Thursday, 2 May 2024
มวยไทย

‘ติอาโก้ เทเซียร่า’ นักมวยบราซิลหัวใจเขมร เตรียมกลับมาหากินในไทย  หลังจบไม่สวยกับกุนขแมร์ งานนี้แฟนมวยรอต้อนรับกันคับคั่ง!!

(3 ส.ค. 66) แว่วว่า ‘ติอาโก้ เทเซียร่า’ นักมวยบราซิลหัวใจเขมร เตรียมหอบผ้าหอบผ่อนกลับประเทศไทยมาหากิน หลังจากแยกทางกับ สหพันธ์กุนขแมร์

ช่องทางโซเชียลของ ครูอรรถ Kruarrt Muaythai โพสต์ว่า "วงในบอกไม่เเน่อาจจะกลับมาทำมาหากินที่สมุยประเทศไทยอีกครั้ง หลังประกาศเเยกทางกับสมาคมกุนขแมร์"

งานนี้รับรองแฟนมวยชาวไทยเตรียมต้อนรับ ติอาโก้ เทเซียร่า หากกลับมาที่เกาะสมุยที่เคยมีค่ายมวย หลังจากไม่พอใจที่นักสู้เชื้อสายบราซิล โอนสัญชาติไปเป็นคนเขมร ทันทีที่มีประเด็น ซีเกมส์ ที่เจ้าภาพกัมพูชาถอดมวยไทย

นอกจากนี้ ติอาโก้ เทเซียร่า ยังสักรอยใหม่ทับคำว่ามวยไทยที่กลางแผ่นหลังอีกด้วย

‘ตะวันฉาย’ ต่อยคิกบ็อกซิ่งครั้งแรก ในศึก ONE Fight Night 13 โชว์หวดแข้งซ้ายน็อกนักชกจอร์เจีย ยก 3 คว้าโบนัส 1.75 ล้านบาท!!

(5 ส.ค. 66) ‘ตะวันฉาย’ พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม ราชันมวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต ซึ่งย้ายข้ามมาทำการแข่งขันในกติกาคิกบ็อกซิ่ง เป็นครั้งแรก ในศึก ONE Fight Night 13 ที่สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) โดยพบกับ ‘ดาวิต คิเรีย’ นักชกรุ่นเก๋าชาวจอร์เจีย

โดยยกแรก เป็น ตะวันฉาย ที่ดักเตะแข้งซ้ายเข้าลำตัว เเละเจาะยาง ทำให้ ดาวิต คิเรีย ออกอาวุธไม่ถนัด แม้จะเป็นฝ่ายเดินเข้าหา เข้าสู่ขึ้นยก 2 ดาวิต คิเรีย ยังเดินเข้าหาต่อยหมัดหวังเผด็จศึกให้ได้ แต่ยังถูก ตะวันฉาย ที่ดักเตะซ้าย เข้าลำตัวอย่างหนักหน่วง ก่อนจะต่อยซ้ายตรงจน ดาวิต คิเรีย ก้นเตี้ย แต่ทว่าช่วงปลายก มีจังหวะที่ ดาวิต คิเรีย ต่อยเข้าใบหน้าตะวันฉายได้ลุ้นเลยทีเดียว

ทว่าขึ้นยกที่ 3 ตะวันฉาย ได้โอกาสเตะซ้ายเข้าลำตัว ดาวิต คิเรีย เป็นจังหวะที่โดนแขนของ ดาวิต เอาชนะ TKO ไปได้ในยกที่ 3 รับโบนัส 50,000 หมื่นเหรียญ (1.75 ล้านบาท) พร้อมประกาศพร้อมเจอ ซุปเปอร์บอน บัญชาเมฆ

‘สามารถ’ ลั่น!! คนดูอยากเห็นศิลปะการต่อสู้มวยไทย ไม่ใช่แค่เตะ-กอดปล้ำ ชี้!! ควรแก้ปัญหา ‘เซียนมวยมาเฟีย-ตัดสินให้เป็นมาตรฐานทุกเวที’ มากกว่า

(11 ส.ค.66) สามารถ พยัคฆ์อรุณ แชมป์โลกมวยสากลอาชีพคนที่ 10 ของไทย และอดีตยอดนักมวยไทยชื่อดัง ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า…

ปรับปรุงรูปแบบการชกให้น่าสนใจมากขึ้น ใช้แม่ไม้ลูกไม้ต่างๆ ให้มากขึ้น เพราะคนดูอยากดูศิลปะการต่อสู้ของไทย ซึ่งไม่ใช่แค่เตะ กอดปล้ำ ตีเข่าจับทุ่มเท่านั้น

>> แก้ไข

- แก้ปัญหาเซียนมวยนักพนันที่มีอิทธิพลกดดันตัวนักมวยและกรรมการ
- แก้ปัญหาการตัดสินให้เป็นมาตรฐานทุกเวทีให้คะแนนตามความยากง่าย ความสมบูรณ์ของท่ามวยไทยต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้นักมวยรู้จักใช้และกล้าใช้แม่ไม้และลูกไม้มวยไทยมากขึ้น และควรให้คะแนนในแต่ละยกเพื่อกระตุ้นให้นักมวยทำคะแนนทุกยก

มวยไทยเป็นศิลปะการต่อสู้ที่สวยงามและอันตรายในตัว ซึ่งเป็นเสน่ห์ที่หาได้ยากจากศิลปะการต่อสู้แบบอื่น คนมาดูมวยไทยในอดีต จะมาดูศิลปะการต่อสู้ ดูการรุกการรับที่เป็นเสน่ห์ของมวยไทย ซึ่งอาจจะแตกต่างจากแฟนมวยปัจจุบัน

‘บัวขาว’ ดวลเดือด ‘แสนชัย’ ศึก BKFC Thailand พ.ย.นี้ กติกา ‘ชกมือเปล่าไร้นวม’ การันตี ‘ดุเดือด-ชกจริง-เจ็บจริง’

(17 ส.ค. 66) ที่โดม เซล แกลอรี่ ชั้น 1 อาคารเพิร์ล แบงค็อก พหลโยธิน ซอย 10 ได้มีการแถลงข่าวแมตช์หยุดโลก สังเวียนระอุ ‘บัวขาว บัญชาเมฆ’ ปะทะ ‘แสนชัย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม’ ในศึก ‘BKFC Thailand ครั้งที่ 5 - LEGENDS OF SIAM’ สังเวียนการต่อสู้ด้วยมือเปล่าบนกฏกติกาแบบไทยที่ทวีความดุเดือด อย่างคาดไม่ถึง ในวันเสาร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2566 ณ รอยัลคลิฟ โฮเต็ลส์ กรุ๊ป พัทยา จ. ชลบุรี

BKFC ASIA ประกาศอย่างเป็นทางการ พร้อมระเบิดศึกสะเทือนวงการกำปั้นของ 2 นักสู้ระดับตำนานแห่งยุค กับไฟต์หยุดโลก พร้อมยกทัพจัดเต็มด้วยคู่มวยเดือดชิงแชมป์โลก 2 คู่ ได้แก่ โป เดนแมน จากประเทศไทย ปะทะ บริเทน ฮาร์ต จากสหรัฐอเมริกา และแฟรงกี้ ปะทะ แสนศึก นครโชคชัย จอมเดือดเมืองโคราช โดย ‘BKFC Thailand ครั้งที่ 5 - LEGENDS OF SIAM’ อัดแน่นเต็มพิกัดด้วยนักสู้ฝีมือฉกาจจากทั่วโลกรวมทั้งหมด 24 ชีวิต ที่จะมาดวลเดือดกันในการต่อสู้ทั้ง 12 แมตช์ 

มร. นิค แชปแมน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานฝ่ายปฏิบัติการ BKFC ASIA อดีตแชมป์ UK1 British Title Cage Rage (UCMMA) World Title Light Heavyweight กล่าวว่า ศึก BKFC Thailand ครั้งที่ 5 - LEGENDS OF SIAM ครั้งนี้ นับเป็นการพบกันของสองยอดนักสู้แห่งสยาม ผู้เป็นตำนานที่ยังมีลมหายใจ และเป็นครั้งแรก ของ 2 นักชกที่จะมาร่วมประลองฝีไม้ลายมือกัน ภายใต้กติกาใหม่ของเวที BKFC ซึ่งเน้นความดุเดือด ชกจริง เจ็บจริง ระห่ำมากยิ่งขึ้น นั่นคือนักสู้จะชกกันแบบมือเปล่า ไม่สวมนวม โดยในพิกัดน้ำหนัก 68.5 กก. กำหนดชกถึง 5 ยก ยกละ 2 นาที ผู้ชมจึงไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย หรือน็อกคาเวทีในครั้งนี้ และตอนนี้ทั้งสองนักชกกำลังซุ่มลับฝีมือกันอย่างเต็มที่ ถึงแม้จะเป็นเพื่อนรักกัน แต่เรื่องของศักดิ์ศรี ไม่มีใครยอมกันแน่นอน

BKFC Thailand ครั้งที่ 5 - LEGENDS OF SIAM ณ รอยัล คลิฟ โฮเต็ลส์ กรุ๊ปในครั้งนี้ เป็นการเปิดปรากฏการณ์ใหม่ เพื่อยกระดับมาตรฐานนักชกของไทยให้ทัดเทียมกับนักชกนานาชาติ ซึ่งเป็นเหตุผลหลักในการจัดงานขึ้นที่ประเทศไทย แทนกำหนดการเดิมในแถบตะวันออกกลางเมื่อช่วงต้นปี เนื่องจากคณะผู้จัดงานต้องการประกาศศักดาของศิลปะการต่อสู้อีก 1 แขนงที่กำลังได้รับความนิยมและกล่าวถึงมากที่สุด เราต้องการสร้าง

ตำนานบทใหม่ในศึก BKFC Thailand ครั้งที่ 5 อีกทั้งต้องการเชิดชู ‘นักสู้ไทย’ ที่มีความสามารถไม่เป็นสองรองใครในเวทีโลก และครั้งนี้ยังถือเป็นของขวัญที่มอบให้แฟนคอมแบท สปอร์ต ที่ชื่นชอบการต่อสู้ ซึ่งเรามั่นใจว่ารายการนี้จะเป็นอีกหนึ่งศึกที่คนรอติดตามมากที่สุด เพราะที่ผ่านมาการแข่งขันรูปแบบนี้ยังไม่เคยเกิดขึ้น และครั้งนี้ BKFC ได้ทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ให้เกิดขึ้นแล้วในเมืองไทย

นายวรรธนัย วรรธนะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บีเคเอฟซี เอเชีย ประธานบริหาร รอยัล คลิฟ โฮเต็ลส์ กรุ๊ป และศูนย์ประชุมนานาชาติพีช พัทยา (PEACH) กล่าวว่า ในปี 2566 นี้เราได้ บริเท็น ฮาร์ท (Britain Hart) แชมป์โลก นักสู้ชาวอเมริกัน ในรุ่น World Title เข้าร่วมรายการด้วย โดยมีผู้ท้าชิงนักสู้หญิงไท อย่าง โป เดนแมน เข้าท้าชิงเข็มขัดแชมป์โลกในครั้งนี้ นับเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เลยทีเดียว ซึ่งนอกจากนักสู้ที่โดดเด่นอย่างฟิลิปปินส์แล้ว ปีนี้เรายังมีนักสู้จากอีกหลากหลายประเทศ ทั้ง อเมริกา เยอรมนี สวีเดน สก็อตแลนด์ สหราชอาณาจักร ฟิลิปปินส์ อิหร่าน ฯลฯ

นอกจากการมุ่งเฟ้นหา สนับสนุน และพัฒนาศักยภาพของเหล่านักสู้แล้ว เรายังเล็งเห็นว่าศิลปะการต่อสู้ด้วยมือเปล่าเป็นเทรนด์กีฬาแห่งโลกอนาคตที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างรวดเร็วในนานาประเทศ โดยเฉพาะในทวีปเอเชีย ยุโรป อเมริกา เราพร้อมสนับสนุนและปลุกปั้นนักสู้หน้าใหม่ที่ฉายแววเข้าสู้เส้นทางการแข่งขัน ไปพร้อมกับการดูแลขับเคลื่อนวงการนักกีฬาไทยให้มีอาชีพที่มั่นคง และเติบโตได้อย่างยั่งยืนบนเส้นทางกีฬาสายนี้ และอย่างที่ทราบกันว่าปีนี้เราได้กำหนดกติกาใหม่ในชื่อเรียกใหม่ว่า Special Rules Bare Knuckle Thai Fight หรือศิลปะการต่อสู้ด้วยมือเปล่าบนกฎกติกาแบบไทย เพื่อนำเสนอสิ่งใหม่และน่าตื่นเต้นให้กับผู้ชมของเรา

ขณะที่ บัวขาว บัญชาเมฆ นักสู้ระดับตำนานของไทย กล่าวถึงการต่อสู้ในครั้งนี้ว่า “แม้ผมจะเป็นเพื่อนรักกับแสนชัย แต่จะไม่มีการออมมือให้อย่างแน่นอน ศึกครั้งนี้เป็นการต่อยจริง เจ็บจริง แฟนๆ ห้ามพลาด เพราะเป็นแมตช์การต่อสู้ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เสมือนของขวัญที่ BKFC มอบให้แก่แฟนกีฬาการต่อสู้ในช่วงปลายปี ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ ผมเอาศักดิ์ศรีเป็นเดิมพัน”

ด้าน แสนชัย พี.เค. แสนชัยมวยไทยยิม กล่าวว่า “ถึงเราสองคนจะเป็นเพื่อนรักกัน แต่ถ้าได้ขึ้นเวทีเราทั้งคู่ก็มีความเป็นมืออาชีพมากพอ ที่จะไม่มีคำว่าขึ้นไปเหยาะแหยะ และเสียชื่อการต่อสู้อย่างแน่นอน ขอขอบคุณแฟนคลับของผมและของบัวขาวที่สนับสนุนพวกผมด้วยดีมาโดยตลอด”

“แม้จะมีกระแสแฟนคลับบางส่วนที่ไม่อยากให้เราชกกันเอง ผมอยากจะบอกว่าการชกครั้งนี้ ไม่ได้เพื่อพิสูจน์ว่าใครเก่งกว่าใคร แต่ชกเพื่อประกาศให้คนทั่วโลกหันมาสนใจดูศิลปะการต่อสู้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมื่อมีการปรับกติกาใหม่ Special Rules Bare Knuckle Thai Flight ที่เข้มข้นขึ้น พวกเราทั้งสองมั่นใจว่าผู้ชมทั่วโลกจะสนุก มัน และลุ้นจนนั่งไม่ติดกับการต่อสู้บนเวที BKFC Thailand ครั้งที่ 5 นี้แบบเต็มสตรีม”

สำหรับการต่อสู้แบบไทยด้วยมือเปล่าบนกฎกติกาใหม่ Special Rules Bare Knuckle Thai Fight กำหนดจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2566 ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ณ รอยัล คลิฟ โฮเต็ลส์ กรุ๊ป พัทยา เริ่มจำหน่ายบัตรในวันพฤหัสบดีที่ 31 สิงหาคม 2566 ในราคา 500 และ 1,000 บาท สำหรับตั๋วยืน และ 2,500-3,000 บาทสำหรับที่นั่ง สำหรับที่นั่งวีไอพีติดขอบสนาม ราคาเริ่มต้นที่ 7,000 รวมอาหารค่ำมื้อพิเศษ สิทธิพิเศษ หรือส่วนลดสำหรับการเข้าพัก ณ รอยัล คลิฟ โฮเต็ลส์ กรุ๊ป เมื่อแสดงโค้ดการจองตั๋วเข้าชม BKFC Thailand ครั้งที่ 5 นี้ (ตามเงื่อนไขที่กำหนด)

‘สนามมวย​ลุมพินี’ ต้อนรับ​ ‘มิส​แกรนด์ กรุงเทพฯ-สระบุรี’ จัดกิจกรรมสนับสนุน-ส่งเสริม ‘THAI​ 5​F​ SOFT​ POWER’

(12 ก.ย. 66) สนามมวย​ลุมพินี ​ให้การ​ต้อนรับ​ มิส​แกรนด์​กรุงเทพ​มหานคร​และ​มิส​แกรนด์​สระบุรี​ใน​โอกาส​ที่มา​จัดกิจกรรม​สนับสนุน​ ส่งเสริม​และ​เผยแพร่​โครงการ​ ‘THAI​ 5​F​ SOFT​ POWER​’

ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายผลักดัน Soft Power ความเป็นไทย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ที่มีศักยภาพ 5F ได้แก่ F-Food อาหาร, F-Film ภาพยนตร์และวีดิทัศน์, F-Fashion การออกแบบแฟชันไทย, F-Fighting ศิลปการป้องกันตัวแบบไทย และ F-Festival เทศกาลประเพณีไทย สู่ระดับโลกเพื่อช่วยสร้างรายได้และภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศ

กระทรวงวัฒนธรรม ได้ปรับบทบาทจากกระทรวงสังคมสู่กระทรวงสังคมกึ่งเศรษฐกิจ มีเป้าหมายการขับเคลื่อนงานด้านศิลปะวัฒนธรรม และศาสนา ถือเป็นการรีสตาร์ตประเทศไทย โดยการขับเคลื่อนสังคมและเศรษฐกิจด้วยวัฒนธรรม ตามนโยบายเปลี่ยนฉากทัศน์วัฒนธรรมสู่ก้าวที่มั่นคงและยั่งยืน ส่งผลให้เกิดประโยชน์อย่างยิ่งต่อประชาชนและประเทศชาติ ทั้งมิติทางสังคมและเศรษฐกิจ

สำหรับโครงการ THAI 5F SOFT POWER เป็นหนึ่งในแผนการดำเนินงานขับเคลื่อน มุ่งให้ทุกภาคส่วนทั้งหน่วยงานรัฐ เอกชน เครือข่ายวัฒนธรรม ชุมชนและประชาชนให้ความสำคัญ ร่วมมือกันนำวัฒนธรรมมาพัฒนาประเทศในทุกมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านเศรษฐกิจ การค้า รวมทั้งสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้ไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยว อีกทั้งการสร้างสรรค์ศิลปวัฒนธรรมที่สำคัญและทรงอิทธิพลของโลก

‘รถถัง’ เดินทางไปเยี่ยม ‘ซุปเปอร์เล็ก’ หลังเย็บเเผลที่หัว ไม่สนใจผลการเเข่งขัน แม้จะเป็นฝ่ายเสียท่าแพ้ศึกครั้งนี้

(23 ก.ย.66) บนสังเวียนใส่กันแทบตาย ชนิดเลือดอาบ แต่หลังจบเกมนี่คือมิตรภาพเเละสปิริตนักกีฬาของ ‘รถถัง’ เดินทางไปเยี่ยม ‘ซุปเปอร์เล็ก’ ที่ไปเย็บเเผลที่หัว ไม่สนใจผลการเเข่งขันทั้งที่ตัวเองเป็นฝ่ายเเพ้ รวมถึงดรามาต่างๆ ที่ตามมา ซึ่ง ‘ซุปเปอร์เล็ก’ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า…

ผมไม่มีอะไรจะพูดนอกจากคำว่า ขอโทษทีมงานทางด้านน้องรถถังกับเรื่องผมทำหนักไม่ได้ ต้องขอบคุณรถถังด้วยที่ยอมชกในไฟต์นี้ ซึ่งตัวน้องเองรู้ตัวว่าเสียเปรียบมาก ผมได้ทำหน้าที่ของตัวเองจบแล้ว ผมกับรถถังเต็มที่แล้ว ไม่มีคำแก้ตัวใดๆ นอกจากกลับไปปรับปรุงและแก้ไขตัวเอง

SPL ขอบคุณน้องรักที่ฝากรอยแผลไว้ให้ซะเยอะเลย
ขอโทษจากใจครับ

'มวยไทย' บุก 'กว่างโจว' กระแสตอบรับล้นหลาม แถมจีนช่วยกระพือ สร้างซอฟต์พาวเวอร์สู่นานาชาติ

(25 ก.ย.66) การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.), กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF), สถานกงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจว, คณะกรรมการกีฬามวย, สมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ, สมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทย และสหพันธ์สมาคมมวยไทยนานาชาติ (IFMA) ร่วมกันจัดกิจกรรมโครงการเผยแพร่ศิลปะมวยไทยในประเทศจีน ระหว่างวันที่ 22-24 กันยายนที่ผ่านมา ที่เมืองกว่างโจว ประเทศจีน

เพื่อเป็นการส่งเสริมกีฬามวยไทย ซึ่งเป็นซอฟต์พาวเวอร์ ของประเทศไทยให้เผยแพร่ไปสู่ระดับนานาชาติ และกำหนดมาตรฐานมวยไทย One Standard Muaythai (OSM) โดยมี ดร.เช้า วาทโยธา และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อนันต์ เมฆสวรรค์ 2 ครูมวยไทยนานาชาติชื่อดัง รวมถึง ปิ่นเพชร บัญชาเมฆ นักมวยไทยเชื้อสายปกาเกอะญอจากจังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมคณะเปิดคลินิกสอนทักษะมวยไทยให้กับผู้เข้ารับการอบรมทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ ซึ่งได้รับการตอบรับจากชมรม และสมาคมมวยไทยของประเทศจีน ในการส่งนักกีฬามวยไทยเข้ารับการอบรมอย่างล้นหลาม

โครงการดังกล่าวจัดขึ้นตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ซึ่งได้ให้ความสำคัญกับการกีฬา และนันทนาการบนพื้นฐานวิทยาศาสตร์การกีฬา เพื่อเป็นเครื่องมือในการส่งเสริมพัฒนากีฬา พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ พัฒนาคุณภาพชีวิต สร้างชื่อเสียง และเกียรติภูมิของประเทศ รวมถึงการส่งเสริมอุตสาหกรรมกีฬา การท่องเที่ยวเชิงกีฬาเพื่อสร้างคุณค่า และมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทย ดังนั้นสมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทยที่มีบทบาทหน้าที่ในการดำเนินกิจกรรมกีฬามวยอาชีพในการส่งเสริม และเผยแพร่กีฬามวยไทยอาชีพให้เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ

รวมทั้งการส่งเสริมอุตสาหกรรมมวยไทยทั้งในรูปแบบสินค้า และบริการเพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจด้วยธุรกิจอุตสาหกรรมมวยไทย สร้างรายได้ให้บุคลากรมวยไทย จึงจัดโครงการเผยแพร่ศิลปะมวยไทยในประเทศจีนขึ้นเพื่อนำกีฬามวยไทยไปเผยแพร่ และยังเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ของไทย-จีน ให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น

กิจกรรมที่เมืองกว่างโจว ประเทศจีน แบ่งกิจกรรม เป็น 2 ส่วน 1.กิจกรรมเทรนนิ่ง ที่ Sport Hall จัด 2 วัน และ 2.กิจกรรมการแสดงศิลปะมวยไทยและศิลปวัฒนธรรม ที่ห้างสรรพสินค้า Wanda Mall เป็นการเผยแพร่มวยไทย การไหว้ครู มวยโบราณ แม่ไม้มวยไทย การแสดงศิลปวัฒนธรรม 4 ภาค การสอนพื้นฐานมวยไทย เพื่อเป็นการเผยแพร่วัฒนธรรมการกีฬามวยไทย ให้ชาวต่างชาติภายในงานได้มีการรับรู้ กิจกรรมฝึกสอนมวยไทยขั้นพื้นฐาน

ซึ่งถือเป็น One Standard มาตรฐานหนึ่งเดียวของมวยไทย ไปเผยแพร่องค์ความรู้สู่นานาชาติ บรรยากาศภายในงานมีชาวจีนทั่วไป รวมทั้งเยาวชนให้ความสนใจเรียนรู้หลักสูตร และศิลปะแม่ไม้มวยไทยกันอย่างเป็นจำนวนมาก โดยเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่งที่ชาวจีน และเยาวชนจาก South China Normal University ให้ความสนใจร่วมกิจกรรมจำนวนมาก

โครงการเผยแพร่ศิลปะมวยไทยในประเทศจีน ยังเป็นการประชาสัมพันธ์กีฬามวยไทย ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม อันเป็นอัตลักษณ์ของความเป็นไทยให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายยิ่งขึ้นในประเทศจีน อีกทั้งยังเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ทางการฑูตด้วยการเผยแพร่กีฬามวยไทย ศิลปวัฒนธรรมไทย

ขณะเดียวกัน ยังเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมมวยไทยสู่ประเทศจีนอย่างครบวงจร และสามารถต่อยอดสินค้ามวยไทยได้อย่างแพร่หลาย ทั้งในรูปแบบสินค้า และบริการด้านมวยไทยอย่างเป็นรูปธรรม เกิดความร่วมมือ และประสานงานกับองค์กรเครือข่ายกีฬามวยไทยทั้งในประเทศ และต่างประเทศอีกด้วย โดยกิจกรรมตลอด 3 วัน มีการถ่ายทอดสดผ่านสื่อออนไลน์ซึ่งมีผู้ติดตามชมกว่า 7.5 ล้านคน รวมไปถึงมีรายการโทรทัศน์ ของมณฑลกวางตุ้ง มาถ่ายทำรายการเพื่อนำภาพศิลปะมวยไทยไปออกอากาศ จากการนำกิจกรรมครั้งนี้

นางจิราพร สุดานิช กงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจว เปิดเผยว่า สำหรับงานมวยไทยซอฟต์พาวเวอร์ที่มาจัดที่นครกว่างโจว ถือว่าประสบความสำเร็จด้วยดี ทั้ง 3 วัน มีผู้ชมชาวจีนมาเข้าชม ทั้งร่วมในการฝึกทักษะมวยไทยกับเรา รวมถึงมาชมการแสดง และแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับเรื่องของศิลปะมวยไทย

กิจกรรมดังกล่าวถือว่าเป็นกิจกรรมที่ช่วยกระตุ้นและดึงดูดคนในเมืองกว่างโจว และเมืองใกล้เคียง มาร่วมชมและร่วมกิจกรรมกันเป็นจำนวนมาก ถือว่าประสบความสำเร็จด้วยดี ทำให้มวยไทยกลับมามีพื้นที่ด้านกีฬาอีกครั้งในเมืองกว่างโจวหลังผ่านพ้นสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งมวยไทยในนครกว่างโจวมีสถานที่ฝึกซ้อม มีโรงยิมเนเซียมมวยไทยมากมาย

"เราจะเห็นได้ว่า คนที่เข้าร่วมกิจกรรมได้รับองค์ความรู้ที่แท้จริง และลึกซึ้งด้านกีฬามวยไทย ซึ่งกีฬามวยไทยเป็นตัวเชื่อมที่ดีที่ผู้คนชาวจีน และชาติต่างๆ จะฝึกฝน เรียนรู้ร่วมกันได้ ถือว่าประสบความสำเร็จน่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง" กงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจว กล่าว

ดร.ปัญญา หาญลำยวง คณะกรรมการติดตามการใช้จ่ายงบประมาณของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เปิดเผยว่า โครงการเผยแพร่ศิลปะมวยไทยในประเทศจีน ระหว่างวันที่ 22-24 กันยายน เรามีวัตถุประสงค์เพื่อให้มวยไทยได้เผยแพร่ทั่วทุกมุมโลกโดยให้มีขนบธรรมเนียมประเพณีของประเทศไทย ที่สำคัญที่สุดการทำให้มวยไทยสร้างรายได้เข้าประเทศ เรื่องของแม่ไม้มวยไทย ศิลปะมวยไทย พร้อมทั้งนำเอาศิลปะของการแสดงของประเทศไทยแต่ละภาคมาโชว์

"ขณะนี้ทั่วโลกโดยเฉพาะเมืองกว่างโจว ประเทศจีน ให้ความสนใจกับกิจกรรมมวยไทย การแสดงพื้นบ้าน และสินค้าจากประเทศไทยอย่างมาก ต้องถือว่าเราประสบความสำเร็จอย่างสูงในการนำมวยไทยมาเผยแพร่ ที่นครกว่างโจว เชื่อว่าในอนาคตมวยไทยจะแพร่กระจายไปทั่วทุกมุมโลก ที่สำคัญคือเป็นเรื่องของซอฟต์พาวเวอร์จะสร้างรายได้เข้าประเทศไทยจำนวนมาก ขณะเดียวกันสถานกงศุล ณ นครกว่างโจว ได้ร่วมบันทึกวิดีโอนำไปเผยแพร่ทั่วประเทศจีน และส่งต่อไปยังกระทรวงการต่างประเทศเพื่อส่งต่อไปยังทุกๆ ชาติทั่วโลก ขอชื่นชมทุกฝ่าย ทุกหน่วยงานที่ร่วมมือกันผลักดันมวยไทยไปทั่วโลก และหวังว่าจะได้เห็นมวยไทยมีมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก"

สำหรับครั้งต่อไปประเทศไทย จะเดินทางไปจัดโครงการเผยแพร่ศิลปะมวยไทย ที่เขตปกครองพิเศษฮ่องกง ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2566

ยอมใจ!! 'สาวจีน' ปั่นจักรยาน 4,000 กิโลเมตร เพื่อมาเรียนมวยไทย กับ 'บัวขาว บัญชาเมฆ'

(25 ต.ค.66) นับว่าเป็นเรื่องราวดี ๆ ของวงการมวยไทย หลังจากเพจเฟซบุ๊ก Banchamek Gym (Buakaw Banchamek, บัวขาว บัญชาเมฆ) ได้เผยว่า มี ผู้หญิงชาวจีน ลงทุนลงแรงปั่นจักรยาน 4,000 กิโลเมตร มาเรียนมวยไทยกับ บัวขาว บัญชาเมฆ ที่ค่ายในจังหวัดเชียงใหม่ นับเป็น ซอฟต์พาวเวอร์ชั้นดี จนกลายเป็นที่ฮือฮาในประเทศจีนอย่างมาก

เพจของบัวขาว ระบุว่า “นี่ก็อีกราย Soft power อีกราย คนนี้จากประเทศจีน ตอนนี้ติดชาร์ตอันดับที่ 3 ของเวยป๋อละ กับการที่ หลี่ เจิน เซียง สาวจีน จากเมืองเหมียนหยาง มณฑลเสฉวน ได้ตัดสินใจขี่จักรยาน เป็นระยะทางกว่า 4,000 กิโลเมตร มายังประเทศไทยเพื่อทำความฝันให้สำเร็จในการมาฝึกซ้อมมวยไทยที่ค่ายพี่บัวขาวที่เชียงใหม่ละขึ้นชก ในประเทศต้นตำรับของมวยไทย พวกเรามาเอาใจช่วยกันครับ เผื่อใครในนี้เจอเขา ก็ทักยิ้มให้บ้างช่วยกันแสดงความเป็นเจ้าบ้านที่ดี และต้อนรับเขาในฐานะที่ชื่นชอบมวยไทยเหมือนกัน เราควรภาคภูมิใจที่ชาวต่างชาติต่างหลงใหลในมวยไทยที่เป็นศิลปะการต่อสู้ประจำชาติของเรา”

‘บิ๊กเอ’ มุ่งดัน ‘มวยไทย’ สู่ซอฟต์พาวเวอร์โลกด้านกีฬา ยัน!! ภาครัฐพร้อมหนุน จ่อประเดิม ‘ยุโรป-อเมริกา’ ที่แรก

(20 พ.ย. 66) ผศ.ดร.พิมล ศรีวิกรม์ หรือ ‘บิ๊กเอ’ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และได้รับการแต่งตั้งให้ทำหน้าที่ประธานอนุกรรมการด้านกีฬา ในคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เปิดเผยว่า สำหรับเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ด้านกีฬาเราจะโฟกัสไปที่ ‘กีฬามวยไทย’ เป็นหลัก ซึ่งจากการที่ตนได้เดินทางไปประเทศอังกฤษเมื่อสัปดาห์ที่้ผ่านมา และได้เก็บข้อมูลเกี่ยวกับมวยไทยที่ประเทศอังกฤษ น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งว่า ที่อังกฤษมีค่ายมวยไทยกว่า 6,000 ค่าย กระแสตอบรับเรื่องมวยไทยดีมากๆ และเท่าที่ได้พูดคุยกับเจ้าของค่ายมวยไทยในอังกฤษ เขาอยากได้ครูมวยไทย รวมถึงการจัดการสัมมนาให้ความรู้เรื่องของมวยไทย ที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งนับเป็นแนวทางที่ดี เราก็จะมีการนำครูมวยไทยดังๆ อาทิ สามารถ พยัคฆ์อรุณ ตำนานนักมวยไทยและครูมวยชื่อดัง ไปร่วมงานดังกล่าว โดยหลังจากได้รับมอบหมายงานดังกล่าวเราจะเรียกประชุมคณะอนุกรรมการฯ ภายในสัปดาห์นี้เพื่อที่จะเริ่มทำงานทันที

ประการแรกเราต้องกำหนดแผนยุทธศาสตร์การทำงานกันก่อน รวมถึงเป้าหมายว่า จะปักหมุดที่ภูมิภาคในเวลาเท่าใด เป้าหมายที่เป็นรูปธรรมเป็นอย่างไร จากนั้นเราจึงเดินตามแผนยุทธศาสตร์ เราคงทำที่ ‘มวยไทย’ อย่างเดียวก่อน เพราะกีฬามวยไทย ชัดเจนในเรื่องชื่อที่มีประเทศไทยต่อท้าย รู้กันทั่วโลกว่ามวยไทยมาจากประเทศไทย

ผศ.ดร.พิมล กล่าวต่อไปว่า เห็นควรว่าเราจะโฟกัสช่วงแรกไปที่ทวีปยุโรป และทวีปอเมริกาก่อนเพราะถือเป็นตลาดใหญ่ในการนำ ‘กีฬามวยไทย’ ไปสู่ซอฟต์พาวเวอร์ เท่าที่มีข้อมูลเบื้องต้นอย่างเช่น ในประเทศฟินแลนด์ เรามี ‘จ้าวสมุทร เกียรติช่องเขา’ นักมวยไทยที่มีภรรยาอยู่ที่ฟินแลนด์และทำธุรกิจค่ายมวยไทยที่นั่น ปรากฏว่า มีครูโรงเรียนในฟินแลนด์มาเรียนมวยไทยที่ค่ายของจ้าวสมุทรและประทับใจ จึงติดต่อให้จ้าวสมุทรไปสอนเด็กนักเรียนในฟินแลนด์เลย สิ่งต่างๆ เช่นนี้มันคือ ซอฟต์พาวเวอร์ของกีฬามวยไทยได้เป็นอย่างดี

“แน่นอนว่าในการดำเนินการ เราก็ต้องสนับสนุนเรื่องงบประมาณให้เขา แต่คงไม่ใช่ลักษณะถมเท่าไหร่ก็ไม่เต็ม เราจะมาหารือกันในลักษณะภาครัฐเข้าไปช่วยสนับสนุนอีกแรงหนึ่ง แต่ทั้งนี้ คงต้องรอการตั้งตุ๊กตาแรกเริ่มของการทำงานอนุกรรมการด้านกีฬาก่อน ว่าจะกำหนดยุทธศาสตร์กันออกมาอย่างไร” ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีกล่าว

‘มวยไทยรากหญ้า’ ครวญ!! ค่าตัวนักชกลดฮวบ แต่ค่าเช่าเวทีพุ่งกระฉูด วอน!! ‘บิ๊กก้อง’ แก้ด่วน

(24 พ.ย. 66) ‘เฮียตี๋’ นายสรศักดิ์ แซ่ตั้ง เจ้าของค่ายมวยทีเด็ด 99 ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ดร.ก้องศักด คุณลงมาเดินดินบ้างครับ ไม่ใช่คุยกันอยู่ในห้องอย่างเดียว ทุกวันนี้เวทีมีกำไรวันละ 600,00-700,000 แต่นักมวยค่าตัวถูกยังกับขี้ ช่วยลงมาดูแลหน่อย?”

จากโพสต์ดังกล่าว ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง ‘เฮียตี๋’ โดยได้รับการเปิดเผยว่า ปัญหาของวงการมวยไทยตอนนี้คือ ตกต่ำ ถ้าไม่มีศึกมวย ONE แชมเปี้ยนชิพ นักมวยไทยเลิกชกกันหมดแล้ว ค่าตัวนักมวยไทยตอนนี้ถูกมาก รายการปกติทั่ว ๆ ไปตามเวทีมาตรฐานต่าง ๆ ค่าตัวนักมวยคู่เอกอยู่ที่ 30,000 บาท เมื่อก่อนจะอยู่ที่ 70,000-80,000 บาท ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ มาจากเวทีมวยมาตรฐานเวลานี้ไม่ได้แคร์แฟนมวยชาวไทย จึงเก็บค่าเข้าชมการแข่งขันแพงมากจะอยู่ที่ 1,000 บาท สำหรับชาวไทย แล้วสมัยก่อนโปรโมเตอร์แต่ละคน จะจัดมวยไทยแต่ละรายการจะเสียงบฯ ให้กับเวทีมวย 1-2 แสนบาท แต่ปัจจุบันถูกดันราคาไปจนถึง 7-8 แสนบาท นั่นจึงเป็นปัญหาและสาเหตุที่ทำให้โปรโมเตอร์ต้องไปลดค่าตัวนักมวย บางคู่เหลือค่าตัว 10,000 บาท แล้วต่อยแต่ละไฟต์ ต้องพัก 21 วัน คำถามคือ วงการมวยไทยจะอยู่กันอย่างไร จะเดินกันไปข้างหน้าอย่างไร สำหรับมวยไทยระดับรากหญ้า

‘เฮียตี๋’ กล่าวต่อว่า เมื่อ 4-5 เดือนก่อน ตนได้เข้าไปพบกับ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. เพื่อสะท้อนปัญหาดังกล่าวของวงการมวยไทย ให้ทางผู้ว่าการ กกท. รับทราบและแก้ปัญหาโดยเร่งด่วน แต่ที่ผ่านมา 4-5 เดือน ก็ไม่ได้รับการตอบสนองใด ๆ ไม่มีการเรียกไปให้ข้อมูลอีก พอสอบถามไปก็โดนปฏิเสธ จึงอยากเรียกร้องให้ กกท. เห็นใจคนวงการมวย และเข้ามาช่วยแก้ปัญหาด้วยความจริงใจ ไม่ใช่รับฟังปัญหาอยู่ที่สำนักงาน อยากให้ลงพื้นที่มาดูตามเวทีต่าง ๆ ด้วย ที่ผ่านมาแฟนมวยไทยเข้าเวทีน้อยมาก เพราะตั๋วแพง บรรดาเซียนมวยต่าง ๆ จากช่วงแรกที่พ้นโควิด-19 มีประมาณ 300 คน ตอนนี้เหลือกันอยู่ 100 กว่าคน แล้วใครจะเข้าไปดูได้ทุกวัน ค่าตั๋ววันละ 1,000 บาท ที่ตนต้องออกมาเรียกร้องเพราะอยากให้เข้าใจว่าไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่ทำเพื่อวงการมวยไทยระดับรากหญ้า ให้อยู่รอด มิเช่นนั้นเราจะเหลือแต่ชาวต่างชาติเข้าดูมวยไทยในบ้านเรา

ทั้งนี้ เจ้าของค่ายมวยทีเด็ด 99 ยังได้เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาไปยัง ‘บิ๊กก้อง’ ประกอบด้วย 

1.กกท. จำเป็นต้องเชิญเวทีมวยมาตรฐานมาหารือและกำหนดเกณฑ์เรื่องค่าเช่าสนาม ค่าตั๋วเข้าชมของแฟนมวย รวมไปถึงช่วยเหลือดูแลเรื่องการถ่ายทอดสดเพื่อให้เวทีต่าง ๆ หาสปอนเซอร์ได้ เพราะปัญหาที่ผ่านมาคือ ค่าเช่าสนามแพง ค่าตั๋วเข้าชมแพง

2.หากเวทีมวยต่าง ๆ ไม่ยอมที่จะให้ กกท. มากำหนดดังกล่าวก็อยากเสนอให้ กกท. หารือกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อหาทางออกที่ควรจะเป็นคือ มีเวทีมวยที่เกิดขึ้นจากภาครัฐ โดยให้ กกท. ตั้งเวทีมวยมาตรฐานขึ้นมาอีก 1 เวที เพื่อเป็นทางเลือกเพราะบุคลากรต่าง ๆ ของกีฬามวยไทยนั้น กกท. ก็ออกใบอนุญาตให้อยู่แล้ว จึงเชื่อมั่นว่า หาก กกท. จริงใจที่จะแก้ปัญหาให้คนมวยไทยระดับรากหญ้าจริง ๆ วงการมวยไทยจะเดินหน้าต่อไปได้แน่นอน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top