Friday, 3 May 2024
พรรครวมไทยสร้างชาติ

‘ศรัณย์วุฒิ’ เล่นใหญ่คุกเข่าขอขมา ‘บิ๊กตู่’ ด้าน ‘บิ๊กตู่’ ลั่นไม่โกรธ - เข้าใจบริบทการเมือง

‘ศรัณย์วุฒิ’ กลับใจ! คุกเข่าขอขมา ‘บิ๊กตู่’ หลังตัดสินใจสวมเสื้อ ‘รทสช.’ สู้ศึกเลือกตั้ง ด้าน ‘ประยุทธ์’ บอกไม่โกรธเคือง-เข้าใจการเมืองคือการเมือง

(23 มี.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ อดีต ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อชาติ ได้เดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค รทสช.โดยได้ขึ้นไปรอด้านบนพรรค รทสช.เนื่องจากมาไม่ทันช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค รทสช.สวมเสื้อให้ทีมเศรษฐกิจ และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.

ทั้งนี้ ทันทีที่นายศรัณย์วุฒิ ได้พบกับ พล.อ.ประยุทธ์ นายศรัณย์วุฒิ ได้คุกเข่าขอขมา พล.อ.ประยุทธ์ ที่ก่อนหน้านี้ได้พูดในสภาด้วยการใช้ถ้อยคำที่ไม่สุภาพ ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จับมือพร้อมกล่าวกลับไปว่า “ไม่โกรธเคือง เข้าใจว่าการเมืองคือการเมือง”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีมีกระแสข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับ 1 นั้น ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่ตัดสินใจนั่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับ 1 เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค รทสช.และสมัครเป็นสมาชิกพรรค ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนของพรรค รทสช.อยู่แล้ว

'บิ๊กตู่' รับแคนดิเดตนายกฯ เบอร์ 1 รทสช. ลั่น “เป็นสายหลักมอเตอร์เวย์ ไม่ใช่ทางผ่านของใคร”

(25 มี.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการจัดงานของ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ในช่วงบ่าย ย้ายมาจัดที่อาคาร 5 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็คเมืองทองธานี ในการเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. 400 เขต และเปิดแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก นอกจากว่าที่ผู้สมัครส.ส.แล้วยังมีผู้สนับสนุนของแต่ละพื้นที่ได้ถือป้ายไฟป้ายเชียร์ทยอยมาร่วมงาน ซึ่งส่วนใหญ่สวมเสื้อยืดของพรรค รทสช. และมีการเปิดเพลงรณรงค์หาเสียง ซึ่งเป็นเพลงเนื้อหาเชิญชวนให้เลือก พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งอยู่พรรค รทสช. พร้อมมีเยาวชนมาถือป้ายเต้นกันอย่างสนุกสนาน ขณะที่ ภายในงานขึ้นป้ายนโยบายต่างๆ ของพรรค เช่น ปรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุให้เท่ากันทุกช่วงวัย 1,000 บาท/เดือน, คืน 30% เงินสะสมชราภาพผู้ประกันสังคม มาตรา 33, แก้กฎหมายได้ที่ทำกิน ไม่โดนไล่ที่ ไม่ถูกฟ้อง, บัตรสวัสดิการพลัสเพิ่มสิทธิเป็น 1,000บาท/คน ให้วงเงินฉุกเฉิน 10,000 บาท/คน เป็นต้น

ต่อมา เวลา 14.10 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค รทสช. เดินทางมาถึง โดยมี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค รทสช. นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ สมาชิกพรรค ให้การต้อนรับ และนำเข้าห้องรับรอง ก่อนเวลา 14.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ เดินเข้ามายังเวทีจัดงานเพื่อร่วมกิจกรรมท่ามกลางเสียงเชียร์จากผู้สนับสนุน

ในช่วงการเปิดตัวว่าที่ ผู้สมัครส.ส. 400 เขต และ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค รทสช.นั้น มีแกนนำพรรค รทสช. อาทิ พล.อ.ประยุทธ์ นายพีระพันธุ์ นายเอกนัฏ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี นายชัชวาลล์ คงอุดม นายชุมพล กาญจนะ นางพิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ และ นายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะทีมเศรษฐกิจพรรครวมรทสช. เข้าร่วม โดยมีสมาชิกพรรค รทสช. จากภูมิภาคต่างๆ มาร่วมให้กำลังใจ พร้อมถือธงสัญลักษณ์พรรค รทสช. และป้ายสนับสนุนว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต ของตัวเอง

นายเอกนัฏ ได้กล่าวต้อนรับ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 400 เขต ว่า งานครั้งนี้เป็นการแถลงข่าวครั้งใหญ่ที่สุดของพรรครทสช. เพราะครั้งนี้ไม่ใช่ตนขึ้นมาคนเดียว หรือกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) เท่านั้น แต่จะเป็นการแถลงข่าวร่วมกับขุนพลพรรค รทสช. 400 คนทั่วประเทศ ตนพอมีประสบการณ์ทางการเมืองมาเป็น 10 ปี แต่ยอมรับว่าภารกิจครั้งนี้เป็นภารกิจที่พบกับอุปสรรคมากมาย และเป็นครั้งที่เหนื่อยที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต แต่ก็ภูมิใจที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตเช่นกัน เพราะพวกเราทุกคนตั้งใจมาร่วมกับพรรค รทสช. และมีปณิธานที่จะสร้างสถาบันทางการเมืองให้เป็นที่พึ่งของพี่น้องประชาชน และประเทศชาติบ้านเมืองโดยรวบรวมเอาคนไทยทั้งแผ่นดินไทยที่มีดีเอ็นเอที่ยึดเป็นหลัก คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และมีผู้นำที่มีส่วนร่วมทางจิตวิญญาณ ที่มีทั้งความจงรักภักดี และความรับผิดชอบต่อชาติบ้านเมือง มีจิตใจนักสู้เพื่อชาติบ้านเมืองคือ พล.อ.ประยุทธ์

จากนั้น นายเอกนัฏ ได้เชิญว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขต พรรค รทสช. ทั้ง 400 คนขึ้นมานั่งบนเวทีแบ่งแยกตามภูมิภาค เช่น ภาคอีสาน ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้

ด้าน นายพีระพันธุ์ กล่าวถึงความพร้อมของพรรคในการลงเลือกตั้ง ว่า เมื่อ 7 เดือนที่แล้วตนได้มาเป็นหัวหน้าพรรค รทสช. เราเป็นพรรคแรกและพรรคเดียวที่พร้อมส่งว่าที่ผู้สมัครลงเลือกตั้งครบ 400 เขต เราสามารถชนะทุกพรรคที่เกิดมาก่อนเราได้ พรรคของเราค่อยๆ เติบโตขึ้นมาอย่างมั่นคง ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปไม่หวือหวา ตนอยากเห็นพรรคที่เป็นที่พึ่งให้กับประชาชน และที่สำคัญที่สุดคือดีเอ็นเอที่ทำงานเพื่อสถาบัน ชาติ ศาสนา และประชาชน ด้วยความ ซื่อตรงไม่โกงไม่กิน ตนขอบคุณพล.อ.ประยุทธ์ และผู้สนับสนุนพรรค รทสช. ที่มาร่วมงานกัน อีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ถึงวันที่เราต้องใช้สิทธิเลือกตั้ง เลือกตั้งครั้งนี้ไม่ใช่แค่เลือกตั้งแต่เป็นการเลือกคนที่จะนำพาประเทศให้เดินไปแบบไหน

นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อว่า พรรค รทสช. อยากให้ประเทศเรา เป็นประเทศที่อยู่ที่มีความสุขและมีความมั่นคง เป็นประเทศที่มีความสามัคคีปรองดอง เพราะเราคือคนที่เคยสวมเสื้อต่างกันมาใส่เสื้อพรรคที่มีสามสี 8 ปีที่ผ่านมาตนเชื่อว่าพี่น้องทุกคน เห็นว่าการพัฒนาโครงข่ายดีขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน วันนี้พล.อ.ประยุทธ์ทำอยู่ ทำแล้ว และจะทำต่อไปให้ดีกว่าเดิม แล้วอย่างนี้พวกเราทั้ง 400 ชีวิตต้องสู้หรือไม่ เราไม่ได้สู้เพื่อพรรค รทสช. หรือพล.อ.ประยุทธ์ แต่เราจะสู้เพื่อคนไทยทั้งชาติ เราจะมีพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนำพรรคอีกหนึ่งคน จากการประชุมผู้บริหารพรรค รทสช. เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ที่ประชุมได้มีมติเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกฯ เพื่อนำทัพเราสู่สนามเลือกตั้ง

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ แคนดิเดตนายกฯ ของพรรค รทสช. กล่าวปราศรัยตอนหนึ่ง ว่า ตนขอบคุณผู้สมัครส.ส. ทั้ง 400 คน วันนี้ตนมีเพื่อร่วมอุดมการณ์ และมีพระเอกทั้งหมดอยู่ข้างตน หนังเรื่องหนึ่งต้องมีพระเอกนางเอกแต่ผู้ร้ายต้องแพ้ทุกที เราต้องอยู่ฝ่ายพระเอก เพราะสุดท้ายก็รักกับนางเอกทุกคน ว่าที่ผู้สมัครส.ส.ของเรามาจากหลากหลายช่วงวัย จึงทราบว่าคนแต่ละยุคแต่ละวัยคิดอะไร และเราจะทำอะไรให้ทำอะไรให้พวกเขาบ้าง เราจะขับเคลื่อนไปสู่ความมั่งคั่ง มั่นคงและยั่งยืนตามยุทธศาสตร์ของเรา เพราะทุกคนคือหุ้นส่วนของประเทศไทย ไม่ใช่บริหารธุรกิจเพื่อแสวงหาประโยชน์ เราต้องมีนโยบายที่จับต้องได้ และตามกฎหมายทุกประการ

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้ถามว่า ประเทศและเศรษฐกิจเดินหน้ามาได้จนถึงวันนี้เพราะใคร ผู้เข้าร่วมจึงตะโกนตอบว่า “ลุงตู่” เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า วันนี้คิดเล่นๆ ว่าถ้าเรามี 400 คนไปนั่งในสภาฯ จะทำอย่างไร แต่เราจะไม่ทำเหมือนคนอื่นเขาทำ เพราะเราจะร่วมกันทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ตนอาจจะพูดจาขวานผ่าซากและพูดไม่เพราะนิดหนึ่ง แต่เป็นคนจริงใจ และเรามีหัวใจอันยิ่งใหญ่ รักทุกคนเท่าๆ กัน ตนมีหัวใจสีม่วง คือหัวใจของคนที่ใกล้จะตาย จึงไม่พูดความเท็จ ไม่ใช่ว่าตนจะตายแต่เปรียบเทียบให้ฟัง ว่าเราทั้งหมด 400 คนรับปากจะดูแลคนไทยทั้ง 70 ล้านคนไปพร้อมกัน และทุกคนได้มีเป้าหมายร่วมกันคือ รวมไทยสร้างชาติ

ช่วงหนึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ได้พูดพร้อมหันไปชี้ถามว่าที่ ผู้สมัครส.ส.เขตที่นั่งอยู่ข้างหลัง ว่า เรามีดีเอ็นเอที่ตั้งใจจะพัฒนาบ้านเมืองร่วมกันหรือไม่ และกล่าวต่อว่า ตนคือผู้ชายคนหนึ่ง เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่มีหัวใจ ตั้งใจจะทำพรรคการเมืองให้เป็นสถาบันที่เข้มแข็ง

“เราไม่ใช่ทางผ่าน แต่เราเป็นสายตรง สายใหญ่ สายหลักมอเตอร์เวย์ ไม่ใช่ทางผ่านของใคร ผลงานของรัฐบาลต้องบอกว่า มีนับไม่ถ้วน หลายคนนั่งรถมาไม่รู้ว่าถนนนี้สร้างในสมัยใคร หรือโทรศัพท์ได้ใช้การดีขนาดนี้ได้อย่างไร และยังมีอย่างอื่นที่จะทำอีกเยอะแยะ คือ ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ และขอบวกอีกนิดหนึ่ง คือ ‘พลัส’ ที่ต้องทำอีก เพราะประเทศไทยเปลี่ยนแปลงทุกวัน ประเทศไทยต้องไปต่อ และลูกหลานต้องอยู่ดีกินดีกว่ารุ่นเรา วันนี้เราอยู่ใน โลกของความย้อนแย้ง โลกแห่งความผันผวน โลกแห่งความไม่แน่นอน เราจึงต้องบริหารบ้านเมืองเพื่อตอบสนอง คนไทยและทั่วโลก” นายกฯ กล่าว

‘เสี่ยเฮ้ง’ แจง ไม่ลงเขต 1 ชลบุรี ขยับขึ้นปาร์ตี้ลิสต์แทน เตรียมลุยสู้ศึกหาเสียง หนุน ‘บิ๊กตู่’ นั่งนายกฯ อีกสมัย

‘สุชาติ’ แจงส่งน้องเมียลงเขต 1 ชลบุรี รทสช.แทน เหตุ ‘สนธยา’ ไม่รับคำท้าศึกช้างชนช้าง เลือกขึ้นปาร์ตี้ลิสต์พท. เลยตัดสินใจขยับไปบัญชีรายชื่อ ลุยสู้ศึกใหญ่ โซนตะวันตก-กลาง-ตะวันออก หนุน ‘ประยุทธ์’ นั่งนายกฯต่อ ลั่นต้องชนะสงครามเลือกตั้ง ไม่แค่ชนะศึกเขตที่เป็นแชมป์เก่า

(27 มี.ค.66) เมื่อวานนี้นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในฐานะแกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เปิดเผยถึงเหตุผลที่ตัดสินใจลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ แทนการลงสมัคร ส.ส.ชลบุรี เขต 1 ซึ่งเป็นแชมป์เก่า ว่า ตนไม่เพียงแต่รับผิดชอบพื้นที่ จ.ชลบุรี หรือภาคตะวันออกเท่านั้น แต่ยังต้องดูแลพื้นที่ยุทธศาสตร์ภาคกลาง และภาคตะวันตก ให้กับพรรคด้วย การลงในแบบบัญชีรายชื่อจะสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพมากกว่า

‘วิโรจน์’ ซัด ‘พีระพันธุ์’ ปมผลิตซ้ำวาทกรรมชังชาติ ลั่น!! ทัศนคติอันตรายต่อชาติ-สถาบันพระมหากษัตริย์

‘วิโรจน์’ จวก ‘พีระพันธุ์’ ผลิตซ้ำวาทกรรมชังชาติ ไล่คนเห็นต่างออกนอกประเทศ  ชี้ ไม่เป็นผลดีต่อสถาบันฯ

(9 เม.ย.66) นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวกรณีที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ออกมาไล่คนเห็นต่างออกจากประเทศ พร้อมผลิตซ้ำวาทกรรมชังชาติ ล้มเจ้า ซึ่งเป็นผลผลิตของความขัดแย้งทางการเมืองนานนับทศวรรษ

นายวิโรจน์ กล่าวว่า ทัศนคติเช่นนี้ต่างหากที่เป็นอันตรายต่อชาติและสถาบันพระมหากษัตริย์ที่สุด เพราะเท่ากับเป็นการดึงเอาสถาบันพระมหากษัตริย์เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องทางการเมือง และแบ่งประชาชนออกเป็นฝักฝ่าย

นายวิโรจน์ กล่าวว่า พฤติกรรมแบ่งแยกประชาชนแบบนี้ ส่งผลเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์มามากพอแล้ว ยกตัวอย่างเช่นคนสร้างภาพว่าตนเป็นคนที่จงรักภักดี สักหน้าอก "ทรงพระเจริญ" แล้วไปตั้งแชร์ลูกโซ่หลอกลวงประชาชน จนมีมูลค่าความเสียหายเป็นพันล้าน หรือกรณีที่มาเฟียทุนจีนสีเทา เอาภาพถ่ายที่ไปถ่ายกับพระราชวงศ์ชั้นสูง ไปแอบอ้างสร้างความเสียหายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และยังไม่รวมกลุ่มคนอันธพาล ที่อ้างว่าตนเป็นคนที่ปกป้องสถาบันฯ แล้วไปเที่ยวใช้กำลังระรานประชาชนคนที่คิดต่างไปทั่ว เที่ยวไปแจ้งความในมาตรา 112 ตามอคติของตน สร้างความเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า ต้องถามว่าการปกป้องสถาบันฯ ด้วยวิธีการของอันธพาลแบบนี้ ส่งผลดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์หรือไม่

‘มินทร์’ ฉุน!! ป้ายหาเสียง ‘รทสช.’ โดนกรีดยับกว่า 40 ป้าย ลั่น!! จับได้ต้องตัดมือ ไม่ปล่อยเป็นเยี่ยงอย่าง ทุกอย่างมีต้นทุน 

เลือกตั้งจอมทองเดือด ป้ายผู้สมัคร รทสช. โดนกรีดยับกว่า 40 อัน ‘มินทร์’ ลั่นจับได้ต้องตัดมือ ไม่ปล่อยเป็นเยี่ยงอย่าง

(9 เม.ย.66) นายมินทร์ ลักษ์ตานนท์ ผู้สมัคร ส.ส.เขตบางขุนเทียน (เฉพาะแขวงท่าข้าม) เขตจอมทอง (ยกเว้นแขวงบางขุนเทียน) เบอร์ 7 พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เปิดเผยถึงเหตุการณ์ป้ายหาเสียงถูกทำลาย ว่า เหตุเกิดเมื่อช่วงคืนวันที่ 7 - 8 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งการกระทำดังกล่าวดูเป็นการจงใจทั้งในส่วนป้ายหาเสียงของตน และป้ายหาเสียงของ นายโชติพิพัฒน์ เตชะโสภณมณี ผู้สมัคร ส.ส.เบอร์ 8 พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ที่ถูกทำลายเสียหายด้วยเช่นกัน เพราะป้ายอยู่ติดกันก็โดนเหมือนกันทั้งคู่ ซึ่งในเหตุการณ์ล่าสุดที่ตนดำเนินการแจ้งความนั้นป้ายของตนนั้นโดนไป 20 กว่าป้าย แต่ถ้ารวมก่อนหน้านี้ก็จะประมาณ 40 กว่าป้าย

นายมินทร์ กล่าวว่า เบื้องตนได้แจ้งความกับสถานีตำรวจในพื้นที่ไปแล้ว เจ้าหน้าที่กำลังตามสืบอยู่ว่าเป็นใคร หนีไปทางไหน แต่เชื่อว่าเป็นคนในพื้นที่เพราะไม่อย่างนั้นจะไม่คล่องตัวอย่างนี้ และไม่น่าจะใช่คนเมา เพราะป้ายบางอันต้องปีนสูงขึ้น คาดว่าจะทำเป็นขบวนการอย่างน้อยต้องเกิน 2 คนขึ้นไป โดยสภาพของป้ายถูกกรีด เลาะหายเหลือแต่โครง บางอันก็กรีดแล้วห้อยซากทิ้งไว้

‘เอกนัฏ’ หนุน ‘เกรียงไกร’ หาเสียง อ้อนชาวบางแค กาเบอร์ 2 เผย ปชช. ต้อนรับดี เป็นกำลังใจในการลงพื้นที่อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย

เลขาฯ รทสช. ลุย เขตบางแค ถิ่นเก่าเคยเป็นส.ส. ช่วย ‘เกรียงไกร จงเจริญ’ ผู้สมัครเบอร์ 2 ชาวบ้านให้กำลังใจ

(9 เม.ย.66) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ลงพื้นที่หาเสียงขอคะแนนสนับสนุนนายเกรียงไกร จงเจริญ ผู้สมัครส.ส.เขตบางแค(เฉพาะแขวงบางแคเหนือและแขวงบางไผ่) หนองแขม(ยกเว้นแขวงหนองแขม) เบอร์ 2 บริเวณตลาดรักเจริญ และชุมชนวัดวงษ์ลาภาราม เขตหนองแขม ซึ่งเป็นพื้นที่เลือกตั้งเดิมของนายเอกนัฏสมัยเป็นส.ส. ขณะลงพื้นที่มีประชาชนมารอต้อนรับและขอถ่ายรูปกับนายเอกนัฏ และนายเกรียงยไกร ตลอดเส้นทาง พร้อมให้กำลังใจในการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งนี้ให้สำเร็จ

‘วิโรจน์’ ชี้!! ‘พปชร.-รทสช.’ กลับลำ พร้อมดีลทุกพรรค สะท้อนการเมืองแบบเก่า ลั่น!! ‘ก้าวไกล’ ไม่เอาระบบแบบนี้

‘วิโรจน์’ ชี้ ‘พปชร.-รทสช.’ กลับลำแทงกั๊ก พร้อมดีลทุกพรรค สะท้อนการเมืองเก่า-ไร้จุดยืน

เมื่อวันที่ 12 เมษายน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ประกาศไม่จับมือกับพรรคเพื่อไทย (พท.) และพรรค ก.ก. แต่ภายหลังนายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรค พปชร. กลับบอกว่าพร้อมดีลทุกพรรค ว่า ตอนนี้ประชาชนต้องแยกให้ออกว่า นี่คือความเห็นส่วนบุคคล หรือเป็นความเห็นของพรรค เท่าที่ตามข่าวพบว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ผู้สมัคร ส.ส.พะเยา และประธานภาคเหนือ พรรค พปชร. ก็บอกว่าเป็นความเห็นของนายไพบูลย์ คนเดียว เช่นเดียวกับนายสันติ ตอนนี้น่าจะมีแต่พรรค ก.ก. พรรคเดียวที่ยืนยันเป็นมติพรรคว่า จะไม่ร่วมกับรัฐบาลทหารจำแลง คำพูดของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ก.ก. หรือคำพูดของผู้สมัคร ส.ส.เขต และผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อคนใด ก็พูดตรงกัน เพราะเป็นมติของพรรคก.ก. ที่จะไม่ร่วมงานกับพรรค พปชร. และพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)

นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า การประกาศว่าเราไม่ร่วมกับพรรคทหารจำแลง ไม่ใช่แค่การประกาศเชิงสัญลักษณ์หรือเอาเท่ห์อย่างเดียว แต่มีเหตุผลคือพรรค ก.ก. มีนโยบายแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 รวมทั้งการปฏิรูปองค์กรอิสระที่เป็นนั่งร้านให้กับเครือข่ายรัฐประหาร และการจัดการยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่เป็นพิมพ์เขียวของการแบ่งปันผลประโยชน์ของเครือข่ายอุปถัมภ์ของผู้ก่อรัฐประหาร ดังนั้นถ้าเรามีจุดยืนที่จะแก้ไขบ้านเมืองแบบนี้ แต่กลับไปเอาพรรคที่เป็นสารตั้งต้นของปัญหาเหล่านี้มาร่วมรัฐบาลด้วย เราจะแก้ไขปัญหาได้อย่างไร

'จิ๊บ ศศิกานต์' ชี้!! สงกรานต์เงินสะพัด 1.2 แสนล้าน ความจริงที่เกิดจากผลงาน 'ลุงตู่' วอนบางคนอย่าบิดเบือน

สงกรานต์ เงินสะพัดกว่า 1.2 แสนล้าน ‘จิ๊บ ศศิกานต์’ ชี้ ฝีมือ ‘ลุงตู่’ พาชาติพ้นวิกฤตวอนนักการเมืองเลิกสร้างวาทกรรมบิดเบือนหลอกประชาชน

จากกรณีที่ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2566 การจัดกิจกรรมด้านต่างๆ นั้นจะทำให้เกิดเงินสะพัดในช่วงสงกรานต์ อยู่ที่ประมาณ 125,203 ล้านบาท ซึ่งตัวเลขนี้เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับ ช่วงปี 2559 ถือว่าใกล้เคียงกันมาก ทำให้มองได้ว่าเศรษฐกิจนั้นเริ่มกลับมาดีเหมือนเดิมแล้วนั้น

ล่าสุด นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขต 30 บางแค ภาษีเจริญเบอร์ 7 จากพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้กล่าวว่า ตัวเลขดังกล่าวนั้นเป็นเครื่องชี้วัดที่สะท้อนให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า เศรษฐกิจของไทยได้ฟื้นตัวแล้ว แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการบริหารประเทศของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ในภาวะวิกฤตซ้อนวิกฤต ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาต่อเนื่องกันตั้งแต่การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ต่อเนื่องมายังการสู้รบสงครามรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อระบบเศรษฐกิจของทั้งโลก วิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำ คนตกงาน อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น ซึ่งทุกประเทศก็ได้รับผลกระทบนี้เหมือน ๆ กัน แต่ขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลของประเทศไหนนั้นจะบริหารประเทศ ให้ผ่านพ้นวิกฤตและฟื้นตัวได้ดีกว่ากัน 

ซึ่งจากตัวเลขข้างต้นนั้นก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าประเทศไทยนั้น เป็นประเทศที่สามารถผ่านพ้นวิกฤตและฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วก่อนประเทศอื่นๆ อีกหลายประเทศ สังเกตได้จากไทยเป็นประเทศแรก ๆ ในโลกที่เปิดรับนักท่องเที่ยว ซึ่งตัวเลขนักท่องเที่ยวในปัจจุบันนั้นก็ถือว่าใกล้เคียงกับตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในช่วงก่อนจะเกิดโรคโควิด-19แล้ว

'เด็กลุงตู่' งง!! 'เศรษฐา' แจก 5 แสนล้านพร่ำเพรื่อ พอมีคนแนะ กลับไม่ฟัง แถมจะ 'ขู่ฟ้อง' ปิดปาก

จากการที่นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ได้ออกมาด้อยค่า นโยบายบัตรสวัสดิการพลัส หรือ 'บัตรลุงตู่' ที่จะเพิ่มเงินช่วยเหลือประชาชนที่ได้สิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เดือนละ 1,000 บาท ว่า เป็นลักษณะของการหยอดน้ำข้าวต้ม และจะเติมปลาแห้งเข้าไปอีกนิด คงไม่มีอะไรไม่มีผลในการกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น

ล่าสุด นายอิทธิพัทธ์ เศรษฐยุกานนท์ ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตเลือกตั้งที่ 32 บางกอกใหญ่ บางกอกน้อย ภาษีเจริญ ตลิ่งชัน ธนบุรี เบอร์ 5 พรรครวมไทยสร้างชาติ ก็ได้ออกมากล่าวตอบโต้ว่า...

ไม่น่าเชื่อว่านักธุรกิจใหญ่อย่างนายเศรษฐา จะไม่เข้าใจเรื่องหลักการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะการกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น ต้องทำเท่าที่จำเป็นในสถานการณ์ที่ เศรษฐกิจมันเดินไม่ได้อย่าง เช่นตอนโควิด19 อย่างนั้นจึงจะมีความจำเป็นต้องกระตุ้น

แต่ปัจจุบันเศรษฐกิจของไทยเริ่มมีลักษณะของการฟื้นตัวอย่างชัดเจนดูจากตัวเลขทางเศรษฐกิจต่างๆ ก็มีการปรับตัวดีขึ้นกำลังซื้อของคนมีมากขึ้น เงินเฟ้อลดลงการว่างงานลดลง นักท่องเที่ยวมากขึ้น...การกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการ 'ใส่เงินจำนวนมากเข้าไปในระบบ' จึงไม่ใช่มาตรการที่จำเป็นในขณะนี้ และในอีกด้านอาจจะส่งผลต่อเรื่องของเงินเฟ้อที่จะพุ่งขึ้นสูง และราคาสินค้าที่จะเพิ่มขึ้นตามมา เพราะผู้ประกอบการรู้ว่าจะมีการใส่เงินลงไป ราคาสินค้าก็จะขึ้นไปรอก่อนแล้ว ซึ่งคุณเศรษฐาไม่เคยพูดถึงผลกระทบในมุมแบบนี้บ้างเลย

แม้แต่นางธาริษา วัฒนเกส อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ก็ยังออกมาแสดงความไม่เห็นด้วย กับโครงการนี้ โดยมองว่าเป็นนโยบายที่ไร้ความรับผิดชอบ นอกจากการสร้างหนี้โดยไม่จำเป็นแล้ว ยังทำให้ประชาชนขาดวินัยทางการเงินอีก และบอกว่าเป็นเรื่องน่าเศร้าอีกด้วย

‘ศศิกานต์-รทสช.’ อึ้ง!! หลังลงพื้นที่ พบกระแสดี แต่แอบห่วง ยังมีคนไม่รู้ ‘ลุงตู่’ อยู่รวมไทยสร้างชาติ

(17 เม.ย.66) น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ ผู้สมัคร ส.ส. เขตบางแค ภาษีเจริญ หมายเลข 7 พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้พูดถึงการรณรงค์หาเสียงในพื้นที่เขตบางแค ภาษีเจริญ ว่า ตนเองเน้นเรื่องการลงพื้นที พบปะพี่น้องประชาชน พยายามเข้าถึง พูดคุยทุกบ้าน ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดีเป็นอย่างมาก และพบว่ามีพลังเงียบที่เป็นกองเชียร์ลุงตู่เยอะมาก 

มีหลายคนอาสาเข้ามาช่วยงานโดย ไม่คิดค่าจ้าง เช่น แจกใบปลิวและช่วยติดป้าย รวมถึงช่วยเป็นเพื่อนเดินหาเสียงในช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ตลอดจนแจ้งข่าวสารในพื้นที่ เช่น ป้ายบริเวณซอยนั้นไม่มี ป้ายซอยนี้พัง ให้มาซ่อม อย่างนี้เป็นต้น ทำให้ยิ่งเดิน ก็ยิ่งมั่นใจในกระแสพรรคมากยิ่งขึ้น 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top