Friday, 6 June 2025
แผ่นดินไหว

เหตุแผ่นดินไหว 7.3 เขย่าวานูอาตู สถานทูตไทยในออสเตรเลียเร่งช่วยเหลือ

(19 ธ.ค.67) กระทรวงการต่างประเทศแถลงการณ์ว่า ตามที่ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวในวานูอาตูเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 17 ธ.ค. 2567 ตามเวลาท้องถิ่น ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวระดับ 7.3 ห่างจากกรุงพอร์ตวิลา ประมาณ 30 กม. และมีแผ่นดินไหวต่อเนื่อง (aftershock) ที่จุดเดิมอีกครั้งระดับ 5.5 ส่งผลให้เกิดดินถล่ม รถยนต์ และอาคารบ้านเรือนได้รับความเสียหายอย่างมาก และท่าอากาศยานนานาชาติกรุงพอร์ตวิลาได้ปิดทำการชั่วคราวเนื่องจากเกิดความเสียหายบริเวณรันเวย์ นั้น

นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้คนไทยเสียชีวิต 1 ราย และได้รับบาดเจ็บ 3 ราย

กระทรวงการต่างประเทศขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งรับผิดชอบดูแลวานูอาตู ได้ติดต่อผู้แทนชุมชนคนไทยตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ และได้ประสานกรมการกงสุลเพื่อติดต่อประสานกับญาติผู้เสียชีวิตแล้ว สถานเอกอัครราชทูตฯ จะประสานทางการท้องถิ่น เพื่อดำเนินกระบวนการที่เกี่ยวข้องต่อไป รวมถึงได้ติดต่อสอบถามอาการผู้บาดเจ็บทั้ง 3 คนแล้ว ทราบว่ามีอาการบาดเจ็บเล็กน้อย และดีขึ้นแล้วเป็นลำดับ

ชุมชนไทยในวานูวาตูมีประมาณ 40 คน แต่มีหลายคนที่ได้เดินทางกลับภูมิลำเนาในประเทศไทยในช่วงปลายปีไปบ้างแล้ว ในชั้นนี้ยังไม่ประสบปัญหาเกี่ยวกับการขาดแคลนอาหารและน้ำ โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ จะติดตามสถานการณ์ และให้ความช่วยเหลือชุมชนไทยอย่างใกล้ชิดต่อไป

เขย่าทิเบต ดับ 53 เจ็บ 62 ราย แรงสั่นสะเทือนไกลถึง ‘เนปาล-ภูฏาน-อินเดีย’

(7 ม.ค. 68) สำนักงานใหญ่การบรรเทาภัยพิบัติเขตปกครองตนเองทิเบต (ซีจ้าง) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน รายงานว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.8 ตามมาตราแมกนิจูด ที่อำเภอติ้งรื่อ เมืองรื่อคาเจ๋อ เมื่อเวลา 09.05 น. ของวันอังคารที่ 7 มกราคม ตามเวลาปักกิ่ง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 53 ราย และผู้บาดเจ็บ 62 รายจนถึงช่วงเที่ยง

ทางกองบัญชาการยุทธภูมิตะวันตกแห่งกองทัพปลดแอกประชาชนจีน (PLA) ได้รายงานว่า ได้ส่งโดรนเข้าสำรวจพื้นที่จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว และกองทัพอากาศของกองบัญชาการฯ ได้เริ่มปฏิบัติการบรรเทาภัยพิบัติฉุกเฉินทันที โดยใช้เครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ขนส่งและการแพทย์ รวมทั้งกองกำลังภาคพื้นช่วยเหลือการบรรเทาภัยพิบัติ

แผ่นดินไหวครั้งนี้ยังรู้สึกได้ที่กรุงกาฐมาณฑุของเนปาล ซึ่งอยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางประมาณ 400 กิโลเมตร และทำให้ประชาชนต้องวิ่งหนีออกจากบ้านเรือน ขณะที่กรุงทิมพู เมืองหลวงของภูฏาน และรัฐพิหารในอินเดีย ซึ่งมีพรมแดนติดกับเนปาล ก็สามารถรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนได้เช่นกัน

เจ้าหน้าที่จากอินเดียระบุว่า ยังไม่มีรายงานทรัพย์สินเสียหายจากแผ่นดินไหวในครั้งนี้

ภูมิภาคทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เนปาล และอินเดียเหนือ มักประสบกับเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงเนื่องจากอยู่บริเวณรอยต่อของแผ่นเปลือกโลกอินเดียและยูเรเซีย

ก่อนหน้านี้ในปี 2008 แผ่นดินไหวรุนแรงที่มณฑลเสฉวนของจีนคร่าชีวิตผู้คนไปเกือบ 70,000 คน และในปี 2015 ก็เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.8 ใกล้กรุงกาฐมาณฑุของเนปาล ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 9,000 คน บาดเจ็บหลายพันคน และถือเป็นแผ่นดินไหวที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของเนปาล

‘ญี่ปุ่น’ มีความเสี่ยง!! เกิดแผ่นดินไหวมหึมา ‘เมกะเควก’ เพิ่มมากถึง 82% ในอีก 30 ปีข้างหน้า

(18 ม.ค. 68) คณะกรรมธิการวิจัยแผ่นดินไหวของญี่ปุ่นเพิ่มระดับความเป็นไปได้ที่จะเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่มากเป็นร้อยละ 75-82 จากเดิมอยู่ที่ระหว่างร้อยละ 74-81 และประเมินว่าความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นจากเมกะเควกขนาด 8-9 แม็กนิจูดจะทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิคร่าชีวิตผู้คนหลายแสนรายและสร้างความเสียหายหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

แผ่นดินไหวระดับมหาวิปโยคที่อาจเกิดขึ้นเป็นผลจากการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกใน ‘ร่องลึกนันไก’ ซึ่งมีความยาวประมาณ 800 เมตร ทอดตัวขนานไปกับชายฝั่งแปซิฟิกของญี่ปุ่น

ร่องน้ำลึกก้นสมุทรนันไกอยู่บนแผ่นเปลือกโลกฟิลิปปินส์และกำลังมุดตัวหรือค่อยๆ เคลื่อนตัวอยู่ใต้แผ่นเปลือกโลกที่ญี่ปุ่นตั้งอยู่ หลังจากแผ่นเปลือกโลกเคลื่อนตัวแล้วจะหยุดชะงัก กักเก็บพลังงานมหาศาล ก่อนปล่อยออกมาและเป็นสาเหตุให้เกิดแผ่นดินไหวขนาดมหึมา

สำนักงานส่งเสริมการวิจัยแผ่นดินไหวของรัฐบาลระบุว่าในช่วง 1,400 ปีที่ผ่านมา เกิดแผ่นดินไหวในร่องลึกนันไกทุกๆ 100-200 ปี โดยแผ่นดินไหวรุนแรงครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อปี 2489 หรือ 79 ปีก่อนและความเสี่ยงที่อาจจะเกิดแผ่นดินไหวจะเพิ่มขึ้นทุกปีในอัตราร้อยละ 1

รัฐบาลญี่ปุ่นคาดการณ์ไว้เมื่อปี 2555 ว่าหากเกิดแผ่นดินไหวเมกะเควกขึ้นมาจะทำให้เกาะเล็กๆ นอกชายฝั่งของเกาะหลักอาจทำให้เกิดสึนามิสูงกว่า 30 เมตร พื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นบนเกาะหลัก ทั้งเกาะฮอนชูและชิโกกุจะถูกคลื่นยักษ์ถล่มภายในไม่กี่นาที

เมื่อเดือนส.ค.2567 กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นออกประกาศเตือนภัยแผ่นดินไหวขนาดมหึมาเป็นครั้งแรกตามกฎระเบียบที่ร่างไว้ หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิที่ภูมิภาคโทโฮคุเมื่อปี 2554 และมีความเป็นไปได้มากขึ้นที่อาจเกิดแผ่นดินไหวใหญ่แถบร่องลึกนันไก หลังเกิดแผ่นดินไหวที่ความรุนแรงขนาด 7.1 แม็กนิจูด ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 15 คน

แม้ประกาศยกเลิกคำเตือนหลังผ่านพ้นเหตุการณ์ระทึกขวัญไปได้ 1 สัปดาห์แล้ว แต่ทำให้ประชาชนตื่นตระหนกและพากันกักตุนข้าวสารและสิ่งของจำเป็นอื่นๆ

ทั้งนี้ เมื่อปี 2250 หรือเมื่อ 318 ปีก่อน ทุกส่วนของร่องลึกนันไกเคยแตกออกมาพร้อมกันทำให้เกิดแผ่นดินไหวครั้งยิ่งใหญ่และยังเป็นแผ่นดินไหวที่ทรงพลังเป็นอันดับ 2 ของประเทศจนถึงทุกวันนี้

แผ่นดินไหวครั้งนั้นส่งผลให้ภูเขาไฟฟูจิปะทุเป็นครั้งสุดท้าย หลังจากนั้นเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงในร่องลึกนันไก 2 ครั้งในปี 2397 และอีก 2 ครั้ง ในปี 2487 และ 2489

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติสั่งด่วนตำรวจทุกพื้นที่ออกตรวจตรา ช่วยเหลือ อพยพประชาชนหรือผู้ประสบภัยไปพื้นที่ปลอดภัย กรณีเกิดเหตุแผ่นดินไหวรับรู้ได้ทั่วประเทศ

(28 มี.ค.68) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการด่วนตำรวจทุกพื้นที่ ให้ดูแลช่วยเหลือพี่น้องประชาชน หลังจากเวลาประมาณ 13.30 น. เกิดแผ่นดินไหว จุดศูนย์กลางอยู่บริเวณประเทศเมียนมา ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน สามารถรับความรู้สึกสั่นไหวบริเวณกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ โดยในกรุงเทพมหานคร เกิดเหตุอาคารทรุด มีผู้ประสบภัยจำนวนมาก

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้กำชับให้ตำรวจทุกพื้นที่ติดตามความเคลื่อนไหวและข่าวสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และให้ออกตรวจตรา และให้ความช่วยเหลือ อพยพประชาชนออกนอกอาคารหรือตึกสูงไปยังพื้นที่ปลอดภัย กรณีที่พื้นที่ใดมีผลกระทบหรือมีเหตุตึกอาคารทรุดหรือไม่ปลอดภัย ให้เร่งเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยและนำไปยังพื้นที่พยาบาลหรือพื้นที่ปลอดภัย พร้อมจัดเตรียมบริหารจัดการเหตุในพื้นที่ อำนวยความสะดวกด้านการจราจร เพื่อนำส่งการสนับสนุนด้านต่าง ๆ เน้นการติดต่อสื่อสารสั่งการในพื้นที่ พร้อมสั่งการให้โรงพยาบาลตำรวจจัดบุคลากรทางการแพทย์เตรียมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่จะต้องให้การสนับสนุนช่วยเหลือพี่น้องประชาชน

ชื่นชม!! ‘หมอเต้ย’ ผ่าตัดคนไข้กลางแจ้งหลังเกิดแผ่นดินไหว ผ่าตัดเสร็จภายใน 10 นาที รักษาชีวิตคนไข้ได้ปลอดภัย

เมื่อวานนี้ (28 มี.ค. 68) จากกรณี ผู้ใช้งานเฟซบุ๊กชื่อ Tony Lim ได้มีการแชร์ภาพบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลตำรวจ กำลังผ่าตัดคนไข้กลางแจ้ง หลังเกิดสถานการณ์ภาวะฉุกเฉินแผ่นดินไหว จนมีกระแสทางโซเชียล แห่ชื่นชมว่าเหมือนเป็นหมอฮีโร่ สุดเท่ และให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก

โดย พ.ต.ท.วรัญญู จิรามริทธิ์ แพทย์ศัลยกรรมโรงพยาบาลตำรวจ เปิดเผยผ่านทางโทรศัพท์มือถือว่า คนไข้ต้องมีการผ่าตัดเปิดทวารเทียมทางหน้าท้อง ซึ่งก็มีการผ่าตัดตามกระบวนการ จากนั้นก็ทำการเย็บทวารเทียม แต่ระหว่างที่กำลังผ่าตัดปิดช่องท้องนั้น ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวพอดี ตนและทีมแพทย์ จึงตัดสินใจแพคคนไข้ออกมาจากห้องผ่าตัด ออกมาในจุดที่ปลอดภัยก่อน

จากนั้นก็ประเมินสถานการณ์แล้วว่า คนไข้จำเป็นต้องเร่งผ่าตัดเพื่อปิดช่องหน้าท้องโดยด่วน เพราะถ้าไม่เร่งผ่าตัดปิดหน้าท้อง ก็อาจจะเกิดภาวะลำไส้เคลื่อน แล้วกังวลใจว่าจะมีลำไส้บางส่วนโผล่ออกมาจากช่องท้องแล้วโดนอากาศข้างนอกได้ จึงต้องมีการทำการผ่าตัดบริเวณข้างนอกห้อง และใช้เวลาในการผ่าตัดเพียง 10 นาทีเท่านั้น อีกทั้งขั้นตอนนี้เป็นการเย็บหน้าท้องในขั้นตอนสุดท้าย

ซึ่งก็คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลักอยู่แล้ว เพราะมีการสวมถุงมือ และใช้อุปกรณ์ที่สะอาดปลอดเชื้อโรค คล้ายกับการทำแพทย์สนาม ส่วนอาการของคนไข้ตอนนี้ปลอดภัยดีแล้ว กำลังแอดมิตอยู่ที่ห้องพักของโรงพยาบาล

ส่วนตัวไม่ทราบเลยว่ามีการนำภาพไปแชร์ลงในโซเชียลและมีคนชื่นชมเป็นจำนวนมาก เนื่องจากตนเองก็เพิ่งเสร็จจากภารกิจการรักษาคนไข้ และเขียนรายงานการรักษาคนไข้ให้กับทางโรงพยาบาล ซึ่งตนเองก็ทำตามหน้าที่ของแพทย์คนหนึ่งที่ต้องช่วยชีวิตคนไข้อย่างดีที่สุด

‘แผ่นดินไหว’ รุนแรงในเมียนมา สะเทือนหนักถึง ‘ไทย’ หลายพื้นที่ ‘สามนิ้วเมียนมา’ ฉวยโอกาสกุข่าว ‘กองทัพเมียนมา’ ทดลองอาวุธนิวเคลียร์

กลายเป็นเหตุการณ์ที่ช็อกคนไทยอย่างมาก โดนเฉพาะคนกรุงเทพฯ ที่ต้องพบกับแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ซึ่งอาจจะเรียกได้ว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้เป็นครั้งที่รุนแรงที่สุดที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ เลยก็ว่าได้

โดยต้นเหตุแผ่นดินไหวอยู่บริเวณเมืองมัณฑะเลย์และเมืองสะกายในเมียนมาห่างจาก อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ไป 326 กิโลเมตร โดยความแรงที่จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวในเมียนมามีความแรงถึง 8.2 ริกเตอร์ ส่งผลให้อาคารบ้านเรือนในเมืองมัณฑะเลย์และสะกายได้รับความเสียหาย รวมถึงผู้คนตกอยู่ในความหวาดหวั่น รวมถึงสะพานข้ามแม่น้ำระหว่างเมืองมัณฑะเลย์และสะกายก็ถล่มจากเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย

ตัดภาพกลับมาที่ประเทศไทย ตัวเอย่าเองก็เป็น 1 ในผู้ประสบเหตุในครั้งนี้เช่นกัน จึงขอเล่าให้ฟัง…

หลังเกิดเหตุ 30 นาทีแรก เอย่ารู้สึกว่า ระบบโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตเหมือนจะล่ม อาจจะเป็นเพราะทุกคนใช้โทรศัพท์ จากนั้นตามมาด้วยรถติดบนถนนอย่างกับศุกร์ปลายเดือนวันฝนตกอย่างไรอย่างนั้น รถติดชนิดที่ว่า ‘ทุกเส้นทางขนาด’ เส้นที่ไม่เคยรถติด ก็ยังติด

แต่สิ่งหนึ่งที่สังเกตเห็นคือทำไมประชาชนต้องต่อว่ารัฐบาลก่อนแทนที่จะต้องช่วยเหลือตัวเองก่อน ซึ่งก่อนอื่นต้องเข้าใจว่านี่คือ ‘พิบัติภัยที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี’ ซึ่งเอย่าแน่ใจว่าจากนี้ประเทศไทยจะมีแผนรับมือเช่นเดียวกันกับเหตุการณ์สึนามิถล่ม

แต่ในเหตุการณ์ร้ายนี้ก็มีเรื่องตลก เมื่อมีข่าวหลุดออกมาตามโซเชียลมีเดียของกลุ่มสามนิ้วในพม่าว่า เหตุที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของกองทัพเมียนมาและมินอ่องหล่าย ใช้เมียนมาเป็นสถานที่ทดสอบขีปนาวุธนิวเคลียร์ แถมเรื่องนี้กลายเป็น ‘Talk of the town’ ในกลุ่มพม่าสามนิ้วในไทยเสียด้วย ก็ไม่รู้สิว่าเอย่าจะพูดอะไรดี คงพูดได้แค่ว่า “เบิ่ดคำสิเว้า”

เอย่าก็หวังให้เสพสื่ออย่าง ‘มีสติ’ นะคะ ไม่ใช่ใช้ ‘อคติ’ บังตา ไม่ว่าจะคนไทยหรือคนพม่า ในครั้งนี้ทุกคนคือผู้ประสบเหตุด้วยกันทุกคนทั้งนั้น

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติสั่งการกำชับตำรวจทุกหน่วยทำงานอย่างเต็มที่ ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว เพิ่มกำลังสายตรวจดูแลสวนสาธารณะที่เปิดรองรับประชาชน

เมื่อวานนี้ (28 มี.ค.68) พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากกรณีเกิดเหตุอาคารก่อสร้างของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (แห่งใหม่) ทรุดตัวถล่ม บริเวณถนนกำแพงเพชร 2 ตรงข้ามศูนย์การค้าเจเจมอลล์ แขวงและเขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ขณะเกิดเหตุแผ่นดินไหวนั้น เมื่อเวลา 17.30 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยมี พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล , พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ สว่างงาม ผู้บังคับการตำรวจจราจร , พล.ต.ต.เจษฎา สวยสม ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 , พ.ต.อ.สุพล ค้ำชู รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผู้กำกับการ สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ร่วมตรวจสอบ

ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้สั่งการให้กองบัญชาการตำรวจนครบาลสำรวจจุดเกิดเหตุทั้งหมด พร้อมกำหนดแผนปฏิบัติ มอบหมายผู้รับผิดชอบในการบริหารการจัดการในทุกมิติ และกำกับดูแลเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติให้เป็นไปตามแผน ขั้นตอนในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมทั้งวางแผนบริหารจัดการและอำนวยการจราจรในที่เกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียง ประชาสัมพันธ์เส้นทางการจราจรทางช่องทางต่าง ๆ ทุกช่องทางเพื่อให้ประชาชนได้รับทราบ ประสานงานและอำนวยความสะดวกนำส่งผู้ได้รับบาดเจ็บไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ให้โรงพยาบาลตำรวจจัดกำลังช่วยเหลือโรงพยาบาลในพื้นที่เพื่อช่วยเหลือดูแลเหลือผู้ป่วย และให้สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ จัดเตรียมชุดปฏิบัติการพร้อมปฎิบัติอยู่ที่ศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า กองบัญชาการตำรวจนครบาล  เพื่อดำเนินการตามหน้าที่และสนับสนุนข้อมูลในการสอบสวนอย่างถูกต้อง กำหนดแผนการสอบสวน การชันสูตรพลิกศพในที่เกิดเหตุ การตรวจพิสูจน์ทางนิติเวช การตรวจอัตลักษณ์บุคคล พร้อมนำสุนัขตำรวจมาช่วยในการค้นหาผู้รอดชีวิตและสนับสนุนการปฏิบัติเมื่อได้รับการร้องขอทันที และให้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำที่กองอำนวยการร่วมของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อประสานงานและการรับข้อมูลที่ชัดเจน ถูกต้อง

นอกจากนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เน้นย้ำให้ถือเป็นภารกิจที่มีความสำคัญ ขอให้ตำรวจทุกนายปฏิบัติหน้าที่และสนับสนุนช่วยเหลืออย่างเต็มกำลังความสามารถ และสั่งการให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล , กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว กำหนดแผนปฏิบัติและบูรณาการปฏิบัติในการจัดกำลังสายตรวจเพิ่มความเข้มในการดูแลความเรียบร้อย ความเป็นอยู่ และปลอดภัย บริเวณสวนสาธารณะที่กรุงเทพมหานครเปิดรองรับประชาชนที่ประสบภัย ตลอด 24 ชั่วโมง ได้แก่ สวนเบญจสิริ, สวนเบญจกิติ, สวนลุมพินี สวนจตุจักร และศูนย์กีฬาทุ่งครุ โดยประสานงานกับเขต กรุงเทพมหานคร ในการจัดไฟส่องสว่าง การอำนวยความสะดวกต่าง ๆ การบริการที่พี่น้องประชาชนที่ไปหลบภัย หรือยังหวั่นวิตกแล้วไม่กลับเข้าอาคาร คอนโด บ้านพัก เพื่อป้องกันการก่อเหตุอาชญากรรมซ้ำซ้อน อันเป็นการซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน

‘รมต.เอกนัฏ’ ส่ง ‘ทีมสุดซอย’ เก็บหลักฐานตึก สตง. ถล่ม ชี้!! หากพบวัสดุก่อสร้างด้อยมาตรฐาน จะเอาผิดให้ถึงที่สุด

(29 มี.ค. 68) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า จากกรณีการก่อสร้างอาคารที่ถล่ม เป็นเรื่องที่ตนให้ความสำคัญกับทุกประเด็นที่อาจเป็นสาเหตุ ทั้งเรื่องการออกแบบวิศวกรรมการก่อสร้าง หรือการใช้เหล็กด้อยคุณภาพ ซึ่งเป็นภัยร้ายแรงที่กระทรวงอุตสาหกรรมไม่อาจปล่อยผ่านได้

ที่ผ่านมาชุดสุดซอยได้ตรวจค้นปิดดำเนินคดีกับผู้ผลิตและจำหน่ายไปแล้ว 7 ราย มูลค่าของกลางประเมินอยู่ที่ 361 ล้าน มูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจปีละเป็นพันล้าน ไม่นับอันตรายที่เกิดขึ้นจากความสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ

นายเอกนัฏ ระบุว่า เคสหนึ่ง ที่ตนไปปิดตั้งแต่ปีก่อน เป็นบริษัทต่างชาติ ทุนจดทะเบียนมหาศาล อิทธิพลเยอะ อายัดของกลาง เรียกผลิตภัณฑ์ตกคุณภาพคืนมาทั้งหมด และหยุดประกอบกิจการจนถึงวันนี้ ดำเนินคดีให้ถึงที่สุดไม่ให้มีการเปรียบเทียบปรับ มีตัวแทนจากสำนักงานอัยการ และสำนักงานตำรวจ มาร่วมกับทาง สมอ.

ส่วนตึก สตง. ที่ถล่ม ตนก็จะส่งทีมสุดซอยพร้อมเจ้าหน้าที่เข้าไปเก็บหลักฐาน หากพบว่ามีการใช้เหล็กหรือวัตถุก่อสร้างด้อยคุณภาพก็จะดำเนินการจัดการให้ถึงที่สุดเหมือนอย่างที่ผ่านมาแน่นอน

‘สุกฤษฏิ์ชัย ปชป.’ แสดงความเสียใจเหตุแผ่นดินไหวในเมียนมา-ไทย ชี้!! หากมีระบบแจ้งเตือน Real Time จะช่วยลดความสูญเสียได้

เมื่อวานนี้ (28 มี.ค. 68) นายสุกฤษฏิ์ชัย ธีระเริงฤทธิ์ ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง เหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 8.2 ริกเตอร์ ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 28 มี.ค. 68 ว่า…

มีจุดศูนย์กลางอยู่ทางฝั่งประเทศเมียนมา ซึ่งถือว่ารุนแรงมาก มีแรงสั่นสะเทือนถึงประเทศไทยของเรา โดยเฉพาะทางพื้นที่ภาคเหนือภาคกลางและกรุงเทพมหานคร อันนำมาซึ่งความสูญเสียและมีผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้เป็นจำนวนมาก ทั้งทางตรงและทางอ้อม จึงต้องขอแสดงความเสียใจ และขอเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องชาวไทยทุกคน 

เหนือสิ่งอื่นใด ช่วงสภาวะวิกฤติในทุกเหตุการณ์ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ข้อมูล ข่าวสาร และการเตือนภัยอย่างเป็นทางการจากทางภาครัฐ ที่รัฐต้องประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบ อาทิ แถลงการณ์ ข้อความสั้น (SMS Alert) เพื่อสร้างการรับรู้ไปในทิศทางเดียวกัน ลดความตื่นตระหนก ลดความโกลาหลในสังคม ลดการรับรู้ข้อมูลที่เป็นเท็จ ไม่ผ่านการตรวจสอบอย่างถูกต้อง แต่ในปัจจุบันก็ยังไม่มีการดำเนินการจากทางรัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

“ผมเองเคยเสนอแนวคิดเตือนภัยผ่านข้อความสั้น (SMS Alert) ไปแล้วเมื่อ ตุลาคม 2566 และเข้าใจว่าด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ ระบบดิจิทัลในปัจจุบันได้มีวิวัฒนาการไปมากกว่าในขณะนั้นแล้ว เป็นเรื่องง่ายและดำเนินการได้ทันที แต่ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นเป็นรูปธรรม ที่จะนำมาใช้ให้บริการประชาชน”

ระบบเตือนภัยอย่างง่ายนี้ ยังอาจปรับใช้กับการเตือนภัยทางธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ภัยพิบัติ ไฟป่า น้ำท่วม น้ำหลาก ดินถล่ม สึนามิ หรือ อุบัติเหตุร้ายแรง รถชน ไฟไหม้ เป็นต้น ซึ่งใช้ได้ทั้งในเชิงเฉพาะพื้นที่และภาพรวม อีกทั้งสามารถอัปเดตสถานการณ์แบบ Real Time ได้ทุกขณะ มีต้นทุนต่ำ เข้าถึงประชาชนโดยตรงได้อย่างดี

จากเหตุการณ์นี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่ารัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาจต้องทบทวน เร่งรัดและจัดให้มีระบบ สื่อและช่องทางการเตือนภัยอย่างเป็นระบบในทุกภัยที่อาจมีผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และนำเทคโนโลยี ระบบดิจิทัลมาใช้ให้เกิดผลสูงสุด รวมถึงนำมาประยุกต์ใช้กับการอนุรักษ์และแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมด้วย

‘อว.’ ร่วมกับ ‘มจพ.’ ประยุกต์ใช้ ‘เทคโนโลยี’ ในยามเกิดวิกฤติ ส่ง ‘iRAP Robot-ยานไร้คนขับ’ ช่วยผู้ประสบภัยตึกถล่ม

เมื่อวานนี้ (28 มี.ค. 68) น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า ตนได้สั่งการให้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) นำทีมหุ่นยนต์กู้ภัย iRAP Robot มจพ. แชมป์โลก 10 สมัย เข้าพื้นที่เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยฯ กรณีเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวอย่างรุนแรง โครงการอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ ซึ่งอยู่ในระหว่างก่อสร้าง บริเวณ ถ.กำแพงเพชร เขตจตุจักร กทม. เกิดถล่มลงมา ทำให้มีผู้บาดเจ็บและสูญหายเป็นจำนวนมาก

น.ส.ศุภมาส กล่าวต่อว่า ทีมหุ่นยนต์กู้ภัย iRAP Robot มจพ. ควบคุมโดย รศ.ดร.กิตติชัย ธนทรัพย์สิน คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มจพ. จะนำหุ่นยนต์ฯ สำรวจภารกิจในพื้นที่อาคารถล่มร่วมกับเจ้าหน้าที่จากภาครัฐและภาคเอกชน โดยนำหุ่นยนต์สำรวจ จำนวน 3 ตัว เข้าร่วมภารกิจในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงจากภัยพิบัติซ้ำซ้อน มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนการทำงานของหน่วยกู้ภัย และเพิ่มความปลอดภัยในการเข้าถึงผู้ประสบภัยในสถานการณ์วิกฤติ ได้แก่…

หุ่นยนต์สำรวจเพื่อการกู้ภัยและหุ่นยนต์สำรวจขนาดเล็ก ซึ่งถูกออกแบบมาให้สามารถสร้างแผนที่สามมิติของพื้นที่ และเคลื่อนที่ผ่านสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อน เช่น อาคารที่ถล่มหรือพื้นที่จำกัดการเข้าถึง ข้อมูลที่หุ่นยนต์เก็บรวบรวมได้จะช่วยให้หน่วยกู้ภัยสามารถประเมินสถานการณ์และวางแผนการช่วยเหลือได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

หุ่นยนต์สำรวจขนาดเล็ก มีจุดเด่นที่ความคล่องตัวสูง เหมาะสำหรับการเข้าถึงพื้นที่แคบหรือซอกมุมต่าง ๆ พร้อมติดตั้งเซนเซอร์สำหรับตรวจวัดระดับออกซิเจนและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญในการประเมินความปลอดภัยของสภาพแวดล้อมก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปปฏิบัติงาน 

ในขณะที่ หุ่นยนต์สำรวจเพื่อการกู้ภัย มาพร้อมแขนกลสำหรับหยิบจับหรือเคลื่อนย้ายสิ่งของ และมีความสามารถในการเคลื่อนที่ผ่านพื้นที่ต่างระดับ รวมถึงการขึ้นบันไดได้อย่างมีเสถียรภาพ พร้อมทั้งติดตั้งเซนเซอร์วัดอุณหภูมิเพื่อใช้ประเมินสภาวะความร้อนในพื้นที่ปฏิบัติงาน ซึ่งมีความสำคัญต่อการวางแผนและตัดสินใจของเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ร่วมปฏิบัติงาน

น.ส.ศุภมาส กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ กระทรวง อว.จะนำอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) จำนวน 2 ตัว เพื่อสนับสนุนภารกิจการสำรวจในครั้งนี้ด้วย โดยอากาศยานไร้คนขับ DJI Mavic 3 Enterprise ซึ่งเป็นโดรนที่มีศักยภาพสูง มีกล้องที่ให้ความละเอียดสูงและฟังก์ชันการซูมระยะไกล เพื่อใช้ในการสำรวจขอบเขตของความเสียหายจากแผ่นดินไหว ข้อมูลที่ได้จากการสำรวจจะถูกนำไปใช้วิเคราะห์เพื่อค้นหาผู้ประสบภัย และสนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้สามารถเข้าถึงพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว อีกทั้งยังเป็นข้อมูลสำคัญในการประเมินความเสียหายของโครงสร้างอาคาร รวมถึงแนวทางการบูรณะและซ่อมแซมต่อไป

ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) มุ่งมั่นในการประยุกต์ใช้องค์ความรู้และเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อช่วยเหลือสังคมในยามวิกฤต และพร้อมให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบรรเทาผลกระทบจากภัยพิบัติครั้งนี้อย่างเต็มกำลัง และร่วมกันส่งกำลังใจให้กับทุกท่านที่ประสบภัยในครั้งนี้

สำหรับหน่วยงานหรือองค์กรใดต้องการให้ มจพ. นำหุ่นยนต์กู้ภัยเข้าไปให้ความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่ รศ.ดร.กิตติชัย ธนทรัพย์สิน คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มจพ. โทร. 096-829-5353 และ ผศ.ดร.จิรพันธ์ อินเทียม ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายสนับสนุนเทคโนโลยี คณะวิศวกรรมศาสตร์ มจพ. โทร.099-023-6920


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top