Tuesday, 20 May 2025
อิหร่าน

'อิหร่าน' ดีเดย์ 5 ก.ค.นี้ ชวนประชาชนเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบที่สอง หลังผู้สมัครชิงตำแหน่งทั้งสี่ ไม่มีผู้ได้รับคะแนนเสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่ง (50%) 

สถานทูตสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน ณ กรุงเทพมหานคร แจ้งว่า เนื่องจากผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน เมื่อวันศุกร์ที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีทั้งสี่ ไม่มีผู้ใดได้รับคะแนนเสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่ง (50%) 

ดังนั้น สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน จึงจัดให้มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบที่สองในวันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม โดยเป็นการเลือกจากผู้สมัครที่ได้รับคะแนนสูงสุดใน 2 ลำดับแรกในรอบที่ผ่านมา ซึ่งได้แก่ นาย Saeed Jalili (38.6%) และ นาย Masoud Pezeshkian (42.5%)

***ทั้งนี้ในส่วนของชาวอิหร่านที่พำนักอยู่ในประเทศไทย ทางสถานทูตสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน ณ กรุงเทพมหานคร ยังคงทำหน้าที่เป็นหน่วยเลือกตั้งสำหรับชาวอิหร่านในประเทศไทยอีกครั้งหนึ่งในวันศุกร์ ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 เวลา 08.00 ถึง 18.00 น . 

สถานทูตสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน ณ กรุงเทพมหานคร จึงขอเชิญชวนพี่น้องชาวอิหร่านในประเทศไทยได้ออกมาใช้สิทธิของท่านอีกครั้งหนึ่ง

สาสน์จาก ‘Masoud Pezeshkian’ ปธน.อิหร่านคนใหม่ แสดงจุดยืนหวังขับเคลื่อนความสัมพันธ์กับทุกประเทศ

สาสน์จาก ‘Masoud Pezeshkian’ ว่าที่ประธานาธิบดีสาธารณรัฐอิสลามถึงประเทศโลกใหม่…

เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 ประธานาธิบดี Ebrahim Raisi ถึงแก่อสัญกรรมในอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกอันน่าสลดใจ ท่านเป็นข้ารัฐการการเมืองที่ได้รับความเคารพนับถืออย่างสุดซึ้งและอุทิศตน อสัญกรรมของท่านทำให้ต้องมีการเลือกตั้งในอิหร่าน และถือเป็นช่วงเวลาสำคัญในประวัติศาสตร์ของประเทศของเรา

ท่ามกลางสงครามและความวุ่นวายในภูมิภาคของเรา ระบบการเมืองของอิหร่านแสดงให้เห็นถึงเสถียรภาพที่น่าทึ่งด้วยการจัดการเลือกตั้งด้วยการแข่งขัน สันติ และเป็นระเบียบเรียบร้อย ขจัดคำสบประมาทของ ‘ผู้เชี่ยวชาญอิหร่าน’ บางคนในรัฐบาลบางแห่งเสถียรภาพนี้และท่าทางที่มีเกียรติในการเลือกตั้ง ตอกย้ำถึงความตระหนักรู้ของผู้นำสูงสุดของเรา อยาตุลลอฮ์ Khamenei และการอุทิศตนของประชาชนของเราในการเปลี่ยนแปลงอำนาจตามระบอบประชาธิปไตย แม้จะเผชิญกับความยากลำบากก็ตาม

ข้าพเจ้าลงสมัครเข้ารับการเลือกตั้งในตำแหน่งนี้บนพื้นฐานของการปฏิรูป ส่งเสริมความสามัคคีในชาติ และการมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์กับโลก ในที่สุดข้าพเจ้าก็ได้รับความไว้วางใจจากเพื่อนร่วมชาติลงคะแนนให้ รวมไปถึงหนุ่มสาวที่ไม่พอใจกับสถานการณ์โดยรวม ข้าพเจ้าให้ความสำคัญกับความไว้วางใจของพวกเขาเป็นอย่างยิ่ง และมุ่งมั่นที่จะปลูกฝังความเห็นพ้องต้องกันทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อรักษาสัญญาที่ข้าพเจ้าให้ไว้ระหว่างการรณรงค์หาเสียง

ข้าพเจ้าขอเน้นย้ำว่าฝ่ายบริหารของข้าพเจ้าจะถูกชี้นำโดยความมุ่งมั่นในการรักษาศักดิ์ศรีของชาติและสถานะระหว่างประเทศของอิหร่านภายใต้ทุกสถานการณ์ นโยบายต่างประเทศของอิหร่านก่อตั้งขึ้นบนหลักการของ ‘ศักดิ์ศรี สติปัญญา และความรอบคอบ’ โดยการกำหนดและการดำเนินนโยบายของรัฐนี้เป็นความรับผิดชอบของประธานาธิบดีและรัฐบาล ข้าพเจ้าตั้งใจที่จะใช้อำนาจทั้งหมดที่มอบให้กับ 8Itme งานของข้าพเจ้าเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่ครอบคลุมนี้

ด้วยเหตุนี้ ฝ่ายบริหารของข้าพเจ้าจึงดำเนินนโยบายที่ขับเคลื่อนด้วยโอกาสโดยการสร้างสมดุลในความสัมพันธ์กับทุกประเทศ โดยสอดคล้องกับผลประโยชน์ของประเทศ การพัฒนาเศรษฐกิจ และข้อกำหนดด้านสันติภาพและความมั่นคงระดับภูมิภาคและระดับโลก ด้วยเหตุนี้ เรายินดีรับความพยายามอย่างจริงใจในการบรรเทาความตึงเครียด และจะตอบแทนด้วยความจริงใจด้วยความซื่อสัตย์

ภายใต้การบริหารของข้าพเจ้า เราจะให้ความสำคัญกับการกระชับความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านของเรา เราจะสนับสนุนการสถาปนา ‘ภูมิภาคที่เข้มแข็ง’ แทนที่จะเป็นประเทศเดียวที่แสวงหาอำนาจและอำนาจเหนือประเทศอื่น ๆ ข้าพเจ้าเชื่ออย่างแน่วแน่ว่าประเทศเพื่อนบ้านและประเทศพี่น้องไม่ควรสิ้นเปลืองทรัพยากรอันมีค่าของตนไปกับการแข่งขันที่กัดเซาะ การแข่งขันกันสะสมอาวุธ หรือการปิดกั้นซึ่งกันอย่างไม่สมเหตุสมผล แต่เราจะตั้งเป้าที่จะสร้างสภาพแวดล้อมที่ทรัพยากรของเราสามารถอุทิศให้กับความก้าวหน้าและการพัฒนาของภูมิภาคเพื่อประโยชน์ของทุกคน

เราตั้งตารอที่จะร่วมมือกับ ทูร์เคีย, ซาอุดิอาระเบีย, โอมาน, อิรัก, บาห์เรน, กาตาร์, คูเวต, สหรัฐ, อาหรับเอมิเรตส์ และองค์กรในระดับภูมิภาคเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของเราให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการค้า ส่งเสริมการลงทุนร่วมทุน รับมือกับความท้าทายร่วมกัน และ มุ่งสู่การสร้างกรอบการทำงานระดับภูมิภาคสำหรับการเจรจา การสร้างความเชื่อมั่น และการพัฒนา ภูมิภาคของเราประสบปัญหาสงคราม ความขัดแย้งทางนิกาย การก่อการร้ายและลัทธิหัวรุนแรง การค้ายาเสพติด การขาดแคลนน้ำ วิกฤตผู้ลี้ภัย ความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อม และการแทรกแซงจากต่างประเทศมานานเกินไป ถึงเวลาแล้วที่จะจัดการกับความท้าทายทั่วไปเหล่านี้เพื่อประโยชน์ของคนรุ่นอนาคต ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาภูมิภาคและความเจริญรุ่งเรืองจะเป็นหลักการชี้นำของนโยบายต่างประเทศของเรา

เนื่องจากประเทศต่าง ๆ มีทรัพยากรมากมายและมีประเพณีร่วมกันซึ่งมีรากฐานมาจากคำสอนอิสลามอันสันติ เราจึงต้องรวมตัวกันและพึ่งพาพลังแห่งตรรกะมากกว่าตรรกะแห่งอำนาจ ด้วยการใช้ประโยชน์จากอิทธิพลเชิงบรรทัดฐานของเรา เราสามารถมีบทบาทสำคัญในระเบียบโลกหลังขั้วโลกที่เกิดขึ้นใหม่ได้ด้วยการส่งเสริมสันติภาพ สร้างสภาพแวดล้อมที่สงบซึ่งเอื้อต่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ส่งเสริมการสนทนา และขจัดความกลัวอิสลาม อิหร่านพร้อมที่จะแสดงส่วนแบ่งที่ยุติธรรมในเรื่องนี้

ในปี 1979 หลังการปฏิวัติ สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านที่จัดตั้งขึ้นใหม่ ได้รับแรงบันดาลใจจากการเคารพกฎหมายระหว่างประเทศและสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน ได้ตัดความสัมพันธ์กับระบอบการแบ่งแยกสีผิวและเชื้อชาติสองประเทศ ได้แก่ อิสราเอลและแอฟริกาใต้ อิสราเอลยังคงเป็นระบอบการแบ่งแยกสีผิวมาจนถึงทุกวันนี้ โดยเพิ่ม ‘การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์’ เข้าไปในบันทึกที่เสียหายจากการยึดครอง อาชญากรรมสงคราม การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ การสร้างถิ่นฐาน การครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ การผนวกดินแดนอย่างผิดกฎหมาย และการรุกรานต่อเพื่อนบ้าน

มาตรการแรก ฝ่ายบริหารของข้าพเจ้าจะกระตุ้นให้ประเทศอาหรับเพื่อนบ้านของเราร่วมมือกันและใช้ประโยชน์ทางการเมืองและการทูตทั้งหมด เพื่อจัดลำดับความสำคัญของการหยุดยิงอย่างถาวรในฉนวนกาซา โดยมีเป้าหมายเพื่อหยุดยั้งการสังหารหมู่และป้องกันการขยายความขัดแย้ง จากนั้นเราจะต้องทำงานอย่างขยันขันแข็งเพื่อยุติการยึดครองที่ยืดเยื้อซึ่งทำลายล้างชีวิตของชาวปาเลสไตน์ถึง 4 รุ่น ในบริบทนี้ ข้าพเจ้าต้องการเน้นย้ำว่าทุกรัฐมีหน้าที่ผูกพันภายใต้อนุสัญญาการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ปี 1948 ในการใช้มาตรการป้องกันการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และจะไม่ยอมให้รางวัลผ่านการปรับความสัมพันธ์กับผู้กระทำความผิดให้เป็นปกติ

วันนี้ดูเหมือนว่าคนหนุ่มสาวจำนวนมากในหลายประเทศได้ตระหนักถึงความถูกต้องของจุดยืนของเราที่มีต่อระบอบการปกครองของอิสราเอลที่มีมานานหลายทศวรรษ ข้าพเจ้าอยากจะใช้โอกาสนี้บอกคนรุ่นที่กล้าหาญนี้ว่า เราถือว่าข้อกล่าวหาเรื่องการต่อต้านชาวยิวของอิหร่านในเรื่องจุดยืนที่เป็นหลักการต่อประเด็นปาเลสไตน์นั้นไม่เพียงแต่เป็นเท็จอย่างชัดแจ้งเท่านั้น แต่ยังเป็นการดูหมิ่นวัฒนธรรม ความเชื่อ และค่านิยมหลักของเราด้วย มั่นใจได้ว่าข้อกล่าวหาเหล่านี้ไร้สาระพอ ๆ กับคำกล่าวอ้างที่ไม่ยุติธรรมเกี่ยวกับการต่อต้านชาวยิวที่มุ่งเป้าไปยังพวกท่าน ในขณะที่พวกท่านประท้วงในวิทยาเขตของมหาวิทยาลัยเพื่อปกป้องสิทธิในการมีชีวิตของชาวปาเลสไตน์

จีนและรัสเซียยืนหยัดเคียงข้างเราอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาที่ท้าทาย เราให้ความสำคัญกับมิตรภาพนี้อย่างลึกซึ้ง แผนงาน 25 ปีของเรากับจีนแสดงถึงหลักชัยสำคัญในการสร้าง ‘หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุม’ ที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน และเราหวังว่าจะได้ร่วมมือกับปักกิ่งอย่างกว้างขวางมากขึ้น ในขณะที่เราก้าวไปสู่ระเบียบโลกใหม่ ในปี 2023 จีนมีบทบาทสำคัญในการอำนวยความสะดวกในการฟื้นความสัมพันธ์ของเรากับซาอุดิอาระเบียให้เป็นปกติ โดยแสดงให้เห็นวิสัยทัศน์ที่สร้างสรรค์และแนวทางการคิดล่วงหน้าในกิจการระหว่างประเทศ

รัสเซียเป็นพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ที่มีคุณค่าและเป็นเพื่อนบ้านกับอิหร่าน และฝ่ายบริหารของข้าพเจ้าจะยังคงมุ่งมั่นที่จะขยายและเสริมสร้างความร่วมมือของเรา เรามุ่งมั่นเพื่อสันติภาพสำหรับประชาชนรัสเซียและยูเครน และรัฐบาลของข้าพเจ้าจะเตรียมพร้อมที่จะสนับสนุนโครงการริเริ่มต่าง ๆ ที่มุ่งบรรลุเป้าหมายนี้อย่างแข็งขัน ข้าพเจ้าจะให้ความสำคัญกับความร่วมมือทวิภาคีและพหุภาคีกับรัสเซียต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายในกรอบเช่น BRICS องค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ และสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย

ด้วยความตระหนักว่าภูมิทัศน์โลกได้พัฒนาไปไกลกว่าพลวัตแบบดั้งเดิม ฝ่ายบริหารของข้าพเจ้าจึงมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์ที่เป็นประโยชน์ร่วมกันกับผู้เล่นระดับนานาชาติที่เกิดขึ้นใหม่ในซีกโลกใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประเทศในแอฟริกา เราจะมุ่งมั่นที่จะเพิ่มพูนความพยายามในการทำงานร่วมกันและเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนของเราเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

ความสัมพันธ์ของอิหร่านกับละตินอเมริกามั่นคงดี และจะรักษาและกระชับอย่างใกล้ชิดเพื่อส่งเสริมการพัฒนา การเจรจา และความร่วมมือในทุกสาขา ความร่วมมือระหว่างอิหร่านและประเทศในละตินอเมริกามีศักยภาพมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันอย่างมีนัยสำคัญ และเราหวังว่าจะกระชับความสัมพันธ์ของเราให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

ความสัมพันธ์ของอิหร่านกับยุโรปมีทั้งขึ้นและลง หลังจากที่สหรัฐฯ ถอนตัวจาก JCPOA (แผนปฏิบัติการร่วมที่ครอบคลุม) ในเดือนพฤษภาคม 2018 ประเทศในยุโรปได้ให้คำมั่นสัญญา 11 ประการกับอิหร่านเพื่อพยายามกอบกู้ข้อตกลงและบรรเทาผลกระทบของการคว่ำบาตรฝ่ายเดียวที่ผิดกฎหมายของสหรัฐอเมริกาต่อเศรษฐกิจของเรา ข้อผูกพันเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการรับรองการทำธุรกรรมทางธนาคารที่มีประสิทธิภาพ การปกป้องบริษัทจากการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และการส่งเสริมการลงทุนในอิหร่านอย่างมีประสิทธิผล ประเทศในยุโรปได้ละทิ้งพันธกรณีเหล่านี้ทั้งหมด แต่ก็คาดหวังอย่างไร้เหตุผลว่าอิหร่านจะปฏิบัติตามพันธกรณีทั้งหมดของตนภายใต้ JCPOA เพียงฝ่ายเดียว

แม้จะมีเรื่องผิดปกติเหล่านี้ ข้าพเจ้ายังคงตั้งตารอที่จะได้มีส่วนร่วมในการเจรจาที่สร้างสรรค์กับประเทศต่าง ๆ ในยุโรป เพื่อกำหนดความสัมพันธ์ของเราบนเส้นทางที่ถูกต้อง บนหลักการของการเคารพซึ่งกันและกันและการยืนหยัดที่เท่าเทียมกัน ประเทศในยุโรปควรตระหนักว่า ชาวอิหร่านเป็นคนที่ภาคภูมิใจซึ่งสิทธิและศักดิ์ศรี ซึ่งไม่สามารถมองข้ามได้อีกต่อไป มีความร่วมมือหลายประการที่อิหร่านและยุโรปสามารถสำรวจได้เมื่อมหาอำนาจของยุโรปตกลงกับความเป็นจริงนี้ และละทิ้งอำนาจสูงสุดทางศีลธรรมที่ถือตนเป็นใหญ่ ควบคู่ไปกับวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งรบกวนความสัมพันธ์ของเรามาเป็นเวลานาน โอกาสในการร่วมมือ ได้แก่ ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี ความมั่นคงด้านพลังงาน เส้นทางการคมนาคม สิ่งแวดล้อม ตลอดจนการต่อต้านการก่อการร้ายและการค้ายาเสพติด วิกฤตผู้ลี้ภัย และสาขาอื่น ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถดำเนินไปเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติของเรา

สหรัฐฯ จำเป็นต้องยอมรับความเป็นจริงและเข้าใจทันทีว่าอิหร่านไม่ และจะไม่ ตอบสนองต่อแรงกดดัน เราเข้าร่วม JCPOA ในปี 2015 โดยสุจริตและปฏิบัติตามพันธกรณีของเราอย่างเต็มที่ แต่สหรัฐฯ ถอนตัวจากข้อตกลงโดยมิชอบด้วยกฎหมายซึ่งมีสาเหตุมาจากการทะเลาะวิวาทและการแก้แค้นภายในประเทศล้วน ๆ ก่อให้เกิดความเสียหายหลายแสนล้านดอลลาร์ต่อเศรษฐกิจของเรา และก่อให้เกิดความทุกข์ทรมาน ความตาย และการทำลายล้างอย่างนับไม่ถ้วนต่อชาวอิหร่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการระบาดใหญ่ของ COVID-19 ผ่านทางการกำหนดมาตรการคว่ำบาตรฝ่ายเดียวนอกอาณาเขต โดยสหรัฐฯ จงใจเลือกที่จะยกระดับความเป็นปฏิปักษ์โดยไม่เพียงแต่ทำสงครามทางเศรษฐกิจกับอิหร่านเท่านั้น แต่ยังมีส่วนร่วมในการก่อการร้ายโดยรัฐด้วยการลอบสังหารนายพลกัสเซม โซไลมานี วีรบุรุษต่อต้านการก่อการร้ายระดับโลก ซึ่งเป็นที่รู้จักจากความสำเร็จในการช่วยชีวิตผู้คนในภูมิภาคของเราจากหายนะของ ISIS และกลุ่มก่อการร้ายที่โหดร้ายอื่น ๆ ปัจจุบัน โลกกำลังประสบกับผลร้ายจากการเลือกนั้น

สหรัฐฯ และพันธมิตรตะวันตก ไม่เพียงแต่พลาดโอกาสทางประวัติศาสตร์ในการลดและจัดการความตึงเครียดในภูมิภาคและโลกเท่านั้น แต่ยังบ่อนทำลายสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธ (NPT) อย่างจริงจังด้วยการแสดงให้เห็นว่าต้นทุนของการยึดมั่นในหลักการของการไม่แพร่ขยายอาวุธ - ระบอบการแพร่กระจายอาจมีมากกว่าผลประโยชน์ที่จะได้รับ แท้จริงแล้ว สหรัฐฯ และพันธมิตรตะวันตกได้ใช้ระบอบการปกครองที่ไม่แพร่ขยายอาวุธในทางที่ผิดเพื่อสร้างวิกฤตเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์เพื่อสันติของอิหร่าน ซึ่งขัดแย้งกับการประเมินข่าวกรองของพวกเขาเองอย่างเปิดเผย และใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อรักษาแรงกดดันที่ยั่งยืนต่อประชาชนของเรา ในขณะที่พวกเขามีส่วนร่วมอย่างแข็งขันและ ยังคงสนับสนุนอาวุธนิวเคลียร์ของอิสราเอล ระบอบการแบ่งแยกเชื้อชาติ ผู้รุกรานและสมาชิกที่ไม่ใช่ NPT และเป็นที่รู้กันว่าเป็นผู้ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์อย่างผิดกฎหมาย

ข้าพเจ้าขอเน้นย้ำว่าหลักการด้านกลาโหมของอิหร่านนั้นจะไม่รวมถึงอาวุธนิวเคลียร์ และเรียกร้องให้สหรัฐฯ เรียนรู้จากการคำนวณที่ผิดพลาดในอดีต และปรับนโยบายของตนให้เหมาะสม ผู้มีอำนาจตัดสินใจในวอชิงตันจำเป็นต้องตระหนักว่านโยบายที่ประกอบด้วยประเทศในภูมิภาคที่แข่งขันกันเองนั้นไม่ประสบความสำเร็จและจะไม่ประสบความสำเร็จในอนาคต พวกเขาจำเป็นต้องทำใจกับความเป็นจริงนี้และหลีกเลี่ยงไม่ให้ความตึงเครียดในปัจจุบันรุนแรงขึ้น

ชาวอิหร่านมอบความไว้วางใจให้กับข้าพเจ้าในการดำเนินการมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์ในเวทีระหว่างประเทศ ขณะเดียวกันก็ยืนกรานในสิทธิของเรา ศักดิ์ศรีของเรา และบทบาทที่สมควรได้รับของเราในภูมิภาคและโลก ข้าพเจ้าขอเชิญชวนผู้ที่เต็มใจเข้าร่วมกับเราในความพยายามครั้งประวัติศาสตร์นี้

‘ทรัมป์’ ขู่!! ‘อิหร่าน’ หากมีแผนลอบสังหารตนเองจริง ‘สหรัฐฯ’ ควรจะ 'ทำลาย-กำจัด' ให้หายไปจากแผนที่โลก

(26 ก.ค. 67) อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้โพสต์ข้อความบน Truth Social ของเขาว่า การลอบสังหารตนด้วยฝีมือของอิหร่านยังมีโอกาสขึ้นได้เสมอ ซึ่งหากเรื่องนี้เกิดขึ้นจริง สหรัฐฯ ควรจะทำลายและกำจัดอิหร่านออกไปจากแผนที่โลก

โพสต์ของทรัมป์ยังได้แสดงคลิปวิดีโอของนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล ระหว่างการกล่าวปราศรัยต่อสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 24 ก.ค.2567 ซึ่งนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูอ้างว่าอิหร่านมีแผนปองร้ายทรัมป์

ขณะที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สำนักข่าว CNN รายงานว่า ก่อนเกิดเหตุลอบยิงทรัมป์ระหว่างการปราศรัยหาเสียงที่รัฐเพนซิลเวเนีย ทางการสหรัฐฯ ได้รับข้อมูลข่าวกรองว่า อิหร่านมีแผนสังหารทรัมป์ ทำให้ทีมอารักขาต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย แต่เจ้าหน้าที่ไม่พบความเชื่อมโยงระหว่าง โทมัส แมททิว ครูกส์ คนร้ายผู้ก่อเหตุลอบยิงกับรัฐบาลอิหร่านแต่อย่างใด

ด้านกระทรวงการต่างประเทศอิหร่านปฏิเสธรายงานข่าวดังกล่าว โดยตอบโต้ว่าเป็นเรี่องการเมือง แม้หลายฝ่ายเชื่อว่าอิหร่านยังคงต้องการล้างแค้นให้กับการเสียชีวิตของ นายพล กาเซม โซเลมานี ผู้บัญชากองกำลังคุดส์ ของกองทัพพิทักษ์ปฏิวัติอิสลาม ที่ถูกลอบสังหารด้วยโดรนสหรัฐฯ ในอิรักในเดือน ม.ค. ปี 2020

นอกจากนี้ในปี 2019 ทรัมป์ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในขณะนั้นขู่จะทำลายอิหร่าน หากโจมตีเป้าหมาอเมริกันใด ๆ ก็ตามซึ่งตลอดระยะเวลาที่อยู่ในอำนาจ ทรัมป์ได้ใช้นโยบายแข็งกร้าวกับอิหร่านมาโดยตลอด ทั้งการใช้มาตรการลงโทษและการถอนตัวจากข้อตกลงที่ชาติมหาอำนาจสัญญาว่าจะลดการคว่ำบาตรต่ออิหร่านเพื่อแลกกับการจำกัดโครงการพัฒนาด้านนิวเคลียร์

ส่วนความเคลื่อนไหวของรองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส ว่าที่แคนดิแดตพรรคเดโมแครตได้เปิดตัวคลิปโฆษณาหาเสียงออนไลน์เป็นครั้งแรก ซึ่งมาพร้อมกับเพลง ‘ฟรีดอม’ (Freedom) ที่แปลว่าเสรีภาพ ขับร้องโดย ‘บียองเซ’

โดยเนื้อหาในคลิปหาเสียงนี้ แฮรร์ริสได้ย้ำจุดยืนในเรื่องการแก้ไขความรุนแรงจากอาวุธปืน  เสรีภาพในการตัดสินใจเกี่ยวกับร่างกายของตัวเอง ประกันสุขภาพที่ทุกคนเข้าถึง และ การที่ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย

น้ำมันดิบราคาพุ่ง 5% จากอิทธิพลอิหร่านเปิดฉากโจมตีอิสราเอล หวั่นเกิดสงครามระดับภูมิภาค

(2 ต.ค. 67) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าเมื่อคืนวันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา อิหร่านได้เปิดฉากยิงขีปนาวุธเข้าโจมตีอิสราเอลแล้ว ซึ่งทางกองทัพอิสราเอลประเมินว่ามีไม่ต่ำกว่า 180 ลูก แต่ส่วนใหญ่ถูกสกัดเอาไว้ได้ทั้งหมด 

กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน (IRGC) ออกแถลงการณ์ระบุว่า อิหร่านได้ยิงขีปนาวุธจำนวนมากเข้าโจมตีอิสราเอลเพื่อตอบโต้ต่อการสังหารประชาชนในฉนวนกาซา รวมทั้งผู้นำของกลุ่มฮามาสและฮิซบอลเลาะห์ ที่อิสราเอลออกปฏิบัติการไล่ปลิดชีพไปก่อนหน้านี้ และเตือนว่าอิสราเอลจะถูกโจมตีแบบบดขยี้ หากทำการตอบโต้อิหร่าน

อิหร่านเตือนว่าจะมุ่งเป้าโจมตี "ฐานที่มั่นและผลประโยชน์" ที่เกี่ยวข้องกับอิสราเอลในภูมิภาค หากอิสราเอลเข้าทำสงครามกับอิหร่าน "โดยตรง" และย้ำว่าการลงมือใดๆ ของอิสราเอลเพื่อตอบโต้การโจมตีด้วยขีปนาวุธในครั้งนี้ จะหมายถึงความพินาศย่อยยับครั้งใหญ่ของโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอิสราเอล 

การโจมตีดังกล่าวมีขึ้น หลังจากสหรัฐแจ้งเตือนว่า อิหร่านกำลังเตรียมการยิงขีปนาวุธพิสัยไกลแบบทิ้งตัว (ballistic missile) โจมตีโดยตรงต่ออิสราเอลในไม่ช้า

ด้านนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล กล่าวในการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า อิหร่าน "ได้ทำผิดพลาดครั้งใหญ่เมื่อคืนนี้ และจะต้องชดใช้" และย้ำว่าอิหร่านไม่ได้เข้าใจเลยถึงความมุ่งมั่นของอิสราเอลในการล้างแค้นตอบโต้ศัตรู

"พวกเขาจะเข้าใจ" "เราจะยืนหยัดตามกฎที่เราวางเอาไว้ว่า ใครก็ตามที่โจมตีเรา เราจะเอาคืน"

ด้านพลเรือตรีดาเนียล ฮาการี โฆษกกองทัพอิสราเอล กล่าวว่า อิสราเอลเตรียมความพร้อมขั้นสูงสุดเพื่อรับมือการโจมตีในครั้งนี้ โดยได้รับการสนับสนุนจากกองทัพสหรัฐที่ประจำการในภูมิภาค

"การที่อิหร่านยิงขีปนาวุธโจมตีอิสราเอลจะมีผลที่ตามมาแน่ ซึ่งผมขอไม่เปิดเผยรายละเอียด"

ด้านราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) พุ่งกว่า 5% ทะลุระดับ 71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังมีรายงานว่าอิหร่านได้ยิงขีปนาวุธโจมตีอิสราเอล

ณ เวลา 00.13 น.ตามเวลาไทย ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส งวดส่งมอบเดือนพ.ย. บวก 3.44 ดอลลาร์ หรือ 5.05% สู่ระดับ 71.61 ดอลลาร์/บาร์เรล

ดร.สุวินัย ชี้ใกล้ถึงจุดตัดสินเหตุการณ์ปะทะ ‘อิหร่าน-อิสราเอล’ ในตะวันออกกลาง พี่ใหญ่ ‘สหรัฐ’ ไม่เอาสงครามภูมิภาค หวั่น! จีน-รัสเซีย-อิหร่าน เกาะกลุ่มแน่น

(4 ต.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร.สุวินัย ภรณวลัย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนักเขียนชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความวิเคราะห์สถานการณ์ระหว่างอิสราเอล-อิหร่านในชื่อ ‘ตุลาคม คือคำตอบ’ บนเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า

‘ตุลาคม’ คือคำตอบ

อิสราเอลต้องการทำสงครามโดยมีส่วนร่วมของสหรัฐอเมริกา อิหร่านกำลังพยายามป้องกันสงครามใหญ่

‘ยูเครนและอิสราเอล’ ต้องการดึงสหรัฐฯ เข้าสู่ความขัดแย้ง แต่พวกเขาจะพบว่าตัวเองติดกับดัก ต้องการสงครามแต่ทำเนียบขาวไม่ขี่ม้าขาวส่งกองกำลังผสมมาช่วย 

หลังจากนั้นปลายเดือนนี้รัสเซีย​และจีน พร้อมชาติ BRICS ที่ ‘คาซาน’ จะม้วนเสื่อ กรอบความคิดเกี่ยวกับ ‘ทฤษฎีพันล้านทองคำ’ โลกาภิวัตน์และรัฐลึก ไว้ใต้พรมตลอดชีวิต

‘ทฤษฎีพันล้านทองคำ’ เป็นทฤษฎีสมคบคิดที่กลุ่มคนชั้นสูงระดับโลก กำลังใช้เส้นสายเพื่อสะสมความมั่งคั่งให้กับคนรวยที่สุดจำนวนหนึ่งของโลก โดยไม่คำนึงถึงมนุษยชาติที่เหลือ ทฤษฎีนี้เป็นคำศัพท์ที่นิยมใช้กันในโลกที่พูดภาษารัสเซีย

>>>การยับยั้งสงครามใหญ่ ชนวนแห่งสงครามโลกครั้งที่สาม
(1) การโจมตีในพื้นที่มีความหมาย​เฉพาะของอิหร่านบนดินแดนอิสราเอล​ไม่ได้สร้างความเสียหายเพียงเล็กน้อย การโจมตีสำนักงานใหญ่ของ Mossad ในเทลอาวีฟ และหน่วยที่อยู่รอบนอกเพียงครั้งเดียวจะมีผลยับยั้งและไม่น่าจะนำไปสู่สงครามใหญ่

ขีปนาวุธโจมตีฐานทัพอากาศของอิสราเอลใน Nevatim ซึ่งมีเครื่องบินของอเมริกาและอิสราเอล 30 ถึง 50 ลำประจำการอยู่ พื้นที่นี้ทางการอิสราเอล พยายามปกปิดความเสียหายอยู่

โดยที่อิหร่านไม่ได้ใช้ขีปนาวุธจำนวนมาก แค่บางส่วนเพียงเท่านั้น แต่สามารถเอาชนะระบบป้องกันทางอากาศ/ป้องกันขีปนาวุธของอิสราเอลและพันธมิตรได้ มีรายงานว่าขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงเกือบทั้งหมดไปถึงเป้าหมาย

การโจมตีที่มีประสิทธิภาพเท่านั้น ที่จะมีผลยับยั้งต่ออิสราเอลและสหรัฐฯ จึงเป็นการยากที่เทลอาวีฟจะเดินหน้าเพิ่มระดับความรุนแรง

อิสราเอลกำลังทำเช่นนี้ เพื่อดึงสหรัฐอเมริกาเข้าสู่ความขัดแย้ง แต่เตหะรานกำลังพยายามอย่างดีที่สุดที่จะตอบสนองต่อพวกเขา ในลักษณะที่จะป้องกันไม่ให้ความขัดแย้งลุกลามบานปลาย

(2) อิหร่านกำลังจัดปาร์ตี้เดือนตุลาคม และการนิ่งของเตหะรานต่อการถูกลอบสังหาร ผู้นำหลายท่านในช่วงที่ผ่านมาไม่ใช่ความอ่อนแอ 

ส่วนสงครามในยูเครนและชายแดนรัสเซียจะจบลงในเดือนตุลาคม หรืออย่างช้าคือสิ้นปีนี้แหละ เพราะ... 

เป็นความจริงที่อิสราเอลตั้งใจที่จะประสานแผนกับสหรัฐฯ เพื่อเปิดฉากโจมตีบนดินแดนของอิหร่านโดยจะต้องอาศัยความร่วมมือเชิงป้องกันกับกองบัญชาการกลางของสหรัฐฯ รวมทั้งอาวุธเพิ่มเติมสำหรับกองทัพอากาศอิสราเอล และอาจต้องได้รับการสนับสนุนปฏิบัติการประเภทอื่น ๆ จากสหรัฐฯ 

แต่ในเดือนหน้า วอชิงตันไม่ต้องการเพิ่มระดับความรุนแรงในตะวันออกกลาง เพราะผลที่ตามมาจากการแลกเปลี่ยนการโจมตี อาจไม่เป็นตามที่อิสราเอลคาดหวัง ไม่ว่าจะผลจะเป็น บวกหรือลบ

ชาติในตะวันออกกลาง อาจมองว่าอิสราเอลเป็นภัยคุกคามระดับใหม่ ซึ่งจะต้องต่อต้านทันที เตหะรานจะกระชับความสัมพันธ์กับมอสโกและปักกิ่งให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

ซึ่งมันเป็นผลดีกับทำเนียบขาวตรงไหน วอชิงตันอยากแยกพวกเขาทั้งสามออกจากกัน ไม่ใช่สร้างสถานการณ์​เพื่อให้เกิด สามประสาน และทำลายยาก

สิ่งที่อันตรายที่สุดสำหรับสหรัฐฯ ในอนาคตอันใกล้นี้ คือความจำเป็นในการแทรกแซงในระดับใหญ่ การส่งทรัพยากรและกระสุนเพิ่มเติมให้กับอิสราเอล และก็ยังต้องแก้ไขกลยุทธ์และวาทกรรมในทิศทางของยูเครนเพื่อรักษาพื้นที่เดิม 

และหากสหรัฐฯ ต้องเข้าแทรกแซงความขัดแย้งโดยตรงในเดือนหน้า (พฤศจิกายน)​ ที่จะมีการเลือกตั้ง รัฐลึกก็จะเปลี่ยนสภาพไปอยู่ในสถานการณ์ที่ควบคุมผลการเลือกตั้งไม่ได้อย่างสิ้นเชิง 

ดังนั้น วอชิงตันจะพยายามแก้ไขความขัดแย้งด้วยพลังทั้งหมด ไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงที่รับประกันการยืดเวลาการโจมตีซึ่งกันและกัน

ขณะนี้ สหรัฐฯ 'ห้ามปราม' อิสราเอลไม่ให้ตอบโต้อิหร่าน และจนถึงขณะนี้ สถานการณ์ดูเหมือนทั้งสองฝ่ายมีเจตนาที่จะหลีกเลี่ยงการปะทะโดยตรง 

เหตุผลนั้นชัดเจน ... การปะทะดังกล่าวอาจกลายเป็นหายนะครั้งใหญ่ ทำลายแผนการทางการเมืองทั้งหมด และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างรุนแรง รวมถึงห่วงโซ่อุปทาน เนื่องจากการสื่อสารเคเบิลใต้น้ำทางทะเลในตะวันออกกลางมีบทบาทในการสั่งการเป็นอย่างมาก

แต่สงครามระหว่างอิสราเอลและฮิซบุลเลาะห์ยังคงดำเนินต่อไป 

ณ เวลานี้ ตัวเลือก "สหรัฐฯ กำลังจัดตั้งกองกำลังผสมเพื่อโจมตีอิหร่าน" ยังไม่ใช่ตัวเลือกที่ใช่

แทบจะรับประกันได้เลยว่าผู้นำนาโต้จะไม่รวมอยู่ในกองกำลังผสมดังกล่าว และการร่วมมือกันของอิสราเอลและราชวงศ์อาหรับในอ่าวเปอร์เซียต่ออิหร่านก็ถูกตัดออก เนื่องจากทัศนคติเฉพาะเจาะจงของชาวอาหรับที่มีต่อเปอร์เซีย ดีขึ้นในช่วงหลัง

สหรัฐอเมริกาเองก็ไม่ต้องการสงครามในตะวันออกกลาง 

และในระหว่างนี้สหรัฐอเมริกาไม่อยากกระตุ้นให้อิหร่าน​กลายเป็นสมาชิกโดยพฤตินัยของ 'Club Nuclear' อย่างรวดเร็ว 

การแก้ปัญหาทางการทูตเป็นสิ่งที่พึงปรารถนา เพราะวอชิงตันเน้นย้ำว่าอิหร่านเป็นอำนาจนิวเคลียร์ 'ที่ซ่อนอยู่' ซึ่งเป็นอำนาจที่ยังคงไม่ใช้นิวเคลียร์ตามความใจชอบ 

แต่เมื่อเตหะรานตัดสินใจที่จะเพิ่มความเข้มข้นยูเรเนียมเป็นอาวุธ อิหร่านจะกลายเป็นสมาชิกโดยพฤตินัยของ 'Club Nuclear' ไปแล้ว

ผลที่ตามมาจะทำให้เตหะรานมีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ 

ตะวันออกกลางเป็นจุดตัดระหว่างการค้าโลก โทรคมนาคม และการจัดหาพลังงานให้กับยุโรป แอฟริกา และเอเชีย ภูมิภาคนี้มีน้ำมันและก๊าซธรรมชาติสำรองมากกว่าครึ่งหนึ่งของโลก และอิทธิพลของอิหร่านจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก 

อย่างน้อยที่สุด อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงด้านพลังงานในสหรัฐฯ 

อีกทั้งการคว่ำบาตรอิหร่านจะยากขึ้นมากเนื่องจากไพ่เด็ดด้านนิวเคลียร์สามารถใช้ได้ในหลายพื้นที่ทั่วโลก ไม่ใช่แค่ตะวันออกกลาง 

ความตึงเครียดที่เพิ่มมากขึ้นจะเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการค้าโลกทั้งหมด อิหร่านยังไม่ได้ครอบงำภูมิภาคนี้ แต่ด้วยอาวุธนิวเคลียร์ อิหร่านจะกลายเป็นคู่แข่งของสหรัฐฯ ในทางภูมิศาสตร์ทันที

สิ่งเหล่านี้คือความกลืนไม่เข้าคายไม่ออก​ของทำเนียบขาว เหตุผลที่ทำไมเตหะรานรอเดือนตุลาคม โดยชะลอการโจมตีอิสราเอล ปิดปากอยู่เงียบ ๆ จนโลกชี้หน้าว่า อ่อนแอ ไม่แก้แค้นเสียที 

เตหะรานต้องแก้แค้นแน่นอน แต่ต้องควบคุมวิถีของสงครามให้อยู่ในวงจำกัดได้อีกด้วย และส่งไม่ให้ ปูตินและลุงสี ปลายเดือนนี้ในการล้มกรอบความคิดเกี่ยวกับ 'ทฤษฎีพันล้านทองคำ' ของโลกาภิวัตน์และรัฐลึก ไว้ใต้พรมตลอดชีวิต ที่เมืองคาซาน สหพันธรัฐ​รัสเซีย

~ AnneHya

>>>อิหร่านมีรายได้หลักจากการค้าน้ำมัน (แม้จะอยู่ภายใต้มาตรการแซงชันของตะวันตก) ทำให้มีรายได้ สำหรับการพัฒนาด้านกองทัพ และ สนับสนุนกลุ่มติดอาวุธในตะวันออกกลาง
>>>หากสถานีน้ำมันของอิหร่านถูกอิสราเอลโจมตี จะสร้างผลกระทบแรง ต่อราคาน้ำมันที่จะพุ่งขึ้น และจะกระทบกับการขนส่งทางทะเลในอ่าวเปอร์เซีย

>>>เศรษฐกิจโลกจะได้รับผลกระทบ เงินเฟ้อจะพุ่งแรง (ราคาทองคำ และ น้ำมันจะพุ่งขึ้นด้วยกันสวนทางกับ ตลาดหุ้น และ ตลาดบอนด์ ที่ถูกหนุนเอาไว้ ด้วย พันธบัตรอเมริกาที่จะดิ่งลง)
>>>ความตึงเครียดที่ยกระดับขึ้นเรื่อย ๆ ในตะวันออกกลาง จากการเปิดศึกของอิสราเอล ที่หนุนหลังโดย อเมริกา และกลุ่ม G7 รวมทั้งตอนนี้ คือการเปิดหน้า โจมตีกันไปมา ระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน

>>>ผู้คุมเกม/ผู้รู้เท่าทัน ได้เล็งเห็น ผลลัพธ์ล่วงหน้าแล้วว่าความขัดแย้งเหล่านี้ จะต้องนำไปสู่สงครามขั้นแตกหัก (สงครามใหญ่ระดับสงครามโลก) และการพังทลายของระบบเศรษฐกิจโลก ที่หนุนด้วย พันธบัตรอเมริกา
>>>ขั้วอำนาจตะวันออก ... ได้ถือกำเนิดกลุ่ม BRICS และสกุลเงินใหม่ที่อิงด้วยทองคำ (BRICS Unit) โดยไม่ต้องอาศัย ดอลลาร์... ที่จะมีการประกาศความชัดเจนมากขึ้น ในการประชุมใหญ่ BRICS Summit ในวันที่ 24 ตุลาคม 2024 ที่รัสเซีย... อิหร่าน และ กลุ่ม East จึงมีการเพิ่มการสะสมทองคำ เพื่อใช้อ้างอิงสกุลเงินใหม่แบบดิจิทัล (Digital payment system)... ที่ท้าทาย ดอลลาร์ (ซึ่งกำลังเสื่อมอำนาจซื้อลงเรื่อย ๆ)

>>>ขั้วอำนาจตะวันตก ... โดยกองทุนจัดการสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก คือ BlackRock ซึ่งมี AUM (Asset Under Management ) 10.65 T(rillion dollars) ใน Q2 2024 

รองลงมาคือ Vanguard มี AUM ที่ 8.7T... เพื่อปกป้องความเสี่ยงจากระบบการเงินของโลก ที่มีดอลลาร์เป็นเงินสำรองหลัก ที่กำลังจะล่มสลาย

ด้วยการที่ BlackRock ได้ก่อตั้ง BUIDL (กองทุนเพื่อสภาพคล่องแห่งสถาบันแบบดอลลาร์ดิจิทัล) (BlackRock USD Institutional Digital Liquidity Fund)... โดยแปลง ดอลลาร์ เป็นเหรียญโทเคน (Tokenised fund) บน Ethereum Blockchain (ในความร่วมมือกับ Ethena Labs)... ซึ่งจะจ่ายผลตอบแทนจากดอลลาร์ ผ่านเหรียญโทเคน (Stablecoin UStb) ที่อิงด้วยกองทุน BUIDL ซึ่งลงทุนใน US Dollars, US Treasury bills และ Repo (Repurchase agreements)

รายใหญ่ เขาเตรียมเรือชูชีพ/ทางรอด/Hedging เอาไว้แล้ว เพราะเล็งเห็นแล้วว่า 'เรือใหญ่ดอลลาร์' กำลังจะจม

ย้อนมาดูตัวเล็ก ๆ เช่นเรา ตอนนี้ เราต้องตกผลึกทางความคิดกันแล้วว่า..เรือชูชีพของเรา คือ ปัจจัย 4 ที่ไม่ต้องพึ่งพาระบบ, ที่หลบภัย, และทองคำแท่งในกำมือ

‘สถานทูตไทย ณ กรุงเทลอาวี’ ออกประกาศอำนวยความสะดวกกลับไทย หลังสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง

(6 ต.ค. 67) สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ได้ออกประกาศสำหรับคนไทยในอิสราเอล ว่า 

ตามที่เกิดสถานการณ์ความตึงเครียดในอิสราเอลและภูมิภาคตะวันออกกลาง และมีแนวโน้มทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น

สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอแจ้งว่า หากมีพี่น้องคนไทยในอิสราเอลที่ประสงค์เดินทางกลับประเทศไทย และต้องการความช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูตฯ เพื่อช่วยสำรองบัตรโดยสารเครื่องบิน
พาณิชย์ให้ โดยผู้เดินทางต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง 

สามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ตามหมายเลขโทรศัพท์ด้านล่าง
ฝ่ายกงสุล โทร +972 546368150 +972 503673195
ฝ่ายแรงงาน โทร. +972 9-954-8431+972 54-469-3476
ไอดีไลน์ 0544693476

ด้วยความห่วงใย จากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ

นอกจากนี้ทางสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ยังได้ออก แบบสำรวจความประสงค์ของคนไทยในอิสราเอลในการเดินทางกลับประเทศไทย (โดยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้วยตนเอง) ให้กรอกผ่าน Google Form ได้ที่ https://docs.google.com/forms/d/1k00qCDPoDJdeP_rNHV8MbPSgcht6eJ73ZYJ9zXRZl2Q/viewform?fbclid=IwY2xjawFvLMtleHRuA2FlbQIxMAABHQIxSDugIqcitLszbYigDCVdG8pVWjXkxTB9EW1lgqVqCd-qMgWwbbY2qg_aem_15AEhWP6F0idvpEP6ij57A&edit_requested=true

เกิดเหตุปะทะชายแดนอิสราเอล-เลบานอน แรงงานไทยตาย 1 บาดเจ็บรุนแรง 1

(11 ต.ค. 67) สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ได้ออกประกาศสำหรับคนไทยในอิสราเอล ว่า

ประกาศสำหรับคนไทยในอิสราเอลโดยที่เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (11 ต.ค. 67) ได้เกิดเหตุยิงจรวดต่อสู้รถถัง (anti-tank missile) เข้าไปยังนิคมเกษตร Yir'on ทางเหนือของอิสราเอลติดชายแดนเลบานอน

ซึ่งเป็นเขตปิดทางทหาร (closed military zone) ทำให้แรงงานไทย 1 รายเสียชีวิต และอีก 1 รายได้รับผลกระทบกระเทือนทางจิตใจอย่างรุนแรง

สถานเอกอัครราชทูตฯ จึงขอแจ้งว่า หากมีพี่น้องแรงงานไทยที่ยังอยู่ในเขตปิดทางทหารหรือพื้นที่เสี่ยงอันตรายอื่น ๆ สามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ เพื่อขอรับความช่วยเหลือในการย้ายออกจากพื้นที่ตามหมายเลขโทรศัพท์ด้านล่าง

ฝ่ายกงสุล โทร +972 546368150 +972 503673195
ฝ่ายแรงงาน โทร. +972 9-954-8431+972 54-469-3476
ไอดีไลน์ 0544693476

เขตปิดทางทหาร (closed military zone) ในขณะนี้ 11 แห่ง ได้แก่ เมืองเมตูลา (Metula) มิซกาฟ อัม (Misgav Am) คฟาร์ กิลอาดี (Kfar Giladi) โดเวฟ (Dovev) ซิฟออน (Tziv'on) มาลเกีย (Malkia) รอช ฮานิกรา (Rosh Hanikra) ชโลมิ (Shlomi) ฮานิตา (Hanita) อดามิท (Adamit) และอาหรับ อัล-อรามเช (Arab al-Amshe) โดยเป็นพื้นที่ห้ามพักอาศัยหรือทำงาน

ด้วยความห่วงใย จากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ

‘อิหร่าน’ ออกประณาม!! มาตรการคว่ำบาตรอุตสาหกรรมน้ำมันของ ‘สหรัฐอเมริกา’ ชี้!! ‘ผิดกฎหมาย-ไม่ยุติธรรม’ ทั้งยังทำให้อิสราเอลได้ใจ เข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ต่อไป

(14 ต.ค. 67) ในแถลงการณ์ของ ‘เอสมาอิล บาเกอี’ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน ได้กล่าวปกป้องการโจมตีอิสราเอลของอิหร่านว่า เป็นการกระทำที่ ‘ถูกกฎหมาย’ และยืนกรานว่า อิหร่านมีสิทธิตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรใหม่ พร้อมกับประณามการคว่ำบาตรของสหรัฐอย่างรุนแรง โดยบอกว่าเป็นการดำเนินงานที่ ‘ผิดกฎหมายและไม่ยุติธรรม’

เอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันศุกร์ (11 ต.ค.) ที่ผ่านมา สหรัฐลงโทษอิหร่านด้วยการออกมาตรการคว่ำบาตรใหม่ต่ออุตสาหกรรมน้ำมันและปิโตรเคมี เพื่อตอบโต้ที่อิหร่านโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 1 ต.ค.

ด้านกระทรวงการคลังสหรัฐ รายงานว่า หน่วยงานมุ่งเป้าออกมาตรการคว่ำบาตรไปที่กองเรือมืดของอิหร่านที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายน้ำมันอิหร่าน ซึ่งถือเป็นช่องทางหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรที่มีอยู่

กระทรวงฯระบุว่า ได้ออกข้อกำหนดให้บริษัทอย่างน้อย 10 แห่ง และเรืออย่างน้อย 17 ลำ เป็น ‘สินทรัพย์ที่ถูกปิดกั้น’ เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและปิโตรเคมีของอิหร่าน

นอกจากนี้ยังได้ประกาศออกมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมต่อธุรกิจ 6 ราย และเรือ 6 ลำ เนื่องจากมีส่วนร่วมในการทำธุรกรรมที่สำคัญสำหรับการซื้อ การขาย การขนส่ง หรือการตลาดของผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมหรือปิโตรเคมีจากอิหร่าน

อย่างไรก็ตาม บาเกอี บอกว่า นโยบายที่เป็นภัยคุกคามและสร้างแรงกดดันมากที่สุดนี้ ไม่มีผลกระทบต่อเจตจำนงของอิหร่านที่ต้องการปกป้องอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน ผลประโยชน์ของชาติ และประชาชน และว่า การคว่ำบาตรจะอาจทำให้อิสราเอลสังหารผู้บริสุทธิ์ได้ต่อไป ทั้งยังเป็นภัยคุกคามต่อความสงบ และความสามัคคีของภูมิภาคและของโลก

ทั้งนี้ มาตรการคว่ำบาตรใหม่มีขึ้นขณะที่โลกกำลังจับตาดูการตอบโต้ของอิสราเอลต่อการโจมตีของอิหร่าน และมีขึ้นในช่วงที่ราคาน้ำมันพุ่งสู่ระดับสูงสุดตั้งแต่เดือน ส.ค.

เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้แนะให้อิสราเอลหลีกเลี่ยงการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานน้ำมันในอิหร่าน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก ขณะที่อับบาส อารักชี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน ออกมาเตือนเมื่อวันอังคาร (8 ต.ค.) ว่า หากมีการโจมตีใด ๆ เกิดขึ้นต่อโครงสร้างพื้นฐานในอิหร่าน อิหร่านจะตอบโต้อย่างรุนแรงมากขึ้น

‘แพนทากอน’ เตรียมส่ง THAAD พร้อมทหารอเมริกัน เสริมกำลังให้ ‘อิสราเอล’ ย้ำชัด!! ‘สหรัฐฯ’ พร้อมอยู่เคียงข้าง ในการต่อสู้กับภัยคุกคาม จากอิหร่าน

(14 ต.ค. 67) กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ เตรียมที่จะจัดส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศในบรรยากาศระดับสูง หรือ THAAD พร้อมระบบต้านขีปนาวุธ และ กองกำลังทหารอเมริกัน ผนึกกำลังกองทัพอิสราเอล ต้านภัยการโจมตีด้วยขีปนาวุธของอิหร่าน 

โดยนายพล แพท ไรเดอร์ โฆษกประจำแพนทากอน กล่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ลอยด์ ออสติน ได้รับคำสั่งตรงจาก ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ให้จัดส่งระบบป้องกันขีปนาวุธอันล้ำสมัยของสหรัฐไปเสริมกำลังให้ฝ่ายอิสราเอลทันที ซึ่งความเคลื่อนไหวของรัฐบาลสหรัฐในวันนี้บ่งชี้อย่างชัดเจนว่า สหรัฐฯพร้อมยืนอยู่เคียงข้างอิสราเอลในการต่อสู้กับภัยคุกคามจากอิหร่าน หลังจากที่เตหะรานตัดสินใจยิงขีปนาวุธกว่า 180 ลูกโจมตีกรุงเทล-อาวีฟ ของอิสราเอลเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมา

การส่งกำลังทหารไปยังอิสราเอล ไม่ใช่เหตุการณ์ปกติที่จะเกิดขึ้นบ่อยนักสำหรับสหรัฐอเมริกา ยกเว้นการซ้อมรบร่วมของ 2 ชาติ แต่ความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯครั้งนี้ ทางแพนทากอนกล่าวว่า เป็นการปรับเปลี่ยนแผนการครั้งใหม่เพื่อสนับสนุนอิสราเอลและปกป้องพลเมืองสหรัฐฯ จากเมื่อหลายเดือนก่อน ที่กองทัพสหรัฐฯ ได้ส่งทหารอเมริกันไปช่วยเหลืออิสราเอลในการป้องกันเรือรบและการโจมตีทางอากาศในตะวันออกกลางมาก่อนแล้ว แต่นั่นเป็นการตั้งกองหนุนนอกพรมแดนอิสราเอลเท่านั้น

ด้าน พ.ต.ท. นาดาฟ โชชานี โฆษกกองทัพอิสราเอล ได้ออกมาขอบคุณสหรัฐฯ ที่ส่งระบบต้านขีปนาวุธมาสนับสนุนอิสราเอล แม้ยังไม่มีกรอบเวลาที่ชัดเจนว่าระบบ THAAD จะถูกส่งมาถึงอิสราเอลเมื่อใดก็ตาม

THAAD เป็นของระบบป้องกันทางอากาศแบบหลายชั้น ที่มีความสำคัญในกองทัพสหรัฐฯ อีกทั้งยังเพิ่มระบบการป้องกันต่อต้านขีปนาวุธของอิสราเอลที่น่าเกรงขามอยู่แล้วให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้นไปอีก

โดยปกติแล้ว THAAD ต้องใช้กำลังทหารประมาณ 100 นาย ในการควบคุม สำหรับการปฏิบัติการ โดยระบบจะประกอบด้วยเครื่องยิงที่ติดตั้งบนรถบรรทุกได้ 6 เครื่อง ที่จะมีเครื่องสกัดกั้น 8 ชุดในแต่ละเครื่องยิง และเรดาร์ศักยภาพสูงอีก 1 ตัว 

ด้าน อับบาส อารัคชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน ได้โพสต์ผ่าน X ว่า สหรัฐฯกำลังทำให้ชีวิตกองทหารของตนอยู่ในความเสี่ยงหากคิดจะส่งพวกเขาไปสนับสนุนกองทัพอิสราเอล ในขณะที่อิหร่านพยายามที่จะควบคุมสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในภูมิภาคตะวันออกกลาง และพร้อมปกป้องประชาชน และ ผลประโยชน์ของอิหร่านเช่นกัน 

ด้านนักวิเคราะห์บอกว่า อิหร่านก็พยายามหลีกเลี่ยงการทำสงครามโดยตรงกับสหรัฐฯ แต่หากรัฐบาลสหรัฐฯ ตัดสินใจส่งกองทหารอเมริกันเข้ามาสนับสนุนอิสราเอลอย่างเต็มตัว ก็จะเป็นตัวแปรสำคัญในสถานการณ์ความรุนแรงในตะวันออกกลางที่อิหร่านต้องปรับแผนรับมือใหม่อีกครั้ง 

สหรัฐฯ กุมขมับ!! หลังเอกสารลับสุดยอดโผล่สื่อโซเชียล ยอมรับเป็นของจริง ปูดแผน ‘อิสราเอล’ เตรียมโจมตี ‘อิหร่าน’

(21 ต.ค. 67) รัฐบาลสหรัฐฯ เครียด! เมื่อปรากฏเอกสารลับสุดยอดหลุดออกไปเผยแพร่ผ่านสื่อโซเชียล ที่ระบุชัดว่า อิสราเอลกำลังเตรียมแผนการโจมตีอิหร่าน เพื่อตอบโต้ที่กรุงเทล-อาวีฟ ถูกอิหร่านระดมยิงด้วยขีปนาวุธ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2024 ที่ผ่านมา

โดย ไมค์ จอห์นสัน โฆษกรัฐบาลสหรัฐฯ ได้ออกแถลงการณ์ผ่านสื่อว่า ทางรัฐบาลวอชิงตันมีความกังวล เมื่อทราบว่ามีเอกสารลับสำคัญ 2 ชิ้นที่เอกสารดังกล่าวมาจากสำนักงานข่าวกรองเชิงพื้นที่แห่งสหรัฐอเมริกาและสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ

เอกสารฉบับแรกมีชื่อว่า “อิสราเอล: กองทัพอากาศกำลังเตรียมการโจมตีอิหร่านและดำเนินการฝึกทหารกองใหญ่ครั้งที่ 2"

ส่วนฉบับที่สองชื่อ “อิสราเอล: กองกำลังป้องกันได้เตรียมอาวุธสำคัญ และ อากาศยานไร้คนขับ เกือบสมบูรณ์แล้วสำหรับการโจมตีอิหร่าน" 

ซึ่งเอกสารทั้ง 2 ฉบับ ระบุวันที่ 16 ตุลาคม 2024 หลังจากนั้นเพียงวันเดียว เอกสารก็ถูกเผยแพร่ลงในสื่อ Telegram ผ่านเพจสำนักข่าวสายอิหร่านในกรุงเตหะราน และที่สำคัญคือ ทางการสหรัฐฯ ยอมรับว่า เอกสารทั้ง 2 ฉบับเป็นของจริง

โดยปกติแล้ว เอกสารลับระดับนี้ จะถูกเผยแพร่เฉพาะแค่ในกลุ่ม “Five Eyes" พันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุดของสหรัฐอเมริกา ที่ประกอบด้วย อังกฤษ, แคนาดา, ออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์ เท่านั้น

โฆษกสหรัฐฯ กล่าวว่า จะมีการสืบสวนร่วมกันระหว่าง กระทรวงกลาโหม, หน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติ และ FBI เพื่อตรวจสอบว่าเอกสารลับชิ้นหลุดออกไปได้อย่างไร ไม่ว่ามาจากสมาชิกคนในสำนักหน่วยข่าวกรอง หรือถูกแฮ็ก และใครเป็นคนเผยแพร่เอกสารลับทางออนไลน์เป็นคนแรก

ด้านกองทัพอิสราเอลไม่ขอแสดงความคิดเห็นใดๆ ที่เกี่ยวกับเอกสารลับสหรัฐฯ ที่พาดพิงถึงแผนปฏิบัติการทหารของตนในอิหร่าน 

ส่วนสื่ออิสราเอลออกมาคาดการณ์ว่า กองทัพอิสราเอลน่าจะใช้ขีปนาวุธ  Blue Sparrow ที่มีพิสัยยิงไกลถึง 2,000 กิโลเมตร และออกปฏิบัติการโจมตีไม่เกินเดือนเมษายนปีหน้า ซึ่งกองทัพอิสราเอลได้มีการทดสอบขีปนาวุธของตนอย่างลับๆมาตลอด เพราะข้อมูลเกี่ยวกับศักยภาพของขีปนาวุธถือเป็นความลับสุดยอด ที่จะแพร่งพรายให้ศัตรูล่วงรู้ไม่ได้เด็ดขาด 

แต่จากข้อมูลลับของสหรัฐฯ ที่หลุดออกมา ทำให้เชื่อว่า อิสราเอลไม่น่าจะใช้หัวรบนิวเคลียร์โจมตีอิหร่าน ซึ่งเป็นไปตามข้อเรียกร้องของโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ที่เคยออกมากล่าวว่า สหรัฐอเมริกาไม่สนับสนุนการใช้อาวุธนิวเคลียร์ หรือโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านนิวเคลียร์ของอิหร่าน 

สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ สงครามในตะวันออกกลางจะยังคงนองเลือดต่อไป แม้ ยาห์ยา ซินวาร์ ผู้นำกองกำลังฮามาสในกาซา จะถูกสังหารจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลไปแล้วก็ตาม 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top