Monday, 12 May 2025
Crimes

ตำรวจไซเบอร์ รวบหนุ่มแสบแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นพนักงาน FedEx ทำหน้าที่เป็นสายที่ 1 หลอกผู้เสียหาย อ้างมีพัสดุผิดกฎหมายตกค้างที่กรมศุลกากร พบความเสียหายกว่า 42 ล้านบาท

ตามนโยบายของรัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ในด้านการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภัยการหลอกลวงประชาชนจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน

กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญช ผบช.สอท. ได้ให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าว ได้กำชับสั่งการให้ทุกกองบังคับการในสังกัด เร่งดำเนินการปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยให้มีผลการปฏิบัติเป็นรูปธรรม และต่อเนื่อง

วันนี้ (5 พ.ค. 66) เวลา 10.00 น. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.นิเวศน์ อาภาวศิน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ฐายุฏฐ์ จันทร์ถาวร รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ไพโรจน์ สุขรวยธนโชติ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1, พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท., พ.ต.อ.พิเชียรยศ อรุณพันธกุล ผกก.1 บก.สอท.1 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวกรณี เปิดปฏิบัติการทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมีพฤติการณ์การกระทำผิด และผลการปฏิบัติ ดังต่อไปนี้
.
สืบเนื่องมาจากได้มีผู้เสียหายเป็นนักธุรกิจถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงว่าเป็นพนักงานบริษัทขนส่ง FedEx มีพัสดุผิดกฎหมายส่งจากต่างประเทศติดที่กรมศุลาการ ได้ระบุชื่อที่พัสดุเป็นชื่อนามสกุลผู้เสียหาย มีความเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดฐานฟอกเงิน จึงหลงเชื่อโอนเงินไปจำนวนกว่า 42 ล้านบาท ภายหลังทราบว่าถูกหลอกลวงจึงได้ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ผ่านระบบการรับแจ้งความออนไลน์ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด บก.สอท.1 จึงได้ทำการสืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบเส้นทางการเงิน หาความเชื่อมโยงทางคดี กระทั่งเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2565 พนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้ได้

ต่อมาเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2566 เวลาประมาณ 14.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด บก.สอท.1 ได้จับกุมตัว นายสุรเกียรติ ขอสงวนนามสกุล อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 2297/2565 ลงวันที่ 28 ตุลาคม 2565 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น,ร่วมกันเป็นอั้งยี่, ร่วมกันเป็นซ่องโจร, ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน” ที่ตำบลศาลากลาง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี 

ทลายโรงชำแหละรถโจร แก๊ง 'มาม่าซัง-สายมู' สืบนครบาลขยายผล จาก 'เซเลบเก๊' หลอกหญิงก่อนขโมยรถส่งขายโรงชำแหละ

วันที่ 5 พ.ค. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำทีม พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. / หน.PCT ชุดที่ 5 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. (PCT) ชุดที่ 5 , ชุดสืบสวนนครบาล แถลงผลการจับกุม ตัวสองสามีภรรยาซึ่งเป็น 'หัวหน้า' เครือข่ายคือ นางสมนึก ขุนทอง อายุ 65 ปี (มาม่าซัง) อยู่บ้านเลขที่ 95 ม.3 ต.จอมประทัด อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1339/2566 ลงวันที่ 3 พ.ค. 66

น.ส.กนกวรรณ ขุนทอง อายุ 41 ปี (ลูกสาว) อยู่บ้านเลขที่ 14 ซ.นนทบุรี 6 แยก 6/2 ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1338/2566 ลงวันที่ 3 พ.ค. 66 น.ส.นฤมล สังขนัครา อายุ 19 ปี (หลานสาว) ซึ่งเป็น steammer game online สายเซ็กซี่) อยู่บ้านเลขที่ 95 ม.3 ต.จอมประทัด อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1337/2566 ลงวันที่ 3 พ.ค. 66 นายรุ้ง ศรีบุญเพ็ง อายุ 47 ปี (ลูกเขย) อยู่บ้านเลขที่ 763/8 ม.19 ต.หนองมะค่าโมง อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1340/2566 ลงวันที่ 3 พ.ค. 66 ข้อหาร่วมกันรับของโจรอันเป็นการค้ากำไร โดยจับกุมได้ที่ หน้าบ้านเลขที่ 95 ม.3 ต.จอมประทัด อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี 

พร้อมของกลาง รถยนต์ ยี่ห้อ Toyota รุ่น Yaris ติดป้ายแผ่นทะเบียน 7042 ฉะเชิงเทรา รถยนต์ยี่ห้อ Mitsubishi รุ่น Mirage ติดป้ายแผ่นทะเบียน กว 7159 นครสวรรค์ รถยนต์ยี่ห้อ Toyota รุ่น Fortuner ติดป้ายแผ่นทะเบียน ขฉ 5190 กรุงเทพมหานคร รถยนต์ยี่ห้อ Honda รุ่น City ติดป้ายแผ่นทะเบียน ขห 2489 เชียงใหม รถยนต์ยี่ห้อ mazda 3 ติดป้ายแผ่นทะเบียน ศอ5206 กรุงเทพมหานคร รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น ซิตี้ สีดำ ติดป้ายแผ่นทะเบียน กจ 9257 เลย รถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น ยาริส สี เทา ติดป้ายแผ่นทะเบียน 2ขอ 3198 กทม รถยนต์ยี่ห้อ นิสสัน รุ่น อัลเมร่า สีขาว ติดป้ายแผ่นทะเบียน 6กฆ 1135 กทม. รถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น วีออส สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน รถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น วีออส สีเทา ติดป้ายแผ่นทะเบียน กพ4693 ภูเก็ต

​พฤติการณ์ เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ที่ผ่านมา พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่จับกุมตัว นายภีรพัฒน์ บุญมี อายุ 26 ปี หรือ อุ้ม หรือ อั้ม หรือ พอช หรือ พัด หรือ แซ็ค หรือ แร็ค ผู้ต้องหาตามหมายจับ 7 หมายจับ ซึ่งคนร้ายรายนี้ได้แฝงตัวอยู่ในแอ็พพลิเคชั่นหาคู่ สร้างโปรไฟล์เป็น “เซเลบเก๊” ทำการ “นัดยิ้ม” กับเหยื่อที่เป็นหญิงสาวและจะอาศัยจังหวะที่เหยื่อนอนหลับไป “ขโมยรถ” ของเหยื่อไปขายให้กับกลุ่มผู้ค้ารถเถื่อน 

ภายหลังจับกุม พล.ต.ต.ธีรเดช ได้ขยายผล จนสืบทราบเบาะแสว่ารถยนต์ของเหล่าหญิงสาวผู้เสียหายที่ถูกเซเลบเก๊รายนี้ขโมยไปนั้น ถูกนำไปขายให้กับ “มาม่าซัง” ย่านบางบัวทอง เป็น “สายมู” ที่ชื่นชอบดูดวง จากแนวทางการสืบทราบว่า มาม่าซัง คือ นางสมนึก ขุนทอง ที่มีผู้ร่วมขบวนการ เป็นลักษณะ “ธุรกิจครอบครัว”

จากแผนประทุษกรรมของแก๊งนี้ จะเปิดกิจการร้านนวดบังหน้า และใช้พื้นที่ด้านหลังร้าน เป็นสถานที่ซุกซ่อนรถที่ไปรับซื้อจากเหล่ามิจฉาชีพ หรือรถที่หลุดจำนำ ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการ “ชำแหละ” แยกอะไหล่ชิ้นส่วนรถยนต์ ซึ่งภายในโรงชำแหละ พบมีเครื่องไม้เครื่องมือในการแยกชิ้นส่วนรถยนต์ เรียกได้ว่า “ครบวงจร” ก่อนจะนำชิ้นส่วนรถขายทอดตลาด จากการสืบสวนแก๊งมาม่าซัง จะรับรถเข้ามาโดยเฉลี่ยแล้วสัปดาห์ละไม่น้อยกว่า 5 คัน และเป็น “เจ้าใหญ่”

‘ปอศ.’ เข้าจับกุม ‘อดีตพนักงานแบงก์’ ขโมยเอกสารลูกค้า เพื่อนำไปสมัครสินเชื่อบัตรเครดิต ฮุบเงินไปกว่า 8 แสนบาท

เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 66 พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.เมฆพิศาล ศรีภิรมย์ ผกก.5 บก.ปอศ., พ.ต.ต.วรวุฒิ คงรักษา สว.กก.5 บก.ปอศ. จับกุม น.ส.ณฐมน หรือพิมพ์ณิภา อายุ 42 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “ใช้และมีไว้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่น โดยมิชอบ, ลักทรัพย์, ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และพยายามลักทรัพย์” จำนวน 2 หมายจับ โดยจับกุมได้ที่บริเวณหน้าบ้านพัก ม.3 ต.ท่าผา อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี

เนื่องจากเมื่อปี 2555 จนถึงปี 2563 ขณะที่ น.ส.ณฐมน ยังทำงานเป็นพนักงานธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง ฝ่ายสินเชื่อ แต่กลับแอบนําเอกสารข้อมูลของลูกค้ายื่นสมัครขอสินเชื่อบัตรเครดิต ก่อนนำไปตระเวนกดเงินสดกว่า 60 ครั้ง รวมเป็นเงินกว่า 8 แสนบาท กระทั่งเมื่อมีการตรวจสอบพบความจริง จึงมีการเข้าแจ้งความไว้ที่ กก.5 บก.ปอศ. จนมีการออกหมายจับ แต่ระหว่างนั้น น.ส.ณฐมน เกิดไหวตัวทันรีบชิงหลบหนีออกนอกพื้นที่ไปได้ก่อน ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทราบว่าปัจจุบัน น.ส.ณฐมน ได้หนีมาซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จ.ราชบุรี จึงนำกำลังตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว

'เชียงราย' จับกุมผู้ต้องหาพยายามลักลอบนำรถจักรยานยนต์ 15 คันออกนอกราชอาณาจักรโดย 'ผิดกฎหมาย' ชายแดนแม่สาย

เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2566ที่ผ่านมา เวลา 21.00 นาฬิกา หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก กองกำลังผาเมือง โดย กองร้อยทหารม้าที่ 3 หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก จัดกำลังพล 1 ชุดปฏิบัติการ ทำการ ลาดตระเวนเพื่อป้องกันและสกัดกั้นการกระทำผิดตามแนวชายแดนในพื้นที่ บ้านแม่สาย ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ได้ตรวจพบบุคคลต้องสงสัยท่าทางมีพิรุธกำลังจะนำรถจักรยานยนต์  

ลักลอบนำออกนอกราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร บริเวณ บ้านเลขที่ 923 บ้านแม่สาย

ตำรวจไซเบอร์ จับกุมขบวนการ Hybrid Scam : Bidget-coins ตุ๋นเหยื่อสูญเงินกว่า 2.5 ล้าน

กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 จับกุมขบวนการ แอบอ้างเป็นหญิงสาวหน้าตาดี เข้ามาตีสนิทผ่านโลกออนไลน์ จากนั้นชักชวนลงทุนเทรดเงินดิจิทัล ผลตอบแทนสูงร้อยละ 50 จนเหยื่อหลงเชื่อ สูญเงินรวมกว่า 2.5 ล้านบาท

สืบเนื่องจากเมื่อเดือนธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา มีประชาชนซึ่งตกเป็นผู้เสียหาย จากการถูกกลุ่มขบวนการ Hybrid Scam หลอกให้รักแล้วลงทุน ใช้โปรไฟล์หญิงสาวหน้าตาดี เข้ามาทักทายตีสนิทผ่านทางเฟสบุ๊ค จากนั้นได้มีการพูดคุยติดต่อกันทางแอปพลิเคชั่น ไลน์ เรื่อยมาประมาณ 1 เดือน และได้เริ่มชักชวนให้ผู้เสียหายลงทุนเทรด ซื้อขายเงินสกุลดิจิทัล USDT ซึ่งมีผลตอบแทนสูงถึงร้อยละ 50 ของเงินลงทุน เมื่อผู้เสียหายสนใจ คนร้ายได้ส่งแพลตฟอร์ม Bidget-coins เพื่อให้ผู้เสียหายสมัครสมาชิกเข้าไปลงทุน ซึ่งในช่วงแรกสามารถทำกำไรและเบิกถอนเงินได้ตามปกติ จนกระทั่งผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินเข้าบัญชีคนร้าย จำนวน 7 ครั้ง รวมเป็นเงินกว่า 2,588,000 บาท ต่อมาไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ โดยคนร้ายใช้ข้ออ้างต่างๆ เช่น ต้องชำระค่าภาษีหรือค่าธรรมเนียม หรือ ต้องเพิ่มการลงทุนให้มากขึ้น จึงจะถอนเงินได้ เมื่อผู้เสียหายรู้ตัวว่าถูกหลอกจึงได้มาร้องทุกข์กับ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 

ได้ไม่คุ้มเสีย! สืบนครบาลรวบสาวกลางอนุสาวรีย์ชัย รับจ้างเปิดบัญชีม้า เช็กประวัติมีหมายจับเพียบ

วันที่ 7 พ.ค. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. / หน.PCT ชุดที่ 5 , พร้อมด้วย พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฏศรี , พ.ต.ท.ยิ่งยศ ลีชัยอนันต์ , พ.ต.ท.พิทักษ์ ศรีกะแจะ ร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนครบาล (บก.สส.บช.น.) นำกำลังจับกุม น.ส.ชัญญานุช ใคร่ครวญ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 107/7 หมู่ที่ 6 ต.บางเตย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ตามหมายจับกว่า 10 หมายจับ 

ประกอบด้วย หมายจับศาลจังหวัดยโสธรที่ จ.76/2565 ลงวันที่ 9 ส.ค. 65 หมายจับศาลจังหวัดพังงาที่ จ.222/2565 ลงวันที่ 28 ก.ย. 65 หมายจับศาลจังหวัดนนทบุรีที่ จ.631/2565 ลงวันที่ 15 พ.ย. 65 หมายจับศาลจังหวัดราชบุรีที่ จ.328/2565 ลงวันที่ 13 ธ.ค. 65 หมายจับศาลจังหวัดนครปฐมที่ จ.531/2565 ลงวันที่ 29 ธ.ค. 65 หมายจับศาลจังหวัดเกาะสมุยที่ จ.10/2566 ลงวันที่ 12 ม.ค. 66 หมายจับศาลอาญาที่ 75/2566 ลงวันที่ 12 ม.ค. 66 หมายจับศาลอาญาที่ จ.166/2566 ลงวันที่ 16 ม.ค. 66 หมายจับศาลอาญาพระโขนงที่ จ.168/2566 ลงวันที่ 23 มี.ค. 66 และหมายจับศาลจังหวัดกระบี่ที่ จ.147/2566 ลงวันที่ 24 มี.ค. 66 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน จับตัวได้ที่ “กลางถนน” บริเวณ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี จ.กรุงเทพ

‘ตำรวจ’ คุมตัว ‘อดีตพระอาจารย์คม’ พร้อมพวกอีก 2 ราย ฝากขังศาลอาญา หลังยักยอกเงินวัด 180 ลบ. พร้อมค้านประกัน

(8 พ.ค. 66) พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อขอฝากขัง 3 ผู้ต้องหา ได้แก่ 1. นายคม หรืออดีตพระอาจารย์คม อายุ 39 ปี 2. นายวุฒิมา หรือพระหมอ อายุ 38 ปี 3. น.ส.จุฑาทิพย์ อายุ 35 ปี

โดย ท้ายคำร้องได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี และไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานในคดี

สำหรับคดีนี้ ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ได้จับกุม 1. นายคมฯ หรืออดีตพระอาจารย์คม อายุ 39 ปี 2. นาย วุฒิมา หรือพระหมอ อายุ 38 ปี และ 3. น.ส.จุฑาทิพย์ฯ อายุ 35 ปี

‘กรมโรงงานฯ’ จ่อแจ้งจับ ‘แอม-ไอซ์’ ใช้ไซยาไนด์ผิดวัตถุประสงค์ เตรียมประสาน ‘สคบ.’ ตรวจร้านออนไลน์ ยัน!! พร้อมเพิ่มความเข้มงวด

กรมโรงงานฯ จ่อดำเนินคดี ‘แอม’ และ ‘ไอซ์’ ดาราสาว ใช้ไซยาไนด์ผิดวัตถุประสงค์ โทษจำคุกไม่เกินสามปี ปรับไม่เกิน 3 แสน อธิบดีฯ ยืดอกป้องลูกน้อง รับประกันต่อไปจะเข้มงวดมากกว่านี้

(8 พ.ค. 66) ที่ กองปราบปราม นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวภายหลังร่วมประชุมใหญ่กับตำรวจชุดคลี่คลายคดี นางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ ‘แอม ไซยาไนด์’ และกรณี น.ส.ปรีชญา พงษ์ธนานิกร หรือ ‘ไอซ์’ ดาราสาวที่ได้ทำการสั่งซื้อไซยาไนด์ เพื่อนำไปใช้วางยาฆ่าสัตว์เลื้อยคลานว่า ทางกรมโรงงานอุตสาหกรรม ในฐานะผู้เสียหาย จะต้องแจ้งความดำเนินคดีกับคนกลุ่มนี้ด้วย ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกินสามปี ปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

‘นิว ภาคภูมิ’ เจ้าของเว็บพนัน 27 เว็บ และมือขวา ‘สารวัตรซัว’  ผูกคอเสียชีวิตในห้องขัง คาด!! เกิดจากความเครียดหลังถูกจับ

เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 66 มีรายงานว่า เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุผู้ต้องหาผูกคอตายภายในห้องขัง สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว จากการตรวจสอบพบว่า ผู้เสียชีวิตคือ นายภาคภูมิ หรือ นายนิว ผู้ต้องหาเครือข่ายคดีเว็บพนันออนไลน์ของพ.ต.ท.วสุวัตต์ มุครสกุล หรือ สารวัตรซัว อดีตข้าราชการตำรวจ ที่อยู่ระหว่างหลบหนีคดีเกี่ยวข้องกับพนันออนไลน์รายใหญ่

ข่าวแจ้งว่า สภาพศพของนายภาคภูมิ เสียชีวิตในสภาพใช้ผ้าห่มผูกคอตนเองโยงกับลูกกรงห้องขัง ไม่สวมเสื้อ สวมเพียงกางเกงขายาวสีเทาเพียงตัวเดียว คาดเสียชีวิตไม่เกิน 6 ชั่วโมง

สำหรับนายภาคภูมิ ถูกจับกุมได้เมื่อช่วงประมาณ 20.00 น.ของวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังดีเอสไอออกหมายจับในความผิดเกี่ยวกับพนันออนไลน์และการฟอกเงินของสารวัตรซัว เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเกิดจากความเครียดหลังถูกจับกุม เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นเจ้าของเว็บพนัน 27 เว็บไซต์ มีฐานอยู่ในฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา และยังถูกแจ้งความดำเนินคดีก่อเหตุมอมเหล้าและกระทำอนาจารด้วย

‘สองผัวเมีย’ ชิ่งหนี!! หลังชวน ‘ออมเพชร’ โกงเงินไปหลายสิบล้าน ล่าสุดได้คืนมาบางส่วน ผู้เสียหายเพียบ คาดมูลค่าอาจถึง 100 ลบ.

เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี มีผู้เสียหายและพนักงานร้านเพชรชื่อดังย่าน จ.สมุทรสาคร ที่เปิดขายเพชร-ทอง ทั้งหน้าร้านและออนไลน์ ถูกเจ้าของร้านซึ่งเป็นสองสามีภรรยาปิดร้านหนีไปทำให้พนักงานร้านเพชรมืดแปดด้าน มิหนำซ้ำ สองสามีภรรรยายังค้างส่งของเพชรให้ลูกค้ากว่า 300 ราย  รวมมูลค่าความเสียหายหลาย 50 ล้านบาท ตอนนี้ชิ่งหนีหายเข้ากลีบเมฆ พนักงานและผู้เสียหายได้รวมตัวกันร้องดำเนินคดีกับกองบังคับการปราบปรามและร้องขอความช่วยเหลือจากทนายความตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันนี้ ผู้สื่อข่าวจ.อุดรธานีได้รับการประสานงานจาก นายภาณุมาศ จิตรวศินกุล หรือ “เฮียเปี๊ยกช่วยด้วย” ว่าสามารถติดตามเพชรของ น.ส.นุจรี ที่ซื้อไว้กับ น.ส.นันทิดา ได้แล้วบางส่วน ที่เป็นแห่งหนึ่งที่สองสามีภรรยาสั่งออเดอร์มาเพื่อนำมาไลฟ์สดเพื่อให้กับลูกค้า แต่สุดท้ายไม่ส่งคืนให้ โดยไปติดตามได้จากน้าสาวที่ จ.อุดรธานี เป็นเลสข้อมือทองคำขาวล้อมด้วยเพชรแท้ จำนวน 4 ชิ้น และแหวนเพชรอีก 4 วง ซึ่งส่วนใหญ่น่าจะเป็นลูกค้าสายมูเป็นเลสข้อมือรูปร่างพญานาคและงู รวมมูลค่าทั้งหมดเกือบ 800,000 บาท

นายภาณุมาศ เปิดเผยว่า ตนได้รับการประสานงานจากทนายไพศาลและคุณนุจรี ผู้เสียหายว่า ร้านเพชรออนไลน์ที่ จ.สมุทรสารคร ของนายเสรี กับนางสาวนันทิดา เจ้าของร้านเพชรชื่อดังที่จังหวัดสมุทรสาคร และมาทำธุรกิจร้านอาหารและร้านกาแฟที่ จ.อุดรธานี ซึ่งหลังจากได้รับการประสานจึงลงพื้นที่ตามหา เพราะเรามีเบาะแสว่าผู้ต้องหาทั้งสองคนมาประกอบธุรกิจร้านอาหารที่ เมื่อเข้าไปสอบถามที่ร้านอาหารพบว่ามีเพียงแต่พนักงานอยู่ และพนักงานแจ้งกลับมาว่าเจ้าของไม่ได้เข้าร้านมาประมาณ 3-4 วัน แล้วพนักงานเองก็ยังไม่ได้เงินเดือนด้วย จึงได้ไปสอบถามไปทางผู้จัดการร้าน ชื่อคุณ “จ” ให้ช่วยประสานญาติแตะติดต่อนัดเจอพูดคุย ซึ่งทางญาติทราบต่อมาว่าเป็นน้าของคุณนันทิดาก็ออกมาพบและเมื่อสอบถามหาผู้ต้องหาทั้ง 2 คน น้าก็ปฏิเสธไม่รู้ว่าอยู่ไหน และส่วนเรื่องเพชรน้าสาวก็เพิ่งรู้ว่าเรื่องนี้เป็นคดีความและเป็นข่าวไปแล้ว

เมื่อสอบถามด้านน้าสาวบอกว่า เคยเห็นเครื่องเพชรแบบนี้ที่ร้านส่งมา ทางน้าสาวก็ตอบกลับมาว่าเครื่องเพชรนี้มีอยู่กับตน โดยตอนนั้นหลานคือนางสาวนันทิดานำมาฝากไว้ แล้วฝากความบอกด้วยว่าเครื่องเพชรจำนวนนี้เป็นขอนุจรี เดี๋ยวนุจรีจะมาเอา จากนั้นหลานก็ไม่กลับมาอีกเลย ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหน น้าจึงมอบเครื่องเพชรในตนส่งมอบต่อให้คุณนุจรีต่อไป โดยวันนี้ตนจะนำเครื่องเพชรส่งคืนให้เจ้าของต่อไปโดยนัดส่งมอบที่กองปราบที่กรุงเทพฯต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top