Friday, 3 May 2024
พรรครวมไทยสร้างชาติ

'ลุงตู่' ลงหาเสียงนราฯ ขอเป็นบังตู่ อ้อนประชาชน เลือก ส.ส.พรรค รทสช. คุยช่วยชาติได้จริง

เวลา 13.00 น.วันที่ 8 พ.ค.2566 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ลาราชการ สวมเสื้อพรรครวมไทยสร้างชาติ กางเกงสีเขียวขี้ม้า รองเท้าผ้าใบ ON Cloud 5 Men ลงพื้นที่หาเสียงต่อเนื่องในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง โดยออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง พร้อมแกนนำพรรค เพื่อลงพื้นที่หาเสียงพบปะประชาชน จ.นราธิวาส และ จ.ปัตตานี

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกฯ พรรครวมไทยสร้างชาติ ควงบ้านใหญ่นราธิวาส นำนายกูเซ็ง ยาวอหะซัน นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส พร้อมลูกชาย นายวัชระ ยาวอฮะซัน ผู้สมัคร ส.ส.เขต1 และหลานเขย นายอามีน โต๊ะนากายอ เขต 5 รวมถึง ผู้สมัครทั้ง 4 เขต นายสารี สะมะแอ เขต2 นายมะหามัด ฮามิ เขต 3 นายอิสฮาม มูซอ เขต 4 ลงพื้นที่พบปะประชาชน ที่ อำเภอเมืองนราธิวาส และอำเภอสุไหงโก-ลกจังหวัดนราธิวาส

‘ลุงตู่’ บุกชุมพร อ้อนชาวบ้าน บอก “รักจังฮู้ มาเพราะแรงคิดถึง” ปลุกพลังเงียบเลือก ‘รทสช.’ ลั่น!! หากได้เป็น รบ.ทุกอย่างจะดีขึ้น

‘ลุงตู่’ ขนแกนนำหาเสียงชุมพรคึกคัก ปลุกพลังเงียบออกมาใช้สิทธิ์ กา ‘รทสช.’ ทั้ง 2 ใบ ให้เข้ามาบริหารประเทศ สัญญาได้เป็นรัฐบาลทุกอย่างดีขึ้นแน่นอน

(10 พ.ค. 66) ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ลาราชการทำเนียบรัฐบาล สวมเสื้อพรรค รทสช.และรองเท้าสีครีมสดใส ลงพื้นที่หาเสียงจังหวัดชุมพร ต่อเนื่องในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ที่เหลือเวลาอีกเพียง 4 วัน โดยออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง พร้อมด้วย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค, นายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค, นายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรค และแกนนำพรรค

โดยเมื่อมาถึงท่าอากาศยานจังหวัดชุมพร อำเภอปะทิว มีประชาชนชาวประทิวสวมเสื้อสีเหลืองมาต้อนรับ พร้อมมอบดอกไม้ให้กำลังใจ และขอถ่ายภาพ จากนั้นจุดแรกเวลา 09.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางพบปะประชาชนในพื้นที่ตลาดประทิว เพื่อหาเสียงช่วย นายสันต์ แซ่ตั้ง ผู้สมัครส.ส. เขตเลือกตั้งที่ 2 ชุมพร โดย พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นยืนปราศรัยบนรถแห่ กล่าวสวัสดีชาวชุมพร พร้อมกล่าวช่วงหนึ่งว่า การเรียนหนังสือสำคัญที่สุด เรียนแล้วต้องรู้จักคิดไม่อย่างนั้นจะถูกคนเข้ามาโกหก กล่อมเกลา ซึ่งอันตรายสำหรับบ้านเรา

ทั้งนี้ วันที่ 14 พ.ค. อย่าลืมแต่งตัวสวยๆ ออกไปกาบัตรเลือกตั้ง อย่ากาผิด 2 บัตรสองใบ สีม่วงเบอร์ 12 สีเขียวเบอร์ 22 ต้องไปทั้งคู่ ให้ได้คะแนนเสียงซึ่งตนจะได้เข้ามาบริหารได้ ถ้าบริหารไม่ได้มันก็ลำบากในสภา วันนี้เราเป็นประชาธิปไตยเต็มใบแล้ว เดินหน้าประเทศพร้อมกันไปกับตน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เขาบอกรักน้อย ๆ แต่รักนาน ๆ ตนไม่เอา ตนเอารักมาก ๆ แต่รักนาน ๆ ด้วย 
รักคนใต้ วันนี้ที่มา มาเพราะแรงคิดถึง รักอย่างแรง รักแล้ว รักต่อ ก่อนจะแซวชาวบ้านว่าจะร้องเรียนอะไรหรอ เป็นรัฐบาลแล้วค่อยว่ากัน แต่คิดว่าหมดแล้ว 8 ปีที่อยู่มาเราต้องหาเงินเข้ากระเป๋าให้ได้ก่อน ต้องทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าลงทุนให้ได้มากที่สุด

ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะถามประชาชนว่า “เห็นในทีวีทุกวันยังไม่เบื่อหรอ รูปในกล้องก็ใช้ไม่ได้ ทีวีเสีย ผมไม่หล่อ วันนี้มีเรื่องจะพูดเยอะแต่มันตื้นตัน รักจังฮู้ ที่มาเพราะแรงคิดถึง รักแรง ทั้งนี้ ทำมา 8 ปี ตนรู้ปัญหา คือต้องหาเงินเข้ากระเป๋าไม่อย่างนั้นทำไม่ได้ ซึ่งไทยเป็นประเทศที่น่าลงทุนมากที่สุด เงินกระเป๋าซ้ายก็ตุงขึ้นมาและจ่ายกระเป๋าขวาให้พวกเรา ดูแลสวัสดิการ ถ้าไม่มีสตางค์มันทำอะไรไม่ได้ มันดีแต่โม้กันทั้งนั้น”

พล.อประยุทธ์ กล่าวว่า ขอให้รักรวมไทยสร้างชาติ เราเป็นพรรคที่จัดตั้งขึ้นมาใหม่ แต่รวบรวมคนเก่าและคนใหม่เข้ามา ทั้งหมดจะได้ขึ้นมาเป็นรัฐบาลอยู่ที่พวกเราทุกคน และช่วยกันไปเลือกตั้ง 14 พ.ค. ลากกันไปเลือกตั้ง เคาะข้างบ้านด้วย ใครไม่ไปชวนกันไป อนาคตประเทศไทยอยู่ที่มือของพวกเราทุกคน บ้านเมืองต้องมั่นคง สถาบันหลักของประเทศต้องมั่นคง ตนมีแต่ความจริงใจให้ท่าน ตนเป็นทหารเก่ามาทุ่มเททั้งชีวิตไปแล้วในการรักษาแผ่นดินผืนนี้ให้กับท่าน เราต้องช่วยกันรักษาต่อไปในสิ่งที่ดีงาม ถ้าอยากให้ตนเป็นนายกฯต้องเลือกกี่ใบ จำไว้ 2 เลข อย่าไปเดินชนอะไรแล้วลืมเบอร์ ช่วยกันส่งพลังเงียบออกมาได้หรือไม่ได้ ข้าราชการเกษียณว่าอย่างไร เราเป็นช้างป่วยหรือเปล่า เราเป็นช้างศึกไม่ใช่ช้างป่วย ทำหน้าที่รับใช้แผ่นดินมาแล้วเท่าไหร่ ทหาร ตำรวจ ข้าราชการดี ๆ มีเยอะแยะไป ขอให้ช่วยกันทำหน้าที่เพื่อบ้านเมือง

จังหวะนี้ประชาชนตะโกนถามพล.อ.ประยุทธ์ ว่างวดนี้ออกอะไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “เดี๋ยวถามกองสลากก่อน เขาเป็นคนหมุนเครื่องปั่น ผมไม่ได้ไปล้วงกับเขา ก็สุดแล้วแต่พวกเรา อย่าทุ่มเทมากนะ ตอนนี้รถมีหลายคันซื้อเบอร์กันทุกคัน เสียกันเยอะ” ขณะที่ประชาชนตะโกนว่า “ลุงตู่สู้ๆ” พล.อ.ประยุทธ์ จึงชูกำปั้น พร้อมกล่าวว่า “สู้ตายๆ ไม่ใช่สิ สู้ไม่ตาย” พร้อมถามประชาชน “สู้ไม่สู้ๆๆ” ประชาชนกล่าวว่า “สู้ๆ”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ทุกคนคืออนาคตของประเทศไทย ร่วมกันก้าวเดินไปพร้อมกับลุงตู่ ตน ยืนยันถ้าได้เป็นรัฐบาลทุกอย่างต้องดีขึ้นแน่นอน

‘ดร.หิมาลัย’ ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดกับเด็กรุ่นใหม่ ย้ำชัด!! ควรหยุดวาทกรรม ‘ชังชาติ’ ก่อนทำสังคมแตกแยก

(11 พ.ค.66) ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ร่วมเวทีเสวนา : คนรุ่นใหม่ชังชาติจริงหรือไม่? ซึ่งจัดโดยเครือข่ายแรงใจ โดยมีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) เข้าร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจำนวนมาก 

พร้อมกันนี้ ดร.หิมาลัย ได้ให้ความเห็นว่า ในบริบทของสังคมไทยในปัจจุบัน โดยส่วนตัวแล้วไม่อยากให้ใช้คำว่า ‘ชังชาติ’ ไม่ว่ากับคนกลุ่มใด เพราะความรักชาติของคนแต่ละช่วงวัยนั้นไม่เหมือนกัน และอาจแสดงออกแตกต่างกัน เพราะฉะนั้น จะต้องเปิดใจรับฟังซึ่งกันและกัน

เพราะคนที่ถูกตราหน้าว่า ‘ชังชาติ’ นั้น แท้จริงแล้วเขาอาจจะรักชาติในมุมของเขาก็ได้ และแสดงออกในแบบที่เขาเชื่อว่าถูกต้องจนสุดโต่ง ส่วนคนที่บอกว่าตนเองรักชาตินั้น บางครั้งอาจจะเลยไปถึงขั้นชาตินิยม และจะไม่ยอมรับความเห็นต่างจากคนอื่น ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องนัก เนื่องจากในบริบทของสังคมทุกสังคม จะต้องยอมรับความเห็นและให้เกียรติซึ่งกันและกัน แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของกรอบกฎหมาย

ดร.หิมาลัย ย้ำว่า สังคมไทยกำลังถูกวาทกรรมและความคิดของคนต่างวัยบ่อนทำลาย เพราะฉะนั้น อยากให้ผู้ใหญ่รับฟังความคิดเด็ก ๆ คนรุ่นใหม่โดยไม่ปิดกั้น เพราะความคิดของเด็กก็ไม่ใช่ว่าจะผิดทุกครั้ง และเช่นเดียวกัน ความคิดของผู้ใหญ่ก็ใช่ว่าจะถูกต้องเสมอไป เรื่องบางเรื่องผู้ใหญ่ควรเรียนรู้จากเด็ก

“อยากจะยกตัวอย่างสิ่งที่ผู้ใหญ่ควรเรียนรู้จากเด็กรุ่นใหม่ จากสิ่งที่เพิ่งประสบมาล่าสุด จากการที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติบางคน ที่ออกมาเรียกร้องค่าใช้จ่ายในการหาเสียงจากทางพรรค ซึ่งเป็นนักการเมืองรุ่นเก่า ตนได้ชี้แจงไปว่า พรรคเราทำการเมืองตามอุดมการณ์ ใช้งบประมาณตามที่ได้รับบริจาคมา ซึ่งไม่มีมากนัก แต่เมื่อย้อนกลับไปดูผู้สมัครที่เป็นคนรุ่นใหม่ ทั้งที่อยู่ในพรรคของเราเอง และพรรคอื่น ๆ ที่มีความตั้งใจทำงานการเมืองอย่างที่อยากทำ กลับไม่มีการเรียกร้อง แต่ใช้การบริหารงบประมาณได้รับ และหาวิธีหาเสียงกับกลุ่มเป้าหมายโดยไม่ย่อท้อ ซึ่งตรงนี้ต้องขอยกย่องและเป็นสิ่งที่นักการเมืองรุ่นเก่าหรือผู้ใหญ่จะต้องเรียนรู้และปรับตัว”

ขณะที่ ส่วนประเด็นที่หลายคนกล่าวหาว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นพรรคเผด็จการนั้น ดร.หิมาลัย ชี้แจงว่า จากการที่ได้ทำงานร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์อย่างใกล้ชิด และท่านได้ตัดสินใจทำการเมืองต่อ ไม่ใช่เพราะการอยากจะสืบต่ออำนาจแต่อย่างใด เพียงแต่ท่านเห็นว่ายังมีสิ่งที่ยังน่ากังวล และต้องการทำสิ่งที่เริ่มต้นมาแล้วให้สำเร็จลุล่วง แต่ในขณะเดียวกันท่านได้ย้ำเสมอว่า การจะได้ทำต่อหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพี่น้องประชาชน ถ้าประชาชนเห็นว่าสิ่งที่ท่านทำมาตลอดนั้นมีประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่ถ้าประชาชนไม่ให้ไปต่อ ก็ต้องยอมรับ เพราะท่านยึดหลักในระบอบประชาธิปไตย อำนาจอยู่ที่ปลายปากกาของประชาชน และไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาเช่นไรท่านก็พร้อมจะยอมรับ

‘ศิลัมพา’ ยก ‘บิ๊กตู่’ ตัวจริงวางรากฐานประเทศ แนะ ‘คนรุ่นใหม่’ ศึกษาข้อมูลให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจ

(11 พ.ค.66) นางสาวศิลัมพา เลิศนุวัฒน์ ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กรุงเทพมหานคร เขต 24 เบอร์ 7 กล่าวถึงกรณีที่พรรคการเมืองบางพรรค หาเสียงด้วยการเน้นโปรโมตนโยบายที่จะทำเพื่อคนรุ่นใหม่ โดยระบุว่า...

พรรคการเมืองที่หาเสียงด้วยการเคลมว่า เป็นพรรคของคนรุ่นใหม่ และพร้อมจะดำเนินนโยบายเพื่อคนรุ่นใหม่นั้น ถือเป็นการขายสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น และเมื่อมองย้อนกลับไปดูผลงานของรัฐบาล ที่นำโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเห็นว่า โครงการต่าง ๆ ที่ได้ดำเนินการมานั้น ล้วนทำเพื่อคนไทยทุกกลุ่ม และยังได้วางรากฐานไว้เพื่อเด็กเยาวชนคนรุ่นใหม่ด้วย

ยกตัวอย่างโครงการที่ดำเนินการไปแล้ว ที่จะเกิดประโยชน์กับคนรุ่นใหม่ เช่น โครงการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ ‘อีอีซี’ ที่จะสร้างตำแหน่งงานนับแสนตำแหน่ง, การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล และการสนับสนุนอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมเป้าหมาย ที่จะเป็น New S Curve ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยในอนาคต

ขณะเดียวกัน รัฐบาลที่ผ่านมายังได้วางโรดแมปในการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศไทย โดยเปลี่ยนจากรถยนต์สันดาป มุ่งสู่อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ EV ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้ประเทศไทยตกขบวน และสูญเสียตลาดไปให้กับประเทศคู่แข่ง

รวมไปถึงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ โดยเฉพาะรถไฟฟ้าสายต่างในกรุงเทพมหานคร ซึ่งในปีนี้จะเริ่มเปิดทดลอง 2 สาย คือสายสีเหลืองและสายสีชมพู และในอนาคตอันใกล้ จะเชื่อมโยงสายสีต่างให้สามารถเดินทางได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม แม้ที่ผ่านมา ภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ ได้ผลักดันโครงการต่าง ๆ สำเร็จไปแล้วจำนวนมาก แต่ก็ยังมีอีกหลายส่วนที่ยังต้องผลักดันต่อ อาทิ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย ตั้งระเบียงเศรษฐกิจใหม่ 4 ภาค รวมถึงสร้างโอกาสให้คนตัวเล็กด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล และยังมีอีกหลายนโยบายที่จะต้องทำต่อ เพื่อให้ชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนและเศรษฐกิจของประเทศไทยดีขึ้น

“ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง เราเริ่มเห็นพรรคการเมืองบางพรรคการ ชูนโยบายมุ่งเจาะฐานเสียงคนรุ่นใหม่ด้วยวาทกรรมต่าง ๆ รวมถึงการขายฝันโครงการที่จะเกิดขึ้นในอนาคต แต่อยากจะฝากถึงเยาวชนคนรุ่นใหม่พิจารณาข้อมูลให้ถี่ถ้วนว่า โครงการที่นำมาหาเสียงนั้นจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ในขณะที่พลเอกประยุทธ์ ได้ลงมือทำให้เห็นเป็นรูปธรรมจับต้องได้อย่างชัดเจนมาแล้ว ไม่ใช่แค่การสรรหาวาทกรรมที่สวยหรูมาหาเสียงเท่านั้น และสุดท้ายปลายทางสิ่งที่พลเอกประยุทธ์ได้ทำมานั้น ล้วนเกิดประโยชน์กับคนไทยทุกคน” น.ส.ศิลัมพา กล่าว

ลุงตู่สู้ไม่ถอย!! ‘บิ๊กตู่’ ทิ้งทวน!! ปลุกพลังคนรักชาติ อย่าปล่อยให้ตนสู้คนเดียว กร้าว!! ‘รทสช.’ จะไม่ยอมถอยหลัง ขอพาประเทศเดินไปข้างหน้า

(12 พ.ค. 66) ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จัดเวทีปราศรัยใหญในหัวข้อ ‘อย่าให้ลุงตู่สู้คนเดียว ออกมาช่วยกันรักษาบ้านเมือง รวมทุกหัวใจ รวมไทยสร้างชาติ’ ซึ่งเป็นเวทีปิดท้ายก่อนวันเลือกตั้ง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคฯ ขึ้นปราศรัย โดยได้กล่าวว่า วันนี้ตนค่อนข้างจะมีอารมณ์นิดนึงแต่ไม่ได้โกรธเคืองใคร แต่มีอารมณ์ เพราะซาบซึ้ง ที่พูดวันนี้ซาบซึ้งกับพวกเราทุกคน ที่มานั่งรอ 2 ชั่วโมง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “ผมถึงบอกว่า วันนี้ผมไม่เสียใจที่ได้เป็นทหารมา ได้ดูแลปกป้องแผ่นดินผืนนี้มาให้ไว้กับพวกเรา ผมต้องการให้แผ่นดินนี้เป็นแผ่นดินแห่งสันติสุข เป็นแผ่นดินที่ปลอดภัย มีคนไทยร่วมรักสามัคคีซึ่งกันและกัน เราไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกแผ่นดิน ท่านรับได้หรือไม่ อะไรจะเสียหายบ้าง รู้หรือไม่ เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงแบบพลิกแผ่นดินในครั้งเดียวได้ เพราะเราไม่รู้ว่าจะพลิกเอาอะไรขึ้นมา วันนี้เรามีของเราอยู่แล้ว อยู่ที่ตัวของเรา คนไทยทุกคน พ่อแม่ พี่น้อง ลูกหลาน ทุกคน ทุกช่วงวัย เพราะฉะนั้น ที่ผมบอกว่า หัวใจผมโตขึ้น เพราะหัวใจผมยิ่งใหญ่ขึ้น ผมต้องรักคนให้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม แต่บางครั้งผมก็รู้สึกเจ็บปวดที่หลายคนไม่เข้าใจ แต่สิ่งที่ผมได้รับกลับมาวันนี้ คือ คนให้กำลังใจผมมากกว่า ทำให้ผมมีกำลังใจในการที่จะพาประเทศไทยเดินต่อไปข้างหน้า ผมจะไม่ยอมก้าวถอยหลังอีกแล้ว เราต้องจับมือกัน จูงมือกัน ลากกันไป เพื่อเดินไปข้างหน้า อย่าให้อะไรมาชะงัก หรือดึงรั้งคนไทยทุกคนที่จะก้าวไปข้างหน้า เราจะต้องเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ต้องพัฒนาประเทศให้ดียิ่งขึ้น เพิ่มความรัก ความสามัคคีให้มากยิ่งขึ้น เพื่ออนาคตของลูกหลาน และของพวกเราทุกคน เราจะไม่ยอมให้ใครมาทำลายรากเหง้าประเทศของคนไทยโดยเด็ดขาด สังคมครอบครัว การเคารพผู้ใหญ่ การนับถือศาสนา สังคมและชุมชนที่ม่ความรักความสามัคคี มีมิตรไมตรี มีรอยยิ้มให้แก่กัน เราจะต้องไม่ให้สิ่งเหล่านั้นสูญหายไปจากประเทศไทยโดยเด็ดขาด ผมเห็นรอยยิ้มของทุกคนในวันนี้แล้วผมชื่นใจ ทุกคนต้องไม่ปล่อยให้ผมสู้อยู่คนเดียว ใครจะสู้ไปกับผมบ้าง ขอบคุณทุกคน เราจะต้องรวมใจออกมาปกป้องคุณค่าของความเป็นคนไทยและประเทศไทยเราไม่อาจทำให้ประเทศล่มสลายได้”

‘ธนกร’ ยัน ‘รทสช.’ ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ พร้อมเป็นฝ่ายค้าน ลั่น!! จุดยืนพรรคฯ ไม่หนุน ว่าที่นายกฯ ‘พิธา’ ปมแก้ ม.112

(27 พ.ค. 66) นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงการเดินหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติหลังการเลือกตั้ง ว่า พรรครวมไทยสร้างชาติยืนยันเดินหน้าสู่การเป็นสถาบันทางการเมือง และไม่ได้เป็นพรรคเฉพาะกิจ แม้จะเป็นพรรคใหม่ แต่จากผลการเลือกตั้งเราถือว่าเป็นความสำเร็จในการเริ่มต้นครั้งแรกของการเลือกตั้ง คะแนนเสียงที่ได้ เป็นสิ่งที่พรรคต้องนำความหวังของพี่น้องประชาชนมาเดินหน้าขับเคลื่อน แม้พรรคไม่ได้เป็นอันดับ 1 แต่ให้คำมั่นไม่ว่าจะบทบาทไหน พรรคจะขับเคลื่อนการทำงานให้กับพี่น้องประชาชนให้ได้ ส่วนการทำงานในพรรคจะมีการปรับกลยุทธ์ โดยนำเสียงสะท้อนพี่น้องมาเป็นการบ้านทำให้พรรคเข้มแข็งต่อไป โดยดึงคนรุ่นใหม่เข้ามาร่วมขับเคลื่อนพรรค

นายธนกร กล่าวว่า ขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ยังอยู่นำพรรคต่อไป บนอุดมการณ์จุดยืนแน่วแน่ที่ไม่มีเปลี่ยนแปลง ปกป้องสถาบันหลักของชาติ และในสิ่งที่หาเสียงไว้กับประชาชน รวมถึงสานต่อการทำงานรัฐบาล ตลอด 8 ปี ที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์

นายธนกร กล่าวว่า ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล อย่างที่ตนบอกมาตลอด เป็นหน้าที่ของพรรคที่ได้คะแนนเสียงลำดับต้นๆ ที่เขาจะไปพูดกันเอง อย่างที่บอกเราให้เกียรติ สำหรับพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมทุกอย่างจะเป็นอะไรก็ได้ เป็นฝ่ายค้านก็ได้ จะอยู่ฝั่งไหนพวกเราก็สามารถทำงานได้ เพราะเราเคารพกระบวนการตามระบอบประชาธิปไตย หากมีพรรคอื่นมาชวนไปร่วมรัฐบาล ตนขอยืนยันว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่เอาพรรคที่แก้มาตรา 112 หากพรรคที่มาชวนเราไปร่วมรัฐบาลมีเรื่องนี้ เรายอมไม่ได้ เพราะเรายึดมั่นในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และจะไม่ยกมือสนับสนุนนายกฯ ที่ชูแก้มาตรา 112

นักรัฐศาสตร์ญี่ปุ่น บินมาไทย เพื่อศึกษาการเมืองหลังเลือกตั้ง  โดยมองเป็นกรณีที่น่าวิเคราะห์ เพราะมีความเกี่ยวพันกัน

ผู้เชี่ยวชาญด้านรัฐศาสตร์จากญี่ปุ่น บินตรงมาไทยขอศึกษาเรื่องการเมืองไทยในขณะนี้เพราะสร้างความสับสนให้นักวิเคราะห์มาก

นายพลัฏฐ์ ศิริกุลพิสุทธิ์ (ต๊ะ) สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ อดีตเลขานุการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับการที่ ท่านศาตราจารย์ Asami ผู้เชี่ยวชาญด้านรัฐศาสตร์จากญี่ปุ่น ที่ได้บินตรงมายังประเทศไทยเพื่อขอศึกษาเรื่องการเมืองไทย โดยระบุว่า ...

ท่านศาสตราจารย์Asami ผู้เชี่ยวชาญด้านรัฐศาสตร์จากญี่ปุ่น บินตรงมาไทยขอศึกษาเรื่องการเมืองไทยในขณะนี้เพราะสร้างความสับสนให้นักวิเคราะห์มาก
การเมืองไทย

1. ใครมีโอกาสเป็นนายกและแกนนำการจัดรัฐบาล?
ตอบ ตอนนี้เราต้องรอการรับรองจาก กกต ว่าพรรคใดจะมี สส มากที่สุด และสูตรการจับขั้วรัฐบาลจะเปลี่ยนไหม แต่ พรรคก้าวไกลได้รับฉันทามติจากประชาชน เราจึงต้องเคารพสิ่งนี้ก่อน อย่างไรก็ดี หัวหน้าพรรคก้าวไกล มีข้อผิดพลาดในเรื่องคุณสมบัติ ทำให้โอกาสพรรคก้าวไกลลดลง และต้องดูผลคำตัดสินว่า จะกระทบถึง ว่าที่ สส ในพรรคก้าวไกลหรือ ไม่ หากมีผล พรรคเพื่อไทยที่ได้อันดับสองก็ยังมีโอกาสมากกว่า

2.กลุ่มอนุรักษ์นิยมมีท่าทีอย่างไร
ตอบ เราสงบ เพื่อเปิดโอกาสให้พรรคที่ได้เสียงมากกว่าจัดตั้งรัฐบาลก่อน 
แม้ว่าจะมี สว ในมือ?
ตอบ ผมเชื่อว่า พวกเราและ สว เคารพเสียงประชาชน แต่หากมีการเปลี่ยนแปลงอื่นจนไม่สามารถจัดรัฐบาลได้ เราจึงจะพิจารณาทางเลือก

3.นักธุรกิจญี่ปุ่นกังวล เรื่องการประท้วงรุนแรง รวมถึงโอกาสเกิดรัฐประหาร
ตอบ ตลอด 8 ปีกว่าในการบริหารงานท่านนายกประยุทธ์ มีการประท้วงตลอดแต่ไม่รุนแรง และการทำรัฐประหารต้องมีเงื่อนไขที่ชอบธรรม ไม่สามารถอยู่ๆตัดสินใจทำรัฐประหารได้ มิเช่นนั้นประชาชนไม่ยอมรับ 

4.นักธุรกิจญี่ปุ่นชอบประเทศไทยมาก แต่ช่วงหลังมักไปลงทุนที่เวียดนาม และอินโดเนเซียมากกว่า
ตอบ เราเสียเปรียบเรื่องขนาดตลาด โดยในประเทศเรามีประชากรไม่มากเมื่อเทียบกับ เวียดนาม ฟิลลิปินส์ และอินโดเนเซีย รวมถึงหนี้ครัวเรือนที่สูงส่งผลกระทบการเติบโตชนชั้นกลาง และเรายังมี FTA น้อยฉบับกว่าคู่แข่ง ซึ่งเรื่องนี้กระทรวงพาณิชย์เร่งทำงานอยู่ คาดว่าจะมีคู่ค้า และกลุ่มประเทศที่ลงนามร่วมกับเราเร็วๆนี้ ส่วนการสร้างกำลังการบริโภค เป็นโจทย์ใหญ่ที่ต้องร่วมกันทำงาน
การเมืองญี่ปุ่น

ถาม ท่าน อาจารย์ ท่านนายกรัฐมนตรี คิชิดะบริหารเป็นอย่างไร
ตอบ ท่านนายก คิชิดะ บริหารงานแบบอนุรักษ์นิยม ประชาชนไม่เกลียด และไม่ได้ชอบท่าน น่าจะมีโอกาสบริหารได้ยาวนาน
ถาม เมื่อเทียบกับท่านนายกคนก่อน ที่ได้รับความนิยมสูงและมีหัวก้าวหน้าเป็นอย่างไร 
ตอบ ท่านนายกคนก่อนได้รับความนิยมสูง แต่ก็มีคนต่อต้านมากจึงไม่สามารถบริหารได้ยาวนาน
ถาม ประเทศญี่ปุ่นเคยเป็นผู้นำโลกด้านนวัตกรรม ด้านการค้า ตอนนี้พลังเศรษฐกิจของญี่ปุ่นถดถอยไปมาก ผมเกิดมาในยุค 90 ตอนนั้นญี่ปุ่นเป็นเจ้าโลก แต่วันนี้ถดถอยมาก เราจะมีโอกาสเห็นญี่ปุ่นกลับมาหรือไม่
ตอบ ตอนนี้ประเทศญี่ปุ่นติดกับความเป็นอนุรักษ์นิยมจนแก้ไขยากมาก ผู้นำ ผู้บริหารรุ่นใหม่ ในบริษัทขนาดยักษ์ยากที่จะขึ้นมาเป็น CEO ยกเว้น StartUp ใหม่ๆ แม้กระทั่งวงการเมืองก็ยากที่ รัฐมนตรีหรือ นายกจะมีอายุน้อย ที่หัวก้าวหน้า
ถาม ท่านนายก Koizumi เป็นคนหัวก้าวหน้าและปฎิรูปญี่ปุ่นจนพ้นจากกับดักการเติบโต ท่านยัง Privatize Japan Post bank สำเร็จ ญี่ปุ่นมีโอกาสจะได้ผู้นำเช่นนี้ไหม รวมถึงลูกชายท่านที่มีบทบาทได้เป็นรัฐมนตรีตั้งแต่อายุยังน้อย
ตอบ ท่าน Koizumi คงเป็นคนสุดท้ายที่จะเป็นผู้นำที่มีหัวก้าวหน้าและเปลี่ยนญี่ปุ่นที่ได้รับการยอมรับจนอนุรักษ์นิยม ส่วน J post bank แม้จะปฏิรูปแล้วแต่การบริหารยังยึดกับรูปแบบเดิมๆ ยังไม่ทันสมัยเท่าที่ควร ส่วนลูกชายท่าน Koizumi เพิ่งจะ 40 กว่าคงต้องรออย่างน้อย 10กว่าปีถึงจะได้ขึ้นมา
ถาม โลกยุคใหม่การเปลี่ยนแปลงเยอะมาก ภาคสภาบันการเงิน การค้าปลีก บริษัทการค้า(โชโกะ โชชา) ได้รับผลกระทบมาก ตอนนี้ Apple มี บริการธนาคารแล้วจะกระทบกับญี่ปุ่นมากขนาดไหน
ตอบ ญี่ปุ่นเป็นประเทศสูงอายุประชาชนอนุรักษ์นิยมมาก ขนาดบริการธนาคารยังต้องมีสมุดบัญชี ประชาชนยากที่จะเปลี่ยนแปลง ขนาดตลาดภายในยังมีที่ในบริษัทการค้าในประเทศ แต่ถ้าแข่งขันต่างประเทศต้องคิดหนักทีเดียว
ต๊ะ พลัฏฐ์ ศิริกุลพิสุทธิ์
สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ
อดีตเลขานุการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

‘ชัช เตาปูน’ รายงานตัวที่สภาฯ จ่อดัน ‘กาสิโน’ ให้ถูกกฎหมาย เพื่อหารายได้เข้าประเทศ แก้หนี้ให้ประชาชน

วันที่ 23 มิ.ย. 2566 – เมื่อเวลา 11.20 น. ที่รัฐสภา นายชัชวาลล์ คงอุดม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ เข้ารายงานตัว ต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร

จากนั้น นายชัชวาลล์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า รู้สึกดีใจ และขอบคุณประชาชนที่ไว้วางใจให้พรรครวมไทยสร้างชาติ และทำให้ตนได้กลับเข้ามาทำงานรับใช้ประชาชนอีกครั้ง ทั้งนี้มีความตั้งใจที่จะผลักดันกาสิโนให้ถูกกฎหมาย ในรูปแบบสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) ให้สำเร็จ ซึ่งหวังว่าสภาฯ ชุดที่ 26 นี้จะนำรายงานของคณะกรรมาธิการฯ ที่พิจารณาศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้กลับเข้ามาพิจารณาในสภาอีกครั้ง เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยมีกาสิโนที่ถูกกฎหมายต่อไป เพื่อหารายได้จากการท่องเที่ยวเข้าประเทศไทย และแก้ปัญหาหนี้สินให้กับประชาชน รวมถึงให้เด็กได้มีโอกาสเรียนหนังสือฟรี

‘เอกนัฏ’ ปัด รทสช. ส่งชื่อ ‘พีระพันธุ์’ แข่งโหวตนายกฯ ย้ำ!! ไม่หนุนตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย อัดคนปล่อยข่าวเท็จ

‘เอกนัฏ’ ยืนยันพรรคไม่เสนอชื่อ ‘พีระพันธุ์’ แข่งนายกฯ กับ ‘พิธา’ ระบุ รทสช. มีเพียง 36 เสียงไม่เคยมีแนวคิดและสนับสนุนตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย อัดมีความพยายามสร้างข่าวเท็จให้เข้าใจผิด ย้ำจุดยืนไม่รับนายกฯ หรือรัฐบาลที่จะแก้หรือยกเลิก ม.112

(6 ก.ค. 66) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ชี้แจงถึงจุดยืนทางการเมืองของพรรค โดยระบุว่า…

“ขอยืนยันว่าการที่ #รทสช ส่งคุณวิทยาฯ สู้กับก้าวไกลในการโหวตรองปธ.สภา เป็นการสู้เพื่อแสดงจุดยืน ไม่นำมาสู่การตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยอย่างแน่นอน

การโหวตประธานสภาและนายกรัฐมนตรีมีกลไกที่แตกต่างกันครับ

การโหวตประธานสภาฯ จะใช้ ‘เสียงส่วนมาก’ ในที่ประชุม ใครที่ถูกเสนอชื่อแล้วได้คะแนนมากสุดจะได้เป็น หรือหากไม่มีคู่แข่งก็ได้เป็นเลยโดยที่ไม่ต้องโหวตแข่ง

ต่างจากการโหวตนายกฯ ที่ต้องได้ ‘คะแนนเสียงไม่ตํ่ากว่ากึ่งหนึ่ง’ (หรือ 375) ของรัฐสภา หากเสนอชื่อมาคนเดียว ก็ไม่ได้เป็น จะได้เป็นก็ต่อเมื่อข้ามรั้ว 375 เสียงไปได้เท่านั้น

ดังนั้น ในการโหวตรองประธานสภาฯ หากเราไม่ส่งคุณวิทยาไปแข่ง ก็เท่ากับเราสนับสนุนให้แคนดิเดตของพรรคก้าวไกลเป็นรองประธานสภาโดยอัตโนมัติ เราจึงส่งแข่ง เพื่อแสดงจุดยืนให้ชัด ถึงแม้ทราบดีอยู่แล้วว่าแทบจะไม่มีโอกาสชนะเลยก็ตาม

ส่วนการโหวตนายกรัฐมนตรีที่จะเกิดขึ้นในอนาคต มีกระแสข่าวว่า รทสช.จะส่งคุณพีระพันธุ์แข่งกับคุณพิธานั้น ไม่เป็นความจริงครับ

ผมเองอยากเห็นคุณพีระพันธุ์เป็นนายกฯ และเชื่อว่าท่านจะเป็นนายกฯ ที่ดีเพราะท่านเป็นนักการเมืองนํ้าดี สุจริต เที่ยงธรรม แต่ต้องยอมรับว่าพรรคเรามีเพียง 36 เสียง ไม่พอที่จะไปเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล

และคุณพีระพันธุ์กับผม ก็ไม่เคยมีความคิด และไม่สนับสนุนการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยในสภาฯ อย่างเด็ดขาด ถึงจะตั้งไปก็อยู่ไม่ได้ครับ

อย่างไรก็ตาม การแสดงจุดยืนว่า เราไม่รับนายกฯ หรือรัฐบาลที่จะแก้หรือยกเลิก ม.112 สามารถทำได้ด้วยวิธีไม่โหวต โหวตไม่รับ หรืองดออกเสียงครับ ไม่ต้องส่งแข่งก็สู้ได้ (ต่างจากรองประธานสภาฯ)

การไม่ส่ง ไม่โหวต หรืองดออกเสียง ด้วยกลไกการโหวตที่ไม่เหมือนกัน จึงมีผลไม่เหมือนกัน

มีคนพยายามกุข่าวลือ สร้างข่าวเพื่อให้การต่อสู้ของเรานั้นสูญเสียความชอบธรรม เข้าใจผิดคิดว่าเป็นขบวนการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย

ผมขอปฏิเสธชัดๆไปเลย ว่า “เราไม่เอารัฐบาลเสียงข้างน้อย” หากจะต้องเป็นฝ่ายค้านก็เป็นครับ คุณพีระพันธุ์ ผม และเพื่อน ส.ส.ของ #พรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ติดใจ

การจะได้เป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ไม่สำคัญไปกว่าการรักษาจุดยืนของเราครับ

เราจะทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์ สร้างความมั่นคงให้ชาติ สร้างความเข้มแข็งให้ระบบเศรษฐกิจ เพิ่มรายได้ สร้างโอกาสอย่างเท่าเทียม ผดุงความยุติธรรม ให้ความเป็นธรรม

แต่จะ #ไม่แก้112 #ไม่เปลี่ยนวันชาติ #ไม่แบ่งแยกดินแดน เราจะผลักดันการเปลี่ยนแปลงด้วยการเสริมเติมต่อจากสิ่งดี ๆ ที่มีอยู่แล้วในประเทศของเราครับ
#รวมไทยสร้างชาติ #เลขาขิง

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวในรายการอิสรภาพแห่งความคิด กับ สำราญ รอดเพชร เมื่อวันที่ 8 ก.ค.66

"ผมคิดว่ารัฐบาลเสียงข้างน้อย ในความเห็นผมมันอยู่ไม่ได้หรอก แล้วมันจะมีแต่เสียนะครับ แล้วก็จะไปสร้างความชอบธรรมให้ฝ่ายตรงข้ามมากขึ้น"
 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top