Monday, 7 July 2025
ElectionTime

‘เสี่ยหนู’ มั่นใจ ‘ภท.’ มีความรับผิดชอบ ไม่ขายฝัน ทำได้จริง ลั่น!! หากได้เป็นนายกฯ พร้อมดูแลคุณภาพชีวิต ปชช.ทุกด้าน

(22 มี.ค. 66) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงเป้าหมายการทำงาน หากได้เป็นนายกรัฐมนตรีว่า การจะเป็นนายกฯ ได้ ต้องอาศัยหลายปัจจัย ชั่วโมงนี้ใกล้เลือกตั้ง ต้องทำให้ประชาชนมั่นใจในตัวเรา และตัวพรรค ที่ผ่านมาน่าจะพิสูจน์ได้แล้วว่า พรรคเราพูดแล้วทำ ไม่ขายฝัน ทำได้จริง ตรงนี้เชื่อว่าประชาชนมองเห็น แต่ถ้าวันนั้นมาถึงจริง ๆ ตนมองว่าเรื่องคุณภาพชีวิตเป็นเรื่องสำคัญมาก ต้องทำให้ประชาชนอยู่ดี กินดี มีความสุข

รัฐฯ ต้องดูแลคนไทย เราต้องช่วยอำนวยความสะดวกกับประชาชน เขาบอบช้ำจากวิกฤตเศรษฐกิจ เราต้องพักหนี้ให้เขา ให้เขามีโอกาสฟื้นตัว เมื่อเขาแก่ตัวลง เราต้องมีระบบคัดกรองสุขภาพ ดูแลช่วยเหลือ พอถึงช่วงวัยหนึ่ง ผู้สูงวัยอาจป่วยติดเตียง รัฐฯ ต้องไม่ทอดทิ้ง ให้เป็นภาระของลูกหลาน พรรคภูมิใจไทยมีนโยบายกรมธรรม์ผู้สูงอายุ ให้ผู้สูงวัยที่มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ ได้รับสิทธิ์เป็นสมาชิกกองทุนประกันชีวิต และมีกรมธรรม์ประกันชีวิตทันที โดยไม่ต้องสมัคร และไม่ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันชีวิต ผู้สูงอายุสามารถกู้เงินมาดูแลตัวเองได้ เมื่อเสียชีวิต ทุกคนจะมีมรดกให้ลูกหลาน ทายาทและครอบครัว รายละ 1 แสนบาท ให้คนที่จากไปไม่ต้องกังวล

นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า ขณะเดียวกัน เราต้องทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตขึ้น การที่ไทยตั้งอยู่ศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียน นี่คือโอกาสที่ไทยต้องรักษาไว้ ในเวทีโลกต่างพูดกันว่าใน 20 ปีนี้ อาเซียนจะเป็นศูนย์กลางการลงทุนของโลก นี่คือสิ่งที่ไทยต้องได้ประโยชน์ด้วย เราต้องเร่งพัฒนาตัวเอง วางเป้าหมายให้ชัด แล้วไปให้ถึง จะเป็น ‘เมดิคัล ฮับ’ จะเป็นศูนย์กลางการลงทุน จะเป็นเป้าหมายการท่องเที่ยว เราต้องเอาจริง ตอนนี้ เราเป็นเซ็นเตอร์ด้านการขนส่งได้

พรรคภูมิใจไทยมีนโยบายแลนด์บริดจ์ เชื่อมอ่าวไทยกับอันดามัน ด้วยทางถนน ทางรถไฟ ทางด่วน ทางท่อ ร่นเวลาการขนส่งจาก 7 วันเหลือเพียง 1 วัน เป็นโครงการที่จะช่วยให้ไทยมีศักยภาพ ในการเป็นศูนย์กลางด้านการคมนาคมของภูมิภาค

“การเป็นผู้นำไทย ต้องคิดถึงประชาชน ต้องกล้าคิด กล้าตัดสินใจ และต้องรับผิดชอบ นี่เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึง” นายอนุทิน หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าว


ที่มา : https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7572175

‘ชพก.’ แท็กทีม ผู้สมัคร กทม. ลงพื้นที่วัดระฆังฯ - วังหลัง ชาวบ้าน ลั่น!! อยากให้ ‘กรณ์’ เป็นนายกฯ ช่วย ปชช.ปลดหนี้

(22 มี.ค. 66) นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วยทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ประกอบด้วย นายศราพงศ์ อิศรศักดิ์ ณ อยุธยา, นายณัฐวรรธน์ พัชรพรนุกูล, นายธนาวุฒิ  รัศมีฉาย, พ.ต.อ. ทศพล โชติคุตร์, นายสงกรานต์ พงษ์พันนา, นายวรนัยน์ วาณิชกะ, นายพรชัย มาระเนตร์, นางสาววิเวียน จุลมนต์ ลงพื้นที่เพื่อช่วยนายกฤษณ์ สุริยผล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตบางพลัด-บางกอกน้อย และ นางสาวอรไพลิน อัครเลิศวรปรีชา ว่าที่ผู้สมัครเขตภาษีเจริญ-บางกอกใหญ่ ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนที่ ท่าน้ำวังหลัง วัดระฆังโฆสิตาราม วรมหาวิหาร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างเดินหาเสียง มีชาวบ้านออกมาให้กำลังใจนายกรณ์ และทีมผู้สมัคร กันอย่างคึกคัก พร้อมกับพูดว่า อยากได้นายกรณ์ เป็นนายกรัฐมนตรี เนื่องจากเชื่อมั่นใจในความเป็นมืออาชีพด้านเศรษฐกิจ ที่จะสามารถปลดหนี้ ปลดสิน ให้กับประชาชน จะได้หมดทุกข์และมีความสุขกับเขาเสียที

‘บิ๊กป้อม’ ดึง ‘บิ๊กแอ๊ด’ ร่วมทัพ พปชร. คาด!! ช่วยคุมอีสานใต้ ‘บุรีรัมย์-สุรินทร์’

(22 มี.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยถึงความเคลื่อนไหวของบุคคลที่จะเข้ามาร่วมงานกับพรรค พปชร.ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร.ได้มอบให้คนใกล้ชิด เข้าทาบทาม พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เข้าร่วมงานกับพรรค เมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา เพื่อช่วยสู้ศึกเลือกตั้ง

โดยล่าสุด พล.อ.ธรรมรักษ์ ได้ตอบรับที่จะมาช่วยงานดูแลพื้นที่อีสาน โดยเฉพาะอีสานใต้ จ.สุรินทร์ และ จ.บุรีรัมย์ ร่วมกับ พล.อ.ธัญญา เกียรติสาร กรรมการบริหารพรรค ที่ พล.อ.ประวิตร มอบให้รับผิดชอบดูแลงานมวลชน และขับเคลื่อนงานตามนโยบายพรรค ทั้งเรื่องบริหารจัดการน้ำ และที่ดินทำกิน มาก่อนหน้านั้น โดย พล.อ.ประวิตร จะเปิดตัว พล.อ.ธรรมรักษ์ ในวันที่ 23 มี.ค.นี้ ที่พรรค พปชร.

‘อภิสิทธิ์’ โพล / ‘โทนี่’ โพล VS โพลลับ ‘ประยุทธ์-เพื่อไทย’ ใครจะร่วง?

ไม่เหนือความคาดหมายที่...อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์จะประกาศชัดเจนว่าไม่ลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค (ประชาธิปัตย์) เหตุผลก็ชัดเจนว่าเพื่อให้คณะผู้บริหารพรรคชุดปัจจุบันนำพาพรรคไปตามแนวทางอย่างเป็นเอกภาพ...แต่ตนก็จะช่วยหาเสียงให้พรรคตามวิธีการของตน

ประเด็นที่น่าสนใจที่อภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ 2-3ครั้งในสองวันนี้ ก็คือ คำพยากรณ์ที่ว่า...บนพื้นฐานของผลการเลือกตั้งโอกาสที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะกลับมาเป็นนายกฯ นั้น ‘ยากมาก’ เพราะ…

1) จะจัดตั้งรัฐบาลต้องมีเสียงสนับสนุน (ในสภาผู้แทนราษฎร) 250 เสียงขึ้นไป ซึ่งขณะนี้เชื่อว่าจะมีไม่ถึง 250
2) แม้จะรวบรวมได้เกิน 250 เสียง พรรครวมไทยสร้างชาติก็ไม่น่าจะเป็นแชมป์หรือมีเสียงมากที่สุดในปีกนี้หรือขั้วนี้...

แม้ ‘อภิสิทธิ์’ จะไม่ระบุตัวเลขแชมป์เลือกตั้งอย่างเพื่อไทยว่าจะได้เท่าไหร่..ใแต่ก็พูดชัดว่าจะทิ้งพรรคที่สองเป็นร้อยที่นั่ง และคะแนนรวมของปีกเพื่อไทยจะเกินครึ่ง (250)..แน่นอน และนั่นคือความชอบธรรมของเพื่อไทยที่จะจัดตั้งรัฐบาล..

แน่นอนว่าเมื่อ ‘อภิสิทธิ์โพล’ เป็นเช่นนี้...ก็ต้องสอดคล้องอย่างช่วยไม่ได้กับ ‘โทนี่ โพล’ ที่ประกาศผ่านรายการแคร์ คิดเคลื่อนไทยมาโดยลำดับว่า...แลนด์สไลด์เกิน 250 แน่นอน...และฝ่ายประชาธิปไตยคะแนนรวมกันจะเกิน 375 เสียงอีกต่างหาก..!!

ล่าสุดคืนวันอังคาร 21 มี.ค.ถึงขั้นขานรับแลนด์สไลด์ 310 เสียง..ประกาศความเชื่อมั่นว่า พรรคเพื่อไทยคงเป็นรัฐบาลพรรคเดียวไม่ขายพ่วงกัน เลยทีเดียว…

ถ้าถามว่ากระแสเพื่อไทยแลนด์สไลด์ (เกิน250เสียง) มีไหม...ถ้าดูตามโพล2-3สำนักก็ต้องบอกว่ามี...โดยเฉพาะ ‘นิด้าโพล’ เมื่อวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่ ‘อุ๊งอิ๊ง-เพื่อไทย’ ทิ้งขาดพรรคอันดับ2-3 เกินเท่าตัว...แต่เมื่อดูรายละเอียดในข้อเท็จจริงบางอย่างมันก็ย้อนแย้งมาก เช่น กรณีภูมิใจไทย หากเอาคะแนนนิยม ส.ส.เขต2.70% จาก 400 เขต มาเทียบบัญญัติไตรยางค์พรรคภูมิใจไทยจะได้ ส.ส.เขตแค่ 11 คน เท่านั้น ซึ่งเป็นไปไม่ได้ แค่ ‘บุรีรัมย์+โคราช’ ก็เกินแล้ว...!!

และส่งท้ายด้วยโพลที่...หน่วยงานกึ่งความมั่นคงแห่งหนึ่งทำขึ้นอย่างไม่เป็นทางการ ซึ่ง ‘เลียบการเมือง’ ขอนำเสนอเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล ไม่ได้จุดประสงค์อื่นใดมากไปกว่านี้ ปรากฏดังนี้…

‘สันติ’ ดัน นโยบายแก้หนี้นอกระบบ ลดดอกเบี้ยเงินกู้ ช่วยกลุ่มเปราะบาง สร้างความเสมอภาคในการเลี้ยงอาชีพ

(22 มี.ค. 66) ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการผลักดันนโยบายแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ว่า จะมีมาตรการจะช่วยกลุ่มเปราะบาง ซึ่งโดยส่วนตัวตนไม่เห็นด้วยที่ธนาคารแห่งประเทศไทย จะรับรองเงินนอกระบบมาเป็นเงินในระบบและคิดดอกเบี้ย 20-30% เพราะตามข้อเท็จจริงชาวบ้านและเกษตรกร ถ้าไม่ได้รับความเสมอภาคก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะฟื้นตัว เพราะเขาต้องกู้เงินนอกระบบ แต่ต้องมาแบกดอกเบี้ยแพงขนาดนี้ แต่ปล่อยกู้ให้นายทุนคิดดอกเบี้ยเพียง 2-3% เท่านั้น ทั้งที่ต้นทุนส่วนใหญ่เป็นเงินฝากของประชาชนทั้งประเทศประมาณ 22 ล้านล้านบาท

ซึ่งธนาคารต่าง ๆ ปล่อยกู้ให้กิจการขนาดใหญ่จำนวนมาก แต่ในระดับข้างล่าง อาทิ เอสเอ็มอี (SME) หาบเร่แผงลอย ได้มาพูดคุยกับตนและพรรคว่า เข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุนเหล่านี้ เพราะธนาคารคิดดอกเบี้ยแพง รวมถึงดอกเบี้ยเงินฝากได้เพียง 0.75-1% หรือได้ไม่ถึง 1% แต่เวลาธนาคารต่าง ๆ นำเงินไปปล่อยกู้ เก็บดอกเบี้ย 7-8% ฉะนั้น จะนำเรื่องนี้ประชุมกับคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อหาแนวทางแก้ไข

'สันติ' โว ทำโพลได้ 6 ล้านเสียง ยึดปาร์ตี้ลิสต์เกิน 20 ที่นั่ง เสริมเป้า พปชร. ครอง 150 ที่นั่ง ไม่เปลี่ยน!!

(22 มี.ค.66) ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค พปชร. ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรค ว่า ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคได้ครบทั้ง 400 เขต ส่วนบางเขตที่ผู้สมัคร ส.ส.เกิน วันนี้จะสรุปให้ชัดเจน เพื่อทำการรับรอง และจัดส่งไปทำไพรมารีโหวต ส่วนรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อได้ครบแล้ว 100 คน โดยลำดับที่ 1 คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค ส่วนลำดับที่ 2 ตามธรรมเนียมน่าจะเป็นชื่อตนในฐานะเลขาธิการพรรค ส่วนผู้สมัคร ส.ส.ที่ไม่ได้ลงสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตนั้น ในแต่ละพื้นที่แต่ละภาคจะต้องปรับมาให้ที่ส่วนกลาง จากนั้นพรรคจะดูความเหมาะสมว่าจะดันขึ้นเป็นผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อได้หรือไม่ ส่วนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของ พปชร.ยังเป็น พล.อ.ประวิตร คนเดียว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเมินลำดับผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในโซนปลอดภัยจะต้องอยู่ถึงลำดับที่เท่าไหร่ นายสันติ กล่าวว่า ประมาณลำดับที่ 20 เพราะครั้งที่แล้ว พปชร.ได้คะแนนรวม 8 ล้านเสียง แต่ครั้งนี้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนเก่าไปอยู่พรรคอื่นแล้ว เราจึงประมาณว่าครั้งนี้จะได้สัก 6 ล้านเสียงโดยประมาณ เมื่อถามว่า ตัวเลข 6 ล้านเสียง พรรคประเมินว่าได้มาจากไหน นายสันติ กล่าวว่า มั่นใจจากเสียงสะท้อนที่ลงพื้นที่ รวมถึงการทำโพลที่เชื่อถือได้ ไม่ได้รับจ้าง ซึ่งระบุว่าจะได้ตัวเลข 6 ล้านเสียง แต่ยอมรับว่าบางครั้งโพลก็มีปัญหา อย่างไรก็ตาม หากเรียงคะแนนแต่ละพรรค การคำนวณว่า พปชร.จะได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 20 คนยังน้อยไป

ทั้งนี้ ยืนยันว่าเป้าหมาย ส.ส.ทั้งหมดของพรรคยังตั้งเอาไว้ที่ 150 ที่นั่งเหมือนเดิม และตัวเลขของผู้สมัคร ส.ส.ที่มั่นใจว่าจะชนะยังอยู่ในระดับนั้น ส่วนจะถึงตามเป้าหรือไม่อยู่ที่ประชาชนและคู่แข่งฯ แต่ขอย้ำว่าทุกนโยบายที่เราพูดออกไปว่าทำจริงทำทันทีจะได้รับการตอบรับ ขึ้นอยู่กับประชาชนทั้งหมด เนื่องจากอำนาจที่จะแก้ปัญหาต่าง ๆ เป็นของนายกฯ

รทสช. ปรับแผน ดัน ‘บิ๊กตู่’ ลงพื้นที่ถี่ขึ้น เพราะไปที่ไหน ได้คะแนนที่นั่นเสมอ

(22 มี.ค.66) ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และแกนนำพรรค รทสช. ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งของพรรคว่า พรรคได้มอบหมายให้ตนเป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ดังนั้นในการประชุมของทุกภาคตนจะเข้าร่วมประชุมก็พบว่ามีผู้สมัครล้นทุกจังหวัด ก็คงจะเหมือนกับทุกพรรค จึงต้องพิจารณาว่าทำอย่างไรถึงจะรักษาน้ำใจคนที่ไม่ได้รับเลือกให้ลงสมัคร

"ผู้สมัครของพรรคมีความพร้อมมาก ซึ่งในวันที่ 25 มีนาคมนี้ พรรครวมไทยสร้างชาติ จะเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครทั้ง 400 เขตทั่วประเทศ ทำให้ดูว่าเรามีความพร้อมแค่ไหน เช่นเดียวกับผู้สมัครปาร์ตี้ลิสต์ของพรรค ก็มีล้นแต่จะเลือกให้เหลือ 100 คน โดยขณะนี้ยังไม่ได้จัดลำดับ ส่วนนโยบายพรรคสรุปครั้งสุดท้ายในวันพฤหัสบดีนี้ และจะประกาศให้ประชาชนได้รู้ว่า นโยบายทั้งหมดเป็นแบบไหนทีมเศรษฐกิจเป็นอย่างไร ใครบ้างจะมาเป็นทีมเศรษฐกิจ เพราะแต่ละคนล้วนเป็นคนเก่ง และมีความรู้ความสามารถทั้งสิ้น"

นายไตรรงค์ กล่าวว่า ตนได้เสนอคณะกรรมการบริหารพรรคว่า ในส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่รักษาการอยู่ในขณะนี้ ในฐานะแคนดิเดตนายกฯของพรรคมีความจำเป็นจะต้องลงพื้นที่ ไปปราศรัยช่วยผู้สมัครของพรรคหาเสียง ตนได้เสนอที่ประชุมว่า ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ มาช่วยผู้สมัครหาเสียงในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น

‘สกลธี’ เผย ‘สุวัฒน์ ม่วงศิริ’ ทิ้ง พลังประชารัฐ ยอมรับ!! กระทบฐานเสียง - เร่งหาผู้สมัครลงแทน

(22 มี.ค.66) นายสกลธี ภัททิยกุล หัวหน้าทีมดูแลการเลือกตั้ง ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยอมรับว่า นายสุวัฒน์ ม่วงศิริ ได้ลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ แล้ว หลังจากเปิดตัวเป็นว่าที่ผู้สมัครส.ส. กทม. ของพรรคไปก่อนหน้านี้ ซึ่งแจ้งกระชั้นชิดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เพราะตอนที่เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ของพลังประชารัฐทั้ง 33 คน ก็คิดว่าทุกคนลงตัวหมดแล้ว และเตรียมเข้าสู่กระบวนการไพรมารีของของพรรค และเตรียมไปสมัคร

“หลังการยุบสภาเปิดช่องให้ย้ายพรรค จึงคิดว่าได้มีการพูดจา หรือเจรจาโดยบางคนอาจได้รับเงื่อนไขที่ดีกว่า จึงตัดสินใจย้ายพรรค ถือเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่เสียดาย เพราะจะกระทบต่อฐานเสียง เนื่องจากเป็นพื้นที่เป้าหมาย และเห็นว่าควรจะบอกกันตั้งแต่เนิ่น ๆ การมาบอกกระชั้นชิดถึงแม้จะหาตัวคนใหม่มาแทนได้ แต่จะเหนื่อยหน่อย ซึ่งพรรคพลังประชารัฐกำลังพูดคุยเพื่อหาตัวว่าที่ผู้สมัครมาแทน โดยจะพิจารณาจากคนที่อยู่ในบัญชีสำรอง” นายสกลธี กล่าว

ทั้งนี้ คาดการณ์ว่านายสุวัฒน์ น่าจะไปร่วมงานทางการเมืองกับพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)
 

'ธนกร’ เผย งานเปิดตัวทีม ศก.รทสช. มีบิ๊กเนมร่วมทัพ พร้อมดันคนรุ่นใหม่-ผู้เชี่ยวชาญ ผนึกกำลังนำพรรคเดินหน้า

(22 มี.ค. 66) นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เปิดเผยถึงการเปิดตัวทีมเศรษฐกิจของพรรค รทสช. ในวันที่ 23 มี.ค.นี้ ว่า สำหรับงานที่จะจัดขึ้นในวันที่ 23 มี.ค.นี้ มีบิ๊กเนมเข้าร่วมทีมเศรษฐกิจแน่นอน แต่ตนไม่ทราบว่าเป็นใครบ้าง ต้องยอมรับว่า ที่ผ่านมาการบริหารงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในด้านเศรษฐกิจมีทีมคณะที่ปรึกษากว่า 20 คน ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญมีประสบการณ์ในการบริหารประเทศ ฉะนั้น จะมี 2 ส่วน บางคนเมื่อเข้าสู่วงการการเมือง อาจจะไม่อยากอยู่เบื้องหน้า จึงอยู่ช่วยบริหารอยู่เบื้องหลัง และอีกส่วนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจที่ต้องการมาช่วย พล.อ.ประยุทธ์ ฉะนั้น พรุ่งนี้อาจจะมีการเปิดตัวทีมเศรษฐกิจของพรรค ที่มาจากหลายฝ่ายทั้งคนรุ่นใหม่ ผู้มีประสบการณ์ ผสมผสานกัน

บรรยากาศภายในพรรคที่มีผู้สนใจลงสมัคร ส.ส. ขณะนี้เป็นไปด้วยความคึกคักในทุกพื้นที่ โดยมีผู้สมัครจากทั่วประเทศทยอยเดินทางมาสมัครที่พรรค ตอนนี้กระแสความนิยมใน พล.อ.ประยุทธ์ที่เพิ่มขึ้น หลังจากที่ได้มีการขึ้นป้ายหาเสียง โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันตก ส่วนภาคอีสานและภาคเหนือ ถือว่ากำลังไปได้ดี

‘ภูมิใจไทย’ ชูนโยบาย ‘ฟรีหลังคาโซล่าเซลล์’ มั่นใจ!! ช่วยลดค่าไฟ 450 บาท/หลังคาเรือน

(22 มี.ค.66) นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวในเวทีเสวนาออนไลน์ : ล้านหลังคา ล้านโซล่าเซลล์ จัดโดย สภาองค์กรของผู้บริโภค โดยนำเสนอว่า พรรคภูมิใจไทย มี ‘นโยบายพลังงานสะอาด ลดรายจ่ายประชาชน ฟรีหลังคาโซล่าเซลล์ ลดค่าไฟฟ้า หลังคาเรือนละ 450 บาท มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ผ่อน เดือนละ 100 บาท 60 งวด’ โดยคาดว่าจะมีการติด โซล่าเซลล์ 21 ล้านหลังคาเรือน เราคิดว่าจะติดให้ฟรีทุกครัวเรือน เป็นเรื่องที่สามารถทำได้จริง โดยแหล่งเงินจะมาจากการทำกองทุนขายพันธบัตร ระดมทุนให้สามารถติดโซล่าเซลล์ ได้ทุกหลังคาเรือน

“ทำเหมือนกับการเปลี่ยนระบบโทรทัศน์จากระบบอนาล็อก ไปเป็นโทรทัศน์ระบบดิจิตอล เมื่อไม่นานที่ผ่านมา  เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ ให้สามารถทำฐานการผลิตโซล่าเซลล์ ในประเทศไทย คิดดูว่าจะทำให้เกิดการจ้างงานจำนวนมหาศาล คิดดูว่า 21 ล้านหลังคาเรือน จะมีการจ้างงานเท่าไหร่ ในปีที่ผ่านมา เรื่องหลังคาโซล่าเซลล์ เติบโตเพียง 1% ประเทศไทยไม่มีโรงงานผลิตโซล่าเซลล์ หากการติดโซล่าเซลล์ 20 ล้านหลังคาเรือน เกิดขึ้น เราจะเป็นฐานโรงงานผลิตโซล่าเซลล์ และเกิดกาจ้างงานมหาศาล และผลิตไฟฟ้า ได้ประมาณครึ่ง ของพลังงานที่ผลิตในประเทศ เป็นพลังงานสะอาด” นายสิริพงศ์ กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top