Saturday, 18 May 2024
รัสเซีย

การเยือน ‘รัสเซีย’ ของ ‘สี จิ้นผิง’ นำมาซึ่งความแน่นแฟ้น พร้อมจับมือสร้าง ‘มิตรภาพ-ความร่วมมือ-สันติภาพ’

การเยือนรัสเซียของสีจิ้นผิง นำทางสัมพันธ์ทวิภาคี และส่งเสริมเสถียรภาพโลก

ปักกิ่ง/มอสโก, 19 มี.ค. (ซินหัว) - การเยือนรัสเซียของประธานาธิบดีสีจิ้นผิงที่กำลังจะเกิดขึ้น อันเป็นการเดินทางเยือนต่างประเทศครั้งแรกของเขานับตั้งแต่ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีจีนอีกครั้ง จะเป็นการเดินทางแห่งมิตรภาพ ความร่วมมือ และสันติภาพ

การเยือนครั้งนี้ กำหนดจัดระหว่างวันที่ 20-22 มี.ค. มีเป้าหมายเพื่อวางแผนแม่บทสำหรับการพัฒนาความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านระหว่างจีน-รัสเซียในยุคใหม่ ขณะเดียวกันก็เป็นการผลักดันความร่วมมือเชิงปฏิบัติระหว่างสองประเทศ และสร้างแรงขับเคลื่อนอันแข็งแกร่งให้แก่การรักษาสันติภาพและความเจริญรุ่งเรือง เพื่อร่วมสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมนุษยชาติ

ในห้วงยามนี้ สีจิ้นผิงกำลังจะก้าวเข้าสู่แผ่นดินรัสเซียเป็นครั้งที่เก้าในฐานะประธานาธิบดีจีน ผู้นำของทั้งสองประเทศมีโอกาสได้พบปะกันประมาณ 40 ครั้งตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยการแลกเปลี่ยนอย่างมีคุณภาพสูงและสม่ำเสมอของผู้นำทั้งสองประเทศ ได้ให้แนวทางการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-รัสเซียมาโดยตลอด

ในช่วงเวลาที่โลกกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้งที่ไม่เคยปรากฏในรอบศตวรรษ และโรคระบาดที่ไม่เคยพบเจอ สีจิ้นผิงและปูตินได้รักษาการติดต่อกันอย่างใกล้ชิดผ่านหลากหลายวิธีการ ขณะเดียวกันความสัมพันธ์ระหว่างจีน-รัสเซียนั้นตั้งอยู่บนพื้นฐานของการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ไม่เผชิญหน้า และไม่มุ่งเป้าไปที่ฝ่ายที่สามใด ๆ ความสัมพันธ์นี้ทั้งมิได้เป็นภัยคุกคามต่อประเทศอื่นใดในโลก และจะไม่ถูกแทรกแซงหรือยั่วยุโดยฝ่ายที่สามเช่นกัน

โลกกำลังมาถึงทางแยกแห่งประวัติศาสตร์อีกครั้ง เราเลือกที่จะย้อนกลับสู่ความคิดแบบสงครามเย็น ยุยงให้เกิดความแตกแยกและเป็นปรปักษ์ ปลุกปั่นให้เกิดการเผชิญหน้าระหว่างกลุ่มก้อน หรือเลือกที่จะทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของมนุษยชาติ ส่งเสริมความเสมอภาค การเคารพซึ่งกันและกัน และความร่วมมือแบบได้ประโยชน์ร่วมกัน การยื้อยุดไปมาระหว่างสองแนวโน้มนี้ กำลังทดสอบภูมิปัญญาของเหล่านักการเมืองในประเทศใหญ่ทั้งหลาย เฉกเช่นเดียวกับการใช้เหตุผลของมวลมนุษย์ ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์ให้เห็นอยู่เป็นนิจว่าการกดขี่ข่มเหงไม่สามารถชนะใจผู้คน รวมถึงการคว่ำบาตรและการแทรกแซงย่อมล้มเหลว

‘สีจิ้นผิง’ เดินทางถึงกรุงมอสโกแล้ว ภารกิจเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการ

มอสโก, 20 มี.ค. (ซินหัว) -- สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เดินทางถึงกรุงมอสโก เมืองหลวงของรัสเซีย ในช่วงบ่ายวันจันทร์ (20 มี.ค.) เพื่อเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการจนถึงวันพุธ (22 มี.ค.) หลังมีคำเชิญจากวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย โดยทางรัสเซียได้จัดพิธีต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่

ระหว่างการเยือนครั้งนี้ สีจิ้นผิงจะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเชิงลึกกับวลาดิเมียร์ ปูติน เกี่ยวกับความสัมพันธ์ทวิภาคี รวมถึงประเด็นสำคัญระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติที่เป็นข้อกังวลร่วมกัน

อนึ่ง การเยือนครั้งนี้มุ่งส่งเสริมการประสานงานเชิงกลยุทธ์และความร่วมมือเชิงปฏิบัติระหว่างสองประเทศ ตลอดจนสร้างแรงกระตุ้นใหม่ๆ ให้กับการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคี

ที่มา : ซินหัว
 

‘สี จิ้นผิง’ เดินทางถึง ‘มอสโก’ แล้ว ‘จนท.ระดับสูงรัสเซีย’ ให้การต้อนรับอบอุ่น

(21 มี.ค.66) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ‘สีจิ้นผิง’ ประธานาธิบดีจีน เดินทางถึงกรุงมอสโก เมืองหลวงของรัสเซีย ในช่วงบ่ายวันจันทร์ (20 มี.ค.) ที่ผ่านมา เพื่อเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการ หลังมีคำเชิญจากวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย

เครื่องบินของสีจิ้นผิงลงจอดที่ท่าอากาศยานนูโคโวเมื่อราว 13.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยเมื่อก้าวออกจากเครื่องบิน สีจิ้นผิงได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากรองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย ดมิตรี เชอร์นีเชนโก และเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่น ๆ ของรัสเซีย ณ ลานจอดเครื่องบิน

‘สี จิ้นผิง’ เผยพร้อมขยายความร่วมมือกับ ‘รัสเซีย’ มุ่งผลักดันให้บรรลุเป้าหมายแบบรอบด้าน

(22 มี.ค.66) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า... เมื่อวันอังคาร (21 มี.ค.) สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน กล่าวว่าจีนพร้อมขยายความร่วมมือกับรัสเซียในด้านการค้า การลงทุน ห่วงโซ่อุปทาน โครงการขนาดใหญ่ พลังงาน และเทคโนโลยีระดับสูง

'สี จิ้นผิง' กล่าวถึงประเด็นข้างต้นขณะพบปะกับมิคาอิล มิชูสติน นายกรัฐมนตรีรัสเซีย

'สี จิ้นผิง' กล่าวว่าจีนและรัสเซียเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่ใหญ่ที่สุดของกันและกันและหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านแห่งความร่วมมือ พร้อมกล่าวว่าการรักษาการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีน-รัสเซียที่แข็งแรงและมั่นคงนั้น สอดคล้องกับตรรกะทางประวัติศาสตร์ของความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศและผลประโยชน์ขั้นพื้นฐานของประชาชนทั้งสองประเทศ

'หมีขาว' หนุน 'หยวน-รูเบิล' เป็นตัวกลางการค้าหลัก 'จีน-รัสเซีย' พร้อมขยายเป็นเงินสกุลหลัก เพื่อการทำธุรกรรมกับนานาประเทศ

เมื่อไม่นานมานี้ วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ลั่นหลังสีจิ้นผิง ผู้นำจีนเข้าพบ เตรียมอนุมัติใช้เงินหยวนเป็นสกุลเงินหลัก สำหรับการซื้อขายกับปะเทศในภูมิภาคเอเชีย แอฟริกา และละตินอเมริกา เพื่อคานอำนาจและตอบโต้สหรัฐอเมริกา และ นาโต้ ที่หนุนความขัดแย้งผ่านทางยูเครน

ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน กล่าวหลังจากที่ได้พบปะพูดคุยกับนายสีจิ้นผิง โดยทั้งจีนและรัฐเซียมีความสัมพันธ์เป็นพันธมิตรกันอย่างแน่นแฟ้น โดยเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ปูติน ได้เรียกร้องให้มีการทำให้เงินหยวนของจีนเป็นสากล ซึ่งมูลค่าการค้าประมาณ 2 ใน 3 ของการค้าระหว่างรัสเซียและจีนมีการซ้อขายด้วยเงินหยวนและรูเบิล โดยประเทศรัสเซียสนับสนุนการใช้เงินหยวนในการเป็นสกุลเงินหลักสำหรับการเจรจาการค้าและธุรกรรมระหว่างประเทศระหว่างรัสเซียกับประเทศต่างๆ ในเอเชีย แอฟริกา และละตินอเมริกา

พันธมิตรของจีนและรัสเซีย ‘ไม่ใช่การเผชิญหน้า’

ทั้งนี้จีนกลายเป็นเส้นเลือดใหญ่ทางเศรษฐกิจที่สำคัญสำหรับรัสเซีย เมื่อเผชิญกับการคว่ำบาตรจากตะวันตก และตอนนี้ ความเคลื่อนไหวล่าสุดก็พร้อมที่จะกระชับความสัมพันธ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

ขณะที่ในฐานะส่วนหนึ่งของการเยือนมอสโกในปัจจุบันของ สีจิ้นผิง ผู้นำทั้งสองได้ลงนามในข้อตกลงทางเศรษฐกิจอย่างน้อย 14 ฉบับเมื่อวันที่ 21 มีนาคม โดยในรายงานดังกล่าว รวมถึงประเด็นต่าง ๆ ตั้งแต่ความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์ไปจนถึงการผลิตรายการโทรทัศน์ร่วมกัน การประกาศล่าสุดของปูตินระบุว่า ทั้งสองประเทศกำลังร่วมกันหาทางที่จะชดเชยการครอบงำทั่วโลกของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ

‘ปูติน’ กร้าว!! ‘รัสเซีย-จีน’ จับมือกันแบบโปร่งใส ย้อน ‘มะกัน-นาโต้’ ส่อแววรวมก๊ก เหมือน WW II

รัสเซียและจีนไม่ได้กำลังจัดตั้งพันธมิตรทหาร และความร่วมมือระหว่างกองทัพทั้ง 2 ชาตินั้น ‘มีความโปร่งใส’ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ให้ความเห็นที่มีการออกอากาศในวันอาทิตย์ (26 มี.ค.) ไม่กี่วันหลังเป็นเจ้าภาพต้อนรับ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ในเครมลิน พร้อมกล่าวหาย้อนกลับไปว่า เป็นสหรัฐฯ และนาโต้เองที่กำลังแสวงหาฝ่าย ‘อักษะใหม่’ คล้ายคลึงกับการจับมือกับระหว่างนาซี เยอรมนี ฟาสซิสต์ อิตาลีและจักรวรรดิญี่ปุ่น ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

ปูติน และสี ประกาศตัวเป็นพันธมิตร พร้อมสัญญาสานสัมพันธ์ใกล้ชิดยิ่งขึ้น ในนั้นรวมถึงในขอบเขตด้านการทหาร ระหว่างการประชุมซัมมิตเมื่อวันที่ 20-21 มีนาคมที่ผ่านมา ในขณะที่รัสเซียกำลังประสบปัญหาในการรุกคืบในสมรภูมิรบ ในสิ่งที่พวกเขาเรียกว่าเป็น ‘ปฏิบัติการพิเศษด้านการทหาร’ ในยูเครน

"เราไม่ได้กำลังสร้างพันธมิตรทหารใหม่กับจีน" ปูตินกับผ่านสื่อมวลชนแห่งรัฐ "ใช่แล้ว เรามีความร่วมมือกันในขอบเขตการทำงานร่วมกันทางเทคนิคด้านการทหาร เราไม่ได้ปิดบังในเรื่องนี้ ทุกอย่างมีความโปร่งใส มันไม่ได้เป็นความลับใดๆ"

จีนและรัสเซียลงนามในข้อตกลงเป็นหุ้นส่วนแบบไร้ขีดจำกัด เมื่อช่วงต้นปี 2022 ไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้า ปูติน ส่งทหารหลายหมื่นนายบุกเข้าไปในยูเครน ปักกิ่งระงับไว้ซึ่งการวิพากษ์วิจารณ์การตัดสินใจของปูติน และนำเสนอแผนสันติภาพสำหรับยูเครน อย่างไรก็ตาม ตะวันตกปฏิเสธข้อเสนอแผนสันติภาพดังกล่าว โดยบอกว่ามันเป็นอุบายซื้อเวลาช่วยปูติน สำหรับคืนชีพกองกำลังของเขาในยูเครน

เมื่อเร็วๆ นี้ วอชิงตันแสดงความกังวลว่าปักกิ่งอาจมอบอาวุธให้รัสเซียบางอย่างที่จีนปฏิเสธ

ระหว่างแสดงความคิดเห็นผ่านสถานีโทรทัศน์ ปูติน ปฏิเสธข้อสันนิษฐานที่ว่า การยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างมอสโกกับปักกิ่งในขอบเขตต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านพลังงานและการเงิน อาจหมายความว่ารัสเซียกำลังพึ่งพิงจีนมากจนเกินไป โดยเขาบอกว่ามันเป็นมุมมองของคนขี้ระแวง "นานหลายทศวรรษแล้ว ที่มีความปรารถนาหันจีนให้อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับสหภาพโซเวียตและรัสเซีย" เขากล่าว "และในทางกลับกัน เราเข้าใจในโลกที่เราอาศัยอยู่ดี เราเล็งเห็นคุณค่าของความสัมพันธ์ร่วมระหว่างเรา และระดับของความสัมพันธ์พุ่งถึงจุดสูงสุดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา"

นอกจากนี้ ปูตินยังกล่าวหาสหรัฐฯ และนาโต้ ว่ากำลังหาทางสร้าง "ฝ่ายอักษะ' ระดับโลกใหม่ ที่เขาบอกว่ามีส่วนคล้ายคลึงกับการจับมือเป็นพันธมิตรในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ระหว่าง นาซี เยอรมนี ฟาสซิสต์ อิตาลี และจักรวรรดิญี่ปุ่น

ปูติน เอ่ยชื่อออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และเกาหลีใต้ ว่ากำลังต่อแถวเข้าร่วม 'นาโต้โลก' และพาดพิงถึงข้อตกลงด้านกลาโหมที่ลงนามโดยสหราชอาณาจักรและญี่ปุ่นเมื่อช่วงต้นปี "นั่นคือเหตุผลว่าทำไมพวกนักวิเคราะห์ตะวันตกกำลังพูดถึงเกี่ยวกับการที่ตะวันตกกำลังสร้างอักษะใหม่ แบบเดียวกับที่เคยจัดตั้งขึ้นในช่วงยุคทศวรรษ 1930 โดยรัฐบาลฟาสซิสต์เยอรมนี และอิตาลี และลัทธิทหารนิยมญี่ปุ่น" เขากล่าว

‘เซเลนสกี’ เอ่ยปากเชิญ ‘สี จิ้นผิง’ ผู้นำจีน เยือนยูเครน เย้ย ‘ปูติน’ ไร้พันธมิตร - สูญเสียทุกอย่างเพราะสิ่งที่ตัวเองก่อ

(29 มี.ค. 66) ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ออกปากเชื้อเชิญประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีนไปเยือนกรุงเคียฟเพื่อร่วมหาทางออกให้กับสงครามรัสเซีย-ยูเครน หลังจากที่ผู้นำจีนเพิ่งจะเดินทางไปเยือนมอสโกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ระหว่างให้สัมภาษณ์พิเศษกับผู้สื่อข่าว AP บนขบวนรถไฟจากเมืองซูมี (Sumy) ‘เซเลนสกี’ ผู้นำยูเครน ได้เอ่ยย้ำคำเชิญไปยัง ‘สี จิ้นผิง’ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำชาติมหาอำนาจที่ยังไม่เคยไปเยือนกรุงเคียฟ นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากรุกรานเมื่อเดือน ก.พ. ปีที่แล้ว

“เราพร้อมที่จะพบกับท่านที่นี่” เซเลนสกี กล่าว

“ผมอยากจะพูดคุยกับท่าน ผมเคยติดต่อท่านก่อนที่สงครามจะปะทุอย่างเต็มรูปแบบ แต่ตลอดช่วง 1 ปีเศษที่ผ่านมา ผมยังไม่มีโอกาสเช่นนั้นเลย”

จีนมีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับรัสเซีย ทั้งในทางเศรษฐกิจการเมืองมานานหลายสิบปี และแม้รัฐบาล สี จิ้นผิง จะประกาศจุดยืน ‘เป็นกลาง’ ในสงครามครั้งนี้ ทว่าในทางปฏิบัติก็ยังคงให้การสนับสนุนทางการทูตต่อประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำของรัสเซีย

การเยือนมอสโกของ สี จิ้นผิง ระหว่างวันที่ 20-22 มี.ค. ที่ผ่านมานั้น ทำให้ชาติตะวันตกหวาดระแวง ว่าจีนอาจตัดสินใจส่งอาวุธและเครื่องกระสุนไปช่วยเติมเต็มคลังแสงของรัสเซีย ที่ร่อยหรอลงไปเรื่อย ๆ ทว่าสุดท้ายแล้วการเยือนก็จบลงแบบไม่มีคำแถลงใด ๆ ที่มีนัยสำคัญ

หลายวันต่อมา ปูติน ประกาศจะส่งขีปนาวุธทางยุทธวิธีไปประจำการที่เบลารุส ซึ่งเท่ากับว่า ‘คลังแสงนิวเคลียร์’ ของรัสเซียกำลังจะถูกลำเลียงเข้าใกล้แผ่นดิน ‘นาโต’ มากขึ้นอีก

เซเลนสกี มองว่า ความเคลื่อนไหวล่าสุดของ ปูติน น่าจะเป็นความพยายาม ‘แก้เก้อ’ จากการที่ผู้นำจีนไม่ได้รับปากมอบความช่วยเหลือทางทหารอย่างเป็นรูปธรรม และอาจเป็นการตอบโต้ที่อังกฤษจะส่งกระสุนยูเรเนียมด้อยสมรรถนะ (depleted uranium ammunition) ให้กับยูเครนด้วย

‘หน่วยความมั่นคงฯ รัสเซีย’ จับผู้สื่อข่าว 'วอลล์สตรีท เจอร์นัล' ชี้ ข้อหาจารกรรม พยายามเข้าถึงข้อมูลลับของรัสเซีย 

(31 มี.ค.66) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หน่วยความมั่นคงกลางรัสเซียได้จับกุม อีวาน เกิร์ชโควิช นักข่าวของสำนักข่าวดังอย่าง Wall Street Journal ในข้อหาจารกรรม โดยพยายามเข้าถึงข้อมูลลับ เขาถูกคุมตัวได้ในเมืองเยคาเตรินเบิร์ก

หน่วยความมั่นคงกลางรัสเซีย กล่าวว่า เขากำลังรวบรวมข้อมูลลับเกี่ยวกับกิจกรรมของหนึ่งในองค์กรของศูนย์อุตสาหกรรมทางทหารของรัสเซีย ทั้งนี้ ไม่มีการระบุว่าการจับกุมอีวาน เกิร์ชโควิช เกิดขึ้นเมื่อใด โดย อีวาน เกิร์ชโควิช กำลังดำเนินการตามคำสั่งของสหรัฐฯ ในการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมของหนึ่งในองค์กรของศูนย์อุตสาหกรรมทางทหารของรัสเซียที่ถือเป็นความลับของรัฐ

‘กองทัพมะกัน’ วิตก!! หลังจีน-รัสเซีย-อิหร่าน จับมือใกล้ชิดยิ่งขึ้น เผย เป็นครั้งแรกที่สหรัฐฯ เผชิญหน้ากับมหาอำนาจนิวเคลียร์ 2 ชาติ

(2 เม.ย. 66) พล.อ.มาร์ค มิลลีย์ ประธานคณะเสนาธิการร่วมกองทัพสหรัฐฯ บอกกับสมาชิกรัฐสภาเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ว่า จีน รัสเซีย และอิหร่านจะเป็นปัญหาสำหรับอเมริกา ‘ในช่วงหลายปีข้างหน้า’ ในขณะที่ทั้ง 3 ชาติกำลังทำงานร่วมกันใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น

ระหว่างให้ปากคำต่อคณะกรรมาธิการด้านการทหารของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ร่วมกับ ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหม ทาง พล.อ.มิลลีย์ เปิดเผยว่า รัสเซียและจีนกำลังร่วมมือใกล้ชิดกันมากยิ่ง

“ผมคงไม่ใช้คำว่า ‘พันธมิตรเต็มรูปแบบอย่างแท้จริง’ ในความหมายที่แท้จริงของคำนั้น แต่เรากำลังเห็นพวกเขาเคลื่อนไหวใกล้ชิดกันมากขึ้น และนั่นเป็นปัญหา และจากนั้น อิหร่านก็เป็นประเทศที่ 3 ดังนั้น ผมคิดว่า 3 ประเทศเหล่านี้รวมกัน จะกลายเป็นปัญหาสำหรับหลายขวบปีข้างหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัสเซียและจีน สืบเนื่องจากศักยภาพของพวกเขา” พล.อ.มิลลีย์ กล่าว

ท่ามกลางเสียงเน้นย้ำมานานหลายปีของสหรัฐฯ ว่าทั้ง 3 ประเทศได้มุ่งเน้นด้านการทหารอย่างมาก โดยเฉพาะจีนและรัสเซีย ความตึงเครียดระหว่างอเมริกากับทั้ง 3 ชาติ ได้โหมกระพือขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา หรือแม้กระทั่งเมื่อเร็ว ๆ นี้

ในขณะที่สหรัฐฯ ยังคงเดินหน้าให้ความช่วยเหลือยูเครน ในการป้องกันตนเองจากการรุกรานของรัสเซีย ความตึงเครียดกับจีนได้พุ่งสูงขึ้นเมื่อไม่นานที่ผ่านมา หลังจากพบวัตถุบินต้องสงสัยว่าเป็นบอลลูนสอดแนมของจีน ล่องลอยข้ามน่านฟ้าอเมริกา ก่อนถูกเครื่องบินรบสหรัฐฯ ยิงตกนอกชายฝั่งทางตะวันออกของประเทศ

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สหรัฐฯ เปิดฉากโจมตีตอบโต้พวกนักรบกลุ่มต่าง ๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านในซีเรีย หลังโดรนต้องสงสัยว่าเป็นของอิหร่าน ทำการโจมตีศูนย์แห่งหนึ่งซึ่งเป็นฐานของบุคลากรสหรัฐฯ ส่งผลให้เจ้าหน้าที่สัญญาจ้างรายหนึ่งของอเมริกาเสียชีวิต และกำลังพลได้รับบาดเจ็บ 5 นาย

ตามหลังปฏิบัติการโจมตีของสหรัฐฯ พวกนักรบได้ยิงจรวดและส่งโดรนโจมตีเพิ่มเติม เล่นงานเป้าหมายต่าง ๆ ที่เป็นของอเมริกาและบุคลากรของพันธมิตรในซีเรีย

‘รัสเซีย’ เผย ยินดีส่งเด็กยูเครนกลับประเทศ  หากครอบครัวพวกเขาร้องขอ แนะ ให้ผู้ปกครองเขียนอีเมลส่งมา

(5 เม.ย.66) กล่าวว่า มาเรีย โลววา-เบโลวา กรรมาธิการสิทธิเด็กประจำสำนักงานประธานาธิบดีรัสเซีย ประกาศพร้อมส่งเด็กยูเครนกลับประเทศ หากครอบครัวของพวกเขาร้องขอ

โลววา-เบโลวา เป็นผู้ดูแลเด็กยูเครนที่ถูกส่งตัวจากประเทศมาอยู่ใต้การปกครองของประเทศรัสเซีย และเธอเป็นหนึ่งในผู้ถูกหมายจับของศาลอาญาระหว่างประเทศร่วมกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ในข้อหาลักพาตัวเด็กยูเครนไปยังประเทศรัสเซียอย่างผิดกฏหมาย

ยูเครนกล่าวหารัสเซีย ว่า ขโมยเด็กกว่า 16,000 คนออกจากประเทศ นับตั้งแต่เริ่มบุกรุกเมื่อปีที่แล้ว แต่ฝั่งรัสเซียกล่าวว่าเป็นการช่วยชีวิตเด็ก ๆ จากเขตสู้รบ และมีขั้นตอนรองรับเพื่อรอเวลาให้พวกเขาได้กลับไปอยู่กับครอบครัวอีกครั้ง

ในระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวันอังคาร มาเรีย โลววา-เบโลวากล่าวว่า เธอไม่เคยได้รับการติดต่อจากตัวแทนของทางการยูเครนเกี่ยวกับเด็กที่ถูกเคลื่อนย้ายออกนอกประเทศตั้งแต่เริ่มการสู้รบ และเธอยินดีให้ผู้ปกครองของเด็กเหล่านั้นสามารถเขียนอีเมลถึงเธอเพื่อตามหาลูกหลานของพวกเขาได้

"เขียนถึงฉัน...เพื่อตามหาลูกของคุณ" โลววา-เบโลวากล่าว แต่ปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายชื่อเด็กยูเครนทั้งหมดที่ถูกนำตัวมายังรัสเซีย

ตามรายงานล่าสุดที่เผยแพร่โดยสำนักงานของเธอ ระบุว่า เด็ก 16 คนจาก 9 ครอบครัวได้กลับไปอยู่ร่วมกับญาติชาวยูเครนตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคมแล้ว

รายงานยังระบุอีกว่าเด็กกำพร้าชาวยูเครน 380 คนถูกส่งไปอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์ในรัสเซีย รวมถึงผู้เยาว์ 22 คนที่ถูกทิ้งในเมืองมารีอูโปล เมืองท่าที่ถูกถล่มจนราบเป็นหน้ากอง ก่อนที่กองกำลังรัสเซียจะเข้ายึดเมื่อปีที่แล้ว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top