapong #valentinaerikab #prayforus #happyfamily #familygoals #thankfulgratefulblessed”

7 สิงหาคม พ.ศ. 2112 พระเจ้าบุเรงนอง ตีอาณาจักรอยุธยาแตก ทำให้เกิดเหตุการณ์เสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 1

วันนี้เมื่อ 454 ปีก่อน พระเจ้าบุเรงนอง กษัตริย์ราชวงค์ตองอู ทรงตีอาณาจักรอยุธยาแตก ทำให้เกิดเหตุการณ์เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 1 ตกเป็นเมืองขึ้นของอาณาจักรตองอูเป็นเวลานาน 15 ปี พม่าเข้ายึดทรัพย์สินและกวาดต้อนผู้คนกลับไปพม่าเป็นจำนวนมาก 

วันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2112 เกิดเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาตร์ เมื่อพระเจ้าบุเรงนอง กษัตริย์ราชวงค์ตองอู ทรงตีอาณาจักรอยุธยาแตก ทำให้เกิดเหตุการณ์เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 1 โดยพระเจ้าบุเรงนองทรงนำทัพเข้ารุกรานกรุงศรีอยุธยาในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2111 ยกเข้ามาทางด่านแม่ละเมา เมืองตาก รวมทั้งหมด 7 ทัพ รวมจำนวนได้กว่า 500,000 นาย และยกทัพลงมาถึงพระนครในเดือนธันวาคมปีเดียวกัน 

โดยให้พระมหาธรรมราชาเป็นกองหลังดูแลคลังเสบียง ทัพพระเจ้าบุเรงนองก็ตั้งค่ายรายล้อมพระนครอยู่ไม่ห่าง การตั้งรับภายในพระนครส่งผลให้มีการระดมยิงปืนใหญ่ของข้าศึกทำลายอาคารบ้านเรือนอยู่ตลอด ทำให้ได้รับความเสียหายอย่างมาก

ฝ่ายกรุงศรีอยุธยาเมื่อทราบว่าหัวเมืองทางเหนือเป็นของพม่าแล้ว จึงเตรียมรบอยู่ที่พระนคร นำปืนนารายณ์สังหารยิงไปยังกองทัพพระเจ้าหงสาวดีที่ตั้งอยู่บริเวณทุ่งลุมพลี ทำให้ทหาร ช้าง ม้าล้มตายจำนวนมาก พม่าจึงถอยทัพมาตั้งที่บ้านพราหมณ์ให้พ้นทางปืน 

พระเจ้าหงสาวดีจึงเรียกประชุมการศึก พระมหาอุปราชเห็นสมควรให้ยกทัพเข้าตีไทยทุกด้านเพราะมีกำลังมากกว่า แต่พระเจ้าหงสาวดีไม่เห็นด้วยเพราะกรุงศรีอยุธยามีทำเลดีมีน้ำล้อมรอบ จึงสั่งให้ตีเฉพาะด้านตะวันออกเพราะคูเมืองแคบที่สุด 

ฝ่ายพม่าพยายามจะทำสะพานข้ามคูเมืองโดยนำดินมาถมเป็นสะพาน พระมหาเทพนายกองรักษาด่านอย่างเต็มสามารถ โดยให้ทหารไทยใช้ปืนยิงทหารพม่าที่ขนดินถมเป็นสะพานเข้ามา ทำให้พม่าล้มตายจำนวนมากจึงถอยข้ามคูกลับไป

พระเจ้าบุเรงนองทรงพยายามโจมตีอยู่นานจนถึงเดือนเมษายน พ.ศ. 2112 ก็ยังไม่ได้กรุงศรีอยุธยา อีกทั้งยังสูญเสียกำลังพลเป็นจำนวนมาก โดยในภายหลังทรงย้ายค่ายเข้าไปใกล้กำแพงเมืองจนทำให้สูญเสียพลอย่างมาก ระหว่างการสงครามสมเด็จพระมหาจักรพรรดิประชวรและสวรรคตในเวลาต่อมา โดยสมเด็จพระมหินทร์ขึ้นครองราชและทรงบัญชาการรบแทน

พระเจ้าบุเรงนองจึงถามพระมหาธรรมราชาว่าจะ ทำอย่างไรให้ชนะศึกโดยเร็ว พระมหาธรรมราชาทรงแนะว่าพระยารามเป็นแม่ทัพสำคัญหากได้ตัวมาการยึดพระนครจักสำเร็จ จึงมีสาสน์มาถึงพระอัครชายาว่า "...การศึกเกิดจากพระยารามที่ยุยงให้พี่น้องต้องทะเลาะกัน ถ้าส่งตัวพระยารามมา ให้พระเจ้าหงสาวดีจะยอมเป็นไมตรี..." 

สมเด็จพระมหินทร์ฯ ทรงอ่านสาสน์แล้ว ปรึกษากับข้าราชการต่าง ๆ จึงเห็นสมควรสงบศึกเพราะผู้คนล้มตายกันมากแล้ว สมเด็จพระมหินทร์ฯมีรับสั่งให้ส่งพระสังฆราชออกไปเจรจาและส่งตัวพระยารามให้พระเจ้าบุเรงนองเพื่อเป็นไมตรี แต่พระเจ้าบุเรงนองตระบัดสัตย์ไม่ยอมเป็นไมตรี ทำให้สมเด็จพระมหินทร์ฯทรงพิโรธโกรธแค้นในการกลับกลอกของพระเจ้าบุเรงนองอย่างมาก มีรับสั่งให้ขุนศึกทหารทั้งปวงรักษาพระนครอย่างเข้มแข็ง พระเจ้าบุเรงนองเห็นว่ายังไม่สามารถตีกรุงศรีอยุธยาไม่ได้ จึงส่งพระมหาธรรมราชามาเกลี้ยกล่อมให้ยอมแพ้ แต่ถูกทหารไทยเอาปืนไล่ยิงจนต้องหนีกลับไป

พระเจ้าหงสาวดีจึงคิดอุบายจะใช้พระยาจักรีที่จับตัวได้เป็นประกันเมื่อครั้งสงครามช้างเผือกเป็นไส้ศึก จึงให้พระมหาธรรมราชาทรงเกลี้ยกล่อมพระยาจักรีให้เป็นไส้ศึกในกรุงศรีอยุธยา แล้วแกล้งปล่อยตัวออกมา รุ่งเช้าพม่าทำทีเป็นตามหาแต่ไม่พบเลยจับตัวผู้คุมมาตัดหัวเสียบไว้ริมแม่น้ำเพื่อให้ไทยหลงกล

สมเด็จพระมหินทร์ฯทรงดีพระทัยที่พระยาจักรีหนีมาได้จึงทรงแต่งตั้งให้เป็นผู้บังคับบัญชาการรบแทนที่พระยาราม ครั้นพระยาจักรีได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรักษาพระนครแล้วจึงดำเนินการสับเปลี่ยนหน้าที่ของฝ่ายต่าง ๆ จนกระทั่งการป้องกันพระนครอ่อนแอลง 

พระยาจักรีได้ใส่ร้ายให้พระศรีสาวราชว่าเป็นกบฏจึงถูกสำเร็จโทษ เมื่อเห็นว่าได้เวลาอันควรพระยาจักรีจึงให้สัญญาณแก่พม่าเข้าตีกรุงศรีอยุธยาทุกด้าน และทำให้กองทัพพม่าเข้าสู่พระนครสำเร็จโดยใช้เวลาเพียง 1 เดือน โดยในวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2112 พระยาจักรีจึงให้สัญญาณแก่พม่าเข้าตีกรุงศรีอยุธยาและเปิดประตูเมือง ทำให้ทัพพม่าเข้ายึดพระนครสำเร็จ กรุงศรีอยุธยาจึงตกเป็นเมืองขึ้นของอาณาจักรตองอู

‘เอม วิทวัส’ เปิดใจหลัง ‘ตั๊กแตน’ โทรขอโทษ เผย ยังเสียใจอยู่ เพราะถูกด่าในสิ่งที่ไม่ได้ทำ

(5 ก.ค. 66) จากกรณีความขัดเคืองใจจนกลายมาเป็นปมระหว่าง ‘ตั๊กแตน ชลดา’ กับ ‘จ๊ะ อาร์สยาม’ และ ‘เอม วิทวัส’ ที่สาเหตุนั้นดูเหมือนจะมีจุดเริ่มต้นจาก ‘เวลาในการขึ้นแสดงคอนเสิร์ต’ ที่ทั้งคู่ไปร่วมงานเดียวกัน แล้วเวลาโชว์ไม่เป็นไปตามที่ตกลงไว้ ก่อนเรื่องจะลุกลาม

โดยสาเหตุของการทะเลาะกันครั้งนี้ ชาวเน็ตได้สรุปว่า มาจากคิวที่ขึ้นงานแสดงระหว่าง 3 คน คือ ‘ลำไย ไหทองคำ’, ‘จ๊ะ นงผณี’ และ ‘ตั๊กแตน ชลดา’

แม้ล่าสุดทางตั๊กแตนได้โทรไปขอโทษเอมแล้วนั้น และล่าสุดทาง ลำไย ได้ออกมาชี้แจงเรื่องในมุมของตนเองแล้วนั้น

ล่าสุด เอม วิทวัส ได้เปิดเผยถึงเรื่องนี้กับ 'วันบันเทิง' ว่า ตั๊กแตนได้ติดต่อผ่านมาทางผู้จัดการและได้ขอโทษตนเองและคุณย่าของตนกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว

เอม ขอบคุณที่ตั๊กแตน ขอโทษและสำนึกผิด ส่วนตัวให้อภัย แต่ก็ยังเสียใจอยู่ที่ต้องมาถูกด่าเยอะมากในสิ่งที่ไม่ได้ทำ

ทั้งนี้ เอมเน้นย้ำว่า ขอจบปัญหา ไม่อยากต่อความยาว และไม่อยากมีเรื่องกับใครแล้ว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top