Friday, 17 May 2024
พรรคเพื่อไทย

‘เศรษฐา’ เดินตลาดนัดจตุจักร ด้าน ‘เอม พินทองทา’ ร่วมแจมด้วย แม่ค้าแห่ขอเซลฟีเพียบ เจ้าตัวเผย ดีใจคนไทยตื่นตัวใช้สิทธิเลือกตั้ง

‘เศรษฐา’ ควงภรรยา-ลูก เดินตลาดนัดจตุจักร ด้าน ‘เอม’ ควงสามี-ลูกแฝดร่วมแจม แม่ค้า อ.ต.ก.กรี๊ดสนั่น แห่ขอเซลฟีเพียบ เจ้าตัวดีใจคนตื่นตัวใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าเยอะ สะท้อน ปชช.เจ็บช้ำจาก รบ.รัฐประหาร

(7 พ.ค. 66) พรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดย นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยและประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย, พญ.พักตร์พิไล ทวีสิน ภรรยา และน้อบ ณภัทร ทวีสิน บุตรชาย พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ บุตรสาวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ, นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ สามี และลูกสาวฝาแฝด เอมิ พิณธารา และนานิ พิณนารา

นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพฯ, นายดนุพร ปุณณกันต์ ประธานรณรงค์หาเสียงพื้นที่กรุงเทพฯ, น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการ รักษาการโฆษกและผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ, น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ พร้อมด้วยนายสุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 8 จตุจักร (ยกเว้นแขวงจันทรเกษมและแขวงเสนานิคม) และหลักสี่ (ยกเว้นแขวงตลาดบางเขน), นายอนุสรณ์ ปั้นทอง ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 9 บางเขน (ยกเว้นแขวงท่าแร้ง) จตุจักร (เฉพาะแขวงจันทรเกษมและแขวงเสนานิคม) และหลักสี่ (เฉพาะแขวงตลาดบางเขน) ลงพื้นที่ตลาดนัดจตุจักรเพื่อพบปะประชาชนที่มาซื้อสินค้าที่ตลาดนัด รวมทั้งพูดคุยกับบรรดาพ่อค้าแม่ค้าภายในตลาดนัด

ทั้งนี้ มีประชาชนและพ่อค้าแม่ค้าให้ความสนใจเข้ามาขอเซลฟีเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ได้มีตัวแทนกลุ่มผู้ประกอบการภายในตลาดนัด ได้มาเสนอแนะและเรียกร้องว่าหากพรรค พท.ได้เป็นรัฐบาลอยากให้เข้ามาแก้ไขปัญหาเรื่องค่าเช่าแผงที่มีราคาสูง

จากนั้นนายเศรษฐาและคณะ ได้เดินแวะชมภาพงานศิลปะ ก่อนเดินทักทายผู้ที่ผ่านไปมา และชิมโกโก้เย็น กินลูกชิ้นปิ้ง นอกจากนี้ ได้เดินสอบถามพ่อค้าแม่ค้าร้านขายเสื้อผ้า ต้นไม้ อาหาร เครื่องดื่มว่าช่วงนี้ค้าขายเป็นอย่างไรบ้าง โดยส่วนใหญ่สะท้อนว่าค้าขายไม่ค่อยดี

ต่อมานายเศรษฐาและคณะ ได้เดินไปตลาดสดองค์การตลาดเพื่อการเกษตร (อ.ต.ก.) เพื่อพบปะพ่อค้าแม่ค้า ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยแม่ค้าต่างส่งเสียงกรี๊ดและวิ่งเข้ามาขอเซลฟีเป็นจำนวนมาก โดยนายเศรษฐาได้เดินทักทายผู้ค้า และแวะเข้าไปทักทายร้านกุยช่ายทอด ซึ่งเป็นร้านอาหารโปรดที่มาตลาด อ.ต.ก.ต้องซื้อรับประทานทุกครั้ง

จากนั้น นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์หลังการลงพื้นที่ที่ตลาด อ.ต.ก. ซึ่งได้รับเสียงตอบรับจากพ่อค้าแม่ค้าเป็นอย่างดีว่า ดีใจที่ได้รับการตอบรับที่ดี เพราะตนมาเป็นขาประจำอยู่แล้ว ไม่ได้มาแค่หาเสียง เมื่อถามต่อว่าเป็นการสะท้อนว่ากระแสเราก็ดีใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวเพียงว่า “ขอบคุณมากครับ”

เมื่อถามว่า หลังจากนี้จะมีหมัดเด็ดหรือยุทธศาสตร์อะไรมาใช้ในช่วงโค้งสุดท้าย ก่อนการเลือกตั้งหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เราก็นำเสนอนโยบายของเราต่อเนื่องไป 8 ปีที่ผ่านมาประเทศชาติบอบช้ำมาเยอะมากพอแล้ว พรรค พท.พิสูจน์มาตลอดตั้งแต่ไทยรักไทย ต่อเนื่องมาจนถึงพลังประชาชนว่าเราคิดใหญ่ทำเป็น นโยบายใหญ่ๆ ดีๆ เราทำได้มาโดยตลอด และเป็นที่ยอมรับของประชาชนมาโดยตลอด วันที่ 14 พ.ค.นี้ ถือเป็นวันสำคัญ อย่างที่บอกว่าเราบอบช้ำมาเยอะ ไม่มีเวลาลองของใหม่ เราต้องกลับมานั่งคิดว่าพรรคไหนเคยทำให้เราได้ บุคลากรภายในพรรคก็มีเยอะมาก ตรงนี้เรามั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชน

เมื่อถามถึงข้อกังวลกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระบุว่า ข้อร้องเรียนส่วนหนึ่งเป็นของพรรค พท. นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนยังมั่นใจในการทำงานของทีมงาน และการทำงานด้วยความเป็นธรรมของ กกต.ตรงนี้มีหลายกระแส เป็นเรื่องที่พี่น้องต้องจับตาดูกันด้วย เชื่อว่าทุกคนทุกพรรคก็อยากให้การเลือกตั้งครั้งนี้ขาวสะอาด และสะท้อนภาพจริงที่พี่น้องอยากเห็น

เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่โค้งสุดท้ายพรรค พท.จะมีนโยบายเด็ดๆ ออกมาเพื่อให้ประชาชนเลือกพรรค พท.ในช่วงนาทีสุดท้าย นายเศรษฐา กล่าวว่า ตอนนี้เมื่อดูจากหลายๆ โพล คนที่ยังไม่ตัดสินใจมีน้อยมากแล้ว มีเหลืออยู่บ้าง หน้าที่ของเราคือขยายความนโยบายหลักของเรา ทำความเข้าใจและให้ความมั่นใจว่าเราทำได้จริง 20 กว่าปีที่ผ่านมาพรรค พท.เราประสบความสำเร็จมาโดยตลอดในการเสนอนโยบายใหญ่ๆ ดังนั้น ครั้งนี้เราก็จะทำได้อีก

‘จิรพงษ์’ เผย กังวล หลังเลือกตั้งล่วงหน้า นนทบุรี พบข้อผิดพลาด แต่มั่นใจ!! ปชช.ช่วยเป็นหูเป็นตา เชื่อ กระแสตอบรับ ‘พท.’ ยังดี

(7 พ.ค. 66) นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ผู้สมัคร ส.ส.นนทบุรี เขต 2 พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีเลขา กกต.รับ พบความผิดพลาดในการเลือกตั้งล่วงหน้า จังหวัดนนทบุรีร่วม 100 ใบ โดยเขตเลือกตั้ง-รหัส ผิด ซึ่งได้มีการสั่งให้แยกหีบเพื่อคัดกรองใหม่ พร้อมบันทึกวิดีโอแยกบัตร รวมถึงเตรียมสอบเอาผิดเจ้าหน้าที่แล้วว่า รู้สึกกังวลใจเล็กน้อย แต่ตนเชื่อมั่นว่า ประชาชนจะช่วยกันจับตาการทำงานเพื่อให้เกิดความผิดพลาดน้อยที่สุด

ตนซึ่งเป็นอดีต ส.ส.นนทบุรี เชื่อว่า ผลงานจากการทำหน้าที่ของตนในฐานะผู้แทนราษฎร รวมถึงการลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ แม้แต่ช่วงโควิดและน้ำท่วม จะยังอยู่ในหัวใจของพี่น้องประชาชน จ.นนทบุรี และให้การสนับสนุนตน ข่าวที่เกิดขึ้นจะเป็นกระแสตีกลับที่ทำให้ประชาชนเลือกตนเข้ามาต่อสู้กับอำนาจรัฐ อำนาจลุงมากขึ้นด้วย

‘ตาทอง’ วัย 80 ปี ปีนเสาโทรศัพท์ เรียกร้องประชาธิปไตย เผย ซื้อตัวรถทัวร์เตรียมเข้า กทม.มาหา ‘อุ๊งอิ๊ง’ หนุนนั่งนายกฯ

(8 พ.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ ติดที่ว่าการอำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย มีลุงวัย 80 ปี ปีนขึ้นไปบนเสาส่งสัญญาณสูงกว่าตึก 3 ชั้น จากนั้นใช้โทรโข่ง ประกาศเรียกร้องประชาธิปไตย จนชาวบ้านที่พบเห็นได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกู้ภัยให้มาช่วยกันเจรจาให้ลุงลงมาพูดคุยกันที่ด้านล่าง

หลังจากการเจรจาผ่านไป ประมาณ 30 นาที ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนจัด และด้านบนไม่มีน้ำดื่ม ทำให้ลุงคนดังกล่าว เริ่มมีอาการอ่อนเพลียและอิดโรย ไม่สามารถลงมาได้ ทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยบางแก้ว ต้องปีนนำน้ำขึ้นไปให้ และช่วยประคองกันลงมา

‘จิรพงษ์’ เปลี่ยนป้ายหาเสียงโค้งสุดท้าย ย้ำจุดยืน ไม่ขายตัว ปลุกความเชื่อมั่น ปชช. เลือก ‘เพื่อไทย’ ทั้งคนทั้งพรรค

‘จิรพงษ์’ เปลี่ยนป้ายหาเสียงโค้งสุดท้าย ย้ำจุดยืน อุดมการณ์ ไม่ขายตัว ยึดมั่นในประชาชน ปลุกกาบัตรเลือก เพื่อไทย ทั้ง ส.ส.แบ่งเขต ทั้งแบบบัญชีรายชื่อ

(10 พ.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ผู้สมัคร ส.ส.นนทบุรี เขต 2 เบอร์ 8 พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้เปลี่ยนป้ายหาเสียงช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งอีกครั้ง

โดยก่อนหน้านี้ นายจิรพงษ์ ได้จัดทำป้ายหาเสียงมาแล้ว 2 เวอร์ชัน ซึ่งเวอร์ชันแรกเป็นป้ายแนะนำตัว เวอร์ชันที่ 2 เป็นป้ายแนะนำนโยบายของพรรค พท. แต่ละนโยบาย และเวอร์ชันนี้เป็นเวอร์ชันที่ 3 ย้ำถึงจุดยืน “ไม่ขายตัว ไม่เปลี่ยนอุดมการณ์ ยึดมั่นในประชาชน”

นายจิรพงษ์ กล่าวว่า การเปลี่ยนป้ายโค้งสุดท้าย​ ตนต้องการย้ำอุดมการณ์​ว่า ไม่ว่าจะที่ผ่านมา วันนี้ หรือต่อไปในอนาคต ตนก็ยังจะเคารพการตัดสินใจของประชาชน​ ที่เลือกตนให้มาเป็น​ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ตนไม่คิดขายตัว ไม่เคยย้ายพรรคไปไหน​ และเห็นว่า พรรค พท.คือคำตอบที่ทำให้ประชาชน​อยู่ดีกินดี มีเศรษฐกิจ​ที่ดี​

หากจะมีคนคิดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย​ แล้วคิดจะมาซื้อ​ ส.ส. โดยเฉพาะ​ ส.ส.เขต​ของ พท.คงยาก รับประกันได้เลยว่า ไม่มีใครยอม

ดังนั้น วัน​ที่​ 14​ พ.ค.​นี้​ ขอเขิญชวน​พ่อแม่พี่น้องมาลาจากความยากจนไปด้วยกัน ขอให้เชื่อมั่น เชื่อใจพรรค พท.อีกครั้งโดยการเข้าคูหา​ กาเพื่อไทยทั้งแบบแบ่งเขต​และบัญชีรายชื่อ

‘ภูมิธรรม’ ปลุก ปชช. กา ‘พท.’ อย่าปล่อยโอกาสหลุดมือ ลั่น!! หากได้ ส.ส. เกิน 300 เสียง ประเทศไทยเปลี่ยนแน่

(11 พ.ค. 66) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า อย่าให้โอกาสในการเปลี่ยนแปลงประเทศต้องเป็นหมัน ไล่ระบอบประยุทธ์ออกไป เลือกเพื่อไทยเป็นรัฐบาล

การเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค.นี้ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสังคมไทย เพราะเป็นการเลือกตั้งที่จะนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับอำนาจในการตัดสินใจของพี่น้องประชาชน โดยยังคงมีกลไก รธน.ที่กำหนดให้ สว. 250 คน มีสิทธิ์โหวตเลือกนายกฯ อันเป็นแต้มต่อที่สำคัญในการสืบทอดอำนาจต่อเนื่องของระบอบประยุทธ์ นั่นหมายความว่าหากพรรคร่วมรัฐบาลเดิมสามารถจับมือรวมกันแค่ 126 เสียง ก็สามารถชนะการโหวตเลือกนายกฯ ได้แล้ว และประเทศไทยก็จะมีนายกฯ ในแบบเดิมที่ทำให้พี่น้องประชาชนต้องทนทุกข์ทรมานมานานถึง 8-9 ปี

นายภูมิธรรม ระบุว่า แต่หากจะสร้างการเปลี่ยนแปลงได้จริง จะตั้งรัฐบาลได้จริง จำเป็นต้องใช้คะแนนเสียงของ ส.ส. ให้ได้มากเกิน 250 คน และจะมั่นใจมากกว่าหากได้ ส.ส. มากถึง 300 คน ซึ่งพรรคการเมืองที่มีโอกาสจะทำให้เป็นรูปธรรมได้จริง ๆ คือ พรรคเพื่อไทย แม้ว่าในช่วงหลังหลายโพลจากหลายสำนักระบุว่า บางพรรคมาแรงแซงพรรคเพื่อไทย ก็ตาม แต่หากดูจากข้อมูลในพื้นที่ซึ่งเป็นคะแนนจริง ๆ ไม่ใช่คะแนนในอากาศ ซึ่งเราติดตามอย่างใกล้ชิด ยังบ่งชี้ว่าพรรคเพื่อไทยยังคงได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนมาเป็นอันดับหนึ่ง

ทำไมถึงมั่นใจอย่างนั้น จริงอยู่กระแสอาจมีผลต่อการตัดสินใจในการเลือกของพื้นที่ กทม.ปริมณฑลและเขตเมืองใหญ่ แต่ในจำนวนเขตเลือกตั้ง 400 เขตนั้น 300 กว่าเขตเป็นพื้นที่ อบต. เทศบาลตำบล กระแสไม่มีผลมากเท่ากับความผูกพันและการช่วยเหลือเกื้อกูลระหว่าง ส.ส.กับ ประชาชนในพื้นที่นั้น ๆ จำนวน ส.ส.เขตพื้นที่จึงเป็นดัชนีชี้วัดสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลง และต่อการจัดตั้งรัฐบาล ในพื้นที่ที่มีการแข่งขันซึ่งจะทำให้เกิดการตัดคะแนนกันเอง ปล่อยให้ตาอยู่อย่างลุงและเครือข่ายชนะไปย่อมไม่เกิดผลดี

“ผมไม่อยากให้ความหวังในการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลของพี่น้องประชาชนต้อง กลายเป็นคะแนนตกน้ำและตาอยู่ได้ชัยชนะไป นั่นจะเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจมากถ้าความหวั่นเกรงของผมเป็นจริง บรรยากาศที่เอื้อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงเช่นนี้มิได้เกิดขึ้นง่ายนัก หากการตัดสินใจเลือกที่จะกาบัตรนั้นทำให้ความหวังที่จะให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกลายเป็นหมันอย่างน่าเสียดาย เราจะได้ระบอบประยุทธ์กลับมา และต้องทนอยู่ต่อไปอีก 4 ปี

ผมเชื่อมั่นว่าพรรคเพื่อไทย คือคำตอบที่เป็นจริงในการเปลี่ยนความฝันให้กลายเป็นความหวัง เกิดการแก้ไขปัญหา การเปลี่ยนแปลงของชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนที่เป็นจริง เพราะปัญหาของประเทศวันนี้อยู่ในขั้นวิกฤติระดับ โคม่า ต้องการทีมมืออาชีพเข้ามาแก้ไข ซึ่งพรรคเพื่อไทยเคยพิสูจน์ให้เห็นเป็นผลงานเชิงประจักษ์มาแล้ว วันนี้พรรค เพื่อไทย มีทั้งผู้นำที่พร้อม มีนโยบายที่พร้อม และมีทีมทำงานที่พร้อม 14 พ.ค.กาพรรคเพื่อไทยทั้งสองใบ ประเทศไทยเปลี่ยนทันที” นายภูมิธรรม ระบุ

‘อุ๊งอิ๊ง-เศรษฐา’ ปราศรัยโค้งสุดท้าย คนล้นฮอลล์อิมแพ็ค อารีน่า ปลุก ปชช.จับปากกา กา ‘เพื่อไทย’ เข้าสภาฯ ปิดเกม 2 ลุง

(12 พ.ค. 66) ที่ อิมแพ็คอารีนา เมืองทองธานี พรรคเพื่อไทย จัดงาน ปราศรัยใหญ่ เลือกเพื่อไทยแลนด์สไลด์ ประเทศไทยเปลี่ยนทันที ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 16.00 น.ที่ผ่านมา ประชาชนจำนวนมากต่างเดินทางมาร่วมฟังปราศรัยของพรรคเพื่อไทย โดยต่างใส่เสื้อสีแดง มาจับจองพื้นที่กันเต็มทั้ง 3 ชั้นของฮอลล์ด้านใน ขณะที่ด้านนอก ได้มีป้าย และ สแตนดี้ ขนาดเท่าตัวจริงของแคนดิเดตให้ประชาชนได้ถ่ายภาพ

โดย นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย และ นางสาวแพทองธาร ได้เดินทางมาถึงพื้นที่ดังกล่าวแล้ว และทักทายกับประชาชนที่มาร่วมงาน ประชาชนหลายคนต่างนำโทรศัพท์มาถ่ายภาพ ซึ่งวันนี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ก็ได้เตรียมขึ้นเวทีปราศรัยครั้งนี้ด้วย ขณะที่ นายชัยเกษม นิติสิริ อีก 1 แคนดิเดตฯ นั้น ยังคงพักรักษาตัวอยู่

นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า วันนี้พร้อมมาก อาทิตย์นี้ ทุกคนต้องไม่ลืมมาใช้สิทธิ์ กาให้แม่นๆ พาเพื่อไทยเข้าทำเนียบไปพร้อมๆ กัน

ขณะที่ นายเศรษฐา ทวีสิน กล่าวว่า นโยบายหลักๆ เชื่อว่าโดนใจพี่น้องประชาชน ยุทธศาสตร์ในการเลือกตั้ง เรามีจุดประสงค์ปิดเกม 2 ลุง ต้องเลือกเพื่อไทยทั้ง 2 ใบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในงานยังมีเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ ที่เดินทางมาร่วมงานด้วย อาทิ เชน เดอะ สตาร์, ฟ้า พรหมศร, ซีนิว และ เจ๊แต๋ว ฮาลั่นทุ่ง นักแสดงอิสระ ที่มาร่วมฟังปราศรัยในครั้งนี้ด้วย

โดยฟ้า พรหมศร กล่าวว่า เราต้องการคนทำงานเป็น ทำงานมาก่อน ทำงานได้ เราวินาศสันตะโรมา 8-9 ปี จะเสี่ยงไม่ได้ เราต้องการคนทำงานจริงจัง ฟ้ามั่นใจว่า เพื่อไทย ทำงานเป็น ทำงานได้ ทำงานไว แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดินอย่างแน่นอน

‘ก้อง อรรฆรัตน์’ อึ้ง!! ถาม กกต.เบอร์ผู้สมัครมีครบหมด แต่ทำไมเบอร์ 13 ของตัวเองกลับหายอยู่เบอร์เดียว?!!

เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 66 นายอรรฆรัตน์ นิติพน หรือ ‘ก้อง’ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตประเวศ-สะพานสูง เบอร์ 13 พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์คลิปผ่านติ๊กต็อกส่วนตัว ชื่อ ‘kongmushroom’ โดยได้ระบุว่า…

“เรียนประชาชนคนไทย และ กกต.ครับ มีเรื่องหน้าพิศวงเกิดขึ้นที่ซอยอ่อนนุชครับ เรื่องมีอยู่ว่า มีเบอร์ของผู้สมัคร ส.ส.หมายเลข 11, หมายเลข 12 และ หมายเลข 14 คำถามคือ หมายเลข 13 หายไปไหนครับ? เหตุการณ์พิศวงนี้เกิดขึ้นที่ LPN อ่อนนุชครับ”

‘พท.’ คึกคัก!! ‘เศรษฐา’ เข้าพรรคฯ ร่วมลุ้นผลนับคะแนน เผย ขอบคุณ ปชช.ที่ไว้วางใจ พร้อมน้อมรับผลการเลือกตั้ง 

(14 พ.ค. 66) ที่พรรคเพื่อไทย เวลา 17.30 น. นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ได้เดินทางมาถึงพรรคเพื่อไทย พร้อมกับกล่าวว่า วันนี้ขับรถมาที่พรรคเองตั้งใจมาฟังผล ต้องขอบคุณทีมงานที่ร่วมทำงานกันมา และมีหลายกลุ่มบุคคลที่อยู่เบื่องหลังการทำงานของพรรค ทุกคนช่วยเหลือกันดีมาก

เมื่อถามว่า โพลหลายสำนักออกมาตรงกันว่า เพื่อไทยจะได้เสียง 180-200 เสียง เพื่อไทยจะไม่แลนด์สไลด์ นายเศรษฐา กล่าวว่า ยังไม่ทราบขอรอฟังผลอย่างเป็นทางการ เมื่อถามว่า หากไม่แลนด์สไลด์จะมีผลต่อการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ทราบ ยังไม่ได้เห็นรายละเอียดอะไร และไม่ว่าผลเลือกตั้งออกมาอย่างไรตนก็พร้อมน้อมรับ

ถามย้ำว่า หากได้ไม่ถึง 280 เสียงจะมีโอกาสตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ต้องให้เกียรติกรรมการบริหารพรรคตั้งเป็นขั้นเป็นตอน ตอนนี้ต้องรอผลการนับคะแนนก่อน เวลาประมาณ 20.00 น. อาจเห็นอะไรได้บ้าง และ 22.00 น.จะเห็นผลชัดเจน

เมื่อถามว่า ขณะนี้ยังมั่นใจว่าจะได้เป็นนายกฯ คนที่ 30 อยู่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า หากประชาชนให้ความไว้วางใจและเราเป็นพรรคที่ได้คะแนนเสียงส่วนมาก ก็จะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และคณะกรรมการบริหารตัดสินใจว่าเสนอชื่อตน ก็มีความพร้อม และหากคะแนนไม่เป็นตามที่หวังไว้ ยังจะรับตำแหน่งนายกฯ หรือไม่นั้น ไม่ทราบต้องขอรอดูคะแนนก่อน แต่ถึงอย่างไรตนก็ต้องขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่มอบให้กับพรรคเพื่อไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในช่วงเย็นบรรดาแกนนำพรรคต่างทยอยเดินทางมาร่วมลุ้นคะแนนเสียงที่พรรคเพื่อไทย

เกมการเมืองอาจมีพลิก ‘เพื่อไทย’ อาจกลายเป็นพระเอก

เปลว สีเงิน สื่อมวลชนอาวุโส นักเขียนคอลัมนิสต์ชื่อดัง ได้เขียนบทความลงใน Thaipost เกี่ยวกับการจะเป็นนายกฯ คนที่ 30 ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตของพรรคเพื่อไทย ว่ายังมีความไม่แน่นอน โดยเฉพาะแนวคิดที่จะแก้ไขกฎหมาย มาตรา 112 อาจจะทำให้พรรคอื่นๆที่จะเข้าร่วมรัฐบาลนั้น มีความลำบากใจ และ MOU ที่จะเป็นข้อตกลงร่วมกันนั้น ก็ยังมีความกำกวม โดยเปลว สีเงิน ได้เขียนไว้มีใจความว่า

กลับลำยากซะแล้วละ...พิธา!

เมื่อ เงื่อนไขสำคัญเรื่อง "มาตรา ๑๑๒" กำกวมอยู่ใน MOU คือไม่ชัดเจนว่า "จะเลิก" หรือ "จะแก้ไข"?

ทำให้ "อย่างน้อย" ๒ พรรคใน ๘ เริ่มคิดหนัก!

ว่าจะร่วมหรือไม่ร่วมตั้งรัฐบาลกับก้าวไกล?

เห็น "พรรคเพื่อไทย" ๑๔๑ เสียง ออกอาการขมวดคิ้ว บ่งบอกความอึดอัด

คุณหญิงสุดารัตน์ "ไทยสร้างไทย" ๖ เสียงเปรยเบาๆ

ดิฉันได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)

และ "เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ ๔ จตุตถจุลจอมเกล้า (จ.จ.)

อันเป็นเครื่องหมายของขุนน้ำ-ขุนนาง-ข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความจงรักภักดี

ดังนั้น เมื่อมีเรื่องเกี่ยวกับสถาบันและความมั่นคง ดิฉันต้องขอพิจารณาดูก่อนค่ะ"

เห็นมั้ยพิธา..........

ผมอาบน้ำเย็นมาก่อน บอกแล้วไม่เชื่อ ว่าอย่าเพิ่งโก่งคอขัน "แต่หัววันว่าผมคือนายกฯ คนที่ ๓๐ ของคนไทยทั้งประเทศ"

เกิด "ผิดล็อก-ผิดร่อง" ขึ้นมา มันจะอายเค้า!

เพราะก้าวไกล จะตั้งรัฐบาลได้หรือไม่นั้น มันไม่ได้อยู่ที่ ๑๕๒ เสียงก้าวไกลหรอก

แต่มันอยู่ที่ ๑๔๑ เสียงของ "เพื่อไทย" ตะหาก!

แค่เพื่อไทยส่ายหน้า บอก.........

พรรคผม "ไม่แตะ" เรื่องสถาบัน ๑๕๒ เสียงจบเลย

และคำว่า "พรรคผม" ไม่แตะเรื่องสถาบัน" นั้น

มันจะสร้าง "ความชอบธรรม" ให้ "เพื่อไทย" เป็นฝ่ายจัดตั้งรัฐบาล พร้อมกับเป็นการ "สลายทุกเงื่อนไข" ในการที่ใครจะไม่สนับสนุน

รวมทั้ง ส.ว. "ชัวร์ ๑๐๐%!"

เพราะการแสดงความเป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันและกองทัพสุดขั้วของก้าวไกล ถึงขั้นจะเข้าไปล้างบางกองทัพ

แถมหยามราชนาวีไทย ถึงขั้น จะเอาเรือประมงมาแทนเรือรบ นั้น

มันร้ายที่สุดของเลวร้าย

จนทำให้ "เพื่อไทย" กลายเป็นพระเอกที่ประชาชนยอมรับได้จากซีกผู้ร้ายขึ้นมาทันที!

ผมถึงบอก พิธาน่ะ คุณมัน yesterday boy

ยิ่งเมื่อเทียบกับทักษิณ เขา "แพลมตาหนู" ก่อนพิธาจะเกิดด้วยซ้ำ

ฉะนั้น มีแค่ ๑๕๒ เสียง ใน ๕๐๐ เสียง แถมยังต้องพึ่งเสียง ส.ว.อีกเกือบ ๑๐๐ เสียง แล้วโก่งคอขัน นั่นน่ะ

ทักษิณขำกลิ้ง......

เห็นสั่งเด็กต้มน้ำร้อนไว้รอ เด็กมันถาม นาย..นาย จะอาบน้ำร้อนหรือไง ทักษิณเบิ๊ดกระบาล แล้วบอก

"ไอ้โง่....ต้มไว้ กูจะลวก "ถลกหนัง" ไก่อ่อนโว้ย!"

และไม่ได้ยินหรือพิธา....

ที่หลวงพี่โทนี่ วิสัชนาหน้าคลับเฮาส์ถี่ๆ ๒ วันติด....

"จุดยืนของพรรคเพื่อไทยและครอบครัวชินวัตร คือเราเคารพรักสถาบัน ใครจะว่าอย่างไงผมช่วยไม่ได้

ผมเป็นของผมอย่างงี้ และยินดีต้อนรับว่า คนจะวิจารณ์ว่า เพราะผมไม่ได้สู้เพื่อไปทำอะไรไม่ดีกับสถาบัน ไม่มี ผมสู้เพื่อเอาชนะทางการเมืองเท่านั้นเอง

สถาบันนี่ ผมถือว่าผมจงรักภักดี ครอบครัวผมเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว

รู้มั้ยว่า ผมกับคุณหญิงนี่ สมรสพระราชทานนะครับ ผมอาจจะไม่ได้มีพิธีเหมือนสมัยนี้ แต่พิธีของผมคือสมรสพระราชทาน ฉะนั้นเรื่องความสำนึกอะไรพวกนี้ มันมีอยู่นะครับ มันมีอยู่ จะให้ผมไม่มีมันเป็นไปไม่ได้เลย นะครับ"

จบมั้้ย...

เมื่อ พรรคอันดับ ๑ "ก้าวไกล" ท้าทายสังคม ด้วยการทุบสถาบันลงไปเหยียบ

ขณะเดียวกัน พรรคอันดับ ๒ "เพื่อไทย" ด้วยเสียงไล่เลี่ย เจ็บปวดร่วมสังคม แล้วยกสถาบันที่คุณเหยียบขึ้นไปเทิด

ตื่นจากฝัน "นายกฯ คนที่ ๓๐" เถอะ

หรือจะรอให้เพื่อไทยหลอกเอาตำแหน่ง "ประธานสภา" ไปซะก่อน ถึงจะตื่น?

รู้มั้ย...พิธา ตำแหน่งนายกฯ น่ะ มัน "น้ำบ่อหน้า"

ถ้าพรรคคุณไม่ได้ตำแหน่งประธานสภา เท่ากับว่า "น้ำบ่อหน้า....บ่มี" สำหรับคุณ

พิมพ์ MOU ของก้าวไกล ที่จะให้ ๘ พรรคเขาเซ็นน่ะ

ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่อง "แก้..เลิก, เลิก-แก้ ๑๑๒" ที่คนพรรคคุณ ตวัดลิ้นพันกันไปมา

เอาแค่ระบุ จะเข้าไป "ล้างกองทัพ" กับ "เลือกตั้งผู้ว่าฯ"

แค่นั้น มันก็ฉิบ....แล้ว!

๗ พรรค เขาอาจยอม แต่อภิมหาประชาชนเขาไม่ยอมหรอก ผมจะบอกให้

เพราะอะไรน่ะหรือ?

เพราะ แค่อ้าปากก็เห็นทะลุถึงดากไงล่ะ

เรื่องกองทัพ กับเรื่องเลือกผู้ว่าฯ มันคือ "เสาเข็ม" ของโครงสร้างสังคมชาติ เป็นเรื่อง "ความมั่นคง" โดยตรง

"รื้อกองทัพ" จุดมุ่งหมายคืออะไร ก็ แถไถ อ้างไปร้อยแปด

แต่ไส้ในของเจตนา ก็อยู่ที่ "สถาบันพระมหากษัตริย์"

กองทัพคือ "ด่านหน้า"

ก้าวไกลทลายด่านหน้าสำเร็จ

เท่ากับ "ล้มสถาบัน" สำเร็จ!

แล้วยกอำนาจประเทศไปบรรณาการ "ขบวนการอำนาจเดียวครองโลก = CFR" ให้เข้ามาใช้ประเทศเป็นสมรภูมิได้เลย

ในเวลาเดียว เมื่อยึดกองทัพ-ล้มสถาบันได้แล้ว

แผน "ครองประเทศ-ครองโลก" ก็จะไปบรรจบกับ "ด่านสุดท้าย" คือเปลี่ยนประเทศไทย จากราชอาณาจักรไทย ไปเป็น "สาธารณรัฐไทย" แทน

แทนยังไง?

ก็ที่ก้าวไกลจะไปนั่งมหาดไทย เพื่อปฏิรูประบบปกครองนั่นแหละ

การ "เลือกตั้งผู้ว่าฯ" คือกลวิธี "ยึดประเทศ" ทั้ง ๗๗ จังหวัด แล้วจัดหมวดหมู่ "แยกเป็นรัฐๆ" แบ่งกันไปปกครอง ในรูปแบบสาธารณรัฐ

แค่นี้ ก็เท่ากับแอบอิงคำว่าปฏิรูปใต้นิยาม "ขุดรากถอนโคน" ยึดประเทศไทยได้ทั้งประเทศแบบเนียนๆ

จาก "ราชอาณาจักรไทยอันแบ่งแยกมิได้"

กลายเป็น "สาธารณรัฐไทย" ซอยแผ่นดินประเทศแบ่งกันไปครอง แล้วให้คุณพ่อ "ยุโรป-สหรัฐ" เข้ามาชี้นิ้วสั่ง

ตั้งฐานทัพเสร็จสรรพ!

นี่คือการใช้คำ "ปฏิรูปกองทัพ" เป็นผ้าขาวห่อศพ

และคำว่า "ปฏิรูปการปกครอง"

เป็นมีดตัดเค้กคือแผ่นดินไทยแบ่งใส่จานแจกกัน!

ผมพูดนี่ หัวเราะ ว่านิยายตลกใช่มั้ย?

คุณอย่าจำคำผม แต่อยากให้จำคำทักษิณ ตอนตั้งพรรคไทยรักไทย เลือกตั้ง ปี ๒๕๔๔ ทักษิณบอกเสนาะ

คนไทยน่ะพวก "ตาบอดไม่กลัวเสือ"!

นั่นคืออะไร....

หมายถึง คนโง่ คนโลภ คนเห็นแก่ผลได้เฉพาะหน้ามันมีเยอะ ด้วยนิยามนี้

ให้ผู้ว่าฯ มาจากเลือกตั้งเหมือนเลือก ส.ส.น่ะเรอะ

ใช้จังหวัดละ ๒,๐๐๐ ล้าน-๑๐,๐๐๐ ล้านบาท ยึด = ซื้อประเทศได้เบ็ดเสร็จ!

พวกตู้ห่าว พวกหลงจู๊ พวกบ่อน พวกซ่อง พวกพนันออนไลน์ พวกค้ายา-ค้าของเถื่อน พวกโกงกิน

"พรึ่บ.....ดำกินแดง, กินส้ม, กินหมดทุกสี เจ้าพ่อ-เจ้าแม่ ขึ้นเป็นเสนาบดีครองทุกจังหวัด ครบทั้งประเทศ!

นี่แหละ มันเป็นอย่างนี้แหละ พี่น้องเอ๋ย

ปลา ไม่รู้จักบุญคุณน้ำ, นก ไม่รู้จักบุญคุณอากาศ

นั่นเพราะเป็นสัตว์

แต่พวกเรา "เป็นคน-เป็นมนุษย์" มนุษย์แปลว่าผู้มีใจฝึกแล้วประเสริฐ แล้วเราจะไม่สำนึกคุณในชาติ ในแผ่นดิน

คือ "ชาติ, ศาสน์, สถาบันพระมหากษัตริย์" เลยเชียวหรือ?

ส่วนมาตรา ๑๑๒ นั้น...........

จะแก้-จะเลิก หรือไม่แตะต้องเลย เห็นกลิ้งเป็นลิงปอกกล้วย แผล็บไป-แผล็บมา

แต่ที่ได้ยินคาหู จาก "ช่อ-พรรณิการ์" เขาหาเสียง ว่า

"ใครอยากเลิก ม.๑๑๒ มากองกันตรงนี้ค่ะ"

"หากคนอยู่ต่างจังหวัดไปม็อบไม่ได้ ไม่ต้องกังวลค่ะ

เพราะคณะก้าวหน้าและคณะราษฎร์เพจจัดให้

คุณสามารถลงชื่อยกเลิก ม.๑๑๒ ผ่านทางออนไลน์ได้ ทุกคนทำได้ ใครเป็นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ก็มาร่วมลงชื่อได้หมด"

นี่คือ ช่อ.........

มาดูพิธาบ้าง บนเวทีปราศรัยหาเสียง แบม-ตะวัน เขียนป้ายทำโพล "คุณคิดว่ายกเลิกม.๑๑๒ หรือ สมควรแก้ไข ให้ติดสติกเกอร์ในช่องนั้นๆ

แล้วพิธา-ว่าที่นายกฯ คนที่ ๓๐ ก็หยิบสติกเกอร์สีแดง ติดหมับลงไปที่ช่อง "ยกเลิก ม.๑๑๒"

"นัตถิ อการิยัง ปาปัง มุสาวาทิสสะ ชันตุโน"

คนมักโกหก ที่จะไม่ทำชั่ว นั้นไม่มี


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top