Tuesday, 29 April 2025
ElectionTime

เปิดตัวขุนพล ‘พรรคใหญ่’ ชิงชัยเก้าอี้ ส.ส. นครพนม ใครได้หมายเลขไหน? อย่าจำผิด!!

สำหรับ 4 เขตของจังหวัดนครพนม ตามการแบ่งเขตของ กกต. มีดังนี้ 

>>เขต 1 อำเภอศรีสงคราม อำเภอนาหว้า อำเภอบ้านแพง อำเภอนาทม

>>เขต 2 อำเภอเมืองนครพนม (เฉพาะเทศบาลเมืองนครพนม, ตำบลท่าค้อ, ตำบลนาราชควาย,  ตำบลหนองญาติ และตำบลอาจสามารถ) อำเภอท่าอุเทน อำเภอโพนสวรรค์

>>เขต 3 อำเภอเมืองนครพนม (เฉพาะตำบลขามเฒ่า, ตำบลคำเตย, ตำบลนาทราย, ตำบลดงขวาง, ตำบลบ้านกลาง และตำบลโพธิ์ตาก) อำเภอธาตุพนม อำเภอเรณูนคร

>>เขต 4 อำเภอเมืองนครพนม (เฉพาะตำบลกุรุคุ, ตำบลบ้านผึ้ง และตำบลวังตามัว) อำเภอนาแก อำเภอปลาปาก อำเภอวังยาง

‘ชัยวุฒิ’ ช่วย ‘คิง’ สักการะพระเจ้าตาก ลุยหาเสียงประจวบฯ ชูนโยบายหนุนกีฬาวัวลาน สู่การสร้างอาชีพ-สืบสานวัฒนธรรม

‘ชัยวุฒิ’ กราบพระเจ้าตาก หาเสียงประจวบฯ ช่วย ‘คิง ก่อนบ่าย’ พร้อมหนุนชาววัวลาน กีฬาพื้นบ้าน

(21 เม.ย.66) ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วย คิง ก่อนบ่าย นายณภัทร ชุ่มจิตตรี ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 จ.ประจวบคีรีขันธ์ เบอร์ 11 พรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ร่วมงานประเพณีวัวลาน กีฬาพื้นบ้านของชาว จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบปะพี่น้องประชาชน พร้อมสักการะสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และสมเด็จพระนเรศวรมหาราช บรรพชนที่รักชาติ รักแผ่นดิน ทำเพื่อส่วนรวม เสียสละชีวิต เสียสละเลือดเนื้อเพื่อแผ่นดินไทย

โดย นายชัยวุฒิ กล่าวถึงประเพณีวัวลาน ว่า กีฬาวัวลานก็เป็นกีฬาพื้นบ้านที่สำคัญใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ หวังว่ากีฬานี้ก็จะได้รับการสืบสาน สืบทอดต่อไป เพราะนอกจากจะเป็นความสนุกสนาน เป็นความเพลิดเพลินของผู้ที่มาเล่น มาชมแล้ว ยังเป็นการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ด้วย เพราะวัวลานตัวหนึ่ง ถ้าเลี้ยงกันดีๆ ตัวหนึ่งหลายแสนมีราคาที่ดี ก็เป็นรายได้ที่ดีให้พี่น้องเกษตรกรที่เลี้ยงวัวด้วย แล้วก็เป็นการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง อย่างวันนี้ผมมาที่ วัดหนองเสือ ที่ประจวบมีแข่งวัวลานเป็นงานวัด ก็มีพี่น้องประชาชนจำนวนมาก ร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ ก็มาขายของกัน ก็เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ดีมาก คือทางรัฐบาล โดยเฉพาะทางพรรคพลังประชารัฐก็จะมีนโยบายสำคัญ ที่จะสนับสนุนกีฬาพื้นบ้านทุกชนิด ทั้งวัวลาน วัวชน ไก่ชน ทุกอย่างที่เป็นกีฬาพื้นบ้านของไทย ต้องได้รับการอนุรักษ์สืบสานต่อไป และที่สำคัญต้องยกระดับให้เป็นกีฬาแห่งชาติด้วย

‘โรม’ ลั่น!! ทุกพื้นที่ในไทย ไม่มีใครเป็นเจ้าของ ชี้!! อำนาจเลือกผู้แทนเข้าสภาฯ อยู่ในมือ ปชช.

(21 เม.ย.66) รังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล เดินทางไปที่จังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมลงพื้นที่หาเสียงกับผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคก้าวไกล ได้แก่ ต่อพงษ์ จีนใจน้ำ ผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ เขต 10 (เบอร์ 6) และ ภูวดล ศรีหามาตย์ ผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ เขต 6 (เบอร์ 5)

โดยช่วงเช้า จัดกิจกรรมขึ้นแห่ปราศรัยที่ อ.ประโคนชัย มีพี่น้องประชาชนโบกมือทักทายตลอดทาง รวมถึงผู้ที่สัญจรไปมาก็พร้อมใจกันยกมือทักทายขอฝากความหวังในการเปลี่ยนแปลงไว้กับพรรคก้าวไกล 

จากนั้นเดินทางไปวนอุทยานเขากระโดง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ พูดคุยกับประชาชนที่มาท่องเที่ยวและเดินดูพื้นที่จากกรณีพิพาทเขากระโดง โดยรังสิมันต์ฝากให้หน่วยงานราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเข้มงวดและตรงไปตรงมา

รังสิมันต์ยังกล่าวถึงกรณีศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย ระบุบนเวทีดีเบตว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคก้าวไกลจะไม่มี ส.ส.บุรีรัมย์ แม้แต่คนเดียว ว่าที่ผ่านมามีนักการเมืองหลายคนมักเข้าใจผิดว่าพื้นที่ต่างๆ จังหวัดต่างๆ มีเจ้าของแล้ว แต่พวกเราพรรคก้าวไกลยึดมั่นในความเชื่อว่าประชาชนคือผู้มีอำนาจสูงสุดในประเทศนี้ ดังนั้น พรรคก้าวไกลจะมี ส.ส.บุรีรัมย์หรือไม่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับศุภชัย แต่ขึ้นอยู่กับประชาชน ที่จะกำหนดว่าผู้สมัครคนใดจะได้รับความไว้วางใจผ่านการเลือกตั้ง ศุภชัยจึงไม่อยู่ในจุดที่จะมาคิดแทนประชาชนได้

“กระแสแห่งความเปลี่ยนแปลงมาถึงบุรีรัมย์แล้ว ผมเชื่อว่าผลงานการสอยรัฐมนตรีคมนาคมที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตคอร์รัปชัน ทำให้ประชาชนเห็นแล้วว่าการเมืองแบบที่ผ่านมาเป็นอย่างไร การเลือกตั้งครั้งนี้ที่จังหวัดบุรีรัมย์ พรรคก้าวไกลหมายมั่นปั้นมือที่จะเอาชนะให้ได้ ซึ่งจากผลตอบรับของการลงพื้นที่วันนี้ ผมเชื่อว่าพี่น้องชาวบุรีรัมย์พร้อมที่จะเลือกพรรคก้าวไกลทั้งสองใบ ให้ก้าวไกลเข้าสภาฯ ให้พิธาเป็นนายกฯ รัฐบาลก้าวไกลจะเปลี่ยนประเทศไทยให้ไม่เหมือนเดิม การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต” รังสิมันต์กล่าว

‘นิติพล’ โชว์วิสัยทัศน์พัฒนาชีวิตคนฝั่งธนฯ อย่างสมดุล ชูนโยบาย!! ขยายขนส่งสาธารณะ-เพิ่มพื้นที่สีเขียว

‘นิติพล’ ก้าวไกล ชูนโยบายฝั่งธนฯ ขยายขนส่งสาธารณะเส้นเลือดฝอย เพิ่มพื้นที่สีเขียว ลด PM2.5 เพื่อให้คนวาดอนาคตร่วมกันได้

(21 เม.ย.66) นายนิติพล ผิวเหมาะ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ สัดส่วนสิ่งแวดล้อม และผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า

ได้มีโอกาสพูดคุยกับพี่น้องชาวฝั่งธนบุรี ในการปราศรัยที่ใต้สะพานพระราม 8 จึงอยากนำเสนอแนวทางการพัฒนาพื้นที่ไปพร้อมกับการจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อม เนื่องจากปีนี้สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM2.5 หนักมาก ตนจึงอยากพูดถึงสถานการณ์มลพิษทางอากาศในเมืองกับแนวทางการแก้ปัญหา เพราะหลายปีมานี้ฝั่งธนฯ เปลี่ยนไปมาก สวนฝั่งธนและพื้นที่เกษตรเริ่มกลายเป็นเมือง รวมถึงมีถนนขยายเข้าไปมากมายทั้งเส้นหลักเส้นรอง บางพื้นที่มีการขยายตัวของย่านอุตสาหกรรม แต่สิ่งที่ตามมาคือเรื่องของมลภาวะต่างๆ รวมถึงฝุ่นละอองที่เป็นต้นเหตุของ pm2.5 ซึ่งแตกต่างจากปัญหาของภาคเหนือ

“สิ่งที่ผมสังเกตคือขนส่งสาธารณะที่จะเป็นเสมือนเส้นเลือดฝอยของเมืองกลับมีน้อย ขาดความเชื่อมต่อกับย่านเศรษฐกิจกรุงเทพฯ ผลที่ตามมาคือทุกคนจะต้องมีรถส่วนตัว ซึ่งในอนาคตเมื่อรถบนถนนมากขึ้น ตามเมืองที่ขยายตัว ปัญหาของฝั่งธนฯก็จะซ้ำรอยปัญหากรุงเทพฯ” นายนิติพล กล่าว

นายนิติพล กล่าวต่อว่า อีกเรื่องที่มีความสำคัญไม่แพ้กันและต้องรีบวางแผนคือ ผังเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชนในการออกแบบเมือง ก่อนที่ตึกคอนกรีตและถนนจะกลืนเมืองไปเสียหมด จำเป็นต้องจัดวางพื้นที่สีเขียวและพื้นที่จำเป็นต่างๆ ให้ชัดเพื่อให้ฝั่งธนฯพัฒนาไปอย่างสมดุล มีพื้นที่สีเขียวไว้พักผ่อนหย่อนใจเป็นพื้นที่สาธารณะ ขณะเดียวกันเพื่อดูดซับมลพิษต่างๆ ได้อีกด้วย ซึ่งผังเมืองคือหัวใจของเมืองหรือย่านต่างๆ แต่ที่ผ่านมาส่วนใหญ่ถูกออกแบบจากหน่วยงานและปรับเปลี่ยนสีของย่านนั้นๆ ตามอำเภอใจ ทำให้เมืองขยายไปอย่างสะเปะสะปะ และขาดกการมีส่วนร่วมจากประชาชน

“ผลคือเมืองขาดพื้นที่สีเขียวและพื้นที่สาธารณะที่ชุมชนจะใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ สิ่งเหล่านี้จึงต้องให้ความสำคัญ โดยเฉพาะฝั่งธนฯเป็นพื้นที่คาบเกี่ยวระหว่างพื้นที่เกษตรกรรม กับการขยายตัวของความเป็นเมือง จึงต้องการผังเมืองที่สามารถเป็นเข็มทิศที่ทุกคนวาดอนาคตร่วมกันได้” นิติพล กล่าว


ที่มา : https://www.khaosod.co.th/politics/news_7623836

‘ธนาธร’ กร้าว!! ทุกพรรคเคยเป็น รบ. แต่พาไทยมาได้เท่านี้ ขอให้โอกาสให้ ‘ก้าวไกล’ เชื่อ!! 4 ปี ทำได้ดีกว่าแน่นอน

(21 เม.ย.66) ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล เดินสายช่วยผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล หาเสียงที่ จ.ชลบุรี และ จ.ฉะเชิงเทรา พบปะประชาชนพร้อมกับผู้สมัคร ส.ส. ประกอบด้วย วรรณิดา นพสิทธิ์ ผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี เขต 2 (เบอร์ 3), เอกราช เนตรดี ผู้สมัคร ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 3 (เบอร์ 1), นพรัตน์ มุริกะ ผู้สมัคร ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 2 (เบอร์ 2) และ จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ผู้สมัคร ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 4 (เบอร์ 2)

การปราศรัยวันนี้ ธนาธรได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเลือกตั้งเพื่อให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม โดยระบุว่าแม้จะมีหลายคนที่เห็นว่าเลือกตั้งกี่ครั้งก็เหมือนเดิม บ้านเมืองไม่เปลี่ยน ชีวิตไม่เปลี่ยน แต่ตนย้ำว่านั่นเป็นเพราะปัญหาของประเทศไทยฝังลึกเป็นเรื่องโครงสร้าง โดยที่ที่ผ่านมาทุกรัฐบาลต่างก็พากันแก้ปัญหาแบบขอไปที ปะผุ ทำให้การแก้ปัญหาของประเทศจบไม่ได้เสียที

ปัญหาของประเทศจำนวนมากคือปัญหาที่เกิดจากต้นตอโครงสร้างที่ไม่เป็นธรรม ยกตัวอย่างได้มากมาย เช่น เรื่องของน้ำประปาที่คนเกินกว่าครึ่งของประเทศนี้ยังเข้าไม่ถึงน้ำประปาที่ไหลสะอาด เพียงพอใช้ 24 ชั่วโมงต่อวัน 365 วันต่อปี ในประเทศไทยปี 2566 เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อ ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำและเป็นเรื่องพื้นฐานที่สุดของบริการสาธารณะที่ทุกคนไม่ว่าจะเกิดที่ไหนควรจะเข้าถึง หรือเรื่องของถนนทั่วประเทศไทยที่ได้รับการพัฒนาไม่เท่ากันทั่วประเทศ บางแห่งผุพังทรุดโทรมมาหลายสิบปีก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข

ทั้งหมดนี้คือปัญหาที่เกิดจากโครงสร้าง คืองบประมาณที่กระจุกตัวอยู่ที่ส่วนกลาง จะซ่อมถนนครั้งหนึ่งต้องเดินเอกสารไปถึงหน่วยงานที่กรุงเทพ กว่าหน่วยงานจะตั้งงบประมาณมาเริ่มดำเนินการได้ก็ต้องรอเป็นเดือนเป็นปี งบประมาณที่ท้องถิ่นมีอยู่ไม่พอให้แก้ปัญหาพื้นฐานเหล่านี้ได้ และนั่นคือเหตุผลที่พรรคก้าวไกล ย้ำว่าการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อไม่ให้ปัญหาเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ต้องปฏิรูประบบราชการ กระจายอำนาจ เอางบประมาณและอำนาจมาให้ประชาชนแก้ปัญหาในพื้นที่ของตัวเอง กำหนดอนาคตของตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งพาระบบอุปถัมภ์วิ่งเต้นเส้นสายเพื่อให้ได้งบประมาณมาพัฒนาบ้านตัวเอง

นี่คือรูปธรรมของคำว่ากาก้าวไกลประเทศไทยไม่เหมือนเดิม นโยบายพรรคก้าวไกลมาจากฐานคิดแบบนี้ เพราะพรรคก้าวไกลไม่เคยสัญญาว่าจะมาสร้างถนนให้ หรือทำน้ำประปาให้ที่ไหนเป็นแห่งๆ ไปแบบปะผุ แต่ต้องทำในระดับโครงสร้าง ที่ผ่านมาพรรคอื่นต่างก็เคยเป็นรัฐบาลบริหารประเทศมาหมดแล้ว ครั้งนี้ตนอยากขอโอกาสให้พรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล ขอเพียงครั้งเดียวเท่านั้นประเทศไทยจะไม่เหมือนเดิมอีก ด้วยการแก้ปัญหาที่ต้นตอที่จะนำไปสู่การแก้ปัญหาอย่างแท้จริงได้

‘นิพนธ์’ ช่วย ‘นิพัฒน์-น้ำหอม’ ลุยหาเสียงอ้อนขอคะแนนชาวสงขลา ลั่น!! หากเป็นแกนนำรัฐบาล พร้อมดัน ‘หาดใหญ่’ สู่ศูนย์กลางการเงิน

‘นิพนธ์’ ลุยอ้อนชาวสงขลา เลือก ‘น้ำหอม-นิพัฒน์’ โวหาก ปชป. เป็นแกนนำรัฐบาล ผลักดันหาดใหญ่เป็นเมืองศูนย์กลางการเงินแห่งใหม่ของภูมิภาคเอเชียแน่นอน

(21 เม.ย.66) นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ผอ.เลือกตั้งพรรคฯ ลุยพื้นที่จังหวัดสงขลา ขอคะแนนเสียงช่วย นายนิพัฒน์ อุดมอักษร หมายเลข 4 ในพื้นที่เขต 2 สงขลา (เทศบาลนครหาดใหญ่) ซึ่งได้รับเสียงตอบรับจากพี่น้องประชาชนเป็นอย่างดี

โดย นายนิพนธ์ กล่าวว่า ประชาธิปัตย์เน้นยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจ “สร้างเงิน สร้างงาน สร้างชาติ” เป็นพรรคเดียวที่คิดหาเงินเข้าประเทศ ซึ่งเมื่อวานนี้ ทีมเศรษฐกิจของพรรค นำโดย ดร.พิสิฐ ลี้อาธรรม ก็ได้พูดถึงนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจภาคใต้นั้น พรรคประชาธิปัตย์จะปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของภาคใต้ใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างขั้วความเจริญ หรือ Growth Pole ใหม่ของเมืองหาดใหญ่ให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจใหม่ของภาคใต้ ด้วยการผลักดันให้เป็นศูนย์กลางการเงินนานาชาติในภูมิภาค เพิ่มเติมจากดึงดูดนักท่องเที่ยวและการลงทุนจากต่างประเทศเพื่อพัฒนาให้เป็นแหล่งการผลิตเพื่อการส่งสินค้าออกไปต่างประเทศ ถ้า อ.หาดใหญ่ ได้เป็นแหล่งเงินทุนใหม่ๆ จะส่งผลดีต่อธุรกิจเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพในพื้นที่นี้และในจังหวัดอื่นๆ ให้สามารถเข้าถึงทุนและสินเชื่อได้ง่ายขึ้น ในต้นทุนกู้ยืมต่ำลง อีกทั้งธุรกิจจะได้รับการยกระดับเป็นนานาชาติ เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งจะส่งผลเป็นลูกโซ่ต่อการเติบโตของจังหวัดสำคัญในภาคใต้ และประเทศโดยรวม และต่อภาคเศรษฐกิจอื่น เช่น การค้าข้ามชายแดนของภาคใต้ กับประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย การขนส่ง การท่องเที่ยว การจ้างงาน

‘วิโรจน์’ ซัด!! หนังสือเรียน ชั้น ป.5 สอนรับสภาพอดอยาก ลั่น!! เด็กต้องการ ‘อาชีพ-อาหาร’ เลิกผลาญเงินซื้อ ‘อาวุธ’

‘วิโรจน์’ อัดยับแบบเรียนป.5 สอนเด็กยอมจำนน ยอมรับชีวิต กินข้าวเปล่าคลุกน้ำปลา
.
(21 เม.ย.66) นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อดีตกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร ได้โพสต์ข้อเขียน เรื่อง [ เราควรปล่อยให้เด็กไทยยอมรับสภาพ การกินข้าวเปล่าคลุกน้ำปลา จริงๆ หรือ? ] โดยมีเนื้อหาดังนี้
.
มีคนส่งเนื้อหาในหนังสือเล่มหนึ่งมาให้ผมอ่าน น่าจะเป็นหนังสือที่ชื่อว่า “ชีวิตมีค่า ภาษาพาที ชั้น ป.5 บทที่ 9” ผมอ่านแล้วผมรู้สึกไม่เห็นด้วยอย่างมาก เพราะลำพังการปล่อยให้เด็กกินข้าวกับผัดผักบุ้งและไข่ต้มหนึ่งซีก โภชนาการเพียงเท่านี้ ก็ไม่เพียงพอต่อการเสริมสร้างพัฒนาการให้กับเด็กๆ อยู่แล้ว
.
แต่หนังสือเล่มนี้ ยังคงมีเนื้อหา สอนให้เด็กยอมจำนนต่อโชคชะตา ยอมรับสภาพกับการกินเข้าเปล่าราดน้ำปลา หรือข้าวเปล่าคลุกกับน้ำผัดผักบุ้ง
.
เข้าใจหรือยังครับว่า ทำไมหลายสิบปีที่ผ่านมา โดยเฉลี่ยแล้ว ผลการประเมินประสิทธิภาพในการเรียนรู้ในระดับสากลของเด็กไทย ไม่ว่าจะเป็น PISA หรือ TIMSS จึงมีแนวโน้มลดต่ำลงเรื่อยๆ
.
ประเทศไทยควรลดงบประมาณในการจัดซื้ออาวุธที่ไม่จำเป็น และแพงเกินจริง นำมาจัดสรรเป็นสวัสดิการให้กับเด็กๆ พร้อมกับปรับปรุงโรงเรียน ทั้งหลักสูตรที่ยืดหยุ่นคืนเวลาให้กับครูและนักเรียน ลดการสอบ ลดการบ้าน ปลดภาระงานธุรการเพื่อคืนครูสู่ห้องเรียน เพิ่มงบประมาณอาหารกลางวัน มีสวัสดิการรถโรงเรียน มีการปรับปรุงความปลอดภัยภายในโรงเรียน มีอุปกรณ์การเรียนการสอนที่ครบครัน ยกเลิกอำนาจนิยมภายในโรงเรียน ฯลฯ
.
งบประมาณของกระทรวงกลาโหมที่เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ จากปี 2547 ที่ 78,000 ล้านบาท จนปัจจุบันแตะระดับ 2 แสนล้านบาทต่อปี ประชาชนตอบไม่ได้เลยว่า ประชาชนได้รับความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างไร เด็กๆ ที่เป็นอนาคตของชาติ ได้รับการดูแลเอาใจใส่จากรัฐบาลเพิ่มขึ้นในแง่ไหนบ้าง
.
ประชาชนต้องการ “อาชีพ” ต้องการ “อาหาร” เลิกผลาญซื้อ “อาวุธ” ได้แล้วครับ”


ที่มา : https://www.matichon.co.th/politics/news_3936914

‘พิธา’ โชว์กลยุทธ์หาเสียง!! ส่งไม้ต่อปชช. พูดปากต่อปาก ย้ำ!! ปชช.คือพลังสำคัญ ทำให้เลือก ‘ก้าวไกลทั้งบ้าน’

‘พิธา’ งัดไม้เด็ด ใช้หัวคะแนนธรรมชาติ ส่งกระแสปากต่อปาก ให้ ‘ก้าวไกลทั้งบ้าน’ พาเข้าวิน ย้ำกาก้าวไกล ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม

(21 เม.ย.66) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงโพลมติชนxเดลินิวส์ ที่จะเปิดโหวตครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 22-28 เมษายน สำหรับพรรค ก.ก.จะปรับกลยุทธ์การหาเสียงโค้งสุดท้ายอย่างไรว่า เนื่องจากพรรค ก.ก.ไม่ได้มีทรัพยากรเหลือเฟือ ทำให้เราต้องเน้นการลงพื้นที่เข้มข้นในลักษณะการเคาะประตูบ้าน การให้ผู้สมัครทุกคนไปพูดคุยกับประชาชนให้มากที่สุด ให้คนเชื่อมั่นในพรรค ก.ก.ว่าผู้สมัครทุกคนเอาจริง พร้อมทำงานให้พี่น้องประชาชน

นายพิธากล่าวว่า และที่สำคัญที่สุดเราพยายามขอให้หัวคะแนนธรรมชาติของเราช่วยหาคะแนนเสียงไปด้วยกัน มีลูกบอกลูก มีหลานบอกหลาน บอกพ่อแม่ปู่ย่าตายาย บอกเพื่อน บอกคนรู้จัก ให้ทุกคนเป็นหัวคะแนนธรรมชาติของก้าวไกล ช่วยแสดงออก ช่วยตัดคลิป ช่วยรีทวิต ช่วยแชร์ข้อมูลข่าวสาร บอกต่อนโยบายจุดยืนของพรรค ก.ก.ให้คนรอบข้างได้รับรู้ด้วย จนเรียกได้ว่า ‘ก้าวไกลทั้งบ้าน’

“นี่คือกลยุทธ์การหาเสียงโค้งสุดท้ายของพรรค ก.ก.ที่ประหยัดงบประมาณ แต่ได้ความร่วมไม้ร่วมมือจากประชาชน และที่สำคัญที่สุดเป็นกลยุทธ์ที่ได้ผลตอบรับอย่างดีมาก ทำให้กระแสและความนิยมมาจริงและกำลังดีขึ้นเรื่อยๆ ในทุกช่องทาง สังเกตได้จากผลสำรวจของทุกสำนัก” หัวหน้าพรรคก้าวไกลระบุ

เมื่อถามว่า นายพิธาที่ได้คะแนนนำเป็นอันดับ 1 ที่คนอยากให้เป็นนายกฯ จะมีวิธีการรักษาแชมป์ผลโพลในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งอย่างไร นายพิธากล่าวว่า ทำให้ประชาชนเข้าใจว่าเลือกพรรค ก.ก.ไปไม่เสียของ และแนวทางแบบก้าวไกลนั้นเป็นไปได้ เป็นทางออกของประเทศไทย และสื่อสารกับประชาชนด้วยแนวนโยบาย จุดยืนวิสัยทัศน์ แบบตรงไปตรงมา เราคิดอย่างไรพูดอย่างนั้น เราพูดอย่างไรก็ทำแบบนั้น ทุกคนในพรรคพูดตรงกัน จากจุดยืนที่มั่นคง เพราะเราเชื่อว่าประชาชนชอบความชัดเจนตรงไปตรงมา ไม่ลังเล ไม่กำกวม ไม่หมกเม็ด

นายพิธากล่าวว่า ดังนั้น เราจะสื่อสารกับประชาชนอย่างตรงไปตรงมาว่าเลือกก้าวไกลไม่เสียของ ไม่ต้องกลัวแพ้ เพราะเราจะ Vote For Change, Vote For Hope, Vote Forward. เลือกเพื่อเปลี่ยน เลือกเพื่อความหวัง และเลือกไปข้างหน้า อย่าเลือกด้วยความกลัวว่าจะแพ้ เลือกเพราะกลัวว่าเลือกไปแล้วจะเสียของ ทุกคะแนนที่กาก้าวไกลจะทำให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม


ที่มา : https://www.matichon.co.th/politics/news_3937173

'ธนาธร' นำทีมบุกสัตหีบช่วยหาเสียงให้ "น้ำ" นิชนันท์ ผู้สมัครพรรคก้าวไกลสัตหีบ ยืนยันยกเลิกการเกณทหารแบบบังคับให้เป็นแบบสมัครใจ

ผู้สื่อข่าว รายงานว่า เมื่อวันที่ 21 เม.ย. 2566 ที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้าและผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล เดินทางมาช่วยหาเสียงให้กับ "น้ำ" นิชนันท์ วังคะฮาต ผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล เบอร์ 5 เขต 10 จ.ชลบุรี โดยนำรถประชาสัมพันธ์ ออกจากวัดสัตหีบ แห่รอบตลาดและทั่วเมืองสัตหีบ โบกมือทักทายแนะนำตัว น้ำ นิชนันท์ วังคะฮาต ผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล เบอร์ 5 เขต 10 อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ต่อพ่อแม่พี่น้องชาวสัตหีบ โดยมีชาวบ้านยื่นขอจับมือและร่วมเป็นกำลังใจเป็นจำนวนมาก

 
นายธนาธร กล่าวว่า ผมมาลงพื้นที่สัตหีบ มาช่วยผู้สมัครของพรรคก้าวไกล อำเภอสัตหีบเพื่อหาเสียงตามแนวทางของพรรคก้าวไกล ในเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน เรื่องที่ดินที่พักอาศัยในพื้นที่ทหาร ผลกระทบในเรื่องค่าไฟแพง และยังคงยืนยันถึงนโยบายยกเลิกการเกณทหารแบบบังคับ ให้เป็นแบบสมัครใจ เพื่อให้กองทัพมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะผู้ที่สมัครใจย่อมเต็มใจที่จะฝึกหนักมากกว่า และยืนยันคุณ น้ำ เป็นนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยต่อสู้เพื่อความเสมอภาคมาโดยตลอด และขอยืนยันกับพ่อแม่พี่น้องประชาชนอำเภอสัตหีบว่าคุณน้ำไม่ใช่งูเห่าอย่างแน่นอน


และในวันที่ 14 พ.ค.นี้ เวลา 08.00 - 17.00 น. เชิญชวนพี่น้องชาวสัตหีบให้โอกาส คุณน้ำ นิชนันท์ วังคะฮาต ผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตพรรคก้าวไกลเบอร์ 5 สัตหีบ เข้าคูหากาเบอร์ 5 และพรรคก้าวไกลแบบปาตี้ลิสต์ กาเบอร์ 31 เพื่อเข้าไปทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ในครั้งนี้ด้วย
นิราช ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี

ประเทศต้องดีขึ้น!! ‘บิ๊กตู่’ เยือนม่อนแจ่ม รับฟังปัญหาที่ดินทำกินของชาวบ้าน ลั่น!! อยู่แบบเดิมไม่ได้ ประเทศต้องการความสงบสุข

‘บิ๊กตู่’ ถึงม่อนแจ่มพร้อมฝนตก รับฟังปัญหาที่ดินทำกิน ลั่นปชช. อยู่แบบเดิมท่ามกลางความขัดแย้งแตกสาแหรกขาดไม่ได้ ย้ำเปลี่ยนแปลงปท. ฐานต้องดีบ้านเมืองต้องสงบเรียบร้อย เมินผลโพลบอกเปลี่ยนทุกวันดูแล้วปวดหัว
 
(21 เม.ย.66) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พร้อมคณะ และร.อ.หญิง เดือนเต็มดวง ณ เชียงใหม่ ผู้สมัครส.ส.เชียงใหม่ เขต 5 เดินทางถึงสวนอีเดน บ้านหนองหอยเก่า หมู่ 7 ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เพื่อพบปะชาวม่อนแจ่ม เพื่อรับฟังปัญหาเรื่องที่ดินทำกินและการถือครองสิทธิที่ดินตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 11พ.ค. 2542 และปัญหาสิ่งแวดล้อม  โดยมีประชาชนกลุ่มชาติพันธุ์เผ่าม้งและลีซู แต่งชุดประจำเผ่ารอต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมกองเชียร์ชูป้ายภาพ พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมข้อความว่า “กาเบอร์ 22 รวมไทยสร้างชาติ” และ “รักลงตู่ กาเบอร์ 22”

ทั้งนี้ ขณะพล.อ.ประยุทธ์เดินทางมาถึงได้เกิดฝนตก ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ สอบถามชาวม่อนแจ่มว่า ก่อนผมมามีฝนตกหรือไม่  ซึ่งผู้มาต้อนรับ กล่าวว่า “ไม่มี” ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ได้แต่อมยิ้ม

จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์  กล่าวกับกลุ่มชาติพันธุ์เผ่าม้งและลีซู ว่า ตนมาในอีกบทบาทหนึ่ง มาในอีกส่วนของหน้าที่หนึ่งมาพูดคุยกับพวกเรา ในการรักษาการชั่วคราวของรัฐบาลมาในนามที่พวกเราเรียกกันว่าลุงตู่ ความจริงตนไม่ใช่คนโหดร้ายใจร้าย ตนเป็นคนง่ายๆเห็นใจคน ซึ่งไม่มีอะไร ทำได้ง่ายง่ายตราบใดที่เรายังไม่เพิ่มฐานะ เพิ่มรายได้ของเรา ฉะนั้นอาชีพต่างๆ ในวันข้างหน้าต้องเดินไปเราได้วางโครงสร้างพื้นฐานไว้แล้ว แต่ตนจะไปพูดอะไรมากไม่ได้ วันนี้พูดอะไรต้องระวังที่สุด เพราะเป็นช่วงหาเสียง และหลายคนในที่นี้เห็นตนหน้าตาดุในโทรทัศน์ตอนเช้า ตอนกลางคืนโมโหอะไรตลอด ปกติตน เป็นคนอารมณ์ดีไม่ใช่อะไรหรอกถ้าไม่มีคนยั่วอารมณ์ตนมาก ก็ไม่โมโหหรอกบางทีงานเยอะ ติดโน้น ติดนี่ ติดอะไรนักหนา 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนต้องดูแลทั้งหมด 21 กระทรวง ข้าราชการ 2 ล้านกว่าคน ซึ่งตอนต้องกำกับดูแลในส่วนนโยบายที่ทำมาแล้ว ทำต่อมีอะไรใหม่ ต้องทำเพิ่ม เรียกว่าทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ บวกพลัสใหม่เพิ่ม เข้าไปด้วยให้ทุกคนอยู่ดีกินดีมากยิ่งขึ้น เพราะการจะสร้างบ้านหลังหนึ่งฐานต้องแน่น แข็งแรง หลังจากนั้นต้องทำเสา ทำโครงสร้างหลังคาและผนัง ฉะนั้นประเทศไทยต้องโตแบบนี้โตจากข้างล่าง ข้างบนหลังคา ให้อบอุ่นปลอดภัยทุกคน อยู่ในร่มเงาฐานดีแน่นประเทศไทยต้องเป็นแบบนี้

“เราทะเลาะกันไม่ได้ ทะเลาะกันเองไปกันใหญ่ บ้านเมืองแตกสาแหรกขาด ถ้าแตกกันจะอยู่ยังไง จะหวังอะไรจากใครได้อีก ถ้าไม่หวังจากสิ่งที่ทำไปแล้ว ทุกอย่างต้องกำเนิด มีเกิดขึ้นมาและถึงจะทำต่อไปได้ ยอมรับว่าหลายอย่างดีขึ้นมาก พอดีขึ้นมากปัญหาก็ตามมาปัญหาเดิมลดปัญหาใหม่มาโลกปัจจุบันเป็นแบบนี้ เราจะอยู่แบบเดิมไม่ได้เราจะอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งไม่ได้อีกแล้ว การจะเปลี่ยนแปลงประเทศ ต้องเปลี่ยนแปลงบนพื้นฐานความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ไม่ใช่วุ่นวายไปทั้งหมด มันทำอะไรไม่ได้เลย มีตัวอย่างมาแล้วให้เห็น ขอให้บ้านเมืองมีเสถียรภาพ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้แก้หลายเรื่องและรับหมดปัญหาที่ดินในวันนี้ ซึ่งปัญหาที่ดินนโยบายของพรรคและนโยบายของรัฐบาลก็มี วันนี้จึงมาอยู่พรรคนี้ เพราะคิดตรงกันจะได้ทำอะไรต่อ ตนถามว่าเคยมีรัฐมนตรี อดีตนายกรัฐมนตรีมานั่งตรงนี้ไหม มีไหม วันหน้าไม่รู้จะมีอีกหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่ตน ไม่ใช่ตนนะ ไม่รู้นะ  ถ้าตนมาได้ก็มา ถ้ามาได้ผมทำให้หมดทุกอย่าง ทั้งนี้ วันนี้ต้องมองดูประเทศอื่นเราต้องคิดว่างว่างเปิดดูโทรทัศน์ดูต่างประเทศ โพลไม่ต้องฟังมาก เวียนหัว ไม่ต้องไปฟังมาก เปลี่ยนทุกวัน วันนี้อยู่ที่ใจต่อใจถึงกันหรือเปล่า


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top