Monday, 19 May 2025
ก้าวไกล

‘เทพไท’ เชื่อ!! หากการเมืองพลิกขั้ว 'ก้าวไกล' ไม่จับ ‘เพื่อไทย’ เพราะหวังแบ่งขั้วชัด และมั่นใจได้เปรียบในศึก ‘เลือกตั้ง’

(7 มิ.ย. 67) นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า “ก้าวไกล” ประกาศไม่จับมือ “เพื่อไทย” เป็นรัฐบาล มีแต่ได้กับได้

การที่นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกลประกาศชัดว่า ถ้านายเศรษฐา ทวีสิน หลุดจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และมีโอกาสพลิกขั้ว พรรคก้าวไกลจะไม่จับมือกับพรรคเพื่อไทยร่วมจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเป็นการประกาศท่าทีการเมืองที่ชัดเจนมาก เพราะการแสดงจุดยืนไม่จับมือกับพรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาล ส่งผลดีต่อพรรคก้าวไกล หลายประการ คือ

1.เป็นการตอกย้ำจุดยืนที่ชัดเจน นับว่าเป็นจุดแข็งของพรรคก้าวไกล ที่ไม่เคยตระบัดสัตย์ ซึ่งเป็นการกระทบไปยังพรรคเพื่อไทย ที่ไม่รักษาสัญญาประชาคมตอนหาเสียง ที่ให้ไว้กับประชาชน

2.การประกาศไม่จับมือกับพรรคเพื่อไทย ทำให้เกมต่อรองอำนาจระหว่างพรรคเพื่อไทยกับกลุ่มอนุรักษ์นิยมชัดเจนขึ้น โดยพรรคเพื่อไทยไม่สามารถนำไปต่อรองกับกลุ่มอนุรักษ์นิยมได้ ถ้าดีลล่ม พรรคเพื่อไทยจะอ้างไปจับมือกับพรรคก้าวไกลตั้งรัฐบาลไม่ได้

3.การประกาศไม่จับมือกับพรรคเพื่อไทย ถ้าหากการเมืองถึงทางตัน จำเป็นต้องยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ พรรคก้าวไกลมีความพร้อม และได้เปรียบมากกว่าพรรคการเมืองทุกพรรค เพราะการเลือกตั้งทุกครั้ง พรรคก้าวไกลใช้เงินทุนในการหาเสียงน้อยที่สุด ในขณะที่พรรคการเมืองอื่น ใช้เงินทุนมหาศาล ระดับหลัก 1,000 ล้านบาท ถึง10,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการซื้อเสียง

4.กระแสทางการเมืองในตอนนี้ ถ้าประเมินจากผลโพลของสำนักต่างๆ พรรคก้าวไกลมีกระแสความนิยมสูงลิ่ว นำพรรคการเมืองอื่นหลายช่วงตัว ถ้าเลือกตั้งเร็วขึ้นเท่าไหร่ พรรคก้าวไกลได้เปรียบมากขึ้นเท่านั้น

5.ถ้าผลการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ มีมติยุบพรรคก้าวไกลจริง ถ้ามีการยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ขึ้นมา คะแนนสงสาร คะแนนความเห็นใจที่ถูกรังแกทางการเมือง จะเทให้พรรคการเมืองใหม่ ที่มาจากพรรคก้าวไกลแบบแลนด์สไลด์

6.เป็นการตอบข้อสงสัยของสังคมที่เข้าใจว่าพรรคก้าวไกลเป็นพรรคฝ่ายค้าน ที่ค้านไม่จริง แต่เป็นพรรคฝ่ายคอย เพื่อรอร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย มีดีลฮ่องกงกับนายทักษิณ ชินวัตร เมื่อประกาศชัดเช่นนี้ เป็นการตอบคำถามกับข้อสงสัยกับสังคมได้ชัดเจน

“ผมคิดว่าแกนนำของพรรคก้าวไกล ได้คิดอย่างรอบคอบแล้วว่า การประกาศจุดยืนไม่จับมือกับพรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาล มีแต่ได้กับได้ เป็นการตอกย้ำการแบ่งขั้วทางการเมืองที่ชัดเจน ได้ประกาศเป็นคู่ต่อสู้ทางการเมือง ในสนามเลือกตั้งครั้งต่อไป” นายเทพไท ระบุ

‘ธนกร’ ติง ‘พิธา’ ดื้อคำสั่งศาลฯ แถแถลง 9 ข้อสวน ชี้!! บิดเบือนแบบนี้จะเป็นผู้นำประเทศที่ดีได้อย่างไร 

(10 มิ.ย. 67) นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์กรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาพรรคก้าวไกล แถลง 9 ข้อต่อสู้คดียุบพรรคก้าวไกล โดยมองว่า เป็นการไม่เคารพคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ที่ได้ออกมาเตือนก่อนล่วงหน้าแล้วว่าไม่ควรมีการชี้นำกระทบความเชื่อมั่นในกระบวนการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นข้อสำคัญที่ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงต้องยึดมั่น นั่นคือการเคารพกฎหมาย เคารพคำสั่งศาล

การออกมาแถลงข้อต่อสู้คดีควรยื่นต่อศาลโดยตรง ไม่ใช่มาแถลงต่อสื่อมวลชน ต่อประชาชน มากกว่านั้นยังอ้างข้อกฎหมายแบบบิดเบือนเอาดีเข้าตัว เอาชั่วใส่คนอื่นแบบข้าง ๆ คู ๆ อ้างประชาธิปไตยสารพัด ทั้งเรื่องศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจยุบพรรค ซ้ำยังอ้างว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. มีกระบวนการยื่นคำร้องไม่ชอบด้วยกฎหมายอีก ซึ่งนายพิธาและพรรคก้าวไกล มีความกังวลค่อนข้างหนักเรื่องคดีจนทำให้พาลไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม กระบวนการกฎหมายทั้งระบบ แบบนี้จะเป็นผู้นำประเทศที่ดีได้อย่างไร

เมื่อถามว่า นายพิธาอ้างว่า กกต. ยื่นศาลโดยไม่แจ้งให้พรรคได้ชี้แจงนั้น นายธนกร กล่าวว่า ประธาน กกต. ได้ยืนยันการดำเนินการของ กกต. แล้วว่าไม่ได้ใช้ระเบียบสืบสวนไต่สวน แต่เป็นไปตามระเบียบว่าด้วยการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งไม่จำเป็นต้องแจ้งให้พรรคก้าวไกลทราบ เพราะมีหลักฐานตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ 

ทั้งนี้มองว่า ในชั้นกระบวนการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญเอง ก็เปิดโอกาสให้พรรคก้าวไกลได้ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาตามที่พรรคขอขยายเวลาถึง 3 ครั้ง ครั้งละ 15 วัน จนครบกำหนดยื่นคำชี้แจงแล้ว ถือว่าคดีนี้ กกต. และศาล ได้ดำเนินการครบถ้วนตามกระบวนการยุติธรรม หลังจากนี้ก็เป็นดุลยพินิจของศาล ผลจะออกมาเป็นบวกหรือลบ พรรคก้าวไกลควรยอมรับน้อมรับคำตัดสิน

“การที่นายพิธาและก้าวไกลออกมาแถลงอ้างว่าพรรคการเมืองเป็นส่วนสำคัญของระบอบประชาธิปไตยเท่านั้นจะอ้างไม่ได้เพราะถ้าพรรคการเมืองทำผิดกฎหมายก็ต้องยอมรับข้อเท็จจริงตรงนี้ การอ้างและชี้นำสังคม ว่าศาลไม่มีอำนาจ กกต. ยื่นโดยไม่ชอบ เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงด้วยคำพูดสวยหรูให้ตัวเองดูดี แต่เป็นการก้าวล่วงและไม่เคารพคำสั่งศาล แบบนี้จะเป็นผู้นำประเทศที่ดีได้อย่างไร” นายธนกร ระบุ

‘ผู้ช่วย สส.ก้าวไกล’ ถูกจับกุมฐาน ‘กรรโชกทรัพย์’ ด้าน สส.ปัด!! แค่คนทดลองงาน สั่งขับพ้นทีมแล้ว

(12 มิ.ย.67) ตำรวจเข้าจับกุมนายบรรณสิทธิ์ วงษ์นาค ผู้ช่วย สส. เชตวัน เตือประโคน พรรคก้าวไกล ปทุมธานี ในความผิดฐาน ‘ร่วมกันกรรโชกทรัพย์,ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง’ ได้ที่ ริมถนนมิตรภาพ ทล.2 ช่วง กม.50 ฝั่งขาเข้า กทม. ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา

เจ๊จุก คลองสาม โพสต์ข้อความพร้อมภาพ สส.และผช.สส.ลงพื้นที่พบประชาชน ผ่าน X (ทวิตเตอร์) บัญชี @jjookklong3 ถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า

ในฐานะคนคลองสาม วอนเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาช่วยคุ้มครองดูแลด้วยค่ะ

ทุกวันนี้รู้หน้าไม่รู้ใจ แบ่งแยกยากขึ้นไปทุกทีว่าคนไหนดีย์ คนไหนโจร เดี้ยนและชาวบ้านละแวกนี้หวาดผวาไปหมดแล้ว จะมั่นใจได้ยังไงว่ามาช่วยเหลือจริง ๆ ไม่ได้มาขู่กรรโชกทรัพย์ค่ะ

ขณะเดียวกัน ทันทีที่ข่าวดังกล่าวแพร่สะพัด ด้าน นายเชตวัน เตือประโคน สส.ปทุมธานี พรรคก้าวไกล ก็ได้โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงกรณีมีผู้อ้างตัวเป็นผู้ช่วย สส. ลักพาตัวและรีดไถทรัพย์บุคคลอื่นตามข่าว ว่า กรณี นายบรรณสิทธิ์ วงษ์นาค อ้างเป็นผู้ช่วย สส. ของผม กระทำความผิด ถูกจับกุมข้อหา “ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง” ตามที่ปรากฏทางออนไลน์นั้น

ผมต้องขอโทษผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำของนายบรรณสิทธิ์ รวมถึงขอโทษผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกลทุกคนต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในแง่ข้อเท็จจริง ขอชี้แจงว่าบุคคลคนนี้ไม่ได้เป็นผู้ช่วย สส. ของผม ไม่ได้มีตำแหน่งในกรรมาธิการใด ๆ เป็นเพียงคนทำงานในพื้นที่ปทุมธานี ซึ่งอยู่ในช่วงการทดลองงานด้วย ซึ่งการมีพฤติกรรมตามที่ถูกจับกุม ไม่ได้เป็นการสั่งการของผม และผมไม่เคยรับรู้มาก่อนแต่อย่างใด

ผมได้พูดคุยกับรองสารวัตรทางหลวงนครราชสีมา ซึ่งเป็นผู้สกัดจับ รวมถึงพูดคุยกับรองผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองสุรินทร์ ผู้เป็นเจ้าของคดี เพื่อให้ความร่วมมือในการสืบสวน ทำให้ทราบถึงพฤติกรรมของบุคคลดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 ยืนยันว่า จากการสืบสวนการกระทำของนายบรรณสิทธิ์ เป็นพฤติกรรมส่วนตัว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับผม และไม่มีความจำเป็นใดที่ต้องเรียกผมไปให้ปากคำ

ทั้งนี้ ผมได้สั่งให้บุคคลคนนี้ออกจากทีมทันทีหลังจากทราบข่าว กรณีที่เอาชื่อผมไปแอบอ้าง คงไม่ติดใจอะไร แต่ในส่วนของพรรค ก็เป็นการพิจารณาของพรรคว่าจะดำเนินการอย่างไรหรือไม่ต่อกรณีที่ทำให้พรรคเสียหาย เรื่องที่เกิดขึ้น ถือเป็นบทเรียนของผมและพรรคก้าวไกลในการรับคนมาเป็นทีมงานต่าง ๆ ในอนาคต

'ก้าวไกล' สะอึก!! ถูกปาดหน้าคะแนนนิยมสมรสเท่าเทียม หลัง ‘โพล’ เช็กเสียงสังคม ‘เพื่อไทย’ ผู้ผลักดันเป็นรูปธรรม

(13 มิ.ย.67) ผศ.ดร.สานิต ศิริวิศิษฐ์กุล หัวหน้าแผนกวิจัย สำนักวิจัย มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ เปิดเผยว่า จากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน จำนวน 1,100 คน ในช่วงวันที่ 3-6 มิ.ย.67 ถึงกรณีสมรสเท่าเทียม โดยมีพรรคเพื่อไทย เป็นผู้ผลักดัน ทั้งนี้การสำรวจจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศพบว่าสังคมไทยให้การยอมรับความหลากหลายทางเพศ และมีความเห็นด้วย กับการผลักดันกฎหมายสมรสเท่าเทียมของพรรคเพื่อไทย และคู่รักหลากหลายทางเพศควรได้รับสิทธิตามกฎหมายเช่นเดียวกับสิทธิที่คู่สมรสชายหญิง

โดยการสำรวจนั้นได้ถามถึงว่า เห็นด้วยหรือไม่กับการผลักดันกฎหมายรับรองการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมของพรรคเพื่อไทย โดยผลสำรวจ พบว่า เห็นด้วย 82.5% ไม่แน่ใจ 8.9% และ ไม่เห็นด้วย 8.5%

นอกจากนั้นยังได้สำรวจต่อว่ายอมรับได้หรือไม่หากมีเพื่อนร่วมงานเป็นบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQIA+) พบว่า ยอมรับได้ 91.4% และไม่สามารถยอมรับได้ 8.6% พร้อมทั้งถามต่อว่า หากมีสมาชิกในครอบครัวเป็นบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQIA+) พบว่า ยอมรับได้ 85.9% ไม่สามารถยอมรับได้ 7.9% และยังไม่แน่ใจ 6.2%

พร้อมทั้งถามถึงกรณีที่คู่รักหลากหลายทางเพศควรได้รับสิทธิตามกฎหมายเช่นเดียวกับสิทธิที่คู่สมรสชายหญิงได้รับหรือไม่ พบว่า ควรได้รับสิทธิทุกอย่างเหมือนกัน 56.2% ควรได้รับสิทธิบางอย่าง 38.4% และ ไม่ควรได้รับสิทธิใด ๆ 5.5%

วัดปรอท 18 มิ.ย. การเมืองเดือดทะลุ 112 'ก้าวไกลร่อแร่-ทักษิณจนมุม-เศรษฐา 50/50'

(15 มิ.ย. 67) ไม่ได้เป็นโลกาวินาศอะไรที่ไหนหรอก!! แต่เป็นวันที่จะบอกถึงทิศทาง (การเมือง) ประเทศไทยได้ในระดับพอสมควร...

'เล็ก เลียบด่วน' ขอเลาะเลียบล้วงลึกบ้างไม่ลึกบ้างมาเล่าสู่กันฟัง พอเป็นสังเขป ถึงทิศทาง 4 คดีในวันอังคารที่ 18 มิ.ย.ดังต่อไปนี้...

1) คดีเลือกสมาชิกวุฒิสภา - ศาลรัฐธรรมนูญจะลงมติวินิจฉัยว่า มาตรา 36,40,41 และ 42 ว่าด้วยการแนะนำตัว และการเลือกสว.3ระดับ (อำเภอ-จังหวัด-ประเทศ) ที่ระบุว่า “โดยจะลงคะแนนเลือกตนเองด้วยก็ได้” ขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 107 ที่ว่าด้วยการเลือก-การได้มาซึ่งสว.หรือไม่  เพราะผู้ร้องเห็นว่าการเขียนว่า “โดยจะลงคะแนนเลือกตนเองก็ได้” น่าจะเป็นการเปิดทางให้มีการสมยอมหรือฮั้วกัน...

เมื่อนั่งทางในประสานทางนอกแล้ว...ความน่าจะเป็นไป ดูเหมือนทุกอย่างไปต่อได้...แต่ต้องขอบอกว่าสุดท้ายแล้วการเลือกสว.จะไปต่อถึงจุดหมายปลายทางได้แบบฟ้าจรดทราย แฮปปี้ เอ็นดิ้งหรือไม่นั้น...ยังบ่แน่ดอกนาย เพราะเนื้อในมันเละตุ้มเป๊ะ...

2) คดียุบพรรคก้าวไกล - มีการเม้าท์มอยกันไม่น้อยว่า พรรคก้าวไกลอาจชนะฟาวล์รอดยุบพรรค เพราะ กกต.บกพร่องข้ามขั้นตอนการสอบสวน ดังที่พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จัดชุดใหญ่เมื่อ 9 มิ.ย. งานนี้ต้องขอบอกว่า น่าจะเป็นการประเมินและสำคัญผิด การที่ศาลรธน. ขอให้กกต.ส่งพยานข้อมูลเพิ่มเติมไปเมื่อ 12 มิ.ย.นั้น ก็เพื่อความสมบูรณ์ตามวิธีพิจารณาคดี...

ต้องย้ำเหมือนที่ท่าน กกต. 'ปกรณ์ มหรรณพ' ย้ำนั่นล่ะว่า การร้องยุบก้าวไกลหนนี้เป็นไปตามมาตรา 92 ของพรป.การเมืองคือ 'กรรมการ' กกต.ร้องเอง ไม่ใช่ตามมาตรา 93 ที่ 'นายทะเบียน' (เลขาธิการกกต.) พบเห็นต้องไปสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานนำเสนอกรรมการกกต.

รายการนี้พรรคก้าวไกลก็จะรู้ชะตาตัวเองว่าไปไม่รอด...แต่ที่กำลังต่อสู้อยู่นั้นเป็นยุทธวิธี 'โลกล้อมประเทศ' เอาสังคมกดดัน กกต.ตามสูตรเดิมๆ แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ความจริง..!!

3) คดีนายกฯ เศรษฐา - วันที่ 18 มิ.ย.ก็จะมีการพิจารณา และกำหนดรายละเอียดการไต่สวน...จากนั้นคาดว่าเดือนส.ค. ก็จะมีคำตอบว่า...เศรษฐา ทวีสิน กระทำผิด/ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง จนสิ้นคุณสมบัติรัฐมนตรีเป็นการเฉพาะตัวหรือไม่...มีเวลาที่จะเจาะลึกกันต่อ...วันนี้ตรวจสอบอาการไข้แล้วโอกาสรอด/ไม่รอด..50/50 ครับ..

4) คดีทักษิณ ชินวัตร – กรณีข้อหาความผิดม.112 คดีนี้ล่าสุดเมื่อ 4 มิ.ย.ทีมทนายทักษิณขอความเป็นธรรมครั้งที่สอง หลังอัยการสูงสุด(อสส.)สั่งฟ้องเมื่อ 29 พ.ค.และนัดวันที่ 18 มิ.ย.นำตัวส่งฟ้องศาล ทางรอดทักษิณที่จะไม่ต้องไปศาลมีสองทางคือ อสส.ยอมทบทวนคดี หรือทักษิณป่วยจริง ๆ แล้วขอเลื่อน...

ถ้าให้ฟันธงอสส. (อำนาจ เจตน์เจริญรักษ์) คงไม่ทบทวนคำสั่งฟ้อง...และทักษิณที่กำลังจ้อแจ้วเดินสายจีบบ้านใหญ่อยู่ในยามนี้ ก็ไม่น่าจะป่วยฉุกเฉินหรือหนีกลับดูไบ...น่าจะไปศาลและคงได้รับประกันตัว ต่อสู้คดี รอ อภินิหารทางกฎหมาย รอยุคเปลี่ยนแผ่นดินที่สำนักอัยการสูงสุดในเดือนต.ค...ในอดีตคดีธรรมะชโยคดีอยู่ในศาลยังมีการถอนออกมาแล้ว...

ส่วนกระแสข่าวกรณีถุงขนมภาค 2 ที่จะจ่ายผ่านเครือข่ายสแตนลีย์ โฮ เจ้าพ่อคาสิโน ฮ่องกงผู้ล่วงลับนั้น ก็ว่ากันไป ข่าวว่าตอนนี้กำลังสอบกันนัวว่าจริงหรือไม่ เพราะฝ่ายแฉบอกว่ารู้วันเดินทางไปกลับฮ่องกงของอธิบดีฝ่ายตุลาการบางคน...(ไป 24 กลับ 27 พ.ค.)...ก็สอบกันไป..

ครับ ขออนุญาตมองโลกสวยสักวัน...18 มิ.ย.ไม่โลกาวินาศ...กระบวนการยุติธรรมไทยที่ถูกใครบางคนปู้ยี่ปู้ยำมาร่วมปี ยังพอจะเป็นที่พึ่งที่พาได้...!!

มองเกม!! 'ฝ่ายอนุรักษ์-ทักษิณ' ดีลอำนาจลากยาว สกัด 'ก้าวไกล' และหากวันใดยุบพรรคส้ม 'เศรษฐา' อาจชิงยุบสภา ให้ตั้งตัวไม่ติด

ผ่านไปแล้ว 18 มิ.ย.2567...เรื่องที่เป็นไฮไลต์ที่สุดคือคดีทักษิณ ชินวัตร ก็เป็นไปตามที่ 'เล็ก เลียบด่วน' และใครต่อใครว่าเอาไว้...คือไปศาลและได้รับการประกันตัว...ที่พิเศษหน่อยคือ ไม่ต้องไปที่อัยการเพราะให้ทนายประสานงาน กับอีกประการหนึ่งคือขึ้นศาลโดยประตูด้านข้าง...ไม่อกผายไหล่ผึ่งเข้าทางด้านหน้า...

ทักษิณได้รับการประตัวโดยหลักทรัพย์ 5 แสนบาท และศาลวางเงื่อนไขห้ามเดินทางไปต่างประเทศ (เว้นแต่ศาลอนุญาต) ในการนี้ให้ยึดหนังสือเดินทางพาสปอร์ตเอาไว้...แต่ปัญหาเกิดขึ้นทันที เพราะทักษิณไม่มีพาสปอร์ต เหตุถูกรัฐบาล คสช.ยกเลิก เพราะคดีข้อหา 112 นี่แหละ...เป็นบุคคลต้องห้าม...

ตอนนี้เลยว้าวุ่น...จะไปทำพาสปอร์ตได้หรือไม่ เพราะมีคดี 112?

เหตุผลสำคัญประการหนึ่งที่ศาลอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวหรือให้ประกันตัว ก็เพราะ ทางโจทก์ คืออัยการไม่คัดค้านการประกันตัว ซึ่งอาจทำให้กองเชียร์ฝ่าย 'ทักษิณต้องติดคุก' ไม่สบอารมณ์อยู่ไม่น้อย ในขณะที่อีกฝ่ายที่เป็นกลาง ๆ ก็บอกว่า...การที่ยกระดับทักษิณจาก 'ผู้ต้องหา' เป็น 'จำเลย' ได้ก็พอประมาณแล้ว...

ศาลนัดตรวจพยานหลักฐาน นัดพร้อมอีกทีวันที่ 19 ส.ค. และหากไม่มีอะไรผิดพลาด วันรุ่งขึ้น 20 ส.ค. จะเป็นวันที่ทักษิณพ้นโทษจาก 3 คดีทุจริตที่ได้รับพระราชทานอภัยลดโทษเหลือ 1 ปี...ได้รับใบบริสุทธิ์จากคดีเก่า มาถูกล่ามโซ่คดี 112 เชื่อกันว่าอิทธิฤทธิ์ทักษิณคงหาทางออกจากโซ่ได้ในที่สุด...

รวมความแล้ว ทักษิณยังเป็นตัวละครหลักของการเมืองไทย...หลัง 20 ส.ค.เขาจะยิ่งเดินสายทางการเมืองพบบ้านเล็ก บ้านใหญ่เพื่อรวบรวมไพร่พล สร้างความยิ่งใหญ่ให้กับพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคและหมิ่นเหม่จะเหยียบเปลือกกล้วย มาตรา 28, 29 ของ พ.ร.ป.พรรคการเมือง ล้มหงายท้องเข้าสักวัน...

ส่วนคดี เศรษฐา ทวีสิน และ คดียุบพรรคก้าวไกลนั้น อ่านตามหน้าเสื่อหน้าไพ่ที่ศาลรัฐธรรมนูญแถลงเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.แล้ว พอจะเห็นแนวทางไทม์ไลน์ว่า น่าจะตัดสินได้อย่างเร็วก็เดือน ส.ค. โดยคดีถอดถอนนายกฯ น่าจะมาก่อน แม้กรณีคดีพรรคก้าวไกลศาลจะนัดพิจารณาครั้งต่อไปวันที่ 3 ก.ค. แต่พิจารณาดูเอกสาร-พยานหลักฐานที่ศาลเรียกแล้วของพรรคก้าวไกลมีจำนวนมาก ส่วนคดีถอดถอนนายกฯ น่าจะยังเป็นวันที่ 10 ก.ค.

ว่าแล้วก็เป็นที่น่าสังเกต ว่ากรณีคดีก้าวไกล ศาล รธน.สั่งให้นำพยานเอกสารในสำนวนการไต่สวนคดีคำวินิจฉัยที่ 3/2567 (คดีล้มล้างฯ) ไปรวมไว้ในสำนวนคดีเพื่อประกอบการพิจารณาด้วย

ถ้าในท้ายที่สุด...ศาลวินิจฉัยสั่งยุบพรรคก้าวไกล...ก็ไม่แน่เสมอไปว่าจะเป็นการติดเทอร์โบให้พรรคก้าวไกลอย่างที่พิธาวาดฝันเอาไว้เสมอไป...

และต้องไม่ลืมว่าพรรคสีแดง สีน้ำเงิน กวักมือเรียกสส.ที่รังแตกอยู่แล้ว...อย่างที่พูด ๆ กันทีเล่นทีจริงนั่นล่ะว่า ก้าวไกลวงแตกวันไหน 'เศรษฐา' (ที่น่าจะรอด) อาจจะชิงยุบสภาวันนั้น...ให้ก้าวไกลตั้งตัวไม่ทัน...

นี่ก็ทราบว่า...ทักษิณมีนัดหมายไปบ้านใหญ่นครปฐมอีกแล้ว...วันที่ได้ประกันตัวตกค่ำก็บึ่งไปงานศพคุณพ่อของ 'เมย์ อียู' หรือ มนัญชยา เกตุแก้ว แดงตัวจี๊ดที่ อ.พนัสนิคม ชลบุรี  

ว่ากันว่าฝ่ายอนุรักษ์นิยม...ยังต้องใช้ 'ทักษิณ' เป็นตัวคานกับพรรคส้ม ถึงแม้วันนี้มีคดีม.112 ติดตัว แต่ทักษิณก็มีโซ่ ล่ามไว้แล้ว ดีกรีที่จะเป็นปฏิปักษ์กับสถาบันนั้นไม่เลยเถิดเท่ากับก้าวไกลที่ยังกู่ไม่กลับ...

นี่คือ สมดุลอำนาจการเมืองไทยที่ยังจะต้องเดินหน้ากันแบบยักแย่ยักยัน และนับวันก็จะยิ่งเห็นทักษิณใหญ่คับบ้านคับเมือง...จนชินตา...อาเมน !!

'ก้าวไกล' ใกล้จอด!! 'เศรษฐา' น่ารอด สว.ใหม่ 'สีน้ำเงินปนแดง' ฟาก 'โจ๊ก' ยังยุ่ง

ผ่านสัปดาห์อันว้าวุ่น...ว่าด้วย 4 คดีดังจากศาลรัฐธรรมนูญฯ / ศาลอาญา และการเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ 18 -21 มิ.ย. แถมด้วยเรื่องแทรกกรณีศึกบิ๊กสีกากี...วันนี้ 'เล็ก เลียบด่วน' ขอทำหน้าที่กรองข่าวเรื่องราวเบื้องต้น เพื่อสาธุชนจะได้ติดตามกันด้วยความระทึกต่อไป...ดังนี้...

1) กรณีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) เดินหน้าต่อเพราะมติศาลรธน.วินิจฉัยว่า พ.ร.ป.การได้มาซึ่งสว.2561 ไม่ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญมาตรา 107  แนวโน้มผลการเลือกรอบประเทศ (รอบสุดท้าย) ชิง 200 ที่นั่ง จาก 20 อาชีพ ๆ ละ 10 คนในวันที่ 26 มิ.ย. ขอฟันธงว่า...ผู้สมัครที่เป็นเครือข่ายของพรรคใหญ่ บ้านใหญ่ กลุ่มทุน จะกวาดเรียบอย่างน้อย 80% หน้าตาของสว.ชุดใหม่จะเป็นสีน้ำเงินปนแดง...ส่วนสว.สีส้ม ต้องเสียใจด้วย...ไม่เข้าเป้า...

2) เดือน ก.ค.เป็นเดือนมงคล ยังจะไม่มีการตัดสินคดีใหญ่ทางการเมือง...โดยคดีถอดถอนนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน มีแนวโน้มที่จะตัดสินก่อนคดียุบพรรคก้าวไกล

คาดว่า คดีนายกฯ เดือนส.ค. ก็จะรู้หมู่หรือจ่า...50/50 แต่ถ้าไปบีบคอบรรดาเกจิอาจารย์ให้ทำนาย เสียงข้างมากจะออกมาว่า...น่าจะรอดได้ไปต่อ

ส่วนพรรคก้าวไกลนั้น น่าสังเกตว่า ศาลรธน. "มีคำสั่งให้นำพยานเอกสารในสำนวนการไต่สวนคดีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 3/2567 มารวมไว้ในสำนวนคดีนี้ เพื่อประกอบการพิจารณาวินิจฉัยของศาลรธน." ซึ่งคดีที่ 3/2567 ก็คือคดีล้มล้างฯ ที่ศาลรธน.วินิจฉัยเมื่อ 31 ม.ค.2567 ว่าพรรคก้าวไกลผิดและให้ยุติการกระทำ นั่นเอง...

ดังนั้นก้าวไกลน่าจะใกล้ปิดฉาก แต่ต้องลากไปยาวกว่าคดีนายกฯ เพราะละเอียดอ่อน

3) พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 จำนวน 3.75 ล้านล้านบาท ผ่านสภาฯ วาระแรกไปเรียบร้อยด้วยคะแนน 311ต่อ173 งดออกเสียง 2 โชว์ความปึ๊กของ 314 เสียง 'รัฐบาลเพื่อไทย' ส่วนที่มีการปล่อยข่าวว่าจะดีดพรรคพปชร.ออกนั้น เป็นความพยายามเขี่ยข่าวของฝ่ายค้านบางพรรค...ซึ่งตอนนี้ยังไม่มี!!

เรื่องงบประมาณ พ.ศ.นี้ ค่อนข้างยุ่งเหยิง เพราะต้องจัดงบปี 2567 , 2568 ไปใช้ในนโยบายดิจิทัล วอลเล็ต...งบฯ 68 ไม่ยุ่งมาก เพราะกำลังพิจารณา  แต่งบฯ 67 นั้นบังคับใช้ไปแล้ว ดังนั้นต้องไปแก้ไขเพิ่มเติมเป็นงบกลางปีขอกู้เงินเพิ่ม 1.22 แสนล้านบาท ซึ่งจะเข้าสภาประมาณ 17-18 ก.ค. ส่วนอนาคตของดิจิทัลวอลเล็ต จะเป็นจริงหรือจะเป็นเจ๊งอย่างที่ฝ่ายค้านกล่าวหา เดือน ต.ค.รู้กัน!!

4) กรณีศึกสีกากี...จบแต่ยังไม่จบ...ที่ชัดเจน ณ ชั้นนี้คือ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล 'บิ๊กต่อ' ได้กลับไปปฏิบัติหน้าที่ ผบ.ตร.เหมือนเดิม ส่วนพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล 'บิ๊กโจ๊ก' นั้น มีเพียงถ้อยแถลงของนายวิษณุ เครืองาม เท่านั้น ที่อ้างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาว่า ถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนโดยมิชอบ เพราะกรรมการสอบวินัยยังไม่ได้สอบบิ๊กโจ๊กแม้แต่น้อยนิด...

งานนี้ 'เนติบริกร' ถูกย้อนศรจากนักวิชาการ อดีตตำรวจหลายคนว่าอ่านกฎหมายตำรวจไม่แตกฉาน...กรณีของบิ๊กโจ๊กจึงยังไม่เคลียร์คัท...เห็นทีจะต้องรอการพิจารณาของคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) หรือถ้าจะวัดใจกันก็ต้องให้ 'บิ๊กต่อ' ยกเลิกคำสั่ง 'บิ๊กต่าย' พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ คนที่สั่งตั้งกรรมการสอบและให้บิ๊กโจ๊กออกจากราชการไว้ก่อน...

หักลบกลบหนี้ โอกาสที่ 'บิ๊กโจ๊ก' จะมาต่อคิวเป็นผบ.ตร.เบอร์หนึ่งยังไม่ง่าย ถึงแม้จะมี แต่โอกาสก็ใช่จะมาก ตราบที่บาดแผลคดีเทา ๆ ยังเต็มตัว!!

'โซเชียล' วิจารณ์ยับ!! 'แก้ว ธิษะณา' ไลฟ์สดไฟไหม้บ้าน  โวย!! จนท.มาช้า เจอหน้าตะคอกสั่งไม่ยั้ง ล่าสุดลบคลิปเกลี้ยง

(24 มิ.ย.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เต็มโซเชียล หลังจากที่ นางสาวธิษะณา ชุณหะวัณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล หลานของ พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรี ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ‘ธิษะณา ชุณหะวัณ – แก้วตา – Tisana Choonhavan’ โดยระบุเกิดเหตุไฟไหม้ในบ้านของตัวเอง ซึ่งอยู่ที่ซอยพหลโยธิน 5 หรือซอยราชครู เขตพญาไท กทม. พร้อมอ้างว่า “เรียกรถดับเพลิงไปนาน 20 นาที แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัย เดินทางมาควบคุมเพลิงเลย” อีกทั้งในบางช่วงยังอ้างอีกว่า “ฝากช่วยกันเรียกรถดับเพลิงมาเพิ่มด้วย เพราะว่าเรียกไปนานเป็นชั่วโมง ยังไม่มีใครมาเลย จนระเบิดไปทั้งหลังแล้ว ขนาดนี้ดิฉันเป็นสส.นะ ดิฉันยังทำอะไรไม่ได้เลย”

ต่อมาในโลกออนไลน์ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงกรณีดังกล่าว อาทิ 

‘ขนาดนี้ยังไม่รู้จักกาลเทศะเลยเหรอว่าต้องทำอะไรที่มันสำคัญก่อนหลัง โลกในโซเชียลฯนะเพลาๆบ้างก็ได้’

‘ดับเพลิงมาตามปกติ ไปตะคอกใส่เขาอีก ไม่ฟังเหตุผลนักดับเพลิงบ้างไฟฟ้าก็ยังไม่ตัดจะให้เขารีบฉีดน้ำ จะให้เขาตายไง อยากจะมาเปลี่ยนแปลงประเทศแต่นิสัยมีอำนาจแล้วเป็นแบบนี้’

‘เราอยู่ในซอยนั้นพอดี ทานข้าวอยู่ พอเห็นไฟอยู่ ไม่เกิน 10-15 นาที ดับเพลิงก็มานะ มาเยอะด้วยทั้งแบบเล็กแบบใหญ่ ณ ตอนนั้นลุ้นอยู่ว่าจะลามมั้ย แต่ก็จะเข้าออกลำบากหน่อยเพราะเป็นซอยแคบ และรถเจ้าหน้าที่ต่างๆ มาเยอะมาก เลยพยายามไม่ขับรถหนีออกเพราะกลัวไปขวางการจราจรเค้า เพราะแรกๆเลยคิดว่าเจ้าหน้าที่ต้องเคลียร์ถนนให้รถที่ขับหนีออกไปก่อนล่ะ แต่เจ้าหน้าที่คุมไฟได้เร็วมาก เพราะมาถึง แปบนึงตัดไฟฟ้า แล้วคุมเพลิง ค่อนข้างไวเลย’

ขณะที่ นางสาวธิษะณา ลบไลฟ์สดดังกล่าวแล้ว ล่าสุดโพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า “ขอบพระคุณทุกคนสำหรับกำลังใจจากทุกท่าน ทุกหน่วยงานที่เข้าช่วยเหลือ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ดับเพลิง เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.พญาไท ผอ.เขตพญาไท จนท. สำนักงานเขตพญาไท ญาติๆทุกคนที่มาที่เกิดเหตุช่วยเหลือกับเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เข้าช่วยเหลือค่ะ”

“ขอบพระคุณ ส.ส. กัณตภณ ดวงอัมพร แรมโบ้ ก้าวไกล พญาไท ดินแดง ส.ส. ปวิตรา จิตตกิจ – Pavitra Jittakit ส.ส. กานต์ ภัสริน รามวงศ์ – Patsarin Ramwong ส.ส. เอกราช อุดมอำนวย – ทนายจอจาน – Ekkarach Udomumnouy ส.ส.ฟลิ้นท์ ที่มาหาแก้วถึงที่เกิดเหตุ”“ขอบพระคุณหัวหน้า พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และ ส.ส. ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ – ทนายแจม – Sasinan Thamnithinan ที่โทรหาคนแรกๆและทุกหน่วยงานที่เข้าช่วยเหลือค่ะ”

“ตอนนี้ทุกชีวิตปลอดภัย แต่บ้านส่วนที่เป็นไม้ถูกไฟไหม้ประมาณ 50% ค่ะ”

เลื่อนเซ็นสัญญา 4-5 'บ้านโพ-พระแก้ว' รอความชัดเจน HIA 'สถานีอยุธยา'

(25 มิ.ย. 67) จากเพจ 'วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร-สำรอง' ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า...

#ทุกคนคะ ช่วยตาม 14 ล้านเสียงมาอ่านค่ะ

จากกรณี สส.ก้าวไกล นำโดย เต้ ยุดยา และ ไอซ์ บางบอน ร่วมกันให้ข้อมูลบิดเบือนชาวบ้านในพื้นที่ตั้งแต่ปีที่แล้ว 

รวมถึงการยื่นหนังสือ เพื่อให้ชะลอการก่อสร้าง สถานีรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่อยุธยา ผลคือ..

ระงับการเซ็นสัญญาก่อสร้างไม่มีกำหนด รฟท. ต้องรอความชัดเจนเรื่อง HIA ให้จบก่อนดำเนินการใด ๆ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง 

ส่งผลให้ ภาพรวมการก่อสร้างทั้งโครงการฯ อาจล่าช้าจากแผนงานที่วางไว้ว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปี 71 

และอาจมีปัญหาถึง มหกรรมพืชสวนโลก โคราช ที่ชาวต่างชาติจะมาท่องเที่ยวหลายแสนคน (อ่านรายละเอียด >> https://www.dailynews.co.th/news/3569883/)

ขณะเดียวกัน ด้านเพจ 'ก้าวไกลอาสา ทั่วอยุธยามีรอยยิ้ม' ก็ได้แสดงความคิดเห็นว่า "การกระทำใด ๆ ในส่วนของ สส.เขต 1 ไม่เกี่ยวข้องกับทางพรรคก้าวไกลทั้งสิ้น"

'โบว์-ณัฏฐา' ซัด!! ตอนจัดตั้ง 'สว.' ไม่บ่น พอผลออกมา 'หลุดลุ่ย' ทำโวยกันใหญ่

(27 มิ.ย. 67) น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา หรือ โบว์ พิธีกรรายการวิเคราะห์ข่าว และนักกิจกรรมเพื่อสิทธิมนุษยชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า...

#สว67 แนวร่วมค่ายส้มทั้งสื่อทั้ง NGO โวยกันใหญ่เรื่องกลุ่มจัดตั้งรอบประเทศ รีบเอาผลคะแนนออกมาฟ้องคนดู

ทำไมไม่ทำแบบนี้และบ่นแบบนี้ในรอบเลือกกันเองในกลุ่มจังหวัด กทม.บ้างคะ?

ตอนนั้นก็เป็นแบบนี้เลย ชัดกว่านี้อีก บางกลุ่มมีคนไม่โหวตตัวเองเกิน 30 คน คะแนนไปอยู่ตรงไหนก็เห็นชัด ๆ โพยส้มว่อนเลย แต่ตอนนั้นไม่มีใครคิดจะเอามาแฉ 

เพราะเมื่อเป็นการจัดตั้งของพรรคพวกเดียวกันก็ไม่เดือดร้อน แต่พอทำต่อแล้วไม่สำเร็จกลับรับผลไม่ได้

อันที่จริงปัจจัยที่ทำให้ผลออกมาหลุดลุ่ยขนาดนี้ไม่ได้มีแค่การจัดตั้งของค่ายการเมืองอื่น แต่คุณเสียเบี้ยไปเยอะตอนรอบไขว้ระดับจังหวัด เพราะลืมคิดถึงคุณสมบัติของเบี้ยที่เลือกมา 

คนส่วนใหญ่ในกระดานเขาไม่ได้ส้มด้วย เมื่อคุณคัดคนเพียงเพราะความเป็นส้ม เหมือนส่งเสาไฟฟ้ามา เขาเลยเลือกไม่ลง 

มันคือ ความผิดพลาดทางยุทธศาสตร์ จากความใจแคบล้วน ๆ

กติกามันแย่ แต่วิธีการคุณก็ไม่ได้เรื่อง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top