Wednesday, 21 May 2025
พรรคประชาธิปัตย์

‘นิพนธ์’ ขึ้นเวทีดีเบต ชู อัดฉีดเงิน 1 ล้านล้าน แก้วิกฤต ศก. มั่นใจ!! ‘ปชป.’ คว้าเก้าอี้ภาคใต้ไม่ต่ำกว่า 40 ที่นั่งแน่นอน

นิพนธ์ ชู นโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ อัดฉีดเงินเข้าระบบฯ ทันที 1 ล้านล้านบาท ยกช่วงวิกฤตโควิด จุรินทร์ นั่งพาณิชย์ฯ โชว์ฝีมือเร่งส่งออกกว่า 10 ล้านล้านบาท ชี้ ปัญหาชายแดนใต้ต้องจบที่การพูดคุยเจรจา ย้ำ นโยบายสวัสดิการปัจจุบันล้วนมาจากประชาธิปัตย์

เมื่อวันที่ 24 เม.ย.66 บนเวที BIG DEBATE ซึ่งจัดโดยช่อง 7HD และเทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ในรายการ วันเลือกตั้ง 66 #วาระคนไทย BIG DEBATE ตามติดสนามเลือกตั้งภาคใต้

นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมกับผู้สมัคร ส.ส.ภาคใต้ จาก 8 พรรคการเมือง ที่มาประชันวิสัยทัศน์ แสดงจุดยืนและนำนโยบายมาประชันกัน ณ สวนสาธารณะเมืองสงขลา โดยนายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวในเวที BIG DEBATE ว่า วันนี้ประชาธิปัตย์มีนโยบายเติมเงินในระบบเศรษฐกิจของประเทศ หลังจากที่เกิดวิกฤตโควิดมา 3 ปี สิ่งที่ประชาธิปัตย์ประกาศสร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ โดยการสร้างเงินนั่นคือ การที่ประชาธิปัตย์จะอัดฉีดเงิน 1 ล้านล้านบาท เข้าระบบเศรษฐกิจของประเทศ โดยอัดฉีดเงินเข้าในหมู่บ้าน ชุมชนละ 2 ล้านบาท

ตามด้วยนโยบายประกันรายได้ให้กับเกษตรกร ไม่ว่าจะเป็นยางพารา ปาล์ม ข้าว มันสำปะหลังและข้าวโพด ถ้าไม่มีนโยบายประกันรายได้ ถ้าราคายางลงมาเหลือ 30 บาท เกษตรกรก็จะได้เพียง 30 บาทเท่านั้น แต่ถ้ามีการประกันรายได้ เวลาน้ำยางเหลือ 30 บาท พี่น้องจะได้ส่วนต่างอีก 27 บาท รวมเป็น 57 บาท และราคาปาล์มก็เช่นกัน นี่คือการอัดฉีดเงินเข้าไปในระบบเศรษฐกิจ 

ช่วงวิกฤติที่ผ่านมา อย่างอื่นเสียหายหมด เครื่องจักรทุกตัวเสียหายหมด เหลืออยู่อย่างเดียวนั่นคือ การส่งออก ปี 2565 เรามีการส่งออกประมาณ 10 ล้านล้านบาท กระทรวงพาณิชย์ดูแลโดยท่านจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ สร้างเงินให้ทั้งประเทศ รวมถึงอัดฉีดให้มีเงินกองทุน เอสเอ็มอี ถ้ามีแต้มต่อ เราจะอัดฉีดเงินให้แก่ SME อีก 300,000 ล้านบาท นี่คือการเติมเงิน เติมเลือดเข้าไปสู่ระบบเศรษฐกิจ

ดังนั้น เรื่องสร้างเงินให้ประชาชนและประเทศ ประชาธิปัตย์ได้เตรียมไว้หมดแล้ว แม้กระทั่งการไปเจรจา FTA กับต่างประเทศ ซึ่งไม่เคยมีมาหลายสิบปี ประชาธิปัตย์ไปเปิดเวที ไปเปิดการเจรจากัน และเราจะเชื่อมโยงกับต่างประเทศอีก ราว 27-30 ประเทศ และจะสามารถขยายการส่งออกสินค้าอีกมาก เพราะฉะนั้น นี่คือการสร้างเงินให้กับประเทศ และหากส่งออกมากเท่าไหร่ เราก็จะเก็บภาษีคืนมาได้มากเท่านั้น ประชาธิปัตย์จึงคิดนโยบายเรื่องของการเติมเงินเข้าไปในระบบเศรษฐกิจขึ้น

นายนิพนธ์ ยังกล่าวอีกว่า ซึ่งทีมเศรษฐกิจของพรรคประชาธิปัตย์ที่ผ่านมา จะทำหาดใหญ่ให้เป็นศูนย์กลางทางการเงินในระดับนานาชาติ และเราจะมีกฏหมายพิเศษที่จะเปิดโอกาสให้สถาบันการเงินมาอยู่ที่หาดใหญ่ ทำเหมือนกับสิงคโปร์ ฮ่องกง และลาบวนของมาเลเซีย

สำหรับการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ประชาธิปัตย์ประกาศชัดเจนว่า ปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ วันนี้ถึงเวลาที่จะต้องทำสันติภาพให้เกิดขึ้นให้ได้ เพื่อนำไปสู่สันติสุขในจังหวัดชายแดนใต้ คำว่า ‘สันติภาพ’ คือ บัดนี้เราต้องเลิกราฆ่าฟันกัน หยุดเหตุการณ์ที่จะทำให้ถึงแก่ชีวิต เราสูญเสียชีวิตไปแล้ว 7,000 กว่าราย บาดเจ็บนับหมื่น งบประมาณจากปี 47 ที่มีการปล้นปืน จนถึงปัจจุบัน 500,000 กว่าล้านแล้ว เราถมไปเท่าไหร่ก็ไม่เต็ม เพราะปัญหาคือ เราต้องทำให้เกิดสันติภาพก่อน ถ้าเกิดสันติภาพ สันติสุขก็จะเกิด ประชาธิปัตย์จึงมีความมั่นใจว่า การพูดคุยกับกลุ่มคนที่เห็นต่างมันมีความจำเป็น ไม่มีสงครามไหนจะเอาชนะกันได้ด้วยอาวุธ

นอกจากการพูดคุยการเจรจากัน เพื่อหนทางสู่สันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว เรามาแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง นั่นคือ การแก้ปัญหาความยากจนในพื้นที่ ประชาธิปัตย์คิดเรื่องนี้มาอย่างเป็นระบบ เราจัดการเรื่องการศึกษา เราใช้เวลาช่วงนี้จัดการศึกษา จนทุกจังหวัดในพื้นที่ชายแดนให้มีมหาวิทยาลัยหมดแล้ว บัดนี้ ปัญหาคือทำอย่างไร ให้ผู้ที่จบการศึกษา สามารถทำงานที่นี่ มีงานทำที่นี่ได้ โดยไม่ต้องทิ้งบ้านทิ้งเมือง หรือทิ้งพ่อแม่ไว้ข้างหลัง ดังนั้น จึงต้องสร้างงานให้เขาทำ นี่คือสิ่งที่ประชาธิปัตย์จะเดินหน้าสร้างอาชีพ

สื่อต่างชาติฮือฮา!! หลัง ‘ปชป.’ ดัน ‘เซ็กซ์ทอย’ ถูกกฎหมาย ชี้!! ดึงเม็ดเงินใต้ดินสู่คลัง-ลดอาชญากรรม-ลดอัตราหย่าร้าง

สื่อหลายชาติฮือฮา ‘ปชป.’ ไอเดียกระฉูด ดัน ‘เซ็กซ์ทอย’ ถูกกฎหมาย


(25 เม.ย.66) กลายเป็นเรื่องฮือฮาระดับโลกไปแล้วกับไอเดียกระฉูดของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่เสนอให้ ‘เซ็กซ์ทอย (Sex Toy)’ หรืออุปกรณ์เพิ่มความสุขทางเพศ เป็นสินค้าถูกกฎหมาย ท่ามกลางสถานการณ์ที่ประเทศไทยกำลังจะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ในวันที่ 14 พ.ค. 2566 โดยเรื่องนี้ได้รับความสนใจจากสื่อต่างประเทศหลายสำนัก

สถานีโทรทัศน์ France24 ของฝรั่งเศส เสนอข่าว Good vibrations: Thai party makes sex toy election pledge ระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคสายอนุรักษ์นิยมในไทย ชูประเด็นแก้ไขกฎหมายเพื่อปลดล็อกเซ็กซ์ทอย โดยให้เหตุผลด้านการย้ายเม็ดเงินจากใต้ดินเข้าสู่ระบบการเงินการคลังของประเทศ สื่อฝรั่งเศสยังกล่าวด้วยว่า แม้จะได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในดินแดนที่มีเสรีภาพทางเพศมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) แต่ประเทศไทยซึ่งประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ปัจจุบันเซ็กซ์ทอยยังถือเป็นสิ่งของผิดกฎหมาย

สื่อเมืองน้ำหอมอ้างคำกล่าวของ รัชดา ธนาดิเรก (Ratchada Thanadirek) กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 24 เม.ย. 2566 ว่า เซ็กซ์ทอยมีประโยชน์เพราะอาจนำไปสู่การลดลงของการค้าประเวณีและการหย่าร้างเนื่องจากความใคร่ทางเพศไม่ตรงกัน รวมถึงอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเพศ ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ก่อตั้งขึ้นในทศวรรษ 1940s (ช่วงปี 2483-2492 โดยพรรคก่อตั้งในปี 2489) แต่ในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อปี 2562 พรรคประสบความล้มเหลว และกระแสนิยมก็ยังไม่ค่อยดีนักกับการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 14 พ.ค. 2566

ประชาธิปัตย์ปลื้มนโยบายประกันรายได้โดนใจชาวนา

'อลงกรณ์' ขอบคุณผู้นำสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทยเชียร์ชาวนา 4.6 ล้านครัวเรือนกาเบอร์ 26 พรรคประชาธิปัตย์ เผยทีมเศรษฐกิจปชป.เตรียมเปิดตัวนโยบายเกษตรทันสมัย 26-26 แก้หนี้ แก้จนแบบเต็มคาราเบล  27 เม.ย.นี้

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าววันนี้(26 เม.ย)ว่า ขอขอบคุณ นายเดชา นุตาลัย อุปนายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทยที่ออกมาประกาศสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์โดยขอให้ชาวนา 4.6 ล้านครัวเรือน กาเบอร์ 26 พรรคประชาธิปัตย์ เพราะชาวนาได้รับการดูแลช่วยเหลือและได้ประโยชน์จากผลงานและนโยบายประกันรายได้ของพรรคประชาธิปัตย์

‘ดร.เอ้’ ควง ‘แนน ศิริภา’ ลุยทำคะแนนฝั่งธนฯ ชู ‘Wrap ตึกก่อสร้าง’ เล็งติดตั้งเครื่องวัดฝุ่น 2,000 จุดทั่วกรุงฯ ดัน กม.ควบคุมมลพิษจริงจัง

(26 เม.ย. 66) นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ลงพื้นที่ตลาดสำเหร่ เขตธนบุรี ขอคะแนนเสียงสนับสนุนให้กับ น.ส.ศิริภา อินทวิเชียร ผู้สัมคร ส.ส. กทม.เบอร์ 11 เขตธนบุรี คลองสาน ราษฎร์บูรณะ พรรคประชาธิปัตย์ โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีการพบปะมีพี่น้องประชาชนที่มาจ่ายตลาดยามเช้า นำเสนอนโยบายของพรรค และรับฟังการสะท้อนปัญหาจากประชาชนในพื้นที่ เพื่อรวบรวมและผลักดันให้มีการแก้ไข โดยมีการสะท้อนถึงปัญหาค่าไฟฟ้าแพง ปัญหาค่าครองชีพปากท้อง และที่สำคัญคือ ปัญหาสุขภาพ จากฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐานกระทบต่อวิถีชีวิตคนในชุมชน เนื่องจากคนในพื้นที่จำนวนไม่น้อยเป็นผู้สูงอายุ

ทั้งนี้ นายสุชัชวีร์ ได้นำเครื่องตรวจวัดค่าฝุ่น PM 2.5 ที่ได้มาตรฐานไปตรวจวัด ในจุดที่ประชาชนร้องเรียนว่าได้รับผลกระทบอย่างมาก ที่บริเวณถนนเจริญนคร 23 ด้วย เนื่องจากเป็นพื้นที่ชุมชนที่อยู่อาศัย ที่มีโรงเรียนอนุบาล และเป็นพื้นที่ที่มีการก่อสร้าง กระทรวงมหาดไทยแห่งใหม่ ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ ทั้งนี้ จากการตรวจวัดในระดับพื้นที่พบ ค่าฝุ่น PM 2.5 ถึง 65 มคก./ลบ.ม. ถือว่าเกินค่ามาตรฐานขององค์การอนามัยโลก ที่กำหนดค่า PM 2.5 ไม่ควรเกิน 25 มคก./ลบ.ม.

นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ มีนโยบาย ติดตั้งเครื่องวัดฝุ่นคุณภาพสูงอย่างน้อย 2,000 จุดทั่วกรุงเทพฯ และขอความร่วมมือป้าย LED แจ้งปริมาณฝุ่น พร้อมส่งสัญญาณเตือนเมื่อเกินค่ามาตรฐาน ถือเป็นการใช้เทคโนโลยีเข้ามาแก้ไขปัญหา นอกจากนี้ จะกำหนดเงื่อนไขในกฎหมายอากาศสะอาด ให้ตึกที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างต้อง Wrap ตึก และสามารถเคลมเป็นภาษีได้ ถ้าไม่ Wrap ต้องมีมาตรการเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างหรือโดนภาษีหนัก และในเขตกรุงเทพฯ ชั้นในที่มีทั้งโรงเรียน โรงพยาบาลมากมาย ควรเป็นเขต LEZ (Low Emission Zone) เช่น ถ้ารถสิบล้อเข้าเขตนี้ต้องเสียภาษีเพิ่ม รถควันดำห้ามเข้า เป็นต้น

ผู้สมัครบางคนถูกถอดสายน้ำเกลือแล้ว  ลุ้น!! ‘สุนทร’ ชิงกันเข้าวินกับ ‘น้องบีท’

แม้ชื่อของ เชาวศิลป์ บุญประเสริฐ (รองโข่ง) จะปรากฏเป็นกระแสอยู่ระยะหนึ่งกับการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.เขต 8 นครศรีธรรมราช (ฉวาง-นาบอน-ช้างกลาง-พิปูน) ในนามพรรคเพื่อไทย และก็ต้องยอมรับความจริงว่า กระแสพอใช้ได้ จนโพลบางสำนักยกให้อยู่อันดับ 1 เมื่อบวกกับกระแสเพื่อไทยทั่วประเทศ ยิ่งส่งแรงบวกให้รองโข่งมากขึ้น

แต่ก็ต้องเข้าใจตรงกันนะว่า ภาคใต้ไม่ใช่ฐานที่มั่นของเพื่อไทย แม้ ‘สมศักดิ์ เทพสุทิน’ จะลงไปคลุกอยู่ในพื้นที่นครศรีธรรมราชหลายครั้ง แต่ไม่น่าจะช่วยอะไรก็ได้มากนัก แต่คะแนนพรรคคงมีทุกเขต

แต่เมื่อเวลาเปลี่ยน สถานการณ์เปลี่ยน การเมืองก็เปลี่ยน ฝ่ายคู่แข่งงัดกลยุทธ์ ขุดวิชาขึ้นมาใช้ น่าจะทำให้กระแสเสียงของรองโข่งแผ่วลงไปบ้าง เมื่อกระสุนไม่พอ กระแสก็ไม่เกิด ซึ่งต้องยอมรับความจริงว่า การออกเดินพบปะพี่น้องประชาชนในเขตเลือกตั้งแบบ ‘หามรุ่งหามค่ำ’ และค่ำไหนนอนนั้น (นอนวัด) ของ ‘สุนทร รักษ์รงค์’ ผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐ คู่ไปกับการตั้งวงพูดคุยแลกเปลี่ยนในสไตล์ที่ถนัด ยิ่งทำให้กระแสเสียงของสุนทรค่อยๆ ขยับตัวมาดีขึ้น พูดได้ว่าน่าจะอยู่อันดับ 1 แล้วเวลานี้

ด้วยเหตุผลหลายประการ ทั้งความพร้อมของพรรค และตัวผู้สมัคร สุนทร บุกหนักทั้งงานจัดตั้งแกน งานด้านสื่อ และโครงการสุนทรนอนวัด 21-25 เมษายน ที่เดินเท้าขอคะแนนถึงบ้านตอนกลางวัน ถึงเวลากลางคืนจัดเวทีเสวนาที่วัด เพื่อรับฟังปัญหา ความต้องการของชาวบ้าน และรับฟังความคิดเห็น เพื่อนำไปเสนอพรรคเพื่อทำนโยบายเชิงพื้นที่ 

ถ้าสุนทรใช้วิชาที่ถนัดแบบเต็มแม๊ก เดินเท้าทุกชุมชน เพื่อขอคะแนนเสียง เปิดเวทีย่อย-เวทีใหญ่ ให้ครบทั้ง 5 อำเภอ 

พรรคภูมิใจไทย มุกดาวรรณ ม้าตีนต้นเริ่มแผ่ว น่าจะมีปัญหาเรื่องท่อน้ำเลี้ยงร่างกายขาดน้ำเกลือ ย่อมอ่อนเพลียเป็นธรรมดา

กล่าวสำหรับเขตนี้ ก็ไม่ควรมองข้าม ‘น้องบีท’ ปุณณ์สิริ บุณยเกียรติ จากประชาธิปัตย์ ลูกสาวชินวรณ์ ก็เชื่อว่า ชิณวรณ์จะต้องออกแรงหนัก เพื่อดันน้องบีทให้แจ้งเกิดทางการเมือง โดย ‘แทน-ชัยชนะ เดชเดโช’ ในฐานะเคยเป็น ส.ส.เขตนี้มาก่อนก็ต้องจับมือ ‘ชิณวรณ์’ ช่วยน้องบีทอีกแรง เพื่อเดินไปสู่เป้าหมายที่ใหญ่กว่า แต่ต้องแก้ให้ได้กับกระแสไม่เอาประชาธิปัตย์ ไม่เอาการสืบทอดสู่ทายาท เพื่อเป้าหมายที่ใหญ่กว่า 

‘มาดามเดียร์’ ช่วย ‘ศิลป์ชัย’ ผู้สมัคร ส.ส.หาเสียงที่นครศรีฯ ขอแรงหนุนจาก ปชช. กลับมาเทคะแนนให้ ‘ปชป.’ ยกจังหวัด

(27 เม.ย. 66) ที่ตลาดอำเภอสิชล น.ส.วทันยา บุนนาค หรือ ‘มาดามเดียร์’ ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมด้วย นายชัยชนะ เดชเดโช รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 5 (อำเภอจุฬาภรณ์ อำเภอร่อนพิบูลย์ และอำเภอลานสกา) หมายเลข 4 ลงพื้นที่ตลาดอำเภอสิชล ช่วยหาเสียงสนับสนุนให้นายศิลป์ชัย สุนทรมัฏฐ์ ผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 10 (อำเภอขนอม อำเภอสิชล และอำเภอท่าศาลา) หมายเลข 1 ซึ่งได้รับการต้อนรับจากประชาชนอย่างอบอุ่น และเข้ามาขอถ่ายรูปจำนวนมาก

‘จุรินทร์’ นำทัพปราศรัยใหญ่ ปลุกพลังเงียบ ที่สนาม 700 ปี เชียงใหม่  ปชช.แห่ต้อนรับ พร้อมบอกยังไงก็เลือก ‘ปชป.’ มั่นใจ!! ปักธงได้แน่

(27 เม.ย. 66) ที่จังหวัดเชียงใหม่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมด้วยนายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรคฯ ดูแลพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อพบปะกับพี่น้องประชาชนใน 4 เขต เพื่อหาเสียงรณรงค์หาเสียงให้กับพรรคประชาธิปัตย์เบอร์ 26 และช่วยหาเสียงให้กับผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ ประกอบด้วย

เขต 1 นายจักรวาลธวัฒน์ วรรณาวงค์ เบอร์ 7
เขต 2 นายกัมปนาท ธิสา เบอร์ 7
เขต 3 นายวิชิต กลิ่นทอง เบอร์ 7
เขต 4 นางสาวจิตพลอย จิตจักรวาลทอง เบอร์ 7
เขต 5 ว่าที่ร้อยโทวิศธร เถาตระกูล เบอร์ 9
เขต 6 นายวิศิษฎ์ วัชรินทร์ เบอร์ 6
เขต 7 นายนิคม เชาว์กิตติโสภณ เบอร์ 5
เขต 8 นางพชรพร สุใจคำ เบอร์ 6
เขต 9 นายคูณธนา เบี้ยวบรรจง เบอร์ 7
เขต 10 ว่าที่ร้อยตรีธีรพงศ์ สุขสันต์นิรันดร์ เบอร์ 2

โดยนายจุรินทร์ ได้ร่วมเดินหาเสียงกับผู้สมัคร ส.ส.ประชาธิปัตย์ใน 4 ตลาด ตั้งแต่กาดแม่ คือ อ.ดอยสะเก็ด ตลาดสามแยก กาดสันป่าข่อย ที่ อ.สันทราย และกาดหลวง ตลาดต้นลำไย อ.เมือง พร้อมกับได้เดินทางไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลกวนอู และศาลเจ้าปุงเถ่ากง ซึ่งเป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งบรรรยากาศเดินพบปะทักทายพี่น้องประชาชนทั้ง 4 ตลาด เป็นไปอย่างอบอุ่น มีชาวเชียงใหม่มารอต้อนรับ พร้อมโบกมือทักทาย ขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกและมอบดอกไม้อย่างใกล้ชิด

จากนั้น นายจุรินทร์ และคณะได้เดินทางถึงสนามกีฬา 700 ปี ที่ อ.แม่ริม โดยมีพี่น้องประชาชนและแฟนคลับของพรรค เดินทางมารอฟังการปราศรัยจำนวนมาก พร้อมกับส่งเสียงเชียร์ “ประชาธิปัตย์สู้ ประชาธิปัตย์ ซาวหก (26)”

โดยนายจุรินทร์ ได้กล่าวแนะนำผู้สมัครทั้ง 10 เขต และปราศรัยช่วงว่า จากการที่ตนได้ตระเวนหาเสียงมาทั่วประเทศจนถึงวันนี้ พรรคประชาธิปัตย์ได้รับเสียงตอบรับจากทั่วประเทศดีขึ้นเป็นลำดับ ไม่ว่าจะเป็นกรุงเทพมหานคร ที่คราวที่แล้วไม่ได้ ส.ส.เลย แต่คราวนี้เชื่อว่าประชาธิปัตย์ปักธงในกรุงเทพฯ ได้อย่างแน่นอน ภาคเหนือคราวที่แล้วเราได้ 1 คน จาก 16 จังหวัด แต่เที่ยวนี้ไม่ใช่คนเดียว จะต้องได้มากกว่านี้เยอะ อย่างน้อยที่ จ.เชียงใหม่ ตนจึงต้องมาขอแรงสนับสนุนจากพี่น้องช่วยสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อให้ได้มีโอกาสปักธงในเชียงใหม่ และภาคเหนือ ด้วยการเลือกส.ส. ของพรรคทั้ง 10 คน และเลือกพรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ ‘ซาวหก’ หรือ ‘เบอร์ 26’ ส่วนภาคอีสาน ภาคกลาง คราวนี้ก็เชื่อว่าจะได้อีกเยอะ ปักษ์ใต้คราวที่แล้วมี ส.ส. 50 คน เราได้ 22 คน เที่ยวนี้เราต้องได้ไม่ต่ำกว่า 40 คนบวก

นายจุรินทร์ ได้ย้ำจุดยืน ‘4 ทำ’ ‘3 ไม่’ พร้อมกล่าวว่า ที่พูดทั้งหมดนี้ ไม่ได้พูดจากความฝัน ไม่ได้พูดหลอกเอาคะแนนจากประชาชน แต่พูดจากความจริงที่เราทำ ถ้าเราเป็นแกนตั้งรัฐบาลอีก ทำไมเราจะทำไม่ได้

นายจุรินทร์ กล่าวถึงนโยบายที่เกี่ยวกับชาติพันธุ์ ว่า ประชาธิปัตย์มีเจตจำนงที่ต้องการสนับสนุนให้ชาติพันธุ์ที่เกิดเมืองไทยและมาอย่างถูกกฎหมาย ให้มีโอกาสได้สัญชาติไทย สำหรับพี่น้องชาวเชียงใหม่ ประชาธิปัตย์จะขับเคลื่อนให้ไปสู่ความร่ำรวยด้วยนโยบายเหนือเชื่อมโลก และเชียงใหม่เชื่อมโลก ด้วยการคมนาคม ด้วยการท่องเที่ยว ด้วยการค้าชายแดน และด้วยซอฟต์พาวเวอร์ อัตลักษณ์ วัฒนธรรมชาวเหนือที่จะทำรายได้ให้ประเทศ และภาคเหนือ

‘จุรินทร์’ เตรียมปราศรัยใหญ่ จ.สุราษฎร์ฯ-พังงา 29-30 เม.ย.นี้ มั่นใจ!! ‘ปชป.’ รักษาแชมป์เก่าได้ ครองเก้าอี้ ส.ส.ยกจังหวัด

(28 เม.ย. 66) นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย ทีมโฆษกประจำศูนย์เลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า ในวันที่ 29 เม.ย.- 30 เม.ย. 66 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมแกนนำพรรคฯ เตรียมล่องใต้ ลงพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดพังงา เพื่อพบปะกับพี่น้องประชาชนพร้อมเปิดเวทีปราศรัย 3 เวที โดยจะเริ่มต้นกิจกรรมตั้งแต่ในช่วงเย็นที่ 29 เม.ย.เปิดเวทีปราศรัยบริเวณข้างโรงแรมวังใต้ ตำบลตลาด อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี และในวันที่ 30 เม.ย.ช่วงเย็ นจะมีปราศรัยที่ อำเภอเมือง จังหวัดพังงา และช่วงค่ำไปปราศรัยที่อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา บริเวณศาลเจ้าเล่งสั้นเก้ง (ศาลเจ้าท้ายเหมือง)

‘ลุงตู่’ พบ ‘ตั๊น จิตภัสร์’ กลางสนามบิน ขณะลงพื้นที่หาเสียง จ.ตรัง พร้อมอวยพรให้อาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุโดดร่มหายดีโดยเร็ว

(29 เม.ย. 66) น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร หรือ ‘ตั๊น’ รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ผู้สมัคร ส.ส แบบบัญชีรายชื่อ ได้ลงพื้นที่หาเสียงให้กับนายกาญจน์ ตั้งปอง ผู้สมัคร ส.ส.ตรัง เขต 4 เบอร์ 2 พร้อมด้วย น.ส สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ อดีต ส.ส.ตรัง ผู้สมัคร ส.ส.ตรัง เขต 3 เบอร์ 2 ณ ตลาดสดย่านตาขาว อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง โดยมีพี่น้องประชาชน พ่อค้า แม่ค้า ในตลาดให้การต้อนรับ มอบดอกไม้ และถ่ายภาพเป็นจำนวนมากก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานจากสนามบินตรังว่า ระหว่างที่ น.ส จิตภัสร์ เดินทางกลับ กทม. ได้พบกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และแคนดิเดตนายกฯพรรค รทสช.ที่ได้เดินทางมายังจังหวัดตรังเพื่อช่วยสมาชิกพรรคหาเสียง จึงได้ทักทายกันบริเวณประตูทางออก โดย พล.อ.ประยุทธ์ ได้อวยพร น.ส จิตภัสร์ว่า ขอให้โชคดี หายป่วยจากอาการบาดเจ็บจากการโดดร่ม และขอให้ช่วยกันทำการเมืองสร้างสรรค์ ทั้งนี้ มีประชาชนทั่วไปให้ความสนใจทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ และ น.ส จิตภัสร์ ร่วมขอถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึกด้วย


ที่มา : https://www.naewna.com/politic/727562

‘ปชป.’ ยัน!! ดำเนินคดีเอาผิดคนทำลายป้ายหาเสียง ย้ำ!! ทุกพรรคโปรดแข่งขันการเมืองอย่างใสสะอาด

(29 เม.ย. 66) ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย พร้อมด้วยนายจิตกร บุษบา ทีมโฆษกศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมกันแถลงข่าวว่า ขณะนี้ในภาพรวมยังพบการทำลายป้ายหาเสียงของพรรคในเขตกรุงเทพฯ บางพื้นที่โดนเก็บและนำป้ายของผู้สมัครของพรรคอื่นมาติดตั้งแทน โดยเฉพาะพื้นที่ของผู้สมัครหน้าใหม่ ถือเป็นบรรยากาศการหาเสียงที่ไม่สร้างสรรค์ และที่สำคัญเป็นการทำผิดกฎหมายอาญา

นางดรุณวรรณ กล่าวว่า การจงใจทำลายป้ายถือเป็นการทำผิดกฎหมายอาญา มาตรา 358 ฐานทำให้เสียทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ไม่ว่าจะเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง หรือประชาชนทั่วไปก็มีโทษในอัตราเดียวกัน เนื่องจากป้ายหาเสียงในการเลือกตั้งถือเป็นทรัพย์สินของผู้สมัคร การปลดป้ายหาเสียงไปทิ้งทำลายจึงเป็นการทำให้เสียทรัพย์ พรรคประชาธิปัตย์จึงยืนยันเอาผิดและดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง และต้องการเห็นการหาเสียงเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ แข่งขันกันด้วยนโยบาย และตัวผู้สมัคร ซึ่งท้ายที่สุดประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน

โดยนายธีรวิทย์ ภูมิดิษฐ์ ผู้สมัคร ส.ส.เขตบางเขน จตุจักร หลักสี่ เบอร์ 5 กล่าวว่า ป้ายหาเสียงของตนที่ถูกเก็บ ถูกทำลาย ส่วนใหญ่ติดตั้งอยู่บริเวณซอยรัชดา 36 แยก 11 มีการนำปากกามาขีดเขียนเพื่อทำลายป้ายและระบุว่า จะเลือกพรรคการเมืองอื่น ล่าสุดยังพบว่า มีการตัดป้ายหาเสียงบางส่วนของตนเพื่อนำไปติดบังโคลนรถมอเตอร์ไซค์ ตนจึงได้แจ้งความดำเนินคดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ซึ่งกรณีนี้พบตัวผู้กระทำผิดจึงได้พูดคุย ยอมถอนแจ้งความเนื่องจากผู้กระทำผิดได้ขอโทษ และระบุว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ บางกรณียังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลเพื่อหาตัวผู้กระทำผิด ซึ่งตนได้ยื่นหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งภาพถ่ายและภาพจากกล้องวงจรปิด มั่นใจว่าจะสามารถเอาผิดกับผู้กระทำได้อย่างแน่นอน

“เมื่อเราเข้ามาทำงานการเมือง ก็ควรทำให้ใสสะอาด ไม่ควรมีการทำลายป้ายหาเสียงของพรรคคู่แข่ง ซึ่งการลงสมัครรับเลือกตั้งนั้นก็เหมือนการแข่งขันอย่างหนึ่ง ผมเองก็เป็นนักกีฬาที่ร่วมแข่งขันในรายการระดับโลกมาแล้ว จึงยึดถือเรื่องความมีน้ำใจนักกีฬา และทุกคนต้องเคารพกติกาการแข่งขัน” นายธีรวิทย์ กล่าว

ขณะที่ นพ.พลวิทย์ เจริญพงศ์ ผู้สมัคร ส.ส. เขตทวีวัฒนา ตลิ่งชัน เบอร์ 3 กล่าวว่า ป้ายหาเสียงของตน พบว่ามีการทำลายด้วยการนำแผ่นพับของผู้สมัครพรรคการเมืองอื่นมาติดที่ป้ายหาเสียงของตนหลายป้าย รวมทั้งขีดเขียน ทำลาย ให้เกิดความเสียหายในหลายพื้นที่เช่นกัน และหลังจากแถลงข่าวเสร็จตนจะได้นำหลักฐานที่ปรากฎไปแจ้งความเพื่อดำเนินคดีต่อไป

“ผมในฐานะผู้สมัครหน้าใหม่ มาลงสมัครครั้งนี้ต้องการแข่งขันตามกฎกติกา แต่การกระทำเช่นนี้ เป็นการกระทำที่ไม่น่ารัก และไม่ให้เกียรติ การที่ผมทำตามกฎ ซึ่งมีการกำหนดจำนวนป้ายไว้ แต่การที่ป้ายของผมมาถูกทำลายแบบนี้ ก็ยิ่งทำให้จำนวนป้ายหาเสียงของผมลดน้อยลง เรื่องนี้ไม่ควรเกิดขึ้นกับใครไม่ว่าจะเกิดกับผมหรือผู้สมัครท่านอื่นๆ” นพ.พลวิทย์ กล่าว


ที่มา : https://www.matichon.co.th/politics/news_3950365


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top