Wednesday, 14 May 2025
Lite

‘แอนนา’ เล่านาทีแมวหาย ร้อนใจ!! ขอให้ ‘แตงโม’ ช่วย จนเจอ ขนลุกต่อ!! ได้ยินเสียงผญ.ร้องไห้เรียกชื่อหน้าบ้าน แต่เช็กแล้วไม่มีใคร

เมื่อวานนี้ (8 ส.ค.66) แมวหายไปจนทำเอาใจเสีย เพราะเป็นแมวตัวโปรดของ ‘แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์’ สำหรับ ‘แอนนา วรินทร วัตรสังข์’ งานนี้เจ้าตัวเผยถึงขั้นวอนแตงโมให้ช่วยตามหาแมว สุดท้ายก็เจอแมวจริง ๆ โดยในงานเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ D-Nie Nutt Coffee คนล่าสุดของแบรนด์ เจ้าตัวก็เล่าให้ฟังว่า…

“แมวชื่อแบมบี้หายไปเมื่อวาน ตอนบ่ายโมงกว่า มีกล้องวงจรปิดให้ดูด้วยนะ แมวหายตอนบ่ายโมงกว่า หายไป 5 ชม. หายังไงก็ไม่เจอ เราก็เดินไปที่รูปโม เดินไปบอกว่า โมกูไม่ไหวแล้วนะ ใจเสียหมดแล้ว วานโมให้หาแมวให้หน่อยสิ พอพูดเสร็จ เดินออกไปจากบ้านเจอแมวเลยค่ะ แมววิ่งเข้าบ้านเอง เพราะปกติแบมบี้ ไม่ชอบออกนอกบ้าน อยู่ดี ๆ ก็หายไป”

>> เสียใจแม่และแฟนคลับเก็บรูปแตงโมออกจากท่าเรือพิบูลสงครามทั้งหมด?

“รูปอะไร เก็บหมดเลยเหรอ เสียใจ และที่ผ่านเรียกว่าคอนเทนต์เหรอ การที่เอารูปไปวางคอนเทนต์ 1 ปีและก็เอาออกเหรอ อันนี้งงนะ”

>> คุยกับแม่ตลอด พร้อมยกมือไหว้ขอโทษ เล่าเหตุการณ์ขนลุก?

“คุยตลอด วันขึ้นศาลยังให้กำลังใจแม่อยู่เลย แม่ยังบอกให้เอาเสื้อผ้าแตงโมมาขายได้นะ ถ้าเราเอามาขาย ทัวร์ลงแน่นอน ก็เลยไม่เอามาขาย และมีเรื่องที่จะเล่า ต้องขอโทษโมไว้ล่วงหน้า เพราะโมเป็นคริสต์ (ยกมือไหว้) แต่เราจะบอกว่า 3 วันก่อนหน้านี้ เราไม่รู้เรื่องเก็บรูปโม แต่ 3 วันมีคนมาเรียกหน้าบ้าน และก็มีคนมาเคาะประตูบ้าน ดูกล้องวรจรปิด ก็ไม่มีคน รอบแรกได้ยินเสียงคนมาเรียก แอนนา แอนนา รอบสองเสียงร้องไห้ รอบสามเสียงเคาะประตูบ้าน เป็นเสียงผู้หญิง ก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้”

>> เชื่อเพื่อนยังอยู่ รอความเป็นธรรมให้ตัวเอง??

“คิดว่าเพื่อนเรายังอยู่ เชื่อว่าโมอยู่บนสวรรค์ แต่โมอาจจะทำใจยากกับเรื่องการเก็บรูป เพราะบางทีเราก็รับรู้อะไรบางอย่างได้ตลอด ฮิปโป พุดเดิ้ล โม อมีนาก็ฝัน โมคงยังรอความเป็นธรรมให้ตัวเขาเองอยู่แล้ว และคอยช่วยแม่อยู่แล้ว”

‘แจ็ค แฟนฉัน’ ประกาศเลิกทำเพลง หลังเห็นยอดวิวแล้วอยากกุมขมับ ขอโทษทุกคนที่ชวนมาแจม ขอกลับมาทำคอนเทนต์ที่ชอบเหมือนเดิม

(9 ส.ค.66) แจ็ค แฟนฉัน ได้โพสต์เปรียบเทียบยูทูบ ของ ‘เพลง ซอม’ พร้อมข้อความว่า “ตั้งใจทำเพลงแบบจริงจัง555555” กับ ‘คลิปไปสัมภาษณ์’ พระเอกหนุ่ม มาริโอ้ ย้ายจากสายวินเทจมาเป็นรถไฟฟ้า ที่ติดอันดับ 7 ในมาแรง พร้อมข้อความว่า “ทำคลิปกับมาริโอ้ คุยเรื่องรถถ่ายง่ายๆ”

พร้อมแคปชันประกาศด้วยว่า “ประกาศ ประกาศ เลิกทำเพลงแล้วครับไม่เอาแล้ว 55555555555 ต่อไปนี้ทำอะไรอย่าไปคิดเยอะอย่าไปจริงจังเยอะ กลับมาทำคลิปหลอกขายของคนดีกว่า คนชอบเยอะกว่า #มาริโอ้เพลงที่แล้วกูขอโทษนะเราทำคลิปขายรถขึ้นไวมาก #ส่วนเพลงซอมนี้ขอโทษน้าหม่ำกับพี่เพชรด้วยนะครับ 555555555 #ไม่เงี่ยนร้องแล้วครับ”

‘เต้ย จรินทร์พร’ เกิดภาวะหมดไฟ กังวลกับชีวิตในวงการบันเทิง โชคดี!! มี ‘มาตาลดา’ ช่วยเยียวยาใจเอาไว้ ทำให้ฉุดดึงขึ้นมาได้

(9 ส.ค.66) โกยทั้งคำชมและเรตติ้งไม่หยุดจริงๆ สำหรับ ‘มาตาลดา’ ทางช่อง 3 เรียกว่าตั้งแต่ละครเริ่มออนแอร์จนตอนนี้ก็ดังพลุแตก ทุกสื่อโซเชียลต่างชื่นชมในคุณภาพของละครถึงขั้นเอ่ยปากว่า ‘มาตาลดา’ คือหมอรักษาหัวใจทุกคน แม้กระทั่งนางเอกของเรื่องอย่าง ‘เต้ย จรินทร์พร’ ที่ออกมายอมรับกับไทยรัฐทอล์ค ว่า…

มาตาลดาเองก็เป็นสิ่งที่เยียวยาหัวใจเธอเช่นกัน หลังช่วงที่ถ่ายทำมาตาลดานั้น เป็นช่วงสภาวะโควิด-19 ทำให้เต้ยเจอกับภาวะหมดไฟและไม่แน่นอนในชีวิต ห่วงกังวลกับชีวิตในวงการบันเทิงเพราะตนเป็นเสาหลักของบ้าน แต่ก็ได้วิธีคิดและการมองโลกของมาตาลดาเอามาปรับใช้กับชีวิตตัวเองทำให้ผ่านพ้นมาได้

10 สิงหาคม ของทุกปี ‘วันกำนันผู้ใหญ่บ้าน’ นักปกครองผู้อยู่ใกล้ชิดชาวบ้าน

วันที่ 10 สิงหาคม ของทุกปี คือ ‘วันกำนันผู้ใหญ่บ้าน’ เป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของในหลวง ร.5 ที่ทรงได้พระราชทานกำเนิดกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2435

ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพ (เสนาบดีกระทรวงมหาดไทยคนแรก) ทดลองจัดระเบียบการปกครองระดับตำบล หมู่บ้าน ขึ้นเป็นครั้งแรกที่บ้านเกาะ ณ อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2435 จึงถือได้ว่า วันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2435 เป็นวันที่มีการจัดตั้งสถาบันกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ขึ้นเป็นครั้งแรก 

ดังนั้นเพื่อเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านและเป็นการเน้นให้เห็น ความสำคัญของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นผู้มีบทบาทสำคัญยิ่งในการปฏิบัติภารกิจ ‘บำบัดทุกข์ บำรุงสุข’ ให้แก่ประชาชน ทางราชการจึงกำหนดให้วันที่ 10 สิงหาคมของทุกปี เป็น ‘วันกำนันผู้ใหญ่บ้าน’

สถาบันกํานัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นสถาบันที่อยู่คู่กับสังคมไทยมายาวนาน อีกทั้งมีความใกล้ชิดกับประชาชน และยังเป็นกลไกที่สําคัญของรัฐ กํานันและผู้ใหญ่บ้าน มีอำนาจตามพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พุทธศักราช 2557 โดยกําหนดให้กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน ทําหน้าที่ช่วยเหลือนายอำเภอในการปฏิบัติหน้าที่ และเป็นหัวหน้าราษฎรในตําบล หมู่บ้าน มีอํานาจหน้าที่อำนวยความเป็นธรรมและดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยให้แก่ราษฎร สร้างความสมานฉันท์และความสามัคคีให้เกิดขึ้นในตําบล หมู่บ้าน และการประสานหรืออํานวยความสะดวกแก่ราษฎรในการติดต่อหรือรับบริการจากหน่วยงานของรัฐ รับฟังปัญหาและนำความเดือดร้อน ทุกข์สุขและความต้องการที่จำเป็นของราษฎรในตำบลหมู่บ้าน แจ้งต่อหน่วยงานของรัฐ รวมทั้ง ให้การสนับสนุน ส่งเสริมการปฏิบัติงานแก่หน่วยงานของทางราชการทุกกระทรวง กรม องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานภาคเอกชน และหน้าที่อื่น ๆ อีกมากมาย 

ด้วยความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับประชาชนในท้องที่ หากเกิดข้อพิพาท กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน สามารถช่วยไกล่เกลี่ยประนีประนอมเพื่อหาข้อยุติให้กับประชาชนในตําบล หมู่บ้าน อีกทั้งในทางกลับกันยังมีหน้าที่เป็นผู้แทนประชาชนในตําบล หมู่บ้านในฐานะกลไกเชื่อมโยงภาครัฐ เอกชน และประชาชน เข้าด้วยกัน เมื่อสภาพสังคมเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยทำให้ภารกิจบทบาทหน้าที่ของกํานันผู้ใหญ่บ้านต้องปรับเปลี่ยนให้ทันการเปลี่ยนแปลงของสังคม จึงมีการประกาศใช้พระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ. 2555 (แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 12) ซึ่งได้มีการให้เหตุผลในการประกาศใช้ คือ โดยที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เป็นบุคคลในพื้นที่ที่มีความใกล้ชิดกับราษฎรในการปฏิบัติงานตามกฎหมาย และแนวนโยบายของรัฐ เป็นผู้ช่วยเหลือนายอำเภอซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของราชการบริหารส่วนภูมิภาคมีบทบาท อำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พระพุทธศักราช 2437 ที่ได้แก้ไขเพิ่มเติมถึงปัจจุบัน

‘ลิซ่า’ ไลฟ์คนเดียวครั้งแรก ฉลองครบรอบ 7 ปี ‘BLACKPINK’ เผย!! ปลื้มบลิ๊งค์ไทย ตามให้กำลังใจคอนเสิร์ตทุกรอบ

(9 ส.ค.66) ความโด่งดังของวง ‘BLACKPINK’ ได้เดินทางมาถึง 7 ปี สำหรับวงเกิร์ลกรุ๊ประดับโลก ของ 4 สาว จีซู, เจนนี่, โรเซ่ และลิซ่า 

ล่าสุด ‘ลิซ่า’ หรือ ‘ลลิษา มโนบาล’ ได้ออกมาไลฟ์สดพูดคุยกับเหล่าบลิ๊งค์ ในช่องทางวีเวิร์ส กับแฟนคลับทั่วโลกถึง 3 ภาษา ทั้งภาษาอังกฤษ ภาษาเกาหลี และภาษาไทย ซึ่งทำเอาบลิ๊งค์ไทยต่างปลื้มสุด ๆ เนื่องจากลิซ่าได้พูดภาษาไทย ขอบคุณคนไทย ที่คอยให้กำลังใจ ไม่ว่าจะไปที่ไหน ก็เห็นป้ายข้อความภาษาไทยอยู่ตลอด

35 Dry Aged Beef สุดยอดร้านสเต๊กสไตล์ Home Cook สูตรพิเศษ บ่มเนื้อนาน 35 วัน 'หอม-นุ่ม' เกินต้าน

35 Dry Aged Beef หนึ่งในร้านใหม่ของไอคอนสยามที่พร้อมแล้วกับการเปิดประตูพาคุณเข้าสู่โลกของจานสเต๊กกับเรื่องราวของเนื้อดรายเอจสูตรพิเศษที่ใช้เวลายาวนานกว่า 35 วันในการบ่มภายใต้เทคนิคเฉพาะตัวของ เชฟแทน ไกรสรกิตติกุล 

สำหรับสายเนื้อและคนชอบสเต๊ก เชื่อเลยว่าจะต้องรู้จัก 35 Dry Aged Beef เพราะนี่คือพิกัดที่ครองใจนักกินมาอย่างต่อเนื่องด้วยความอร่อยและคุณภาพของเนื้อที่อัดแน่นอยู่ในทุกมิติจึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมคิวที่จองเพื่อจะได้ชิมเนื้อดรายเอจสูตรพิเศษของที่นี่จึงยาวเหยียดและทุกคนก็พร้อมรอ เพราะรสสัมผัสของเนื้อดีมาก ต้องลองมาชิมที่นี่ ในคอนเซปต์ Butcher – Beef – Bar

ความพิเศษของ 35 Dry Aged Beef บนชั้น G ในบริเวณของ Dear Tummy Lifestyle Supermarket ห้างไอคอนสยาม ก็คือการยกขบวนความอร่อยมาแบบครบครัน แถมด้วยยังเปิดตู้ขายเนื้อดรายเอจให้สามารถซื้อกลับไปปรุงเองที่บ้านได้

เนื้อดรายเอจของ 35 Dry Aged Beef ผ่านกระบวนการดรายเอจนานกว่า 35 วัน ซึ่งด้วยการเลือกใช้เนื้อเกรดพิเศษบวกกับเทคโนโลยีเฉพาะในการบ่มและเก็บเพื่อควบคุมการไหลเวียนของอากาศจนสามารถดึงเอารสชาติที่เข้มข้นออกมาได้ โดยมีกลิ่นหอมแบบธรรมชาติ และยังทำให้เนื้อนุ่มยิ่งขึ้น ซึ่งจากคุณภาพทั้งหมดนี้เมื่อมาผสมเข้ากับเทคนิคของเชฟแทนจึงเกิดเป็นความอร่อยทั้งในส่วนของเนื้อสัมผัส และรสชาติที่ล้ำลึกยิ่งกว่าเดิม

บรรยากาศภายในร้านพร้อมต้อนรับคุณด้วยพื้นที่แบบ Open Space เปิดโล่งกับ 2 โซนที่แบ่งออกเป็นโต๊ะนั่งสบายๆ กับบริเวณบาร์ให้ได้แฮงค์เอาต์ ส่วนพื้นที่ครัวเป็นแบบเปิดโล่งเพื่อให้คุณสามารถชื่นชมทุกกรรมวิธีที่พิถีพิถันได้อย่างใกล้ชิด และยังมีตู้ดรายเอจวางเรียงรายโชว์ให้เห็นถึงความสวยงามของก้อนเนื้อลายหินอ่อน

อีกหนึ่งในเคล็ดลับความอร่อยของที่นี่คือความใส่ใจตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อที่ใช้ แหล่งที่มาของเนื้อ ซอส หรือเครื่องเคียงที่ยกเสิร์ฟ ก่อนจะมาปรุงรสต่อเองจนกลายเป็นเอกลักษณ์หลักของร้านนั่นคือ Home Cook ทุกอย่าง

สำหรับสเต๊กทุกจานที่ยกเสิร์ฟ เชฟแทนจะเลือกเนื้อในส่วนที่มีคาแรกเตอร์เหมาะกับแต่ละเมนูเพื่อให้ควาอร่อยของขั้นตอนการปรุงดึงรสเนื้อออกมาอย่างกลมกล่อม รวมทั้งยังใส่ใจในความสุกแบบละเอียด

ตับไก่บดที่เสิร์ฟพร้อมขนมปังหอมกรุ่นกับกระเทียมสูตรพิเศษจานนี้ทำเองสไตล์ Home Cook ทั้งหมดทำให้ได้ความกลมกล่อมที่กินเพลิน หรือใครจะชอบซุป อินเลิฟกับพาสต้า หรือเนื้อปรุงรสที่นี่ก็ตอบโจทย์ทั้งหมด

สายเนื้อห้ามพลาดเด็ดขาดกับร้านอร่อย บรรยากาศดีแบบนี้

ข้อมูลเพิ่มเติม
พิกัด : ICONSIAM ชั้น G บริเวณ Dear Tummy Lifestyle Supermarket 
โทร  : 089-922-6671

เรื่อง : กันย์ ฉันทภิญญา Content Manager

‘เอวา’ ดีกรีคุณหนูหมื่นล้าน ลงทุนแปลงโฉม ‘ขายพวงมาลัย’ 1 วัน พีกตอนท้าย!! เจ้าตัวได้มอบเงินหมื่นให้กับคนขายตัวจริงอีกด้วย

(9 ส.ค.66) ถึงจะมีดีกรีเป็นถึงลูกคุณหนูหมื่นล้าน ‘เอวา ปวรวรรณ วีระภุชงค์’ ก็ไม่ยอมอยู่เฉย ล่าสุด สาวเอวา ไม่ยอมอยู่เฉย สร้างภารกิจท้าทายตัวเองในรายการ คุณหนู CAN Do รายการในช่องยูทูบ Sunflowava ของเธอ ซึ่งเลิกทำไปนานร่วม 2 ปี เปิดมาเทปแรกก็สร้างตำนานลุยขายพวงมาลัยเลยทีเดียว

สาวเอวาลงทุนฝ่าแดดฝ่าควัน แบกพวงมาลัยออกไปขายเองกลางสี่แยก แม้จะไม่คุ้นชินกับการต้องมาเดินขายของกลางท้องถนน มีลังเลเล็กน้อย แต่เธอก็ลุยเต็มที่

โดยภารกิจที่สาวเอวาต้องทำให้สำเร็จคือ ขายพวงมาลัยให้ได้ 1,500 บาทใน 1 ชั่วโมงนั่นเอง

ด้วยความตั้งใจและทุ่มเทเต็มที่ ชนิดว่าไม่กลัวเสียงแหก ตะโกนหาลูกค้าซื้อพวงมาลัยแบบใส่เต็ม สาวเอวาจึงเรียกความประทับใจจากคุณลุงขายพวงมาลัยได้ไปสุดขีดเลย

ก่อนที่ช่วงท้ายคลิปจะสรุปภารกิจว่า เอวาสามารถขายพวงมาลัยไปได้ถึง 1,600 บาท ซึ่งถือว่าเธอทำภารกิจสำเร็จ โดยเธอต้องการให้รายการเธอช่วยต่อยอด เธอจึงตัดสินใจมอบเงินที่ได้จากการขายพวงมาลัยให้คุณลุง พร้อมเพิ่มให้ถึง 5 เท่า เป็นเงินจำนวน 8,000 บาท

บวกกับหนุ่มเนท แฟนหนุ่มของสาวเอวา ช่วยสนับสนุนเพิ่มอีกถึง 2,000 บาท ทำให้ครั้งนี้คุณลุงขายพวงมาลัยได้รับทุนไปต่อยอดชีวิตและอาชีพขายพวงมาลัยตามสี่แยกถึง 10,000 บาทเลยทีเดียว

ทั้งน่ารัก ใจดี และมีใจเผื่อแผ่ไปถึงคนอื่นแบบนี้ อย่าลืมติดตามรายการดี ๆ ของสาวเอาวาเต็มคลิปเพื่อให้กำลังใจเธอกันได้เลย

‘น็อต-เพชร’ เพื่อนรักต่างขั้ว ยืนยัน 'ไม่ได้เกลียดกัน' ลั่น!! มิตรภาพความเป็นเพื่อน 20 ปี ยังเหมือนเดิม

(9 ส.ค.66) เป็นเพื่อนรักเพื่อนซี้กันมานานมากๆ สำหรับนักแสดงและพิธีกรดัง ‘น็อต วรฤทธิ์’ และ ‘เพชร กรุณพล’ สส. และเป็นรองโฆษกพรรคก้าวไกล แน่นอนว่าทั้งคู่มีความคิดเห็นที่เห็นต่างกันสุดขั้ว จนบ่อยครั้งมีข่าวดราม่า ฉะกันเดือดสะเทือนโซเชียล

ล่าสุด ‘น็อต’ และ ‘เพชร’ ได้มานั่งเปิดใจถึงมิตรภาพ 20 ปี และความคิดเห็นต่างทางการเมืองผ่านรายการแฉ ว่า ทั้งคู่ยืนยันชัดเจนว่า 'ไม่ได้เกลียดกัน'

น็อต : ความเป็นเพื่อนเหมือนเดิม 20 ปี แต่บางทีความเป็นเพื่อนพักบ้าง ถ้าความคิดเห็นไม่ตรงกันแล้วพยายามจะเปลี่ยนแปลงกัน แต่ถ้าสามารถแลกเปลี่ยนกันได้คุยกัน

เพชร : เมื่อก่อนต้องยอมรับช่วงการเมืองแรงๆ เราก็พยายามจะเปลี่ยนเขา เขาก็พยายามนำเสนอแนวทางเขา แต่เขาไม่ได้จะเปลี่ยนเรา เราพยายามจะเปลี่ยนเขา ด้วยความเป็นเพื่อนสนิทเราก็คุยด้วยภาษามึงกู มันก็มีคนเอาเรื่องราวออกไปข้างนอก เลยกลายเป็นเรื่องใหญ่

เพชร : ในกลุ่มมี 7 คน เรา 2 คนด่ากันอยู่ในกลุ่มตลอด จนพี่กิ๊ฟ วรรธนะ ถามว่าถ้าพวกมึงชนะเขาจะให้มึงเป็นรัฐมนตรีเหรอ เขาจะให้ถ้วยมึงเหรอ ก็ไม่ได้อะไร จนมานั่งตกตะกอนว่ายังมีอีกหลายล้านคนมีความคิดที่เห็นต่างกับเรา

เดี๋ยวนี้เราไม่ไปเปลี่ยนแปลงความเชื่อเขา เราแค่รับฟัง อันไหนรู้สึกได้รับข้อมูลข่าวสารไม่ครบ ก็แค่บอก เหมือนเราเอาข้าวไปให้เขากินแล้วเขาไม่ถูกปากเขาไม่กิน แล้วเราจะไปบอก มึงต้องกินให้หมด ไม่งั้นมึงเลิกคบกับกู มันก็ไม่ใช่ 

น็อต : เมื่อก่อนมันเป็นอย่างนั้น เลยบอกงั้นไม่ต้องคุยกัน ถึงเป็นประเด็นตอนนั้น ผมถึงบอกนั่นก็เรื่องของมึง ไม่ใช่เรื่องของกู อย่ามาเปลี่ยนแปลงกัน เพราะเราให้ข้อมูลอะไรไป เขาก็เชื่อของเขา เราก็เชื่อของเรา มีช่วงที่ต่างคนไม่รับฟังกัน ก็ตัดปัญหาไม่ต้องคุยกัน

เพชร : ตั้งแต่วันที่มดดำเชิญมามีปัญหาทัวร์ลง เลยคุยกันว่าต่อไปนี้ ถ้าอะไรที่เราเห็นต่าง เราไม่ต้องมาคอมเมนต์ไม่ต้องมาสอนกัน (ยอมรับว่าดรามาตอนนั้นตีกันจริง)

น็อต : เราไม้แก่กันหมดแล้ว ดัดยากแล้ว

บ้านลันได ความลงตัวของวัตถุดิบท้องถิ่น บรรยากาศเรียบหรู แต่ดูอบอุ่น มีความละมุนในทุกเมนู

วันนี้ THE STATES TIMES จะขอพาทุกท่านไปทานอาหารไทยที่เชียงใหม่ ที่นี่คือ บ้านลันได BAAN Landai Fine Thai Cuisine ร้านนี้เสิร์ฟอาหารไทยที่ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมพื้นบ้านและรสชาติของวัตถุดิบท้องถิ่น ตามแบบฉบับของครอบครัวนันทิแสง ที่เชฟใหญ่ประจำร้านอย่าง ต้อม–นพดล นันทิแสง ที่พยายามถ่ายทอดออกมาให้ทุกคนได้ลิ้มรส

ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ถนนพระปกเกล้า ใกล้ประตูช้างเผือก หน้าร้านเป็นตึกแถวสีขาวที่ถูกแต่งแต้มด้วยสีเขียวของต้นไม้ ภายในร้านออกแบบตกแต่งสไตล์โคโลเนียล มีมวลความคลาสสิคผสานกลิ่นอายล้านนาแบบพื้นถิ่น ดูเรียบหรูแต่อบอุ่น สมคอนเซปต์ของร้านที่ต้องการให้เรารู้สึกอบอุ่นเป็นกันเองเหมือนทานอาหารอยู่ที่บ้าน ตกแต่งออกมาได้อย่างมีเสน่ห์ ผสมผสานของประดับต่างๆ อย่างลงตัว ด้วยดอกไม้นานาชนิด ทั้งกล้วยไม้ ดอกบัว พวงมาลัยดอกพุด รวมทั้งไม้ใบสีเขียว ขนนกยูง และตะเกียง ท่ามกลางบรรยากาศโทนสีขาว

อาหารจานเด็ดของร้านนี้ขอแนะนำ ผัดปลาแห้งแตงอุลิด หรือ แตงโมปลาแห้ง ผัดหมี่โบราณกุ้งทอดคลุกซอสมะขาม ซึ่งอาหารจานนี้ได้ถูกดัดแปลงมาจากอาหารถิ่นเหนือ รสชาติอร่อยถึงเครื่องมาก อีกเมนูที่มาร้านนี้แล้งต้องลองก็คือ เมี่ยงกลีบบัว สีสันน่าทานมากขอบอกเลย

นอกจากนี้ บนโต๊ะอาหารทุกโต๊ะ ก็จะมีผงโรยข้าว ซึ่งทางร้านผัดเอง วางไว้ให้เรานำมาโรยข้าว หรือเนื้อสัตว์ เพื่อเพิ่มรสชาติของอาหาร มีหลายแบบให้เลือก ทั้งรสลาบเหนือ รสลาบอีสาน รวมถึงปลาแห้งสำหรับโรยแตงโม ถ้าใครติดใจในรสชาติก็สามารถซื้อกลับบ้านได้อีกด้วย

ข้อมูลเพิ่มเติม
บ้านลันได (BAAN Landai Fine Thai Cuisine)
ถนนพระปกเกล้า ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
เปิดทุกวันอังคาร– อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์)
เวลา 11.00 - 22.00 น.
โทร. 065-848-4464 

เรื่อง : กันย์ ฉันทภิญญา Content Manager

‘ชาวเน็ต’ ขี้สังเกต!! หุ่น ‘แพทตี้’ ดูอวบขึ้นเหมือนคนจะมีน้อง หลังเจ้าตัวลงรูปคู่ให้กำลังใจ ‘แดน วรเวช’ เล่นคอนเสิร์ต

(9 ส.ค.66) ก่อนหน้านี้ ‘แดน วรเวช’ และ ‘แพทตี้ อังศุมาลิน’ ถือฤกษ์ดีในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2565 เข้าพิธีวิวาห์อย่างเรียบง่าย โดยพิธีจัดขึ้นที่วัด ตามที่วางแพลนไว้ตั้งแต่แรก โดยทั้งคู่ได้เข้าพิธีรับน้ำพระพุทธมนต์ ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม

และเพิ่งผ่านพ้นไปสำหรับงานคอนเสิร์ต แดน-บีม ครบรอบ 22 ปี D2B ETERNITY CONCERT : 22 ปีนับตั้งแต่วันที่ฉันรักเธอ โดยทางด้าน ‘บีม กวี’ ก็มีภรรยาและลูกๆ ไปให้กำลังใจถึงที่ 

ส่วนทางด้าน ‘แดน วรเวช’ ก็ไม่น้อยหน้า ‘แพทตี้’ ถือดอกไม้ไปร่วมแสดงความยินดีในงานคอนเสิร์ต D2B โดยทางด้าน ‘แพทตี้’ ได้ออกมาโพสต์รูปภาพพร้อมกับได้ระบุข้อความเอาไว้ด้วยว่า “คนเก่งของอัง เต็มที่นะที่รัก”

แต่งานนี้ต้องบอกเลยว่าทำชาวเน็ตสังเกตเห็นภาพล่าสุด แพทตี้ อังศุมาลิน อวบขึ้นจนคล้ายคนมีน้อง ซึ่งทางด้านแฟนๆ เข้ามาคอมเมนต์กันเพียบว่า หุ่นแบบนี้มีข่าวดีแน่ๆ, หุ่นน้องแพท เหมือนมีน้องแล้วววว, หุ่นนี้เหมือนมีเบบี๋ 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top