Saturday, 5 July 2025
อิหร่าน

ตัวแทนทรัมป์เดือด! ข่าวบึ้มฐานนิวเคลียร์อิหร่าน รั่วไหลถึงสื่อ..ซัดแรง ‘คนทรยศชาติ’ ต้องสอบสวนด่วน

(25 มิ.ย. 68) สตีฟ วิทคอฟฟ์ (Steven Charles Witkoff) ทูตพิเศษของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาแสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรง หลังรายงานข่าวกรองของกองทัพสหรัฐฯ เกี่ยวกับผลการโจมตีฐานนิวเคลียร์ของอิหร่านรั่วไหลสู่สื่อ โดยระบุว่า ‘เป็นการทรยศชาติ’ และต้องมีการสอบสวนหาผู้กระทำผิดมารับโทษ

วิทคอฟฟ์ กล่าวในรายการของ Fox News ว่า ตนได้อ่านรายงานการประเมินความเสียหายทั้งหมดแล้ว และยืนยันว่า ‘ไม่มีข้อสงสัยเลย’ ว่าทั้ง 3 ฐานนิวเคลียร์ที่ถูกโจมตีถูกทำลายสิ้นแล้ว โดยเฉพาะฐาน ฟอร์โดว์ (Fordow) ที่เขาย้ำว่า ‘ระเบิดทะลวงเข้าถึงเป้าหมายแน่นอน’ ด้านทรัมป์ยังได้แชร์คลิปคำให้สัมภาษณ์ดังกล่าวบน Truth Social พร้อมย้ำว่า ‘การรายงานข่าวที่บอกว่าเราไม่สำเร็จนั้น ไร้สาระสิ้นดี’

อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวกรองของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กลับให้ภาพที่ต่างออกไป โดยระบุว่าการโจมตีด้วยระเบิดทะลวงดิน 12 ลูก แม้สร้างความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นดินและทางเข้าโรงงาน แต่โครงสร้างใต้ดินที่สำคัญ รวมถึงเครื่องหมุนเหวี่ยงยูเรเนียม (centrifuges) ส่วนใหญ่ยัง ‘อยู่ครบ’ และการโจมตีอาจเพียงแค่ทำให้แผนของอิหร่านล่าช้าไปไม่กี่เดือนเท่านั้น

รายงานยังเปิดเผยอีกว่า อิหร่านได้เคลื่อนย้ายยูเรเนียมบางส่วนออกจากโรงงานก่อนการโจมตี โดยที่ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าโครงการจะฟื้นกลับมาได้เร็วเพียงใด ขึ้นอยู่กับความสามารถในการขุดเจาะและซ่อมแซมความเสียหาย

ด้านสมาชิกสภาคองเกรสสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต แบรด เชอร์แมน แสดงความกังวลว่า คำประกาศชัยชนะของรัฐบาลทรัมป์อาจใช้ถ้อยคำคลุมเครือเกินไป พร้อมระบุว่าอิหร่านยังมีปริมาณยูเรเนียมที่สามารถผลิตอาวุธนิวเคลียร์ได้ถึง 9 ลูก และยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าสหรัฐฯ ได้ทำลายเครื่องหมุนเหวี่ยงที่จำเป็นต่อการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมเหล่านั้นแล้วจริงหรือไม่

ทรัมป์เดือด! ตำหนิสื่อใส่สีอิสราเอลพ่าย ยันแค่ ‘โดนหนักไปหน่อย’ ไม่ได้แพ้อิหร่าน

(26 มิ.ย. 68) ในระหว่างการประชุมสุดยอดนาโต้ที่จัดขึ้นที่กรุงเฮก ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกโรงโจมตีสื่อมวลชนอย่างรุนแรง หลังจากที่หลายสำนักข่าวรายงานว่า อิสราเอลอาจพ่ายแพ้ต่ออิหร่านในการสู้รบที่ใช้เวลาประมาณ 12 วัน ทรัมป์กล่าวว่า “อิสราเอลไม่ได้แพ้ แค่พวกเขาโดนหนักไปหน่อย” และเสริมว่าประชาชนอิสราเอลได้รับผลกระทบมากเกินควร เมื่อเห็นว่าขีปนาวุธพิสัยไกลของอิหร่านโจมตีอาคารในอิสราเอลจนพังหลายหลัง

ทรัมป์กล่าวอย่างชัดเจนอีกว่า เขาไม่เห็นด้วยกับแนวทางการนำเสนอข่าวของสื่อต่างชาติและในสหรัฐฯ เช่น CNN, The New York Times, MSNBC ที่วิพากษ์วิจารณ์ประสิทธิภาพการป้องกันของอิสราเอล ซึ่งเขายังเรียกนักข่าวบางคนว่า “พวกคนป่วยและทำลายผลงานทางทหาร” พร้อมเรียกร้องให้มีการปลด นาตาชา เบอร์ทรานด์ (Natasha Bertrand) จาก CNN และเรียกสื่อเหล่านี้ว่า “fake news”

ในช่วงที่เขาออกมาประกาศว่า อิสราเอลและอิหร่านตกลงหยุดยิง (ceasefire) ภายหลัง 'สงคราม 12 วัน' ทรัมป์แสดงความไม่พอใจอย่างชัดเจนเมื่อเห็นอิสราเอลยังปล่อยขีปนาวุธ แม้ว่าเขาจะประกาศหยุดยิงแล้วก็ตาม ทั้งนี้เขาเน้นย้ำว่าอิสราเอล “โดนหนักไปหน่อย” แต่ยืนยันว่าไม่ใช่ความล้มเหลว 

‘อิหร่าน’ ในวันที่สูญเสียจาก ‘อิสราเอล’ โจมตี แม้ประเทศเสียหายแต่หัวใจคนอิหร่านกลมเกลียว

หนึ่งประเทศ หนึ่งใจ (One Nation, One Heart) การรุกรานของอิสราเอลทำให้ชาวอิหร่านสามัคคีกันมากขึ้นกว่าเดิมได้อย่างไร?

มุมมองของ Soheila Zarfam จาก Tehran Times

'One Nation, One Heart' เป็นคำขวัญที่ใช้กันในอิหร่าน ซึ่งเน้นย้ำถึงความเป็นเอกภาพและความรักชาติของชาวอิหร่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่เกิดความขัดแย้งหรือความตึงเครียดกับอิสราเอล ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามัคคีและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของชาวอิหร่านที่เกิดขึ้นจากการเผชิญหน้ากับสถานการณ์ภายนอก

เมื่อวานนี้ (25 มิ.ย. 68) เป็นวันพุธที่น่าประหลาดใจในเตหะราน หนึ่งวันหลังจากการสู้รบระหว่างอิหร่านและอิสราเอลยุติลง ผู้คนออกมาทำงานมากขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อน ๆ และทางตอนใต้ ณ สุสานเบเฮชท์-เอ-ซาฮรา ก็มีผู้คนพลุกพล่านมากที่สุดในรอบหลายปี

มีการจัดงานศพหลายงานที่นั่น มีทั้งศพของคนหนุ่มสาว คนชรา ชาย และหญิง ห่อด้วยผ้าขาวที่ชาวมุสลิมใช้ฝังศพ บรรยากาศน่าขนลุก มีผู้คนจำนวนมากร้องไห้ แต่ก็มีบางคนที่ดูหนักแน่นละมั่นคง แม้ว่าใบหน้าของพวกเขาจะแสดงออกถึงความเศร้าโศกก็ตาม

ผู้เขียนพูดคุยกับผู้ร่วมไว้อาลัยคนหนึ่ง ซึ่งเป็นหญิงที่กำลังฝังศพพี่ชายของเธอ เธอสวมชุดคลุมสีดำแบบอิหร่าน ข้าง ๆ เธอมีผู้คนที่แต่งตัวไม่เหมือนเธอเลย พวกเขาสวมเสื้อผ้าหลวม ๆ และสวมฮิญาบ "ฉันสูญเสียพี่ชายไประหว่างการโจมตีของอิสราเอล เขาเป็นทหารที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ในกองทัพ" ผู้หญิงคนดังกล่าวอธิบาย 'ซาห์รา' ซึ่งเป็นชื่อที่เธอใช้เอง บอกว่าเธอมาจากครอบครัวที่เสียสละสมาชิกจำนวนมากเพื่อประเทศ "ลุงของฉันสองคนเสียชีวิตในสงครามอิหร่าน-อิรัก พ่อของฉันก็เป็นทหารในสงครามนั้นด้วย เราคุ้นเคยกับการได้ยินและพูดคุยเกี่ยวกับผู้พลีชีพ แต่เราไม่เคยคิดว่าเราจะพูดถึงพี่ชายวัย 23 ปีของฉันในลักษณะเดียวกันอีก"

ผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างซาห์ราไม่ใช่ญาติกับเธอ พวกเธอมาเมื่อพวกเธอรู้ว่า มีผู้พลีชีพถูกฝัง คนแปลกหน้าอีกหลายสิบคนก็มารวมตัวกันรอบหลุมศพที่เพิ่งขุดใหม่เพื่อแสดงความเสียใจและสวดมนต์ ผู้เขียนถามผู้หญิงคนหนึ่งจากสองคนที่สะดุดตาผู้เขียนเกี่ยวกับการโฆษณาชวนเชื่อที่เราได้ยินจากสื่อเปอร์เซียที่ตั้งอยู่ในตะวันตกว่า สงครามครั้งนี้เป็นสงครามของสาธารณรัฐอิสลาม และคนไม่เคร่งศาสนาควรแยกตัวจากกองทัพ "เราอยู่ที่นี่เพื่อประเทศของเรา ไม่สำคัญว่าเราจะนับถือศาสนาหรือการเมืองแบบใด เมื่อเป็นเรื่องของอิหร่าน เราพร้อมเสมอที่จะต่อสู้เพื่อมันและยอมสละชีวิต" เธอกล่าวขณะที่ใช้มือบังตาจากแสงแดด

การสร้างความแตกแยกและการแบ่งแยกเป็นวาระสำคัญของศัตรูในช่วงสงคราม 12 วันที่พวกเขาทำกับอิหร่าน ชาวอเมริกันและชาวอิสราเอลได้ขอให้ลูกชายของชาห์ผู้ถูกปลดออกจากอำนาจออกมาประกาศว่า เขาพร้อมที่จะเข้ารับตำแหน่ง อดีตมกุฏราชกุมารผู้ตกงานและหลงผิดคนนี้ถูกเรียกในอิหร่านว่า "เด็กโข่ง" ซึ่งเป็นคำคุณศัพท์ที่นักวิชาการชาวอิหร่านที่มีชื่อเสียงมอบให้กับเขาหลังจากที่เขาสนับสนุนสงครามของอิสราเอลต่อประเทศของเขา

อย่างไรก็ตาม ในช่วงสงคราม ความสัมพันธ์ระหว่างชาวอิหร่านกลับแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น หลังจากที่ทรัมป์กล่าวว่าประชาชนควร "อพยพออกจากเตหะราน" ผู้คนนับล้านทั่วประเทศก็ใช้โซเชียลมีเดียประกาศว่าพวกเขาพร้อมที่จะต้อนรับชาวอิหร่านในบ้านของตนเองแล้ว บนท้องถนน ประชาชนออกมาแจกเครื่องดื่มและอาหารแก่กองกำลังรักษาความปลอดภัยที่กำลังตามหาสายลับมอสสาด ส่วนในร้านขายของชำและปั๊มน้ำมัน ผู้คนระมัดระวังไม่ซื้อของมากเกินความจำเป็น เพื่อไม่ให้เกิดการขาดแคลนสินค้าและเชื้อเพลิง

ในวันอังคารและวันพุธ เจ้าหน้าที่ทหารและการเมืองต่างยกย่องความสามัคคีและความรักชาติว่า เป็นหัวใจสำคัญของชัยชนะของอิหร่านเหนืออิสราเอล ซึ่งเริ่มสงครามกับอิหร่านโดยคิดว่า จะสามารถล้มรัฐบาล โดยการทำลายเสถียรภาพของประเทศ และทำลายกองทัพตลอดจนโครงสร้างพื้นฐานให้สิ้นซาก

เมื่อผู้เขียนกลับมาถึงบ้านพักในเตหะรานตะวันออก เพื่อนบ้านคนหนึ่งนำ "นาซรี" มาให้ผู้เขียน ซึ่งเป็นอาหารที่ชาวอิหร่านทำและแจกจ่ายให้ผู้อื่นหลังจากที่พวกเขาอธิษฐานขอสิ่งใดสิ่งหนึ่งจากพระเจ้า "ผู้เขียนขอให้เราสามัคคีกันและเอาชนะศัตรู" เพื่อนบ้านของผู้เขียนกล่าว เธอเป็นผู้หญิงที่ใกล้จะอายุ 70 ปีแล้ว เธอเล่าให้ผู้เขียนฟังว่าความสามัคคีและความสอดคล้องกันที่เธอเห็นในช่วงวันสุดท้ายทำให้เธอหวนนึกถึงช่วงสงครามอิหร่าน-อิรัก "ผู้เขียนคิดว่าตราบใดที่ชาวอิหร่านยังมีชีวิตอยู่ การปกป้องประเทศจะเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับพวกเขา ไม่มีใครสามารถพรากสิ่งนี้ไปจากเราได้"

นักวิชาการไทย ในอิหร่าน โพสต์เฟซ!! เผยข้อมูลสำคัญ ชี้!! ‘อิหร่าน’ สนใจจะซื้อระบบป้องกันภัย HQ-16 จากจีน

(28 มิ.ย. 68) ดร.เลอพงษ์ ซาร์ยีด นักวิชาการชาวไทย ที่ใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศอิหร่าน ได้โพสต์ข้อความ เกี่ยวกับ HQ-16 ระบบขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ (SAM) พิสัยกลางของจีน โดยมีใจความว่า ...

HQ-16 เป็นระบบขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ (SAM) พิสัยกลางของจีน พัฒนาโดย Shanghai Academy of Spaceflight Technology (SAST) สังกัด China Aerospace Science and Technology Corporation (CASC)

ระบบนี้มีพื้นฐานมาจากระบบขีปนาวุธ Buk ของรัสเซีย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันภัยทางอากาศสำหรับกองทัพเรือและกองทัพบกของจีน 
คุณสมบัติและข้อมูลจำเพาะของ HQ-16:

ประเภท: ขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ (SAM) พิสัยกลาง ผู้พัฒนา: Shanghai Academy of Spaceflight Technology (SAST)

ผู้ใช้งาน:กองทัพเรือและกองทัพบกของจีน

พื้นฐาน: ระบบขีปนาวุธ Buk ของรัสเซีย

รุ่น:HQ-16A: รุ่นพื้นฐานสำหรับกองทัพบก

HHQ-16: รุ่นสำหรับเรือรบของกองทัพเรือ

HQ-16B: รุ่นที่มีพิสัยการยิงไกลขึ้น

HQ-16C: รุ่นที่อยู่ในช่วงการพัฒนา 

พิสัย: สูงสุด 40 กม. สำหรับ HQ-16A และ 70 กม. สำหรับ HQ-16B ความเร็ว: มากกว่า Mach 3 ระบบนำวิถี: ผสมผสานระหว่างการนำวิถีแบบเฉื่อย การส่องสว่าง และการนำวิถีแบบกึ่งเรดาร์

การใช้งาน:ป้องกันภัยทางอากาศสำหรับเรือรบและฐานทัพของจีน 
ป้องกันภัยทางอากาศสำหรับพื้นที่ทางทหารและอุตสาหกรรม 
สามารถทำงานร่วมกับระบบอื่น ๆ เช่น HQ-9B เพื่อสร้างเครือข่ายป้องกันภัยทางอากาศ

HQ-16 มีความสำคัญอย่างไร?
ปกป้องน่านฟ้า:ช่วยปกป้องจีนจากภัยคุกคามทางอากาศ

ความทันสมัย:เป็นระบบ SAM พิสัยกลางที่ทันสมัยของจีน ความหลากหลาย: มีหลายรุ่นที่ปรับให้เหมาะสมกับการใช้งานที่แตกต่างกัน

ความน่าเชื่อถือ:มีประสิทธิภาพในการต่อต้านเป้าหมายทางอากาศหลายประเภท

ตร.อาเซอร์ไบจาน บุกสำนักข่าวสปุตนิก จับ 2 พนักงาน เครมลินเดือด!! ชี้จงใจทำลายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

(1 ก.ค. 68) กระทรวงมหาดไทยอาเซอร์ไบจาน และตำรวจ เข้าตรวจค้นสำนักงานใหญ่สปุตนิกในกรุงบากู ก่อนจะทำการจับกุมอิกอร์ คาร์ตาวิช ผู้อำนวยการบริหาร และเยฟเกนี เบลูซอฟ บรรณาธิการบริหาร โดยทั้งสองถูกกล่าวหาว่าทำงานให้กับหน่วยข่าวกรองรัสเซีย ซึ่งทางสำนักข่าว Caliber ของอาเซอร์ไบจานอ้างว่า เหตุการณ์นี้เชื่อมโยงกับการแฮ็กเว็บไซต์รัฐบาลอาเซอร์ไบจาน ที่เจ้าหน้าที่ระบุว่ามีต้นตอมาจากรัสเซียและกลุ่มที่สนับสนุนโดย IRGC ของอิหร่าน

มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย แสดงความกังวลหลังไม่สามารถติดต่อนักข่าวสปุตนิกได้เป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมง ขณะที่ดมิทรี คิลิซอฟ หัวหน้าสถานีข่าวสปุตนิก ยืนยันว่าการปฏิบัติงานของสำนักข่าวเป็นไปอย่างถูกกฎหมาย และเชื่อว่าการกักขังครั้งนี้มีเจตนาเพื่อทำลายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีอิลฮัม อาลีเยฟ ของอาเซอร์ไบจานปฏิเสธเข้าร่วมขบวนพาเหรดวันแห่งชัยชนะที่มอสโกว์ เนื่องจากความไม่พอใจที่รัสเซียไม่แสดงความเคารพต่ออาเซอร์ไบจาน นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้ประธานาธิบดีปูตินขอโทษอย่างเป็นทางการ เกี่ยวกับเหตุการณ์เครื่องบิน Azerbaijan Airlines (AZAL) flight J2-8243 ตกที่เมืองอักเตา ประเทศคาซัคสถาน จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวน 38 คน ซึ่งอ้างว่าเครื่องบินลำนี้อาจถูกยิงตกโดยระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซีย (SAM Pantsir) 

นอกจากนี้ ในช่วงสงคราม 12 วันที่ผ่านมา อิหร่านมีหลักฐานแน่ชัดว่าอาเซอร์ไบจานมีส่วนช่วยอิสราเอลในการโจมตีอิหร่าน และกระทรวงการต่างประเทศอิหร่านได้ส่งหนังสือขอคำชี้แจงอย่างเป็นทางการแล้ว ทำให้สถานการณ์ระหว่างประเทศทั้งสามยังคงเต็มไปด้วยความตึงเครียดและความไม่แน่นอนอย่างต่อเนื่อง

สหรัฐฯ ไฟเขียวขายอาวุธให้ยิว 510 ล้านดอลล์ หลังใช้ระเบิดจำนวนมากในสงครามกับอิหร่าน

(1 ก.ค. 68) สหรัฐฯ อนุมัติขายอุปกรณ์ระเบิดนำวิถีให้อิสราเอล มูลค่า 510 ล้านดอลลาร์ (ราว 18,700 ล้านบาท) หลังจากอิสราเอลใช้ระเบิดไปจำนวนมากในสงครามกับอิหร่าน โดยชุดอุปกรณ์นี้จะช่วยให้อิสราเอลสามารถโจมตีเป้าหมายได้แม่นยำยิ่งขึ้น

หน่วยงานด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ ระบุว่า การขายอาวุธครั้งนี้จะช่วยให้อิสราเอลมีศักยภาพในการป้องกันตัวเองจากภัยคุกคามในตอนนี้และในอนาคต รวมถึงปกป้องพรมแดน สิ่งก่อสร้างสำคัญ และพื้นที่ที่มีประชาชนอยู่หนาแน่น

รัฐบาลสหรัฐฯ ยืนยันว่า ความมั่นคงของอิสราเอลเป็นเรื่องสำคัญต่อผลประโยชน์ของสหรัฐฯ และการสนับสนุนให้อิสราเอลมีศักยภาพในการป้องกันตัวเองอย่างแข็งแกร่งและพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ ถือเป็นสิ่งจำเป็นที่สหรัฐฯ ต้องทำ

ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ อนุมัติการขายอาวุธให้กับอิสราเอลในขั้นต้นแล้ว ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ส่งเรื่องให้รัฐสภาพิจารณา ซึ่งยังต้องรอการอนุมัติขั้นสุดท้ายก่อนจะเริ่มดำเนินการซื้อขายจริงได้

‘เยเมน-กาซา’ กระหน่ำยิงขีปนาวุธใส่อิสราเอล สหรัฐฯ ขู่ใช้ B-2 ทิ้งบอมบ์เยเมน ตอบโต้กลุ่มฮูตี

(2 ก.ค. 68) อิสราเอลสกัดขีปนาวุธที่ยิงจากเยเมนได้สำเร็จ พร้อมประกาศตอบโต้ทันที ขณะที่ไมค์ ฮักคาบี (Mike Huckabee) เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำอิสราเอล แถลงว่ามีความเป็นไปได้ที่จะส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด B-2 ไปโจมตีเยเมน เช่นเดียวกับที่เคยใช้โจมตีโรงงานนิวเคลียร์ฟอร์โดวของอิหร่านเมื่อไม่นานนี้

เสียงไซเรนแจ้งเตือนการโจมตีทางอากาศดังทั่วเทลอาวีฟ เยรูซาเลม และภาคกลางของอิสราเอล ประชาชนพากันหลบในที่ปลอดภัย ท่ามกลางความตื่นตระหนก ด้านรัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล อิสราเอล คัทซ์ (Israel Katz) กล่าวอย่างแข็งกร้าวว่า “เยเมนจะพบจุดจบเช่นเดียวกับเตหะราน” พร้อมระบุว่า “ใครยกมือทำร้ายอิสราเอล มือคนนั้นจะถูกตัดทิ้ง”

รายงานจากสถานีวิทยุกองทัพอิสราเอลระบุว่า ระบบป้องกันขีปนาวุธ Arrow ของอิสราเอลสามารถยิงสกัดขีปนาวุธจากเยเมนได้สำเร็จในอากาศ นอกจากนี้ ทางการได้สั่งปิดน่านฟ้าบางส่วนเป็นการชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย โดยนับตั้งแต่อิสราเอลเริ่มปฏิบัติการถล่มกาซาอีกครั้ง กลุ่มอันซารุลเลาะห์ในเยเมนได้ยิงขีปนาวุธใส่อิสราเอลแล้ว 53 ลูก

ขณะเดียวกัน ทางภาคใต้ของอิสราเอล กองทัพประกาศว่าสามารถสกัดจรวด 2 ลูกที่ยิงจากฉนวนกาซาได้สำเร็จ ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยมีรายงานเสียงไซเรนดังในหลายจุดใกล้ชายแดนกาซา ขณะที่กลุ่มอัลกอซซามของฮามาสอ้างความรับผิดชอบ พร้อมระบุว่าได้ยิงจรวด Q20 จากพื้นที่ทางเหนือของคานยูนิสใส่เป้าหมายของอิสราเอลที่ปฏิบัติการอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว

ขีปนาวุธอิหร่านถล่มศูนย์วิทย์ฯ อิสราเอลยับ แฉเบื้องลึก!! เป็นสถาบันวิจัยหนุนไซออนิสต์ตั้งแต่ปี 1948

(3 ก.ค. 68) สื่ออิหร่านรายงานว่า ขีปนาวุธของอิหร่านที่ยิงเข้าใส่อิสราเอลเมื่อวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้พุ่งเป้าตรงไปยังสถาบันวิทยาศาสตร์ไวซ์มันน์ (Weizmann Institute of Science) ในเมืองเรโฮโวท ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์วิจัยสำคัญที่เชื่อมโยงกับกองทัพอิสราเอล และก่อให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงทั่วทั้งพื้นที่

สถานีโทรทัศน์ช่อง 13 ของอิสราเอลรายงานว่า อลอน เชน (Alon Chen) ประธานสถาบันฯ ยืนยันว่า ขีปนาวุธของอิหร่านโจมตีด้วยความแม่นยำสูง ซึ่งขัดแย้งกับคำแถลงก่อนหน้าของรัฐบาลอิสราเอลที่อ้างว่าได้รับความเสียหายเล็กน้อย โดยคาดว่าความเสียหายทั้งหมดมีมูลค่าระหว่าง 300-570 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ความเสียหายนี้รวมถึง ห้องแล็บเคมีที่เพิ่งสร้างเสร็จถูกทำลายก่อนเปิดใช้งาน, เพลิงไหม้ในอาคารวิทยาศาสตร์ชีวภาพ, ข้อมูลวิจัยสำคัญสูญหาย และแล็บหัวใจถูกทำลายทั้งหมดหลังดำเนินงานมานานกว่า 22 ปี นอกจากนี้ยังมีผลกระทบต่อโครงการวิจัยกว่า 45 กลุ่ม และโครงสร้างพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ร่วมอีกจำนวนมาก

แม้สถาบันฯ จะมีภาพลักษณ์เป็นองค์กรวิจัยพลเรือน แต่มีรายงานว่า Weizmann Institute มีความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมอาวุธ เช่น บริษัทเทคโนโลยีด้านความมั่นคงและการป้องกันประเทศระดับนานาชาติ (Elbit Systems) รวมถึงมีบทบาทในงานพัฒนา AI, โดรน และระบบสอดแนมทางทหาร โดยมีประวัติการสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธไซออนิสต์ตั้งแต่สงครามในปี 1948


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top