Monday, 12 May 2025
EducationNewsAgencyforAll

การที่ JD Group ได้ขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งทางด้านการค้าออนไลน์ในจีนนั้น ปัจจัยสำคัญมาจากระบบที่โลจิสติกส์ที่เข้มแข็ง!!

ท่านผู้อ่านน่าจะเคยได้ยินชื่อ JD.com ผู้ให้บริการขายสินค้าออนไลน์จากจีนที่ได้เข้ามาในไทยไม่กี่ปีที่ผ่านมา การที่ JD Group ได้ขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งทางด้านการค้าออนไลน์ในจีนนั้น ปัจจัยสำคัญมาจากระบบที่โลจิสติกส์ที่เข้มแข็ง

ปี 2003 ประเทศจีนเกิดการแพร่ระบาดของโรคซาร์สส่งผลให้ประชาชนส่วนใหญ่ไม่กล้าออกมาซื้อของนอกบ้าน ริชาร์ด หลิว (Richard Liu) ที่เคยเปิดร้านขายอุปกรณ์อิเลคโทรนิคส์จึงมองเห็นโอกาสในการทำธุรกิจออนไลน์ และเริ่มก่อตั้ง JD.com ในปี 2004

แต่เดิม JD.com ได้ว่าจ้างผู้ให้บริการโลจิสติกส์ภายนอก (third party logistics) เป็นผู้กระจายสินค้าให้แก่ตน และทางบริษัทเห็นว่าการที่จะชนะคู่แข่งที่อยู่ในตลาดมาก่อนอย่าง Alibaba ได้ต้องมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ แต่ผู้ให้บริการที่มีอยู่ในขณะนั้นยังไม่สามารถตอบสนองได้ตามต้องการ จึงได้ก่อตั้ง JD Logistics ขึ้นในปี 2007 โดยเป้าหมายคือส่งมอบบริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า และคาดหวังว่าจะประสบความสำเร็จได้อย่าง Amazon ยักษ์ใหญ่แห่งวงการอีคอมเมิร์ซระดับโลก 

ในปี 2010 เป็นผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซรายแรกที่ให้บริการการจัดส่งแบบภายในวันและการจัดส่งในวันถัดไป (same-day and next-day delivery)  ในขณะที่ Amazon ยังให้บริการจัดส่งภายใน 2 วัน และเริ่มให้บริการจัดส่งภายในวันเดียวในอีก 9 ปีต่อมา

ในปี 2016 JD.com เป็นธุรกิจอีคอมเมิร์ซรายแรกที่เริ่มให้บริการส่งสินค้าด้วยโดรน โดยมองเห็นปัญหาว่าชาวบ้านที่อาศัยในหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกล เส้นทางทุรกันดาร มีทางเลือกในการซื้อสินค้าน้อย เพราะผู้ให้บริการจัดส่งสินค้าเข้าไม่ถึงเนื่องจากต้นทุนการขนส่งที่สูงและไม่คุ้มกับค่าเดินทาง  JD Logistics จึงใช้โดรนที่พัฒนาขึ้นโดย JD-X หน่วยธุรกิจใน JD Group ที่ทำหน้าวิจัยและพัฒนาระบบ Smart Logistics ในการจัดส่งสินค้า ขั้นตอนการทำงาน คือ โดรนพร้อมสินค้าถูกส่งออกจากสถานีขนส่งในแต่ละเมืองและบินไปส่งสินค้าในแต่ละหมู่บ้านตามจุดกำหนด ต่อจากนั้นผู้ประสานงาน JD Logistics แต่ละชุมชนนำสินค้าไปส่งมอบให้ถึงบ้านลูกค้า โดยวิธีการนี้จากเดิมที่ต้องใช้ระยะเวลาหลายชั่วโมงในการขับรถอ้อมเขา หรือต้องต่อเรือเพื่อไปยังเกาะต่าง ๆ เหลือเพียงไม่กี่นาทีสินค้าก็ถูกส่งถึงมือลูกค้าที่อยู่ห่างไกลด้วยต้นทุนที่ถูกกว่าวิธีการเดิม 

ปี 2019 JD Logistics ได้เปิดตัวรถส่งสินค้าอัตโนมัติมีหน้าที่นำสินค้าไปส่งให้ยังลูกค้าตามสถานที่ต่าง ๆ ในรัศมี 5 กิโลเมตรจากสถานีขนส่ง โดยรถ 3 คัน สามารถทำงานทดแทนพนักงานขนส่งสินค้าได้ถึง 2 คน จึงสามารถช่วยลดต้นทุนในการจ้างงาน และยิ่งมีประโยชน์ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ปัจจุบันให้บริการใน 20 เมืองในจีน

และในปี 2020 JD Logistics เปิดให้บริการจัดส่งด่วนภายในหนึ่งชั่วโมง และขยายศูนย์กระจายสินค้าอัจฉริยะ ที่ทำการคัดแยกสินค้าด้วยระบบอัตโนมัติที่เรียกว่า ”Asia No.1 logistics park” ไปยัง 28 แห่งทั่วประเทศจีน เพื่อเพิ่มพื้นที่การให้บริการจัดส่งสินค้าแบบภายในวันและการจัดส่งในวันถัดไป โดยเพิ่มจาก 6 เมืองเมื่อสิบปีที่แล้วเป็น 200 เมือง ในส่วนเมืองขนาดเล็กที่ไม่คุ้มกับการสร้างศูนย์กระจายสินค้าของตนเอง ได้มีความร่วมมือกับผู้ประกอบการขนส่งในท้องถิ่นให้ทำการจัดเก็บและกระจายสินค้าให้ผ่านระบบของ JD Logistics จนในปัจจุบันมีเครือข่ายคลังสินค้าถึง 1,000 แห่ง และมีพื้นที่รวมกันมากถึง 21 ล้านตารางเมตร

จากตัวอย่างที่เล่ามาเห็นได้ว่า JD.com ได้มุ่งเน้นกลยุทธ์สร้างความสามารถในการแข่งขันทางด้านการตอบสนองที่รวดเร็ว เพื่อให้ได้ผลตามกลยุทธ์ที่ตั้งไว้จึงได้มีการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ทางด้านโลจิสติกส์อย่างต่อเนื่อง จนส่งผลให้เป็นที่หนึ่งทางด้านธุรกิจอีคอมเมิร์ซของจีน

เขียนโดย อาจารย์ ศรัณย์ ดั่นสถิตย์ อาจารย์ประจำหลักสูตรการจัดการโลจิสติกส์ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา 


ข้อมูลอ้างอิง 
https://www.chinadaily.com.cn/a/202012/25/WS5fe54b99a31024ad0ba9e7f6.html
https://www.straitstimes.com/asia/east-asia/autonomous-delivery-vehicles-deployed-in-chinese-cities-amid-the-covid-19-pandemic
https://www.businessinsider.com/how-chinese-ecommerce-giant-jd-logistics-built-up-to-34-billion-ipo-2021-5
https://corporate.jd.com/ourBusiness#jdLogistics

ฟูจิโอะ ฟูจิโกะ นามปากกาจาก 2 นักเขียนการ์ตูนชาวญี่ปุ่น ผู้มีแนวความคิดของโลกอนาคตบวกความสร้างสรรค์ ถ่ายทอดผลงานการ์ตูนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอย่างเรื่อง "โดราเอมอน"

“การ์ตูนโดราเอมอน” ถือว่าเป็นการ์ตูนญี่ปุ่นที่มีความนิยมอย่างมาก แต่น้อยคนนักที่จะรู้จักกับนักเขียนทีมีนามปากกาอย่าง ฟูจิโอะ เอฟ ฟูจิโกะ THE STUDY TIMES จะขอเล่าถึงประวัติและความสำเร็จของนักเขียนผู้นี้กัน  

ฟูจิโอะ ฟูจิโกะ จริง ๆ แล้วเป็นนามปากกาของศิลปิน 2 ท่าน นั้นคือ ฟูจิโมโตะ ฮิโรชิ (ผู้แต่ง) และ อาบิโกะ โมโตโอะ (ผู้วาด)

ฮิโรชิ เกิดวันที่ 1 ธ.ค. ค.ศ.1933 ที่ เมืองทาคาโอกะ จังหวัดโทยาม่า ส่วน โมโตโอะ เกิดวันที่ 10 มี.ค. ค.ศ.1934 ที่เมืองทาคาโอกะ จังหวัด โทยาม่า เช่นเดียวกัน

ทั้ง ฮิโรชิ และ โมโตโอะ เจอกันครั้งแรก ในช่วงสมัยเรียนชั้นประถมปีที่ 5 และกลายเป็นเพื่อนสนิทกัน เพราะต่างมีความชอบในการวาดการ์ตูน โดยทั้งคู่ได้ลงมือวาดการ์ตูน เขียนเรื่องราวด้วยกัน และได้ลองส่งสำนักพิมพ์ โดยเรื่องแรกที่ได้รับการตีพิมพ์คือเรื่อง นางฟ้าทามะจัง (Tenshi no Tama-chan) ลงตีพิมพ์เป็นประจำในนิตยสาร "ไมนิจิ โชกักเซ"

หลังจากที่ทั้งคู่เรียนจบในชั้นมัธยมปลาย ฮิโรชิได้เข้าไปทำงานในโรงงานลูกกวาด ส่วนโมโตโอะทำงานในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น แต่หลังจากทำงานได้ไม่นานฮิโรชิได้รับอุบัติเหตุระหว่างทำงาน จึงตัดสินใจลาออกจากงานและเขียนการ์ตูนอย่างจริงจังอยู่ที่บ้าน โดยมีโมโตโอะคอยมาช่วยเหลืออยู่ตลอดหลังจากเวลาว่างหลังเลิกงาน และได้ออกผลงานเรื่อง ล่องลอย 4 หมื่นปี  และมีผลงานการ์ตูนพ็อกเก็ตบุ๊คเล่มแรกในนามปากการ่วมกันว่า "อาชิซึกะ ฟูจิโอะ" เรื่อง สงครามโลกครั้งสุดท้าย (UTOPIA—最後の世界大戦 หรือ Utopia: The Last World War) 



หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ได้ตัดสินใจจะเขียนการ์ตูนกันต่อไป และได้ย้ายมาอยู่ที่โตเกียว ทั้งคู่ได้ตัดสินใจเปลี่ยนนามปากกาเป็น "ฟูจิโอะ ฟูจิโกะ" และได้มีการเขียนการ์ตูนส่งสำนักพิมพ์อย่างมากมาย แต่ก็มีช่วงหนึ่งที่ทั้งคู่เผลอลืมส่งต้นฉบับให้กับทางสำนักพิมพ์ ทำให้ชื่อเสียงของทั้งคู่ลดลงอย่างมาก แต่ทั้งคู่ก็ไม่ยอมแพ้ลงทุนจัดตั้งบริษัท "สตูดิโอซีโร" และได้มีผลงานทำภาพยนตร์เรื่องยาวอย่างเรื่อง “เจ้าหนูอะตอม” และเริ่มประสบความสำเร็จขึ้นจากการเขียนการ์ตูนเรื่อง “ผีน้อยคิวทาโร่”  ได้ลงตีพิมพ์ในนิตยสารการ์ตูน ซึ่งมีคนติดตามเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ทำให้ผีน้อยคิวทาโร่ได้ผลิตเป็นการ์ตูนแอนิเมชันฉายทางโทรทัศน์ ส่งผลให้ชื่อเสียงโด่งดังขึ้นเป็นอย่างมาก 



หลังจากนั้น ปี ค.ศ.1969 ทั้งคู่เริ่มหาแนวทางสำหรับการ์ตูนเรื่องใหม่โดย ฮิโรชิ ก็ไปสะดุดกับกองของเล่นพวกตุ๊กตาของลูกสาวที่วางเกะกะบนพื้น ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกับที่แมวข้างบ้านกำลังกัดกัน และเมื่อรวมกับจินตนาการส่วนตัวที่อยากได้เครื่องมือช่วยย้อนเวลาไปหาไอเดียใหม่ๆ เชิงวิทยาศาสตร์ จึงเป็นที่มาของหุ่นยนต์แมวสีน้ำเงินที่มาพร้อมสารพัดอุปกรณ์สำหรับแก้ปัญหาจากโลกอนาคต เลยเป็นแนวความคิดในการเขียนการ์ตูน โดราเอมอน โดยเริ่มแรกเป็นการตีพิมพ์ลงในหนังสือการ์ตูนยังไม่ได้รับความนิยมมากนัก จนเมื่อค.ศ.1973 การ์ตูนโดราเอมอนได้ผลิตเป็นการ์ตูนแอนิเมชันฉายทางโทรทัศน์ ทำให้ได้รับความนิยมอย่างมาก จนทั้งคู่ได้รับรางวัล จากสมาคมนักเขียนการ์ตูนญี่ปุ่น (Nihon Mangaka Association) และได้รับความนิยมอย่างมากจนได้ไปเผยแพร่ในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก 



หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ทำผลงานอีกมากมาย แต่ด้วยความเห็นที่ไม่ค่อยตรงกันทำให้ตัดสินใจเลิกใช้นามปากการ่วมกันและแยกไปมีงานเขียนของตัวเอง ฮิโรชิใช้นามปากกาเป็น "ฟูจิโกะ เอฟ. ฟูจิโอะ" ส่วนของอาบิโกะเป็น "ฟูจิโกะ ฟูจิโอะ (เอ.)" และฮิโรชิก็ยังสร้างสรรค์ผลงานโดราเอมอนและผลงานอื่น ๆ อีกต่อไป จนกลายเป็นตำนานการ์ตูนญี่ปุ่นที่ทุกคนชื่นชอบจนมาถึงปัจจุบัน

ทาง THE STUDY TIMES ความพยายาม รักและชื่นชอบในสิ่งที่ตัวเองทำ ไม่ละทิ้งความฝันและความพยายามจะเป็นทางที่สู่ความประสบความสำเร็จได้ เหมือนกับนักเขียนการ์ตูน 2 ท่านนี้นะคะ 


ที่มา 
https://th.wikipedia.org/wiki/ ฟูจิโอะฟูจิโกะ 
https://www.kartoon-discovery.com/history/fujio.html
https://ahead.asia/2019/09/05/fujiko-fujio-doraemon-creators/

Click on Clever โฉมใหม่‼️ เวลาดีๆ ที่จะเรียนรู้ไปด้วยกันกับ Guest ที่โดดเด่น และเรื่องราวชีวิตของเขา

????Click on Clever โฉมใหม่‼️ เวลาดีๆ ที่จะเรียนรู้ไปด้วยกันกับ Guest ที่โดดเด่น และเรื่องราวชีวิตของเขา

????เก่งจริง เจ๋งจริง โปรดติดตาม!!

✅โดย ปริม กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา Program Director THE STUDY TIMES 

????ช่องทางรับชม
Facebook และ YouTube: THE STUDY TIMES / THE STATES TIMES

THE STUDY TIMES X ClassOnline X DekThai Online เสาร์อาทิตย์นี้ พบกับ LIVE วิชาภาษาอังกฤษ และวิชาชีววิทยา

???? THE STUDY TIMES X ClassOnline X DekThai Online เสาร์อาทิตย์นี้

????วันเสาร์ที่ 24 กรกฎาคม และ วันอาทิตย์ที่ 25 กรกฎาคม 2564

⏰เวลา 16.00 น.

พบกับ LIVE วิชาภาษาอังกฤษ และวิชาชีววิทยา

????วันเสาร์ที่ 24 กรกฎาคม
วิชาภาษาอังกฤษ: เรื่อง ตัวอย่างข้อสอบวิชาสามัญ (ภาษาอังกฤษ)

โดย ครูพี่ทาม์ย ฐานุวัชร์ รินนานนท์
ศิลปศาสตร์บัณฑิต สาขาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา (เรียนเน้นภาษาสเปน) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, อาจารย์ผู้สอนอบรม TOEIC ให้องค์กรภาครัฐและเอกชนระดับประเทศ
#สอนวิชาภาษาอังกฤษ ระดับ ม.ต้น-ม.ปลาย

????วันอาทิตย์ที่ 25 กรกฎาคม
วิชาชีววิทยา: เรื่อง Brain

โดย ครูหมอเมศ กฤษณะ ธรรมศิริ 
ปริญญาตรี คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
#สอนชีววิทยาม.ต้น-ม.ปลาย

????ช่องทางรับชม LIVE
Facebook และ Youtube: THE STUDY TIMES

ต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว THE STUDY TIMES ได้แนะนำแอปพลิเคชันสอนภาษาจีนไว้ใช้ในช่วงโควิด วันนี้เราก็ขอมาแนะนำอีก 5 แอปพลิเคชันกันที่ไว้ใช้ศึกษาภาษาจีนเพิ่มเติมกัน ที่นอกจากจะได้ภาษาแล้วยังได้ความสนุกเพิ่มอีกด้วย !

Pleco Chinese Dictionary

เป็นแอปพลิเคชันพจนานุกรมภาษาจีนมีคำศัพท์ยอดนิยมกว่า 110,000 คำ และมีตัวอย่างประโยคที่ใช้ในชีวิตประจำวันกว่า 25,000 ประโยค นอกจากนี้ยังมีแบบอักษรจีนสไตล์ Kai / Song / Xing อีกทั้งยังมีฟังก์ชั่นในการอ่านคำจากลายมือหรือเอกสารทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าใจและออกเสียงได้อย่างถูกต้องอีกด้วย

Chinese Zombie – เกมส์คำศัพท์ ภาษาจีน

เป็นแอปที่รวมคำศัพท์พื้นฐานที่ใช้บ่อยและจำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน โดยเป็นการเรียนรู้ไปกับการท่องคำศัพท์และฆ่าซอมบี้ในเกม ทำให้ฝึกในการจำคำศัพท์ได้ง่าย ๆ 

Learn Mandarin Chinese 5,000 Words

โดยการเรียนรู้ในแอปพลิเคชันนี้คือการท่องจำคำศัพท์แบบ FlashCards (บัตรคำศัพท์) เพื่อให้ผู้ใช้ได้เรียนรู้คำศัพท์ภาษาจีนกลาง เพื่อทำให้การท่องจำคำศัพท์ภาษาจีนมีประสิทธิภาพมากขึ้น 

HelloChinese เรียนภาษาจีน

เป็นแอปพลิเคชั่นที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นเรียนภาษาจีนและสามารถเรียนรู้ได้ในระยะเวลาอันสั้น โดยที่ผู้ใช้สามารถฝึกการพูดและการเขียนภาษาจีน ตัวแอปมีฟังก์ชันวิเคราะห์เสียงและฟังก์ชันการเขียนอักษรจีนด้วยมือ อีกทั้งยังมีอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาจีนคอยเรียบเรียงบทเรียนภาษาจีนให้เหมาะสมกับระบบการเรียนรู้ของคนไทยโดยเฉพาะ

เรียนรู้ภาษาจีน

ในแอปพลิเคชันมีข้อความและคำศัพท์ในภาษาจีนที่ใช้เป็นประจำมากกว่า 800 รายการ มีเนื้อหาสำคัญ ๆ เป็นหมวดหมู่ เช่น การทักทาย สุขภาพ ความรัก ฯลฯ และคำศัพท์พื้นฐานที่ต้องใช้ทุกวัน เช่น วันที่ เวลา สภาพอากาศ สีต่าง ๆ ฯลฯ เหมาะสำหรับผู้ที่อยากเริ่มต้นเรียนภาษาจีนมาก ๆ เลยค่ะ

หวังว่าผู้อ่านจะได้ลองฝึกภาษาจีนในช่วงที่ต้องกักตัวแบบนี้นะคะ ถือว่าเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์สูงสุด และทำให้เราได้ฝึกอีกภาษาหนึ่ง เป็นการเปิดโลกกว้างให้ตัวเราประสบคามสำเร็จอีกด้วยค่ะ นอกจากการเรียนผ่านแอปพลิเคชันที่เราได้แนะนำไปแล้วนั้น การฝึกภาษาง่าย ๆ อาจจะเป็นการดูซีรีส์หรือฟังเพลงก็จะช่วยพัฒนาทางด้านภาษาของเราไปได้อีกมากเลยละค่ะ

เก่งภาษาจีนได้ง่ายในช่วงโควิด ด้วย 10 แอปพลิเคชัน (ตอนที่ 1)
Click on Clever >> https://thestatestimes.com/post/2021071305


ที่มา : https://www.iphonemod.net/10-application-practice-chinese-language.html


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top