‘เนทันยาฮู’ ยันไม่ยอมรับฮามาสในกาซา ต้องกำจัดให้หมด ห้ามคุกคามอิสราเอลอีก
(8 ก.ค. 68) นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ประกาศเสนอชื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ระหว่างพบปะที่ทำเนียบขาว โดยชื่นชมบทบาทของทรัมป์ในการผลักดันสันติภาพในตะวันออกกลาง แม้การพูดคุยครั้งนี้มีประเด็นหลักคือแรงกดดันจากสหรัฐให้ยุติสงครามในฉนวนกาซา
ขณะเดียวกัน ตัวแทนอิสราเอลและฮามาสเริ่มการเจรจาทางอ้อมอีกครั้งในกาตาร์ หลังหยุดชะงักไปร่วม 6 สัปดาห์ โดยยังติดเงื่อนไขหลักหลายประการ เช่น การรับประกันว่าอิสราเอลจะไม่กลับมาทำสงครามอีก และข้อเรียกร้องของเนทันยาฮูที่ต้องการขับไล่ฮามาสออกจากกาซาให้สิ้น
เนทันยาฮูถูกผู้สื่อข่าวถามถึงรายงานที่ว่า อิสราเอลอาจมีแผนบังคับให้ชาวปาเลสไตน์ในกาซาอพยพออกนอกพื้นที่ ซึ่งหลายฝ่ายวิจารณ์ว่าอาจเข้าข่ายการ “ล้างเผ่าพันธุ์” เขาตอบว่า ชาวปาเลสไตน์ควรมีสิทธิเลือกเองว่าจะอยู่หรือจะไป ไม่ใช่ถูกบังคับ และระบุเพิ่มเติมว่า อิสราเอลกำลังหารือกับสหรัฐฯ เพื่อหาประเทศที่ยินดีรับผู้อพยพเหล่านี้ไปอยู่ต่ออย่างถาวร
ด้านทรัมป์กล่าวว่า เขาไม่อยากให้สหรัฐต้องโจมตีอิหร่านอีก และเชื่อว่าอิหร่านมีท่าทีอ่อนลงเมื่อเทียบกับ 2 สัปดาห์ก่อน นอกจากนี้ เขายังยืนยันว่าจะส่งอาวุธเพิ่มเติมให้ยูเครน เพื่อให้สามารถป้องกันตัวเองจากการรุกรานของรัสเซีย พร้อมระบุว่า เขารู้สึกไม่พอใจประธานาธิบดีปูติน ที่ยังคงเดินหน้าทำสงครามในยูเครนต่อไป
เมื่อทรัมป์ถูกถามถึงแนวทางแบบสองรัฐ เพื่อแก้ปัญหาระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ เขาเลือกให้เนทันยาฮูเป็นผู้ตอบแทน ซึ่งเนทันยาฮูระบุว่า ปาเลสไตน์ควรมีสิทธิในการปกครองตนเอง แต่ต้องไม่มีอำนาจใด ๆ ที่จะคุกคามความมั่นคงของอิสราเอล โดยอิสราเอลจะยังคงดูแลด้านความมั่นคงในกาซาต่อไป พร้อมแสดงความมั่นใจว่า หากมีทรัมป์เป็นผู้นำ ความสงบในตะวันออกกลางสามารถเกิดขึ้นได้
ที่มา : Sputnik