Sunday, 19 May 2024
เพื่อไทย

‘สส.สุดารัตน์’ ชี้!! ชาวบ้านหวั่นใจไม่ได้เงิน 1 หมื่น ถาม!! เสียง ปชช. กับนักวิชาการ ใครดังกว่ากัน

น.ส.สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ สส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้สภาพเศรษฐกิจแย่มาก พื้นที่ในเมืองหรือชนชั้นกลางอาจมองไม่เห็น แต่ประชาชนในพื้นที่ลำบากมาก ที่ผ่านมาประชาชนหมดความหวัง แต่เมื่อพรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จจึงมีความหวังกับหลายนโยบายพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาล เชื่อมั่นเศรษฐกิจต้องดีขึ้นจากหลายนโยบายที่เป็นความหวัง การได้เงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีได้ การหาเงินให้ถึง 1 หมื่นบาท ยุคนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย จึงเป็นความหวังประชาชน ครอบครัวหนึ่งมีสมาชิก 3-4 คน สามารถวางแผนรวบรวมกัน นำเงินไปต่อยอดอาชีพ แต่พอมีกระแสคัดค้าน ชาวบ้านถามว่า จะได้เงินไหม ถ้าไม่ได้เงินนี้ไปต่อยอดความหวัง คงต้องทุกข์แล้ว ทุกข์ต่อ ทุกข์อีก อยากรู้เสียงชาวบ้าน กับเสียงนักวิชาการ เสียงใครดังกว่า

‘สามารถ แก้วมีชัย’ ข้องใจ ‘ผลดี-ผลเสีย’ แจกเงินดิจิทัล 1 หมื่น จะเชื่อ ‘รัฐบาล’ หรือ ’นักเศรษฐศาสตร์’ ดีกว่ากัน?

(8 ต.ค. 66) นายสามารถ แก้วมีชัย อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า…

นโยบายแจกเงินดิจิทัลหนึ่งหมื่นบาท ที่ต้องใช้งบประมาณทันทีถึงห้าแสนหกหมื่นล้านบาท กับผลดีผลเสียที่จะเกิดขึ้นต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว จะให้เชื่อใครดี ระหว่างรัฐบาลกับนักการเงิน การธนาคารและนักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์    

'เพื่อไทย' ตอกย้ำ!! ทำทันทีเพื่อประชาชน รถไฟฟ้า 'สีม่วง-แดง' 20 บาทตลอดสาย

(16 ต.ค. 66) นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ สส.กทม.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังคณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีคลองบางไผ่ถึงสถานีเตาปูน และสายสีแดง สถานีกลางบางซื่อถึงสถานีรังสิต สูงสุดไม่เกิน 20 บาท โดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้นำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี 

...และทันทีที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ พร้อมด้วยนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย สส. และ สก.ของพรรคเพื่อไทย ได้มาร่วมทดลองใช้บริการและตรวจสอบความพร้อมการให้บริการรถไฟฟ้าในราคาค่าโดยสารใหม่ 20 บาท ที่สถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ หรือสถานีกลางบางซื่อด้วย...

1. นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ สส.กทม.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยประกาศหาเสียงนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย โดยการปรับราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีม่วง จากเดิมประชาชนต้องจ่าย 14-42 บาท และสายสีแดง 12-42 บาท มาเป็นราคาเดียว 20 บาท ช่วยลดภาระค่าครองชีพ ทำให้พี่น้องประชาชนตอบรับในการเดินหน้านโยบายของพรรคเพื่อไทยตามที่ได้หาเสียงไว้ และติดตามเฝ้ารอนโยบายอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์อีกมากมายที่จะทยอยตามมา

2. นางสาวชญาดา วิภัติภูมิประเทศ รองประธานสภากรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ในช่วงการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ได้ลงพื้นที่พบปะประชาชน ต่างมีเสียงสะท้อนให้ สก. พัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน พัฒนาระบบขนส่งสาธารณะให้ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ ในราคาไม่แพง ทุกคนมีสิทธิ์ใช้บริการของรัฐอย่างเท่าเทียม จึงเห็นด้วยและสนับสนุนนนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ขอขอบคุณรัฐบาลที่ผลักดันให้เป็นจริงในเวลาไม่นาน และขอให้ลดค่าบริการของรถไฟฟ้าสายอื่น ๆ เช่นกัน

3. คณะของพรรคเพื่อไทยลงพื้นที่ตรวจความพร้อมให้บริการรถไฟฟ้าที่สถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ ประกอบด้วย สก.พรรคเพื่อไทย ได้แก่ นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ ประธานสภากรุงเทพมหานคร, นางสาวชญาดา วิภัติภูมิประเทศ รองประธานสภากรุงเทพมหานคร, นายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ส.ก.ลาดกระบัง, นายวิพุธ ศรีวะอุไร ส.ก.เขตบางรัก, นายเนติภูมิ มิ่งรุจิราลัย ส.ก.เขตบึงกุ่ม, นางสาวมธุรส เบนท์ เขตสะพานสูง, นางสาวนภัสสร พละระวีพงษ์ ส.ก.เขตบางกะปิ นายรัฐพงศ์ ระหงษ์ อดีตผู้สมัคร สส.กทม., นายภัทร ภมรมนตรี อดีตผู้สมัคร สส.กทม., นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ อดีตผู้สมัคร สส.พรรคเพื่อไทย

‘กลุ่มรวมพลคนเอาเงินหมื่น’ บุกหนุน ‘เพื่อไทย’ แจกเงินดิจิทัล ฟาก ‘จุลพันธ์’ ยัน!! พร้อมผลักดันโครงการให้เกิดขึ้นจริง

(17 ต.ค. 66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) กลุ่มรวมพลคนเอาเงินหมื่น นำโดย นายยุทธศักดิ์ ชูประเสริฐ อดีตผู้สมัครสส.ปทุมธานี พรรคเพื่อไทย ได้มอบเสื้อที่มีข้อความว่า “ประชาชน สนับสนุน 10,000 บาท ดิจิทัลวอลเล็ต” และสติกเกอร์ ให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง พร้อมร้องเพลง “คนจนมีสิทธิ์มั้ยคะ คนจนมีสิทธิ์มั้ยคะ เงินหมื่นจะได้สักที เพราะมีหนี้นะคะ” เพื่อสนับสนุนให้พรรคเพื่อไทยเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต

โดยนายจุลพันธ์ กล่าวว่า จริง ๆ ไม่ว่าจะสนับสนุนหรือคัดค้านเราก็พร้อมรับฟัง ส่วนตัวไม่แปลกใจที่มีเสียงคัดค้าน เพราะทุกนโยบายรัฐบาลที่ทำมาก็มีทั้งค้านและสนับสนุน ที่นายกฯ บอกให้ประชาชนสะท้อนเสียงมานั้น ไม่ได้ต้องการให้เกิดความแตกแยก แต่เพื่อต้องการรับฟังเสียงของประชาชนให้รอบด้าน เพราะเรามาจากประชาชนเห็นความลำบากของประชาชน เมื่อเราเข้ามาจึงต้องการประชาชนอยู่ดีกินดี และต้องการให้เศรษฐกิจของประเทศไทยโตขึ้นเฉลี่ยปีละ 5% เป็นอย่างน้อย ตนฟังเสียงทุกเสียง ทั้งความเป็นห่วงเม็ดเงินไปลงที่คนรวยแล้วจะใช้หรือไม่ วันนี้เราคิดว่าจะมาจะตัดในส่วนของคนรวยออกหรือไม่ เราคิดจริง ๆ ถ้าไม่ได้รับฟังเสียงของประชาชนดีไม่ดีจะตัดไปเรื่อย ๆ แต่เมื่อฟังเสียงวันนี้ชัดเจนทุกคนยังรออยู่ ฉะนั้นในฐานะที่เป็นรัฐบาลและได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้ดำเนินการเรื่องนี้ ยืนยันว่าเราสู้และจะสนับสนุนนโยบายนี้ให้เกิดขึ้นให้ได้

‘ตรีชฏา’ ชี้!! มีขาประจำปล่อยเฟกนิวส์โจมตี ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ ซัด!! ออกตัวขวางสุดลิ่ม ไม่สนว่าเป็นนโยบายเพื่อประชาชน

(19 ต.ค. 66) น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) และประจำสำนักเลขาธิการนายกฯ กล่าวว่า การออกมาแสดงความเห็นของกลุ่มที่คัดค้านนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ถือเป็นเรื่องปกติของการกำหนดนโยบายสาธารณะใหม่ ๆ ที่ย่อมมีทั้งคนเห็นด้วยและเห็นต่าง ซึ่งรัฐบาลก็พร้อมที่จะรับฟังทุกฝ่าย แต่สำหรับกลุ่มขาประจำในทางการเมืองที่อยู่ในวุฒิสภาและอดีตนักการเมืองไม่กี่คน จะออกมาเป็นระยะ ๆ เพื่อขวางไม่ให้นโยบายนี้เดินหน้าได้สำเร็จ โดยหลงลืมไปว่านโยบายนี้ กกต.ได้รับรองแล้วว่าเป็นนโยบายที่พรรคเพื่อไทยใช้หาเสียงได้และไม่เป็นการสัญญาว่าจะให้ เพราะเป็นการใช้เงินจากงบประมาณแผ่นดิน

น.ส.ตรีชฎา กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยและรัฐบาลที่นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ได้ชี้แจงยืนยันหลายครั้งแล้วว่านโยบายนี้จะเดินหน้าต่อและจะไม่มีวันยุติอย่างแน่นอน อีกทั้งยังไม่ใช่นโยบายแจกเงิน แต่เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจภาพใหญ่ของประเทศ โดยรัฐบาลพร้อมที่จะรับฟังความคิดเห็นประชาชนเพื่อนำมาปรับปรุงบางอย่างให้ตอบโจทย์การปลุกเศรษฐกิจให้คืนชีพ และมีแรงที่เข้มแข็งทางด้านเงินหมุนเวียน ซึ่งภาครัฐในฐานะผู้กำหนดนโยบายกำลังเร่งประชุมคณะอนุกรรมการและคณะกรรมการ ซึ่งล้วนแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญและเกี่ยวข้องเพื่อให้ทุกอย่างมีแนวทางที่ชัดเจน ซึ่งจะสามารถตอบคำถามต่าง ๆ เช่น แหล่งที่มาของเงิน เงื่อนไขผู้ได้รับเงินดิจิทัล กระบวนการแจกเงินซึ่งรายละเอียดที่มาของเงิน วิธีการใช้ ความคุ้มค่าและประโยชน์การดำเนินการ ซึ่งอีกไม่กี่วันผู้เกี่ยวข้องจะออกมาอธิบายต่อสาธารณะโดยละเอียด

น.ส.ตรีชฎา กล่าวต่อว่า ส่วนที่มีผู้กล่าวหาว่าจะเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้องเรื่องการจัดทำแอปพลิเคชัน นายกฯ ได้ชี้แจงแล้วว่าไม่มีการจ้างบริษัทเอกชนใด ๆ มาจัดทำโดยมีค่าใช้จ่าย 12,000 ล้านบาทอย่างที่มีการกล่าวหากัน และเป็น Fake News จึงขอให้ทุกฝ่ายมั่นใจเพราะการดำเนินการใด ๆ ล้วนอยู่ในสายตาของสื่อและสังคม ขอให้ประชาชนอย่าไปหลงเชื่อ Fake News ที่หลอกลวงทำให้เข้าใจผิด แปลงเจตนาดีเป็นเจตนาร้าย ยืนยันว่ารัฐบาลเพื่อไทยดำเนินนโยบายทุกอย่างตามที่ได้หาเสียงไว้ มีความโปร่งใสและตรวจสอบได้ 

ขณะนี้มีความพยายามปล่อยข่าวว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เพราะคนเลือกพรรคเพื่อไทยมีแค่ 10 ล้านคน อีก 60 ล้านคนไม่ได้เลือกพรรคเพื่อไทยนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ใช่ตรรกะและเหตุผล เพราะตามระบอบประชาธิปไตยมีปัจจัยหลายอย่างเข้ามาเกี่ยวข้อง ขณะนี้พรรคเพื่อไทยได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลกำลังมุ่งแก้ปัญหาให้ประเทศ ทำให้คนส่วนใหญ่มีเงินใช้จ่ายภายใต้โครงการดิจิทัลวอลเล็ต เพื่อให้มีเงินหมุนเวียนเป็นแสนล้านบาท ประการสำคัญคือการช่วยคนจนให้มีเงินทองใช้จ่ายซื้อข้าวของมาใช้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ร้านค้าร้านขายมีรายได้ ภาครัฐก็จะได้เป็นภาษีตามระบบ พรรคเพื่อไทยและรัฐบาลตั้งใจมาแก้วิกฤตประเทศ และต้องการช่วยเหลือประชาชนที่เป็นฐานรากสำคัญของประเทศเหล่านี้ให้ได้โดยเร็วที่สุด

‘ประเสริฐ’ ยก ‘อุ๊งอิ๊ง’ มีความรู้-ภาวะผู้นำ เหมาะนั่ง ‘หน.พรรค’ ชี้!! ถึงยุคของคนรุ่นใหม่ ขับเคลื่อน ‘เพื่อไทย’ ไปข้างหน้า

(24 ต.ค. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมวิสามัญพรรคเพื่อไทย วันที่ 27 ตุลาคม ที่มีกระแสข่าวว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย จะขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค และนายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว พรรคเพื่อไทย จะขึ้นเป็นเลขาธิการพรรค ว่า ขอให้รอดูว่ากรรมการพรรคชุดใหม่จะเป็นใครบ้าง ขอให้รอดูการลงคะแนนเสียงของสมาชิกพรรค ว่ากรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จะเป็นใครบ้าง

เมื่อถามย้ำถึงกระแสข่าวที่ออกมา นายประเสริฐกล่าวว่า เป็นกระแสข่าวสมาชิกหลายท่าน เห็นว่า น.ส.แพทองธารมีความเหมาะสมเป็นหัวหน้าพรรค มีภาวะความเป็นผู้นำ และมีองค์ความรู้ในการขับเคลื่อนพรรค จึงขอให้รอดูการโหวตของสมาชิกพรรค

เมื่อถามว่า ในฐานะรักษาการเลขาฯ หากได้รับการเสนอชื่อจะรับตำแหน่งหรือไม่ หรือจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของนายสรวงศ์ตามกระแสข่าว นายประเสริฐกล่าวว่า ขณะนี้คงเป็นเวลาของคนรุ่นใหม่ในการเข้ามาทำงาน ตนรับตำแหน่งเลขาฯ มา 3 ปี ตอนนี้คงเป็นช่วงเวลาที่พรรคเพื่อไทยจะสร้างคนรุ่นใหม่เข้ามาทำงาน ตอนนี้น่าจะเป็นคนรุ่นใหม่ ไม่ใช่ตนแล้ว ส่วนทิศทางการเดินของพรรคเพื่อไทย หลังได้กรรมการบริการพรรคชุดใหม่ จะมีสิ่งใหม่ ๆ เกิดขึ้น ทั้งกระบวนการทำงาน การวางยุทธศาสตร์เพื่อเตรียมพร้อมในการเลือกตั้งครั้งถัดไป

'พี่วัน' โพสต์จะเลือก ‘อุ๊งอิ๊ง’ นั่ง หัวหน้าพรรคคนใหม่ เปรย!! อาจเป็นการไปพรรคเพื่อไทยครั้งสุดท้ายในชีวิต

(27 ต.ค. 66) นายวัน อยู่บำรุง อดีต สส. พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ‘วัน อยู่บำรุง’ ระบุว่า…

กำลังไปพรรคเพื่อไทยเพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่และจะเลือกคุณอุ๊งอิ๊งเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แต่ไม่รู้ว่าการไปพรรคครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายของผมหรือไม่

‘ภูมิธรรม’ ยัน!! ‘เศรษฐา’ ไร้นัย ส่งสัญญาณอยู่ไม่ครบ 4 ปี แค่ชื่นชม ‘อุ๊งอิ๊ง’ มีคุณสมบัติครบเหมาะเป็นนายกฯ สบาย

(28 ต.ค.66) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ กล่าวกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ระบุภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีต่อได้สบายๆ ว่า ไม่มีนัยอะไร แต่ถือเป็นความจริงที่มีความเหมาะสม และเมื่อขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคแล้ว หัวหน้าพรรคทุกคนก็มีโอกาสที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ โดยมองว่าความพร้อมของนางสาวแพทองธารมีครบถ้วน ดังนั้น การที่นายกรัฐมนตรีพูดเช่นนี้ ก็เป็นความจริงที่นางสาวแพทองธาร ก็มีความเหมาะสมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ และทุกคนก็รู้สึกเช่นนั้น 

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่นายเศรษฐา ระบุว่า น.ส.แพทองธาร สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีต่อได้เป็นการส่งสัญญาณว่านายกฯ เศรษฐา จะอยู่ไม่ครบ 4 ปีหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า สามารถคิดได้หลายอย่าง อาจจะอยู่ครบ 4 ปี แล้วน.ส.แพทองธาร เป็นนายกฯ ต่อได้ ย้ำว่าน.ส.แพทองธาร มีความพร้อม เมื่อได้ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค ทั้งในด้านคุณสมบัติ ประสบการณ์ทำงาน การหาเสียง ทุกอย่างก็พร้อมหมด ทั้งนี้ไม่ถึงขั้นที่จะต้องแบ่งเป็นนายกรัฐมนตรีคนละ 2 ปี เพราะไม่ได้คิดไปไกลถึงขั้นนั้น แต่เป็นการแบ่งหน้าที่กันทำงานมากกว่า

เมื่อถามย้ำว่า ภาพที่นายเศรษฐา ทำท่าจูบมือน.ส.แพทองธาร ตามธรรมเนียมต่างชาติ หลังได้รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นการส่งสัญญาณหรือส่งไม้ต่ออะไรหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า แล้วแต่จะตีความ แต่ส่วนตัวมองว่าเป็นการแสดงความชื่นชม และเคารพซึ่งกันและกัน ยืนยันไม่ได้มีนัยอะไร  

ผู้สื่อข่าวถามว่าน.ส.แพทองธาร เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยแล้ว จะนำพาพรรคไปเป็นพรรคอันดับหนึ่งในใจประชาชนได้อย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า เชื่อว่าด้วยความพร้อมและประสบการณ์ของนางสาวแพทองธารมีมากกว่าคนอื่น ส่วนจะนำพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งครั้งหน้าได้หรือไม่นั้น ยืนยันว่าทุกการเลือกตั้ง เรามั่นใจ อยู่ที่ความพร้อมของทุกฝ่าย และวันนี้เราก็พร้อมแล้วที่น.ส.แพทองธาร จะมาเชื่อมต่อคนระหว่างวัย ให้สามารถทำงานได้มากขึ้น

'เศรษฐา' เท้าลอย!! 'อุ๊งอิ๊ง' สุกงอม ต่อคิวสอยนายกฯ ขุนพลชกเปิดหน้า!! ในจังหวะ 'พท.-ก้าวไกล' มิตรสะบั้น



และแล้วสภาผู้แทนราษฎร ก็ปิดสมัยประชุมสามัญครั้งที่ 1 ปี 2566 ลงอย่างเป็นทางการวันที่ 31 ต.ค. แต่การประชุมสั่งลานัดสุดท้ายจริงๆ เกิดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา...

ต้องบันทึกไว้สักนิดว่า...นัดสั่งลาที่ว่าพรรคแกนนำรัฐบาลอย่างเพื่อไทย ได้สำแดงความเก๋าความเขี้ยวทางการเมืองอยู่พอประมาณ...

เรื่องแรก บริหารจัดการเวลาให้ นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ไปตอบกระทู้ถามสดด้วยวาจาเป็นผลสำเร็จ ทั้งนี้ด้วยความร่วมไม้ร่วมมือจากพรรคร่วมรัฐบาลอย่างรวมไทยสร้างชาติ และพรรคฝ่ายค้านอย่างประชาธิปัตย์ เป็นอย่างดียิ่ง...

รวมไทยสร้างชาติ ส่ง อัครเดช วงศ์พิทักษ์โรจน์ มาถามชง...ขณะที่ประชาธิปัตย์ 'เดอะแทน' ชัยชนะ เดชเดโช ที่กำลังคั่วรัฐมนตรีสมัยแรกมาเอง แกล้งแซวนายกฯ ว่า ระวังจะเป็นเบาหวาน เพราะคำถามของ สส.อัครเดช...

แต่ไฮไลต์สำคัญ มันอยู่ตรงที่ว่า ผู้ที่ตั้งกระทู้ถามสดอีกคน คือ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ชัยธวัช ตุลาธน ไม่ได้ถามนายกฯ ด้วย เพราะรัฐบาลบอกว่านายกฯ มาไม่ทัน ส่งนายทวี สอดคล้อง มาตอบแทน แต่ 'ชัยธวัช' ไม่ยอมถามด้วย...สุดท้ายก็กินแห้ว เลยต้องโพสต์ออกมาดังๆ ว่า สิ่งที่ตัวเองจะถามนั้นมันคือสิ่งที่ "ประยุทธ์คิด เศรษฐาทำ ไอ้โม่งสั่ง..." ทำเอาโซเชียลร้อนฉ่า...อดิศร เพียงเกษ ประธานวิปเพื่อไทยต้องออกมาโพสต์โต้ทำนองว่า ... (กู) ไม่กลัว (มึง) ... ประมาณนั้น

อีกเรื่องหนึ่งที่พรรคเพื่อไทยดันจนผ่านฯ ทั้งๆ ที่พรรคก้าวไกลไม่ค่อยเต็มใจนัก เพราะสภาฯ ชุดที่แล้วได้ศึกษาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นั่นคือ ญัตติด่วนตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบริการบันเทิงแบบครบวงจร (เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) เพื่อแก้ปัญหาบ่อนการพนันผิดกฎหมายฯ...ที่ประชุมลงมติผ่าน ตั้ง 60 กมธ.วิสามัญ เรียบร้อยโรงเรียนเพื่อไทย...

ดูเหมือนว่าสัมพันธภาพระหว่างพรรคเพื่อไทยกับก้าวไกล เริ่มแยกห่างออกไปเรื่อยๆ...สมัยประชุมหน้าตั้งแต่กลาง เดือน ธ.ค. เป็นต้นไป รับประกันซ่อมฟรีว่าต้องปะฉะดะกันมันหยด...และก็เป็นจังหวะที่พอเหมาะพอดีที่พรรคเพื่อไทยได้คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่

แม้หัวหน้าพรรคคนใหม่ แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวนายห้างไม่ได้อยู่ในสภาฯ ด้วย แต่กรรมการบริหารพรรคส่วนใหญ่ก็นั่งอยู่ในสภา คงจะต้องโชว์ฟอร์มโชว์หน้าโชว์ตา ออกมาประกาศตัวตนความเป็นคนการเมืองรุ่นใหม่...ไม่ใช่ปล่อยให้ สส.เด็กพรรคก้าวไกลโหวกเหวกโวยวายยึดสภาอยู่พรรคเดียวอย่างที่ผ่านมา...

สรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคคนใหม่, ดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรค, จิราพร สินธุไพร รองหัวหน้าพรรค, ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รองเลขาธิการพรรค และ ฯลฯ...ถึงเวลาต้องจูงมือดาวรุ่งดวงใหม่ออกมาพูดจาแสดงกึ๋นแสดงตัวตนให้ประชาชนชื่นชมกันได้แล้ว...

ส่วน 'อุ๊งอิ๊ง' ก็ต้องบำเพ็ญเพียรโชว์กึ๋นและวุฒิภาวะ โดยเฉพาะฝีมือให้เห็นกันจะ-จะ โดยเฉพาะงานช้างงานใหญ่ที่รัฐบาลมอบหมายให้คือ...ประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ และประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ...

สองตำแหน่งนี้ถ้าไปได้ถูกทาง เห็นแววสำเร็จ ปีหน้าปรับ ครม.ก็เข้าไปเป็นรัฐมนตรี...เพื่อลุ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อจาก เศรษฐา ทวีสิน นายกฯ สูงยาวถุงเท้าแดงแต่ขาลอย...'อุ๊งอิ๊ง' สุกงอมวันไหนก็วันนั้น...คุณพ่อแม้วซึ่งถึงวันนั้นก็คงออกมาจ้ออยู่นอกคุกแล้วก็คงส่งลูกสาวถึงฝั่งฝัน...นายกรัฐมนตรี คนที่ 31 ภายในสภาฯ ชุดนี้

แต่ทั้งหลายทั้งปวงก็อยู่ที่เหตุปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วย...โดยเฉพาะผลงานและของพรรคเพื่อไทย ถ้าทำเพียงเพื่อให้ทักษิณพ้นโทษ ลูกสาวนายห้างได้เป็นนายกฯ 'วิน' อยู่สองคน...เห็นท่าจะลำบากครับ!!

‘เศรษฐา’ โต้!! ไม่ใช่หุ่นเชิด ‘เพื่อไทย-ชินวัตร’ หลังบางสื่อโจมตี ชี้!! ‘อย่าดูหมิ่นประชาชน’

เมื่อวานนี้ (2 พ.ย. 66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวชี้แจงกรณีสื่อบางสำนักโจมตีว่า เป็นหุ่นเชิดของพรรคเพื่อไทย หรือตระกูลชินวัตร หรืออะไรก็แล้วแต่

“ผมขอชี้แจงดังนี้

1. พรรคเพื่อไทยไม่มีนโยบายยุบ กอ.รมน.ในการหาเสียงของเรา และการยุบ กอ.รมน.ไม่อยู่ในนโยบายที่ผมแถลงต่อรัฐสภา

2. แต่พรรคเพื่อไทยและรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทยมีความประสงค์/ความปรารถนาที่จะทำกองทัพให้ทันสมัย สอดคล้องกับความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น”

“ในส่วนของ กอ.รมน.นั้น เราตระหนักดีว่าบทบาทการปราบปรามศัตรูของรัฐในยุคสงครามเย็นได้จบลงแล้ว บัดนี้ในยุคของรัฐบาลพลเรือน โดยผมเป็นนายกฯจะทำให้ กอ.รมน.มีบทบาทในการเป็นส่วนหนึ่งของความมั่นคงทางประชาธิปไตย ปกป้องสิทธิ เสรีภาพของประชาชน และในยามวิกฤตก็พร้อมช่วยเสริมความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประชาชนด้วย”

“3. พรรคเพื่อไทยและรัฐบาลนี้เชื่อในเรื่องการเปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไป ท่ามกลางความขัดแย้งทางอุดมการณ์ทางการเมืองที่ยืดเยื้อมาเกือบ 20 ปี เรายืนยันไม่เลือกหนทางที่จะหักโค่นทำลายกันและกัน แต่จะเลือกวิธีประสานแนวคิด วิธีการทำงานให้เป็นคุณต่อประชาชน เพราะเราตระหนักดีว่าความต่อเนื่องของการเมืองในระบอบการเลือกตั้งคือหัวใจของประชาธิปไตยที่ยั่งยืนและสันติที่สุด”

“4. ผมเป็นนายกรัฐมนตรีที่เป็นแคนดิเดตของพรรคเพื่อไทย หาเสียงและขอฉันทามติจากเสียงของประชาชนและรัฐสภา ไม่ใช่หุ่นเชิดของใคร โปรดอย่าดูหมิ่นประชาชนครับ” นายเศรษฐากล่าว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top