Sunday, 16 June 2024
เพนตากอน

สื่อดังแฉ ‘ข่าวกรองเพนตากอน’ ผิดพลาด ทิ้งระเบิดมั่ว สังหารผู้บริสุทธิ์กว่า 1,300 คน

เอกสารของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) เองระบุ ปฏิบัติการทางอากาศของอเมริกาในตะวันออกกลางมี “ข้อผิดพลาดร้ายแรงด้านข่าวกรอง” ส่งผลให้พลเรือนหลายพันคน ซึ่งรวมถึงเด็กมากมายต้องสังเวยชีวิต

รายงานของสื่อดัง “นิวยอร์กไทมส์” เมื่อวันเสาร์ (18 ธ.ค.) โดยอ้างอิงเอกสารลับของเพนตากอนกองใหญ่ที่ครอบคลุมการเสียชีวิตของพลเรือนกว่า 1,300 คน เป็นการบ่อนทำลายคำกล่าวอ้างเรื่อยมาของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ว่า อเมริกาทำสงครามด้วยระเบิดที่มีความแม่นยำ

นิวยอร์กไทมส์ระบุว่า บันทึกเหล่านี้ไม่มีแม้แต่ฉบับเดียวที่ระบุถึงการตรวจสอบพบการกระทำผิดหรือการดำเนินการทางวินัยกับผู้รับผิดชอบ

แม้หลายกรณีที่นิวยอร์กไทมส์กล่าวถึงในรายงานชุดแรกจากทั้งหมดสองชุดที่เตรียมเผยแพร่นั้นเคยเป็นข่าวมาแล้วก่อนหน้านี้ แต่จากการตรวจสอบของหนังสือพิมพ์ดังฉบับนี้พบว่า จำนวนพลเรือนที่เสียชีวิตซึ่งมีการบันทึกไว้ต่ำกว่าความเป็นจริงอย่างน้อยหลายร้อยคน

รายงานข่าวในวันเสาร์ของนิวยอร์กไทมส์ พูดถึง 3 กรณี โดยที่ 1 ในนั้นคือเหตุการณ์การทิ้งระเบิดเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2016 ที่หน่วยรบพิเศษของอเมริกาเชื่อว่า เป็นจุดรวมพล 3 แห่งของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ทางเหนือของซีเรีย มีการรายงานเบื้องต้นว่า นักรบไอเอสถูกสังหาร 85 คน แต่แท้จริงผู้เสียชีวิตคือเกษตรกรและชาวบ้านรวม 120 คน

อีกเหตุการณ์หนึ่งคือการโจมตีในเมืองเราะมาดีของอิรักเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2015 หลังจากมีภาพชายคนหนึ่งลาก “วัตถุหนักที่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร” เข้าไปในที่ตั้งของไอเอส ซึ่งผลการตรวจสอบในภายหลังพบว่า วัตถุดังกล่าวคือเด็กที่เสียชีวิตจากการโจมตี

รายงานระบุว่า ภาพจากการสอดแนมคุณภาพต่ำมักเป็นสาเหตุความล้มเหลวในการล็อกเป้าที่ทำให้ผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต

เมื่อไม่นานมานี้เอง อเมริกาต้องถอนคำอวดอ้างที่ว่า รถยนต์ซึ่งถูกโดรนของตนทำลายบนถนนในกรุงคาบูลของอัฟกานิสถานเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีระเบิดซุกซ่อนอยู่ เพราะกลายเป็นว่า เหยื่อในการโจมตีดังกล่าวเป็นครอบครัวที่มีสมาชิก 10 คน และมีเด็กอยู่ด้วย

รายงานเสริมว่า พลเรือนที่รอดชีวิตจำนวนมากกลายเป็นคนพิการที่มีค่าใช้จ่ายในการรักษาสูง แต่ผู้ที่ได้รับเงินชดเชยจริงมีแค่หลักสิบรายเท่านั้น

ทางด้าน บิลล์ เออร์บัน โฆษกกองบัญชาการทหารด้านกลาง (CENTCOM) ของสหรัฐฯ ตอบข้อซักถามของนิวยอร์กไทมส์เกี่ยวกับเรื่องนี้โดยยอมรับว่า แม้แต่เทคโนโลยีที่ดีที่สุดในโลกยังเกิดข้อผิดพลาดได้ ไม่ว่าจะโดยข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์หรือการตีความข้อมูลผิดพลาดก็ตาม และอเมริกาพยายามเรียนรู้จากข้อผิดพลาดเหล่านั้น รวมถึงพยายามป้องกันไม่ให้เกิดอันตราย สืบสวนทุกเหตุการณ์ และเสียใจกับทุกชีวิตผู้บริสุทธิ์

อเมริกาเพิ่มปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในตะวันออกกลางอย่างรวดเร็วในช่วงปีท้าย ๆ ของคณะบริหารของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา ขณะที่การสนับสนุนจากชาวอเมริกันสำหรับสงครามภาคพื้นดินที่ไม่รู้จบเริ่มเหือดแห้งลง

โอบามา ระบุว่า แนวทางใหม่ที่มักมีการใช้โดรนจากพื้นที่ห่างไกลมากเข้าปฏิบัติการโจมตีนั้นถือเป็นปฏิบัติการโจมตีทางอากาศที่แม่นยำที่สุดในประวัติศาสตร์ และสามารถลดการเสียชีวิตของพลเรือนให้เหลือน้อยที่สุด

สหรัฐฯ สั่งทหาร 'เตรียมพร้อมขั้นสูงสุด' รับมือวิกฤต ‘รัสเซีย-ยูเครน’ ที่รอวันปะทุ

สหรัฐฯ สั่งการให้ทหาร 8,500 นาย "เตรียมพร้อมขั้นสูงสุด" ท่ามกลางเหตุเผชิญหน้าเกี่ยวกับยูเครน ชี้รัสเซียยังคงเดินหน้าเสริมกองกำลังของตนเองตามแนวชายแดนของประเทศ

จอห์น เคอร์บี โฆษกเพนตากอน ระบุว่า ทหารเหล่านี้อาจได้รับคำสั่งให้เข้าประจำการเพื่อสนับสนุนกองกำลังตอบโต้ของนาโต้ (Nato Response Force) หากว่านาโต้เคลื่อนไหวเสริมกำลังพลในเหล่าประเทศสมาชิกยุโรปตะวันออกของนาโต้ สืบเนื่องจากภัยคุกคามจากรัสเซีย

"ชัดเจนว่าเวลานี้รัสเซียไม่มีเจตนาลดสถานการณ์ความตึงเครียด" เคอร์บีบอกกับพวกผู้สื่อข่าว ระหว่างแถลงข่าวสั่งการให้ทหารเตรียมพร้อมขั้นสูงสุด

ทหารเหล่านี้ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นกองกำลังภาคพื้นและหน่วยสนับสนุน ได้รับการแจ้งว่าให้เตรียมพร้อมสำหรับเคลื่อนพลภายใน 5 วันหากมีคำสั่งให้เข้าประจำการออกมา "สหรัฐฯ จะดำเนินการอย่างหนักแน่นในการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ ตอบโต้ความเคลื่อนไหวต่างๆ ของรัสเซียที่ทำร้ายเรา พันธมิตรของเราและคู่หูของเรา" เคอร์บี กล่าว

เคอร์บี บอกว่า หากมีการระดมพลกองกำลังตอบโต้ของนาโต้ ทหารสหรัฐฯ อาจถูกส่งเข้าประจำการเพื่อสนับสนุนความเข้มแข็งของกองกำลังชาติต่างๆ ในพันธมิตรนาโต้ตามแนวชายแดนของรัสเซีย "จำนวนมากของทหารเหล่านี้มีเจตนาเพื่อกองกำลังตอบโต้ของนาโต้"

ทั้งนี้ เคอร์บี้ ไม่ได้ระบุว่าสหรัฐฯ มีกำหนดการแน่นอนหรือไม่ว่าจะต้องเคลื่อนพลเมื่อใด และย้ำว่า การเตรียมการนี้มีจุดประสงค์ที่จะทำให้นาโต้มั่นใจว่า อเมริกาพร้อมที่จะเข้าช่วยหากต้องมีการใช้กำลังทหารเพื่อตอบโต้เหตุการณ์รุกรานยูเครนขึ้นมา

โฆษกเพนตากอน กล่าวว่า การเคลื่อนกำลังพลของสหรัฐฯ นั้นจะเกิดขึ้นเมื่อกองกำลังพันธมิตรนาโต้ตัดสินใจสั่งให้มีการเดินทัพกองกำลังตอบโต้อย่างรวดเร็ว หรือ “หากมีการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์” ที่เกี่ยวข้องกับความตึงเครียดจากการสั่งสมกำลังทหารของรัสเซียที่ชายแดนติดกับยูเครน

ด้าน ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ เสริมว่าอาจมีการประจำการกองทหารอื่นๆ อีกบางส่วน โดยไม่ได้ให้รายละเอียดอย่างเฉพาะเจาะจง อย่างไรก็ตาม เขาบอกว่าทหารเหล่านี้จะไม่ถูกส่งเข้าประจำการในยูเครน ประเทศซึ่งกำลังหาทางเข้าเป็นสมาชิกของนาโต้

ข่าวกรองสหรัฐฯ คาดรัสเซียบุกยูเครนพุธนี้ เชื่อเปิดฉากถล่มด้วยขีปนาวุธและระเบิด

เพนตากอนระบุในวันอาทิตย์ (13 ก.พ.) การติดต่อเจรจาระดับสูงระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซียรอบล่าสุด "ไม่ได้ก่อมุมมองในแง่บวกใดๆ" ในขณะที่หน่วยข่าวกรองอเมริกาคาดมอสโกอาจเปิดฉากโจมตียูเครนวันพุธนี้ (16 ก.พ.) และที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ ชี้การรุกรานอาจเริ่มต้นการถล่มด้วยขีปนาวุธและระเบิด ซึ่งจะคร่าชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์

จอห์น เคอร์บี โฆษกของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หรือเพนตากอน ให้คำประเมินอย่างขุ่นมัวเกี่ยวกับการสนทนากันนาน 1 ชั่วโมง ระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ และวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เมื่อวันเสาร์ (12 ก.พ.) ที่ผ่านมา

"แน่นอนว่า มันไม่ใช่สัญญาณว่าสิ่งต่างๆ มุ่งหน้าไปในทิศทางที่ถูกต้อง มันไม่ใช่สัญญาณที่มิสเตอร์ปูตินแสดงเจตนาใดๆ ที่จะลดความตึงเครียด และแน่นอนว่า ไม่ใช่สัญญาณที่เขาจะผูกมัดตนเองกับการมุ่งหน้าสู่เส้นทางด้านการทูต" เคอร์บีให้สัมภาษณ์กับรายงานฟ็อกซ์นิวส์ซันเดย์ "ดังนั้น มันไม่ได้มอบบ่อเกิดแห่งมุมมองในแง่บวกแก่เราใดๆ"

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ส่งเสียงเตือนรอบแล้วรอบเล่าและเริ่มเตือนแบบตรงไปตรงมามากขึ้นเรื่อยๆ ว่าปฏิบัติการรุกรานยูเครนของรัสเซียใกล้เข้ามาทุกขณะ และประเทศต่างๆ กำลังเร่งอพยพพลเมืองของตนเองออกจากยูเครน

เจค ซุลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นในวันอาทิตย์ (13 ก.พ.) ไม่ยืนยันรายงานข่าวที่ระบุ ข่าวกรองสหรัฐฯ บ่งชี้ว่ารัสเซียกำลังมีแผนรุกรานยูเครนในวันพุธ (16 ก.พ.) โดยเพียงแต่บอกว่าพวกเขาจะพยายามปกป้องกัน "เหตุโจมตีน่าประหลาดใจใดๆ" ด้วยการแชร์ข้อมูลเท่าที่รู้เกี่ยวกับแผนการของรัสเซีย

"เราไม่สามารถคาดเดาวันเวลาได้อย่างแน่นอน แต่ตอนนี้เราพูดมาสักพักแล้วว่าเรากำลังอยู่ในจุดนั้น และการรุกรานอาจเริ่มขึ้น ปฏิบัติการทางทหารครั้งใหญ่ของรัสเซียในยูเครนอาจเริ่มขึ้นได้ทุกวันนับตั้งแต่นี้ รวมถึงในสัปดาห์ที่จะถึงนี้ก่อนกีฬาโอลิมปิกเกมส์จบลง" ซุลลิแวนให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็น เมื่อถูกถามถึงความเป็นไปได้ที่มันจะเกิดขึ้นในวันพุธ (16 ก.พ.)

สหรัฐฯ พัฒนา Ghost Drone อาวุธลับเพื่อยูเครนรับมือรัสเซีย โจมตีเป้าหมาย-ทำลายตัวเองทิ้งหลังจากใช้เพียงครั้งเดียว 

ไม่นานมานี้ เพนตากอนเผย สหรัฐฯ ออกแบบอาวุธใหม่อากาศยานไร้คนขับแบบโจมตี 'Ghost drone' เพื่อยูเครนโดยเฉพาะ ใช้โจมตีเป้าหมายครั้งเดียวทิ้ง ขณะที่ปฏิบัติการในยูเครนย่างเข้าเดือนที่ 3 รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ จะจัดประชุมกลาโหมว่าด้วยยูเครนในวันที่ 26 เมษายนนี้ที่เยอรมนี

จอห์น เคอร์บี โฆษกเพนตากอน หรือกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงเมื่อ 21 เม.ย. 65 เปิดเผยถึงอาวุธใหม่ของสหรัฐฯ อย่างอากาศยานไร้คนขับ ที่มีชื่อว่า 'โกสต์ โดรน' (Ghost Drone) ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของอาวุธชุดใหม่ ที่สหรัฐฯ จะส่งไปให้แก่ยูเครน ใช้โจมตีเป้าหมายและถูกทำลายทิ้งหลังจากใช้เพียงครั้งเดียว 

เคอร์บี ระบุว่า หลังจากหารือกับทางยูเครนแล้ว สหรัฐฯ เชื่อว่า 'โกสต์ โดรน' จะเป็นอาวุธที่เหมาะสมกับภูมิภาคดอนบาสของยูเครน ซึ่งมีภูมิประเทศเป็นที่ราบคล้ายคลึงกับรัฐแคนซัสของสหรัฐฯ

ก่อนหน้าการแถลงข่าว เคอร์บี ระบุว่า 'โกสต์ โดรน' ถูกพัฒนาขึ้นอย่างเร่งด่วนโดยกองทัพอากาศสหรัฐฯ เพื่อยูเครนโดยเฉพาะ แต่ในการแถลงข่าวหลังจากนั้นในวันเดียว เขาแก้ว่า สหรัฐฯ ได้เริ่มพัฒนาอากาศยานไร้คนขับตัวนี้ ตั้งแต่ก่อนที่รัสเซียจะเปิดปฏิบัติการในยูเครนในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ขณะนี้ มีทหารยูเครนจำนวนหนึ่งอยู่ในสหรัฐฯ กำลังได้รับการฝึกควบคุมอากาศยานโจมตีไร้คนขับของสหรัฐฯ อีกชนิดหนึ่ง ที่มีชื่อว่า 'สวิตช์เบลด' (Switchblade) ซึ่งเป็นอาวุธแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งเช่นกัน โดยจะบินเข้าชนเป้าหมายและจะระเบิดเมื่อกระทบเป้าหมาย

‘รอยเตอร์’ เผย ‘กองทัพสหรัฐฯ’ เปิดยุทธการลับบน ‘สื่อสังคมออนไลน์’ เพื่อป้ายสี ทำลายชื่อเสียง วัคซีนโควิดของจีน ในช่วงแพร่ระบาดโควิด-19

(16 มิ.ย.67) ยุทธการของเพนตากอน สำหรับทำลายชื่อเสียงวัคซีนจีน มีขึ้นระหว่างช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2020 ถึงกลางปี 2021 โดยมุ่งเน้นไปที่ฟิลิปปินส์ ก่อนขยายวงสู่พื้นที่อื่นๆ ของเอเชียและตะวันออกกลาง ตามรายงานของรอยเตอร์ที่กล่าวอ้างในบทความชิ้นหนึ่งซึ่งเผยแพร่ในวันศุกร์ (14 มิ.ย.)

เพนตากอนพึ่งพิงบัญชีปลอมบนสื่อสังคมออนไลน์ แอบอ้างตัวเป็นผู้ใช้ชาวฟิลิปปินส์ เผยแพร่คำกล่าวอ้างอันเป็นเท็จว่า วัคซีนซิโนแวคของจีน เช่นเดียวกับชุดตรวจและหน้ากากอนามัยที่ผลิตโดยประเทศแห่งนี้มีคุณภาพที่ย่ำแย่

ซิโนแวค ซึ่งเริ่มต้นแจกจ่ายในเดือนมีนาคม 2021 กลายเป็นวัคซีนตัวแรกที่ชาวฟิลิปปินส์เข้าถึงได้ระหว่างโรคระบาดใหญ่

‘โควิดมาจากจีนและวัคซีนก็มาจากจีนเช่นกัน ดังนั้นอย่าไว้ใจจีน’ รูปแบบการโพสต์หนึ่ง ส่วนหนึ่งในยุทธการทำลายชื่อเสียง ภายใต้สโลแกน #ChinaAngVirus (จีนคือไวรัส) ตามรายงานของรอยเตอร์ ส่วนอีกโพสต์ที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไป กล่าวอ้างว่า ‘ทุกอย่างที่มาจากจีน ทั้งชุดป้องกัน หน้ากาก และวัคซีน ล้วนแต่เป็นของปลอม แต่โคโรนาไวรัสนั้นเป็นของจริง’

ยิ่งไปกว่านั้น เพนตากอนพยายามสื่อสารไปยังพวกผู้ใช้ชาวมุสลิมในเอเชียและตะวันออกกลาง สืบเนื่องจากข้อเท็จจริงที่ว่าบางครั้งวัคซีนอาจมีส่วนผสมของเจลาตินหมู ดังนั้น วัคซีนของจีนจึงอาจเป็นสิ่งต้องห้ามภายใต้กฎหมายอิสลาม

รอยเตอร์ระบุว่า จากการตรวจสอบของพวกเขา พบว่ามีอย่างน้อย 300 บัญชีบนทวิตเตอร์ ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นเอ็กซ์ ที่มีคุณลักษณะตรงตามกับคำกล่าวอ้างของอดีตเจ้าหน้าที่กองทัพสหรัฐฯ ที่เปิดเผยเรื่องราวเกี่ยวกับยุทธการนี้แก่สื่อมวลชน

เจ้าหน้าที่ระดับสูงในกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ ยืนยันกับรอยเตอร์ว่า ยุทธการลับๆ บนสื่อสังคมออนไลน์สำหรับป้ายสีซิโนแวคนั้นเป็นเรื่องจริง แต่ปฏิเสธให้รายละเอียดเพิ่มเติม

โฆษกรายหนึ่งของเพนตากอน บอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า กองทัพสหรัฐฯ ใช้แพลตฟอร์มที่หลากหลาย ในนั้นรวมถึงสื่อสังคมออนไลน์ สกัดอิทธิพลที่มุ่งร้าย ที่เล็งเป้าเล่นงานสหรัฐฯ พันธมิตรและคู่หู และปักกิ่งคือหนึ่งในนั้น ที่เริ่มเปิดยุทธการบิดเบือนข้อมูล กล่าวโทษอันเป็นเท็จ หาว่าสหรัฐฯ เป็นคนแพร่กระจายโควิด-19

ในปฏิกิริยาที่มีต่อรายงานของรอยเตอร์ ทางกระทรวงการต่างประเทศของจีน เน้นย้ำผ่านทางอีเมล ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ บงการสื่อสังคมออนไลน์และเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนมานานแล้ว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top