Thursday, 22 May 2025
พรรคก้าวไกล

‘หมออ๋อง’ จับพิรุธ กกต. เพิ่มวงเงินหาเสียง 4 เท่า ชี้!! พรรคที่จะได้ประโยชน์ คือ พรรครัฐบาล

‘หมออ๋อง’ จับพิรุธ กกต. เพิ่มกรอบวงเงินหาเสียง 4 เท่า เอื้อพรรครัฐบาลหรือไม่ จี้ทำงานสร้างบรรยากาศการเมืองเป็นธรรม เชื่อประชาชนรู้ทัน เลือกพรรคที่ตรงไปตรงมา

(15 ธ.ค. 65) ปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก เขต 1 พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ส่งหนังสือถามพรรคการเมืองถึงกรอบวงเงินค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งของผู้สมัคร ส.ส. และพรรคการเมือง ที่เพิ่มกรอบวงเงินหาเสียงเลือกตั้งสูงสุดกรณีสภาอยู่ครบวาระมากกว่า 4 เท่า ว่ากรอบวงเงินที่ กกต. ออกมามีความย้อนแย้งกับกฎการคำนวณค่าใช้จ่ายเลือกตั้ง 180 วัน ที่ออกมาก่อนหน้านี้หรือไม่ น่าสงสัยว่า กกต. อาจได้สัญญาณจากผู้มีอำนาจเหนือ กกต. ว่าพวกเขาอาจอยู่ครบอายุสภา

ปดิพัทธ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ กกต. กำหนดออกกฎ 180 วัน เจตนาเพื่อป้องปรามไม่ให้นักการเมืองใช้จ่ายเงินในการหาเสียงมาก โดยอ้างเหตุผลเรื่องความเสมอภาคและความเป็นธรรม แต่การกำหนดกรอบวงเงินของ กกต. รอบใหม่ที่ออกมานี้ ย้อนแย้งกับสิ่งที่ กกต. เคยอ้างหรือไม่ เพราะการกำหนดกรอบวงเงินในการหาเสียงของ ส.ส. เพิ่มขึ้นจาก 1.5 ล้านบาท เป็น 6.5 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นมากกว่า 4 เท่า ถือเป็นค่าใช้จ่ายที่มากกว่าเงินเดือน ส.ส. 4 ปีรวมกันเสียอีก

‘พิธา’ ลงพื้นที่ฉะเชิงเทรา เจอประชาชนร้องปัญหาที่ค้าขายตลาดเคหะบ้านโพธิ์ ยก ‘จิรัฏฐ์’ ทุ่มเทงานพื้นที่ ช่วยประสานแก้ไขรวดเร็ว ลั่น ส.ส.ก้าวไกล ทำงานเพื่อคนทุกรุ่น-พร้อมชนกลุ่มทุน

เมื่อวานนี้ (วันที่ 17ธันวาคม 2565 ) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา โดยช่วงเช้าได้ร่วมกิจกรรม ‘พายเรือเพื่อปางปะกง’ จากนั้นลงพื้นที่การเคหะบ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ร่วมกับจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ลงพื้นที่การเคหะบ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อรับฟังปัญหาของประชาชนและพูดถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาของพรรคก้าวไกล
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนที่อาศัยในการเคหะบ้านโพธิ์ได้ร้องเรียนปัญหาการเช่าพื้นที่เพื่อค้าขาย เนื่องจากตลาดนัดเคหะบ้านโพธิ์จะมีการประมูลใหม่ ทั้งที่ประชาชนใช้พื้นที่ค้าขายมานาน และรายได้จากการเช่า กรรมการชุมชนก็นำมาหมุนเวียนเพื่อดูแลพื้นที่ส่วนกลางของชุมชน หากเปลี่ยนผู้ประมูล อาจทำให้ประชาชนเดือดร้อนราว 400 คน เมื่อเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ประชาชนจึงร้องเรียนไปหลายหน่วยงานแต่ก็ถูกมองข้าม จนกระทั่งร้องเรียนไปยังจิรัฏฐ์ ซึ่งนำเรื่องเข้าคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างรวดเร็ว ทำให้การเคหะฯ ประกาศเลื่อนการประมูลออกไปเพื่อหาทางออกร่วมกัน

พิธา กล่าวว่า การทำงานของจิรัฏฐ์ซึ่งเป็น ส.ส. ในพื้นที่ ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า แม้พรรคก้าวไกลถูกมองว่าเป็นพรรคของคนรุ่นใหม่ แต่เราทำงานโดยสนใจชีวิตความเป็นอยู่ของคนทุกรุ่น ส.ส. ของเราจริงจังกับการทำงานทั้งในสภาและในพื้นที่ เชื่อว่าประชาชนได้เห็นแล้ว ว่าการมีผู้แทนที่ต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน มีมูลค่าที่สูงกว่าเงินหลักพันหลักร้อยที่อาจมีคนหยิบยื่นให้ในช่วงเลือกตั้ง และที่พรรคก้าวไกลกล้าชนกับกลุ่มทุน ก็เพราะเราเป็นพรรคที่อยู่ได้จากการสนับสนุนของประชาชน

‘โรม’ จี้ นายกฯ ตั้งเป็นวาระสำคัญของชาติ ช่วยเหลือ 31 ทหารเรือสูญหายแบบเร่งด่วน

(19 ธ.ค. 65) รังสิมันต์ โรม โฆษกและ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่เรือหลวงสุโขทัยที่อยู่ห่างจากชายฝั่งประมาณ 19 ไมล์ทะเล ประสบอุบัติเหตุคลื่นลมแรง จนทำให้มีกระแสน้ำเข้าเรือเป็นจำนวนมาก และได้จมลงใต้ทะเลแล้วในช่วงดึกของวันที่ 18 ธ.ค. ที่ผ่านมาว่า คงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น และคงจะต้องมีการสืบสวนถึงสาเหตุอย่างละเอียดกันต่อไปว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร 

แต่สิ่งที่สำคัญคือ ขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่าทหารเรืออีก 31 คนได้รับการช่วยเหลือ หรือมีความคืบหน้าอย่างไรแล้วบ้าง ซึ่งเท่ากับว่าพวกเขายังต้องรอคอยการช่วยเหลืออยู่กลางทะเล

ทุกนาทีที่ผ่านไป โอกาสที่ทหารเรือเหล่านี้จะมีชีวิตรอดกลับมาได้จะมีน้อยลงไปเรื่อย ๆ รัฐบาลจึงต้องทำงานแข่งกับเวลา ผมอยากเห็นทหารเรือทุกคนได้กลับบ้านไปพบครอบครัว ไม่อยากให้เกิดความสูญเสียเกิดขึ้น

‘ก้าวไกล’ ถาม ‘ทัพเรือ’ เหตุ ‘เรือสุโขทัย’ จม เพราะตั้งงบซื้อเรือดำน้ำ จนขาดงบซ่อมหรือไม่

(19 ธ.ค. 65) พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรค และ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่เรือหลวงสุโขทัยที่อยู่ห่างจากชายฝั่งประมาณ 19 ไมล์ทะเล ประสบอุบัติเหตุคลื่นลมแรง จนทำให้มีกระแสน้ำเข้าเรือเป็นจำนวนมาก และได้จมลงใต้ทะเลแล้วในช่วงดึกของวันที่ 18 ธ.ค. ที่ผ่านมาว่า…

เหตุการณ์นี้ถือเป็นเรื่องใหญ่มาก ที่ผ่านมาไม่เคยมีเรือรบหลักของกองทัพเรือไทยที่จมด้วยสภาพอากาศหรือเหตุขัดข้องทางเทคนิคมาก่อน เรือหลวงที่จมไปหลายลำก่อนหน้าล้วนถูกโจมตีจากอริราชศัตรู หรือถูกจมโดยกองทัพเองจากความขัดแย้งทางการเมือง

พิจารณ์ ระบุว่า ความเสียหายจากการสูญเสียครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงชีวิตของทหารประจำเรือ หรือมูลค่าเรือที่อยู่ในหลักหลายพันล้านบาท แต่ยังหมายถึงการสูญเสียศักยภาพการป้องกันประเทศด้วย เพราะเรือที่มีขีดความสามารถในระดับเดียวกับเรือสุโขทัย เหลือเพียง 4 ลำเท่านั้น

พิจารณ์ กล่าวอีกด้วยว่า ในฐานะที่ตนติดตามงบประมาณกองทัพ โดยเฉพาะโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือมาโดยตลอด ขอตั้งข้อสังเกตว่า เหตุที่เรือสุโขทัยจมลงจากพายุ เป็นเพราะความผิดพลาดของลูกเรือ ผู้บังคับการเรือ หรือจากความผิดปกติของระบบบังคับการต่างๆ ของเรือ เช่น เครื่องยนต์, เครื่องสูบน้ำ เป็นต้น เพราะหากเกิดจากสาเหตุหลัง ย่อมหมายความว่ากระบวนการบำรุงรักษาของกองทัพเรือมีปัญหา ซึ่งตนไม่แปลกใจ เพราะหลายปีที่ผ่านมาในการจัดทำงบประมาณ กองทัพเรือจัดสรรงบจำนวนมากเพื่อจัดซื้อเรือดำน้ำ, โครงการต่างๆ ที่สนับสนุนเรือดำน้ำ และยุทโธปกรณ์อื่นๆ จนต้องลดงบประมาณในส่วนอื่นๆ ลง

‘พิธา’ ถก ‘ทูตฟินแลนด์’ คุยความคืบหน้าปัญหาค้ามนุษย์แรงงานไทยเก็บเบอร์รี่ ด้าน ‘ฟินแลนด์’ ชี้ เร่งแก้ไขแล้ว แต่ยังพบการกระทำผิด

‘พิธา’ หารือ ทูตฟินแลนด์ คุยความคืบหน้าปัญหาค้ามนุษย์แรงงานไทยเก็บเบอร์รี่ เผย ทางฟินแลนด์เร่งแก้ไขแล้วแต่ยังพบการกระทำผิด ยืนยันพรรคก้าวไกลพร้อมดูแลแรงงานไทยทั่วโลก

(20 ธ.ค. 65) ที่รัฐสภา พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้พบกับ ยือรี แยร์วีอาโฮ (Jyri Järviaho) เอกอัครราชทูตฟินแลนด์ประจำประเทศไทย เพื่อหารือความคืบหน้าการแก้ปัญหาแรงงานเก็บเบอร์รี่ชาวไทยในฟินแลนด์ที่อาจเข้าข่ายการค้ามนุษย์ โดยได้นำตัวแทนจากคณะกรรมาธิการแรงงานของสภาผู้แทนราษฎรและตัวแทนแรงงานผู้เสียหายเข้าร่วมชี้แจงสภาพปัญหา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัญหาดังกล่าวถูกเปิดเผยในเดือนมกราคม 2565 เมื่อเกิดคดีข้าราชการระดับสูงของฟินแลนด์ต้องสงสัยรับสินบนบริษัทนายหน้าพาแรงงานไทยไปเก็บเบอร์รี่ จึงมีการสืบสวน พบว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ด้วย เนื่องจากมีการยึดพาสปอร์ตแรงงานไทย แรงงานได้รับค่าจ้างที่ไม่เป็นธรรม ไม่ตรงตามสัญญาการจ้าง 

โดยการหารือครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เข้าตรวจค้นบริษัทของผู้ต้องหาชาวไทยที่ถูกตำรวจฟินแลนด์จับกุม พบเอกสารจัดตั้งบริษัท ข้อมูลแรงงานไทย เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ ที่ผู้ต้องหาใช้ในการโกงผลไม้ป่า ทำให้แรงงานไทยจำนวนมากตกเป็นหนี้สินกับทางบริษัท โดยหลังจากนี้ ดีเอสไอจะส่งมอบหลักฐานให้ทางการฟินแลนด์ต่อไป

‘ก้าวไกล’ แนะ ‘นายกฯ’ จัดสรรงบกลาง เร่งช่วย 9 จังหวัด หลังพิษน้ำท่วมทำอ่วม

(21 ธ.ค. 65) นิติพล ผิวเหมาะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ สัดส่วนสิ่งแวดล้อม พรรคก้าวไกล กล่าวถึงเหตุการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดทางภาคใต้ว่า ขณะนี้ภาคใต้กำลังได้รับผลกระทบจากมรสุมตะวันออก ทำให้เกิดคลื่นลมแรงและฝนตกหนักจนเกิดเหตุน้ำท่วมฉับพลัน ลมพัดแรง น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะใน 9 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ได้แก่ สุราษฎร์ธานี, นครศรีธรรมราช, ตรัง, พัทลุง, สตูล, สงขลา, ปัตตานี, ยะลา, นราธิวาส รวมจำนวนเบื้องต้น 66 อำเภอ 271 ตำบล 1,425 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 64,626 ครัวเรือน และมีผู้เสียชีวิต 3 ราย ขณะนี้แม้น้ำจะเริ่มลดลง แต่ก็ยังมีระดับน้ำสูงในหลายพื้นที่ จึงยังต้องการความช่วยเหลืออีกมากทั้งในสถานการณ์เฉพาะหน้าและการเยียวยาฟื้นฟูหลังเหตุการณ์

นิติพล กล่าวว่า นอกจากนี้ มีรายงานจากกรมปศุสัตว์ว่าพื้นที่น้ำท่วม 5 จังหวัดได้แก่ ชุมพร, นครศรีธรรมราช, พัทลุง, สงขลา และปัตตานี มีสัตว์ที่ได้รับผลกระทบ 146,020 ตัว ส่วนใหญ่เป็นสัตว์ขนาดใหญ่ แต่ตัวเลขจริงคงมากกว่านั้นเพราะบางส่วนอาจอพยพไม่ทัน รวมถึงหลังจากน้ำลด ยังมีความเสี่ยงเรื่องโรคระบาดในสัตว์ จึงขอฝากไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้วางแผนรับมือเหตุการณ์และควรมีการตั้งงบชดเชยลงมาโดยเร็วเพื่อบรรเทาผลกระทบ เพราะโรคระบาดในสัตว์ไม่ใช่แค่เรื่องของสัตว์ แต่จะกระทบต่อรายได้พี่น้องเกษตรกร โดยเฉพาะผู้เลี้ยงหมูและวัวเพื่อจำหน่าย

‘ก้าวไกล’ โต้ ส.ว. อภิปรายบิดเบือน ยื้อ!! ประชามติแก้ รธน.ไปอีก 45 วัน

‘ณัฐพงษ์’ โต้ ส.ว. อภิปรายบิดเบือน ยื้อประชามติแก้ รธน.ไปอีก 45 วัน ยัน!! แจงเหตุผลชัดเจนแล้ว ถูกต้องตามข้อบังคับ ไม่มีเหตุต้องเตะถ่วงอีก

(21 ธ.ค. 65) ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล แถลงคัดค้านกรณีเมื่อวานนี้ (20 ธ.ค.) ที่ประชุมวุฒิสภามีมติมติส่งเรื่องคณะรัฐมนตรี (ครม.) ดำเนินการออกเสียงประชามติเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรรมนูญ ขอให้กรรมาธิการพิจารณาศึกษาญัตติดังกล่าว ได้ขยายเวลาการพิจารณาออกไป 45 วัน จากระยะเวลาเดิมที่ขอพิจารณา 30 วันซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 20 ธ.ค. 

นายณัฐพงษ์ กล่าวว่าที่ประชุม ส.ว.ได้มีการลุกขึ้นอภิปปราย โดยนายสมชาย แสวงการ ส.ว. ที่ระบุข้อที่เป็นลักษณะบิดเบือนไม่เป็นข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับตน และนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทยในฐานะผู้เสนอญัตติ ว่าผู้เสนอญัตติยังไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ตนเองเสนอมานั้นถูกต้องหรือไม่ โดยระบุว่าเมื่อ 6 ธ.ค. ที่ผ่านมา ตนได้เข้าชี้แจงต่อกรรมาธิการชุดนี้ โดยแถลงข้อกังวล 3 ข้อของกรรมาธิการฯ ซึ่งเชื่อว่าข้อเท็จจริงเหล่านี้จะเป็นเหตุผลที่เพียงพอที่ทำให้ที่ประชุมวุฒิสภาที่ผ่านมา ควรลงมติในญัตติดังกล่าวได้แล้ว ไม่ใช่ขยายเวลาไปอีก 45 เพื่อเป็นการเตะถ่วงหรือไม่ ทั้งที่ไม่มีเหตุผลใดต้องศึกษาเพิ่มเติมอีก

นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ที่มาที่ไปขอญัตตินี้ สืบเนื่องจากคำวินิจฉัยของรัฐธรรมนูญ ว่ารัฐสภามีอำนาจหน้าที่จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ แต่ต้องให้ประชาชนลงประชามติเสียก่อน ว่าประสงค์จะจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ การเสนอญัตติดังกล่าวจึงเป็นไปตามข้อบังคับ ไม่เกี่ยวข้องกับว่าเนื้อหาของการแก้ไขรัฐธรรมนูญนี้จะเป็นอย่างไร

“คณะกรรมาธิการฯ มีความหวาดระแวงว่า การที่พรรคก้าวไกลเสนอญัตตินี้ เพื่อจะแก้ไขเนื้อหาหมวด 1 หรือหมวด 2 หรือไม่ ซึ่งผมได้ปฏิเสธอย่างแข็งขัน และยืนยันในเหตุผลดังที่กล่าวไปแล้ว ว่าไม่เกี่ยวข้องกับกรอบการแก้ไขเพิ่มเติมแต่อย่างใด เพราะเป็นคนละกระบวนการกันกับการทำประชามติ” นายณัฐพงษ์ กล่าว

‘พิธา’ โชว์ภูมิพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล ชี้ ควรเพิ่มงบท้องถิ่น - ใช้เทคโนโลยีลดเหลื่อมล้ำ

‘พิธา’ โชว์วิสัยทัศน์เศรษฐกิจดิจิทัล ชี้จีดีพีไทยโตขึ้นแต่ยังรั้งกลางตารางอาเซียน ชูหลักคิด ‘ก้าวไกล’ ตั้งเป้าหมายไประดับโลก ต้องเริ่มต้นจากท้องถิ่น

(22 ธ.ค. 65) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล ร่วมแสดงวิสัยทัศน์นโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลในหัวข้อ ‘เทรนด์ใหม่ของเศรษฐกิจดิจิทัลและยุทธศาสตร์ด้านนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน’ ร่วมกับแกนนำพรรคการเมืองใหญ่ 5 พรรค ในงานเสวนา “Next Step Thailand 2023 ทิศทางแห่งอนาคต” ความตอนหนึ่งว่า เศรษฐกิจดิจิทัลไทยในปัจจุบันมีมูลค่ากว่า 1.2 ล้านล้านบาท คาดการณ์การเติบโตอยู่ที่ 15% ต่อปี โดยมีการลงทุนจากภาคเอกชนอยู่ที่ราว 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่ดีเมื่อเทียบกับการเติบโตทางเศรษฐกิจทั้งระบบ ที่จีดีพีคาดการณ์การเติบโตอยู่ที่ประมาณ 3% แต่กระนั้นหากเทียบกับการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลในอาเซียนด้วยกัน จะพบว่าประเทศไทยอยู่ที่อันดับ 6 ของอาเซียน ทั้งในด้านคาดการณ์การเติบโตและปริมาณการลงทุน และเมื่อหันมาดูด้านงบประมาณที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจดิจิทัล จะพบว่ารัฐบาลได้ให้งบประมาณด้านแผนงานยุทธศาสตร์เศรษฐกิจดิจิทัลเพียง 980 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.03% ของงบประมาณทั้งหมด ส่วนงบประมาณด้านการพัฒนาสมาร์ทซิตี้ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 7.36 พันล้านบาท ส่วนใหญ่กลับไปอยู่ที่กรมโยธาธิการและผังเมืองของกระทรวงมหาดไทย ถึง 7.16 พันล้านบาท ซึ่งไม่ตอบโจทย์ในการสร้างยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจดิจิทัลโดยตรง

'ครูธัญ' ชี้!! สังคมอย่าใช้อำนาจกดดัน 'ครูสาว' บูลลี่ 'ป๋าเปรม' ควรช่วยครูให้เข้าใจความหลากหลายทางเพศทั้งระบบ

(23 ธ.ค. 65) ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่มีครูท่านหนึ่งพูดถึง พล.อ.เปรม ในชั้นเรียนในฐานะตัวอย่างเมื่อพูดถึงการปกครองในระบอบอำนาจนิยมและมีการพาดพิงถึงประเด็นเรื่องเพศวิถี ตนเห็นว่าสิ่งที่ครูท่านนั้นตั้งข้อสังเกตในประเด็นเพศวิถีและข้อเท็จจริงบางอย่างเป็นเรื่องที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์จริง และไม่เห็นด้วยกับคำสั่งของนายกรัฐมนตรี ผู้ช่วยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษา และขบวนการจัดตั้งของสื่อบางฝ่าย ที่ทำการล่าแม่มด กดดัน ลงโทษ ครูท่านนั้นอย่างไม่เป็นธรรม

ธัญวัจน์ กล่าวว่า การพูดถึง พล.อ.เปรม ในลักษณะอคติทางเพศเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง และข้อเท็จจริงบางอย่างที่เป็นลักษณะเรื่องเล่านั้นควรมีการบอกนักเรียนก่อนทุกครั้งว่ายังไม่ใช่ข้อเท็จจริงที่ได้รับการพิสูจน์ แต่การแก้ปัญหาของกรณีนี้ควรเป็นการตักเตือน และอบรมทัศนคติครูเรื่องการเข้าใจความหลากหลายทางเพศทั้งระบบ ไม่ใช่ดำเนินการทางนิติสงคราม ทั้งทางกฎหมายและทางวินัย รวมทั้งใช้การกดดันทางสังคมอย่างการล่าแม่มดแบบที่บางฝ่ายกระทำอยู่ในปัจจุบัน

ธัญวัจน์ ตั้งคำถามว่า การที่มวลชนและสื่อบางฝ่ายหยิบยกกรณีนี้ขึ้นมาล่าแม่มดครูท่านนี้ เป็นเพราะต้องการให้ชั้นเรียนตระหนักถึงความเข้าใจความหลากหลายทางเพศจริง หรือเป็นไปเพื่อปิดปากทุกคนที่เห็นต่างจากตนเองกันแน่ ด้วยการกดดันให้ใช้กลไกอำนาจรัฐเข้าเล่นงาน

ถ้าผู้ที่ออกมาใช้โจมตีครูท่านนี้เห็นความสำคัญของการพิสูจน์ข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ สิ่งที่เราควรส่งเสริมคือการเปิดให้ห้องเรียนเป็นพื้นที่ปลอดภัย มีการถกเถียงแลกเปลี่ยนข้อมูลกันทุกด้านและหักล้างกันด้วยเหตุผล ไม่ใช่การใช้อำนาจปิดปาก สร้างความกลัว และสถาปนาความจริงเพียงแบบเดียวในแบบที่ผู้มีอำนาจต้องการให้เชื่อ

และจากกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ สั่งการ ผบ.ตร. ให้ดำเนินคดีการปลุกปั่นสร้างความแตกแยก เราอยากถามกลับไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ว่าใครกันแน่ที่กำลังสร้างความแตกแยกในสังคม ระหว่างครูคนหนึ่งที่สอนในชั้นเรียนกับสื่อและมวลชนที่ทำการล่าแม่มด เคลื่อนไหวกดดันให้ประเด็นนี้กลายเป็นประเด็นทางการเมือง

การทำให้การศึกษาไทยมีอนาคต ต้องทำความเข้าใจเรื่องความหลากหลายทางเพศ ควบคู่กับการสอนประวัติศาสตร์ที่สร้างการถกเถียงไม่ใช่รับข้อมูลข้างเดียว แต่การล่าแม่มด กำจัดผู้เห็นต่างที่มีความเชื่อต่างจากตัวเอง และใช้อำนาจเข้าข่มขู่คุกคามมากกว่าความเป็นจริง สิ่งเหล่านี้จะยิ่งปลูกฝังวัฒนธรรมอำนาจนิยมในโรงเรียน และจะยิ่งทำให้การศึกษาของชาติล้าหลัง ไม่ทันโลก

‘โรม’ จี้ ‘ยุติธรรม’ ดำเนินคดีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ คาด!! มีส่วนช่วย ‘ประสิทธิ์ เจียวก๊ก’ หลบหนี

(23 ธ.ค. 65) รังสิมันต์ โรม ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ตั้งคำถามต่อการดำเนินงานของกระทรวงยุติธรรมหลังจากที่กรณีที่นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก สามารถไขกุญแจตรวนและพยายามหลบหนีในขณะถูกคุมตัวมาที่ศาล โดยรังสิมันต์ ตั้งข้อสังเกตว่า ในกระบวนการควบคุมตัวปกติ ราชทัณฑ์ไม่น่ามีโอกาสหลบหนีไปได้

“ตัวผมเองมีโอกาสใช้บริการจากเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์บ่อยครั้ง แนวทางการปฏิบัติในวันที่ผมถูกควบคุมตัว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์มีความเคร่งครัดมาก จนแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหลบหนี” รังสิมันต์กล่าว

ทั้งนี้ รังสิมันต์ ตั้งข้อสังเกตว่าความหละหลวมที่เกิดขึ้นต้องดำเนินการสอบสวนเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ใน 2 ประเด็น คือ กุญแจโซ่ตรวนเป็นกุญแจที่ทำมาจากต่างประเทศ มีมาตรฐานสูง ซึ่งคนที่มีกุญแจสำรองมีแต่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ นายประสิทธิ์ได้รับกุญแจมาได้อย่างไร อีกประเด็นคือการควบคุมตัวการควบคุมตัว เป็นไปได้อย่างไรที่เป็นเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ที่ใส่สูท ซึ่งนี่เป็นสัญญาณนัย ๆ หรือเปล่าที่ไม่ได้ใช้มาตรฐานเดียวกันกับนักโทษคนอื่น ๆ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top