‘พิธา’ ถก ‘ทูตฟินแลนด์’ คุยความคืบหน้าปัญหาค้ามนุษย์แรงงานไทยเก็บเบอร์รี่ ด้าน ‘ฟินแลนด์’ ชี้ เร่งแก้ไขแล้ว แต่ยังพบการกระทำผิด

‘พิธา’ หารือ ทูตฟินแลนด์ คุยความคืบหน้าปัญหาค้ามนุษย์แรงงานไทยเก็บเบอร์รี่ เผย ทางฟินแลนด์เร่งแก้ไขแล้วแต่ยังพบการกระทำผิด ยืนยันพรรคก้าวไกลพร้อมดูแลแรงงานไทยทั่วโลก

(20 ธ.ค. 65) ที่รัฐสภา พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้พบกับ ยือรี แยร์วีอาโฮ (Jyri Järviaho) เอกอัครราชทูตฟินแลนด์ประจำประเทศไทย เพื่อหารือความคืบหน้าการแก้ปัญหาแรงงานเก็บเบอร์รี่ชาวไทยในฟินแลนด์ที่อาจเข้าข่ายการค้ามนุษย์ โดยได้นำตัวแทนจากคณะกรรมาธิการแรงงานของสภาผู้แทนราษฎรและตัวแทนแรงงานผู้เสียหายเข้าร่วมชี้แจงสภาพปัญหา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัญหาดังกล่าวถูกเปิดเผยในเดือนมกราคม 2565 เมื่อเกิดคดีข้าราชการระดับสูงของฟินแลนด์ต้องสงสัยรับสินบนบริษัทนายหน้าพาแรงงานไทยไปเก็บเบอร์รี่ จึงมีการสืบสวน พบว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ด้วย เนื่องจากมีการยึดพาสปอร์ตแรงงานไทย แรงงานได้รับค่าจ้างที่ไม่เป็นธรรม ไม่ตรงตามสัญญาการจ้าง 

โดยการหารือครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เข้าตรวจค้นบริษัทของผู้ต้องหาชาวไทยที่ถูกตำรวจฟินแลนด์จับกุม พบเอกสารจัดตั้งบริษัท ข้อมูลแรงงานไทย เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ ที่ผู้ต้องหาใช้ในการโกงผลไม้ป่า ทำให้แรงงานไทยจำนวนมากตกเป็นหนี้สินกับทางบริษัท โดยหลังจากนี้ ดีเอสไอจะส่งมอบหลักฐานให้ทางการฟินแลนด์ต่อไป

พิธา กล่าวว่า จากที่ได้หารือกับทูตฟินแลนด์ ได้ทราบว่าทางฟินแลนด์มีความพยายามแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง และได้ออกกฎหมายคุ้มครองสิทธิแรงงานเก็บเบอร์รี่มากขึ้นแล้วตั้งแต่ปี 2564 แต่ตัวแทนแรงงานที่ได้รับผลกระทบซึ่งเข้าชี้แจงกับเอกอัครราชทูตฟินแลนด์ในวันนี้ ก็มีทั้งจากกรณีปี 2556 และกรณีจากในปีปัจจุบัน แสดงให้เห็นว่ายังมีการไม่ทำตามกฎหมายดังกล่าวอยู่ ดังนั้น หากสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ก็จะเป็นประโยชน์กับทั้ง 2 ประเทศ และขอยืนยันว่าพรรคก้าวไกลพรัอมดูแลแรงงานไทยที่อยู่ทั่วโลก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ กลุ่ม Ber-Ex ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มแรงงานไทยที่ได้รับผลกระทบ ได้ร้องเรียนไปยังกรรมาธิการแรงงานที่ สุเทพ อู่อ้น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลเป็นประธาน เพื่อประสานพูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการหาทางออกและชดเชยค่าเสียหายให้แรงงาน เช่น ประสานไปยังกระทรวงแรงงานให้จ่ายค่าชดเชยเบื้องต้นแก่แรงงานที่ได้รับผลกระทบคนละ 30,000 บาท และเรียกร้องไปยังกรมการจัดหางานให้ประสานรับเรื่องร้องเรียนจากผู้เสียหายอีกจำนวนมาก โดยเฉพาะในภาคอีสาน ที่ไม่สามารถร้องเรียนได้ด้วยตัวเอง