Saturday, 10 May 2025
Lite

น้ำตาลเรียกพี่!!  ‘แดน’ กลั่นความรู้สึกจากใจอวยพรวันเกิด ‘แพทตี้’ แฟนๆ ร่วมอวยพร - ชื่นชมความหวานโรแมนติ

หวานปานน้ำเชื่อมไปเลยสิคะ สำหรับภาพและข้อความอวยพรวันเกิดสุดสวีตที่คุณสามี ‘แดน วรเวช’ มอบให้คุณภรรยา ‘แพทตี้ อังศุมาลิน’ ที่มีวันคล้ายวันเกิดตรงกับวันที่ 13 ก.ค.2566 ที่ผ่านมา

โดย ‘แดน’ ได้โพสต์ภาพสุดสวีตผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว @danworrawech พร้อมข้อความอวยพรที่หวานไม่แพ้กันว่า “จะกลางคืนกลางวันเราก็จะอยู่ข้างกันตลอดไป สุขสันต์วันเกิดนะคะที่รัก @pattieung 💞🌕” 

16 กรกฎาคม พ.ศ. 2488  ทดลองระเบิดนิวเคลียร์ครั้งแรกของโลก  ภายใต้รหัส ‘Trinity’ ของกองทัพสหรัฐฯ

Trinity เป็นชื่อรหัสของการทดสอบการระเบิดของอุปกรณ์นิวเคลียร์ครั้งแรกของโลก โดยฝ่ายกองทัพสหรัฐฯ เมื่อเวลา 5.29 น. ของวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2488 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการแมนฮัตตัน ซึ่งเป็นการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ

การทดสอบมีขึ้นที่ทะเลทราย Jornada del Muerto ห่างจากเมือง  Socorro รัฐนิวเม็กซิโกราว 56 กิโลเมตร ซึ่งในสมัยนั้นถูกใช้เป็นสนามสำหรับการซ้อมการทิ้งระเบิดและซ้อมยิงของกองทัพอากาศสหรัฐ แต่ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของสนามทดสอบขีปนาวุธ White Sands Missile Range 

สิ่งปลูกสร้างเดียวในพื้นที่ เป็นบ้านหลังเล็ก ๆ ชื่อ  McDonald Ranch House ที่นักวิทยาศาสตร์เป็นห้องปฏิบัติการสำหรับทดสอบอุปกรณ์ของระเบิด จึงมีการตั้งเบสแคมป์ขึ้นที่นั่น โดยขณะที่มีการทดลองระเบิด มีผู้คนมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ 425 คน

17 กรกฎาคม พ.ศ. 2498 สวนสนุก ‘ดิสนีย์แลนด์’ แห่งแรก เปิดให้บริการในแคลิฟอร์เนีย

วันนี้ เมื่อ 68 ปี ก่อน ‘ดิสนีย์แลนด์’ เปิดให้บริการครั้งแรก ที่เมืองแอนาเฮม รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา

ดิสนีย์แลนด์พาร์กหรือดิสนีย์แลนด์ สวนสนุกแห่งความฝัน ที่สร้างความสุขให้กับคนทั่วโลก โดยเมื่อ 68 ปีก่อน ดิสนีย์แลนด์แห่งแรกของโลก ได้เปิดให้บริการเป็นครั้งแรกเมื่อ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2498 หรือปี ค.ศ. 1955 ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองแอนาเฮม รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา

โดยสวนสนุกแห่งนี้เป็นสวนสนุกดิสนีย์แลนด์เพียงแห่งเดียวที่ถูกออกแบบและสร้างขึ้นภายใต้การกำกับดูแลโดยตรงของวอลต์ ดิสนีย์ นักสร้างการ์ตูนผู้ยิ่งใหญ่ของโลก

หมี่อากง สูตรก๋วยเตี๋ยวโบราณ 3 ชั่วอายุคนแห่งพิจิตร เหนียว นุ่ม แบบไม่ต้องปรุงเพิ่ม

‘ร้านหมี่อากง’ เปิดขายอยู่ที่ ‘หลังศาลเจ้าแม่ทับทิม’ ในตำบลท่าฬ่อ (ท่า-ล่อ) อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร ความพิเศษของร้านนี้ ก็คือ เส้นของบะหมี่ และเส้นเกี้ยว ทางร้านจะทำเอง โดยได้สูตร จากอากง ที่สมัยก่อน กว่า 80 ปี ที่ใช้แบบหาบขาย ในตลาดเก่าแก่ ของตลาดท่าฬ่อ (ท่า-ล่อ) จากรุ่นแรก จนมาถึงรุ่นที่ 3 นำสูตรมาเปิดขายให้กับชาวบ้านได้เลือกรับประทานกัน

นางอุดมพร ชูประสิทธิ์ หรือ เจ้ปอย ลูกหลานรุ่นที่ 3 เล่ามให้ฟังว่า สมัยก่อน อากง กับ อาม่า จะนำก๋วยเตี๋ยว ใส่ภาชนะ ทั้งหม้อก๋วยเตี๋ยว และ เตา หาบขาย ในบริเวณศาลเจ้า และตลาด ราคาชามละ 50 สตางค์ จากนั้นจึงได้นำสูตรการทำเส้นบะหมี่ และสูตรก๋วยเตี๋ยวแบบโบราณมาเปิดร้านเอง ซึ่งการทำเส้นบะหมี่ สมัยก่อนจะใช้การตีด้วยมือ และปัจจุบันมีเครื่องทำเส้น จึงประหยัดเวลา แต่ก็ยังคงรักษาสูตรแบบโบราณ ทำวันต่อวัน และไม่มีการใส่สารกันบูด

ใช้วัยเด็กให้คุ้ม!! ‘ลิเดีย-แมทธิว’ เล่าวิถีชีวิต ‘บ้านดีน’ และการรับงานให้ลูก ยัน!! จะไม่ยัดเยียดอะไรให้ลูก เพื่อให้เด็กยังเป็นเด็ก

(14 ก.ค. 66) เผลอแป๊บๆ ตอนนี้ลูกๆ ของ ‘แมทธิว ดีน’ และ ‘ลิเดีย ศรัณรัชต์’ ก็โตพอจะออกงานอีเวนต์ได้แล้ว โดยลิเดียบอกว่า ตอนนี้เริ่มพาดีแลนกับเดมี่มาทำงานด้วยได้ ทั้งยังบอกหัวเราะๆ ว่า “นี่ยังนึกไม่ออกว่าถ้ากระเตง 3 คน จะเป็นยังไง”

เมื่อถามถึงเรื่องงาน แมทธิวตอบว่า ได้รับการติดต่อมาพอสมควร ซึ่งถ้าเป็นในส่วนงานโฆษณาก็จะเลือกโปรดักต์ที่เหมาะสมและสมาชิกในครอบครัวใช้จริง

“ก็ให้เด็กไปเจอประสบการณ์กับสิ่งที่เราเคยทำมาเป็น 10 ปีแล้ว” แมทธิว กล่าว

อร่อยถึงเครื่อง(บิน) ‘Na-Oh Bangkok’ ร้านอาหารสไตล์ Fine Dining มื้อพิเศษ บรรยากาศแสนโรแมนติก กับดนตรีแจ๊ส แสนละมุน

‘นาโอแบงคอก’ ร้านอาหารสไตล์ Fine Dining บนเครื่องบิน ในโครงการช่างชุ่ย ที่เปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์ และจินตนาการให้เป็นดินเนอร์มื้อพิเศษ

ร้านนี้ใส่ใจในรายละเอียด ตั้งแต่ก้าวแรกที่ขึ้นเครื่องบิน ทั้งเฟอร์นิเจอร์ โต๊ะอาหาร เสียงดนตรี รวมถึงแสงไฟ ที่ทำให้สาวๆ ถ่ายรูปออกมาได้แบบเพอร์เฟกต์ ได้รูปสวยๆ อย่างแน่นอน

ในซีซันนี้ ร้านนาโอแบงคอก ก็ได้นำเสนออาหารในธีม Mother Tongue ด้วยวัตถุดิบท้องถิ่น ที่จะถูกเปลี่ยนให้เป็นจานพิเศษ จากแรงบันดาลใจ รสชาติในวัยเด็กของเชฟ ถูกปรุง และพรีเซนต์ออกมาได้อย่างสวยงาม แสดงออกถึงความใส่ใจ และความคิดสร้างสรรค์ ที่เปรียบเสมือนการสร้างงานศิลปะลงไปในจาน

สักการะ 'พระพิฆเนศ' องค์ใหญ่ที่สุดในไทย นำพาสุข สบายใจ เติมเฮง ร่ำรวย สู่ผู้บูชา

ผู้คนที่ศรัทธา ‘พระพิฆเนศปางนอนเสวยสุข’ นิยมมากราบไหว้บูชากันที่วัดสมานรัตนาราม จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมีความเชื่อกันว่า จะนำพาความสุขสบาย ความมั่งคั่งมาสู่ผู้ที่มาสักการะ โดยพระพิฆเนศองค์สีชมพูนี้ นับว่าเป็นองค์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย เป็นไฮไลท์ของวัด ที่นอกจากจะมากราบไหว้แล้ว ก็ยังต้องถ่ายรูปความงามนี้ เช็คอินเก็บไว้เป็นที่ระลึกอีกด้วย 

วัดสมานรัตนาราม ตั้งอยู่ระหว่างอำเภอบางคล้า และอำเภอคลองเขื่อน ริมแม่น้ำบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา เล่าสืบกันต่อกันมาว่า ขุนสมานจีนประชา (เดิมชื่อ จ๋าย สืบสมาน) เป็นคหบดี ผู้มีฐานะฐานะมั่นคงและเป็นที่เคารพนับถือของคนทั่วไป ท่านขุนมีน้องสาว 1 คน คือนางยี่สุ่น วิริยะพาณิชย และมีภรรยา 2 คนด้วยกันคือ นางทิม สืบสมาน และนางผ่อง สืบสมาน ต่อมาเมื่อท่านขุนสมานจีนประชาถึงแก่อนิจกรรมลง นางยี่สุ่นผู้เป็นน้องสาวพร้อมกับภรรยาทั้ง 2 มีความประสงค์จะสร้างวัดเพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่ขุนสมานจีนประชาผู้ล่วงลับจึงได้ดำเนินการสร้างวัดนี้ขึ้น และจึงตั้งชื่อวัดว่า วัดใหม่ขุนสมานเพิ่มนคร ชาวบ้านโดยทั่วไปมักเรียกวัดนี้ว่า วัดใหม่ขุนสมาน

พระพิฆเนศ นั้นถือได้ว่า เป็นเทพเจ้าแห่งความรู้ และความสำเร็จ ทางด้านการศึกษาเล่าเรียน ตำแหน่งหน้าที่การงาน การเงิน ความรัก ปัดเป่าอุปสรรคทุกข์ภัย หรือแก้ไขปัญหาต่างๆ ภายในวัดสมานรัตนาราม นั้นเป็นที่ประดิษฐานของ พระพิฆเนศปางนอนเสวยสุข องค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีเนื้อองค์เป็นสีชมพู มีขนาดความสูงถึง 16 เมตร และความกว้าง 14 เมตร  มีความวิจิตรงดงาม เป็นที่สักการะบูชาของประชาชนทั่วไป 

พระพิฆเนศ ปางนอนเสวยสุขนั้น มีความหมายถึง พระพิฆเนศ ปางที่ประทานความมีกินมีใช้ อยู่อย่างสุขสบาย อิ่มหนำสำราญ เงินทองไม่ขาดมือ ไม่มีเรื่องให้วุ่นวายใจ รื่นรมย์ ไร้ความทุกข์ ไร้ความเศร้าหมอง 

หลังจากที่ได้ไปไหว้สักการะบูชา องค์พระพิฆเนศวรปางนอนเสวยสุขแล้ว อย่าลืมไปกระซิบหู ‘หนูมุสิกะ’ ผู้เป็นต้นห้องขององค์พระพิฆเนศ เพื่อฝากคำขอพรต่าง ๆ ไปยังพระพิฆเนศด้วย มีวิธีการก็คือ ไปยืนที่ด้านหลังแล้วเอาปากพูดตรงหูหนู และเอามือปิดหูของหนูอีกข้างไว้ โดยเชื่อกันว่า หนูมุสิกะ จะนำข้อความทั้งหมดไปบอกให้องค์พระพิฆเนศทราบ และคำขอพรจะสัมฤทธิ์ผล ในที่สุด

‘ต่าย ชุติมา’ เล่าถึงความรักครั้งเก่าสุดโรแมนติก อดีตคนรัก ‘จูบเท้า’ ด้วยความรักทะนุถนอม

ไม่ว่าจะขยับตัวไปทางไหนหรือทำอะไร ก็ถูกจับตามองอย่างหนัก สำหรับนักแสดงลูกหนึ่ง ‘ต่าย ชุติมา’ ที่ถูกโฟกัสความสัมพันธ์กับอดีตสามี ‘ทิม พิธา’ ก่อนหน้านี้ทั้งคู่ได้มีโมเมนต์ครอบครัวสุดน่ารักร่วมกัน พร้อมหน้าลูกสาวสุดที่รัก ‘น้องพิพิม’ ทำให้แฟนๆ หลายคนต่างส่งเสียงเชียร์คู่ ‘ทิม-ต่าย’ กลับมาเป็นครอบครัวเดียวกันอีกครั้ง แม้ว่าทั้งคู่จะออกมายืนยันสถานะในตอนนี้ว่า เป็นเพียงพ่อแม่ที่ดีของลูกสาวเท่านั้น

ล่าสุดสาว ต่าย ชุติมา ได้ไปเป็นแขกรับเชิญในรายการ ‘ซานิเบาได้เบา’ ของ ‘ซานิ นิภาภรณ์’ งานนี้เปิดเรื่องราวรักครั้งเก่า แม้จะจบลงไม่สวย แต่ตอนนี้ทั้งคู่ก็สามารถเจอหน้า ทักทายกันได้ตามปกติ 

>>ช่วงที่ต้องทำหน้าที่แม่และภรรยาที่ดี จนหายหน้าไปจากวงการ เป็นอย่างไรบ้าง 

ต่าย : “10 ปีที่ผ่านมา กิจวัตรประจำวันคือ ทำอาหารเช้า ดูแลลูก ดูแลบ้าน เราต้องอยู่ในระบบระเบียบ เพราะเขาอยากให้เป็นอย่างนั้น กลับบ้านต้อง 6 โมงเย็น เราเคยคิดว่าน่าจะเกิดจากความหึงหวง เรื่องรับงาน พวกบทมองตากันก็ไม่ได้ ทำให้เรารับเล่นไม่ได้อีก คือเราเป็นคนตามใจแฟนไง เลยตัดสินใจไม่รับงานเลย”

>>เรียกว่ากับอดีตสามี ไม่มีทางรีเทิร์นเลย

ต่าย : “ไม่มี มั้ง (หัวเราะ) ถามว่ามีขอคืนดีไหม มีแนวแบบชวนไปเที่ยว ครอบครัวพร้อมหน้า แต่ไม่น่ามีอะไร”

>> ข่าวที่ผ่านมา อาจมองว่าเราไม่น่าคุยกันได้แล้ว แต่วันนี้กลับมาคุยกันได้
ต่าย :  “เราเป็นคนโกรธง่ายหายเร็วมาก เพราะฉะนั้นสิ่งที่เล่าหรือวันนี้มานั่งเล่าอะไร คือเล่าด้วยความไม่รู้สึกอะไรแล้ว ถามว่าเขาเคยเห็นที่เราพูดออกไปแล้วโกรธ น้อยใจ แล้วเคยพูดบ้างไหม เขาไม่เคยพูด แต่ลึก ๆ เรารู้ เพราะรู้นิสัย”

>>โมเมนต์สุดโรแมนติก อดีตสามีคลั่งรักไม่แพ้กัน 

ต่าย : “เห็นเราคลั่งรักแบบนี้ แต่ตอนที่อยู่คนละประเทศ เราก็คุยกันวันละชั่วโมงเองนะ แต่ตื่นมาถ้ามีข้อความทิ้งไว้ว่าไปไหน ทำอะไร เราก็โอเค สิ่งที่เขาทำแล้วรู้สึกว่าโรแมนติก เป็นการ ‘จูบเท้า’ จูบด้วยความทะนุถนอมนะ ไม่ใช่แนว 18+ เราก็ลูบหัวกลับ เราชอบดูการ์ด แต่ก็ไม่รู้อีกว่าเขียนจากใจหรือเปล่า ประมาณเขียนเป็นภาษาอังกฤษว่า เวลาที่ฉันคิดถึงเธอ จะมีดอกไม้ขึ้นมาดอกหนึ่ง ตอนนี้ดอกไม้มันคงเป็นสวนแล้ว เหมือนมีครั้งหนึ่ง ให้การ์ดปกเดียวกัน คนหนึ่งซื้ออังกฤษ อีกคนซื้อไทย แล้วมาแลกในวันเดียวกัน แบบใจตรงกัน อันนี้น่ารัก

ส่วนเรื่องแย่ ๆ เราลืมเก่งมาก แต่ก็มีคนบอกว่าแบบนี้มันคือควาย แบบกินหญ้าอะ ในตอนนั้นเขาก็พยายามทำให้ครอบครัวกลับมาเหมือนเดิม ส่วนเราคือไม่ เพราะรู้สึกว่าสุดแล้ว ทุกวันนี้เราแบ่งกันเลี้ยงลูกชัดเจน ซึ่ง ต่าย เป็นคนเสนอเรื่องโมเมนต์พ่อแม่ลูก เพราะอยากทำให้ลูกตั้งนานแล้ว ซึ่งตอนแรกเขาอาจจะยังไม่พร้อม ถามว่าจะมีให้เห็นอีกไหม น่าจะเป็นวันสำคัญ ๆ เช่นวันเกิดลูก คนเชียร์ให้กลับมาเยอะมาก เยอะจนคนไม่กล้าเข้ามาอะ

แต่กว่าเราจะมูฟออนได้ก็ 3 ปีนะ คนที่เรียกว่าแฟนเลย มีคนเดียว คนคุยที่ผ่านมาก็ประมาณ 5 คน คนที่เป็นแฟน เพราะเขาทำให้เราลืมอดีตได้เลย อันนี้คือรู้สึกว่าใช่ หน้าตาก็สเปกอยู่นะ ขาวๆ ตี๋ๆ อ้วนผอมได้หมด”

‘ญาญ่า’ พูดได้เต็มปาก “ณเดชน์ ของหนู” ฟุ้ง!! รักขึ้นเป็นล้านเท่า เผย แพลนงานแต่ง 2 ที่

เมื่อวันที่ 14 ก.ค. 66 ว่าที่เจ้าสาวคนสวย ‘ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์’ ในฐานะพรีเซ็นเตอร์ มาร่วมกิจกรรมเปิดตัว มิเนเร่ ขวดรักษ์โลก ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล rPET เป็นรายแรกของตลาดน้ำดื่มในประเทศไทย ในแคมเปญ ‘Bottle Made From Bottles คืนชีวิตให้ขวดพลาสติกกับน้ำแร่มิเนเร่’ พร้อมกันนี้เธอยังให้สัมภาษณ์ถึงแพลนงานแต่ง

วันนี้แหวนก็แสบตาเหมือนเดิมใส่ตลอดเลยใช่ไหม?
“จริงๆ ไม่ได้ใส่มานานมากๆ แล้ว วันนี้เป็นวันแรกที่หยิบมาใส่ เพราะเห็นว่ามันไม่ได้มีเครื่องประดับอะไร แล้วรู้สึกว่ามันสวย ก็จะพยายามใส่ พี่แบร์ไม่ได้ขอร้องเลยค่ะ แต่ใส่เพื่อเขาด้วย”

แล้วเราระวังยังไงเพราะมันก็ใหญ่ด้วย?
“คือจริงๆ เวลาเดินก็แอบหมุนเพชรเข้า คือเราก็ไม่ได้ใส่บ่อยขนาดนั้น”

จริงๆ พี่แบร์บอกว่าไม่อยากให้เราใส่บ่อยกว่าคน focus เยอะ?
“อ้าว เหรอ บ้า รู้ เป็นคนที่ไหวพริบดี คือจริงๆ หนูเป็นคนที่ระวังตัว หนูก็เป็นคนชอบเดิน เดินไปนู่นไปนี่ แต่ว่าหนูก็จะไม่ค่อยใส่ เพราะว่ายังไม่ชินก็เลยยังไม่ได้ใส่ติดตัวตลอด แต่ว่าจริงๆ เป็นคนที่ระมัดระวังอยู่แล้ว”

กลัวไหมว่ามันจะหาย?
“ไม่ค่ะมีแล้วต้องใช้ให้คุ้มค่ะ”

ตอนนอนใส่ไหม?
“ตอนนอนไม่ได้ใส่ค่ะ วางไว้ข้างเตียงตื่นมาจะได้เห็น (หัวเราะ) คนจะได้รู้ว่าเรามีเจ้าของแล้วแล้ว จริงๆ เราก็รู้สึกดีใจที่มีแล้วมันใหญ่ดีด้วย”

ดูเหมือนเป็นคนที่ใส่ใจในเรื่องความรักมากขึ้น?
“จริงๆ ก็ระดับนึง แต่จริงๆ อ่ะก็เป็นคนที่ใส่ใจเรื่องความรักอยู่แล้ว หลังจากหมั้นก็พยายาม คือเอาจริงๆ แทบจะไม่ได้เจอพี่แบร์เลย นานๆ ทีจะได้เจอกันแต่คุยกันทุกวัน”

ดูเป็นของกันและกันมากขึ้นไหมหลังจากมีการขอแต่งงานกันแล้ว?
“ก็แน่นอนค่ะ แน่นอนค่ะ ใช่ ของหนู”

หึงห่วงเขาเพิ่มขึ้นไหม?
“เท่าเดิมนะคะ”

พูดถึงเรื่องหวงเห็นไว้ที่ภาพเขาไปออกกำลังกาย?
“ที่รัดเป้าหรอคะ จริงๆ ก็ไม่หรอกค่ะ คือมันเป็นภาพพี่ไปออกกำลังกาย เอาจริงๆ นะคะ รู้สึกหวงน้อยลงเพราะว่าเขาดูแลตัวเองได้อยู่แล้ว และหวงน้อยลงค่ะเพราะว่าชัดเจนแล้วว่าเขามีเจ้าของ”

ที่เขาทำงานๆ เร่งเคลียร์คิวเพื่องานแต่งของเราหรือเปล่า?
“เราก็พยายามพุดให้ไปถึงจุดนั้น ยังไม่ได้แพลนอะไรเลย เนื่องจากงานเยอะมาก ก็คงแบบนี้ไปเรื่อยๆ ก่อน ก็มีการคุยกันในระดับนึงแล้วก็ค่อนข้างมั่นใจว่ามันน่าจะอีกสักพักนึงค่ะ”

เริ่มมีความคิดเห็นไม่ตรงกันหรือยังเพราะว่าหลายๆ คู่ที่จะแต่งงานจะมีความคิดที่ขัดแย้ง?
“นิดหน่อยค่ะ”

ที่บอกว่าคุยกันคือคุยกันเรื่องฤกษ์?
“ที่คุยกันจริงๆ ยังไม่ถึงฤกษ์ด้วยซ้ำ แค่คุยว่าจะกี่งาน ที่ญ่าอยากจัดคือที่นอร์เวย์ พี่แบร์ก็น่าจะที่ขอนแก่น ก็ต้อง 2 ที่แน่นอน ยังถกเถียงกันนิดหน่อยว่าสุดท้ายแล้วจะกี่งาน”

ต้องเคลียร์คิวยาวแบบว่างไปเลยครึ่งปี?
“เอาจริงๆ ตอนนี้ยังไม่ได้เคลียร์คิวอะไรเลยด้วยซ้ำ ทำงานไปก่อน ให้พร้อมกว่านี้ก่อน ยังไม่ได้คิดไว้เลยว่าจะช่วงไหน เพราะทุกงานที่เรารับผิดชอบมันยังไม่มีวันจบที่แน่นอน ยังต้องทำงานต่อไปก่อน เราไม่ได้รีบขนาดนั้น เพราะปีนี้และปีหน้างานแต่งคนอื่นเยอะมากเลย (ยิ้ม) ก็ไม่ได้อยากรอนานขนาดนั้น ยังไม่รู้เลยค่ะ รอจังหวะ”

กับทริปที่ณเดชน์ไปกับพ่อตา?
“จริงๆ รู้สึกประทับใจมากๆ ในผู้ชายคนนี้ เพราะว่าพ่อญ่าสำเนียงเขาแรงมากๆ รวมถึงเพื่อนของพ่อด้วย ขนาดญ่ายังฟังไม่ออก เพราะฉะนั้นพี่ณเดชน์ไปคนเดียว อยู่คนเดียว แล้วอยู่นานมาก เขาเก่งมาก ทำให้รักมากขึ้นเป็นล้านเท่า เขากล้าหาญมากที่จะไป เพราะพ่อญ่าเป็นคนดุด้วย”

ได้ถามพ่อไหมว่าคุยอะไรกับลูกเขยบ้าง?
“พ่อบอกว่าพ่อรู้สึกรักณเดชน์มากขึ้น พร้อมที่จะรับเป็นลูกชายอีกหนึ่งคน ที่มีทริปเกิดขึ้นคิดว่าเขาน่าจะอยากใช้เวลาด้วยกันเพิ่มขึ้น เพราะว่าคุณพ่อไม่ได้มาเมืองไทยบ่อย ฉะนั้นเขาจะไม่ค่อยได้เจอกัน พี่แบร์ก็บอกว่าเขาตื่นเต้นทุกวัน เขาไม่ได้หลับเลยทั้งอาทิตย์”

อะไรที่ทำให้ณเดชน์พิชิตใจพ่อเราได้?
“ญ่ารู้เกือบเป็นคนสุดท้ายเลยว่าเขาจะไปทริปนี้ คือพ่อชวน เขาก็โอเคไป ญ่าว่าแค่การที่เขากล้าที่จะไป พ่อก็รักเขาแล้ว พี่แบร์เป็นคนน่ารักอยู่แล้ว ใครเจอก็รักเขา”

ณเดชน์ได้มาบอกวิธีเอาตัวรอดของเขา?
“ยิ้มไว้ก่อน หัวเราะ แล้วก็เยส เขาไม่มีมาถามอะไรญ่าเลย เขาเก่งมา เขาเอาตัวรอดได้”

เรารู้สึกยังไงบ้าง เขาเรียกพ่อเราว่าพ่อตาแล้ว?
“ก็ดีค่ะ (หัวเราะ) จริงๆ ที่บ้านทุกคนก็ชื่นชมณเดชน์กันอยู่แล้ว เลยไม่ได้เป็นอะไรที่แปลกใจ”

ไม่มีเซอร์ไพรส์อะไรแล้วเนอะ?
“ไม่มีเซอร์ไพรส์แล้ว มันต้องไม่มีแล้ว เพราะว่าเขาขอแล้ว เรายังไม่ได้คุยเรื่องงานแต่งเลย ถ้าจะทำอะไรเราต้องคุยกันแล้ว ถ้ามีเซอร์ไพรส์โกรธนะ เผื่อหนูไม่ชอบ”

แล้วแม่แก้วเขาต้อนรับเรายังไงบ้าง?
“ญ่าเป็นลูกสาวบ้านนั้นมานานมากแล้วค่ะ ก็ดีใจที่มันออฟฟิเชียลมากขึ้น”

กับมิตติ้งครอบครัวฉลองที่เราไปขอกันมาที่ต่างประเทศ?
“จริงๆ แค่เป็นการฉลอง เพราะทุกคนรู้กันอยู่แล้ว แม่ๆ คือเก็บความลับกันเก่งมาก แม่ๆ ก็รอวันจริงกันค่ะ”

‘ติช่า กันติชา’ โพสต์ซึ้ง ยุติรัก 4 ปี กับแฟนหนุ่มชาวสวิสฯ เผยความรู้สึกถึงฝ่ายชาย “ไม่ใช่แค่คู่ชีวิต แต่ยังเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด”

เป็นอีกหนึ่งคู่รักที่ไปต่อไม่ได้ และจบกันด้วยดี สำหรับนางแบบสาวสุดแซ่บ ‘ติช่า กันติชา ชุมมะ’ ที่ล่าสุดออกมาโพสต์รูปคู่และข้อความสุดซึ้งถึงแฟนหนุ่มชาวสวิสฯ ที่ชื่อว่า ‘นิค’ พร้อมบอกว่าทั้งคู่ได้แยกทางกันแล้วหลังคบหาดูใจกันมานาน 4 ปี

โดย ติช่า ได้โพสต์ข้อความเป็นภาษาอังกฤษ ที่มีความหมายประมาณว่า…

“ครั้งแรกและครั้งสำคัญที่สุด ฉันอยากจะบอกว่า ฉันรักคุณมากแค่ไหน ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา คุณไม่ได้เป็นแค่คู่ชีวิตของฉัน แต่ยังเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน และเป็นคนที่รู้จักฉันดีกว่าใคร ๆ เราได้แบ่งปันความทรงจำที่น่าจดจำมากมาย

อย่างไรก็ตาม เส้นทางของเราได้พาเราไปในทิศทางที่แตกต่างกัน แม้ว่าการตัดสินใจครั้งนี้ เรายังคงอยู่ในเงื่อนไขที่ดีและได้แยกจากกันมาเป็นช่วงหนึ่งแล้ว การปล่อยใครสักคนที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตฉันมันไม่ง่ายเลย คุณเป็นแหล่งกำเนิดความแข็งแกร่งของฉัน และเป็นคนที่ช่วยให้ฉันเติบโตในรูปแบบที่มากกว่าที่ฉันจะนับได้

อยากให้รู้ว่าเธอคือหนึ่งในคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของฉัน ฉันจะอยู่ตรงนี้เพื่อสนับสนุนคุณเสมอ ขอบคุณที่ยังทนเพื่อฉัน ที่รักฉัน และเป็นคนที่น่าเหลือเชื่ออย่างที่คุณเป็น เวลาที่เราอยู่ด้วยกันมีความหมายกับฉันทุกอย่าง และฉันจะหวงแหนสิ่งนี้ตลอดไป รัก, ความเงียบ

สำหรับบางท่านที่อ่านสิ่งนี้ ฉันขอให้คุณงดส่งหรือแชร์รูปภาพหรือวิดีโอใด ๆ ของเขา เราต้องการพื้นที่ในการเยียวยาและหาเส้นทางของเราเอง”

ทั้งนี้ เมื่อย้อนกลับไปไม่นาน ติช่าได้ไปออกรายการ ‘โดนเทเซมาที่แพท’ และได้พูดถึงแฟนหนุ่มคนปัจจุบัน ‘นิค นิโคล่า’ ว่าอีกฝ่ายมีอายุมากกว่าตน 5 ปี เป็นคนที่ค่อนข้างจะมีความคิดที่เป็นผู้ใหญ่ ชอบอ่านหนังสือ และนั่งสมาธิทุกวัน

สำหรับความรักกับฝ่ายชายนั้นเจ้าตัวระบุว่าระยะแรก ๆ ก็เป็นไปได้ด้วยดี อีกฝ่ายทำให้ตนเห็นข้อเสียของตนเองเยอะมาก แต่ปัจจุบันเธอยอมรับว่าเริ่มที่จะแย่ลง มีปัญหา เนื่องจากแนวคิดที่ไม่ได้ไปในทิศทางเดียวกันแล้ว

โดยทางด้านของนางแบบคนดังเผยว่าตนเองค่อนข้างจะให้ความสำคัญกับเรื่องของการมีเซ็กส์ ต้องมีเซ็กส์สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง และมองว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญมากๆ เฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ชายที่มีฐานะเป็นคนรัก เพราะตนรู้สึกว่าถ้าไม่มีเรื่องนี้มาเกี่ยวข้องก็เป็นเพื่อนกันดีกว่ามั้ย?

อนึ่งทางด้านของนางแบบหญิงนั้นค่อนข้างจะให้ความสำคัญกับเรื่องเพศ ด้วยการเปิดช่องยูทูบชื่อ ‘I KAN TEACHA’ เพื่อพูดคุยถึงเรื่องนี้โดยเฉพาะ รวมถึงเธอเองมักจะเล่าเกี่ยวกับเรื่องเซ็กส์ของตัวเองอย่างไม่มีปิดบัง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top